วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 21:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 55 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2019, 03:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


สารูปสูตร

[๓๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงข้อปฏิบัติอันสมควรแก่การ
เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิแก่เธอทั้งหลาย เธอ
ทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ข้อปฏิบัติอัน
สมควรแก่การเพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิ เป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้ ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุ ย่อมไม่สำคัญในจักษุ
ย่อมไม่สำคัญแต่จักษุ ย่อมไม่สำคัญว่า จักษุของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งรูป ... ในรูป ...
แต่รูป ... ว่า รูปของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุวิญญาณ ... ในจักษุวิญญาณ ... แต่
จักษุวิญญาณ ... ว่า จักษุวิญญาณของเรา ย่อมไม่สำคัญจักษุสัมผัส ... ในจักษุ
สัมผัส ... แต่จักษุสัมผัส ... ว่า จักษุสัมผัสของเรา ย่อมไม่สำคัญสุขเวทนา ทุกข-
*เวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย ... ในเวทนา
นั้น ... แต่เวทนานั้น ... ว่า เวทนานั้นเป็นของเรา ฯลฯ ย่อมไม่สำคัญซึ่งใจ ...
ในใจ ... แต่ใจ ... ว่า ใจของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งธรรมารมณ์ ... ในธรรมารมณ์ ...
แต่ธรรมารมณ์ ... ว่า ธรรมารมณ์ของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งมโนวิญญาณ ... ใน
มโนวิญญาณ ... แต่มโนวิญญาณ ... ว่า มโนวิญญาณของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่ง
มโนสัมผัส ... ในมโนสัมผัส ... แต่มโนสัมผัส ... ว่า มโนสัมผัสของเรา ย่อมไม่
สำคัญในสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัส
เป็นปัจจัย ... ในเวทนานั้น ... แต่เวทนานั้น ... ว่า เวทนานั้นเป็นของเรา ย่อมไม่
สำคัญซึ่งสิ่งทั้งปวง ... ในสิ่งทั้งปวง ... แต่สิ่งทั้งปวง ... ว่า สิ่งทั้งปวงเป็นของเรา
บุคคลผู้ไม่สำคัญอยู่อย่างนี้ ย่อมไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก เมื่อไม่ถือมั่น ย่อมไม่
สะดุ้งกลัว เมื่อไม่สะดุ้งกลัว ย่อมปรินิพพานได้เฉพาะตนทีเดียว รู้ชัดว่า ชาติ
สิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความ
เป็นอย่างนี้มิได้มี ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันนี้แล คือ ข้อปฏิบัติที่สมควรแก่การ
เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะ และทิฐิ ฯ

http://www.84000.org/tipitaka/read/v.ph ... =428&Z=452


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2019, 16:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
สารูปสูตร

[๓๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงข้อปฏิบัติอันสมควรแก่การ
เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิแก่เธอทั้งหลาย เธอ
ทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ข้อปฏิบัติอัน
สมควรแก่การเพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิ เป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้ ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุ ย่อมไม่สำคัญในจักษุ
ย่อมไม่สำคัญแต่จักษุ ย่อมไม่สำคัญว่า จักษุของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งรูป ... ในรูป ...
แต่รูป ... ว่า รูปของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุวิญญาณ ... ในจักษุวิญญาณ ... แต่
จักษุวิญญาณ ... ว่า จักษุวิญญาณของเรา ย่อมไม่สำคัญจักษุสัมผัส ... ในจักษุ
สัมผัส ... แต่จักษุสัมผัส ... ว่า จักษุสัมผัสของเรา ย่อมไม่สำคัญสุขเวทนา ทุกข-
*เวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย ... ในเวทนา
นั้น ... แต่เวทนานั้น ... ว่า เวทนานั้นเป็นของเรา ฯลฯ ย่อมไม่สำคัญซึ่งใจ ...
ในใจ ... แต่ใจ ... ว่า ใจของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งธรรมารมณ์ ... ในธรรมารมณ์ ...
แต่ธรรมารมณ์ ... ว่า ธรรมารมณ์ของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งมโนวิญญาณ ... ใน
มโนวิญญาณ ... แต่มโนวิญญาณ ... ว่า มโนวิญญาณของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่ง
มโนสัมผัส ... ในมโนสัมผัส ... แต่มโนสัมผัส ... ว่า มโนสัมผัสของเรา ย่อมไม่
สำคัญในสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัส
เป็นปัจจัย ... ในเวทนานั้น ... แต่เวทนานั้น ... ว่า เวทนานั้นเป็นของเรา ย่อมไม่
สำคัญซึ่งสิ่งทั้งปวง ... ในสิ่งทั้งปวง ... แต่สิ่งทั้งปวง ... ว่า สิ่งทั้งปวงเป็นของเรา
บุคคลผู้ไม่สำคัญอยู่อย่างนี้ ย่อมไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก เมื่อไม่ถือมั่น ย่อมไม่
สะดุ้งกลัว เมื่อไม่สะดุ้งกลัว ย่อมปรินิพพานได้เฉพาะตนทีเดียว รู้ชัดว่า ชาติ
สิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความ
เป็นอย่างนี้มิได้มี ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันนี้แล คือ ข้อปฏิบัติที่สมควรแก่การ
เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะ และทิฐิ ฯ

http://www.84000.org/tipitaka/read/v.ph ... =428&Z=452

:b8: :b8: :b8:

ดวงตาบอกได้อะไรมากมายหลายอย่าง บางครั้งแค่ใช้
ดวงตาก็บอกได้ว่าบุคคลนั้นคิดอะไร อยากจะบอกอะไร
หรือต้องการอะไร?

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2019, 00:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


sssboun เขียน:
โลกสวย เขียน:
สารูปสูตร

[๓๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงข้อปฏิบัติอันสมควรแก่การ
เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิแก่เธอทั้งหลาย เธอ
ทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ข้อปฏิบัติอัน
สมควรแก่การเพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิ เป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้ ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุ ย่อมไม่สำคัญในจักษุ
ย่อมไม่สำคัญแต่จักษุ ย่อมไม่สำคัญว่า จักษุของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งรูป ... ในรูป ...
แต่รูป ... ว่า รูปของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุวิญญาณ ... ในจักษุวิญญาณ ... แต่
จักษุวิญญาณ ... ว่า จักษุวิญญาณของเรา ย่อมไม่สำคัญจักษุสัมผัส ... ในจักษุ
สัมผัส ... แต่จักษุสัมผัส ... ว่า จักษุสัมผัสของเรา ย่อมไม่สำคัญสุขเวทนา ทุกข-
*เวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย ... ในเวทนา
นั้น ... แต่เวทนานั้น ... ว่า เวทนานั้นเป็นของเรา ฯลฯ ย่อมไม่สำคัญซึ่งใจ ...
ในใจ ... แต่ใจ ... ว่า ใจของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งธรรมารมณ์ ... ในธรรมารมณ์ ...
แต่ธรรมารมณ์ ... ว่า ธรรมารมณ์ของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งมโนวิญญาณ ... ใน
มโนวิญญาณ ... แต่มโนวิญญาณ ... ว่า มโนวิญญาณของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่ง
มโนสัมผัส ... ในมโนสัมผัส ... แต่มโนสัมผัส ... ว่า มโนสัมผัสของเรา ย่อมไม่
สำคัญในสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัส
เป็นปัจจัย ... ในเวทนานั้น ... แต่เวทนานั้น ... ว่า เวทนานั้นเป็นของเรา ย่อมไม่
สำคัญซึ่งสิ่งทั้งปวง ... ในสิ่งทั้งปวง ... แต่สิ่งทั้งปวง ... ว่า สิ่งทั้งปวงเป็นของเรา
บุคคลผู้ไม่สำคัญอยู่อย่างนี้ ย่อมไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก เมื่อไม่ถือมั่น ย่อมไม่
สะดุ้งกลัว เมื่อไม่สะดุ้งกลัว ย่อมปรินิพพานได้เฉพาะตนทีเดียว รู้ชัดว่า ชาติ
สิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความ
เป็นอย่างนี้มิได้มี ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันนี้แล คือ ข้อปฏิบัติที่สมควรแก่การ
เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะ และทิฐิ ฯ

http://www.84000.org/tipitaka/read/v.ph ... =428&Z=452

:b8: :b8: :b8:

ดวงตาบอกได้อะไรมากมายหลายอย่าง บางครั้งแค่ใช้
ดวงตาก็บอกได้ว่าบุคคลนั้นคิดอะไร อยากจะบอกอะไร
หรือต้องการอะไร?


อวัยวะนั้น ถูกทำให้เศร้าหมองจากหน้าที่ ไปแล้วค่ะ
ด้วยการไปเจือกันสนิทคลุกคลีไปกับ
รูปของดวงตาอื่น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้ ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุ
tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2019, 14:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
sssboun เขียน:
โลกสวย เขียน:
สารูปสูตร

[๓๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงข้อปฏิบัติอันสมควรแก่การ
เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิแก่เธอทั้งหลาย เธอ
ทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ข้อปฏิบัติอัน
สมควรแก่การเพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิ เป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้ ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุ ย่อมไม่สำคัญในจักษุ
ย่อมไม่สำคัญแต่จักษุ ย่อมไม่สำคัญว่า จักษุของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งรูป ... ในรูป ...
แต่รูป ... ว่า รูปของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุวิญญาณ ... ในจักษุวิญญาณ ... แต่
จักษุวิญญาณ ... ว่า จักษุวิญญาณของเรา ย่อมไม่สำคัญจักษุสัมผัส ... ในจักษุ
สัมผัส ... แต่จักษุสัมผัส ... ว่า จักษุสัมผัสของเรา ย่อมไม่สำคัญสุขเวทนา ทุกข-
*เวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย ... ในเวทนา
นั้น ... แต่เวทนานั้น ... ว่า เวทนานั้นเป็นของเรา ฯลฯ ย่อมไม่สำคัญซึ่งใจ ...
ในใจ ... แต่ใจ ... ว่า ใจของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งธรรมารมณ์ ... ในธรรมารมณ์ ...
แต่ธรรมารมณ์ ... ว่า ธรรมารมณ์ของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งมโนวิญญาณ ... ใน
มโนวิญญาณ ... แต่มโนวิญญาณ ... ว่า มโนวิญญาณของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่ง
มโนสัมผัส ... ในมโนสัมผัส ... แต่มโนสัมผัส ... ว่า มโนสัมผัสของเรา ย่อมไม่
สำคัญในสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัส
เป็นปัจจัย ... ในเวทนานั้น ... แต่เวทนานั้น ... ว่า เวทนานั้นเป็นของเรา ย่อมไม่
สำคัญซึ่งสิ่งทั้งปวง ... ในสิ่งทั้งปวง ... แต่สิ่งทั้งปวง ... ว่า สิ่งทั้งปวงเป็นของเรา
บุคคลผู้ไม่สำคัญอยู่อย่างนี้ ย่อมไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก เมื่อไม่ถือมั่น ย่อมไม่
สะดุ้งกลัว เมื่อไม่สะดุ้งกลัว ย่อมปรินิพพานได้เฉพาะตนทีเดียว รู้ชัดว่า ชาติ
สิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความ
เป็นอย่างนี้มิได้มี ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันนี้แล คือ ข้อปฏิบัติที่สมควรแก่การ
เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะ และทิฐิ ฯ

http://www.84000.org/tipitaka/read/v.ph ... =428&Z=452

:b8: :b8: :b8:

ดวงตาบอกได้อะไรมากมายหลายอย่าง บางครั้งแค่ใช้
ดวงตาก็บอกได้ว่าบุคคลนั้นคิดอะไร อยากจะบอกอะไร
หรือต้องการอะไร?


อวัยวะนั้น ถูกทำให้เศร้าหมองจากหน้าที่ ไปแล้วค่ะ
ด้วยการไปเจือกันสนิทคลุกคลีไปกับ
รูปของดวงตาอื่น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้ ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุ
tongue


เมื่อยังไม่รู้ก็ยังหลง เมื่อยังหลงก็ยังยึดติด เมื่อยังยึดติดก็ยังเป็นทุกข์

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2019, 16:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


sssboun เขียน:
โลกสวย เขียน:
sssboun เขียน:
โลกสวย เขียน:
สารูปสูตร

[๓๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงข้อปฏิบัติอันสมควรแก่การ
เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิแก่เธอทั้งหลาย เธอ
ทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ข้อปฏิบัติอัน
สมควรแก่การเพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิ เป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้ ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุ ย่อมไม่สำคัญในจักษุ
ย่อมไม่สำคัญแต่จักษุ ย่อมไม่สำคัญว่า จักษุของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งรูป ... ในรูป ...
แต่รูป ... ว่า รูปของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุวิญญาณ ... ในจักษุวิญญาณ ... แต่
จักษุวิญญาณ ... ว่า จักษุวิญญาณของเรา ย่อมไม่สำคัญจักษุสัมผัส ... ในจักษุ
สัมผัส ... แต่จักษุสัมผัส ... ว่า จักษุสัมผัสของเรา ย่อมไม่สำคัญสุขเวทนา ทุกข-
*เวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย ... ในเวทนา
นั้น ... แต่เวทนานั้น ... ว่า เวทนานั้นเป็นของเรา ฯลฯ ย่อมไม่สำคัญซึ่งใจ ...
ในใจ ... แต่ใจ ... ว่า ใจของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งธรรมารมณ์ ... ในธรรมารมณ์ ...
แต่ธรรมารมณ์ ... ว่า ธรรมารมณ์ของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งมโนวิญญาณ ... ใน
มโนวิญญาณ ... แต่มโนวิญญาณ ... ว่า มโนวิญญาณของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่ง
มโนสัมผัส ... ในมโนสัมผัส ... แต่มโนสัมผัส ... ว่า มโนสัมผัสของเรา ย่อมไม่
สำคัญในสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัส
เป็นปัจจัย ... ในเวทนานั้น ... แต่เวทนานั้น ... ว่า เวทนานั้นเป็นของเรา ย่อมไม่
สำคัญซึ่งสิ่งทั้งปวง ... ในสิ่งทั้งปวง ... แต่สิ่งทั้งปวง ... ว่า สิ่งทั้งปวงเป็นของเรา
บุคคลผู้ไม่สำคัญอยู่อย่างนี้ ย่อมไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก เมื่อไม่ถือมั่น ย่อมไม่
สะดุ้งกลัว เมื่อไม่สะดุ้งกลัว ย่อมปรินิพพานได้เฉพาะตนทีเดียว รู้ชัดว่า ชาติ
สิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความ
เป็นอย่างนี้มิได้มี ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันนี้แล คือ ข้อปฏิบัติที่สมควรแก่การ
เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะ และทิฐิ ฯ

http://www.84000.org/tipitaka/read/v.ph ... =428&Z=452

:b8: :b8: :b8:

ดวงตาบอกได้อะไรมากมายหลายอย่าง บางครั้งแค่ใช้
ดวงตาก็บอกได้ว่าบุคคลนั้นคิดอะไร อยากจะบอกอะไร
หรือต้องการอะไร?


อวัยวะนั้น ถูกทำให้เศร้าหมองจากหน้าที่ ไปแล้วค่ะ
ด้วยการไปเจือกันสนิทคลุกคลีไปกับ
รูปของดวงตาอื่น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้ ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุ
tongue


เมื่อยังไม่รู้ก็ยังหลง เมื่อยังหลงก็ยังยึดติด เมื่อยังยึดติดก็ยังเป็นทุกข์
เมื่อยังไม่รู้ก็ยังหลง เมื่อยังหลงก็ยังยึดติด เมื่อยังยึดติดก็ยังเป็นทุกข์

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเครารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ

เมื่อยังไม่รู้ก็ยังหลง เมื่อยังหลงก็ยังยึดติด เมื่อยังยึดติดก็ยังเป็นทุกข์[/size]


เมื่อยังไม่รู้ก็ยังหลง เมื่อยังหลงก็ยังยึดติด เมื่อยังยึดติดก็ยังเป็นทุกข์

คุณลุง sss เห็นการหัวเราะมาตั้งแต่กระทู้ไหนแล้วหล่ะค๊ะ ?


"เธอ
ทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ข้อปฏิบัติอัน
สมควรแก่การเพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิ เป็นไฉน......."



smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2019, 20:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
sssboun เขียน:
โลกสวย เขียน:
sssboun เขียน:
โลกสวย เขียน:
สารูปสูตร

[๓๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงข้อปฏิบัติอันสมควรแก่การ
เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิแก่เธอทั้งหลาย เธอ
ทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ข้อปฏิบัติอัน
สมควรแก่การเพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิ เป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้ ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุ ย่อมไม่สำคัญในจักษุ
ย่อมไม่สำคัญแต่จักษุ ย่อมไม่สำคัญว่า จักษุของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งรูป ... ในรูป ...
แต่รูป ... ว่า รูปของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุวิญญาณ ... ในจักษุวิญญาณ ... แต่
จักษุวิญญาณ ... ว่า จักษุวิญญาณของเรา ย่อมไม่สำคัญจักษุสัมผัส ... ในจักษุ
สัมผัส ... แต่จักษุสัมผัส ... ว่า จักษุสัมผัสของเรา ย่อมไม่สำคัญสุขเวทนา ทุกข-
*เวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย ... ในเวทนา
นั้น ... แต่เวทนานั้น ... ว่า เวทนานั้นเป็นของเรา ฯลฯ ย่อมไม่สำคัญซึ่งใจ ...
ในใจ ... แต่ใจ ... ว่า ใจของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งธรรมารมณ์ ... ในธรรมารมณ์ ...
แต่ธรรมารมณ์ ... ว่า ธรรมารมณ์ของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งมโนวิญญาณ ... ใน
มโนวิญญาณ ... แต่มโนวิญญาณ ... ว่า มโนวิญญาณของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่ง
มโนสัมผัส ... ในมโนสัมผัส ... แต่มโนสัมผัส ... ว่า มโนสัมผัสของเรา ย่อมไม่
สำคัญในสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัส
เป็นปัจจัย ... ในเวทนานั้น ... แต่เวทนานั้น ... ว่า เวทนานั้นเป็นของเรา ย่อมไม่
สำคัญซึ่งสิ่งทั้งปวง ... ในสิ่งทั้งปวง ... แต่สิ่งทั้งปวง ... ว่า สิ่งทั้งปวงเป็นของเรา
บุคคลผู้ไม่สำคัญอยู่อย่างนี้ ย่อมไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก เมื่อไม่ถือมั่น ย่อมไม่
สะดุ้งกลัว เมื่อไม่สะดุ้งกลัว ย่อมปรินิพพานได้เฉพาะตนทีเดียว รู้ชัดว่า ชาติ
สิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความ
เป็นอย่างนี้มิได้มี ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันนี้แล คือ ข้อปฏิบัติที่สมควรแก่การ
เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะ และทิฐิ ฯ

http://www.84000.org/tipitaka/read/v.ph ... =428&Z=452

:b8: :b8: :b8:

ดวงตาบอกได้อะไรมากมายหลายอย่าง บางครั้งแค่ใช้
ดวงตาก็บอกได้ว่าบุคคลนั้นคิดอะไร อยากจะบอกอะไร
หรือต้องการอะไร?


อวัยวะนั้น ถูกทำให้เศร้าหมองจากหน้าที่ ไปแล้วค่ะ
ด้วยการไปเจือกันสนิทคลุกคลีไปกับ
รูปของดวงตาอื่น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้ ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุ
tongue


เมื่อยังไม่รู้ก็ยังหลง เมื่อยังหลงก็ยังยึดติด เมื่อยังยึดติดก็ยังเป็นทุกข์
เมื่อยังไม่รู้ก็ยังหลง เมื่อยังหลงก็ยังยึดติด เมื่อยังยึดติดก็ยังเป็นทุกข์

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเครารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ

เมื่อยังไม่รู้ก็ยังหลง เมื่อยังหลงก็ยังยึดติด เมื่อยังยึดติดก็ยังเป็นทุกข์[/size]


เมื่อยังไม่รู้ก็ยังหลง เมื่อยังหลงก็ยังยึดติด เมื่อยังยึดติดก็ยังเป็นทุกข์

คุณลุง sss เห็นการหัวเราะมาตั้งแต่กระทู้ไหนแล้วหล่ะค๊ะ ?


"เธอ
ทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ข้อปฏิบัติอัน
สมควรแก่การเพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิ เป็นไฉน......."



smiley


ความจริงความดีนั้นไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็ย่อม
ทันสมัยและดีเที่ยงตรงเหมือนเดิม

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2019, 21:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


sssboun เขียน:
โลกสวย เขียน:
sssboun เขียน:
โลกสวย เขียน:
sssboun เขียน:
โลกสวย เขียน:
สารูปสูตร

[๓๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงข้อปฏิบัติอันสมควรแก่การ
เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิแก่เธอทั้งหลาย เธอ
ทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ข้อปฏิบัติอัน
สมควรแก่การเพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิ เป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้ ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุ ย่อมไม่สำคัญในจักษุ
ย่อมไม่สำคัญแต่จักษุ ย่อมไม่สำคัญว่า จักษุของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งรูป ... ในรูป ...
แต่รูป ... ว่า รูปของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุวิญญาณ ... ในจักษุวิญญาณ ... แต่
จักษุวิญญาณ ... ว่า จักษุวิญญาณของเรา ย่อมไม่สำคัญจักษุสัมผัส ... ในจักษุ
สัมผัส ... แต่จักษุสัมผัส ... ว่า จักษุสัมผัสของเรา ย่อมไม่สำคัญสุขเวทนา ทุกข-
*เวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย ... ในเวทนา
นั้น ... แต่เวทนานั้น ... ว่า เวทนานั้นเป็นของเรา ฯลฯ ย่อมไม่สำคัญซึ่งใจ ...
ในใจ ... แต่ใจ ... ว่า ใจของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งธรรมารมณ์ ... ในธรรมารมณ์ ...
แต่ธรรมารมณ์ ... ว่า ธรรมารมณ์ของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งมโนวิญญาณ ... ใน
มโนวิญญาณ ... แต่มโนวิญญาณ ... ว่า มโนวิญญาณของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่ง
มโนสัมผัส ... ในมโนสัมผัส ... แต่มโนสัมผัส ... ว่า มโนสัมผัสของเรา ย่อมไม่
สำคัญในสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัส
เป็นปัจจัย ... ในเวทนานั้น ... แต่เวทนานั้น ... ว่า เวทนานั้นเป็นของเรา ย่อมไม่
สำคัญซึ่งสิ่งทั้งปวง ... ในสิ่งทั้งปวง ... แต่สิ่งทั้งปวง ... ว่า สิ่งทั้งปวงเป็นของเรา
บุคคลผู้ไม่สำคัญอยู่อย่างนี้ ย่อมไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก เมื่อไม่ถือมั่น ย่อมไม่
สะดุ้งกลัว เมื่อไม่สะดุ้งกลัว ย่อมปรินิพพานได้เฉพาะตนทีเดียว รู้ชัดว่า ชาติ
สิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความ
เป็นอย่างนี้มิได้มี ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันนี้แล คือ ข้อปฏิบัติที่สมควรแก่การ
เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะ และทิฐิ ฯ

http://www.84000.org/tipitaka/read/v.ph ... =428&Z=452

:b8: :b8: :b8:

ดวงตาบอกได้อะไรมากมายหลายอย่าง บางครั้งแค่ใช้
ดวงตาก็บอกได้ว่าบุคคลนั้นคิดอะไร อยากจะบอกอะไร
หรือต้องการอะไร?


อวัยวะนั้น ถูกทำให้เศร้าหมองจากหน้าที่ ไปแล้วค่ะ
ด้วยการไปเจือกันสนิทคลุกคลีไปกับ
รูปของดวงตาอื่น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้ ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุ
tongue


เมื่อยังไม่รู้ก็ยังหลง เมื่อยังหลงก็ยังยึดติด เมื่อยังยึดติดก็ยังเป็นทุกข์
เมื่อยังไม่รู้ก็ยังหลง เมื่อยังหลงก็ยังยึดติด เมื่อยังยึดติดก็ยังเป็นทุกข์

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเครารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ

เมื่อยังไม่รู้ก็ยังหลง เมื่อยังหลงก็ยังยึดติด เมื่อยังยึดติดก็ยังเป็นทุกข์[/size]


เมื่อยังไม่รู้ก็ยังหลง เมื่อยังหลงก็ยังยึดติด เมื่อยังยึดติดก็ยังเป็นทุกข์

คุณลุง sss เห็นการหัวเราะมาตั้งแต่กระทู้ไหนแล้วหล่ะค๊ะ ?


"เธอ
ทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ข้อปฏิบัติอัน
สมควรแก่การเพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิ เป็นไฉน......."



smiley


ความจริงความดีนั้นไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็ย่อม
ทันสมัยและดีเที่ยงตรงเหมือนเดิม



"ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงข้อปฏิบัติอันสมควรแก่การ
เพิกถอน ซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวง ด้วยตัณหา มานะและทิฐิแก่เธอทั้งหลาย เธอ
ทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี.......

ย่อมไม่สำคัญซึ่งธรรมารมณ์ ... ในธรรมารมณ์ ...
แต่ธรรมารมณ์ ... ว่า ธรรมารมณ์ของเรา "

ธัมมารมณ์ 5 คือ ปสาทรูป สุขุมรูป จิต เจตสิก นิพพาน เป็นปรมัตถธรรม
ธัมมารมณ์ คือ บัญญัติ ไม่ใช่ปรมัตถธรรม

tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2019, 21:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


แม้แต่พระพุทธเจ้าพระองค์ยังทรงเคราในพระธรรม แล้วเรา
ทั้งหลายเป็นสาวกควรแล้วหรือที่จะนำพระธรรมคำสอนมาพูดคุย
กันแบบเล่นๆ หัวเราะกัน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2019, 21:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


sssboun เขียน:
แม้แต่พระพุทธเจ้าพระองค์ยังทรงเคราในพระธรรม แล้วเรา
ทั้งหลายเป็นสาวกควรแล้วหรือที่จะนำพระธรรมคำสอนมาพูดคุย
กันแบบเล่นๆ หัวเราะกัน


"ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงข้อปฏิบัติอันสมควรแก่การ
เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิแก่เธอทั้งหลาย เธอ
ทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี

ย่อมไม่สำคัญซึ่งมโนวิญญาณ ... ใน
มโนวิญญาณ ... แต่มโนวิญญาณ ... ว่า มโนวิญญาณของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่ง
มโนสัมผัส ... ในมโนสัมผัส ... แต่มโนสัมผัส ... ว่า มโนสัมผัสของเรา"

มโนวิญญาณเป็นกุศลจิตก็มี เป็นอกุศลจิตก็มี เป็นวิบากจิตก็มี

จิตทั้งหมด เว้นจากทวิปัญจวิญญาณ และมโนธาตุแล้ว เป็นมโนวิญญาณทั้งหมด

tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 04:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


ในเบื้องต้น

ควรแยกจำแนก สภาวะธรรม 72 อย่าง ให้ได้เสียก่อน
ว่า สภาวะธรรมไหน เป็นรูป สภาวะธรรมไหนเป็นนาม

เพื่อปฎิบัติ ให้เข้าถึง การแยกรูป นาม ตามสภาวะ
แล้วอาศัย สติปัญญาที่ปฎิบัติ เพื่อให้เข้าถึงสภาวะธรรม

ในแต่ละประเภท ได้อย่างถูกต้อง
ตามปรมัตถ์ธรรม

โดยสภาวธรรม 72 ได้แก่ จิต 1 เจตสิก 52 รูป 18 นิพพาน 1
ปราศจาก ตัวตน บุคคลใดๆ


อย่างนี่ จึงเรียกว่า เคารพพระธรรม แท้จริง


smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 06:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
ในเบื้องต้น

ควรแยกจำแนก สภาวะธรรม 72 อย่าง ให้ได้เสียก่อน
ว่า สภาวะธรรมไหน เป็นรูป สภาวะธรรมไหนเป็นนาม

เพื่อปฎิบัติ ให้เข้าถึง การแยกรูป นาม ตามสภาวะ
แล้วอาศัย สติปัญญาที่ปฎิบัติ เพื่อให้เข้าถึงสภาวะธรรม

ในแต่ละประเภท ได้อย่างถูกต้อง
ตามปรมัตถ์ธรรม

โดยสภาวธรรม 72 ได้แก่ จิต 1 เจตสิก 52 รูป 18 นิพพาน 1
ปราศจาก ตัวตน บุคคลใดๆ


อย่างนี่ จึงเรียกว่า เคารพพระธรรม แท้จริง


smiley

สาธุ ตรงนี้ถูกต้อง แต่มีที่ไหนท่านสอนเบื้องต้นเช่นนี้
หรือเม มีแต่เบื้องต้นคือ ทาน ศีล ภาวนา แต่เมเล่นกลับกัน
คือ ภาวนา ศีล ทาน เลยเหรอเนี่ย การงดเว้นแค่ไม่โพสการ
รูปหัวเราะนั้นยากหรือง่ายกว่าการแยกนามรูปครับ
onion

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 12:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


sssboun เขียน:
โลกสวย เขียน:
ในเบื้องต้น

ควรแยกจำแนก สภาวะธรรม 72 อย่าง ให้ได้เสียก่อน
ว่า สภาวะธรรมไหน เป็นรูป สภาวะธรรมไหนเป็นนาม

เพื่อปฎิบัติ ให้เข้าถึง การแยกรูป นาม ตามสภาวะ
แล้วอาศัย สติปัญญาที่ปฎิบัติ เพื่อให้เข้าถึงสภาวะธรรม

ในแต่ละประเภท ได้อย่างถูกต้อง
ตามปรมัตถ์ธรรม

โดยสภาวธรรม 72 ได้แก่ จิต 1 เจตสิก 52 รูป 18 นิพพาน 1
ปราศจาก ตัวตน บุคคลใดๆ


อย่างนี่ จึงเรียกว่า เคารพพระธรรม แท้จริง


smiley

สาธุ ตรงนี้ถูกต้อง แต่มีที่ไหนท่านสอนเบื้องต้นเช่นนี้
หรือเม มีแต่เบื้องต้นคือ ทาน ศีล ภาวนา แต่เมเล่นกลับกัน
คือ ภาวนา ศีล ทาน เลยเหรอเนี่ย การงดเว้นแค่ไม่โพสการ
รูปหัวเราะนั้นยากหรือง่ายกว่าการแยกนามรูปครับ
onion


"ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงข้อปฏิบัติอันสมควรแก่การ
เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิแก่เธอทั้งหลาย เธอ
ทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี ........"



เรยเป็นการยาก ที่คุณ จะเข้าใจ
ว่า การที่เม โพส์ตัวการตูน นั้น
เพื่อคุณจะได้ ถอนความสำคัญจากตัณหา มานะ และทิฎฐิคุณเอง
ตามพระสูตร ที่แสดงในกระทู้ ไงค๊ะ

คำกล่าว คุณ ผิด ไม่ตรงหัวข้อกระทู้
และผิด ไม่ตรงพระอภิธรรม

ทาน คือความดีขั้นต้น ไม่ใช่ ทานศีลภาวนา เป็นเบื้องต้น

ทาน ศีล ภาวนา มีมาก่อนยุคพราหม์ ก่อนที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้

แต่ปรมัตถ์ธรรม ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า

การทำความดี คือ
กุศลจิต 21 เจตสิก 38 อันเป็นไปในกายทวาร วจีทวาร และมโนทวาร

Onion_no คุณ เรยตกในสภาวะแบบนี้ เพราเสียดแทงใจ

smiley smiley smiley
rolleyes rolleyes rolleyes
tongue tongue tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 13:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
sssboun เขียน:
โลกสวย เขียน:
ในเบื้องต้น

ควรแยกจำแนก สภาวะธรรม 72 อย่าง ให้ได้เสียก่อน
ว่า สภาวะธรรมไหน เป็นรูป สภาวะธรรมไหนเป็นนาม

เพื่อปฎิบัติ ให้เข้าถึง การแยกรูป นาม ตามสภาวะ
แล้วอาศัย สติปัญญาที่ปฎิบัติ เพื่อให้เข้าถึงสภาวะธรรม

ในแต่ละประเภท ได้อย่างถูกต้อง
ตามปรมัตถ์ธรรม

โดยสภาวธรรม 72 ได้แก่ จิต 1 เจตสิก 52 รูป 18 นิพพาน 1
ปราศจาก ตัวตน บุคคลใดๆ


อย่างนี่ จึงเรียกว่า เคารพพระธรรม แท้จริง


smiley

สาธุ ตรงนี้ถูกต้อง แต่มีที่ไหนท่านสอนเบื้องต้นเช่นนี้
หรือเม มีแต่เบื้องต้นคือ ทาน ศีล ภาวนา แต่เมเล่นกลับกัน
คือ ภาวนา ศีล ทาน เลยเหรอเนี่ย การงดเว้นแค่ไม่โพสการ
รูปหัวเราะนั้นยากหรือง่ายกว่าการแยกนามรูปครับ
onion


"ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงข้อปฏิบัติอันสมควรแก่การ
เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิแก่เธอทั้งหลาย เธอ
ทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี ........"



เรยเป็นการยาก ที่คุณ จะเข้าใจ
ว่า การที่เม โพส์ตัวการตูน นั้น
เพื่อคุณจะได้ ถอนความสำคัญจากตัณหา มานะ และทิฎฐิคุณเอง
ตามพระสูตร ที่แสดงในกระทู้ ไงค๊ะ

คำกล่าว คุณ ผิด ไม่ตรงหัวข้อกระทู้
และผิด ไม่ตรงพระอภิธรรม

ทาน คือความดีขั้นต้น ไม่ใช่ ทานศีลภาวนา เป็นเบื้องต้น

ทาน ศีล ภาวนา มีมาก่อนยุคพราหม์ ก่อนที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้

แต่ปรมัตถ์ธรรม ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า

การทำความดี คือ
กุศลจิต 21 เจตสิก 38 อันเป็นไปในกายทวาร วจีทวาร และมโนทวาร

Onion_no คุณ เรยตกในสภาวะแบบนี้ เพราเสียดแทงใจ

smiley smiley smiley
rolleyes rolleyes rolleyes
tongue tongue tongue


:b21: :b41:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 16:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


sssboun เขียน:
โลกสวย เขียน:
sssboun เขียน:
โลกสวย เขียน:
ในเบื้องต้น

ควรแยกจำแนก สภาวะธรรม 72 อย่าง ให้ได้เสียก่อน
ว่า สภาวะธรรมไหน เป็นรูป สภาวะธรรมไหนเป็นนาม

เพื่อปฎิบัติ ให้เข้าถึง การแยกรูป นาม ตามสภาวะ
แล้วอาศัย สติปัญญาที่ปฎิบัติ เพื่อให้เข้าถึงสภาวะธรรม

ในแต่ละประเภท ได้อย่างถูกต้อง
ตามปรมัตถ์ธรรม

โดยสภาวธรรม 72 ได้แก่ จิต 1 เจตสิก 52 รูป 18 นิพพาน 1
ปราศจาก ตัวตน บุคคลใดๆ


อย่างนี่ จึงเรียกว่า เคารพพระธรรม แท้จริง


smiley

สาธุ ตรงนี้ถูกต้อง แต่มีที่ไหนท่านสอนเบื้องต้นเช่นนี้
หรือเม มีแต่เบื้องต้นคือ ทาน ศีล ภาวนา แต่เมเล่นกลับกัน
คือ ภาวนา ศีล ทาน เลยเหรอเนี่ย การงดเว้นแค่ไม่โพสการ
รูปหัวเราะนั้นยากหรือง่ายกว่าการแยกนามรูปครับ
onion


"ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงข้อปฏิบัติอันสมควรแก่การ
เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิแก่เธอทั้งหลาย เธอ
ทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี ........"



เรยเป็นการยาก ที่คุณ จะเข้าใจ
ว่า การที่เม โพส์ตัวการตูน นั้น
เพื่อคุณจะได้ ถอนความสำคัญจากตัณหา มานะ และทิฎฐิคุณเอง
ตามพระสูตร ที่แสดงในกระทู้ ไงค๊ะ

คำกล่าว คุณ ผิด ไม่ตรงหัวข้อกระทู้
และผิด ไม่ตรงพระอภิธรรม

ทาน คือความดีขั้นต้น ไม่ใช่ ทานศีลภาวนา เป็นเบื้องต้น

ทาน ศีล ภาวนา มีมาก่อนยุคพราหม์ ก่อนที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้

แต่ปรมัตถ์ธรรม ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า

การทำความดี คือ
กุศลจิต 21 เจตสิก 38 อันเป็นไปในกายทวาร วจีทวาร และมโนทวาร

Onion_no คุณ เรยตกในสภาวะแบบนี้ เพราเสียดแทงใจ

smiley smiley smiley
rolleyes rolleyes rolleyes
tongue tongue tongue


:b21: :b41:


คุณลุงเข้าใจผิดอีกแล้ว

ที่ไปปิดปาก ไม่ใช่การปิดหูปิดตาปิดปาก แบบลิงสามตัวค่ะ

งั้นเอาพระธรรมท่านสามเณร ที่สอนท่านพระใบลานเปล่าไป พิจารณา แทนน๊ะค๊ะ


"ท่านผู้เจริญ ในจอมปลวกแห่งหนึ่ง มีช่องอยู่ ๖ ช่อง, ในช่องเหล่านั้น เหี้ยเข้าไปภายในโดยช่องๆ หนึ่ง บุคคลประสงค์จะจับมัน จึงอุดช่องทั้ง ๕ นอกนี้ ทำลายช่องที่ ๖ แล้ว จึงจับเอาโดยช่องที่มันเข้าไปนั่นเอง, บรรดาทวารทั้งหก แม้ท่านจงปิดทวารทั้ง ๕ อย่างนั้นแล้ว จงเริ่มตั้งกรรม๑- นี้ไว้ในมโนทวาร."

๑-๑. คำว่า กรรม ในที่นี้ ได้แก่ บริกรรม หรือกัมมัฏฐาน.

huh


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 17:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
คุณลุงเข้าใจผิดอีกแล้ว

ที่ไปปิดปาก ไม่ใช่การปิดหูปิดตาปิดปาก แบบลิงสามตัวค่ะ

งั้นเอาพระธรรมท่านสามเณร ที่สอนท่านพระใบลานเปล่าไป พิจารณา แทนน๊ะค๊ะ


"ท่านผู้เจริญ ในจอมปลวกแห่งหนึ่ง มีช่องอยู่ ๖ ช่อง, ในช่องเหล่านั้น เหี้ยเข้าไปภายในโดยช่องๆ หนึ่ง บุคคลประสงค์จะจับมัน จึงอุดช่องทั้ง ๕ นอกนี้ ทำลายช่องที่ ๖ แล้ว จึงจับเอาโดยช่องที่มันเข้าไปนั่นเอง, บรรดาทวารทั้งหก แม้ท่านจงปิดทวารทั้ง ๕ อย่างนั้นแล้ว จงเริ่มตั้งกรรม๑- นี้ไว้ในมโนทวาร."

๑-๑. คำว่า กรรม ในที่นี้ ได้แก่ บริกรรม หรือกัมมัฏฐาน.

huh


โห่บรรยาให้คนแก่ฟังจนหาวเลยนะหนู แก่แล้วก็ยังงี้ร่ำเรียน
อะไรก็ช้าไม่ว่องไวเหมือนหนุ่มสาววัยรุ่น แต่ก็ต้องขอบใจมากๆ
ในความเพียร ความขยัน การทำความดีนั้นต้องอดต้องทนต้องขยัน
หมั่นเพียร มีเมตตาเป็นพื้นฐาน มีขันธ์ติเพราะความจริงดั่งโบราณท่าน
ว่าไว้

ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก หากดัดแรงไปก็จะแตกหักเสียง่ายๆ

อนุโมทนา สาธุในจิตที่เป็นกุศลด้วยนะครับ ขอให้เจริญๆและมีความ
สุขทั้งกายและใจ และให้เข้าถึงพระนิพพานในเร็ววันด้วยเทอญ

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 55 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 31 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร