วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 16:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 48 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2019, 20:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปฤษฎี เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

ถามหน่อยสิ
ปัญญาคือเจตสิก
ที่เกิดพร้อมจิต
ดับพร้อมจิต
ทีละ1ขณะ
ดับทันที
มืดๆๆๆ
คิดสิเดี๋ยวนี้ดับนับแสนโกฏิขณะมีมืดมากกว่าสว่างไม่แจ้งหรือคะ
แต่ที่ตาตัวเองเห็นแล้วกระพริบตามืดนิดนึงคิดสิมืดบอดสนิทเลยค่ะ
ตอนปัญญาเกิดคือตอนที่กำลังฟังความจริงแล้วคิดตามคำสอนได้อยู่
ตอนที่ฟังแล้วคิดโน่นนี่นั่นไม่ได้ฟังแล้วลืมคิดตามแล้วขนาดฟังยังไม่ฟังเลย
แล้วที่ไม่ได้กำลังฟังและไม่ไตร่ตรองตามคำสอนเนี่ยแล้วปลีกตัวออกไปนั่งมโนเอง
เป็นการทำอวิชชาตามความคิดตัวเองโดยไม่คิดไตร่ตรองตามคำสอนทีละคำอยู่คือทำไม่รู้เพิ่มไงคะ
สำนักปฏิบัติธรรมจึงเป็นสถานที่ทำลายคำสอนเพราะชวนคนไม่ฟังคำสอนจึงขาดการไตร่ตรองตามคำสอน
https://youtu.be/JRH5qYTofrw


บ้านธัมมะ ไม่เอาไตรสิกขาสักข้อ อธิศีลสิกขาก็ไม่เอา อธิจิตตสิกขาก็ไม่เอา อธิปัญญาสิกขาก็ไม่เอา

เรื่องนี้อยากสนทนาปราศัยกับคุณปฤษฎีบ้าง


ไปฟังมาจากไหนคุณกรัชกาย มั่วไปหมด ระวังจะบาป กล่าวคำใส่ร้ายคนอื่นนะครับ


ก็คุณโรสพูดมานาน สองนานสามนานสี่นานห้านานแล้วนะขอรับ

โรสเห็นแต่คุณกรัชกายคิดเองเขียนเองเออออห่อหมกเอาเองคนเดียว
บอกให้ฟังไม่รู้จักฟังเพราะคนฟังเข้าใจรู้สึกตัวว่ายิ่งฟังยิ่งไม่รู้อะไรเลย
เพราะคำวาจาสัจจะไม่ใช่การอ่านท่องจำบัญญัติคำแต่สัจจะคือเห็นเพียง
สีสะท้อนแสงเข้ามากระทบตาดับทันทีคิดนึกในความมืดตอนรู้สีไม่มีคิดปน
แล้วเดี๋ยวนี้ดับนับไม่ถ้วนแสนโกฏิขณะดวงจิตจะคิดพูดทำอะไรก็มีกิเลสอยู่ค่ะ
จิตเกิดดับทีละ1ทางสลับกันแบบจุดสืบต่อ...........ไม่ได้เห็นตลอดเวลาไม่เก็ตเลยหรือคะ
https://youtu.be/PC_yfbybQqk
:b55: :b55: :b55:


อธิศีลสิกขา (ศีล) อธิจิตตสิกขา (สมาธิ) อธิปัญญาสิกขา (ปัญญา) มีไหมน่า เห็นพูดอยู่เท่านั้น แสนโกฎิขณะ จิตเกิดดับทีละดวง :b32:

การระลึกตามก็คือการคิดตามระลึกตามอยู่ตรงความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ตามปกติเป็นปกติ
ไม่เอาเรื่องอิทธิฤทธิปาฏิหาริย์ใดๆทั้งสิ้นเข้ามาเกี่ยวข้องคิดนึกตามปกติที่ตาเนื้อเห็นหัวใจมีทุกคน
พระพุทธเจ้าแสดงความจริงที่พระองค์ตรัสรู้ละเอียดอย่างยิ่งเพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจความจริงถูกตามได้ทันที
ดับคิดเห็นผิดทันทีที่ฟังแล้วคิดเห็นที่กำลังเห็นถูกตามได้และรู้สึกตัวทันทีว่ามีกิเลสถ้าไม่เคยฟังจะคิดถูกรึ
กิเลสนอนมาในจิตรอไหลออกมาตอนเห็นและเห็นดับเพียง3ขณะกิเลสไหลครบ6ทางถามจริงๆคิดสิตอนนี้
ดับไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะมนุษย์หน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์ตนไหนคิดว่าตัวเก่งกว่าคำสอนที่ว่าท่องจำคำได้มาก
แค่คิดตรง1คำดับไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะถามจริงๆคนที่คิดว่าตนเองบรรลุแล้วฟังคำสอนไม่เข้าใจมันใช่รึ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2019, 20:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปฤษฎี เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

ถามหน่อยสิ
ปัญญาคือเจตสิก
ที่เกิดพร้อมจิต
ดับพร้อมจิต
ทีละ1ขณะ
ดับทันที
มืดๆๆๆ
คิดสิเดี๋ยวนี้ดับนับแสนโกฏิขณะมีมืดมากกว่าสว่างไม่แจ้งหรือคะ
แต่ที่ตาตัวเองเห็นแล้วกระพริบตามืดนิดนึงคิดสิมืดบอดสนิทเลยค่ะ
ตอนปัญญาเกิดคือตอนที่กำลังฟังความจริงแล้วคิดตามคำสอนได้อยู่
ตอนที่ฟังแล้วคิดโน่นนี่นั่นไม่ได้ฟังแล้วลืมคิดตามแล้วขนาดฟังยังไม่ฟังเลย
แล้วที่ไม่ได้กำลังฟังและไม่ไตร่ตรองตามคำสอนเนี่ยแล้วปลีกตัวออกไปนั่งมโนเอง
เป็นการทำอวิชชาตามความคิดตัวเองโดยไม่คิดไตร่ตรองตามคำสอนทีละคำอยู่คือทำไม่รู้เพิ่มไงคะ
สำนักปฏิบัติธรรมจึงเป็นสถานที่ทำลายคำสอนเพราะชวนคนไม่ฟังคำสอนจึงขาดการไตร่ตรองตามคำสอน
https://youtu.be/JRH5qYTofrw


บ้านธัมมะ ไม่เอาไตรสิกขาสักข้อ อธิศีลสิกขาก็ไม่เอา อธิจิตตสิกขาก็ไม่เอา อธิปัญญาสิกขาก็ไม่เอา

เรื่องนี้อยากสนทนาปราศัยกับคุณปฤษฎีบ้าง


ไปฟังมาจากไหนคุณกรัชกาย มั่วไปหมด ระวังจะบาป กล่าวคำใส่ร้ายคนอื่นนะครับ


ก็คุณโรสพูดมานาน สองนานสามนานสี่นานห้านานแล้วนะขอรับ

โรสเห็นแต่คุณกรัชกายคิดเองเขียนเองเออออห่อหมกเอาเองคนเดียว
บอกให้ฟังไม่รู้จักฟังเพราะคนฟังเข้าใจรู้สึกตัวว่ายิ่งฟังยิ่งไม่รู้อะไรเลย
เพราะคำวาจาสัจจะไม่ใช่การอ่านท่องจำบัญญัติคำแต่สัจจะคือเห็นเพียง
สีสะท้อนแสงเข้ามากระทบตาดับทันทีคิดนึกในความมืดตอนรู้สีไม่มีคิดปน
แล้วเดี๋ยวนี้ดับนับไม่ถ้วนแสนโกฏิขณะดวงจิตจะคิดพูดทำอะไรก็มีกิเลสอยู่ค่ะ
จิตเกิดดับทีละ1ทางสลับกันแบบจุดสืบต่อ...........ไม่ได้เห็นตลอดเวลาไม่เก็ตเลยหรือคะ
https://youtu.be/PC_yfbybQqk
:b55: :b55: :b55:


อธิศีลสิกขา (ศีล) อธิจิตตสิกขา (สมาธิ) อธิปัญญาสิกขา (ปัญญา) มีไหมน่า เห็นพูดอยู่เท่านั้น แสนโกฎิขณะ จิตเกิดดับทีละดวง :b32:

การระลึกตามก็คือการคิดตามระลึกตามอยู่ตรงความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ตามปกติเป็นปกติ
ไม่เอาเรื่องอิทธิฤทธิปาฏิหาริย์ใดๆทั้งสิ้นเข้ามาเกี่ยวข้องคิดนึกตามปกติที่ตาเนื้อเห็นหัวใจมีทุกคน
พระพุทธเจ้าแสดงความจริงที่พระองค์ตรัสรู้ละเอียดอย่างยิ่งเพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจความจริงถูกตามได้ทันที
ดับคิดเห็นผิดทันทีที่ฟังแล้วคิดเห็นที่กำลังเห็นถูกตามได้และรู้สึกตัวทันทีว่ามีกิเลสถ้าไม่เคยฟังจะคิดถูกรึ
กิเลสนอนมาในจิตรอไหลออกมาตอนเห็นและเห็นดับเพียง3ขณะกิเลสไหลครบ6ทางถามจริงๆคิดสิตอนนี้
ดับไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะมนุษย์หน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์ตนไหนคิดว่าตัวเก่งกว่าคำสอนที่ว่าท่องจำคำได้มาก
แค่คิดตรง1คำดับไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะถามจริงๆคนที่คิดว่าตนเองบรรลุแล้วฟังคำสอนไม่เข้าใจมันใช่รึ
:b32: :b32: :b32:

ปัญญาแค่ขั้นการฟังยังทำได้ไม่ตรงทีละ1คำตรงทาง
จะไปถึงอธิต่างๆได้ไง...ฝันไปม๊างงงงงงงง
:b13:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2019, 20:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปฤษฎี เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

ถามหน่อยสิ
ปัญญาคือเจตสิก
ที่เกิดพร้อมจิต
ดับพร้อมจิต
ทีละ1ขณะ
ดับทันที
มืดๆๆๆ
คิดสิเดี๋ยวนี้ดับนับแสนโกฏิขณะมีมืดมากกว่าสว่างไม่แจ้งหรือคะ
แต่ที่ตาตัวเองเห็นแล้วกระพริบตามืดนิดนึงคิดสิมืดบอดสนิทเลยค่ะ
ตอนปัญญาเกิดคือตอนที่กำลังฟังความจริงแล้วคิดตามคำสอนได้อยู่
ตอนที่ฟังแล้วคิดโน่นนี่นั่นไม่ได้ฟังแล้วลืมคิดตามแล้วขนาดฟังยังไม่ฟังเลย
แล้วที่ไม่ได้กำลังฟังและไม่ไตร่ตรองตามคำสอนเนี่ยแล้วปลีกตัวออกไปนั่งมโนเอง
เป็นการทำอวิชชาตามความคิดตัวเองโดยไม่คิดไตร่ตรองตามคำสอนทีละคำอยู่คือทำไม่รู้เพิ่มไงคะ
สำนักปฏิบัติธรรมจึงเป็นสถานที่ทำลายคำสอนเพราะชวนคนไม่ฟังคำสอนจึงขาดการไตร่ตรองตามคำสอน
https://youtu.be/JRH5qYTofrw


บ้านธัมมะ ไม่เอาไตรสิกขาสักข้อ อธิศีลสิกขาก็ไม่เอา อธิจิตตสิกขาก็ไม่เอา อธิปัญญาสิกขาก็ไม่เอา

เรื่องนี้อยากสนทนาปราศัยกับคุณปฤษฎีบ้าง


ไปฟังมาจากไหนคุณกรัชกาย มั่วไปหมด ระวังจะบาป กล่าวคำใส่ร้ายคนอื่นนะครับ


ก็คุณโรสพูดมานาน สองนานสามนานสี่นานห้านานแล้วนะขอรับ

โรสเห็นแต่คุณกรัชกายคิดเองเขียนเองเออออห่อหมกเอาเองคนเดียว
บอกให้ฟังไม่รู้จักฟังเพราะคนฟังเข้าใจรู้สึกตัวว่ายิ่งฟังยิ่งไม่รู้อะไรเลย
เพราะคำวาจาสัจจะไม่ใช่การอ่านท่องจำบัญญัติคำแต่สัจจะคือเห็นเพียง
สีสะท้อนแสงเข้ามากระทบตาดับทันทีคิดนึกในความมืดตอนรู้สีไม่มีคิดปน
แล้วเดี๋ยวนี้ดับนับไม่ถ้วนแสนโกฏิขณะดวงจิตจะคิดพูดทำอะไรก็มีกิเลสอยู่ค่ะ
จิตเกิดดับทีละ1ทางสลับกันแบบจุดสืบต่อ...........ไม่ได้เห็นตลอดเวลาไม่เก็ตเลยหรือคะ
https://youtu.be/PC_yfbybQqk
:b55: :b55: :b55:


อธิศีลสิกขา (ศีล) อธิจิตตสิกขา (สมาธิ) อธิปัญญาสิกขา (ปัญญา) มีไหมน่า เห็นพูดอยู่เท่านั้น แสนโกฎิขณะ จิตเกิดดับทีละดวง :b32:

การระลึกตามก็คือการคิดตามระลึกตามอยู่ตรงความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ตามปกติเป็นปกติ
ไม่เอาเรื่องอิทธิฤทธิปาฏิหาริย์ใดๆทั้งสิ้นเข้ามาเกี่ยวข้องคิดนึกตามปกติที่ตาเนื้อเห็นหัวใจมีทุกคน
พระพุทธเจ้าแสดงความจริงที่พระองค์ตรัสรู้ละเอียดอย่างยิ่งเพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจความจริงถูกตามได้ทันที
ดับคิดเห็นผิดทันทีที่ฟังแล้วคิดเห็นที่กำลังเห็นถูกตามได้และรู้สึกตัวทันทีว่ามีกิเลสถ้าไม่เคยฟังจะคิดถูกรึ
กิเลสนอนมาในจิตรอไหลออกมาตอนเห็นและเห็นดับเพียง3ขณะกิเลสไหลครบ6ทางถามจริงๆคิดสิตอนนี้
ดับไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะมนุษย์หน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์ตนไหนคิดว่าตัวเก่งกว่าคำสอนที่ว่าท่องจำคำได้มาก
แค่คิดตรง1คำดับไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะถามจริงๆคนที่คิดว่าตนเองบรรลุแล้วฟังคำสอนไม่เข้าใจมันใช่รึ
:b32: :b32: :b32:

ปัญญาแค่ขั้นการฟังยังทำได้ไม่ตรงทีละ1คำตรงทาง
จะไปถึงอธิต่างๆได้ไง...ฝันไปม๊างงงงงงงง
:b13:
:b32: :b32:


เห็นพูดทีละคำมาแต่ดลแล้ว จนป่านนี้ กรัชกายก็ยังคิดไม่ออกว่าฟังทีละคำนี่มันยังไง เหมือนกินทีละคำไหม
รู้แต่ว่า สำนักแม่สุจินเนี่ยเป็นธัมมปฏิรูปปฏิสังขรณ์ :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2019, 22:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปฤษฎี เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

ถามหน่อยสิ
ปัญญาคือเจตสิก
ที่เกิดพร้อมจิต
ดับพร้อมจิต
ทีละ1ขณะ
ดับทันที
มืดๆๆๆ
คิดสิเดี๋ยวนี้ดับนับแสนโกฏิขณะมีมืดมากกว่าสว่างไม่แจ้งหรือคะ
แต่ที่ตาตัวเองเห็นแล้วกระพริบตามืดนิดนึงคิดสิมืดบอดสนิทเลยค่ะ
ตอนปัญญาเกิดคือตอนที่กำลังฟังความจริงแล้วคิดตามคำสอนได้อยู่
ตอนที่ฟังแล้วคิดโน่นนี่นั่นไม่ได้ฟังแล้วลืมคิดตามแล้วขนาดฟังยังไม่ฟังเลย
แล้วที่ไม่ได้กำลังฟังและไม่ไตร่ตรองตามคำสอนเนี่ยแล้วปลีกตัวออกไปนั่งมโนเอง
เป็นการทำอวิชชาตามความคิดตัวเองโดยไม่คิดไตร่ตรองตามคำสอนทีละคำอยู่คือทำไม่รู้เพิ่มไงคะ
สำนักปฏิบัติธรรมจึงเป็นสถานที่ทำลายคำสอนเพราะชวนคนไม่ฟังคำสอนจึงขาดการไตร่ตรองตามคำสอน
https://youtu.be/JRH5qYTofrw


บ้านธัมมะ ไม่เอาไตรสิกขาสักข้อ อธิศีลสิกขาก็ไม่เอา อธิจิตตสิกขาก็ไม่เอา อธิปัญญาสิกขาก็ไม่เอา

เรื่องนี้อยากสนทนาปราศัยกับคุณปฤษฎีบ้าง


ไปฟังมาจากไหนคุณกรัชกาย มั่วไปหมด ระวังจะบาป กล่าวคำใส่ร้ายคนอื่นนะครับ


ก็คุณโรสพูดมานาน สองนานสามนานสี่นานห้านานแล้วนะขอรับ

โรสเห็นแต่คุณกรัชกายคิดเองเขียนเองเออออห่อหมกเอาเองคนเดียว
บอกให้ฟังไม่รู้จักฟังเพราะคนฟังเข้าใจรู้สึกตัวว่ายิ่งฟังยิ่งไม่รู้อะไรเลย
เพราะคำวาจาสัจจะไม่ใช่การอ่านท่องจำบัญญัติคำแต่สัจจะคือเห็นเพียง
สีสะท้อนแสงเข้ามากระทบตาดับทันทีคิดนึกในความมืดตอนรู้สีไม่มีคิดปน
แล้วเดี๋ยวนี้ดับนับไม่ถ้วนแสนโกฏิขณะดวงจิตจะคิดพูดทำอะไรก็มีกิเลสอยู่ค่ะ
จิตเกิดดับทีละ1ทางสลับกันแบบจุดสืบต่อ...........ไม่ได้เห็นตลอดเวลาไม่เก็ตเลยหรือคะ
https://youtu.be/PC_yfbybQqk
:b55: :b55: :b55:


อธิศีลสิกขา (ศีล) อธิจิตตสิกขา (สมาธิ) อธิปัญญาสิกขา (ปัญญา) มีไหมน่า เห็นพูดอยู่เท่านั้น แสนโกฎิขณะ จิตเกิดดับทีละดวง :b32:

การระลึกตามก็คือการคิดตามระลึกตามอยู่ตรงความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ตามปกติเป็นปกติ
ไม่เอาเรื่องอิทธิฤทธิปาฏิหาริย์ใดๆทั้งสิ้นเข้ามาเกี่ยวข้องคิดนึกตามปกติที่ตาเนื้อเห็นหัวใจมีทุกคน
พระพุทธเจ้าแสดงความจริงที่พระองค์ตรัสรู้ละเอียดอย่างยิ่งเพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจความจริงถูกตามได้ทันที
ดับคิดเห็นผิดทันทีที่ฟังแล้วคิดเห็นที่กำลังเห็นถูกตามได้และรู้สึกตัวทันทีว่ามีกิเลสถ้าไม่เคยฟังจะคิดถูกรึ
กิเลสนอนมาในจิตรอไหลออกมาตอนเห็นและเห็นดับเพียง3ขณะกิเลสไหลครบ6ทางถามจริงๆคิดสิตอนนี้
ดับไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะมนุษย์หน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์ตนไหนคิดว่าตัวเก่งกว่าคำสอนที่ว่าท่องจำคำได้มาก
แค่คิดตรง1คำดับไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะถามจริงๆคนที่คิดว่าตนเองบรรลุแล้วฟังคำสอนไม่เข้าใจมันใช่รึ
:b32: :b32: :b32:

ปัญญาแค่ขั้นการฟังยังทำได้ไม่ตรงทีละ1คำตรงทาง
จะไปถึงอธิต่างๆได้ไง...ฝันไปม๊างงงงงงงง
:b13:
:b32: :b32:


เห็นพูดทีละคำมาแต่ดลแล้ว จนป่านนี้ กรัชกายก็ยังคิดไม่ออกว่าฟังทีละคำนี่มันยังไง เหมือนกินทีละคำไหม
รู้แต่ว่า สำนักแม่สุจินเนี่ยเป็นธัมมปฏิรูปปฏิสังขรณ์ :b13:

ตาหูจมูกลิ้นกายใจมีครบแล้วไม่ได้ทำอะไรถูกไหม
และสภาพธรรมแต่ละทางต่างก็ทำงานตรงทางเป็นปกติ
เพราะเกิดดับตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วเป็นปกติธรรมดา
สิ่งที่ทำงานภายในสืบต่อทีละ1ขณะจิตมากถึงแสนโกฏิดวงจิตคือสิ่งที่ไม่มีใครรู้เองได้
เพราะต้องอาศัยฟังคำของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจถูกตามทีละทางตรงแต่ละทางเพราะเกิดไม่ตรงกันเลย
มันปรากฏว่ามีทีละ1ทางสลับกันเร็วจนนับไม่ได้ถึงแสนล้านขณะเลยจึงปรากฏเป็นตัวตนยึดขันธ์ทั้ง5เป็นคน
:b12:
:b11: :b11:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2019, 18:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:


ตาหูจมูกลิ้นกายใจมีครบแล้วไม่ได้ทำอะไรถูกไหม

และสภาพธรรมแต่ละทางต่างก็ทำงานตรงทางเป็นปกติ

เพราะเกิดดับตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วเป็นปกติธรรมดา

สิ่งที่ทำงานภายในสืบต่อทีละ1ขณะจิตมากถึงแสนโกฏิดวงจิตคือสิ่งที่ไม่มีใครรู้เองได้
เพราะต้องอาศัยฟังคำของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจถูกตามทีละทางตรงแต่ละทางเพราะเกิดไม่ตรงกันเลย
มันปรากฏว่ามีทีละ1ทางสลับกันเร็วจนนับไม่ได้ถึงแสนล้านขณะเลยจึงปรากฏเป็นตัวตนยึดขันธ์ทั้ง5เป็นคน


ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีครบแล้ว ไม่ได้ทำอะไรถูกไหม

และสภาพธรรม แต่ละทาง ต่างก็ทำงานตรงทางเป็นปกติ เพราะเกิดดับตามเหตุตามปัจจัย เกิดแล้วดับแล้วเป็นปกติธรรมดา


นี่คือวิธีคิดของคนแต่ละคน

ถ้าจะถามคุณโรสว่า แล้วคนที่ลักขโมย ปล้นจี้เข่นฆ่ากันและกัน เป็นต้น เขาเหล่านั้นไม่มีตาหูคอจมูกเป็นต้นหรือ :b10: คุณโรสจะตอบว่าอย่างไร

เอาตัวอย่างหนึ่งให้ดู

อ้างคำพูด:
ชายอายุ 27 ปี เสพยาบ้า พร้อมกับกินเหล้า จนเกิดอาการหลอน คิดว่าพ่อจะมาทำร้าย คว้าน้ำมันราดก่อนจุดไฟเผา บาดเจ็บสาหัส ตำรวจตามจับตัวได้ที่บ้านพักเกิดเหตุ


ชายคนนี้มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ครบไหม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2019, 11:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


ตาหูจมูกลิ้นกายใจมีครบแล้วไม่ได้ทำอะไรถูกไหม

และสภาพธรรมแต่ละทางต่างก็ทำงานตรงทางเป็นปกติ

เพราะเกิดดับตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วเป็นปกติธรรมดา

สิ่งที่ทำงานภายในสืบต่อทีละ1ขณะจิตมากถึงแสนโกฏิดวงจิตคือสิ่งที่ไม่มีใครรู้เองได้
เพราะต้องอาศัยฟังคำของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจถูกตามทีละทางตรงแต่ละทางเพราะเกิดไม่ตรงกันเลย
มันปรากฏว่ามีทีละ1ทางสลับกันเร็วจนนับไม่ได้ถึงแสนล้านขณะเลยจึงปรากฏเป็นตัวตนยึดขันธ์ทั้ง5เป็นคน


ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีครบแล้ว ไม่ได้ทำอะไรถูกไหม

และสภาพธรรม แต่ละทาง ต่างก็ทำงานตรงทางเป็นปกติ เพราะเกิดดับตามเหตุตามปัจจัย เกิดแล้วดับแล้วเป็นปกติธรรมดา


นี่คือวิธีคิดของคนแต่ละคน

ถ้าจะถามคุณโรสว่า แล้วคนที่ลักขโมย ปล้นจี้เข่นฆ่ากันและกัน เป็นต้น เขาเหล่านั้นไม่มีตาหูคอจมูกเป็นต้นหรือ :b10: คุณโรสจะตอบว่าอย่างไร

เอาตัวอย่างหนึ่งให้ดู

อ้างคำพูด:
ชายอายุ 27 ปี เสพยาบ้า พร้อมกับกินเหล้า จนเกิดอาการหลอน คิดว่าพ่อจะมาทำร้าย คว้าน้ำมันราดก่อนจุดไฟเผา บาดเจ็บสาหัส ตำรวจตามจับตัวได้ที่บ้านพักเกิดเหตุ


ชายคนนี้มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ครบไหม

คิดแต่เรื่องนอกตัวไกลหัวใจตัวเอง
เออคนยังไม่ตายคิดตามคำสอนเนี่ย
ต้องรู้สึกที่กายใจตาหูจมูกลิ้นกายใจตัวเอง
ส่งออกไปเพ่งแต่กิเลสคนอื่นเอามาปรุงให้กิเลสตัวเองแรงขึ้น
ปรุงแต่งกิเลสตัวเองเยอะกว่าเดิมสะสมลงในจิตตัวเองแล้วทำอะไรได้ไหมคะ
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2019, 13:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


ตาหูจมูกลิ้นกายใจมีครบแล้วไม่ได้ทำอะไรถูกไหม

และสภาพธรรมแต่ละทางต่างก็ทำงานตรงทางเป็นปกติ

เพราะเกิดดับตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วเป็นปกติธรรมดา

สิ่งที่ทำงานภายในสืบต่อทีละ1ขณะจิตมากถึงแสนโกฏิดวงจิตคือสิ่งที่ไม่มีใครรู้เองได้
เพราะต้องอาศัยฟังคำของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจถูกตามทีละทางตรงแต่ละทางเพราะเกิดไม่ตรงกันเลย
มันปรากฏว่ามีทีละ1ทางสลับกันเร็วจนนับไม่ได้ถึงแสนล้านขณะเลยจึงปรากฏเป็นตัวตนยึดขันธ์ทั้ง5เป็นคน


ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีครบแล้ว ไม่ได้ทำอะไรถูกไหม

และสภาพธรรม แต่ละทาง ต่างก็ทำงานตรงทางเป็นปกติ เพราะเกิดดับตามเหตุตามปัจจัย เกิดแล้วดับแล้วเป็นปกติธรรมดา


นี่คือวิธีคิดของคนแต่ละคน

ถ้าจะถามคุณโรสว่า แล้วคนที่ลักขโมย ปล้นจี้เข่นฆ่ากันและกัน เป็นต้น เขาเหล่านั้นไม่มีตาหูคอจมูกเป็นต้นหรือ :b10: คุณโรสจะตอบว่าอย่างไร

เอาตัวอย่างหนึ่งให้ดู

อ้างคำพูด:
ชายอายุ 27 ปี เสพยาบ้า พร้อมกับกินเหล้า จนเกิดอาการหลอน คิดว่าพ่อจะมาทำร้าย คว้าน้ำมันราดก่อนจุดไฟเผา บาดเจ็บสาหัส ตำรวจตามจับตัวได้ที่บ้านพักเกิดเหตุ


ชายคนนี้มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ครบไหม

คิดแต่เรื่องนอกตัวไกลหัวใจตัวเอง
เออคนยังไม่ตายคิดตามคำสอนเนี่ย
ต้องรู้สึกที่กายใจตาหูจมูกลิ้นกายใจตัวเอง
ส่งออกไปเพ่งแต่กิเลสคนอื่นเอามาปรุงให้กิเลสตัวเองแรงขึ้น
ปรุงแต่งกิเลสตัวเองเยอะกว่าเดิมสะสมลงในจิตตัวเองแล้วทำอะไรได้ไหมคะ


หากจะมองพุทธธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า ต้องมองออกไปให้ถึงสังคม ถึงมนุษย์ทุกผู้ทุกคน จึงจะครบทั้งศีล สมาธิ ปัญญา หากมองแคบๆ ก็จะเห็นพุทธธรรมครึ่งๆกลางๆขาดๆเกินๆ

แล้วก็นะ มนุษย์ มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เหมือนกันหมด มีกิเลสเหมือนกันหมด

หรือ คุณโรส มีแต่หู ไม่มีตา ไม่มีลิ้น คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2019, 04:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


ตาหูจมูกลิ้นกายใจมีครบแล้วไม่ได้ทำอะไรถูกไหม

และสภาพธรรมแต่ละทางต่างก็ทำงานตรงทางเป็นปกติ

เพราะเกิดดับตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วเป็นปกติธรรมดา

สิ่งที่ทำงานภายในสืบต่อทีละ1ขณะจิตมากถึงแสนโกฏิดวงจิตคือสิ่งที่ไม่มีใครรู้เองได้
เพราะต้องอาศัยฟังคำของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจถูกตามทีละทางตรงแต่ละทางเพราะเกิดไม่ตรงกันเลย
มันปรากฏว่ามีทีละ1ทางสลับกันเร็วจนนับไม่ได้ถึงแสนล้านขณะเลยจึงปรากฏเป็นตัวตนยึดขันธ์ทั้ง5เป็นคน


ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีครบแล้ว ไม่ได้ทำอะไรถูกไหม

และสภาพธรรม แต่ละทาง ต่างก็ทำงานตรงทางเป็นปกติ เพราะเกิดดับตามเหตุตามปัจจัย เกิดแล้วดับแล้วเป็นปกติธรรมดา


นี่คือวิธีคิดของคนแต่ละคน

ถ้าจะถามคุณโรสว่า แล้วคนที่ลักขโมย ปล้นจี้เข่นฆ่ากันและกัน เป็นต้น เขาเหล่านั้นไม่มีตาหูคอจมูกเป็นต้นหรือ :b10: คุณโรสจะตอบว่าอย่างไร

เอาตัวอย่างหนึ่งให้ดู

อ้างคำพูด:
ชายอายุ 27 ปี เสพยาบ้า พร้อมกับกินเหล้า จนเกิดอาการหลอน คิดว่าพ่อจะมาทำร้าย คว้าน้ำมันราดก่อนจุดไฟเผา บาดเจ็บสาหัส ตำรวจตามจับตัวได้ที่บ้านพักเกิดเหตุ


ชายคนนี้มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ครบไหม

คิดแต่เรื่องนอกตัวไกลหัวใจตัวเอง
เออคนยังไม่ตายคิดตามคำสอนเนี่ย
ต้องรู้สึกที่กายใจตาหูจมูกลิ้นกายใจตัวเอง
ส่งออกไปเพ่งแต่กิเลสคนอื่นเอามาปรุงให้กิเลสตัวเองแรงขึ้น
ปรุงแต่งกิเลสตัวเองเยอะกว่าเดิมสะสมลงในจิตตัวเองแล้วทำอะไรได้ไหมคะ


หากจะมองพุทธธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า ต้องมองออกไปให้ถึงสังคม ถึงมนุษย์ทุกผู้ทุกคน จึงจะครบทั้งศีล สมาธิ ปัญญา หากมองแคบๆ ก็จะเห็นพุทธธรรมครึ่งๆกลางๆขาดๆเกินๆ

แล้วก็นะ มนุษย์ มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เหมือนกันหมด มีกิเลสเหมือนกันหมด

หรือ คุณโรส มีแต่หู ไม่มีตา ไม่มีลิ้น คิกๆๆ

:b32:
เออ...มีกิเลสเหมือนกันหมด...ที่ไม่มีคือไม่รู้ความจริงตรงสัจจะแบบพระพุทธเจ้า
เออ...พระพุทธเจ้าคนเดียวที่เห็นสีและแสดงธรรมละเอียดว่าเกิดดับนับไม่ถ้วน
ตรงขณะแล้วตรงขณะของพระพุทธเจ้าใครคิดเอาได้ก็มันดับถึงแสนโกฏิขณะ
หนึ่งขณะจิตมีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่นับได้ไม่มีใครรู้ความจริงในทศพลญาณ
นอกจากคนๆนั้นจะเป็นพระพุทธเจ้าเองถึงจะบัญญัติคำสอนเพื่อให้คนอื่นสิกขา
ทุกคนที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้าล้วนสิกขาตามการฟังเสียงไม่ใช่อ่านเอามันไม่รู้สำเนียง
เออรู้สึกตัวไหมว่าเวลาอ่านเนื้อเพลงโดยที่ยังไม่เคยฟังจะรู้เหรอว่าสำเนียงเป็นยังไง
ต้องได้ฟังต้นฉบับที่เขาร้องจึงจะร้องตามได้ตรงสำเนียงเอออยู่ๆมีเนื้อเพลงก็จะอ่านเอาก็ได้อย่างงั้นหรือคะ
คิดสิทุกคนจะร้องเพลงสักเพลงนึงได้ไม่ใช่ไปดูแต่ตัวอักษรแล้วก็เดาสำเนียงเออต้องฟังคนอื่นร้องให้ฟังก่อน
มีตำราก็เหมือนมีโพยเนื้อเพลงอ่านเอาไม่ฟังแต่จะร้องเป็นเพลงได้รึจนกว่าจะฟังก่อนแล้วร้องตามตามทีละคำ
คุณถึงจะร้องตามได้ตรงทั้งเนื้อร้องและทำนองเออแล้วจะรู้ไหมว่าตัวเองอ่านแต่เนื้อร้องท่องจำได้หมดทุกคำ
แต่ไม่มีปัญญาจะร้องเพลงให้คนอื่นฟังเพราะจะขึ้นเวทีไปอ่านโพยตูอ่านถูกดนตรีต้องเล่นตามตูให้ถูกคีย์รึ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2019, 04:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
จะร้องเพลงของพระพุทธเจ้า
มีโพยคือเนื้อหาคำสอนแล้ว
จะเอาแต่อ่านโดยไม่ฟัง
แล้วจะไปร้องให้ใครฟังถูก
มันต้องฟังจากคนอื่นถ่ายทอดทั้งคำที่จะร้องและท่วงทำนองที่ร้อง
ใครฟังไม่เข้าใจแล้วจะไปถ่ายทอดให้คนอื่นร้องตามได้ยังไงจะเอาแต่ท่องเนื้อร้องเหรอคะ
คิดสิคะมีเนื้อร้องเป็นล้านๆเนื้อร้องอ่านท่องจำเนื้อเพลงแต่ร้องไม่เป็นเพลงคนเขาจะฟังไหมเขาอ่านเองได้
เหมือนตัวเองไหมตูอ่านเองได้โดยไม่ฟังจากสาวกว่าเขาร้องกันยังไงแล้วจะเอาแต่ก๊อปมาแปะให้ร้องเอง555
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2019, 19:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
พักคือไม่คิดเหตุผลตามคำสอน
เพียรคือเพียรฟังเพื่อละไม่รู้ที่กำลังมี
ไม่พักคือการเพียรฟังคำสอนเพื่อไตร่ตรองตามได้
https://youtu.be/P1O-BUpAKns
onion onion onion

ข้างบนนั่นบอกวิธีทำสุตมยปัญญาตามปกติใช้หูฟังเพิ่มปัญญาเจตสิกโดยลืมตาตื่นรู้ตามปกติ
โดยพึ่งคิดตามคำสัจจะตรงที่กายใจมีตรงตามที่กำลังฟังคือฝึกกรรมฐานทำสมาธิลืมตาเห็นเพื่อรู้แจ้ง
:b4: :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 11:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
พักคือไม่คิดเหตุผลตามคำสอน
เพียรคือเพียรฟังเพื่อละไม่รู้ที่กำลังมี
ไม่พักคือการเพียรฟังคำสอนเพื่อไตร่ตรองตามได้
https://youtu.be/P1O-BUpAKns
onion onion onion

ข้างบนนั่นบอกวิธีทำสุตมยปัญญาตามปกติใช้หูฟังเพิ่มปัญญาเจตสิกโดยลืมตาตื่นรู้ตามปกติ
โดยพึ่งคิดตามคำสัจจะตรงที่กายใจมีตรงตามที่กำลังฟังคือฝึกกรรมฐานทำสมาธิลืมตาเห็นเพื่อรู้แจ้ง
:b4: :b4: :b4:


มโนเอาทั้งนั้น คิกๆๆ แบบนี้แหละ ได้เป็นพะออระหันประจำสำนัก แต่ละสำนักๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 11:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:

พักคือไม่คิดเหตุผลตามคำสอน
เพียรคือเพียรฟังเพื่อละไม่รู้ที่กำลังมี
ไม่พักคือการเพียรฟังคำสอนเพื่อไตร่ตรองตามได้
https://youtu.be/P1O-BUpAKns

ข้างบนนั่นบอกวิธีทำสุตมยปัญญาตามปกติใช้หูฟังเพิ่มปัญญาเจตสิกโดยลืมตาตื่นรู้ตามปกติ
โดยพึ่งคิดตามคำสัจจะตรงที่กายใจมีตรงตามที่กำลังฟังคือฝึกกรรมฐานทำสมาธิลืมตาเห็นเพื่อรู้แจ้ง



คุณโรสมีความเห็นยังไงนี่

ทำสมาธิแล้วได้ยินเสียงสวดมนต์

เมื่อถึงเวลาที่ต้องนั่งสมาธิ เกิดปวดขาอย่างมาก แต่ก็ไม่ยอมแพ้ ทนนั่งจนหมดเวลา (ซึ่งเป็นครั้งแรกค่ะเนื่องจากไม่เคยทนได้เลย) ระหว่างที่ปวดมากๆ ก็นึกถึงพระพุทธเจ้าตลอดเวลา และสู้เนื่องจากเคยได้ยินว่า "ไม่เคยมีใครตายจากการนั่งสมาธิ" รวมทั้งประโยคที่ว่า "นิพพานอยู่ฝั่งตาย" (จำไม่ได้ว่าเป็นของหลวงพ่อท่านไหนค่ะ) และคิดว่าตายเป็นตายแต่จะไม่ลืมตาเปลี่ยนอิริยาบถก่อนหมดเวลาแน่นอน (ใจก็นึกถึงแต่พระพุทธเจ้าตลอดเวลาค่ะ)

เมื่อนาฬิกาดังหมดเวลา เราก็ลืมตาเปลี่ยนอิริยาบถ เพื่อคลายอาการปวดขา แต่เรารู้สึกว่า...ทันทีที่เราลืมตา เราก็ได้ยินเสียงสวดมนต์ดังอยู่ในหู ทั้งๆที่เวลานั้นไม่ได้มีพระสวดมนต์อยู่ใกล้ๆค่ะ

ก่อนหน้านี้....เมื่อครั่งที่เราไปปฏิบัติธรรมครั้งแรก และเมื่อกลับมาถึงบ้าน เราก็สวดแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลที่บ้าน เราก็ได้ยินเสียงสวดมนต์ดังอยู่ในหูอีกเหมือนกัน ทั้งๆที่ใกล้ๆบ้านก็ไม่มีวัดและไม่มีใครเปิดวิทยุค่ะ (ตอนแรกนึกว่ามีพระสวดทำวัตรเย็นอยู่ใกล้ๆ แต่บ้านก็ไม่ได้อยู่ใกล้วัด )

แล้วก็เคยมีอีกครั้งนึง เราคุยกับแม่ แนะนำแม่เรื่องการไปปฎิบัติธรรม และชวนแม่ให้ไปปฏิบัติธรรมด้วยกัน ก็ได้ยินเสียงสวดมนต์ดังแว่วในหูอีก

เสียงสวดมนต์ที่ได้ยิน 2 ครั้งแรก จะได้ยินเพียงช่วงเวลาสั้นๆไม่ถึงชม.ค่ะ แต่ครั้งล่าสุดได้ยิน(หลังจากนั่งสมาธิ)ดังนานหลายชม.ตั่งแต่ประมาณเกือบ 4 โมงเย็น จนถึงเวลานอนตอน 4 ทุ่มเลยค่ะ

เสียงสวดมนต์ดังกล่าว เป็นเสียงเหมือนพระสวดมนต์ ฟังจับใจความได้เป็นบางคำ แต่ไม่รู้ว่าเป็นบทสวดอะไร

บางครั้งก็จะได้ยินเป็นเสียงดนตรีไทยบรรเลงอยู่ ระหว่างสวดมนต์และตอนเดินจงกรม ทั้งที่วัดและที่บ้าน ถามเพื่อนที่ไปด้วยกันว่าได้ยินไหม เค้าบอกว่าไม่เห็นได้ยินอะไรเลย เราก็เลยไม่กล้าถามเค้าต่อ กลัวเขาว่าเราสติไม่ดี

เลยอยากถามผู้มีความรู้หรือผู้ที่เคยมีประสบการณ์ว่าเคยมีใครได้ยินเป็นลักษณะนี้บ้างหรือไม่ แล้วเป็นเสียงของใครเหรอคะ หรือว่าเราคิดมากไปเอง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 20:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
บอกให้ฟังคำสอนคิดตามคำสอน
ไม่ใช่ไปคิดค้นทำอะไรขึ้นมาใหม่
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่มีแล้ว
ที่ไม่มีใครคิดเองได้ตรงความจริงไงคะ
มันดับเป็นกิเลสไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะ
บอกเท่าไหร่ก็ไม่เคยไปฟังจะได้มีปัญญาเกิดบ้าง
เมื่อไหร่จะเริ่มฟังเพื่อให้คิดถูกตามสังขารขันธ์จะได้ปรุงแต่งจิตถูกตามคำสอนได้
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 20:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
บอกให้ฟังคำสอนคิดตามคำสอน
ไม่ใช่ไปคิดค้นทำอะไรขึ้นมาใหม่
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่มีแล้ว
ที่ไม่มีใครคิดเองได้ตรงความจริงไงคะ
มันดับเป็นกิเลสไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะ
บอกเท่าไหร่ก็ไม่เคยไปฟังจะได้มีปัญญาเกิดบ้าง
เมื่อไหร่จะเริ่มฟังเพื่อให้คิดถูกตามสังขารขันธ์จะได้ปรุงแต่งจิตถูกตามคำสอนได้
:b12:
:b32: :b32:


ไม่มีอะไรใหม่เลย ของเก่าทั้งเพ คนเก่าหรือใหม่ สมัยพุทธกาลมีคนใหม่ ตอบ

1. ไม่มีคน

2.มีคน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2019, 21:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
บอกให้ฟังคำสอนคิดตามคำสอน
ไม่ใช่ไปคิดค้นทำอะไรขึ้นมาใหม่
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่มีแล้ว
ที่ไม่มีใครคิดเองได้ตรงความจริงไงคะ
มันดับเป็นกิเลสไปแล้วถึงแสนโกฏิขณะ
บอกเท่าไหร่ก็ไม่เคยไปฟังจะได้มีปัญญาเกิดบ้าง
เมื่อไหร่จะเริ่มฟังเพื่อให้คิดถูกตามสังขารขันธ์จะได้ปรุงแต่งจิตถูกตามคำสอนได้
:b12:
:b32: :b32:


ไม่มีอะไรใหม่เลย ของเก่าทั้งเพ คนเก่าหรือใหม่ สมัยพุทธกาลมีคนใหม่ ตอบ

1. ไม่มีคน

2.มีคน

คำสอนของพระพุทธเจ้าคิดตามได้เท่านั้นทำไม่ได้บอกไม่ฟังนะ
แค่ฟังเพื่อคิดให้ตรงทางตามได้ยังไม่เคยทำได้เลยยังจะไปทำอะไรได้อีก
แล้วปัญญาจะเกิดได้ยังไงบอกไม่เคยฟังก็ฟังให้มันเคยชินก็เกิดอยู่คือมีกิเลส
ฟังจะได้เข้าใจถูกตรงตามได้เดี๋ยวนี้1ขณะมีครบจิต+เจตสิก+รูปที่ไม่มีคือนิพพาน
มีแล้วไม่ได้ทำเพราะเกิดแล้วตามเหตุตามปัจจัยตรงทางตรงขณะนับแสนล้านดวงจิต
:b12:
:b32: :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 48 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 34 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร