วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 15:30  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 55 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2019, 16:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
คุณsss... อุตส่าห์ไปยกพระไตรปิฎกมาเทียบแต่ขายความไม่รู้ออกมาจนได้น๊าคนเราไม่รู้ก็ยอมรับซะบ้างนะ
:b32:
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
สัมปชัญญะแปลว่าความรู้สึกตัวทั่วพร้อม เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
ส่วนสมาธิแปลว่าความตั้งมั่นของจิตตรงทางเกิดได้ทั้งมิจฉาสมาธิและสัมมาสมาธิและเป็นเจตสิก
ทั้งสติ สัมปชัญญะ เป็นโสภณเจตสิกเกิดกับกุศลจิตเท่านั้น ไม่เกิดร่วมกับอกุศลเจตสิก
ส่วนสมาธิเป็นอกุศลเจตสิกที่เกิดกับมิจฉาสมาธิทำให้เกิดอกุศลจิตถ้าเกิดร่วมกับกุศลเจตสิกก็เกิดกับกุศลจิต
ทั้งสติ สัมปชัญญา และสมาธิ เป็นตัวจริงของธัมมะคนละประเภทไม่ใช่ตัวตนคนสัตว์วัตถุแต่เป็นธัมมะแต่ละ1
:b12:
:b32: :b32:
https://youtu.be/mxAWY8bzx5M



ที่พูดมาทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งโน้นทั้งเพมันก็คนนั่นแหละ คิกๆๆ แต่บางตัวต้องมีการฝึกต้องอบรมต้องเจริญจึงเกิดมีได้ มิใช่ยกมือไหว้อ้อนวอนร้องขอแล้วเกิดขึ้น ต้องลงมือฝึกอบรมต้องภาวนานั่นเอง

:b1:
ติดข้องต้องการตอบคือธัมมะประเภทอกุศลค่ะเข้าใจไหมคะ
:b32:
ยึดถือธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่าเป็นคนมีตัวตนอยากตอบเป็นโลภะเป็นอกุศลค่ะ
:b32:
ตัวจริงธัมมะแต่ละ1ที่กำลังทำงานตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วหลงว่ามีเราพิมพ์ใหญ่เลย555
:b32: :b32: :b32:

ปานได๋สิฮู้จักฟังน้อ
แปลว่า
เมื่อไหร่จะรู้จักฟังหนอ
:b13:
:b32: :b32:



ต้องเลิกฟังแม่สุจิน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2019, 16:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
คุณsss... อุตส่าห์ไปยกพระไตรปิฎกมาเทียบแต่ขายความไม่รู้ออกมาจนได้น๊าคนเราไม่รู้ก็ยอมรับซะบ้างนะ
:b32:
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
สัมปชัญญะแปลว่าความรู้สึกตัวทั่วพร้อม เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
ส่วนสมาธิแปลว่าความตั้งมั่นของจิตตรงทางเกิดได้ทั้งมิจฉาสมาธิและสัมมาสมาธิและเป็นเจตสิก
ทั้งสติ สัมปชัญญะ เป็นโสภณเจตสิกเกิดกับกุศลจิตเท่านั้น ไม่เกิดร่วมกับอกุศลเจตสิก
ส่วนสมาธิเป็นอกุศลเจตสิกที่เกิดกับมิจฉาสมาธิทำให้เกิดอกุศลจิตถ้าเกิดร่วมกับกุศลเจตสิกก็เกิดกับกุศลจิต
ทั้งสติ สัมปชัญญา และสมาธิ เป็นตัวจริงของธัมมะคนละประเภทไม่ใช่ตัวตนคนสัตว์วัตถุแต่เป็นธัมมะแต่ละ1
:b12:
:b32: :b32:
https://youtu.be/mxAWY8bzx5M



ที่พูดมาทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งโน้นทั้งเพมันก็คนนั่นแหละ คิกๆๆ แต่บางตัวต้องมีการฝึกต้องอบรมต้องเจริญจึงเกิดมีได้ มิใช่ยกมือไหว้อ้อนวอนร้องขอแล้วเกิดขึ้น ต้องลงมือฝึกอบรมต้องภาวนานั่นเอง

:b1:
ติดข้องต้องการตอบคือธัมมะประเภทอกุศลค่ะเข้าใจไหมคะ
:b32:
ยึดถือธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่าเป็นคนมีตัวตนอยากตอบเป็นโลภะเป็นอกุศลค่ะ
:b32:
ตัวจริงธัมมะแต่ละ1ที่กำลังทำงานตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วหลงว่ามีเราพิมพ์ใหญ่เลย555
:b32: :b32: :b32:

ปานได๋สิฮู้จักฟังน้อ
แปลว่า
เมื่อไหร่จะรู้จักฟังหนอ
:b13:
:b32: :b32:



ต้องเลิกฟังแม่สุจิน


ขวนขวายด้วยความมีตัวตนเป็นอกุศลคือมิจฉาทิฏฐิไงคะจะไปรู้ตัวตอนหนายยยยยจ๊ะะะะะ
พระอานนท์มีสมุดจดไหมเวลาฟังตถาคตตรัสแสดงพระธรรมคำสอนจดถูกตามได้อยู่ที่จิตเท่านั้น

:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2019, 16:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
คุณsss... อุตส่าห์ไปยกพระไตรปิฎกมาเทียบแต่ขายความไม่รู้ออกมาจนได้น๊าคนเราไม่รู้ก็ยอมรับซะบ้างนะ
:b32:
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
สัมปชัญญะแปลว่าความรู้สึกตัวทั่วพร้อม เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
ส่วนสมาธิแปลว่าความตั้งมั่นของจิตตรงทางเกิดได้ทั้งมิจฉาสมาธิและสัมมาสมาธิและเป็นเจตสิก
ทั้งสติ สัมปชัญญะ เป็นโสภณเจตสิกเกิดกับกุศลจิตเท่านั้น ไม่เกิดร่วมกับอกุศลเจตสิก
ส่วนสมาธิเป็นอกุศลเจตสิกที่เกิดกับมิจฉาสมาธิทำให้เกิดอกุศลจิตถ้าเกิดร่วมกับกุศลเจตสิกก็เกิดกับกุศลจิต
ทั้งสติ สัมปชัญญา และสมาธิ เป็นตัวจริงของธัมมะคนละประเภทไม่ใช่ตัวตนคนสัตว์วัตถุแต่เป็นธัมมะแต่ละ1
:b12:
:b32: :b32:
https://youtu.be/mxAWY8bzx5M



ที่พูดมาทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งโน้นทั้งเพมันก็คนนั่นแหละ คิกๆๆ แต่บางตัวต้องมีการฝึกต้องอบรมต้องเจริญจึงเกิดมีได้ มิใช่ยกมือไหว้อ้อนวอนร้องขอแล้วเกิดขึ้น ต้องลงมือฝึกอบรมต้องภาวนานั่นเอง

:b1:
ติดข้องต้องการตอบคือธัมมะประเภทอกุศลค่ะเข้าใจไหมคะ
:b32:
ยึดถือธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่าเป็นคนมีตัวตนอยากตอบเป็นโลภะเป็นอกุศลค่ะ
:b32:
ตัวจริงธัมมะแต่ละ1ที่กำลังทำงานตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วหลงว่ามีเราพิมพ์ใหญ่เลย555
:b32: :b32: :b32:

ปานได๋สิฮู้จักฟังน้อ
แปลว่า
เมื่อไหร่จะรู้จักฟังหนอ
:b13:
:b32: :b32:



ต้องเลิกฟังแม่สุจิน


ขวนขวายด้วยความมีตัวตนเป็นอกุศลคือมิจฉาทิฏฐิไงคะจะไปรู้ตัวตอนหนายยยยยจ๊ะะะะะ
พระอานนท์มีสมุดจดไหมเวลาฟังตถาคตตรัสแสดงพระธรรมคำสอนจดถูกตามได้อยู่ที่จิตเท่านั้น

:b32: :b32:


ที่มีตัวตนคิดว่าจะไปทำอะไรอะไรได้อยู่นั่นแหละคือกิเลสซ้อนกิเลสอีกที
กิเลสเป็นภาษาบาลีแปลว่าไม่รู้...มีตัวตนไปทำคือมีไม่รู้และไม่รู้ว่าตัวตนนั้นไม่มี
:b16: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2019, 17:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
คุณsss... อุตส่าห์ไปยกพระไตรปิฎกมาเทียบแต่ขายความไม่รู้ออกมาจนได้น๊าคนเราไม่รู้ก็ยอมรับซะบ้างนะ
:b32:
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
สัมปชัญญะแปลว่าความรู้สึกตัวทั่วพร้อม เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
ส่วนสมาธิแปลว่าความตั้งมั่นของจิตตรงทางเกิดได้ทั้งมิจฉาสมาธิและสัมมาสมาธิและเป็นเจตสิก
ทั้งสติ สัมปชัญญะ เป็นโสภณเจตสิกเกิดกับกุศลจิตเท่านั้น ไม่เกิดร่วมกับอกุศลเจตสิก
ส่วนสมาธิเป็นอกุศลเจตสิกที่เกิดกับมิจฉาสมาธิทำให้เกิดอกุศลจิตถ้าเกิดร่วมกับกุศลเจตสิกก็เกิดกับกุศลจิต
ทั้งสติ สัมปชัญญา และสมาธิ เป็นตัวจริงของธัมมะคนละประเภทไม่ใช่ตัวตนคนสัตว์วัตถุแต่เป็นธัมมะแต่ละ1
:b12:
:b32: :b32:
https://youtu.be/mxAWY8bzx5M



ที่พูดมาทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งโน้นทั้งเพมันก็คนนั่นแหละ คิกๆๆ แต่บางตัวต้องมีการฝึกต้องอบรมต้องเจริญจึงเกิดมีได้ มิใช่ยกมือไหว้อ้อนวอนร้องขอแล้วเกิดขึ้น ต้องลงมือฝึกอบรมต้องภาวนานั่นเอง

:b1:
ติดข้องต้องการตอบคือธัมมะประเภทอกุศลค่ะเข้าใจไหมคะ
:b32:
ยึดถือธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่าเป็นคนมีตัวตนอยากตอบเป็นโลภะเป็นอกุศลค่ะ
:b32:
ตัวจริงธัมมะแต่ละ1ที่กำลังทำงานตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วหลงว่ามีเราพิมพ์ใหญ่เลย555
:b32: :b32: :b32:

ปานได๋สิฮู้จักฟังน้อ
แปลว่า
เมื่อไหร่จะรู้จักฟังหนอ
:b13:
:b32: :b32:



ต้องเลิกฟังแม่สุจิน

:b8:

ขนาดการหัวเราะบ่อยๆ ยังห้ามไม่ได้เลยครับ
ผมก็ลองไปฟังแล้วครับ ท่านก็พูดได้ดีมากเลยแต่
ก็ไม่เห็นกิริยาหัวเราะบ่อยๆเหมือนคุณ โรส เลยนะครับ
สงสัยจะเก่งเกินท่านแม่ สุจินแล้วล่ะครับพี่ กรัชกาย

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2019, 17:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
คุณsss... อุตส่าห์ไปยกพระไตรปิฎกมาเทียบแต่ขายความไม่รู้ออกมาจนได้น๊าคนเราไม่รู้ก็ยอมรับซะบ้างนะ
:b32:
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
สัมปชัญญะแปลว่าความรู้สึกตัวทั่วพร้อม เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
ส่วนสมาธิแปลว่าความตั้งมั่นของจิตตรงทางเกิดได้ทั้งมิจฉาสมาธิและสัมมาสมาธิและเป็นเจตสิก
ทั้งสติ สัมปชัญญะ เป็นโสภณเจตสิกเกิดกับกุศลจิตเท่านั้น ไม่เกิดร่วมกับอกุศลเจตสิก
ส่วนสมาธิเป็นอกุศลเจตสิกที่เกิดกับมิจฉาสมาธิทำให้เกิดอกุศลจิตถ้าเกิดร่วมกับกุศลเจตสิกก็เกิดกับกุศลจิต
ทั้งสติ สัมปชัญญา และสมาธิ เป็นตัวจริงของธัมมะคนละประเภทไม่ใช่ตัวตนคนสัตว์วัตถุแต่เป็นธัมมะแต่ละ1
:b12:
:b32: :b32:
https://youtu.be/mxAWY8bzx5M



ที่พูดมาทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งโน้นทั้งเพมันก็คนนั่นแหละ คิกๆๆ แต่บางตัวต้องมีการฝึกต้องอบรมต้องเจริญจึงเกิดมีได้ มิใช่ยกมือไหว้อ้อนวอนร้องขอแล้วเกิดขึ้น ต้องลงมือฝึกอบรมต้องภาวนานั่นเอง

:b1:
ติดข้องต้องการตอบคือธัมมะประเภทอกุศลค่ะเข้าใจไหมคะ
:b32:
ยึดถือธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่าเป็นคนมีตัวตนอยากตอบเป็นโลภะเป็นอกุศลค่ะ
:b32:
ตัวจริงธัมมะแต่ละ1ที่กำลังทำงานตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วหลงว่ามีเราพิมพ์ใหญ่เลย555
:b32: :b32: :b32:

ปานได๋สิฮู้จักฟังน้อ
แปลว่า
เมื่อไหร่จะรู้จักฟังหนอ
:b13:
:b32: :b32:



ต้องเลิกฟังแม่สุจิน


ขวนขวายด้วยความมีตัวตนเป็นอกุศลคือมิจฉาทิฏฐิไงคะจะไปรู้ตัวตอนหนายยยยยจ๊ะะะะะ
พระอานนท์มีสมุดจดไหมเวลาฟังตถาคตตรัสแสดงพระธรรมคำสอนจดถูกตามได้อยู่ที่จิตเท่านั้น

:b32: :b32:


ที่มีตัวตนคิดว่าจะไปทำอะไรอะไรได้อยู่นั่นแหละคือกิเลสซ้อนกิเลสอีกที
กิเลสเป็นภาษาบาลีแปลว่าไม่รู้...มีตัวตนไปทำคือมีไม่รู้และไม่รู้ว่าตัวตนนั้นไม่มี
:b16: :b16: :b16:

:b8:

หรือว่าการหัวเราะจะเป็นทางทำให้ไร้ตัวตน
เป็นทางไปสู่นิพพานกระมั้งครับเห็นหัวเราะได้ตลอด

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2019, 17:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
คุณsss... อุตส่าห์ไปยกพระไตรปิฎกมาเทียบแต่ขายความไม่รู้ออกมาจนได้น๊าคนเราไม่รู้ก็ยอมรับซะบ้างนะ
:b32:
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
สัมปชัญญะแปลว่าความรู้สึกตัวทั่วพร้อม เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
ส่วนสมาธิแปลว่าความตั้งมั่นของจิตตรงทางเกิดได้ทั้งมิจฉาสมาธิและสัมมาสมาธิและเป็นเจตสิก
ทั้งสติ สัมปชัญญะ เป็นโสภณเจตสิกเกิดกับกุศลจิตเท่านั้น ไม่เกิดร่วมกับอกุศลเจตสิก
ส่วนสมาธิเป็นอกุศลเจตสิกที่เกิดกับมิจฉาสมาธิทำให้เกิดอกุศลจิตถ้าเกิดร่วมกับกุศลเจตสิกก็เกิดกับกุศลจิต
ทั้งสติ สัมปชัญญา และสมาธิ เป็นตัวจริงของธัมมะคนละประเภทไม่ใช่ตัวตนคนสัตว์วัตถุแต่เป็นธัมมะแต่ละ1
:b12:
:b32: :b32:
https://youtu.be/mxAWY8bzx5M



ที่พูดมาทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งโน้นทั้งเพมันก็คนนั่นแหละ คิกๆๆ แต่บางตัวต้องมีการฝึกต้องอบรมต้องเจริญจึงเกิดมีได้ มิใช่ยกมือไหว้อ้อนวอนร้องขอแล้วเกิดขึ้น ต้องลงมือฝึกอบรมต้องภาวนานั่นเอง

:b1:
ติดข้องต้องการตอบคือธัมมะประเภทอกุศลค่ะเข้าใจไหมคะ
:b32:
ยึดถือธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่าเป็นคนมีตัวตนอยากตอบเป็นโลภะเป็นอกุศลค่ะ
:b32:
ตัวจริงธัมมะแต่ละ1ที่กำลังทำงานตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วหลงว่ามีเราพิมพ์ใหญ่เลย555
:b32: :b32: :b32:

ปานได๋สิฮู้จักฟังน้อ
แปลว่า
เมื่อไหร่จะรู้จักฟังหนอ
:b13:
:b32: :b32:



ต้องเลิกฟังแม่สุจิน


ขวนขวายด้วยความมีตัวตนเป็นอกุศลคือมิจฉาทิฏฐิไงคะจะไปรู้ตัวตอนหนายยยยยจ๊ะะะะะ
พระอานนท์มีสมุดจดไหมเวลาฟังตถาคตตรัสแสดงพระธรรมคำสอนจดถูกตามได้อยู่ที่จิตเท่านั้น

:b32: :b32:


ที่มีตัวตนคิดว่าจะไปทำอะไรอะไรได้อยู่นั่นแหละคือกิเลสซ้อนกิเลสอีกที
กิเลสเป็นภาษาบาลีแปลว่าไม่รู้...มีตัวตนไปทำคือมีไม่รู้และไม่รู้ว่าตัวตนนั้นไม่มี
:b16: :b16: :b16:

:b8:

ไม่ยึดในตัวตน ไม่มีตัวตน แต่ยึดติดการหัว
เราะเยาะเย้ยคนอื่นทุกวันนี้หรือ ผู้มีสติ ปัญญา
มีเมตตาครับ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2019, 17:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


sssboun เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
คุณsss... อุตส่าห์ไปยกพระไตรปิฎกมาเทียบแต่ขายความไม่รู้ออกมาจนได้น๊าคนเราไม่รู้ก็ยอมรับซะบ้างนะ
:b32:
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
สัมปชัญญะแปลว่าความรู้สึกตัวทั่วพร้อม เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
ส่วนสมาธิแปลว่าความตั้งมั่นของจิตตรงทางเกิดได้ทั้งมิจฉาสมาธิและสัมมาสมาธิและเป็นเจตสิก
ทั้งสติ สัมปชัญญะ เป็นโสภณเจตสิกเกิดกับกุศลจิตเท่านั้น ไม่เกิดร่วมกับอกุศลเจตสิก
ส่วนสมาธิเป็นอกุศลเจตสิกที่เกิดกับมิจฉาสมาธิทำให้เกิดอกุศลจิตถ้าเกิดร่วมกับกุศลเจตสิกก็เกิดกับกุศลจิต
ทั้งสติ สัมปชัญญา และสมาธิ เป็นตัวจริงของธัมมะคนละประเภทไม่ใช่ตัวตนคนสัตว์วัตถุแต่เป็นธัมมะแต่ละ1
:b12:
:b32: :b32:
https://youtu.be/mxAWY8bzx5M



ที่พูดมาทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งโน้นทั้งเพมันก็คนนั่นแหละ คิกๆๆ แต่บางตัวต้องมีการฝึกต้องอบรมต้องเจริญจึงเกิดมีได้ มิใช่ยกมือไหว้อ้อนวอนร้องขอแล้วเกิดขึ้น ต้องลงมือฝึกอบรมต้องภาวนานั่นเอง

:b1:
ติดข้องต้องการตอบคือธัมมะประเภทอกุศลค่ะเข้าใจไหมคะ
:b32:
ยึดถือธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่าเป็นคนมีตัวตนอยากตอบเป็นโลภะเป็นอกุศลค่ะ
:b32:
ตัวจริงธัมมะแต่ละ1ที่กำลังทำงานตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วหลงว่ามีเราพิมพ์ใหญ่เลย555
:b32: :b32: :b32:

ปานได๋สิฮู้จักฟังน้อ
แปลว่า
เมื่อไหร่จะรู้จักฟังหนอ
:b13:
:b32: :b32:



ต้องเลิกฟังแม่สุจิน


ขวนขวายด้วยความมีตัวตนเป็นอกุศลคือมิจฉาทิฏฐิไงคะจะไปรู้ตัวตอนหนายยยยยจ๊ะะะะะ
พระอานนท์มีสมุดจดไหมเวลาฟังตถาคตตรัสแสดงพระธรรมคำสอนจดถูกตามได้อยู่ที่จิตเท่านั้น

:b32: :b32:


ที่มีตัวตนคิดว่าจะไปทำอะไรอะไรได้อยู่นั่นแหละคือกิเลสซ้อนกิเลสอีกที
กิเลสเป็นภาษาบาลีแปลว่าไม่รู้...มีตัวตนไปทำคือมีไม่รู้และไม่รู้ว่าตัวตนนั้นไม่มี
:b16: :b16: :b16:

:b8:

ไม่ยึดในตัวตน ไม่มีตัวตน แต่ยึดติดการหัว
เราะเยาะเย้ยคนอื่นทุกวันนี้หรือ ผู้มีสติ ปัญญา
มีเมตตาครับ

:b8:

cool
เมื่อไหร่จะฉลาดขึ้น
บอกว่าธัมมะจริงๆ
ตรงปัจจุบันขณะ
อยู่ที่กายใจตนเอง
พูดคือคิดออกเสียง
คิดคือพูดไม่ออกเสียง
สัจจะนั้นไม่ใช่ความคิด
:b12:
ยังไงๆชาตินี้ก็มีตัวตนอยู่มีจิตด้วยค่อยๆฟังไม่ต้องรีบไปไหนค่ะ
ยึดถือขันธ์ทั้ง5ว่าเป็นเรามีตัวตนไปทำโน่นนี่นั่นอยู่ยังไงคะ
ตายแล้วย้อนกลับมาเริ่มต้นฟังไม่ได้น๊ามีแต่เริ่มฟังทันที
เพราะกระพริบตาเป็นจิตขณะใหม่ทั้งหมดในสังสารวัฏฏ์
https://youtu.be/IHdKbM5pEgU
:b13:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2019, 18:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
sssboun เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
คุณsss... อุตส่าห์ไปยกพระไตรปิฎกมาเทียบแต่ขายความไม่รู้ออกมาจนได้น๊าคนเราไม่รู้ก็ยอมรับซะบ้างนะ
:b32:
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
สัมปชัญญะแปลว่าความรู้สึกตัวทั่วพร้อม เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
ส่วนสมาธิแปลว่าความตั้งมั่นของจิตตรงทางเกิดได้ทั้งมิจฉาสมาธิและสัมมาสมาธิและเป็นเจตสิก
ทั้งสติ สัมปชัญญะ เป็นโสภณเจตสิกเกิดกับกุศลจิตเท่านั้น ไม่เกิดร่วมกับอกุศลเจตสิก
ส่วนสมาธิเป็นอกุศลเจตสิกที่เกิดกับมิจฉาสมาธิทำให้เกิดอกุศลจิตถ้าเกิดร่วมกับกุศลเจตสิกก็เกิดกับกุศลจิต
ทั้งสติ สัมปชัญญา และสมาธิ เป็นตัวจริงของธัมมะคนละประเภทไม่ใช่ตัวตนคนสัตว์วัตถุแต่เป็นธัมมะแต่ละ1
:b12:
:b32: :b32:
https://youtu.be/mxAWY8bzx5M



ที่พูดมาทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งโน้นทั้งเพมันก็คนนั่นแหละ คิกๆๆ แต่บางตัวต้องมีการฝึกต้องอบรมต้องเจริญจึงเกิดมีได้ มิใช่ยกมือไหว้อ้อนวอนร้องขอแล้วเกิดขึ้น ต้องลงมือฝึกอบรมต้องภาวนานั่นเอง

:b1:
ติดข้องต้องการตอบคือธัมมะประเภทอกุศลค่ะเข้าใจไหมคะ
:b32:
ยึดถือธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่าเป็นคนมีตัวตนอยากตอบเป็นโลภะเป็นอกุศลค่ะ
:b32:
ตัวจริงธัมมะแต่ละ1ที่กำลังทำงานตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วหลงว่ามีเราพิมพ์ใหญ่เลย555
:b32: :b32: :b32:

ปานได๋สิฮู้จักฟังน้อ
แปลว่า
เมื่อไหร่จะรู้จักฟังหนอ
:b13:
:b32: :b32:



ต้องเลิกฟังแม่สุจิน


ขวนขวายด้วยความมีตัวตนเป็นอกุศลคือมิจฉาทิฏฐิไงคะจะไปรู้ตัวตอนหนายยยยยจ๊ะะะะะ
พระอานนท์มีสมุดจดไหมเวลาฟังตถาคตตรัสแสดงพระธรรมคำสอนจดถูกตามได้อยู่ที่จิตเท่านั้น

:b32: :b32:


ที่มีตัวตนคิดว่าจะไปทำอะไรอะไรได้อยู่นั่นแหละคือกิเลสซ้อนกิเลสอีกที
กิเลสเป็นภาษาบาลีแปลว่าไม่รู้...มีตัวตนไปทำคือมีไม่รู้และไม่รู้ว่าตัวตนนั้นไม่มี
:b16: :b16: :b16:

:b8:

ไม่ยึดในตัวตน ไม่มีตัวตน แต่ยึดติดการหัว
เราะเยาะเย้ยคนอื่นทุกวันนี้หรือ ผู้มีสติ ปัญญา
มีเมตตาครับ

:b8:

cool
เมื่อไหร่จะฉลาดขึ้น
บอกว่าธัมมะจริงๆ
ตรงปัจจุบันขณะ
อยู่ที่กายใจตนเอง
พูดคือคิดออกเสียง
คิดคือพูดไม่ออกเสียง
สัจจะนั้นไม่ใช่ความคิด
:b12:
ยังไงๆชาตินี้ก็มีตัวตนอยู่มีจิตด้วยค่อยๆฟังไม่ต้องรีบไปไหนค่ะ
ยึดถือขันธ์ทั้ง5ว่าเป็นเรามีตัวตนไปทำโน่นนี่นั่นอยู่ยังไงคะ
ตายแล้วย้อนกลับมาเริ่มต้นฟังไม่ได้น๊ามีแต่เริ่มฟังทันที
เพราะกระพริบตาเป็นจิตขณะใหม่ทั้งหมดในสังสารวัฏฏ์
https://youtu.be/IHdKbM5pEgU
:b13:
:b32: :b32:



กาย

เวทนา

จิต

ธรรมารมณ์

นั่งกระพริบตาไปขอรับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2019, 18:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
sssboun เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
คุณsss... อุตส่าห์ไปยกพระไตรปิฎกมาเทียบแต่ขายความไม่รู้ออกมาจนได้น๊าคนเราไม่รู้ก็ยอมรับซะบ้างนะ
:b32:
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
สัมปชัญญะแปลว่าความรู้สึกตัวทั่วพร้อม เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
ส่วนสมาธิแปลว่าความตั้งมั่นของจิตตรงทางเกิดได้ทั้งมิจฉาสมาธิและสัมมาสมาธิและเป็นเจตสิก
ทั้งสติ สัมปชัญญะ เป็นโสภณเจตสิกเกิดกับกุศลจิตเท่านั้น ไม่เกิดร่วมกับอกุศลเจตสิก
ส่วนสมาธิเป็นอกุศลเจตสิกที่เกิดกับมิจฉาสมาธิทำให้เกิดอกุศลจิตถ้าเกิดร่วมกับกุศลเจตสิกก็เกิดกับกุศลจิต
ทั้งสติ สัมปชัญญา และสมาธิ เป็นตัวจริงของธัมมะคนละประเภทไม่ใช่ตัวตนคนสัตว์วัตถุแต่เป็นธัมมะแต่ละ1
:b12:
:b32: :b32:
https://youtu.be/mxAWY8bzx5M



ที่พูดมาทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งโน้นทั้งเพมันก็คนนั่นแหละ คิกๆๆ แต่บางตัวต้องมีการฝึกต้องอบรมต้องเจริญจึงเกิดมีได้ มิใช่ยกมือไหว้อ้อนวอนร้องขอแล้วเกิดขึ้น ต้องลงมือฝึกอบรมต้องภาวนานั่นเอง

:b1:
ติดข้องต้องการตอบคือธัมมะประเภทอกุศลค่ะเข้าใจไหมคะ
:b32:
ยึดถือธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่าเป็นคนมีตัวตนอยากตอบเป็นโลภะเป็นอกุศลค่ะ
:b32:
ตัวจริงธัมมะแต่ละ1ที่กำลังทำงานตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วหลงว่ามีเราพิมพ์ใหญ่เลย555
:b32: :b32: :b32:

ปานได๋สิฮู้จักฟังน้อ
แปลว่า
เมื่อไหร่จะรู้จักฟังหนอ
:b13:
:b32: :b32:



ต้องเลิกฟังแม่สุจิน


ขวนขวายด้วยความมีตัวตนเป็นอกุศลคือมิจฉาทิฏฐิไงคะจะไปรู้ตัวตอนหนายยยยยจ๊ะะะะะ
พระอานนท์มีสมุดจดไหมเวลาฟังตถาคตตรัสแสดงพระธรรมคำสอนจดถูกตามได้อยู่ที่จิตเท่านั้น

:b32: :b32:


ที่มีตัวตนคิดว่าจะไปทำอะไรอะไรได้อยู่นั่นแหละคือกิเลสซ้อนกิเลสอีกที
กิเลสเป็นภาษาบาลีแปลว่าไม่รู้...มีตัวตนไปทำคือมีไม่รู้และไม่รู้ว่าตัวตนนั้นไม่มี
:b16: :b16: :b16:

:b8:

ไม่ยึดในตัวตน ไม่มีตัวตน แต่ยึดติดการหัว
เราะเยาะเย้ยคนอื่นทุกวันนี้หรือ ผู้มีสติ ปัญญา
มีเมตตาครับ

:b8:

cool
เมื่อไหร่จะฉลาดขึ้น
บอกว่าธัมมะจริงๆ
ตรงปัจจุบันขณะ
อยู่ที่กายใจตนเอง
พูดคือคิดออกเสียง
คิดคือพูดไม่ออกเสียง
สัจจะนั้นไม่ใช่ความคิด
:b12:
ยังไงๆชาตินี้ก็มีตัวตนอยู่มีจิตด้วยค่อยๆฟังไม่ต้องรีบไปไหนค่ะ
ยึดถือขันธ์ทั้ง5ว่าเป็นเรามีตัวตนไปทำโน่นนี่นั่นอยู่ยังไงคะ
ตายแล้วย้อนกลับมาเริ่มต้นฟังไม่ได้น๊ามีแต่เริ่มฟังทันที
เพราะกระพริบตาเป็นจิตขณะใหม่ทั้งหมดในสังสารวัฏฏ์
https://youtu.be/IHdKbM5pEgU
:b13:
:b32: :b32:



กาย

เวทนา

จิต

ธรรมารมณ์

นั่งกระพริบตาไปขอรับ

คนส่งไม่ได้เยาะเย้ยเพราะไม่มีใคร
มีแต่ธัมมะหลากหลายตามการสะสม
จะเริ่มสะสมปัญญาก็เริ่มที่ฟัง
ทุกคลิปที่ส่งให้ฟังนั้นน่า
คนส่งกำลังฟังอยู่จร้า
คนฟังอารมณ์ดีก็ขำๆ
จะให้ส่งรูปร้องไห้หรือคะ
เบิกบานที่เข้าใจความจริงตามคำสอนไงคะ
:b12:
:b17: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2019, 19:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
sssboun เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
คุณsss... อุตส่าห์ไปยกพระไตรปิฎกมาเทียบแต่ขายความไม่รู้ออกมาจนได้น๊าคนเราไม่รู้ก็ยอมรับซะบ้างนะ
:b32:
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
สัมปชัญญะแปลว่าความรู้สึกตัวทั่วพร้อม เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
ส่วนสมาธิแปลว่าความตั้งมั่นของจิตตรงทางเกิดได้ทั้งมิจฉาสมาธิและสัมมาสมาธิและเป็นเจตสิก
ทั้งสติ สัมปชัญญะ เป็นโสภณเจตสิกเกิดกับกุศลจิตเท่านั้น ไม่เกิดร่วมกับอกุศลเจตสิก
ส่วนสมาธิเป็นอกุศลเจตสิกที่เกิดกับมิจฉาสมาธิทำให้เกิดอกุศลจิตถ้าเกิดร่วมกับกุศลเจตสิกก็เกิดกับกุศลจิต
ทั้งสติ สัมปชัญญา และสมาธิ เป็นตัวจริงของธัมมะคนละประเภทไม่ใช่ตัวตนคนสัตว์วัตถุแต่เป็นธัมมะแต่ละ1
:b12:
:b32: :b32:
https://youtu.be/mxAWY8bzx5M



ที่พูดมาทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งโน้นทั้งเพมันก็คนนั่นแหละ คิกๆๆ แต่บางตัวต้องมีการฝึกต้องอบรมต้องเจริญจึงเกิดมีได้ มิใช่ยกมือไหว้อ้อนวอนร้องขอแล้วเกิดขึ้น ต้องลงมือฝึกอบรมต้องภาวนานั่นเอง

:b1:
ติดข้องต้องการตอบคือธัมมะประเภทอกุศลค่ะเข้าใจไหมคะ
:b32:
ยึดถือธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่าเป็นคนมีตัวตนอยากตอบเป็นโลภะเป็นอกุศลค่ะ
:b32:
ตัวจริงธัมมะแต่ละ1ที่กำลังทำงานตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วหลงว่ามีเราพิมพ์ใหญ่เลย555
:b32: :b32: :b32:

ปานได๋สิฮู้จักฟังน้อ
แปลว่า
เมื่อไหร่จะรู้จักฟังหนอ
:b13:
:b32: :b32:



ต้องเลิกฟังแม่สุจิน


ขวนขวายด้วยความมีตัวตนเป็นอกุศลคือมิจฉาทิฏฐิไงคะจะไปรู้ตัวตอนหนายยยยยจ๊ะะะะะ
พระอานนท์มีสมุดจดไหมเวลาฟังตถาคตตรัสแสดงพระธรรมคำสอนจดถูกตามได้อยู่ที่จิตเท่านั้น

:b32: :b32:


ที่มีตัวตนคิดว่าจะไปทำอะไรอะไรได้อยู่นั่นแหละคือกิเลสซ้อนกิเลสอีกที
กิเลสเป็นภาษาบาลีแปลว่าไม่รู้...มีตัวตนไปทำคือมีไม่รู้และไม่รู้ว่าตัวตนนั้นไม่มี
:b16: :b16: :b16:

:b8:

ไม่ยึดในตัวตน ไม่มีตัวตน แต่ยึดติดการหัว
เราะเยาะเย้ยคนอื่นทุกวันนี้หรือ ผู้มีสติ ปัญญา
มีเมตตาครับ

:b8:

cool
เมื่อไหร่จะฉลาดขึ้น
บอกว่าธัมมะจริงๆ
ตรงปัจจุบันขณะ
อยู่ที่กายใจตนเอง
พูดคือคิดออกเสียง
คิดคือพูดไม่ออกเสียง
สัจจะนั้นไม่ใช่ความคิด
:b12:
ยังไงๆชาตินี้ก็มีตัวตนอยู่มีจิตด้วยค่อยๆฟังไม่ต้องรีบไปไหนค่ะ
ยึดถือขันธ์ทั้ง5ว่าเป็นเรามีตัวตนไปทำโน่นนี่นั่นอยู่ยังไงคะ
ตายแล้วย้อนกลับมาเริ่มต้นฟังไม่ได้น๊ามีแต่เริ่มฟังทันที
เพราะกระพริบตาเป็นจิตขณะใหม่ทั้งหมดในสังสารวัฏฏ์
https://youtu.be/IHdKbM5pEgU
:b13:
:b32: :b32:

:b8:

ครับเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ทำไปเรื่อยๆ ค่อยๆ
เก็บสิ่งที่ไม่ดีออก ป้องกันสิ่งไม่ดีมิให้เกิดขึ้นมา
ใหม่ไปเรื่อยๆ
:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2019, 19:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
sssboun เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
คุณsss... อุตส่าห์ไปยกพระไตรปิฎกมาเทียบแต่ขายความไม่รู้ออกมาจนได้น๊าคนเราไม่รู้ก็ยอมรับซะบ้างนะ
:b32:
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
สัมปชัญญะแปลว่าความรู้สึกตัวทั่วพร้อม เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
ส่วนสมาธิแปลว่าความตั้งมั่นของจิตตรงทางเกิดได้ทั้งมิจฉาสมาธิและสัมมาสมาธิและเป็นเจตสิก
ทั้งสติ สัมปชัญญะ เป็นโสภณเจตสิกเกิดกับกุศลจิตเท่านั้น ไม่เกิดร่วมกับอกุศลเจตสิก
ส่วนสมาธิเป็นอกุศลเจตสิกที่เกิดกับมิจฉาสมาธิทำให้เกิดอกุศลจิตถ้าเกิดร่วมกับกุศลเจตสิกก็เกิดกับกุศลจิต
ทั้งสติ สัมปชัญญา และสมาธิ เป็นตัวจริงของธัมมะคนละประเภทไม่ใช่ตัวตนคนสัตว์วัตถุแต่เป็นธัมมะแต่ละ1
:b12:
:b32: :b32:
https://youtu.be/mxAWY8bzx5M



ที่พูดมาทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งโน้นทั้งเพมันก็คนนั่นแหละ คิกๆๆ แต่บางตัวต้องมีการฝึกต้องอบรมต้องเจริญจึงเกิดมีได้ มิใช่ยกมือไหว้อ้อนวอนร้องขอแล้วเกิดขึ้น ต้องลงมือฝึกอบรมต้องภาวนานั่นเอง

:b1:
ติดข้องต้องการตอบคือธัมมะประเภทอกุศลค่ะเข้าใจไหมคะ
:b32:
ยึดถือธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่าเป็นคนมีตัวตนอยากตอบเป็นโลภะเป็นอกุศลค่ะ
:b32:
ตัวจริงธัมมะแต่ละ1ที่กำลังทำงานตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วหลงว่ามีเราพิมพ์ใหญ่เลย555
:b32: :b32: :b32:

ปานได๋สิฮู้จักฟังน้อ
แปลว่า
เมื่อไหร่จะรู้จักฟังหนอ
:b13:
:b32: :b32:



ต้องเลิกฟังแม่สุจิน


ขวนขวายด้วยความมีตัวตนเป็นอกุศลคือมิจฉาทิฏฐิไงคะจะไปรู้ตัวตอนหนายยยยยจ๊ะะะะะ
พระอานนท์มีสมุดจดไหมเวลาฟังตถาคตตรัสแสดงพระธรรมคำสอนจดถูกตามได้อยู่ที่จิตเท่านั้น

:b32: :b32:


ที่มีตัวตนคิดว่าจะไปทำอะไรอะไรได้อยู่นั่นแหละคือกิเลสซ้อนกิเลสอีกที
กิเลสเป็นภาษาบาลีแปลว่าไม่รู้...มีตัวตนไปทำคือมีไม่รู้และไม่รู้ว่าตัวตนนั้นไม่มี
:b16: :b16: :b16:

:b8:

ไม่ยึดในตัวตน ไม่มีตัวตน แต่ยึดติดการหัว
เราะเยาะเย้ยคนอื่นทุกวันนี้หรือ ผู้มีสติ ปัญญา
มีเมตตาครับ

:b8:

cool
เมื่อไหร่จะฉลาดขึ้น
บอกว่าธัมมะจริงๆ
ตรงปัจจุบันขณะ
อยู่ที่กายใจตนเอง
พูดคือคิดออกเสียง
คิดคือพูดไม่ออกเสียง
สัจจะนั้นไม่ใช่ความคิด
:b12:
ยังไงๆชาตินี้ก็มีตัวตนอยู่มีจิตด้วยค่อยๆฟังไม่ต้องรีบไปไหนค่ะ
ยึดถือขันธ์ทั้ง5ว่าเป็นเรามีตัวตนไปทำโน่นนี่นั่นอยู่ยังไงคะ
ตายแล้วย้อนกลับมาเริ่มต้นฟังไม่ได้น๊ามีแต่เริ่มฟังทันที
เพราะกระพริบตาเป็นจิตขณะใหม่ทั้งหมดในสังสารวัฏฏ์
https://youtu.be/IHdKbM5pEgU
:b13:
:b32: :b32:



กาย

เวทนา

จิต

ธรรมารมณ์

นั่งกระพริบตาไปขอรับ

คนส่งไม่ได้เยาะเย้ยเพราะไม่มีใคร
มีแต่ธัมมะหลากหลายตามการสะสม
จะเริ่มสะสมปัญญาก็เริ่มที่ฟัง
ทุกคลิปที่ส่งให้ฟังนั้นน่า
คนส่งกำลังฟังอยู่จร้า
คนฟังอารมณ์ดีก็ขำๆ
จะให้ส่งรูปร้องไห้หรือคะ
เบิกบานที่เข้าใจความจริงตามคำสอนไงคะ
:b12:
:b17: :b17:

:b8:

แต่การขำ การหัวเราะนั้นก็ต้องดูว่าเหมาะ
สมกับเหตุการณ์ สะถานที่หรือไม่ มิควรขำหรือ
หัวเราะแบบพร่ําเพรื่อนั้นดูไม่งาม ดูเหมือนไม่มีสติ
ขาดปัญญานะครับ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2019, 19:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


sssboun เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
sssboun เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
คุณsss... อุตส่าห์ไปยกพระไตรปิฎกมาเทียบแต่ขายความไม่รู้ออกมาจนได้น๊าคนเราไม่รู้ก็ยอมรับซะบ้างนะ
:b32:
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
สัมปชัญญะแปลว่าความรู้สึกตัวทั่วพร้อม เป็นธัมมะประเภทเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น
ส่วนสมาธิแปลว่าความตั้งมั่นของจิตตรงทางเกิดได้ทั้งมิจฉาสมาธิและสัมมาสมาธิและเป็นเจตสิก
ทั้งสติ สัมปชัญญะ เป็นโสภณเจตสิกเกิดกับกุศลจิตเท่านั้น ไม่เกิดร่วมกับอกุศลเจตสิก
ส่วนสมาธิเป็นอกุศลเจตสิกที่เกิดกับมิจฉาสมาธิทำให้เกิดอกุศลจิตถ้าเกิดร่วมกับกุศลเจตสิกก็เกิดกับกุศลจิต
ทั้งสติ สัมปชัญญา และสมาธิ เป็นตัวจริงของธัมมะคนละประเภทไม่ใช่ตัวตนคนสัตว์วัตถุแต่เป็นธัมมะแต่ละ1
:b12:
:b32: :b32:
https://youtu.be/mxAWY8bzx5M



ที่พูดมาทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งโน้นทั้งเพมันก็คนนั่นแหละ คิกๆๆ แต่บางตัวต้องมีการฝึกต้องอบรมต้องเจริญจึงเกิดมีได้ มิใช่ยกมือไหว้อ้อนวอนร้องขอแล้วเกิดขึ้น ต้องลงมือฝึกอบรมต้องภาวนานั่นเอง

:b1:
ติดข้องต้องการตอบคือธัมมะประเภทอกุศลค่ะเข้าใจไหมคะ
:b32:
ยึดถือธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่าเป็นคนมีตัวตนอยากตอบเป็นโลภะเป็นอกุศลค่ะ
:b32:
ตัวจริงธัมมะแต่ละ1ที่กำลังทำงานตามเหตุตามปัจจัยเกิดแล้วดับแล้วหลงว่ามีเราพิมพ์ใหญ่เลย555
:b32: :b32: :b32:

ปานได๋สิฮู้จักฟังน้อ
แปลว่า
เมื่อไหร่จะรู้จักฟังหนอ
:b13:
:b32: :b32:



ต้องเลิกฟังแม่สุจิน


ขวนขวายด้วยความมีตัวตนเป็นอกุศลคือมิจฉาทิฏฐิไงคะจะไปรู้ตัวตอนหนายยยยยจ๊ะะะะะ
พระอานนท์มีสมุดจดไหมเวลาฟังตถาคตตรัสแสดงพระธรรมคำสอนจดถูกตามได้อยู่ที่จิตเท่านั้น

:b32: :b32:


ที่มีตัวตนคิดว่าจะไปทำอะไรอะไรได้อยู่นั่นแหละคือกิเลสซ้อนกิเลสอีกที
กิเลสเป็นภาษาบาลีแปลว่าไม่รู้...มีตัวตนไปทำคือมีไม่รู้และไม่รู้ว่าตัวตนนั้นไม่มี
:b16: :b16: :b16:

:b8:

ไม่ยึดในตัวตน ไม่มีตัวตน แต่ยึดติดการหัว
เราะเยาะเย้ยคนอื่นทุกวันนี้หรือ ผู้มีสติ ปัญญา
มีเมตตาครับ

:b8:

cool
เมื่อไหร่จะฉลาดขึ้น
บอกว่าธัมมะจริงๆ
ตรงปัจจุบันขณะ
อยู่ที่กายใจตนเอง
พูดคือคิดออกเสียง
คิดคือพูดไม่ออกเสียง
สัจจะนั้นไม่ใช่ความคิด
:b12:
ยังไงๆชาตินี้ก็มีตัวตนอยู่มีจิตด้วยค่อยๆฟังไม่ต้องรีบไปไหนค่ะ
ยึดถือขันธ์ทั้ง5ว่าเป็นเรามีตัวตนไปทำโน่นนี่นั่นอยู่ยังไงคะ
ตายแล้วย้อนกลับมาเริ่มต้นฟังไม่ได้น๊ามีแต่เริ่มฟังทันที
เพราะกระพริบตาเป็นจิตขณะใหม่ทั้งหมดในสังสารวัฏฏ์
https://youtu.be/IHdKbM5pEgU
:b13:
:b32: :b32:



กาย

เวทนา

จิต

ธรรมารมณ์

นั่งกระพริบตาไปขอรับ

คนส่งไม่ได้เยาะเย้ยเพราะไม่มีใคร
มีแต่ธัมมะหลากหลายตามการสะสม
จะเริ่มสะสมปัญญาก็เริ่มที่ฟัง
ทุกคลิปที่ส่งให้ฟังนั้นน่า
คนส่งกำลังฟังอยู่จร้า
คนฟังอารมณ์ดีก็ขำๆ
จะให้ส่งรูปร้องไห้หรือคะ
เบิกบานที่เข้าใจความจริงตามคำสอนไงคะ
:b12:
:b17: :b17:

:b8:

แต่การขำ การหัวเราะนั้นก็ต้องดูว่าเหมาะ
สมกับเหตุการณ์ สะถานที่หรือไม่ มิควรขำหรือ
หัวเราะแบบพร่ําเพรื่อนั้นดูไม่งาม ดูเหมือนไม่มีสติ
ขาดปัญญานะครับ

:b8:

ปรุงโทสะคือกิเลสตัวเองให้มีกำลังแรงขึ้นดับสะสมไปเก็บในจิตแล้วทำให้ตัวเองขุ่นใจเองใครจะช่วยได้ล่ะคะ

:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2019, 19:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

อ้างคำพูด:
ปรุงโทสะคือกิเลสตัวเองให้มีกำลังแรงขึ้นดับสะสมไปเก็บในจิตแล้วทำให้ตัวเองขุ่นใจเองใครจะช่วยได้ล่ะคะ

:b32: :b32:


เหรอครับ แต่โทสะนั้นเกิดขึ้นเร็ว ดับได้เร็วได้
ง่ายกว่า โมหะนะครับ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2019, 19:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ตัวเองก็ปรุงกิเลสของตัวเอง
มันทุกข์เพราะมาปรุงตาม
กิเลสคนอื่นให้กิเลสตนเองแรงขึ้น
แล้วก็ดับที่จิตตนเองเดี๋ยวนนี้แหละ
กำลังมีมิจฉาทิฏฐิแปลว่าความเห็นผิด
เวลากิเลสเกิดแยกประเภทได้2แบบ
1โลภะ+โมหะ
2โทสะ+โมหะ
:b32:
ขาดโมหะสักขณะไหมคะชอบคือโลภะ+โมหะ/ไม่ชอบคือโทสะ+โมหะพิจารณาสิคะกิเลสทั้ง2ประเภท
:b12:
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2019, 19:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ตัวเองก็ปรุงกิเลสของตัวเอง
มันทุกข์เพราะมาปรุงตาม
กิเลสคนอื่นให้กิเลสตนเองแรงขึ้น
แล้วก็ดับที่จิตตนเองเดี๋ยวนนี้แหละ
กำลังมีมิจฉาทิฏฐิแปลว่าความเห็นผิด
เวลากิเลสเกิดแยกประเภทได้2แบบ
1โลภะ+โมหะ
2โทสะ+โมหะ
:b32:
ขาดโมหะสักขณะไหมคะชอบคือโลภะ+โมหะ/ไม่ชอบคือโทสะ+โมหะพิจารณาสิคะกิเลสทั้ง2ประเภท
:b12:
:b16: :b16:

:b8:

พูดเหมือนจะทำง่าย แต่ก็ยังละสิ่งที่คิดว่าง่ายๆ
ก็ยังทำไม่ได้เลย แต่ก็อนุโมทนา ในสิ่งที่เป็นกุศลนะครับ

การฟังนั้นง่าย กว่าการอ่านทั้งได้ฟังด้วย
การปฏิบัติได้นั้นยากที่สุด

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 55 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 49 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร