วันเวลาปัจจุบัน 23 เม.ย. 2024, 21:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 79 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 18:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เมื่อภาวนาว่า พุท ว่าโธ แล้วๆเล่าๆไป พุทโธไป ปัญหาอยู่ดังตัวอย่างนี้ ไม่ใช่อยู่ที่ "พุทโธ" :b13: ดู



นั่งสมาธิแล้วมีอาการหมุนเหวี่ยงจะอ้วก

ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพัก ประมาณสิบนาที เริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัว จึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมา นั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้ อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ

ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรม พิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจ ว่า มันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจ ว่า ทุกอย่างมีเกิดดับของมันเป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร
หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ
หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน


ผมแนะนำอย่างนี้ว่า สังวรอินทรีย์ก่อน อ่านหรือฟังพระธรรมคำสอนพิจารณาใคร่ครวญให้เกิด
ความเห็นความเข้าใจที่ถูกต้องว่าปฏิบัติเพื่ออะไร โทษของกาม คุณของสมาธิ เมื่อใคร่ครวญ
พิจารณา ทำไว้ในใจดีแล้วก็ปรารภศรัทธา ปรารภความเพียรละบาปอกุศล เจริญกุศล มีสติ
หิริโอตัปปะ รักษาศีลอันเป็นไปเพื่อสมาธิ

อาการแบบนี้ แม้ไม่บริกรรม รู้ลมหายใจ มันก็เหวี่ยง ผมผ่านมาด้วยตัวเองคือสมาธินี้มันเป็นอารมณ์ละเอียด
จิตมันยังหยาบ ใจไม่ยินดีในสมาธิ แส่สายอยากคิดอยากปรุง อยากในอารมณ์ภายนอกนั่งเพ่งมัน ๆ ก็เหวี่ยง



คุณทำแบบไหนมาขอรับ


อานาปานสติ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ ศีลานุสติ จาคะนุสติ เทวดานุสติ มรณนุสติ อุปสมานุสติ กายคตานุสติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 18:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เมื่อภาวนาว่า พุท ว่าโธ แล้วๆเล่าๆไป พุทโธไป ปัญหาอยู่ดังตัวอย่างนี้ ไม่ใช่อยู่ที่ "พุทโธ" :b13: ดู



นั่งสมาธิแล้วมีอาการหมุนเหวี่ยงจะอ้วก

ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพัก ประมาณสิบนาที เริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัว จึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมา นั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้ อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ

ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรม พิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจ ว่า มันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจ ว่า ทุกอย่างมีเกิดดับของมันเป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร
หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ
หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน


ผมแนะนำอย่างนี้ว่า สังวรอินทรีย์ก่อน อ่านหรือฟังพระธรรมคำสอนพิจารณาใคร่ครวญให้เกิด
ความเห็นความเข้าใจที่ถูกต้องว่าปฏิบัติเพื่ออะไร โทษของกาม คุณของสมาธิ เมื่อใคร่ครวญ
พิจารณา ทำไว้ในใจดีแล้วก็ปรารภศรัทธา ปรารภความเพียรละบาปอกุศล เจริญกุศล มีสติ
หิริโอตัปปะ รักษาศีลอันเป็นไปเพื่อสมาธิ

อาการแบบนี้ แม้ไม่บริกรรม รู้ลมหายใจ มันก็เหวี่ยง ผมผ่านมาด้วยตัวเองคือสมาธินี้มันเป็นอารมณ์ละเอียด
จิตมันยังหยาบ ใจไม่ยินดีในสมาธิ แส่สายอยากคิดอยากปรุง อยากในอารมณ์ภายนอกนั่งเพ่งมัน ๆ ก็เหวี่ยง



คุณทำแบบไหนมาขอรับ


อานาปานสติ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ ศีลานุสติ จาคะนุสติ เทวดานุสติ มรณนุสติ อุปสมานุสติ กายคตานุสติ



พ่ะน่ะ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 19:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เมื่อภาวนาว่า พุท ว่าโธ แล้วๆเล่าๆไป พุทโธไป ปัญหาอยู่ดังตัวอย่างนี้ ไม่ใช่อยู่ที่ "พุทโธ" :b13: ดู



นั่งสมาธิแล้วมีอาการหมุนเหวี่ยงจะอ้วก

ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพัก ประมาณสิบนาที เริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัว จึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมา นั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้ อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ

ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรม พิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจ ว่า มันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจ ว่า ทุกอย่างมีเกิดดับของมันเป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร
หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ
หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน


ผมแนะนำอย่างนี้ว่า สังวรอินทรีย์ก่อน อ่านหรือฟังพระธรรมคำสอนพิจารณาใคร่ครวญให้เกิด
ความเห็นความเข้าใจที่ถูกต้องว่าปฏิบัติเพื่ออะไร โทษของกาม คุณของสมาธิ เมื่อใคร่ครวญ
พิจารณา ทำไว้ในใจดีแล้วก็ปรารภศรัทธา ปรารภความเพียรละบาปอกุศล เจริญกุศล มีสติ
หิริโอตัปปะ รักษาศีลอันเป็นไปเพื่อสมาธิ

อาการแบบนี้ แม้ไม่บริกรรม รู้ลมหายใจ มันก็เหวี่ยง ผมผ่านมาด้วยตัวเองคือสมาธินี้มันเป็นอารมณ์ละเอียด
จิตมันยังหยาบ ใจไม่ยินดีในสมาธิ แส่สายอยากคิดอยากปรุง อยากในอารมณ์ภายนอกนั่งเพ่งมัน ๆ ก็เหวี่ยง



คุณทำแบบไหนมาขอรับ


อานาปานสติ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ ศีลานุสติ จาคะนุสติ เทวดานุสติ มรณนุสติ อุปสมานุสติ กายคตานุสติ



คำตอบของคุณ ทำให้นึกถึง สมช.พลังจิตคนหนึ่ง ซึ่งเคยถกเถียงกันเรื่องกสิณ เขาก็ว่า เขาทำมาหมดทุกกอง (กสิณ ๑๐)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 19:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เมื่อภาวนาว่า พุท ว่าโธ แล้วๆเล่าๆไป พุทโธไป ปัญหาอยู่ดังตัวอย่างนี้ ไม่ใช่อยู่ที่ "พุทโธ" :b13: ดู



นั่งสมาธิแล้วมีอาการหมุนเหวี่ยงจะอ้วก

ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพัก ประมาณสิบนาที เริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัว จึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมา นั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้ อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ

ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรม พิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจ ว่า มันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจ ว่า ทุกอย่างมีเกิดดับของมันเป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร
หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ
หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน


ผมแนะนำอย่างนี้ว่า สังวรอินทรีย์ก่อน อ่านหรือฟังพระธรรมคำสอนพิจารณาใคร่ครวญให้เกิด
ความเห็นความเข้าใจที่ถูกต้องว่าปฏิบัติเพื่ออะไร โทษของกาม คุณของสมาธิ เมื่อใคร่ครวญ
พิจารณา ทำไว้ในใจดีแล้วก็ปรารภศรัทธา ปรารภความเพียรละบาปอกุศล เจริญกุศล มีสติ
หิริโอตัปปะ รักษาศีลอันเป็นไปเพื่อสมาธิ

อาการแบบนี้ แม้ไม่บริกรรม รู้ลมหายใจ มันก็เหวี่ยง ผมผ่านมาด้วยตัวเองคือสมาธินี้มันเป็นอารมณ์ละเอียด
จิตมันยังหยาบ ใจไม่ยินดีในสมาธิ แส่สายอยากคิดอยากปรุง อยากในอารมณ์ภายนอกนั่งเพ่งมัน ๆ ก็เหวี่ยง



คุณทำแบบไหนมาขอรับ


อานาปานสติ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ ศีลานุสติ จาคะนุสติ เทวดานุสติ มรณนุสติ อุปสมานุสติ กายคตานุสติ



คำตอบของคุณ ทำให้นึกถึง สมช.พลังจิตคนหนึ่ง ซึ่งเคยถกเถียงกันเรื่องกสิณ เขาก็ว่า เขาทำมาหมดทุกกอง (กสิณ ๑๐)


ผมไม่ได้กล่าวถึงกสิน ผมเคยศึกษาเรื่องกศินบ้าง แต่วางไปแล้วส่วน อนุสติ ๑๐ ผมทำทุกกองทำเป็นอาจิน ทำเป็นนิสัย ทำเป็นปกติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 19:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เมื่อภาวนาว่า พุท ว่าโธ แล้วๆเล่าๆไป พุทโธไป ปัญหาอยู่ดังตัวอย่างนี้ ไม่ใช่อยู่ที่ "พุทโธ" :b13: ดู



นั่งสมาธิแล้วมีอาการหมุนเหวี่ยงจะอ้วก

ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพัก ประมาณสิบนาที เริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัว จึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมา นั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้ อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ

ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรม พิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจ ว่า มันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจ ว่า ทุกอย่างมีเกิดดับของมันเป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร
หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ
หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน


ผมแนะนำอย่างนี้ว่า สังวรอินทรีย์ก่อน อ่านหรือฟังพระธรรมคำสอนพิจารณาใคร่ครวญให้เกิด
ความเห็นความเข้าใจที่ถูกต้องว่าปฏิบัติเพื่ออะไร โทษของกาม คุณของสมาธิ เมื่อใคร่ครวญ
พิจารณา ทำไว้ในใจดีแล้วก็ปรารภศรัทธา ปรารภความเพียรละบาปอกุศล เจริญกุศล มีสติ
หิริโอตัปปะ รักษาศีลอันเป็นไปเพื่อสมาธิ

อาการแบบนี้ แม้ไม่บริกรรม รู้ลมหายใจ มันก็เหวี่ยง ผมผ่านมาด้วยตัวเองคือสมาธินี้มันเป็นอารมณ์ละเอียด
จิตมันยังหยาบ ใจไม่ยินดีในสมาธิ แส่สายอยากคิดอยากปรุง อยากในอารมณ์ภายนอกนั่งเพ่งมัน ๆ ก็เหวี่ยง



คุณทำแบบไหนมาขอรับ


อานาปานสติ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ ศีลานุสติ จาคะนุสติ เทวดานุสติ มรณนุสติ อุปสมานุสติ กายคตานุสติ



คำตอบของคุณ ทำให้นึกถึง สมช.พลังจิตคนหนึ่ง ซึ่งเคยถกเถียงกันเรื่องกสิณ เขาก็ว่า เขาทำมาหมดทุกกอง (กสิณ ๑๐)


ผมไม่ได้กล่าวถึงกสิน ผมเคยศึกษาเรื่องกศินบ้าง แต่วางไปแล้วส่วน อนุสติ ๑๐ ผมทำทุกกองทำเป็นอาจิน ทำเป็นนิสัย ทำเป็นปกติ


คุณว่า คุณเคยทำอนุสสติ ๑๐ อย่าง ทำมาหมดแล้ว

เขาเปรียบเทียบให้ฟัง ไม่ได้ว่าคุณทำกสิณ ๑๐

อานาปานสติ นี่อยู่ในหมวด อนุสสติ ๑๐ ไหม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 19:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
อานาปานสติ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ ศีลานุสติ จาคะนุสติ เทวดานุสติ มรณนุสติ อุปสมานุสติ กายคตานุสติ


อารมณ์เหล่านี้เป็นบัญญัติทั้งหมดครับ
เป็นอารมณ์ของสมถะกรรมฐาน เป็นการตั้งมั่นในคำบริกรรม
ให้อยู่ในอารมณ์เดียว อารมณ์ที่บริกรรมนั่นแหละครับ
เมื่ออารมณ์ตั้งมั่นดีแล้วองค์ฌาน ๕ ก็เกิดขึ้น เพื่อนิวรณ์ ๕ ที่เป็น
เครื่องขวางกั้นกับองค์ฌาน เมื่อกำจัดนิวรณ์ธรรมได้แล้วปฐมฌานก็เกิดขึ้น

ขอบอกไว้ก่อนนะครับว่าอารมณ์เหล่านี้ไม่ใช่อารมณ์ของวิปัสสนา สนใจก็มาคุยในโอกาสต่อไปครับ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 19:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
อ้างคำพูด:
อานาปานสติ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ ศีลานุสติ จาคะนุสติ เทวดานุสติ มรณนุสติ อุปสมานุสติ กายคตานุสติ


อารมณ์เหล่านี้เป็นบัญญัติทั้งหมดครับ
เป็นอารมณ์ของสมถะกรรมฐาน เป็นการตั้งมั่นในคำบริกรรม
ให้อยู่ในอารมณ์เดียว อารมณ์ที่บริกรรมนั่นแหละครับ
เมื่ออารมณ์ตั้งมั่นดีแล้วองค์ฌาน ๕ ก็เกิดขึ้น เพื่อนิวรณ์ ๕ ที่เป็น
เครื่องขวางกั้นกับองค์ฌาน เมื่อกำจัดนิวรณ์ธรรมได้แล้วปฐมฌานก็เกิดขึ้น

ขอบอกไว้ก่อนนะครับว่าอารมณ์เหล่านี้ไม่ใช่อารมณ์ของวิปัสสนา สนใจก็มาคุยในโอกาสต่อไปครับ


คุณเลิฟ สนทนาเรื่องนี้ กับ ลุงหมานสิคับ ถาม/ตอบกันตามอัธยาศัย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 19:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
อ้างคำพูด:
อานาปานสติ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ ศีลานุสติ จาคะนุสติ เทวดานุสติ มรณนุสติ อุปสมานุสติ กายคตานุสติ


อารมณ์เหล่านี้เป็นบัญญัติทั้งหมดครับ
เป็นอารมณ์ของสมถะกรรมฐาน เป็นการตั้งมั่นในคำบริกรรม
ให้อยู่ในอารมณ์เดียว อารมณ์ที่บริกรรมนั่นแหละครับ
เมื่ออารมณ์ตั้งมั่นดีแล้วองค์ฌาน ๕ ก็เกิดขึ้น เพื่อนิวรณ์ ๕ ที่เป็น
เครื่องขวางกั้นกับองค์ฌาน เมื่อกำจัดนิวรณ์ธรรมได้แล้วปฐมฌานก็เกิดขึ้น

ขอบอกไว้ก่อนนะครับว่าอารมณ์เหล่านี้ไม่ใช่อารมณ์ของวิปัสสนา สนใจก็มาคุยในโอกาสต่อไปครับ


คุณเลิฟ สนทนาเรื่องนี้ กับ ลุงหมานสิคับ ถาม/ตอบกันตามอัธยาศัย


เดี๋ยวลุงหมาน
ยกพระอภิธรรมไปให้ เค้าก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอก
เพราะเป็นอธิปัญญาสิกขาน่ะค่ะ

smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 19:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เมื่อภาวนาว่า พุท ว่าโธ แล้วๆเล่าๆไป พุทโธไป ปัญหาอยู่ดังตัวอย่างนี้ ไม่ใช่อยู่ที่ "พุทโธ" :b13: ดู



นั่งสมาธิแล้วมีอาการหมุนเหวี่ยงจะอ้วก

ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพัก ประมาณสิบนาที เริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัว จึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมา นั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้ อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ

ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรม พิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจ ว่า มันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจ ว่า ทุกอย่างมีเกิดดับของมันเป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร
หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ
หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน


ผมแนะนำอย่างนี้ว่า สังวรอินทรีย์ก่อน อ่านหรือฟังพระธรรมคำสอนพิจารณาใคร่ครวญให้เกิด
ความเห็นความเข้าใจที่ถูกต้องว่าปฏิบัติเพื่ออะไร โทษของกาม คุณของสมาธิ เมื่อใคร่ครวญ
พิจารณา ทำไว้ในใจดีแล้วก็ปรารภศรัทธา ปรารภความเพียรละบาปอกุศล เจริญกุศล มีสติ
หิริโอตัปปะ รักษาศีลอันเป็นไปเพื่อสมาธิ

อาการแบบนี้ แม้ไม่บริกรรม รู้ลมหายใจ มันก็เหวี่ยง ผมผ่านมาด้วยตัวเองคือสมาธินี้มันเป็นอารมณ์ละเอียด
จิตมันยังหยาบ ใจไม่ยินดีในสมาธิ แส่สายอยากคิดอยากปรุง อยากในอารมณ์ภายนอกนั่งเพ่งมัน ๆ ก็เหวี่ยง



คุณทำแบบไหนมาขอรับ


อานาปานสติ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ ศีลานุสติ จาคะนุสติ เทวดานุสติ มรณนุสติ อุปสมานุสติ กายคตานุสติ



คำตอบของคุณ ทำให้นึกถึง สมช.พลังจิตคนหนึ่ง ซึ่งเคยถกเถียงกันเรื่องกสิณ เขาก็ว่า เขาทำมาหมดทุกกอง (กสิณ ๑๐)


ผมไม่ได้กล่าวถึงกสิน ผมเคยศึกษาเรื่องกศินบ้าง แต่วางไปแล้วส่วน อนุสติ ๑๐ ผมทำทุกกองทำเป็นอาจิน ทำเป็นนิสัย ทำเป็นปกติ


คุณว่า คุณเคยทำอนุสสติ ๑๐ อย่าง ทำมาหมดแล้ว

เขาเปรียบเทียบให้ฟัง ไม่ได้ว่าคุณทำกสิณ ๑๐

อานาปานสติ นี่อยู่ในหมวด อนุสสติ ๑๐ ไหม


อานาปานสติสูตร ตามที่พระพุทธเจ้าสอน มีลมหายใจเป็นเข้าออกเป็นเครื่องระลึกของสติเพื่ออาศัยแลดู กาย เวทนา จิต ธรรม

อย่างเดียวกันกับ อนุสสติ ๑๐ ไหมไม่ทราบเหมือนกันเพราะกล่าวไว้ต่างกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 19:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


มีใครเห็น...คุณเลิฟบอกว่าอนุสติ..เป็นวิปัสสนา..มั้ย?

:b32: :b32: :b32:

ผมไม่เห็น.. :b9:


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 06 มี.ค. 2019, 19:54, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 19:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
บอกแล้ว ตั้งแต่วันแรก

ว่าครูบาอาจารย์ ที่สอนพุทโธ ท่านย้ำนักย้ำหนาๆๆๆๆ

ว่า

ให้ตีใจความของพุทโธ ให้ออก


พระวินัย พระสูตรพระคาถาต่างๆ พระอภิธรรม พระปริยัติ ในพระไตรปิฎก
ในพระไตรปิฎก

คือ พระศาสดา คือพระพุทธองค์

พระพุทธองค์ จึง ไม่แต่งตั้งให้ พระอรหันต์พระองค์ไหน พระสาวกนิกายต่างๆ องค์ไหน
เป็นศาสดา แทนพระองค์

พระสงฆ์ เกิดตามสัทธรรม อันพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดง
จึงต้องปฎิบัติ ตาม พระธรรม ที่ทรงแสดงไว้ เท่านั้น

และทรงแสดงไว้ว่า หากพุทธบริษัทใด ได้ศึกษา และปฎิบัติ ตรงตามอรรถะ และพยัญชนะ
ที่พระพุทธองค์ ได้ทรงตรัสไว้ดีแล้ว

พุทธบริษัทนั้น ย่อมเข้าถึง ปริยัติ ปฎิบัติปฎิเวธ ที่ถุุกต้อง
ตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์

..........................

โลกสวย : ครูบาอาจารย์ย้ำนักย้ำหนาให้ตีใจความของ พุทโธ ให้ดี
Love j : ครูบาอาจารย์ท่านไหนครับ ?

Love j : ผมได้อธิบายไปแล้วว่า พุทโธ นั้นเป็นคำสมมุติขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องกำกับจิตเครื่องระลึกของสติ
โดยความหมายนั้นขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติว่าจะทำไว้ในใจอย่างไร ใช้พุทโธเป็นเครื่องระลึกของอะไรซึ่งโดยมากแล้วก็เป็นเครื่องระลึกของพระพุทธเจ้า

เมื่ออยู่กับคำบริกรรมพุทโธ ระลึกพุทโธก็นึกคิดถึงพระพุทธเจ้า นึกถึงปัญญาธิคุณ กรุณาธิคุณ บริสุทธิคุณ เพื่อชำระล้างจิตใจให้สะอาดเว้นจากบาปอกุศลกรรม เว้นความคิด คำพูด การกระทำที่เป็นบาปอกุศลหรือ ทุจริต ๓ / มีสติสัมปชัญญะ สำรวม กาย วาจา ใจ สำรวมอินทรีย์ มีสุจริต ๓ อันเป็นอาหารของสติปัฏฐาน ๔ กระทำให้มากอย่างนี้แล้วก็ถือเป็นการปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า


ยังไม่มีใครกล่าวว่าตนเป็นพระอรหันต์ ยังไม่มีใครจากนิกายไหนจะตั้งตนเป็นศาสดา พระธรรมคำสอนทั้งหลายของพระพุทธเจ้านั้นแทนองค์ศาสดา ความเห็น คำพูดของผม มากจากการศึกษาคำสอนของพระศาสดา อ้างอิงพระศาสดา

แต่ความเห็น คำพูดของคุณ โลกสวยหลายข้อ บิดเบือนคำของพระศาสดาแต่อ้างพระศาสดา อิงพระศาสดา เมื่อถูกถามก็ชี้แจงไม่ได้อธิบายไม่ได้ ตอบโต้ด้วยการใส่ร้ายด้วยคำที่ไม่เป็นความจริง ตอบโต้ด้วยการดูหมิ่นปรามาส อย่างนี้แล้วยังประกาศตนเองว่าตนเองปฏบัติตรงตามคำสอนของพระศาสดาอยู่หรือ


คริคริ

นี่เหรอค๊ะ เรียกมาได้ไงว่า

ผุ้ปฎิบัติบริกรรม แนวพุทโธ เริมต้น ก็ไปซะแระ
เพราะไม่รู้ว่าพุทโธ คืออะไร ตีความหมายพุทโธ ไม่อออก

ดันมาบอกว่า ก็แค่ คำสมมุติขึ้นมา แบบ ที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเอาเสียเรย ความเข้าถึงใจม่ายมีเร๊ยย

ผู้ปฎิบัติ แท้ๆ น๊ะค๊ะ

ในขณะที่ทำการจะ ระลึก ถึงพุทโธ น๊ะค๊ะ

ปิติ นั้น เกิดขึ้นก่อน แล้ว ปัสสิทธฺิ จึงเป็นผล มีโสมนัสตามมา

แล้วจึง บริกรรมภาวนา พุทโธๆๆๆๆ

อาการทั้งหลาย ที่เกิดก่อน และในระหว่างจะบริกรรมพุทโธๆๆ
จะล่วงรู้ได้ ชัดเจน

นี่ยังไม่รู้เรย ว่า อะไรเกิดก่อนที่จะเริ่มบริกรรม และระหว่างที่จะบริกรรม พุทโธๆ

ยังไม่มีสติ ระลึกได้เรย เพราะตีใจความคำว่า พุทโธ ไม่ออก
พุทโธ ยังไม่มากำกับสติ สติหายไปเกิดดับไปหลายแถวๆๆๆๆๆ
เพราะไม่เห็น ปิติ ปัสสิทธิ อันเกิดจากปิติ และโสมนัส จากการรู้จักจัก พุทโธ ไงค๊ะ

แล้วคุยนักหนาว่า เป็นนักปฎิบัติ

แต่ เม ว่า เป็นได้ นักมโน น๊ะค๊ะ ๆ

tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 19:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
มีใครเห็น...คุณเลิฟบอกว่าอนุสติ..เป็นวิปัสสนา..มั้ย?

:b32: :b32: :b32:

ผมไม่เห็น.. :b9:


เดี่ยวไปแอบลบก็ไม่เห็น ค่ะ
คริคริ

tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 19:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
อ้างคำพูด:
อานาปานสติ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ ศีลานุสติ จาคะนุสติ เทวดานุสติ มรณนุสติ อุปสมานุสติ กายคตานุสติ


อารมณ์เหล่านี้เป็นบัญญัติทั้งหมดครับ
เป็นอารมณ์ของสมถะกรรมฐาน เป็นการตั้งมั่นในคำบริกรรม
ให้อยู่ในอารมณ์เดียว อารมณ์ที่บริกรรมนั่นแหละครับ
เมื่ออารมณ์ตั้งมั่นดีแล้วองค์ฌาน ๕ ก็เกิดขึ้น เพื่อนิวรณ์ ๕ ที่เป็น
เครื่องขวางกั้นกับองค์ฌาน เมื่อกำจัดนิวรณ์ธรรมได้แล้วปฐมฌานก็เกิดขึ้น

ขอบอกไว้ก่อนนะครับว่าอารมณ์เหล่านี้ไม่ใช่อารมณ์ของวิปัสสนา สนใจก็มาคุยในโอกาสต่อไปครับ


คุณเลิฟ สนทนาเรื่องนี้ กับ ลุงหมานสิคับ ถาม/ตอบกันตามอัธยาศัย


เดี๋ยวลุงหมาน
ยกพระอภิธรรมไปให้ เค้าก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอก
เพราะเป็นอธิปัญญาสิกขาน่ะค่ะ

smiley


ผมไม่ได้เข้าใจว่าอารมณ์เหล่านี้เป็นอารมณ์ วิปัสสนา
อนุสติ 10 นี้เพื่อความตั้งมั่นของสติ อยู่กับสิ่งที่ทำ
ให้เกิดความยินดี เพื่อให้จิตตั้งมั่นแล้วอาศัยจิตที่ตั่งมั่น
นั้นมีสตินั้นพิจารณาเห็น กาย เวทนา จิต ธรรม พิจารณา
ละบาปอกุศลกรรม เจริญกุศลกรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 20:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:

ผมไม่ได้เข้าใจว่าอารมณ์เหล่านี้เป็นอารมณ์ วิปัสสนา
อนุสติ 10 นี้เพื่อความตั้งมั่นของสติ อยู่กับสิ่งที่ทำ
ให้เกิดความยินดี เพื่อให้จิตตั้งมั่นแล้วอาศัยจิตที่ตั่งมั่น

นั้นมีสตินั้นพิจารณาเห็น กาย เวทนา จิต ธรรม พิจารณา
ละบาปอกุศลกรรม เจริญกุศลกรรม


ผมเห็นด้วย...ครับ..

แล..ก็ไม่คิดว่าใครจะมาแย้ง...นะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 20:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
บอกแล้ว ตั้งแต่วันแรก

ว่าครูบาอาจารย์ ที่สอนพุทโธ ท่านย้ำนักย้ำหนาๆๆๆๆ

ว่า

ให้ตีใจความของพุทโธ ให้ออก


พระวินัย พระสูตรพระคาถาต่างๆ พระอภิธรรม พระปริยัติ ในพระไตรปิฎก
ในพระไตรปิฎก

คือ พระศาสดา คือพระพุทธองค์

พระพุทธองค์ จึง ไม่แต่งตั้งให้ พระอรหันต์พระองค์ไหน พระสาวกนิกายต่างๆ องค์ไหน
เป็นศาสดา แทนพระองค์

พระสงฆ์ เกิดตามสัทธรรม อันพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดง
จึงต้องปฎิบัติ ตาม พระธรรม ที่ทรงแสดงไว้ เท่านั้น

และทรงแสดงไว้ว่า หากพุทธบริษัทใด ได้ศึกษา และปฎิบัติ ตรงตามอรรถะ และพยัญชนะ
ที่พระพุทธองค์ ได้ทรงตรัสไว้ดีแล้ว

พุทธบริษัทนั้น ย่อมเข้าถึง ปริยัติ ปฎิบัติปฎิเวธ ที่ถุุกต้อง
ตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์


..........................

โลกสวย : ครูบาอาจารย์ย้ำนักย้ำหนาให้ตีใจความของ พุทโธ ให้ดี
Love j : ครูบาอาจารย์ท่านไหนครับ ?

Love j : ผมได้อธิบายไปแล้วว่า พุทโธ นั้นเป็นคำสมมุติขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องกำกับจิตเครื่องระลึกของสติ
โดยความหมายนั้นขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติว่าจะทำไว้ในใจอย่างไร ใช้พุทโธเป็นเครื่องระลึกของอะไรซึ่งโดยมากแล้วก็เป็นเครื่องระลึกของพระพุทธเจ้า

เมื่ออยู่กับคำบริกรรมพุทโธ ระลึกพุทโธก็นึกคิดถึงพระพุทธเจ้า นึกถึงปัญญาธิคุณ กรุณาธิคุณ บริสุทธิคุณ เพื่อชำระล้างจิตใจให้สะอาดเว้นจากบาปอกุศลกรรม เว้นความคิด คำพูด การกระทำที่เป็นบาปอกุศลหรือ ทุจริต ๓ / มีสติสัมปชัญญะ สำรวม กาย วาจา ใจ สำรวมอินทรีย์ มีสุจริต ๓ อันเป็นอาหารของสติปัฏฐาน ๔ กระทำให้มากอย่างนี้แล้วก็ถือเป็นการปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า


ยังไม่มีใครกล่าวว่าตนเป็นพระอรหันต์ ยังไม่มีใครจากนิกายไหนจะตั้งตนเป็นศาสดา พระธรรมคำสอนทั้งหลายของพระพุทธเจ้านั้นแทนองค์ศาสดา ความเห็น คำพูดของผม มากจากการศึกษาคำสอนของพระศาสดา อ้างอิงพระศาสดา

แต่ความเห็น คำพูดของคุณ โลกสวยหลายข้อ บิดเบือนคำของพระศาสดาแต่อ้างพระศาสดา อิงพระศาสดา เมื่อถูกถามก็ชี้แจงไม่ได้อธิบายไม่ได้ ตอบโต้ด้วยการใส่ร้ายด้วยคำที่ไม่เป็นความจริง ตอบโต้ด้วยการดูหมิ่นปรามาส อย่างนี้แล้วยังประกาศตนเองว่าตนเองปฏบัติตรงตามคำสอนของพระศาสดาอยู่หรือ


คริคริ

นี่เหรอค๊ะ เรียกมาได้ไงว่า

ผุ้ปฎิบัติบริกรรม แนวพุทโธ เริมต้น ก็ไปซะแระ
เพราะไม่รู้ว่าพุทโธ คืออะไร ตีความหมายพุทโธ ไม่อออก

ดันมาบอกว่า ก็แค่ คำสมมุติขึ้นมา แบบ ที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเอาเสียเรย ความเข้าถึงใจม่ายมีเร๊ยย

ผู้ปฎิบัติ แท้ๆ น๊ะค๊ะ

ในขณะที่ทำการจะ ระลึก ถึงพุทโธ น๊ะค๊ะ

ปิติ นั้น เกิดขึ้นก่อน แล้ว ปัสสิทธฺิ จึงเป็นผล มีโสมนัสตามมา

แล้วจึง บริกรรมภาวนา พุทโธๆๆๆๆ

อาการทั้งหลาย ที่เกิดก่อน และในระหว่างจะบริกรรมพุทโธๆๆ
จะล่วงรู้ได้ ชัดเจน

นี่ยังไม่รู้เรย ว่า อะไรเกิดก่อนที่จะเริ่มบริกรรม และระหว่างที่จะบริกรรม พุทโธๆ

ยังไม่มีสติ ระลึกได้เรย เพราะตีใจความคำว่า พุทโธ ไม่ออก
พุทโธ ยังไม่มากำกับสติ สติหายไปเกิดดับไปหลายแถวๆๆๆๆๆ
เพราะไม่เห็น ปิติ ปัสสิทธิ อันเกิดจากปิติ และโสมนัส จากการรู้จักจัก พุทโธ ไงค๊ะ

แล้วคุยนักหนาว่า เป็นนักปฎิบัติ

แต่ เม ว่า เป็นได้ นักมโน น๊ะค๊ะ ๆ

tongue


โลกสวย : ดันมาบอกว่า ก็แค่ คำสมมุติขึ้นมา แบบ ที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเอาเสียเรย ความเข้าถึงใจม่ายมีเร๊ยย ผู้ปฎิบัติ แท้ๆ น๊ะค๊ะ

Love j : ก็มันเป็นคำสมมุติขึ้นมา ให้ความหมายอย่างไร ก็หมายความอย่างนั้น หากคุณกล่าวว่าผมไม่รู้ความหมายที่แท้จริง ความหมายที่แท้จริงที่คุณกล่าวนั้นก็เป็นการบัญญัติของคุณ หากครูบาอาจารย์กล่าว
ก็เป็นการบัญญัติของครูบาอาจารย์ สาระปรเด็นคือ บริกรรมพุทโธ ๆ ๆ นี้เพื่ออะไร ต่างหากเพื่ออบรมศีล
อบรมสมาธิ อบรมปัญญา ส่วนจะให้ความหมายพุทโธว่าอ่ยางไร เป็นเพียงอุบายวิธี

คุณโลกสวย ขอโจทย์ที่เป็นสาระหน่อยครับ หากเก่งปริยัติก็อิงปริยัติตั้งโจทย์ ไม่ใช่จ้องแต่จะกล่าวหาใส่ร้าย คิดอะไรต่าง ๆ ขึ้นมาพูดเองในสิ่งที่ไม่เป็นจริง แต่อ้างอิงพระพุทธบ้าง พระธรรมบ้าง ครูบาอาจารย์บ้าง
..............................................


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 79 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 45 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร