โลก
อ่านว่า
โล-กะ
แปลว่า
สิ่งที่เกิดดับ
โลก6ทางคือ
สิ่งที่เกิดดับทั้ง6ทาง
เรียกอายตนะ6คือที่ประชุมรวมกันของสภาพธรรมครบ6ทาง
จิตเกิดดับตรงทีละ1ทาง
ทางตาเรียกจิตเห็น
ทางหูเรียกจิตได้ยิน
ทางจมูกเรียกจิตดมกลิ่น
ทางลิ้นเรียกจิตลิ้มรส
ทางกายเรียกจิตกระทบสัมผัส
ทางใจเรียกจิตคิดนึก
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ได้แยกไปจากปกติ
เป็นที่เกิดของตัวจริงธัมมะตามอภิธรรม
ที่ไม่ตรงกันไม่เกิดพร้อมกันไม่ซ้ำกัน


https://youtu.be/4uhhLccMrOU

ดีๆค่ะ
ไล่ไปเรือยๆนะคะคุณยายโรส
สาธุๆๆ

โลกที่แท้จริง ก็คือ

โลกทางตาที่กำลังเห็นในปัจจุบัน
ทางหูที่กำลังได้ยินปัจจุบัน ....
ทางจมูก....
....


ดังนั้น โลกที่แท้จริง นั่นก็คือ

จิตที่กำลังอาศัยทวารต่างๆ เพื่อรู้ความรู้สึก และอารมณ์ต่างๆ
เพราะถ้าไม่มีจิตเกิดขึ้นรู้อารมณ์ต่างๆ โลกก็ไม่ปรากฎ

ใช่มั๊ยคะ คุณยายโรส

สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเป็นธรรมดาสิ่งนั้นย่อมปรากฏว่ามีชั่วตราว

แค่มีเมื่อปรากฏตอนตั้งอยู่ก่อนดับสั้นแสนสั้นเกิดมาทำไมแค่เห็นนิดเดียว

จากไม่มีแล้วจึงเกิดมีแล้วดับหายไปเลยเกิดมาเพื่อติดข้องต้องการเพิ่ม

กิเลสคือความไม่รู้คือโลภะตามไปทุกชาติถึงพระอนาคามีจนกว่านิพพาน

ไม่มีใครรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏตามเป็นจริงนอกจากพระพุทธเจ้า

ขอบพระคุณค่ะคุณยายโรส

แล้วอายตนะ ภายนอก กะ อายตนะภายใน นี่ เป็นยังไงคะ คุณยายโรส
เหมือนกันหรือเปล่าคะ ?

ธรรมของผู้มีบุญบารมีมาก มีกำลังมาก ฟังแล้วพิจารณา
ก็บรรลุได้ อนุโมทนา สาธุ ด้วยครับ หากใครฟังแล้วไม่เข้า
ใจไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในชีิวิตให้ดีขึ้นได้ ยังตัดกิเลสต่างๆ
ยังไม่ได้ก็เรียนเชิญศึกษาธรรมในรูปแบบอื่นลองดูนะครับ

อาหารยังมีเฉพาะแต่ละวัยฉันใด แม้พระธรรมคำสอนก็ฉันนั้น

อ่อ คุณยายโรสคะ

แล้วการเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรส การสัมผ้ส และใจที่นึกคิด

ควรจะต้องเห็นอะไร ยังไง ได้ยินอะไร ยังไง.......คะ ได้กลิ่น กลิ่นอะไรบ้าง ยังไง..........

ถึงจะถูกต้อง ช่วยกรุณาอธิบายหน่อยค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ

ผู้มีปัญญากว้าง ย่อมจะแจกแจงธรรมได้กว้างขวาง
ให้พิสดาร เข้าใจง่าย สามารถย่อให้สั้น สามารถยกอุปมา
ต่างๆให้นำมาแสดงให้ผู้ฟังง่าย พิจารณาเข้าใจง่าย และ
ลงมือปฏิบัติได้ง่าย

ดั่ง พระนาคขเสน พระกุมารกัสสปะ และองค์อื่นๆ

เห็นสีล้วน1สีดับทันที
รู้สึกยังไงกะกระดาษเปล่า
ดับแปลว่ามืดแล้วเดี๋ยวนี้มืดไหม
เดี๋ยวนี้ใจมันปรุงอะไรล่ะมั่วมากค่ะไม่เก็ตหรือ555

รู้ตัวหรือยังว่ากิเลสมากแค่ไหน
คำว่าดับของจิตเห็นทางเดียวคือ
เห็นสี1สีดับมืดมีภวังคจิตคั่นส่งต่อ
ไปดับในมโนทวารวิถีจนเกลี้ยงก่อน
แล้วมีภวังคจิตคั่นอีกทีก่อนจิตอื่นเกิดต่อ
ที่สำคัญกว่าจะวนกลับมาจิตเห็นอีกรอบนั้นสว่าง1มืดอีก23ครั้ง
มันมืดมากเลยอีก5ทาง+มโนทวารวิถีมืด6ครั้ง+ภวังคจิตมืด12ครั้ง
มันเกิดดับทีละ1ทางไม่ปนกันสว่าง1มืด5มีมโนอีก6เถื่อแล้วภวังคจิตคั่นอีก2ครั้งคูณ6ทาง
ที่ไม่ฟังคำสอนเลยไม่เคยคิดตามได้เลยแล้วเอาอะไรเป็นปัญญากันล่ะคะพอจะรู้ยังว่าเห็นผิดอยู่ค่ะ

ทุกคำใน3ปิฎกคือเดี๋ยวนี้มีแล้วไม่ได้ทำเพราะทุกอย่างเกิดดับตามเหตุปัจจัยโดยอนัตตา
มีตัวตนไปทำอะไรกันคะไม่พึ่งสุตมยปัญญาสายไปไหมคะถ้าไม่เริ่มต้นฟังพระพุทธพจน์
จิตวิปลาสไปต่างๆกัน...วิปลาส3อยู่ครบน๊า...ฟังบ้างนะ...เนี่ยทำได้แค่บอกให้ฟังรู้ยังล่ะ
https://youtu.be/B_iU3_aAgtM

ฟังเกี่ยวกับอาบัติที่มีสตรีไปนอนในวัดหน่อยไหมคะ
https://youtu.be/XiX0AN8ghLU

ขอบพระคุณค่ะ คุณยายโรสขา. โลกของคุณยายเกิดสับสนดีนะคะ. คริคริ

คุณยายโรสขา. ทางออกจากโลกทำไงคะ