วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 02:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 289 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13 ... 20  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2019, 11:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


คริคริ

เอาพระสูตรมหายานมาให้ ค่ะ
อันนี้แค่ส่วนเดียว ถูกต้อง ล้านเปอร์เซนต์

“ข้าแต่พระคุณเจ้าสารีบุตร พระคุณเจ้าไม่จำเป็นต้องมานั่งอาการอย่างนี้โดยสำคัญว่าเป็นการนั่งสมาธิ อันการนั่งสมาธิที่แท้จริงนั้น คือการไม่ปรากฏกายใจในภพทั้ง ๓ ไม่ต้องออกจากนิโรธสมาบัติ แต่ก็สามารถแสดงบรรดาอิริยาบถให้ปรากฏได้ นี้คือการนั่งสมาธิ ไม่ต้องสละมรรคธรรม แต่ก็สามารถทำกิจกรรมของปุถุชนได้ นี้ก็คือการนั่งสมาธิ จิตไม่ยึดติดในภายใน หรือยึดติดในภายนอก นี้คือการนั่งสมาธิ ไม่มีความหวั่นไหวกำเริบ เพราะเหตุแห่งปวงทิฏฐิ แลสามารถอบรมในโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ได้ นี้คือการนั่งสมาธิ ไม่ต้องตัดกิเลส แต่สามารถเข้านิพพานได้ นี้คือการนั่งสมาธิ ถ้าพระคุณเจ้าอาจที่จักนั่งด้วยวิธีอย่างนี้ พระพุทธองค์ย่อมจักรับรอง.”

tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2019, 11:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
คริคริ

เอาพระสูตรมหายานมาให้ ค่ะ
อันนี้แค่ส่วนเดียว ถูกต้อง ล้านเปอร์เซนต์

“ข้าแต่พระคุณเจ้าสารีบุตร พระคุณเจ้าไม่จำเป็นต้องมานั่งอาการอย่างนี้โดยสำคัญว่าเป็นการนั่งสมาธิ อันการนั่งสมาธิที่แท้จริงนั้น คือการไม่ปรากฏกายใจในภพทั้ง ๓ ไม่ต้องออกจากนิโรธสมาบัติ แต่ก็สามารถแสดงบรรดาอิริยาบถให้ปรากฏได้ นี้คือการนั่งสมาธิ ไม่ต้องสละมรรคธรรม แต่ก็สามารถทำกิจกรรมของปุถุชนได้ นี้ก็คือการนั่งสมาธิ จิตไม่ยึดติดในภายใน หรือยึดติดในภายนอก นี้คือการนั่งสมาธิ ไม่มีความหวั่นไหวกำเริบ เพราะเหตุแห่งปวงทิฏฐิ แลสามารถอบรมในโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ได้ นี้คือการนั่งสมาธิ ไม่ต้องตัดกิเลส แต่สามารถเข้านิพพานได้ นี้คือการนั่งสมาธิ ถ้าพระคุณเจ้าอาจที่จักนั่งด้วยวิธีอย่างนี้ พระพุทธองค์ย่อมจักรับรอง.”

tongue


พูดสั้นๆ "นั่งสมาธิ"

รูปภาพ


บางคนบางสำนักเข้าใจผิด คือ เห็นการนั่งอย่างนั้นเป็นสมาธิไป พอลุกขึ้นเดิน บอกไม่เป็นสมาธิ พอลงนั่งอย่างนั้นอีกว่า เป็นสมาธิ นั่งสมาธิ นั่งยองๆ ไม่เป็นสมาธิ :b32: นี่แสดงว่า เห็นการนั่งเป็นสมาธิไปแล้ว

ไม่ใช่ๆ คือ เขาฝึกสมาธิ เจริญสมาธิ (อธิจิตตสิกขา) โดยใช้อิริยาบถนั่ง จะใช้อิริยาบถยืน เดิน นั่ง ทำงานนั่น-นี่ ก็เจริญสมาธิโดยใช้สิ่งนั้นเป็นอุปกรณ์ฝึกสมาธิได้ อย่ามองการนั่งอย่างนั้นเป็นสมาธิไป

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2019, 12:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ในชีวิตไม่เคยจำว่าไม่มีตัวเราของเราเพราะไม่รู้ว่าจริงๆแท้แล้วมีอะไรที่กำลังมีจริงๆ
จะทำอะไรก็ทำไปด้วยจิตที่คิดว่าฉันทำเพื่อให้ตัวเองดีทำเพื่อสิ่งดีๆเกิดกับครอบครัว
ทำอะไรไม่เคยรู้สึกตัวตามคำสอนมีแต่คิดว่าฉันทำเพื่อตัวฉันลูกฉันพ่อแม่ฉันมีความสุข
ไม่เคยจำถูกต้องตรงสัจจะตามคำสอนว่าตัวเราก็ไม่มีตัวเขาก็ไม่มีที่มีคืออุปาทานว่ามีตัวตน
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2019, 13:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ในชีวิตไม่เคยจำว่าไม่มีตัวเราของเราเพราะไม่รู้ว่าจริงๆแท้แล้วมีอะไรที่กำลังมีจริงๆ
จะทำอะไรก็ทำไปด้วยจิตที่คิดว่าฉันทำเพื่อให้ตัวเองดีทำเพื่อสิ่งดีๆเกิดกับครอบครัว
ทำอะไรไม่เคยรู้สึกตัวตามคำสอนมีแต่คิดว่าฉันทำเพื่อตัวฉันลูกฉันพ่อแม่ฉันมีความสุข
ไม่เคยจำถูกต้องตรงสัจจะตามคำสอนว่าตัวเราก็ไม่มีตัวเขาก็ไม่มีที่มีคืออุปาทานว่ามีตัวตน
onion onion onion


ถามคุณโรสตรงๆนะ พึงตอบตรงๆจากใจ คือ ที่คุณโรสทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำอยู่ทุกวี่วันเนี่ย คุณโรสทำเพื่ออะไร ทำเพื่อใคร

1. ทำเพื่อตนเองและครอบครัว

2. ทำไปงั้นๆแหละ

สองข้อพอ ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2019, 13:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มหายาน “ยานใหญ่” นิกายพระพุทธศาสนาที่เกิดขึ้นหลังพุทธปรินิพพานประมาณ ๕๐๐-๖๐๐ ปี โดยสืบสายจากนิกายที่แตกแยกออกไปเมื่อใกล้ พ.ศ.๑๐๐ (ถือกันว่าสืบต่อไปจากนิกายมหาสังฆิกะ ที่สูญไปแล้ว) เรียกชื่อตนว่า มหายาน และบางทีเรียกว่าโพธิสัตวยาน (ยานของพระโพธิสัตว์) พร้อมทั้งเรียกพระพุทธศาสนาแบบเก่าๆ รวมทั้งเถรวาทที่มีอยู่ก่อนว่า หีนยาน (คำว่า หีนยาน จึงเป็นคำที่เกิดขึ้นภายหลัง แต่ใช้เรียกสิ่งที่เก่ากว่า) หรือ เรียกว่าสาวกยาน (ยานของสาวก)

มหายานนั้นมีผู้นับถือมากในประเทศแถบเหนือของทวีปเอเชีย เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ทิเบต และมองโกเลีย บางทีเรียกว่า อุตรนิกาย (นิกายฝ่ายเหนือ) เป็นคู่กับ ทักษิณนิกาย (นิกายฝ่ายใต้) คือ เถรวาท ที่นับถืออยู่ในประเทศแถบใต้ เช่น ไทย และลังกา ซึ่งทางฝ่ายมหายานเรียกรวมไว้ในคำว่า หีนยาน

เนื่องจากเถรวาท เป็นพุทธศาสนาแบบดั้งเดิม จึงมีคำเก่าเข้าคู่กัน อันใช้เรียกนิกายทั้งหลายที่แยกออกไป รวมทั้งนิกายย่อยมากมายของมหายาน หรือ เรียก มหายาน รวมๆไปว่า อาจริยวาท หรือ อาจารยวาท (ลัทธิของอาจารย์ ที่เป็นเจ้านิกายนั้นๆ)

ลักษณะสำคัญที่น่าสังเกตคือ เถรวาท ไม่ว่า ที่ไหน ในประเทศใด ก็ถือตามหลักการเดิมเหมือนกันหมด
ส่วนมหายาน แยกเป็นนิกายย่อยมากมาย มีคำสอนและข้อปฏิบัติแตกต่างกันเองไกลกันมาก แม้แต่ในประเทศเดียวกัน เช่น ในญี่ปุ่นปัจจุบัน มีนิกายใหญ่ ๕ แยกย่อยออกไปอีกราว ๒๐๐ สาขานิกาย และในญี่ปุ่นพระมีครอบครัวได้แล้วทุกนิกาย
แต่ในไต้หวัน เป็นต้น พระมหายานไมมีครอบครัว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2019, 13:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เถรวาท “วาทของพระเถระ” (หมายถึงพระเถระผู้รักษาธรรมวินัยนับแต่ปฐมสังคายนา) พระพุทธศาสนาที่สืบมาแต่ยุคแรกสุด ซึ่งถือตามหลักธรรมวินัยที่พระอรหันตเถระ ๕๐๐ รูป ได้ประชุมทำสังคายนาครั้งแรกรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าวางเป็นแบบแผนไว้เมื่อ ๓ เดือนหลังพุทธปรินิพาน ได้แก่ พระพุทธศาสนาอย่างที่นับถือแพร่หลายในประเทศไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2019, 13:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หินยาน, หีนยาน “ยานเลว” “ยานที่ด้อย” (คำเดิมในภาษาบาลี และสันสกฤต เป็น หีนยาน ในภาษาไทย นิยมเขียน หินยาน) เป็นคำที่นิกายพุทธศาสนา ซึ่งเกิดภายหลัง เมื่อประมาณ พ.ศ. ๕๐๐-๖๐๐ คิดขึ้น โดยเรียกตนเองว่า มหายาน (ยานพาหนะใหญ่มีคุณภาพใหญ่ ที่จะช่วยขนพาสัตว์ออกไปจากสังสารวัฏ ได้มากมายและอย่างได้ผลดี) แล้วเรียกพระพุทธศาสนาแบบอื่นที่มีอยู่ก่อนรวมกันไปว่าหีนยาน (ยานพาหนะต่ำต้อย ด้อยคุณภาพที่ขนพาสัตว์ออกไปจากสังสารวัฏ ได้น้อยและด้อยผล)

พุทธศาสนาแบบเถรวาท (อย่างที่บัดนี้นับถือกันอยู่ในไทย พม่า, ลังกา เป็นต้น) ก็ถูกเรียกรวมไว้ในชื่อว่านิกายหินยานด้วย

ปัจจุบัน พุทธศาสนาหีนยานที่เป็นนิกายย่อยๆ ทั้งหลายได้สูญสิ้นไปหมด (ตัวอย่างนิกายย่อยหนึ่งของหินยาน ที่เคยเด่นในอดีตบางสมัย คือ สรวาสติวาท หรือเรียกแบบบาลีว่า สัพพัตถิกวาท แต่ก็สูญไปนานแล้ว) เหลือแต่เถรวาทอย่างเดียว

เมื่อพูดถึงหินยานจึงหมายถึงเถรวาท จนคนทั่วไปมักเข้าใจว่าหินยานกับเถรวาทมีความหมายเป็นอันเดียวกัน
บางที จึงถือว่าหินยานกับ เถรวาทเป็นคำที่ใช้แทนกันได้ แต่เมื่อคนรู้เข้าใจเรื่องราวดีขึ้น บัดนี้ จึงนิยมเรียก เถรวาท ไม่เรียก หินยาน

เนื่องจาก เนื่องจากคำว่า “มหายาน” และ “หินยาน” เกิดขึ้นในยุคที่พุทธศาสนาแบบเดิมเลือนรางไปจากชมพูทวีป หลังพุทธกาลนานถึง ๕-๖ ศตวรรษ

คำทั้งสองนี้ จึงไม่มีในคัมภีร์บาลีแม้แต่รุ่นหลัง ในขั้นฎีกาและอนุฎีกา

ปัจจุบัน ขณะที่นิกายย่อยของหีนยานหมดไป เหลือเพียงเถรวาทอย่างเดียว

แต่มหายาน กลับแตกแยกเป็นนิกายย่อยเพิ่มขึ้นมากมาย

บางนิกายย่อยถึงกับไม่ยอมรับที่ได้ถูกจัดเป็นมหายาน แต่ถือตนว่าเป็นนิกายใหญ่อีกนิกายหนึ่งต่างหาก คือ พุทธศาสนาแบบทิเบต ซึ่งเรียกตนว่าเป็น วัชรยาน และถือตนว่าประเสริฐเลิศกว่ามหายาน

ถ้ายอมรับคำว่า มหายาน และหินยานแล้วเทียบจำนวนรวมของศาสนิก ตามตัวเลขในปี ๒๕๔๘ ว่า มีพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ๓๗๘ ล้านคน แบ่งเป็นมหายาน ๕๖ % เป็นหินยาน ๓๘ % (วัชรยานนับต่างหากจากมหายานเป็น ๖%)

แต่ถ้าเทียบระหว่างประดานิกายย่อยของสองยานนั้น (ไม่นับประเทศจีน แผ่นดินใหญ่ที่มีตัวเลขไม่ชัด)

ปรากฏว่า เถรวาทเป็นนิกายที่ใหญ่มีผู้นับถือมากที่สุด,

บางทีเรียกมหายานว่า อุตรนิกาย เพราะมีศาสนิกส่วนใหญ่อยู่ในแถบเหนือของทวีปเอเชีย และเรียกหินยานว่า ทักษิณนิกาย เพราะมีศาสนิกส่วนใหญ่อยู่ในแถบใต้ของทวีปเอเชีย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2019, 13:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มหายาน ฟัง อ.เสถียร โพธินันทะ เล่าดิ ฟังเพลินเชีย มีหลายตอน

https://www.youtube.com/watch?v=wIw6wt5_BRA

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2019, 13:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ในชีวิตไม่เคยจำว่าไม่มีตัวเราของเราเพราะไม่รู้ว่าจริงๆแท้แล้วมีอะไรที่กำลังมีจริงๆ
จะทำอะไรก็ทำไปด้วยจิตที่คิดว่าฉันทำเพื่อให้ตัวเองดีทำเพื่อสิ่งดีๆเกิดกับครอบครัว
ทำอะไรไม่เคยรู้สึกตัวตามคำสอนมีแต่คิดว่าฉันทำเพื่อตัวฉันลูกฉันพ่อแม่ฉันมีความสุข
ไม่เคยจำถูกต้องตรงสัจจะตามคำสอนว่าตัวเราก็ไม่มีตัวเขาก็ไม่มีที่มีคืออุปาทานว่ามีตัวตน
onion onion onion


ถามคุณโรสตรงๆนะ พึงตอบตรงๆจากใจ คือ ที่คุณโรสทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำอยู่ทุกวี่วันเนี่ย คุณโรสทำเพื่ออะไร ทำเพื่อใคร

1. ทำเพื่อตนเองและครอบครัว

2. ทำไปงั้นๆแหละ

สองข้อพอ ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

:b12:
คิดว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริง...จริงๆไหมคะ
แล้วคิดว่าเห็นที่ตัวเองกำลังลืมตาดูเนี่ยผิดอยู่ไหมคะ
ตถาคตตรัสแสดงว่าจิตเห็นสีสันวรรณะดับทันทีมืดทันทีไม่มีตัวเราเลย
คุณคิดว่าคุณเห็นสีตรงตามคำสอนแล้วหรือกำลังเห็นผิดคิดถึงสิ่งที่เห็นว่ามีเรามองเห็นทุกสิ่งตรงหน้าคะ
:b12:
:b17: :b17:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 01 เม.ย. 2019, 13:40, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2019, 13:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ในชีวิตไม่เคยจำว่าไม่มีตัวเราของเราเพราะไม่รู้ว่าจริงๆแท้แล้วมีอะไรที่กำลังมีจริงๆ
จะทำอะไรก็ทำไปด้วยจิตที่คิดว่าฉันทำเพื่อให้ตัวเองดีทำเพื่อสิ่งดีๆเกิดกับครอบครัว
ทำอะไรไม่เคยรู้สึกตัวตามคำสอนมีแต่คิดว่าฉันทำเพื่อตัวฉันลูกฉันพ่อแม่ฉันมีความสุข
ไม่เคยจำถูกต้องตรงสัจจะตามคำสอนว่าตัวเราก็ไม่มีตัวเขาก็ไม่มีที่มีคืออุปาทานว่ามีตัวตน
onion onion onion


ถามคุณโรสตรงๆนะ พึงตอบตรงๆจากใจ คือ ที่คุณโรสทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำอยู่ทุกวี่วันเนี่ย คุณโรสทำเพื่ออะไร ทำเพื่อใคร

1. ทำเพื่อตนเองและครอบครัว

2. ทำไปงั้นๆแหละ

สองข้อพอ ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

:b12:
คิดว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริง...จริงๆไหมคะ
แล้วคิดว่าเห็นที่ตัวเองกำลังลืมตาดูเนี่ยผิดอยู่ไหมคะ
ตถาคตตรัสแสดงว่าจิตเห็นสีสันวรรณะดับทันทีมืดทันทีไม่มีตัวเราเลย
คุณคิดว่าคุณเห็นสีตรงตามคำสอนแล้วหรือกำลังเห็นผิดคิดถึงสิ่งที่เห็นว่ามีเรามองเห็นทุกสิ่งตรงหน้าคะ
:b12:
:b17: :b17:


เหมือนเดิม ถามอย่างตอบอย่าง คิกๆๆ เวนกำจริงๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2019, 13:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ในชีวิตไม่เคยจำว่าไม่มีตัวเราของเราเพราะไม่รู้ว่าจริงๆแท้แล้วมีอะไรที่กำลังมีจริงๆ
จะทำอะไรก็ทำไปด้วยจิตที่คิดว่าฉันทำเพื่อให้ตัวเองดีทำเพื่อสิ่งดีๆเกิดกับครอบครัว
ทำอะไรไม่เคยรู้สึกตัวตามคำสอนมีแต่คิดว่าฉันทำเพื่อตัวฉันลูกฉันพ่อแม่ฉันมีความสุข
ไม่เคยจำถูกต้องตรงสัจจะตามคำสอนว่าตัวเราก็ไม่มีตัวเขาก็ไม่มีที่มีคืออุปาทานว่ามีตัวตน
onion onion onion


ถามคุณโรสตรงๆนะ พึงตอบตรงๆจากใจ คือ ที่คุณโรสทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำอยู่ทุกวี่วันเนี่ย คุณโรสทำเพื่ออะไร ทำเพื่อใคร

1. ทำเพื่อตนเองและครอบครัว

2. ทำไปงั้นๆแหละ

สองข้อพอ ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

:b12:
คิดว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริง...จริงๆไหมคะ
แล้วคิดว่าเห็นที่ตัวเองกำลังลืมตาดูเนี่ยผิดอยู่ไหมคะ
ตถาคตตรัสแสดงว่าจิตเห็นสีสันวรรณะดับทันทีมืดทันทีไม่มีตัวเราเลย
คุณคิดว่าคุณเห็นสีตรงตามคำสอนแล้วหรือกำลังเห็นผิดคิดถึงสิ่งที่เห็นว่ามีเรามองเห็นทุกสิ่งตรงหน้าคะ
:b12:
:b17: :b17:


เหมือนเดิม ถามอย่างตอบอย่าง คิกๆๆ เวนกำจริงๆ

cool
คิดตรงให้เป็นซะก่อนนะคะจะได้รู้จักกิเลสตัวเอง
กำลังเห็นและตาไม่บอดด้วยคิดให้ตรงทาง
เดี๋ยวนี้ที่เห็นคนสัตว์วัตถุคือนิมิตการเกิดดับ
นับไม่ถ้วนถึงแสนโกฏิขณะคือแสนล้านดวงจิต
รู้หรือคะว่าที่กำลังเห็นเนี่ยอะไรคือสีตรงปัจจุบันขณะ1สี
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2019, 13:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ในชีวิตไม่เคยจำว่าไม่มีตัวเราของเราเพราะไม่รู้ว่าจริงๆแท้แล้วมีอะไรที่กำลังมีจริงๆ
จะทำอะไรก็ทำไปด้วยจิตที่คิดว่าฉันทำเพื่อให้ตัวเองดีทำเพื่อสิ่งดีๆเกิดกับครอบครัว
ทำอะไรไม่เคยรู้สึกตัวตามคำสอนมีแต่คิดว่าฉันทำเพื่อตัวฉันลูกฉันพ่อแม่ฉันมีความสุข
ไม่เคยจำถูกต้องตรงสัจจะตามคำสอนว่าตัวเราก็ไม่มีตัวเขาก็ไม่มีที่มีคืออุปาทานว่ามีตัวตน
onion onion onion


ถามคุณโรสตรงๆนะ พึงตอบตรงๆจากใจ คือ ที่คุณโรสทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำอยู่ทุกวี่วันเนี่ย คุณโรสทำเพื่ออะไร ทำเพื่อใคร

1. ทำเพื่อตนเองและครอบครัว

2. ทำไปงั้นๆแหละ

สองข้อพอ ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

:b12:
คิดว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริง...จริงๆไหมคะ
แล้วคิดว่าเห็นที่ตัวเองกำลังลืมตาดูเนี่ยผิดอยู่ไหมคะ
ตถาคตตรัสแสดงว่าจิตเห็นสีสันวรรณะดับทันทีมืดทันทีไม่มีตัวเราเลย
คุณคิดว่าคุณเห็นสีตรงตามคำสอนแล้วหรือกำลังเห็นผิดคิดถึงสิ่งที่เห็นว่ามีเรามองเห็นทุกสิ่งตรงหน้าคะ
:b12:
:b17: :b17:


เหมือนเดิม ถามอย่างตอบอย่าง คิกๆๆ เวนกำจริงๆ

cool
คิดตรงให้เป็นซะก่อนนะคะจะได้รู้จักกิเลสตัวเอง
กำลังเห็นและตาไม่บอดด้วยคิดให้ตรงทาง
เดี๋ยวนี้ที่เห็นคนสัตว์วัตถุคือนิมิตการเกิดดับ
นับไม่ถ้วนถึงแสนโกฏิขณะคือแสนล้านดวงจิต
รู้หรือคะว่าที่กำลังเห็นเนี่ยอะไรคือสีตรงปัจจุบันขณะ1สี
:b12:
:b32: :b32:


ถามคุณโรสตรงๆนะ พึงตอบตรงๆจากใจ คือ ที่คุณโรสทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำอยู่ทุกวี่วันเนี่ย คุณโรสทำเพื่ออะไร ทำเพื่อใคร

1. ทำเพื่อตนเองและครอบครัว

2. ทำไปงั้นๆแหละ

สองข้อพอ ตอบข้อไหน 1 หรือ 2



โจทก์เขาถามนั่นน่า จะต้องไปคิดตรงอะไร เขาถามว่า คุณโรสทำงานเพื่ออะไร เพื่อตนเองเพื่อครอบครัว หรือทำๆไปยังงั้นแหละ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2019, 13:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


luna เขียน:
onion หลักการนั่งสมาธิที่ถูกต้อง 100% Kiss

หลักการนั่งสมาธิที่ถูกต้อง
หลักการนั่งสมาธิที่ถูกต้องที่สุด ทำตัวสบายๆผ่อนคลายจากความตึงเกร็งของกล้ามเนื้อ ค่อยๆหลับตาเบาๆ วางจิตไว้ตรงฐานของจิตฐานของจิตอยู่ตรงที่เบาสบายที่สุด หายใจเข้าลึกๆ และก็ค่อยผ่อนออกช้าๆ และก็กำหนดคำภาวนา
หายใจเข้าลึกๆว่าพุธ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆหายใจออกช้าๆว่าโธๆๆๆๆๆๆๆๆ จะเป็นที่เบาสบายๆไม่ตึงเกร็ง เมื่อลมละเอียดขึ้นก็จะมีแสงสว่างก่อตัวเป็นดวงกสิณ เกิดจากลมหยาบ ที่ละเอียดจนบางครั้งเราคิดเองว่าไม่ได้หายใจ เพราะลมละเอียดจนเกือบดับเสียหมด
ที่นักปฏิบัติ ดึงลมหายใจเข้าหายใจออก ซักฟอกลมจนละเอียด กลายเป็นนิมิตโอภาสรังสี นักปฏิบัติหลายคนเพ่งนิมิตดวงกสิณเจริญเป็นบาทฐานอภิญญา ได้แต่ฤทธิ์ทางใจ ล้วนเดินทางไปพรหมโลก เพราะเข้าใจว่าดับรูปกาย เหลือแต่จิตที่ประภัสสร คืออนัตตาธรรม
ซึ่งทางสายวิปัสสนาจาร ปรามาส สมาธิประเภทนี้เอาไว้รุนแรงมากๆ สมาธิหนักแน่นเหมือนแกนมะละกอ
เพราะเป็นสมาธิที่หลบเวทนา ไม่ฉลาดในอุบายธรรมะ
เวลากระทบ อารมณ์ภายนอก ก็ไม่ต่างอะไรกับนักภาวนาหัดใหม่ ยังปล่อยจิตปล่อยใจ เวลาดีก็ดีใจหาย ดีก็รักชั่วก็ชัง จิตแบบนี้ยังใช้ไม่ได้ อารมณ์ยังขึ้นๆลงๆ ไม่เป็นตัวปกติ

ทางแก้ไข เมื่อนักปฏิบัติธรรมะ เจริญภาวนามาถึง มีอาการจิตลอยๆ เกิดความง่วงเหงาหาวนอน ในขณะเจริญสมณะธรรม ให้ถอนจิตขึ้นมาคิดนึกธรรมะแล้วน้อมเข้ามาในวงกายในกาย ที่ควรทำให้เกิดปัญญาในการถอนสังโยชน์
ถ้ามีอาการสังขารไม่ไหว ก็ให้หลับในฌาน เมื่อพักเต็มที่แล้วก็ออกเดินทางปัญญา โดยกำหนดสิ่งที่เห็น เสียงที่ได้ยิน กลิ่นที่ได้กลิ่น สัมผัสที่ถูกต้อง แล้วน้อมเข้ามาดูในใจ ธรรมะที่เป็นกุศและอกุศลจะเกิดในจิตก็ให้ละที่จิตในจิต
ก็จะเกิดภูมิวิปัสสนา เมื่อนั่งทับทุกข์นานๆเวทนาย่อมเกิด
นักภาวนาที่ต้องการพ้นทุกข์ ห้ามหลบเวทนา ให้เจริญเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน เป็นเครื่องเล่นเครื่องอยู่อบรมอินทรีย์ ๕ ให้แก่กล้า ก็จะเห็นกระแสปฏิจจสมุปบาท โซ่แห่งการเวียนว่ายตายเกิด เพราะละตัดขาดจากเวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงดับ
อุปมาอุปมัยได้กับ สายไฟฟ้าเส้นใหญ่ถูกตัดขาด
ผลก็คือไฟฟ้าดับทั้งเมือง
จิตที่ขาดออกจากรูปแล้ว ก็ไม่มีกระแสปฏิจจสมุปบาท อะไรส่งผ่านถึงดวงจิตดวงนี้ได้อีกต่อไป ก็อาศัยกาลเวลาในการขัดเกลาดวงจิตจน บริสุทธิ์หมดจดไร้รูปลักษณ์
ทรงภูมิพระอรหันต์ขีณาสพ รอสังขารแตกดับ ก็ทิ้งขันธ์ไม่กลับมาเกิดอีกในสามโลก

ข้อคิด สำหรับ ศิษย์

นักปฏิบัติธรรมในขณะที่เวทนาเกิดอย่าอยากให้หาย ยิ่งอยากให้หายมากเท่าไรก็ จะกลับเป็นเวทนาทวีคูณขึ้น
จนนักปฏิบัติธรรม ทนไม่ได้และจะล้มเลิกไปในที่สุด.


อ่านไปก็ดูสับสน วุ่นวาย ยุ่งเหยิง

พระพุทธองค์จึงสอนว่า กัลยาณมิตรเป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์
ต้องคบกัลยาณมิตร ซึ่งก็ไม่มีผู้ใดเสมอด้วยพระพุทธองค์

คุณ luna ควรศึกษาพระพุทธพจน์ด้วยความเคารพ ไม่ว่าจะมหายาน หรือ เถรวาทก็ตาม
และควรศึกษาอรรถกถาด้วยเพื่อความแตกฉาน หากจะเน้นเรื่องการภาวนา ก็ควรอ่านหรือเรียนเรื่อง สมถะและวิปัสนาใหม่ให้รอบรู้ เพราะอ่านจากที่คุณเขียน ดูสับสน ไม่เป็นระเบียบ เหมือนนำสิ่งโน้น มาปนสิ่งนี้ ห้ามโน่น ห้ามนี้ ต้องอย่างงั้นอย่างงี้ แต่ไม่ได้เริ่มจากการมีความเห็นที่ถูก คนอ่านจึงไม่ได้รับประโยชน์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2019, 13:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ในชีวิตไม่เคยจำว่าไม่มีตัวเราของเราเพราะไม่รู้ว่าจริงๆแท้แล้วมีอะไรที่กำลังมีจริงๆ
จะทำอะไรก็ทำไปด้วยจิตที่คิดว่าฉันทำเพื่อให้ตัวเองดีทำเพื่อสิ่งดีๆเกิดกับครอบครัว
ทำอะไรไม่เคยรู้สึกตัวตามคำสอนมีแต่คิดว่าฉันทำเพื่อตัวฉันลูกฉันพ่อแม่ฉันมีความสุข
ไม่เคยจำถูกต้องตรงสัจจะตามคำสอนว่าตัวเราก็ไม่มีตัวเขาก็ไม่มีที่มีคืออุปาทานว่ามีตัวตน
onion onion onion


ถามคุณโรสตรงๆนะ พึงตอบตรงๆจากใจ คือ ที่คุณโรสทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำอยู่ทุกวี่วันเนี่ย คุณโรสทำเพื่ออะไร ทำเพื่อใคร

1. ทำเพื่อตนเองและครอบครัว

2. ทำไปงั้นๆแหละ

สองข้อพอ ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

:b12:
คิดว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริง...จริงๆไหมคะ
แล้วคิดว่าเห็นที่ตัวเองกำลังลืมตาดูเนี่ยผิดอยู่ไหมคะ
ตถาคตตรัสแสดงว่าจิตเห็นสีสันวรรณะดับทันทีมืดทันทีไม่มีตัวเราเลย
คุณคิดว่าคุณเห็นสีตรงตามคำสอนแล้วหรือกำลังเห็นผิดคิดถึงสิ่งที่เห็นว่ามีเรามองเห็นทุกสิ่งตรงหน้าคะ
:b12:
:b17: :b17:


เหมือนเดิม ถามอย่างตอบอย่าง คิกๆๆ เวนกำจริงๆ

cool
คิดตรงให้เป็นซะก่อนนะคะจะได้รู้จักกิเลสตัวเอง
กำลังเห็นและตาไม่บอดด้วยคิดให้ตรงทาง
เดี๋ยวนี้ที่เห็นคนสัตว์วัตถุคือนิมิตการเกิดดับ
นับไม่ถ้วนถึงแสนโกฏิขณะคือแสนล้านดวงจิต
รู้หรือคะว่าที่กำลังเห็นเนี่ยอะไรคือสีตรงปัจจุบันขณะ1สี
:b12:
:b32: :b32:


ถามคุณโรสตรงๆนะ พึงตอบตรงๆจากใจ คือ ที่คุณโรสทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำอยู่ทุกวี่วันเนี่ย คุณโรสทำเพื่ออะไร ทำเพื่อใคร

1. ทำเพื่อตนเองและครอบครัว

2. ทำไปงั้นๆแหละ

สองข้อพอ ตอบข้อไหน 1 หรือ 2



โจทก์เขาถามนั่นน่า จะต้องไปคิดตรงอะไร เขาถามว่า คุณโรสทำงานเพื่ออะไร เพื่อตนเองเพื่อครอบครัว หรือทำๆไปยังงั้นแหละ

ทุกคนคิดเห็นที่กำลังเห็นสิคะ
จำได้หมดใช่ไหมตรงหน้ายังไม่พูดเลย
รู้สึกตัวบ้างหรือยังว่าจำผิดเพราะไม่คิดตามคำสอน
:b32:
ทีนี้คิดตามคำสอนนะ
จิตเห็นสี1สีดับในตาดำทันทีไม่มีจิตเห็นเกิดนอกตาค่ะ
ดูสิคะใครจะเห็นสีได้เองมีแต่คิดตามถึงจะรู้ตรงเห็นที่กำลังดูว่าตัวเองเห็นเกินสีนอกตาด้วย/ผิดไหมคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2019, 19:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


ในชีวิตไม่เคยจำว่าไม่มีตัวเราของเราเพราะไม่รู้ว่าจริงๆแท้แล้วมีอะไรที่กำลังมีจริงๆ
จะทำอะไรก็ทำไปด้วยจิตที่คิดว่าฉันทำเพื่อให้ตัวเองดีทำเพื่อสิ่งดีๆเกิดกับครอบครัว
ทำอะไรไม่เคยรู้สึกตัวตามคำสอนมีแต่คิดว่าฉันทำเพื่อตัวฉันลูกฉันพ่อแม่ฉันมีความสุข
ไม่เคยจำถูกต้องตรงสัจจะตามคำสอนว่าตัวเราก็ไม่มีตัวเขาก็ไม่มีที่มีคืออุปาทานว่ามีตัวตน




ถามคุณโรสตรงๆนะ พึงตอบตรงๆจากใจ คือ ที่คุณโรสทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำอยู่ทุกวี่วันเนี่ย คุณโรสทำเพื่ออะไร ทำเพื่อใคร

1. ทำเพื่อตนเองและครอบครัว

2. ทำไปงั้นๆแหละ

สองข้อพอ ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

:b12:
คิดว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริง...จริงๆไหมคะ
แล้วคิดว่าเห็นที่ตัวเองกำลังลืมตาดูเนี่ยผิดอยู่ไหมคะ
ตถาคตตรัสแสดงว่าจิตเห็นสีสันวรรณะดับทันทีมืดทันทีไม่มีตัวเราเลย
คุณคิดว่าคุณเห็นสีตรงตามคำสอนแล้วหรือกำลังเห็นผิดคิดถึงสิ่งที่เห็นว่ามีเรามองเห็นทุกสิ่งตรงหน้าคะ
:b12:
:b17: :b17:


เหมือนเดิม ถามอย่างตอบอย่าง คิกๆๆ เวนกำจริงๆ

cool
คิดตรงให้เป็นซะก่อนนะคะจะได้รู้จักกิเลสตัวเอง
กำลังเห็นและตาไม่บอดด้วยคิดให้ตรงทาง
เดี๋ยวนี้ที่เห็นคนสัตว์วัตถุคือนิมิตการเกิดดับ
นับไม่ถ้วนถึงแสนโกฏิขณะคือแสนล้านดวงจิต
รู้หรือคะว่าที่กำลังเห็นเนี่ยอะไรคือสีตรงปัจจุบันขณะ1สี
:b12:
:b32: :b32:


ถามคุณโรสตรงๆนะ พึงตอบตรงๆจากใจ คือ ที่คุณโรสทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำอยู่ทุกวี่วันเนี่ย คุณโรสทำเพื่ออะไร ทำเพื่อใคร

1. ทำเพื่อตนเองและครอบครัว

2. ทำไปงั้นๆแหละ

สองข้อพอ ตอบข้อไหน 1 หรือ 2



โจทก์เขาถามนั่นน่า จะต้องไปคิดตรงอะไร เขาถามว่า คุณโรสทำงานเพื่ออะไร เพื่อตนเองเพื่อครอบครัว หรือทำๆไปยังงั้นแหละ

ทุกคนคิดเห็นที่กำลังเห็นสิคะ
จำได้หมดใช่ไหมตรงหน้ายังไม่พูดเลย
รู้สึกตัวบ้างหรือยังว่าจำผิดเพราะไม่คิดตามคำสอน
:b32:
ทีนี้คิดตามคำสอนนะ
จิตเห็นสี1สีดับในตาดำทันทีไม่มีจิตเห็นเกิดนอกตาค่ะ
ดูสิคะใครจะเห็นสีได้เองมีแต่คิดตามถึงจะรู้ตรงเห็นที่กำลังดูว่าตัวเองเห็นเกินสีนอกตาด้วย/ผิดไหมคะ
:b32: :b32:


ถามอีกที ทุกวันนี้ คุณโรสทำงานเพื่อใคร เพื่อตนเองหรือเพื่อใคร

ตอบสิ ทำงานเพื่อตนเองหรือเพื่อใคร เอ้าตอบ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 289 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13 ... 20  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 85 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร