ยิ่งไปกว่านั้น กรรมที่ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจนเป็นนิสัยสันดาน ทางวิชาแพทย์ก็พิสูจน์ได้ว่าสามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้ กล่าวคือ ผู้ที่ทำกรรมดี ใจ หรือ จิต หรือ วิญญาณ ก็จะดีไปด้วย

จิตนั้นเปรียบเสมืยนเมล็ดพืชพันธุ์ เมล็ดของพันธุ์ชนิดใดก็เป็นต้น และเป็นพันธุ์ชนิดนั้น จะเป็นอื่นไปไม่ได้

ส่วนสมองเปรียบเหมือนดิน ฉะนั้น ถ้าสมองดี ความจำดี ก็เหมือนดินดี ต้นไม้พันธุ์ดีจากเมล็ดพันธุ์นั้นก็จะยิ่งเจริญงอกงาม ให้ดอกให้ผลที่ดีงามสืบต่อไป

ฉะนั้น ท่านจงสร้างแต่กรรมที่ดีไว้ให้มากๆเถิด ไม่ไปไหนเสีย
ผลไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น ฉันใด กรรมดีพันธุ์ดีนั้น ย่อมอยู่ใกล้ท่าน สามารถถ่ายทอดให้ลูกหลานของท่านได้ ฉันนั้น

ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ผู้เขียนเชื่อในเรื่อง ”กฎแห่งกรรม” ซึ่งเป็นหลักวิทยาศาสตร์ ของวิชาธรรมชาติวิทยา โดยแท้ ดังที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงล่วงรู้ด้วยญาณ สั่งสอนสาวกถ่ายทอดเป็นอมตะตลอดมาจนตราบเท่าทุกวันนี้

ต่อ

viewtopic.php?f=1&t=56974

ทำอย่างไรจึงจะมีชีวิตยืนยาวและมีความสุข
ต้องรู้สิ่งอันเป็นประโยชน์ สิ่งอันเป็นโทษ
ต้องมีฉันทะในสิ่งที่มีประโยชน์ ละฉันทะในสิ่งที่มีโทษ
ต้องมีวิริยะเพียรทำสิ่งที่มีประโยชน์ เพียรละสิ่งที่มีโทษ
ต้องมีจิตตะ ตั้งมั่นอยู่กับสิ่งที่เป็นประโยชน์ ไม่เผลอไปกับสิ่งที่เป็นโทษ
ต้องมีวิมังสา สอดส่อง ประครองไว้ ไม่ให้ย่อหย่อนเกินไป ไม่ให้เยอะจนเกินไป
แม้สิ่งเป็นประโยชน์ถ้าเยอะเกินพอดี ก็กลับกลายเป็นโทษ

ชีวิตเป็นสิ่งไม่ยั่ง ความสุขเป็นสิ่งไม่ยืน มีสติไม่หลงลืม
ก็ชื่อว่าผู้มีปัญญา

สิ่งที่เป็นประโยนช์นั้นอีกนัยหนึ่งก็มี ๒ ประเพศ
คือสิ่งดีภายใน และสิ่งดีภายนอก ภายในก็คือความ
ขยันหมั่นเพียร ความอดทน ความอดกลั้น สัจจะ หิริโอตตัปป
ศีล สติ สมาธิ ปัญญา.....ส่วนสิ่งดีภายนอกนั้นก็คือข้าวของ
เครื่องใช้ของกินของดื่มต่างๆ ตลอดถึงสัตว์ บุคคล

ขอบคุณที่ช่วยขยายความครับ
สรุปโดยย่อคือเจริญสติ

ทุกคนช่วยกัน สังคม และโลกคงสงร่มเย็นเป็นสุขแน่นอน