วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 16:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 289 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 20  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2019, 17:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มี.ค. 2019, 11:03
โพสต์: 98

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
luna เขียน:
..."พ่อปู่ศรีสุทโธนาคราช"ท่านอยู่มานานแสนนานอายุมากกว่าองค์เทพบนสวรรค์ เพราะพญานาคราชท่านสามารถเข้าฌาณให้ตนมีอายุเลื่อนภพเลื่อนภูมิได้ไม่มีประมาณ ...

:b1:

บางที่ฟังเรื่องราวเหล่านี้ เอกอนก็จะมีความเพลียแอบแฝง

เอกอนเคยพบชีปะขาวที่เป็น ร่างอาศัยของ พ่อปู่ศรีสุทโธ
และเอกอนก็เคยพบ ผู้บำเพ็ญภาวนาที่เป็น ร่างอาศัยของ พ่อปู่ศรีสุทโธ
และเอกอนก็เคยไปในหล่าย ๆ แห่ง ก็จะพบ ... ร่างอาศัยของ พ่อปูศรีสุทโธ
เช่นเดียวก้บที่เอกอนก็พบ กลับชาติมาเกิดของบุคคลสำคัญ ในหลายคน
ซึ่งเจอทีไร ... เอกอนมักจะตกไปอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้ได้รู้สึก ลำบากใจ ทุกที

คือ เจอทีไร ร่างอาศัย จะต้องเล่าเรื่องราวที่ไม่ได้อยู่ในกำลังของสมองของเอกอนที่จะระลึกนึกออกได้เลย
แล้วก็จะพยายามโน้มน้าว หน่วงเหนี่ยวเอกอนเอาไว้เพื่อให้เข้าร่วมบำเพ็ญปฏิบัติ
แทบจะให้เป็นมือขวาเพื่อคอยช่วยเหลือสำนัก
ให้เหมือนเป็นบริวารเอก ศิษย์เอก โน่น นี่ นั่น

ซึ่งแต่ละ ร่างอาศัย ก็จะกล่าวถึงว่า ตนนั้นร่างจริง คนอื่น ๆ ไม่จริง :b10:

โดยมากเอกอนก็จะตอบว่า "จ๊ะ" และเมื่อย่องออกมาได้ เอกอนก็เปิดแนบเลย

ไปแต่ละที่ ก็จะได้เครื่องลางของขลังติดไม้ติดมือกลับมา
ซึ่งเอกอนก็จะเอาไปยกให้คนอื่นต่อเลย ไม่กล้าเก็บไว้

คือ เอกอนเคยไปที่หนึ่ง แล้วได้ของกลับมา
แล้วเอกอนมักจะฝันเห็นบางอย่าง ก็เลย เอาไปให้คนอื่น
คือ ok บางทีเอกอนเข้าใจว่า เขาเก่ง(ผู้เป็นร่างอาศัย)
เก่งแต่ออกแนว เกเร มันไม่น่าจะใช่จรรยาบรรของพญานาคต้นตำรับ
ซึ่งพอเอาไปไว้ทีอื่น ไปไว้กับคนอื่น เอกอนก็ไม่ฝันเห็นอีก ... ค่อยโล่งอก

ก็เจอมาจนเอกอนก็พอจะ เพลียจนเข็ด นะ
ช่วงหลัง ๆ มา เอกอนก็เลยจะไม่ค่อยเฉียด ๆ ไปในที่ ๆ มีเรื่องราวทำนองนี้ น่ะ

...

เมื่อท่านมีองค์พญานาคที่คุ้นเคยกันอยู่ด้วย
ท่านช่วยถามให้พญานาคของท่านช่วยบอกเล่าที่เถอะ
ว่า วิถีความเป็นไปของผู้ที่มีองค์พญานาคอยู่ด้วย เป็นอย่างไร
เวลาที่เอกอนไปตามที่ต่าง ๆ แล้วบังเอิญต้องเจอกับ ร่างอาศัยองค์พญานาค
แล้วเอกอนจะรู้ได้อย่างไร ว่าองค์จริง องค์ปลอม น่ะ

คือ ถ้าเป็น องค์จริง ๆ เอกอนจะได้สนทนาธรรมด้วยอย่างวางใจ

ถ้าเกิดเป็น องค์ปลอม เอกกอนจะได้รีบเผ่น...

:b1:


ของแบบนี้จะรู้ได้เฉพาะตน พญานาคที่ดีเมื่อมาหาแล้วกลับไปจะทิ้งแง่คิดคติธรรม
ให้ขบคิดท่านจะเจรจากับเราเพื่อเอา ถ้อยความปัญญาของเราก็จะก้าวกระโดดรู้เรื่องโลกวิญญานอย่างถูกต้องแล้วท่านก็มาได้ทุกรูปแบบ
ไม่ว่าจะเป็นเด็ก
คนหนุ่ม สาว คนแก่
นักบวชท่านให้คำตอบกับเราท่านชอบนั่งภาวนา
ภาพที่เกิดขึ้นเป็นมานพรูปงาม นั่งอยู่ในบัลลังก์สมาธิ

เชื่อผมนะท่านเอกอน
ร่างจริงองค์จริง
จะไม่ติดการกราบการไหว้ไม่บังคับศรัทธาใครถ้ามีการบังคับศรัทธาแล้วไม่ใช่ ให้ท่านดูแนวการกระทำของเจ้าสำนักเป็นเช่นที่กล่าวมา ให้ออกมาซะของจริงจะเกิดสันติสุขภายในใจท่านจะไม่รุ่มร้อน
และวิ่งไปตามความคิดของเจ้าสำนัก
คำสอนก็ต้องสอนให้คนอื่นเข้าใจง่ายด้วย
ไม่ใช่เข้าใจแต่เจ้าสำนักคนเดียวแล้วมาโบ้ปดว่าเป็นธรรมะชั้นสูง ดูราวกับเค้าแสดงธรรมให้เหมือนฝนตกชุ่มเย็นแต่ความจริงแล้วคนประเภทนี้กำลังประกาศธรรมของมารแล้วคนที่มาหลงติดตาม
ก็คือสาวกของมาร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2019, 17:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
กระทู้นี้ท่าน Luna ก็ตั้งกระทู้ไว้ก็เหมือนจะดีแล้ว ท่านอ๊บคุยสนทนากับท่าน Luna ก็ดีๆอยู่นะ แต่พอดูๆไปสักพักอีกหลายๆท่านเข้ามาสนทนากระทู้นี้ จิกกัดกันเป็นหมา เป็นสัตว์เดรัจฉานกัดกัน

ถามว่า ท่านได้อะไรจากสิ่งที่คุยกันมั่ง :b32: :b32: :b32: ได้กิเลสกลับไปแบกถมใจให้กินไม่ได้นอนไม่หลับ หรือได้ความสนองความต้องการกลับ คือได้ทางปฏิบัติกลับ

ผมยังไม่เห็นประโยชน์อื่นใดเกินกว่าการสนองกิเลสตน สนองสันดารเปรต และสันดารสัตว์เดรัจฉานในตน เลยในตอนนี้จากการที่มาจิกกัดกันแบบหมาแบบสัตว์เดรัจฉาน

เห็นแต่คนโง่เอาชนะคนบ้า คนบ้าเอาชนะคนโง่
:b32: :b32: :b32:

หากธรรมใดเป็นของพระพุทธเจ้าแล้ว ล้วนสูงหมดไม่มีต่ำ คนที่เห็นว่ามีต่ำมีสูงนั่นคือใจเขาต่ำก็เห็นต่ำ ใจเขาสูงก็เห็นสูง แค่เห็นใบไม้ร่วง เห็นแสง เห็นสี เห็นดิน เห็นน้ำ ก็บรรลุธรรมได้ นั่นเพราะใจท่านสูงเห็นอะไรก็ควรแก่ธรรมเพื่อหลุดพ้นไปหมด

หากจะกล่าวถึงการภาวนาตามที่ตั้งกระทู้แล้ว ไม่ว่าจะใครในที่นี้ ผมไม่เห็นใครจะควรค่าแก่การสักการะเลย เพราะหลงกันทั้งนั้น หลงมากบ้าง น้อยบ้าง แค่อยากให้คนชื่นชมตนเองเท่านั้น แล้วก็กล่าวอ้างว่าธรรมคนนั้นต่ำ ผิด ของตนสูงโครตไร้สาระ นี่หรือคนปฏิบัติธรรม คนบ้าชัดๆ

เลิกโม้กันแล้วกลับไปทำไปปฏฺบัติให้มากดีกว่า เพราะเห็นชั่ว ก็คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว เป็นหมากัดกันทั้งๆที่เป็นเวบธรรมมะแต่กลับมีแต่สัตว์เดรัจฉานอ้างธรรมพระพุทธเจ้ามาข่มกัดกัน


** เลิกเป็นสัตว์เดรัจฉาน จะเห็นธรรมพระพุทธเจ้าสูงค่าทั้งหมดไม่แบ่งแยก เมื่อนั้นจะเห็นธรรมแท้
แล้วจะเลิกสำคัญมั่นหมายในใจว่า..
- ธรรมนี้คือสมถะ ธรรมนี้คือวิปัสสนา
- ธรรมนี้ต่ำ ธรรมนี้สูง
- ธรรมนี้ไม่พ้น ธรรมนี้พ้น
- แต่จะเห็นธรรมทุกอย่างสูงค่าด้วยกันทั้งสิ้น เพราะคือธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนทั้งหมด
- แล้วใจก็จะมีแต่ความดำรงมั่นในธรรม กรรมฐานกองไหน อย่างไรไม่สำคัญ มีแค่จิตตั้บงไว้ในภายในเป็นกำลังด้วยความมุ่งมั่นว่าจะไปเอาสติปัฏฐาน ๔ โพชฌงค์ ๗ กับ กรรมฐานกองนั้นๆที่ตนเจริญอยู่ให้ได้เท่านั้น ดังนี้..จึงจะสามารถเห็น มหาสติปัฏฐาน ในกรรมฐานทั้ง ๔๐ กอง ที่ตนเจริญอยู่นั้นได้ จิตมีกำลังรวมกันลงเป็นหนึ่งใน ธัมมะวิจยะ เดินเข้าสังขารุเปกขาให้มรรคเจริญยิ่งๆขึ้นได้ **


เลิกทำตัวเป็นสัตว์เดรัจฉานเสีย



คริคริ

นั่นน่ะสิค๊ะ สัตว์เดียรฉาน จึงมักเห็นแต่การจิกกัดกัน ตามอุปนิสัยสันดาน ของสัตว์เดียรฉานนั้นๆ

แต่ๆๆๆ ที่ถูกต้อง ตามพระปริยัติ คือ

ยังมี สัตว์เดียรฉานโพธิสัตว์ ที่พระพุทธองค์ ตรัสว่าเป็นยอดแห่งสัตว์

ยังมี สัตว์เดียรฉาน ผู้เจริญ สี่ อย่างม้าอาชาไนย ที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญ

และ

ผู้มีมรรคผล เป็นแก่นสาร จึงโยนิโสมนสิการแยบคายได้ ว่า

นี่คือการที่มีผู้ชี้ขุมทรัพย์ให้

กั๊กๆๆๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2019, 17:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


luna เขียน:
โลกสวย เขียน:
luna เขียน:
โลกสวย เขียน:
เม จะบอกให้ว่า

การบรรลุสัจจะธรรม ไม่ใช่จิต แต่ เป็น เจตสิก

คุณ Luna กล่าวผิดๆๆๆๆ มาตั้งแต่ต้นแล้ว ค่ะ


โวหารดีค่ะ แต่ ทุกคำที่คุณสาธยายมาออกมา
กลับล้อมจับ พาตัวเองไส่กรงขังเอง

พอดี เม ไม่ใช่สามเณรปริยัติ ที่ท่องจำพระสูตร
มาจากการแปล ที่ผิด โดยไม่เข้าใจความหมาย
และเม ไม่ได้เป็น ผู้ที่ถูกพระสูตรพลิกไปตามหน้าพระสูตรค่ะ



tongue


หากจะว่าเราเราก็เรียนรู้ด้วยตัวเอง
ตามหลักภาวนามัยปัญญา พอทีเถอะนะเรียนมากรู้มากหลงมาก
ปฏิบัติให้มากดีกว่าโลกสวย


คริคริ

คุณ LUNA ยิ่งแสดงโวหารออกมา ก็ ยิ่งแสดงความเขลารัดคอตนเอง
เพราะไปภาวนาผิดๆๆ ไป หาสวรรค์หา พญานาค

เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม และไม่ได้เรียนปริยัติ แถมปฎิบัติไม่เอาไหน
เรยไม่รู้ว่า


ที่ถูก ตามพระอภิธรรม คือ
จิตปฎิบัติ รูป ปฎิบัติ และ เจตสิกปฎิบัติ
ไม่มีตนเอง เข้าไปปฎิบัติ

555


เห็นได้ชัดว่าโลกสวยเป็นได้แค่นักก่อการทะเลาะวิวาท เรียนมามากแต่ไม่เคยเอามาใช้กับตัวเอง
ดีก็ไม่คิด ชั่วก็ไม่คิด ย้อนมองส่องตนใครๆก็พูดได้
ไม่มีตนเองเข้าไปปฏิบัติ แต่จิตโลกสวยถึง ขั้นปรมัตถ์ อย่างที่ แสดงก็เป็นเรื่องน่าโมทนา หากจิตยังไม่ถึงขั้น ปรมัตถ์ พูดไป
ก็จะเป็น การให้ร้ายพระพุทธเจ้าดูหมิ่นพระพุทธเจ้า



กั๊กๆๆๆ

เพราะคุณ LUNA ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปริยัติ แถมปฎิบัติไม่เอาไหน

เรยไม่รู้ว่า ที่ถูกต้อง ตามพระอภิธรรม


จิต เป็นปรมัตถ์

และแสงสว่างแห่งพระธรรม ส่องสว่างไปได้ทั้งสามโลก

ไม่ใช่ไปเห็นผิดๆๆๆๆๆๆ ว่า กองขี้ควาย


เป็นการปรามาสพระรัตนตรัย ถึงขั้น อนันตริยกรรม

555


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2019, 18:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
luna เขียน:
โลกสวย เขียน:
luna เขียน:
โลกสวย เขียน:
เม จะบอกให้ว่า

การบรรลุสัจจะธรรม ไม่ใช่จิต แต่ เป็น เจตสิก

คุณ Luna กล่าวผิดๆๆๆๆ มาตั้งแต่ต้นแล้ว ค่ะ


โวหารดีค่ะ แต่ ทุกคำที่คุณสาธยายมาออกมา
กลับล้อมจับ พาตัวเองไส่กรงขังเอง

พอดี เม ไม่ใช่สามเณรปริยัติ ที่ท่องจำพระสูตร
มาจากการแปล ที่ผิด โดยไม่เข้าใจความหมาย
และเม ไม่ได้เป็น ผู้ที่ถูกพระสูตรพลิกไปตามหน้าพระสูตรค่ะ



tongue


หากจะว่าเราเราก็เรียนรู้ด้วยตัวเอง
ตามหลักภาวนามัยปัญญา พอทีเถอะนะเรียนมากรู้มากหลงมาก
ปฏิบัติให้มากดีกว่าโลกสวย


คริคริ

คุณ LUNA ยิ่งแสดงโวหารออกมา ก็ ยิ่งแสดงความเขลารัดคอตนเอง
เพราะไปภาวนาผิดๆๆ ไป หาสวรรค์หา พญานาค

เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม และไม่ได้เรียนปริยัติ แถมปฎิบัติไม่เอาไหน
เรยไม่รู้ว่า


ที่ถูก ตามพระอภิธรรม คือ
จิตปฎิบัติ รูป ปฎิบัติ และ เจตสิกปฎิบัติ
ไม่มีตนเอง เข้าไปปฎิบัติ

555


เห็นได้ชัดว่าโลกสวยเป็นได้แค่นักก่อการทะเลาะวิวาท เรียนมามากแต่ไม่เคยเอามาใช้กับตัวเอง
ดีก็ไม่คิด ชั่วก็ไม่คิด ย้อนมองส่องตนใครๆก็พูดได้
ไม่มีตนเองเข้าไปปฏิบัติ แต่จิตโลกสวยถึง ขั้นปรมัตถ์ อย่างที่ แสดงก็เป็นเรื่องน่าโมทนา หากจิตยังไม่ถึงขั้น ปรมัตถ์ พูดไป
ก็จะเป็น การให้ร้ายพระพุทธเจ้าดูหมิ่นพระพุทธเจ้า



กั๊กๆๆๆ

เพราะคุณ LUNA ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปริยัติ แถมปฎิบัติไม่เอาไหน

เรยไม่รู้ว่า ที่ถูกต้อง ตามพระอภิธรรม


จิต เป็นปรมัตถ์

และแสงสว่างแห่งพระธรรม ส่องสว่างไปได้ทั้งสามโลก

ไม่ใช่ไปเห็นผิดๆๆๆๆๆๆ ว่า กองขี้ควาย


เป็นการปรามาสพระรัตนตรัย ถึงขั้น อนันตริยกรรม

555



เมคิดถึงพี่ก็ไม่น่าจะไประรานคนอื่นนะที่รัก :b15: :b15: :b15:

คนมีปัญญาเขาจะไม่ทำแบบเมนะที่รัก การทำแบบเมพี่เห็นเป็นสันดารของสัตว์เดรัจฉานน่ะจ่ะ
สันดารอริยะจะพูดด้วยดีมีประโยชน์ นะจ๊ะ แล้วเลิกอัตตาอภิธรรม กับพระไตรนะจ๊ะ :b32: :b32: :b32: มันเป็นเรื่องของเด็กที่อยากให้ผู้ใหญ่ชมว่าเก่งเขาทำกันนะจ๊ะ มาซลไหล่พี่นี่ พี่จะกอดมาๆๆที่รัก โอ๋ๆๆๆ นิ่งเตะ นิ่งเตะ

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2019, 18:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


luna เขียน:
โลกสวย เขียน:
luna เขียน:
โลกสวย เขียน:
"อันที่จริงอยากให้ท่านเข้าใจว่า
เมื่อ อนาคตไม่มีอยู่จริง อดีตไม่มีอยู่จริง ปัจจุบันธรรมไม่มีอยู่จริง
เมื่อนั้นท่านจะหมดความรับผิดชอบในการเฝ้าดูจิตอีกต่อไป หมดงานความเพียรพยายามที่จะละกิเลสอีกต่อไป"

อเหตุกทิฐิ เป็นลัทธิที่มีความเห็นว่า ไม่มีเหตุ ไม่มีปัจจัยสัตว์ทั้งหลายจะได้ดี ได้ชั่ว ได้สุขหรือทุกข์ก็ได้เอง ไม่ใช่เพราะทำดีหรือทำชั่ว อนึ่งสัตว์ทั้งหลายหลังจากท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏแล้วก็บริสุทธิ์ได้เอง ลัทธินี้จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สังสารสุทธิกวาท เจ้าลัทธินี้ คือ มักขลิโคศาล


เพระคุณ สำคัญผิด คิดว่า กิเลส ไม่มีปัจจัยให้เกิด

12 องค์ธรรม ของปฎิจจสมุปาท แสดง เหตุ และปัจจัย ครบถ้วน
ทั้งในพระสูตร และพระอภิธรรม

และความคิดผิด เช่นนั้น ปฐมเหตุ ก็มาจากอวิชชา ของคุณเองค่ะ



เมื่อพากเพียรเพียรพยายามจนสามารถทำอะไร อวิชชา ให้แปลเปลี่ยน เป็นความว่างสว่างเปล่าได้
อย่างนี้แล้ว ท่านยังเรียกว่าอ่านวิชา ความไม่รู้จริงนั้นหมายความว่าท่านสอบตกยังสอบไม่ผ่าน โลกุตระภูมิ ท่านเองไม่รู้แม้นแต่ ต้นกำเนิดของท่านเป็นใครท่านมาจากไหนแล้วท่านตายแล้วท่านจะไปที่ไหน หากท่านยังตอบคำถามที่ค้างคา ภายในใจ ของท่าน ยังไม่ได้ ก็ควรจะทำการรับแล้ว ศึกษาให้มากๆ คันธสาระ คือภูมิที่ยังต้องศึกษาอีกมากกับภูมิที่ไม่ต้องศึกษาอีก เรียกว่า เรียนจบ โลกุตรธรรม จริง
ไม่ได้ เรียนจบแบบหลอกๆ ตามโลกสมมุติว่าเรียนจบ ถ้าโลกสวยแต่ภายนอก โลกภายใน พุทธเกษตรจะไม่ เกิดความบริสุทธิ์ได้เลย


คริคริ

ก็เป็นการแสดงความเห็นผิดของคุณ ที่ขบคิดไป ว่าพุทธเกษตรแห่งสมเด็จพระบรมศาสดานี้ ไม่บริสุทธิ์

และก็ตามโวหารที่คุณแสดงมา ก็ดันไปตรงกับ ท่านมักขลิโคศาจารย์อีกนันแหละ
เมื่อท่องเที่ยวเล่าประสบการณ์ขี้นเขาลงห้วย หาพญานาค แล้ว ว่า

สัตว์ทั้งหลายหลังจากท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏแล้วก็บริสุทธิ์ได้เอง


คุณคงไม่เข้าใจและสับสน
เมื่อจิตของเราบริสุทธิ์ พุทธเกษตรของเราก็พลอยบริสุทธิ์ตามไปด้วย

ประสบการณ์ที่ผมนำมาเล่า ก็เพื่อให้ขวัญและกำลังใจ กับคนที่ปฏิบัติ ที่ยังต้องเกี่ยวข้อง กับรูป กับนามที่ยังข้ามรูปกับนามไปไม่ได้
นิมิตเป็นเรื่องดีสำหรับผู้มีปัญญาวิมุตหลุดพ้นนิมิตจะเป็นเรื่องไร้สาระสำหลับในท่านที่ยังไม่ถึงดวงวิมุตหลุดพ้น


สุดท้ายแล้ว ก็ต้องดับ รูป และดับมาก

ส่วนคนที่ยังดับรูปไม่ได้ ดับนามไม่ได้ ก็ยังเป็นปุถุชน
และลังเลสงสัยอยู่ตลอดเวลา จิตแบบนี่จะเห็นอนัตตาธรรมอะไรได้ท่าน


"เมื่อจิตของเราบริสุทธิ์ พุทธเกษตรของเราก็พลอยบริสุทธิ์ตามไปด้วย"


กั๊กๆๆๆ

นี่คือการแสดงความเขลาเบาปัญญาของคุณ LUNA ยกพระสูตรมา รัดคอตัวเองอีกแล้ว


พระพุทธองค์ ทรงประกาศเช่นนั้น เพื่อให้คนเขลาเบาปัญญา ได้รู้ว่า

จิตพระพุทธองค์ ทรงบริสุทธิ์ และพุทธเกษตรของพระพุทธองค์ ทรงบริสุทธิ์

เพราะคนเขลาเบาปัญญา ไม่อาจทราบว่า จิตพระพุทธองค์ นั้นบริสุทธิ์


555


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2019, 18:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:
luna เขียน:
โลกสวย เขียน:
luna เขียน:
โลกสวย เขียน:
เม จะบอกให้ว่า

การบรรลุสัจจะธรรม ไม่ใช่จิต แต่ เป็น เจตสิก

คุณ Luna กล่าวผิดๆๆๆๆ มาตั้งแต่ต้นแล้ว ค่ะ


โวหารดีค่ะ แต่ ทุกคำที่คุณสาธยายมาออกมา
กลับล้อมจับ พาตัวเองไส่กรงขังเอง

พอดี เม ไม่ใช่สามเณรปริยัติ ที่ท่องจำพระสูตร
มาจากการแปล ที่ผิด โดยไม่เข้าใจความหมาย
และเม ไม่ได้เป็น ผู้ที่ถูกพระสูตรพลิกไปตามหน้าพระสูตรค่ะ



tongue


หากจะว่าเราเราก็เรียนรู้ด้วยตัวเอง
ตามหลักภาวนามัยปัญญา พอทีเถอะนะเรียนมากรู้มากหลงมาก
ปฏิบัติให้มากดีกว่าโลกสวย


คริคริ

คุณ LUNA ยิ่งแสดงโวหารออกมา ก็ ยิ่งแสดงความเขลารัดคอตนเอง
เพราะไปภาวนาผิดๆๆ ไป หาสวรรค์หา พญานาค

เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม และไม่ได้เรียนปริยัติ แถมปฎิบัติไม่เอาไหน
เรยไม่รู้ว่า


ที่ถูก ตามพระอภิธรรม คือ
จิตปฎิบัติ รูป ปฎิบัติ และ เจตสิกปฎิบัติ
ไม่มีตนเอง เข้าไปปฎิบัติ

555


เห็นได้ชัดว่าโลกสวยเป็นได้แค่นักก่อการทะเลาะวิวาท เรียนมามากแต่ไม่เคยเอามาใช้กับตัวเอง
ดีก็ไม่คิด ชั่วก็ไม่คิด ย้อนมองส่องตนใครๆก็พูดได้
ไม่มีตนเองเข้าไปปฏิบัติ แต่จิตโลกสวยถึง ขั้นปรมัตถ์ อย่างที่ แสดงก็เป็นเรื่องน่าโมทนา หากจิตยังไม่ถึงขั้น ปรมัตถ์ พูดไป
ก็จะเป็น การให้ร้ายพระพุทธเจ้าดูหมิ่นพระพุทธเจ้า



กั๊กๆๆๆ

เพราะคุณ LUNA ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปริยัติ แถมปฎิบัติไม่เอาไหน

เรยไม่รู้ว่า ที่ถูกต้อง ตามพระอภิธรรม


จิต เป็นปรมัตถ์

และแสงสว่างแห่งพระธรรม ส่องสว่างไปได้ทั้งสามโลก

ไม่ใช่ไปเห็นผิดๆๆๆๆๆๆ ว่า กองขี้ควาย


เป็นการปรามาสพระรัตนตรัย ถึงขั้น อนันตริยกรรม

555



เมคิดถึงพี่ก็ไม่น่าจะไประรานคนอื่นนะที่รัก :b15: :b15: :b15:

คนมีปัญญาเขาจะไม่ทำแบบเมนะที่รัก การทำแบบเมพี่เห็นเป็นสันดารของสัตว์เดรัจฉานน่ะจ่ะ
สันดารอริยะจะพูดด้วยดีมีประโยชน์ นะจ๊ะ แล้วเลิกอัตตาอภิธรรม กับพระไตรนะจ๊ะ :b32: :b32: :b32: มันเป็นเรื่องของเด็กที่อยากให้ผู้ใหญ่ชมว่าเก่งเขาทำกันนะจ๊ะ มาซลไหล่พี่นี่ พี่จะกอดมาๆๆที่รัก โอ๋ๆๆๆ นิ่งเตะ นิ่งเตะ



กั๊กๆๆ

คนที่ไม่มีปัญญา เรยถือตามกัน เชื่อตามกัน

ไม่ได้ตวรจสอบลงพระสูตร พระธรรมวินัย คือศาสดาแทนพระองค์

คุณก็ ไปด่าผู้ที่รจนา สังคยานา พระไตรปิฎก เองสิค๊ะ ว่า
ทำไม เขียนมา ไม่ตรง กับคนเหล่านั้น

ที่เห็น แสงธรรม เป็นเช่นนั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2019, 18:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:
luna เขียน:
โลกสวย เขียน:
luna เขียน:
โลกสวย เขียน:
เม จะบอกให้ว่า

การบรรลุสัจจะธรรม ไม่ใช่จิต แต่ เป็น เจตสิก

คุณ Luna กล่าวผิดๆๆๆๆ มาตั้งแต่ต้นแล้ว ค่ะ


โวหารดีค่ะ แต่ ทุกคำที่คุณสาธยายมาออกมา
กลับล้อมจับ พาตัวเองไส่กรงขังเอง

พอดี เม ไม่ใช่สามเณรปริยัติ ที่ท่องจำพระสูตร
มาจากการแปล ที่ผิด โดยไม่เข้าใจความหมาย
และเม ไม่ได้เป็น ผู้ที่ถูกพระสูตรพลิกไปตามหน้าพระสูตรค่ะ



tongue


หากจะว่าเราเราก็เรียนรู้ด้วยตัวเอง
ตามหลักภาวนามัยปัญญา พอทีเถอะนะเรียนมากรู้มากหลงมาก
ปฏิบัติให้มากดีกว่าโลกสวย


คริคริ

คุณ LUNA ยิ่งแสดงโวหารออกมา ก็ ยิ่งแสดงความเขลารัดคอตนเอง
เพราะไปภาวนาผิดๆๆ ไป หาสวรรค์หา พญานาค

เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม และไม่ได้เรียนปริยัติ แถมปฎิบัติไม่เอาไหน
เรยไม่รู้ว่า


ที่ถูก ตามพระอภิธรรม คือ
จิตปฎิบัติ รูป ปฎิบัติ และ เจตสิกปฎิบัติ
ไม่มีตนเอง เข้าไปปฎิบัติ

555


เห็นได้ชัดว่าโลกสวยเป็นได้แค่นักก่อการทะเลาะวิวาท เรียนมามากแต่ไม่เคยเอามาใช้กับตัวเอง
ดีก็ไม่คิด ชั่วก็ไม่คิด ย้อนมองส่องตนใครๆก็พูดได้
ไม่มีตนเองเข้าไปปฏิบัติ แต่จิตโลกสวยถึง ขั้นปรมัตถ์ อย่างที่ แสดงก็เป็นเรื่องน่าโมทนา หากจิตยังไม่ถึงขั้น ปรมัตถ์ พูดไป
ก็จะเป็น การให้ร้ายพระพุทธเจ้าดูหมิ่นพระพุทธเจ้า



กั๊กๆๆๆ

เพราะคุณ LUNA ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปริยัติ แถมปฎิบัติไม่เอาไหน

เรยไม่รู้ว่า ที่ถูกต้อง ตามพระอภิธรรม


จิต เป็นปรมัตถ์

และแสงสว่างแห่งพระธรรม ส่องสว่างไปได้ทั้งสามโลก

ไม่ใช่ไปเห็นผิดๆๆๆๆๆๆ ว่า กองขี้ควาย


เป็นการปรามาสพระรัตนตรัย ถึงขั้น อนันตริยกรรม

555



เมคิดถึงพี่ก็ไม่น่าจะไประรานคนอื่นนะที่รัก :b15: :b15: :b15:

คนมีปัญญาเขาจะไม่ทำแบบเมนะที่รัก การทำแบบเมพี่เห็นเป็นสันดารของสัตว์เดรัจฉานน่ะจ่ะ
สันดารอริยะจะพูดด้วยดีมีประโยชน์ นะจ๊ะ แล้วเลิกอัตตาอภิธรรม กับพระไตรนะจ๊ะ :b32: :b32: :b32: มันเป็นเรื่องของเด็กที่อยากให้ผู้ใหญ่ชมว่าเก่งเขาทำกันนะจ๊ะ มาซลไหล่พี่นี่ พี่จะกอดมาๆๆที่รัก โอ๋ๆๆๆ นิ่งเตะ นิ่งเตะ



กั๊กๆๆ

คนที่ไม่มีปัญญา เรยถือตามกัน เชื่อตามกัน

ไม่ได้ตวรจสอบลงพระสูตร พระธรรมวินัย คือศาสดาแทนพระองค์

คุณก็ ไปด่าผู้ที่รจนา สังคยานา พระไตรปิฎก เองสิค๊ะ ว่า
ทำไม เขียนมา ไม่ตรง กับคนเหล่านั้น

ที่เห็น แสงธรรม เป็นเช่นนั้น



จ้าที่รัก ก็จะเห็นมีแต่สันดารสัตว์เดรัขฉานที่มักจะอ้างว่าตนเป็นนกรู้ ยกเอาว่าตนรู้วิชานี้ๆจากคนนี้บ้าง คนนั้นบ้าง เพื่ออวดอ้างให้เขาศรัทธาตน โดยเฉพาะเมื่อสัตว์เดรัจฉารได้รู็ธรรมของพระพุทธเจ้า ก็มักจะโลดแล่นเอาธรรมของพระพุทธเจ้ามายกอ้างพูดไปทั่วทุกทิศที่ตนผ่าน กล่าวไปสาธยายไปโดยที่ตนไม่เคยรู้อะไรเลย แต่ยกเอามาอ้างเพื่อให้คนก็ดี เทวดาก็ดี สัตว์เดรัจฉานด้วยกันก็ดี เคารพศรัทธา บูชาตน :b32: :b32: :b32:

สรุปเพื่อสนองกิเลสตนเพราะอยากให้คนศรัทธา อยากอวด อยากสอน มันแน่นตรึงในสมอง อัดอั้น ใจทนต่อความอยากที่ส่อเสียดอัดปะทุใจตนไม่ได้ เลยต้องอวดอ้าง ยกมาอ้าง เพราะอยู่กับความจริงไม่เป็น ..นั่นก็เพราะธรรมที่จะเอามาอ้างนั้นไม่ทำให้ตนถึงความสงบใจได้ :b32: :b32: :b32:

ธรรมพระพุทธเจ้าสูงเกินกว่าจะเอามาใช้แบบสันดารสัตว์เดรัจฉานที่เมแฟนพี่ทำอยู่นะจ๊ะที่รัก :b32: :b32: :b32:


ไม่รักไม่บอกนะจ๊ะ

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2019, 18:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:
luna เขียน:
โลกสวย เขียน:
luna เขียน:
โลกสวย เขียน:
เม จะบอกให้ว่า

การบรรลุสัจจะธรรม ไม่ใช่จิต แต่ เป็น เจตสิก

คุณ Luna กล่าวผิดๆๆๆๆ มาตั้งแต่ต้นแล้ว ค่ะ


โวหารดีค่ะ แต่ ทุกคำที่คุณสาธยายมาออกมา
กลับล้อมจับ พาตัวเองไส่กรงขังเอง

พอดี เม ไม่ใช่สามเณรปริยัติ ที่ท่องจำพระสูตร
มาจากการแปล ที่ผิด โดยไม่เข้าใจความหมาย
และเม ไม่ได้เป็น ผู้ที่ถูกพระสูตรพลิกไปตามหน้าพระสูตรค่ะ



tongue


หากจะว่าเราเราก็เรียนรู้ด้วยตัวเอง
ตามหลักภาวนามัยปัญญา พอทีเถอะนะเรียนมากรู้มากหลงมาก
ปฏิบัติให้มากดีกว่าโลกสวย


คริคริ

คุณ LUNA ยิ่งแสดงโวหารออกมา ก็ ยิ่งแสดงความเขลารัดคอตนเอง
เพราะไปภาวนาผิดๆๆ ไป หาสวรรค์หา พญานาค

เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม และไม่ได้เรียนปริยัติ แถมปฎิบัติไม่เอาไหน
เรยไม่รู้ว่า


ที่ถูก ตามพระอภิธรรม คือ
จิตปฎิบัติ รูป ปฎิบัติ และ เจตสิกปฎิบัติ
ไม่มีตนเอง เข้าไปปฎิบัติ

555


เห็นได้ชัดว่าโลกสวยเป็นได้แค่นักก่อการทะเลาะวิวาท เรียนมามากแต่ไม่เคยเอามาใช้กับตัวเอง
ดีก็ไม่คิด ชั่วก็ไม่คิด ย้อนมองส่องตนใครๆก็พูดได้
ไม่มีตนเองเข้าไปปฏิบัติ แต่จิตโลกสวยถึง ขั้นปรมัตถ์ อย่างที่ แสดงก็เป็นเรื่องน่าโมทนา หากจิตยังไม่ถึงขั้น ปรมัตถ์ พูดไป
ก็จะเป็น การให้ร้ายพระพุทธเจ้าดูหมิ่นพระพุทธเจ้า



กั๊กๆๆๆ

เพราะคุณ LUNA ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปริยัติ แถมปฎิบัติไม่เอาไหน

เรยไม่รู้ว่า ที่ถูกต้อง ตามพระอภิธรรม


จิต เป็นปรมัตถ์

และแสงสว่างแห่งพระธรรม ส่องสว่างไปได้ทั้งสามโลก

ไม่ใช่ไปเห็นผิดๆๆๆๆๆๆ ว่า กองขี้ควาย


เป็นการปรามาสพระรัตนตรัย ถึงขั้น อนันตริยกรรม

555



เมคิดถึงพี่ก็ไม่น่าจะไประรานคนอื่นนะที่รัก :b15: :b15: :b15:

คนมีปัญญาเขาจะไม่ทำแบบเมนะที่รัก การทำแบบเมพี่เห็นเป็นสันดารของสัตว์เดรัจฉานน่ะจ่ะ
สันดารอริยะจะพูดด้วยดีมีประโยชน์ นะจ๊ะ แล้วเลิกอัตตาอภิธรรม กับพระไตรนะจ๊ะ :b32: :b32: :b32: มันเป็นเรื่องของเด็กที่อยากให้ผู้ใหญ่ชมว่าเก่งเขาทำกันนะจ๊ะ มาซลไหล่พี่นี่ พี่จะกอดมาๆๆที่รัก โอ๋ๆๆๆ นิ่งเตะ นิ่งเตะ



กั๊กๆๆ

คนที่ไม่มีปัญญา เรยถือตามกัน เชื่อตามกัน

ไม่ได้ตวรจสอบลงพระสูตร พระธรรมวินัย คือศาสดาแทนพระองค์

คุณก็ ไปด่าผู้ที่รจนา สังคยานา พระไตรปิฎก เองสิค๊ะ ว่า
ทำไม เขียนมา ไม่ตรง กับคนเหล่านั้น

ที่เห็น แสงธรรม เป็นเช่นนั้น



จ้าที่รัก ก็จะเห็นมีแต่สันดารสัตว์เดรัขฉานที่มักจะอ้างว่าตนเป็นนกรู้ ยกเอาว่าตนรู้วิชานี้ๆจากคนนี้บ้าง คนนั้นบ้าง เพื่ออวดอ้างให้เขาศรัทธาตน โดยเฉพาะเมื่อสัตว์เดรัจฉารได้รู็ธรรมของพระพุทธเจ้า ก็มักจะโลดแล่นเอาธรรมของพระพุทธเจ้ามายกอ้างพูดไปทั่วทุกทิศที่ตนผ่าน กล่าวไปสาธยายไปโดยที่ตนไม่เคยรู้อะไรเลย แต่ยกเอามาอ้างเพื่อให้คนก็ดี เทวดาก็ดี สัตว์เดรัจฉานด้วยกันก็ดี เคารพศรัทธา บูชาตน :b32: :b32: :b32:

สรุปเพื่อสนองกิเลสตนเพราะอยากให้คนศรัทธา อยากอวด อยากสอน มันแน่นตรึงในสมอง อัดอั้น ใจทนต่อความอยากที่ส่อเสียดอัดปะทุใจตนไม่ได้ เลยต้องอวดอ้าง ยกมาอ้าง เพราะอยู่กับความจริงไม่เป็น ..นั่นก็เพราะธรรมที่จะเอามาอ้างนั้นไม่ทำให้ตนถึงความสงบใจได้ :b32: :b32: :b32:

ธรรมพระพุทธเจ้าสูงเกินกว่าจะเอามาใช้แบบสันดารสัตว์เดรัจฉานที่เมแฟนพี่ทำอยู่นะจ๊ะที่รัก :b32: :b32: :b32:


ไม่รักไม่บอกนะจ๊ะ


กั๊กๆๆ

เพราะคุณแค่อากาศ ไมได้เรียนพระปริยัติ เรยไม่รู้ว่า


พระธรรม เมื่อสถิตลงที่ใด ในสามโลก ไม่ว่า ในสัตว์นรก สัตว์เดียรฉาน หรือ เทพ เทวดา พรหม
ก็ไม่ได้ทำให้ พระธรรม เลอะเลือน ไปได้

กั๊กๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2019, 18:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:

กั๊กๆๆ

เพราะคุณแค่อากาศ ไมได้เรียนพระปริยัติ เรยไม่รู้ว่า


พระธรรม เมื่อสถิตลงที่ใด ในสามโลก ไม่ว่า ในสัตว์นรก สัตว์เดียรฉาน หรือ เทพ เทวดา พรหม
ก็ไม่ได้ทำให้ พระธรรม เลอะเลือน ไปได้

กั๊กๆๆ


จ้าที่รัก สงบมากๆนะจ๊ะ เวลาสงบที่รักพูดจาน่ารักมีเหตุผล จนพี่เคลิ้มเลยนะ
เวลาพูดจาหรือทำดีๆ มันเห็นภาพนางฟ้าคนสวยของพี่เลยนะจ๊ะ

ลองดูสิ เวลาขัดแย้ง เราลองใช้คำว่าโดยส่วนตัวเมเห็นว่าอย่างนี้ๆๆๆ....ฯลฯ รูนา น่าจะเข้าใจในส่วนนี้ๆๆๆๆ... ให้รูนา ลองทำความเข้าใจแบบนี้ๆๆๆ... หรือลองค้นพระไตร ค้นอภิธรรม เวบ 84000 ดูก็ได้ แล้วเทียบเคียงดูตามจริง จะรู้แบบไม่ผิดเพี้ยน แล้วยังให้รูนาแน่นในธรรมด้วย

..หากน้องเมแฟนพี่กล่าวแบบนี้ ไม่เพียงไม่ไปเบียดเบียนเขา คือ ทำให้เขาอัดอั้นคับแค้นกายใจ ให้โทสะเกิดมีแก่เขาแล้ว ซ้ำยังทำให้เขาคล้อยตามโดยดีที่จะศึกษาธรรมได้ดีกว่านะจ๊ะที่รัก


..สมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้า และพระอริยะสาวก หรือสมมติสาวก ท่านได้ไปโม้ ไปด่า ไปฉุดลากใครมาทำตามพระพุทธศาสนาหรือ ย่อมไม่มีเลย มีเพียบให้คนทั้งหลายเลื่อมใสด้วยใจจริง เพราะเกิดปัญญาเห็นจริงด้วยพระสัทธรรม ยังศรัทธาให้เกิดขึ้น เมของพี่ พี่รักเมนะจ๊ะ ก่อนหน้าที่เมจะใช้สันดารแบบนี้ เมก็เคยเป็นคนดีมาก่อน พูดจาดี น่ารัก น่าเอ็นดู มีคาระโว นิวาโต ในตอนนั้นเมก็ยังหายใจได้อยู่ยังไม่ตายนี่คะ ตอนนี้แค่เอาสันดารเดิมที่เรียกว่ามนุษย์มาสถิตย์ก็ไม่เสียหลาย มนุษย์เท่านั้นที่จะมีสันดารพระอริยะได้

ด้วยรักและห่วงใย

ชา อึนอู

:b27: :b27: :b27:

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2019, 18:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:

กั๊กๆๆ

เพราะคุณแค่อากาศ ไมได้เรียนพระปริยัติ เรยไม่รู้ว่า


พระธรรม เมื่อสถิตลงที่ใด ในสามโลก ไม่ว่า ในสัตว์นรก สัตว์เดียรฉาน หรือ เทพ เทวดา พรหม
ก็ไม่ได้ทำให้ พระธรรม เลอะเลือน ไปได้

กั๊กๆๆ


จ้าที่รัก สงบมากๆนะจ๊ะ เวลาสงบที่รักพูดจาน่ารักมีเหตุผล จนพี่เคลิ้มเลยนะ
เวลาพูดจหรือทำดีๆ มันเห้นภภาพนางฟ้าคนสวยของพี่เลยนะจ๊ะ

ลองดูสิ เวลาขัดแย้ง เราลองใช้คำว่าโดยส่วนตัวเมเห็นว่าอย่างนี้ๆๆๆ....ฯลฯ รูนา น่าจะเข้าใจในส่วนนี้ๆๆๆๆ... ให้รูนา ลองทำความเข้าใจแบบนี้ๆๆๆ... หรือลองค้นพระไตร ค้นอภิธรรม เวบ 84000 ดูก็ได้ แล้วเทียบเคียงดูตามจริง จะรู้แบบไม่ผิดเพี้ยน แล้วยังให้รูนาแน่นในธรรมด้วย

..หากน้องเมแฟนพี่กล่าวแบบนี้ ไม่เพียงไม่ไปเบียดเบียนเขา คือ ทำให้เขาอัดอั้นคับแค้นกายใจ ให้โทสะเกิดมีแก่เขาแล้ว ซ้ำยังทำให้เขาคล้อยตามโดยดีที่จะศึกษาธรรมได้ดีกว่านะจ๊ะที่รัก


..สมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้า และพระอริยะสาวก หรือสมมติสาวก ท่านได้ไปโม้ ไปด่า ไปฉุดลากใครมาทำตามพระพุทธศาสนาหรือ ย่อมไม่มีเลย มีเพียบให้คนทั้งหลายเลื่อมใสด้วยใจจริง เพราะเกิดปัญญาเห็นจริงด้วยพระสัทธรรม ยังศรัทธาให้เกิดขึ้น เมของพี่ พี่รักเมนะจ๊ะ ก่อนหน้าที่เมจะใช้สันดารแบบนี้ เมก็เคยเป็นคนดีมาก่อน พูดจาดี น่ารัก น่าเอ็นดู มีคาระโว นิวาโต ในตอนนั้นเมก็ยังหายใจได้อยู่ยังไม่ตายนี่คะ ตอนนี้แค่เอาสันดารเดิมที่เรียกว่ามนุษย์มาสถิตย์ก็ไม่เสียหลาย มนุษย์เท่านั้นที่จะมีสันดารพระอริยะได้


กั๊กๆ
เพราะคูณแค่อากาศ ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระปริยัติ
เรยไม่รู้ว่า
ที่ถูกต้อง คือ
การกล่าวเบียดเบียน
ปรัปวาทแก่บุคคลนอกพระศาสนา เป็นกุศล ก็มี

คุณแค่อากาศไม่พอใจ เพราะ พระอภิธรรม และพระไตรปิฎก จารึกไม่ตรง

กะ การปฎิบัติ ของตนเอง และพรรคพวกตนเอง
ทั้งๆที่ ผิดเพี้ยนต่อพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าแสดงไว้ ในพระไตรปิฎก

ก็บอกไว้แล้วว่า ถ้าคุณจะด่า ก็ไปด่าทางโน้น ที่จารึก ไม่ตรงกับการปฎิบัติของตน และพรรคพวกตน


555


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2019, 19:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มี.ค. 2019, 11:03
โพสต์: 98

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนที่ทำอะไรไม่เหมือนที่โลกนิยม
ก็จะมีคนว่าบ้า โดยคนที่พูด
ไม่ได้เข้าใจโดยถ่องแท้
ว่าอย่างไรจึงบ้า อย่างไรจึงดี
ท่านบอกว่า คนเราที่เกิดมานี้
มีหน้าที่สำคัญอย่างยิ่ง ที่พึงกระทำ
คือการทำตน ให้พ้นทุกข์ ถ้าไม่ทำก็เท่ากับว่า ไร้ประโยชน์ในการเกิดมา
เพราะจะต้องเกิด ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่นั่นเอง

[ ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต ]


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2019, 19:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มี.ค. 2019, 11:03
โพสต์: 98

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เพลานี้ท่านเรียนจบปริญญาอะไรกันบ้างแล้วในพระบวรพระพุทธศาสนาก็มี ปริญญา ๓ พระพุทธเจ้าเป็นผู้ประทานไว้ ให้กับโลกคือหมู่สัตว์ที่ยังเวียนเกิดเวียนตายบ้าง ก็ ยัง ลอยคอ อยู่ ใน ทะเล ทุกข์
จนกว่าจะขึ้นถึงฝั่งข้างฝ่ายพระนิพพานได้

ด้วยปริญญา ๓ ขั้น คือ
๑. ญาตปริญญา
คือ ปัญญาที่ประจักษ์ลักษณะของ นามธรรมและรูปธรรม ที่ปรากฏโดยสภาพไม่ใช่ตัวตน
บุคคลสัตว์และสิ่งของ
๒. ตีรณปริญญา
ปัญญาที่พิจารณาลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏโดยเสมอกัน โดยรอบรู้ ไม่เจาะจงฝักใฝ่มุ่งหวังนามธรรมและรูปธรรมใดโดยเฉพาะ เพราะรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏจนทั่วทั้ง ๖ ทวาร ความสมบูรณ์ของปัญญาที่รู้ชัดในความเสมอกันของนามธรรมและรูปธรรมทำให้ประจักษ์การเกิดขึ้นและสลายไปของนามธรรมและรูปธรรม
๓. ปหานปริญญา
คือ เมื่อพิจารณาความดับสลายไปของนามธรรมและรูปธรรม จนประจักษ์แจ้งการดับสลายไปของนามธรรมและรูปธรรม ปัญญารอบรู้ก็เริ่มคลายความยินดียินร้ายในนามธรรมและรูปธรรม เพราะเห็นโทษของนามธรรมและรูปธรรมเป็นทุกข์ไม่มีตัวตนอยู่จริง เป็นปหานปริญญา
ถ้าได้ปริญญาครบ ๓ ขั้น ชื่อว่าได้เรียนจบปริญญาเอกในทางพระพุทธศาสนา หลายท่านจบปริญญาตรี
หลายท่านจบปริญญาโทหลายท่านจบปริญญาเอกทางโลก แต่สอบตกปริญญาทางพระบวรพระพุทธศาสนา มีปัญหาชีวิต มีปัญหาครอบครัว ฆ่ากันตายบ้าง ทำร้ายกันบ้าง ฆ่าตัวเองบ้าง ติดคุกบ้าง สอบตกหมด ยกบ้านยกครอบครัว แสดงว่าไม่มีความรู้ในทางพระพุทธ
กันเลยทั้งที่เข้าวัดเข้าวาฟังเทศน์ ฟังธรรม
แต่ หลายท่านแปล คำสอน พระพุทธเจ้า ไม่ ออกตาม ความจริง
ในทุกข์ เหตุของทุกข์
ความดับทุกข์
นักคิดตีความหมายในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
คลาดเคลื่อนไป
อาทิเช่น
พระพุทธเจ้าตรัส ไม่มีคน ไม่มีสัวต์ ไม่มี สิ่งของ
นักคิด ก็ จะ แปล คำสั่งสอนพระพุทธเจ้าเคลื่อนไป จิตฆ่าไม่ตาย ยัง มี ความ ประภัสสร เป็นดวงสว่าง เป็นขอบ เป็นจุด

ปริญญานั้นเป็นเรื่องของชาวโลก เรียกว่าปริญญาบัตร จบปริญญาตรี ก็เป็นปริญญาชั้นปริญญาตรี สูงขึ้นไปก็เป็นปริญญาโทสูงขึ้นไปอีกก็เป็นปริญญาเอก แต่ไม่ใช่ปริญญาในพระพุทธศาสนา ปริญญาในพระพุทธศาสนาใครก็มีสิทธิ์ได้รับปริญญานี้ ไม่จำเป็นจะต้องไปเข้าห้องเรียนในมหาวิทยาลัย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2019, 19:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


luna เขียน:
คนที่ทำอะไรไม่เหมือนที่โลกนิยม
ก็จะมีคนว่าบ้า โดยคนที่พูด
ไม่ได้เข้าใจโดยถ่องแท้
ว่าอย่างไรจึงบ้า อย่างไรจึงดี
ท่านบอกว่า คนเราที่เกิดมานี้
มีหน้าที่สำคัญอย่างยิ่ง ที่พึงกระทำ
คือการทำตน ให้พ้นทุกข์ ถ้าไม่ทำก็เท่ากับว่า ไร้ประโยชน์ในการเกิดมา
เพราะจะต้องเกิด ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่นั่นเอง

[ ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต ]


:b8: :b8: :b8:

เกิดมาสร้างสมบารมี เกิดมาทำกาย วาจา ใจให้สะอาด
เมื่อสะอาดมากๆก็จะบริสุทธิ์เอง

เปรียบเหมือนเราทานข้าว แม้ไม่หวังความอิ่มจากการทาน
ข้าวด้วยการตักเข้าปากแล้วเคี้ยวกลืนไปเรื่อยๆอย่างนี้แน่นอน
ถึงไม่หวังความอิ่มเราก็ต้องอิ่มแน่นอน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2019, 19:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนา สาธุ กับจิตที่เป็นกุศล และผลของการปฏิบัติของทุก
ท่านด้วยครับ

จิตที่สงบ ย่อมจะพบกับความสุข ตั้งแต่ปัจจุบันทีเดียว

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2019, 11:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มี.ค. 2019, 11:03
โพสต์: 98

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธองค์ตรัสว่า.. "บุคคลแม้ไม่มีทรัพย์สินเงินทองแต่ก็สามารถให้ทานกับผู้อื่นได้ด้วยสิ่งของ 5 ประการ"
1. ใบหน้าเป็นทาน : สามารถให้รอยยิ้มความสดใส
2. วาจาเป็นทาน : พูดให้กำลังใจ ชื่นชมและปลอบประโลมผู้อื่นให้มาก
3. จิตใจเป็นทาน : สามารถเปิดอกเปิดใจกับผู้อื่น ด้วยความนอบน้อมและจริงใจ
4. ดวงตาเป็นทาน : ใช้แววตาแห่งความหวังดีความโอบอ้อมอารีย์ให้กับผู้อื่น
5. สละแรงกายเป็นทาน : สามารถใช้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 289 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 20  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 52 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร