วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 06:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 482 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 18, 19, 20, 21, 22, 23, 24 ... 33  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2019, 05:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
คุณโรสเอ้ย....อ่านเอง..ฟังเสียงเอง..ได้มั้ย?


Rosarin เขียน:
ปรโตโฆสะคืออะไรไปทบทวน
ปัญญาตนเองเกิดตอนฟังแล้วรู้สึกตรงที่ตัวตนกำลังมีตามเสียงตรงทางหนึ่งทางใดทางเดียวไม่ใช่เห็นปนคิด
มีปัญญาพอไหมก็บอกว่าสีกระทบจักขุปสาทะดับในตาดำไม่มีตัวอักษรนอกตาไงคะงมกะตัวอักษรเชื่อตำรา
ความรู้สึกตัวตรงตามเสียงคือสติปัญญารู้ชัดในความมืดตรงตามเสียง/เมาตัวอักษรที่เห็นคือความคิดเห็นผิด
:b32: :b32:

กบนอกกะลา เขียน:
แล้ว...คนที่ไปฟังคนเมาตัวอักษร..ที่เห็นคือความคิดเห็นผิด..พูด...ละคุณโรส...คนฟังเสียงจะเห็นธรรมมั้ย?


Rosarin เขียน:
:b32:
คิดเห็นที่กำลังเห็นตรงตามเสียงตรงจริงที่ตาตนเองกำลังเห็นอยู่นี้แหละค่ะ
นะคะ...คิดให้มันตรงความจริงตรงที่ลืมตาดูว่างี้นะ...จิตเห็นสี1สีดับทันทียังไม่มีจิตคิดนึก
เห็นสีดับแล้วมืด...เดี๋ยวนี้ตาของกบเห็นอะไร...แค่สีไหมหรือว่ามันเลยสีคือมีครบ6ทางไปแล้วคะที่ตัวครบ
เห็นสีหรืออักษร...เห็นสี1สีคือคิดเห็นถูก...เห็นตัวอักษรคือคิดเห็นผิด...ทำอะไรได้ไหม...เห็นผิดไปแล้วน๊า
:b32: :b32:


เลิกพิมพ์..ซะเถอะ..คุณโรส..
.ก็เป็นคนพูดเองนี้นาว่า.."เห็นตัวอักษรคือคิดเห็นผิด...ทำอะไรได้ไหม...เห็นผิดไปแล้วน๊า"
:b32: :b32: :b32:

เลิกพิมพ์..ไปซะ :b32: :b32: :b32:

cool
ไม่เข้าใจความเป็นปกติตามปกติของจิตตามปกติจิตในภพภูมิมนุษย์เหรอคะกบ
ก็บอกแล้วว่าไม่ใช่พระพุทธเจ้าที่สิ้นกิเลสแล้วไม่ได้เห็นเพียงสีตรงตามที่พระองค์บอก
เห็นเป็นกิเลสแล้วตั้งแต่จิตดับไปเพียง3ขณะยังดับไม่ครบ6ทางเลยกะพริบตามันเกิน6ขณะไง
ที่ลืมตาอ่านตามตัวอักษรคือยึดติดตำราไม่เข้าใเหรอเห็นสีล้วนสีเดียวไม่ว่าสีอะไรก็เหมือนกระดาษเปล่า
ก็ทำได้แค่บอกไงว่าเห็นผิดแล้วจะคิดเห็นถูกตามคำสอนได้ตอนที่กำลังฟังไม่ใช่ตอนอ่านไม่เข้าใจเลยเหรอ
ก็บอกว่าอ่านมันคือจิตคิดนึกมันเกินจิตเห็นตรงขณะเป็นสัญญาตีความตัวอักษรงมตีความอยู่นั่นแหละรู้เปล่า
การฟังในภาษาชาติตัวเองตรงความหมายของเสียงที่มีตัวจริงธัมมะกำลังปรากฏตรงกับเสียงคำตรงสัจจะ
แล้วคิดถูกตามได้เรียกว่าฟังแล้วเกิดสัมมาได้ตรงทางตรงสัจจะทีละ1ลักษณะคือเกิดสัมมามรรคไงคะ
แปลว่ามีสภาพธัมมะตรงทางที่กำลังปรากฏว่ากำลังมีแล้วตรงตามเสียงทำให้คิดได้จึงรู้สึกตัวตามได้ไงคะ
จิตเห็นทำให้เกิดกิเลสเดี๋ยวนี้เลยและจิตได้ยินคือที่เกิดของสติปัญญาตอนคิดถูกตามเสียงตรงความจริง
ของสิ่งที่กำลังเห็นทำให้รู้สึกตัวสำนึกได้ว่ากำลังเห็นผิดคลาดเคลื่อนจากสีคือคิดไม่ตรงมัวแต่ตีความอยู่ไง
ที่เขียนเนี่ยนะคือการเล่าเพื่อบอกว่ากำลังเห็นผิดคิดผิดอยู่เพราะไม่ได้กำลังทำฟังไงกำลังเห็นผิดเกิน1สีไงคะ
:b32: :b32: :b32: :b32:
จะแยกตัวตนออกไปรู้สึกตัวตอนไหนเดี๋ยวนี้กำลังมีตัวและตาก็ไม่บอด...สีดับตรงที่ผัสสะกระทบที่ตาดำ
ตาตัวเองกำลังบิดเบือนคำสอนอยู่ไม่เห็นหรือมีตัวอักษรสีดำตัดกับกระดาษสีขาวคือเห็นเกิน1สีถูกไหม
เนี่ยแหละเรียกตามภาษาบาลีว่ามิจฉาทิฏฐิแปลไทยว่ากำลังคิดเห็นผิด...จิตเห็นสีดับตรงตาทันทีมืดแล้วมืด?
:b13:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2019, 06:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
คุณโรสเอ้ย....อ่านเอง..ฟังเสียงเอง..ได้มั้ย?


Rosarin เขียน:
ปรโตโฆสะคืออะไรไปทบทวน
ปัญญาตนเองเกิดตอนฟังแล้วรู้สึกตรงที่ตัวตนกำลังมีตามเสียงตรงทางหนึ่งทางใดทางเดียวไม่ใช่เห็นปนคิด
มีปัญญาพอไหมก็บอกว่าสีกระทบจักขุปสาทะดับในตาดำไม่มีตัวอักษรนอกตาไงคะงมกะตัวอักษรเชื่อตำรา
ความรู้สึกตัวตรงตามเสียงคือสติปัญญารู้ชัดในความมืดตรงตามเสียง/เมาตัวอักษรที่เห็นคือความคิดเห็นผิด
:b32: :b32:

กบนอกกะลา เขียน:
แล้ว...คนที่ไปฟังคนเมาตัวอักษร..ที่เห็นคือความคิดเห็นผิด..พูด...ละคุณโรส...คนฟังเสียงจะเห็นธรรมมั้ย?


Rosarin เขียน:
:b32:
คิดเห็นที่กำลังเห็นตรงตามเสียงตรงจริงที่ตาตนเองกำลังเห็นอยู่นี้แหละค่ะ
นะคะ...คิดให้มันตรงความจริงตรงที่ลืมตาดูว่างี้นะ...จิตเห็นสี1สีดับทันทียังไม่มีจิตคิดนึก
เห็นสีดับแล้วมืด...เดี๋ยวนี้ตาของกบเห็นอะไร...แค่สีไหมหรือว่ามันเลยสีคือมีครบ6ทางไปแล้วคะที่ตัวครบ
เห็นสีหรืออักษร...เห็นสี1สีคือคิดเห็นถูก...เห็นตัวอักษรคือคิดเห็นผิด...ทำอะไรได้ไหม...เห็นผิดไปแล้วน๊า
:b32: :b32:


เลิกพิมพ์..ซะเถอะ..คุณโรส..
.ก็เป็นคนพูดเองนี้นาว่า.."เห็นตัวอักษรคือคิดเห็นผิด...ทำอะไรได้ไหม...เห็นผิดไปแล้วน๊า"
:b32: :b32: :b32:

เลิกพิมพ์..ไปซะ :b32: :b32: :b32:


Rosarin เขียน:
cool
ไม่เข้าใจความเป็นปกติตามปกติของจิตตามปกติจิตในภพภูมิมนุษย์เหรอคะกบ
ก็บอกแล้วว่าไม่ใช่พระพุทธเจ้าที่สิ้นกิเลสแล้วไม่ได้เห็นเพียงสีตรงตามที่พระองค์บอก
เห็นเป็นกิเลสแล้วตั้งแต่จิตดับไปเพียง3ขณะยังดับไม่ครบ6ทางเลยกะพริบตามันเกิน6ขณะไง
ที่ลืมตาอ่านตามตัวอักษรคือยึดติดตำราไม่เข้าใเหรอเห็นสีล้วนสีเดียวไม่ว่าสีอะไรก็เหมือนกระดาษเปล่า
ก็ทำได้แค่บอกไงว่าเห็นผิดแล้วจะคิดเห็นถูกตามคำสอนได้ตอนที่กำลังฟังไม่ใช่ตอนอ่านไม่เข้าใจเลยเหรอ
ก็บอกว่าอ่านมันคือจิตคิดนึกมันเกินจิตเห็นตรงขณะเป็นสัญญาตีความตัวอักษรงมตีความอยู่นั่นแหละรู้เปล่า
การฟังในภาษาชาติตัวเองตรงความหมายของเสียงที่มีตัวจริงธัมมะกำลังปรากฏตรงกับเสียงคำตรงสัจจะ
แล้วคิดถูกตามได้เรียกว่าฟังแล้วเกิดสัมมาได้ตรงทางตรงสัจจะทีละ1ลักษณะคือเกิดสัมมามรรคไงคะ
แปลว่ามีสภาพธัมมะตรงทางที่กำลังปรากฏว่ากำลังมีแล้วตรงตามเสียงทำให้คิดได้จึงรู้สึกตัวตามได้ไงคะ
จิตเห็นทำให้เกิดกิเลสเดี๋ยวนี้เลยและจิตได้ยินคือที่เกิดของสติปัญญาตอนคิดถูกตามเสียงตรงความจริง
ของสิ่งที่กำลังเห็นทำให้รู้สึกตัวสำนึกได้ว่ากำลังเห็นผิดคลาดเคลื่อนจากสีคือคิดไม่ตรงมัวแต่ตีความอยู่ไง
ที่เขียนเนี่ยนะคือการเล่าเพื่อบอกว่ากำลังเห็นผิดคิดผิดอยู่เพราะไม่ได้กำลังทำฟังไงกำลังเห็นผิดเกิน1สีไงคะ
:b32: :b32: :b32: :b32:
จะแยกตัวตนออกไปรู้สึกตัวตอนไหนเดี๋ยวนี้กำลังมีตัวและตาก็ไม่บอด...สีดับตรงที่ผัสสะกระทบที่ตาดำ
ตาตัวเองกำลังบิดเบือนคำสอนอยู่ไม่เห็นหรือมีตัวอักษรสีดำตัดกับกระดาษสีขาวคือเห็นเกิน1สีถูกไหม
เนี่ยแหละเรียกตามภาษาบาลีว่ามิจฉาทิฏฐิแปลไทยว่ากำลังคิดเห็นผิด...จิตเห็นสีดับตรงตาทันทีมืดแล้วมืด?
:b13:
:b32: :b32:


ยังจะพิมพ์อยู่อีกหรือ..?..ก็ในเมื่อตัวคุณโรสเองบอกว่า..
"เห็นตัวอักษรคือคิดเห็นผิด...ทำอะไรได้ไหม...เห็นผิดไปแล้วน๊า"
ยังจะพิมพ์...ให้คนอื่นเห็นผิดอีก..ทำไม?..
:b9: :b9: :b9:

ถ้า..ยังจะพิมพ์อีก..แสดงว่า..คุณโรสเองก็ไม่ได้คิดอย่างที่ตัวเองพิมพ์..ดั่งว่า..จริงจริง.. :b13: :b13:

เรียกว่า..พูดเอง ขัดแย้งตัวเองไปในตัว..

รึไม่ ก็เรียกว่า..เกลียดปลาไหลแต่ก็ยังกินน้ำแกง..

รึจะเรียกว่า..ปากอย่างใจอย่าง...

:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2019, 13:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
Rosarin เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
Rosarin เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ผัสสะตรงจริงตรงที่กระทบตรงทางของจิตเห็นคือลืมตาดูมีแสง+สี1สีพุ่งชนจักขุปสาทะดับที่ตาทันทีไม่เจ็บ
เพราะเป็นการกระทบของสีที่มหาภูตรูปภายนอกสะท้อนแสงเข้าตากับจักขุปสาทะภายในตาดำมีระยะห่าง
ถ้าเป็นหินกระเด็นเข้าตาเป็นมหาภูตรูปภายนอกกายชนกับมหาภูตรูปบริเวณตาโดยตรงแข็งกระทบแข็งเจ็บ
มหาภูตรูปมองเห็นด้วยตาไม่ได้จะรู้ว่ามีสัณฐานที่ตั้งเมื่อกายเราไปกระทบคือจับสัมผัสแตะต้องทีละ1ธาตุค่ะ
onion onion onion

:b35:
ผัสสะ คืออะไรหราป้า ผัสสะเป็นตัวยังไง เห็นผัสสะนี่เห็นยังไงอะครับป้า มีรูปร่างหน้าตายังไง หรือมีลักษณะแบบไหน ป้าเคยเห็นจริงของผัสสะมั้ยครับ


ที่ถามน่ะแปลว่าไม่รู้เพราะผู้รู้คือปัญญารู้ละตัวตนจึงรู้ละกิเลสอวิชชาได้เพื่อตามรู้ตรงจริงที่กำลังปรากฏ
ผู้รู้แจ้งเห็นจริงกระทบตรงไหนก็รู้ตรงนั้นแล้วก็ดับคนทั้งตัวแล้วทันทีตรงนั้นเองทันทีทันสัก1สัจจะไหมล่ะคะ
:b20:
:b16: :b16:



สรุปตอบไม่ได้ใช่ไหมครับ


ผมถามอย่าง ป้าตอบอย่าง ตอบไม่ตรง

ผัสสะ คืออะไรเหรอป้า ผัสสะเป็นตัวยังไง เห็นผัสสะนี่เห็นยังไงอะครับป้า มีรูปร่างหน้าตายังไง หรือ มีลักษณะแบบไหน ป้าเคยเห็นจริงของผัสสะมั้ย

ตอบไม่ได้ใช่มะ

ผัสสะยังตอบไม่ได้เลยเป็นยังไง จะไปรู้สีได้ไง

สีแรกที่เกิดดับเป็นยังไงก็คงรู้ไม่ได้ ถ้าไม่เจอผัสสะจริงๆ แล้วจะเพ้อเพิ่ออะไร นั่นแหละไม่เคยเห็นก็ตอบแบบเลี่ยงๆเฉียงๆ แต่ผมบอกได้นะ สังเกตุไหมคนที่เห็นจริงเขาจะเคารพพระรัตนตรัย ไม่หมิ่นแม้น้อยนิด กรรมน้อยนิดก็จะไม่ปล่อยเลยไป บุญแม้น้อยนิดก็จะเก็บเกี่ยวเอา

แม้ตอนนี้ผมก็ยังไม่เห็นอะไรเป็หลักแหล่งของป้าได้เลย ไม่เคยตอบตรงคำถามเอาแต่อ้างตำราแล้วคิดตาม นี่ไม่เคยเห็นประโยชน์กับป้าเลย



การที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่าโยนิโสนสิการ ไม่ได้แปลว่าน้อมมาสู่ตน แต่เป็นการเข้าไปเห็นจริงของจริง แล้วพิจารณาว่ามันคืออะไร เป็นยังไง ที่รู้เห็นอยู่นี้มีลักษณะอย่างไร การเอาใจเข้ายึดครอง(หลง) เป็นคุณ หรือ โทษ สุข หรือทุกข์ ไม่ใช่ไปอ่านตำราแล้วมาคิดตาม กามลามสูตรก็มีสอน แล้วที่ป้าอ้างกาลามสูตรมาก็เพราะป้ามันของปลอมไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับกาลามสูตรเลย เอาแค่เชื่อตามๆกันมาโม้

คนที่เขารู้เขาจะตอบตรงๆเลย เช่น..


- ผัสสะ.. ที่ปุถุชนจะเข้าไปรู้เห็นได้ด้วยอำนาจสมาธิ มีอาการที่กระเทือนใจให้กระเพื่อม กระตุ้นให้ใจตื่นไหวเข้ารู้ความรู้สึกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น มีอะไรพุ่งเข้ามาให้จิตรู้ มีอะไรเปลี่ยนไป มีอะไรผ่านมา มีอะไรเพิ่มมา หรือมีอะไรที่แปลกปลอมเข้ามาจากสภาวะธรรมที่จิตเป็นอยู่ เพื่อให้จิตรู้อารมณ์ที่จรมา (ตื่นไหว ตื่นตัวรู้ ..ไม่ใช่ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานในพุทโธ)
- สี.. ที่ปุถุชนะพอจะรู้ได้จากผัสสะในสีขณะแรกที่เห็นด้วยอำนาจสมาธิ แรกเริ่มมีแต่แสงแวบหนึ่งปรกติใสแวบ อุปมาเหมือนฟ้าแลบเป้นมีขาวนวลสว่าง หรือประกายไฟฟ้าที่สปาร์กที่ดูไม่ออกว่าสีอะไรรู้ว่าตาเห็นจากปสาทตานี้แล้วก็ดับ ส่งต่อมาโดยความเจตนาหมายรู้อารมณ์ เป็น สัญญา(จำ) เวทนา(รู้สึก)โดยสัญญา ความจำได้ในสิ่งนั้นโดยสัญญา สังขารปรุงแต่งติด ส่งมาให้ใจรู้จึงเป็น..สี เมื่อเกิดต่อๆกันจึงเป็นสัณฐานรูปร่าง
- เสียง.. ที่ปุถุชนะพอจะรู้ได้จากผัสสะในเสียงขณะแรกที่เห็นด้วยอำนาจสมาธิ แร่งเริ่มมีแต่ความอึกทึกสั่นสะเทือนจิตให้รู้ มีอาการที่แผ่คลื่นออกเป็นวงขยายออกที่สั่นสะเทือนให้จิตรู้ ไม่มีเสียงสูง ไม่มีเสียงต่ำ มีแต่การอาการที่สั่นสะเทือนจิต อึกทึกกึกก้องแผ่เป็นวงขยายออกสั่นสะเทือนให้จิตรู้

ดังนี้ต่อให้ตอบผิดก็ชื่อว่าตอบตรงคำถาม แม้ผิดมีคนแนะนำให้รู้ยิ่งๆขึ้นก็ยิ่งดีไปใหญ่ ไม่ใช่กลัวว่าตนเองจะต่ำจะโดนข่ม เพราะคนที่ข่มคน คนนั้นแหละที่เขาไม่ถึงธรรมเลยต่ำกว่าคนที่โดนข่มเสียอีกเพราะขายกิเลสตนเองเต็มๆแต่กล่าวอ้างธรรมสูงธรรมบรรลุ อ้างพระพุทธเจ้า อ้างพระสงฆ์ ดังนั้นหากเราไม่รู้ก็บอกไม่รู้ ขอคำแนะนำเราก็รู้มากขึ้น รู้ให้มากอย่างพระราหุลเถระ และพระอานนท์เถระ

ทุกสิ่งทุกอย่างผมรู้เห็นได้จากการปฏิบัติแต่ไม่เอามาโม้ แล้วผมปฏิบัติอะไรมาล่ะ ผมก็ปฏิบัติเจริญใน ทาน ศีล ภาวนา ทำสมาธิหลับตานี้แหละ ไม่หมิ่นคุณท่าน ไม่ทำอกุศลให้เกิดขึ้น ละอกุศลที่มีอยุ่แล้ว ทำกุศลให้เกิดขึ้น คงกุศลไว้ไม่ให้เสื่อมตามสติกำลังที่ตนจะพึงทำได้ เมื่อถึงจุดมันเต็มลืมตาเดินอยู่ก็เห็น มันไม่มีหริอกเสียงสูงเสียงต่ำ สิ่งนี้มันเอาบัญญัติมาทำสัญญากันตามแนวทางสายท่องจำของป้าเท่านั้น ของจริงที่รู้มันต่างกันมาก ถ้าไปแบบสุกขวิปัสโก สะสมอย่างนี้ทำอย่างนี้ไปได้ไม่ยากเลย

..ถึงบอกว่าให้ป้าเอามาโม้เท่าไหร่มันก็ของปลอม พระอภิธรรมสิ่งที่อยู่สูงแล้ว แต่ป้าเอามาทำเป็นของปลอมคิดเอาคิดตามแต่ไม่ใช่คิดจากเห็นจริง นี่มันผิดแล้ว บิดเบือนเอาแล้วป้า


** ต่อให้ ขณิกสมาธิ อุปจาระสมาธิ อัปปนาสมาธิ มันก็คือสมาธิ สมาธิทำให้จิตมีกำลังเข้าไปรู้จริง คุณอีกอย่างมันทำให้สุข สุขที่เนื่องด้วยใจแท้ๆ ผู้ปฏิบัติเขาไม่ติดสุข เพราะมันแค่ธัมมารมณ์ คนเขาเห็นจริงเขาจะไม่โม้พร่ำเพ้อ จะกล่าวแต่เหตุสะสมที่ทำให้เข้าไปเห็นจริงได้ ตรงตามพระพุทธเจ้าตรัสสอนทุกอย่าง ให้สะสมเหตุให้ตนรู้จึงไปบอกคนอื่น ตนรู้ไม่ได้ไปบอกคนอื่นก็จะเป็นแบบป้านี่แหละที่พูดได้แต่เดิม ตอบเอียงๆเฉียง

ดังนั้นพุทโธประจำไม่ขาด อย่าอ้างพระพุทธเจ้ามั่วกับของปลอมตน
ดังนั้นพุทโธไม่ขาดน้อมนึกถึงคุณความเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ดังนั้นน้อมนึกถึงพระธรรมของพระพุทธเจ้าว่าควรแก่การโอปนะยิโก คือ น้อมมาสู่ตน ผู้ปฏิบัติย่อมเห็นผลได้ รู้ได้ไม่จำกัดกาล
ดังนั้นน้อมนึกถึงพระสงฆ์ เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ผู้ปฏิบัติตรงแล้วตามพระพุทธเจ้าตรัสสอน ผู้อุทิศตนเผยแพร่พระพุทธศาสนานำพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาสู่เราให้เราได้รู้ตาม เช่น ระลึกถึงครูบาอาจารย์ ระลึกถึงปฏิปทาที่ท่านมี คำสอนที่ท่านสอน นึกถึงความบริสุทธิ์ของท่าน ความบริสุทธิมีแค่ไหนธาตุขันธ์ท่านจะฟ้องตัวท่านเองไม่ต้องไปป่าวประกาศหรือให้ใครรับรอง
ดังนั้นระลึกถึงคุณพ่อแม่บุพการีของตน ผู้ให้คุณบอกโลกแก่เรา ผู้อุ้มชูเลี้ยงดูเราด้วยใจบริสุทธิ์ต่อเรา มีความเอื้อเฟื้อ เกื้อกูล เว้นจากความเบียดเบียนต่อเรา (ถ้าป้ามีพ่อแม่ บุพการี จะไม่ก้าวล่วงพ่อแม่บุพการีผู้อื่นจะรู้คุณ หากยังก้าวล่วงก็แสดงว่าพ่อแม่ป้าเป็นดั่งที่ไปว่าเขาจึงทำให้ป้าลามปามพ่อแม่คนอื่นอย่างนั้น ดังนี้ควรละเสีย นึกถึงมงคล ๓๘ ประการ ข้อนั้นคือ เทวตานุสสติเลยล่ะ)
ทำทานให้มาก
รักษาศีลให้ตนเองเย็นใจ จิตมันเบา สบาย ไม่หน่วงตรึงฟุ้งซ่าน ไม่คิดอกุศล นี่คือ..ศีลอันเป็นไปเพื่อสมาธิ


ทำสมาธิให้มากอย่าขายโง่ตนเองให้มาก ป้าจะเสื่อมเสียเอง การทำสมาธิไม่ใช่ของยาก จะลืมตาหลับตาระลึกพูดโธคู่ลมหายใจตลอดเวลา เหมือนอัญเชิญองค์พระท่านเข้ามาสถิตย์ในใจของเราให้เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานตามองค์พระท่าน พุทโธนี้มีคุณมาก ไม่ใช่เข้าได้เพียงอุปจาระสมาธิ แต่พุทโธเป็นกิริยาของจิต จิตเป็นหุทโธเมื่อไหร่ ก็ได้ชื่อว่า เข้าถึงพระอริยะสัจ ๔ น้อมเข้าสู่องค์มรรคที่เป็นอนาสวะ

ถึงป้าต่อล้อต่อเถียงกระทู้ที่ผมบอกก็ไม่เกินที่จะอ้างตำราแล้ว ทีละสี ทีละ 1 หรือทีละเสียง ทีละหนึ่ง ไม่มีเกินนี้

ดังนั้นกลับมาเริ่มนับ 0 ใหม่ ทำสะสมเหตุไปถวายเป้นพุทธบูชา ธรรมะบูชา สังฆะบูชา พ่อแม่บุพการีบูชา ครูอุปัชฌาย์อาจารย์บูชา แล้วแผ่บุญนั้นให้พ่อแม่ ญาติมิตร เจ้ากรรมนายเวร อาการคันยุบยิบๆของป้าจะหายไป ถึงจิตตั้งมั่นดีนักแล..ด้วยประการฉะนี้ ส่วนการจะท่องจำอภิธรรมก็ท่องจำไป แต่ทำให้รู้แค่ว่ามันเป็นแบบไหน แล้วเราจะทำให้เข้าถึงไปรู้เห็นตามให้ได้ มันจะเฆ้นเองตามจริงเลยป้า


:b12:
เดี๋ยวนี้กำลังเห็นเป็นปัจจุบันอยู่...ตาไม่บอดลืมตาดูไม่ชัดเลยอุตริไปหลับตาดูจะเห็นแจ้งเป็นไปได้ไหม
คำว่าเห็นแจ้งคือแจ้งตาตอนลืมตา...ตื่นรู้แจ้งไหนลองบอกมาซิว่าปัจจุบันเห็นคนอยู่ไหมนอกตาใช่ไหม
ก็ผัสสะของสีที่จิตเห็นเกิดที่ตาเนื้อตอนลืมตาดูมีแสง+สีสะท้อนเข้าตาดับในตาดำมืดแล้วมีคนนอกตาดำหรือ
:b32: :b32:



ขายโง่ตนเองอีกแล้วนะป้า :b32: :b32: :b32:

จิตทั้ง6ทางกำลังเกิดดับสลับกันไม่ซ้ำเก่า
กระพริบตาคือเห็น1ขณะใหม่ในสังสารวัฏฏ์
โง่ไหมแบบนี้ เห็น1สว่างทางตาแล้วคิดถึงสีในมืด
ที่เหลือมีจิตอีก5ทางหูจมูกลิ้นกายใจรู้สึกคิดนึกมืดสนิท
ตอนนี้กำลังคิดอยู่ไม่ใช่เหรอก็คิดนั้นมืด ตาไม่บอด ดูสิปกติมีมืดตอนไหน
ปกติมันเห็นผิดอยู่ที่มีมืดแค่ตอนกระพริบตาไงคะ...ภาษาบาลีเรียกว่ามิจฉาทิฏฐิแปลว่าความคิดเห็นผิดอิอิ
:b32: :b32: :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 05 ม.ค. 2019, 13:28, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2019, 13:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
Rosarin เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
Rosarin เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
Rosarin เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ผัสสะตรงจริงตรงที่กระทบตรงทางของจิตเห็นคือลืมตาดูมีแสง+สี1สีพุ่งชนจักขุปสาทะดับที่ตาทันทีไม่เจ็บ
เพราะเป็นการกระทบของสีที่มหาภูตรูปภายนอกสะท้อนแสงเข้าตากับจักขุปสาทะภายในตาดำมีระยะห่าง
ถ้าเป็นหินกระเด็นเข้าตาเป็นมหาภูตรูปภายนอกกายชนกับมหาภูตรูปบริเวณตาโดยตรงแข็งกระทบแข็งเจ็บ
มหาภูตรูปมองเห็นด้วยตาไม่ได้จะรู้ว่ามีสัณฐานที่ตั้งเมื่อกายเราไปกระทบคือจับสัมผัสแตะต้องทีละ1ธาตุค่ะ
onion onion onion

:b35:
ผัสสะ คืออะไรหราป้า ผัสสะเป็นตัวยังไง เห็นผัสสะนี่เห็นยังไงอะครับป้า มีรูปร่างหน้าตายังไง หรือมีลักษณะแบบไหน ป้าเคยเห็นจริงของผัสสะมั้ยครับ


ที่ถามน่ะแปลว่าไม่รู้เพราะผู้รู้คือปัญญารู้ละตัวตนจึงรู้ละกิเลสอวิชชาได้เพื่อตามรู้ตรงจริงที่กำลังปรากฏ
ผู้รู้แจ้งเห็นจริงกระทบตรงไหนก็รู้ตรงนั้นแล้วก็ดับคนทั้งตัวแล้วทันทีตรงนั้นเองทันทีทันสัก1สัจจะไหมล่ะคะ
:b20:
:b16: :b16:



สรุปตอบไม่ได้ใช่ไหมครับ


ผมถามอย่าง ป้าตอบอย่าง ตอบไม่ตรง

ผัสสะ คืออะไรเหรอป้า ผัสสะเป็นตัวยังไง เห็นผัสสะนี่เห็นยังไงอะครับป้า มีรูปร่างหน้าตายังไง หรือ มีลักษณะแบบไหน ป้าเคยเห็นจริงของผัสสะมั้ย

ตอบไม่ได้ใช่มะ

ผัสสะยังตอบไม่ได้เลยเป็นยังไง จะไปรู้สีได้ไง

สีแรกที่เกิดดับเป็นยังไงก็คงรู้ไม่ได้ ถ้าไม่เจอผัสสะจริงๆ แล้วจะเพ้อเพิ่ออะไร นั่นแหละไม่เคยเห็นก็ตอบแบบเลี่ยงๆเฉียงๆ แต่ผมบอกได้นะ สังเกตุไหมคนที่เห็นจริงเขาจะเคารพพระรัตนตรัย ไม่หมิ่นแม้น้อยนิด กรรมน้อยนิดก็จะไม่ปล่อยเลยไป บุญแม้น้อยนิดก็จะเก็บเกี่ยวเอา

แม้ตอนนี้ผมก็ยังไม่เห็นอะไรเป็หลักแหล่งของป้าได้เลย ไม่เคยตอบตรงคำถามเอาแต่อ้างตำราแล้วคิดตาม นี่ไม่เคยเห็นประโยชน์กับป้าเลย



การที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่าโยนิโสนสิการ ไม่ได้แปลว่าน้อมมาสู่ตน แต่เป็นการเข้าไปเห็นจริงของจริง แล้วพิจารณาว่ามันคืออะไร เป็นยังไง ที่รู้เห็นอยู่นี้มีลักษณะอย่างไร การเอาใจเข้ายึดครอง(หลง) เป็นคุณ หรือ โทษ สุข หรือทุกข์ ไม่ใช่ไปอ่านตำราแล้วมาคิดตาม กามลามสูตรก็มีสอน แล้วที่ป้าอ้างกาลามสูตรมาก็เพราะป้ามันของปลอมไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับกาลามสูตรเลย เอาแค่เชื่อตามๆกันมาโม้

คนที่เขารู้เขาจะตอบตรงๆเลย เช่น..


- ผัสสะ.. ที่ปุถุชนจะเข้าไปรู้เห็นได้ด้วยอำนาจสมาธิ มีอาการที่กระเทือนใจให้กระเพื่อม กระตุ้นให้ใจตื่นไหวเข้ารู้ความรู้สึกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น มีอะไรพุ่งเข้ามาให้จิตรู้ มีอะไรเปลี่ยนไป มีอะไรผ่านมา มีอะไรเพิ่มมา หรือมีอะไรที่แปลกปลอมเข้ามาจากสภาวะธรรมที่จิตเป็นอยู่ เพื่อให้จิตรู้อารมณ์ที่จรมา (ตื่นไหว ตื่นตัวรู้ ..ไม่ใช่ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานในพุทโธ)
- สี.. ที่ปุถุชนะพอจะรู้ได้จากผัสสะในสีขณะแรกที่เห็นด้วยอำนาจสมาธิ แรกเริ่มมีแต่แสงแวบหนึ่งปรกติใสแวบ อุปมาเหมือนฟ้าแลบเป้นมีขาวนวลสว่าง หรือประกายไฟฟ้าที่สปาร์กที่ดูไม่ออกว่าสีอะไรรู้ว่าตาเห็นจากปสาทตานี้แล้วก็ดับ ส่งต่อมาโดยความเจตนาหมายรู้อารมณ์ เป็น สัญญา(จำ) เวทนา(รู้สึก)โดยสัญญา ความจำได้ในสิ่งนั้นโดยสัญญา สังขารปรุงแต่งติด ส่งมาให้ใจรู้จึงเป็น..สี เมื่อเกิดต่อๆกันจึงเป็นสัณฐานรูปร่าง
- เสียง.. ที่ปุถุชนะพอจะรู้ได้จากผัสสะในเสียงขณะแรกที่เห็นด้วยอำนาจสมาธิ แร่งเริ่มมีแต่ความอึกทึกสั่นสะเทือนจิตให้รู้ มีอาการที่แผ่คลื่นออกเป็นวงขยายออกที่สั่นสะเทือนให้จิตรู้ ไม่มีเสียงสูง ไม่มีเสียงต่ำ มีแต่การอาการที่สั่นสะเทือนจิต อึกทึกกึกก้องแผ่เป็นวงขยายออกสั่นสะเทือนให้จิตรู้

ดังนี้ต่อให้ตอบผิดก็ชื่อว่าตอบตรงคำถาม แม้ผิดมีคนแนะนำให้รู้ยิ่งๆขึ้นก็ยิ่งดีไปใหญ่ ไม่ใช่กลัวว่าตนเองจะต่ำจะโดนข่ม เพราะคนที่ข่มคน คนนั้นแหละที่เขาไม่ถึงธรรมเลยต่ำกว่าคนที่โดนข่มเสียอีกเพราะขายกิเลสตนเองเต็มๆแต่กล่าวอ้างธรรมสูงธรรมบรรลุ อ้างพระพุทธเจ้า อ้างพระสงฆ์ ดังนั้นหากเราไม่รู้ก็บอกไม่รู้ ขอคำแนะนำเราก็รู้มากขึ้น รู้ให้มากอย่างพระราหุลเถระ และพระอานนท์เถระ

ทุกสิ่งทุกอย่างผมรู้เห็นได้จากการปฏิบัติแต่ไม่เอามาโม้ แล้วผมปฏิบัติอะไรมาล่ะ ผมก็ปฏิบัติเจริญใน ทาน ศีล ภาวนา ทำสมาธิหลับตานี้แหละ ไม่หมิ่นคุณท่าน ไม่ทำอกุศลให้เกิดขึ้น ละอกุศลที่มีอยุ่แล้ว ทำกุศลให้เกิดขึ้น คงกุศลไว้ไม่ให้เสื่อมตามสติกำลังที่ตนจะพึงทำได้ เมื่อถึงจุดมันเต็มลืมตาเดินอยู่ก็เห็น มันไม่มีหริอกเสียงสูงเสียงต่ำ สิ่งนี้มันเอาบัญญัติมาทำสัญญากันตามแนวทางสายท่องจำของป้าเท่านั้น ของจริงที่รู้มันต่างกันมาก ถ้าไปแบบสุกขวิปัสโก สะสมอย่างนี้ทำอย่างนี้ไปได้ไม่ยากเลย

..ถึงบอกว่าให้ป้าเอามาโม้เท่าไหร่มันก็ของปลอม พระอภิธรรมสิ่งที่อยู่สูงแล้ว แต่ป้าเอามาทำเป็นของปลอมคิดเอาคิดตามแต่ไม่ใช่คิดจากเห็นจริง นี่มันผิดแล้ว บิดเบือนเอาแล้วป้า


** ต่อให้ ขณิกสมาธิ อุปจาระสมาธิ อัปปนาสมาธิ มันก็คือสมาธิ สมาธิทำให้จิตมีกำลังเข้าไปรู้จริง คุณอีกอย่างมันทำให้สุข สุขที่เนื่องด้วยใจแท้ๆ ผู้ปฏิบัติเขาไม่ติดสุข เพราะมันแค่ธัมมารมณ์ คนเขาเห็นจริงเขาจะไม่โม้พร่ำเพ้อ จะกล่าวแต่เหตุสะสมที่ทำให้เข้าไปเห็นจริงได้ ตรงตามพระพุทธเจ้าตรัสสอนทุกอย่าง ให้สะสมเหตุให้ตนรู้จึงไปบอกคนอื่น ตนรู้ไม่ได้ไปบอกคนอื่นก็จะเป็นแบบป้านี่แหละที่พูดได้แต่เดิม ตอบเอียงๆเฉียง

ดังนั้นพุทโธประจำไม่ขาด อย่าอ้างพระพุทธเจ้ามั่วกับของปลอมตน
ดังนั้นพุทโธไม่ขาดน้อมนึกถึงคุณความเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ดังนั้นน้อมนึกถึงพระธรรมของพระพุทธเจ้าว่าควรแก่การโอปนะยิโก คือ น้อมมาสู่ตน ผู้ปฏิบัติย่อมเห็นผลได้ รู้ได้ไม่จำกัดกาล
ดังนั้นน้อมนึกถึงพระสงฆ์ เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ผู้ปฏิบัติตรงแล้วตามพระพุทธเจ้าตรัสสอน ผู้อุทิศตนเผยแพร่พระพุทธศาสนานำพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาสู่เราให้เราได้รู้ตาม เช่น ระลึกถึงครูบาอาจารย์ ระลึกถึงปฏิปทาที่ท่านมี คำสอนที่ท่านสอน นึกถึงความบริสุทธิ์ของท่าน ความบริสุทธิมีแค่ไหนธาตุขันธ์ท่านจะฟ้องตัวท่านเองไม่ต้องไปป่าวประกาศหรือให้ใครรับรอง
ดังนั้นระลึกถึงคุณพ่อแม่บุพการีของตน ผู้ให้คุณบอกโลกแก่เรา ผู้อุ้มชูเลี้ยงดูเราด้วยใจบริสุทธิ์ต่อเรา มีความเอื้อเฟื้อ เกื้อกูล เว้นจากความเบียดเบียนต่อเรา (ถ้าป้ามีพ่อแม่ บุพการี จะไม่ก้าวล่วงพ่อแม่บุพการีผู้อื่นจะรู้คุณ หากยังก้าวล่วงก็แสดงว่าพ่อแม่ป้าเป็นดั่งที่ไปว่าเขาจึงทำให้ป้าลามปามพ่อแม่คนอื่นอย่างนั้น ดังนี้ควรละเสีย นึกถึงมงคล ๓๘ ประการ ข้อนั้นคือ เทวตานุสสติเลยล่ะ)
ทำทานให้มาก
รักษาศีลให้ตนเองเย็นใจ จิตมันเบา สบาย ไม่หน่วงตรึงฟุ้งซ่าน ไม่คิดอกุศล นี่คือ..ศีลอันเป็นไปเพื่อสมาธิ


ทำสมาธิให้มากอย่าขายโง่ตนเองให้มาก ป้าจะเสื่อมเสียเอง การทำสมาธิไม่ใช่ของยาก จะลืมตาหลับตาระลึกพูดโธคู่ลมหายใจตลอดเวลา เหมือนอัญเชิญองค์พระท่านเข้ามาสถิตย์ในใจของเราให้เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานตามองค์พระท่าน พุทโธนี้มีคุณมาก ไม่ใช่เข้าได้เพียงอุปจาระสมาธิ แต่พุทโธเป็นกิริยาของจิต จิตเป็นหุทโธเมื่อไหร่ ก็ได้ชื่อว่า เข้าถึงพระอริยะสัจ ๔ น้อมเข้าสู่องค์มรรคที่เป็นอนาสวะ

ถึงป้าต่อล้อต่อเถียงกระทู้ที่ผมบอกก็ไม่เกินที่จะอ้างตำราแล้ว ทีละสี ทีละ 1 หรือทีละเสียง ทีละหนึ่ง ไม่มีเกินนี้

ดังนั้นกลับมาเริ่มนับ 0 ใหม่ ทำสะสมเหตุไปถวายเป้นพุทธบูชา ธรรมะบูชา สังฆะบูชา พ่อแม่บุพการีบูชา ครูอุปัชฌาย์อาจารย์บูชา แล้วแผ่บุญนั้นให้พ่อแม่ ญาติมิตร เจ้ากรรมนายเวร อาการคันยุบยิบๆของป้าจะหายไป ถึงจิตตั้งมั่นดีนักแล..ด้วยประการฉะนี้ ส่วนการจะท่องจำอภิธรรมก็ท่องจำไป แต่ทำให้รู้แค่ว่ามันเป็นแบบไหน แล้วเราจะทำให้เข้าถึงไปรู้เห็นตามให้ได้ มันจะเฆ้นเองตามจริงเลยป้า


:b12:
เดี๋ยวนี้กำลังเห็นเป็นปัจจุบันอยู่...ตาไม่บอดลืมตาดูไม่ชัดเลยอุตริไปหลับตาดูจะเห็นแจ้งเป็นไปได้ไหม
คำว่าเห็นแจ้งคือแจ้งตาตอนลืมตา...ตื่นรู้แจ้งไหนลองบอกมาซิว่าปัจจุบันเห็นคนอยู่ไหมนอกตาใช่ไหม
ก็ผัสสะของสีที่จิตเห็นเกิดที่ตาเนื้อตอนลืมตาดูมีแสง+สีสะท้อนเข้าตาดับในตาดำมืดแล้วมีคนนอกตาดำหรือ
:b32: :b32:



ขายโง่ตนเองอีกแล้วนะป้า :b32: :b32: :b32:

จิตทั้ง6ทางกำลังเกิดดับสลับกันไม่ซ้ำเก่า
กะพริบตาคือเห็น1ขณะใหม่ในสังสารวัฏฏ์
โง่ไหมแบบนี้ เห็น1สว่างทางตาแล้วคิดถึงสีในมืด
ที่เหลือมีจิตอีก5ทางหูจมูกลิ้นกายใจรู้สึกคิดนึกมืดสนิท
ตอนนี้กำลังคิดอยู่ไม่ใช่เหรอก็คิดนั้นมืดตาไม่บอดดูสิปกติมีมืดตอนไหน
:b32: :b32: :b32:



:b32: :b32: :b32: ขำท่องจำมาเป็นบทๆ

พูดถึง KFC รู้วิธีทำไก่ทอด KFC แต่ไม่เคยได้ลิ้มลองสัมผัสลิ้มรสชาติและได้กิน KFC เลย

ท่องตรงไหนจิตเกิดดับสลับกันครบ6ทางมีแล้วไม่มีหูหรือคะ
ตาก็ไม่ได้บอดถึงมาพิมพ์ตอบได้อยู่ไม่รู้เรื่องเลยดูปัจจุบันไม่เห็นเหรอต้องอุตริไปหลับตาเรอะ
เห็นมีแสงต่อจากนั้นมืดมีคิด ยิน รส กลิ่น เย็นร้อนอ่อนแข็งตึงไหวสุขทุกข์มืดสนิท
ตาไม่บอดหูไม่หนวกไม่เข้าใจแปลว่าความจริงเกิดกับอวิชชาไง
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2019, 14:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
ตาก็ไม่ได้บอดถึงมาพิมพ์ตอบได้อยู่ไม่รู้เรื่องเลยดูปัจจุบันไม่เห็นเหรอต้องอุตริไปหลับตาเรอะ
เห็นมีแสงต่อจากนั้นมืดมีคิด ยิน รส กลิ่น เย็นร้อนอ่อนแข็งตึงไหวสุขทุกข์มืดสนิท
ตาไม่บอดหูไม่หนวกไม่เข้าใจแปลว่าความจริงเกิดกับอวิชชาไง
:b32: :b32: :b32:



พูดถึง KFC รู้วิธีทำไก่ทอด KFC แต่ไม่เคยได้ลิ้มลองสัมผัสลิ้มรสชาติและได้กิน KFC เลย เดี๋ยวพาป้าไปกิน KFC สงสารป้ารู้จัก KFC รู้วิธีทำ แต่ไม่เคยได้กินเลยสักครั้ง

:b32: :b32: :b32:

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


แก้ไขล่าสุดโดย แค่อากาศ เมื่อ 06 ม.ค. 2019, 17:21, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2019, 18:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโรส..พูดไปพูดมา..ขัดขาตัวเองล้ม..ไปก็หลายครั้ง...แล้ว..

เจ็บ...เขาให้จำ....ธรรม..เขาให้คิด

:b12: :b12: :b12:

มาฟัง...สิ่งที่ร่มเย็น..กันมะ คุณโรส

มุตโตทัย โอวาทธรรม ของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2019, 19:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
คุณโรส..พูดไปพูดมา..ขัดขาตัวเองล้ม..ไปก็หลายครั้ง...แล้ว..

เจ็บ...เขาให้จำ....ธรรม..เขาให้คิด

:b12: :b12: :b12:

มาฟัง...สิ่งที่ร่มเย็น..กันมะ คุณโรส

มุตโตทัย โอวาทธรรม ของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต



Kiss Kiss Kiss

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ม.ค. 2019, 14:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
คุณโรส..พูดไปพูดมา..ขัดขาตัวเองล้ม..ไปก็หลายครั้ง...แล้ว..

เจ็บ...เขาให้จำ....ธรรม..เขาให้คิด

:b12: :b12: :b12:

มาฟัง...สิ่งที่ร่มเย็น..กันมะ คุณโรส

มุตโตทัย โอวาทธรรม ของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต



Kiss Kiss Kiss

:b32:
ไม่รู้แปลว่ามีกิเลส
ไม่ใช่คิดว่าตนรู้
ตัวตนน่ะไม่รู้
:b32:
แต่ถ้าเป็นปัญญาน่ะ
รู้ละตัวตนถูกตามคำสอนได้แค่ตอนกำลังฟังเท่านั้น
ตอนคิดนึกรู้สึกไปตามเห็นของตัวเองและขาดฟังแปลว่าเป็นกิเลสไงคะ
เข้าใจไหมว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีความเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเป็นธรรมดาปกติมีกิเลสอวิชชาคือไม่รู้อะไรเลย
ปรุงแต่งตามเห็นตัวอักษรน่ะจำผิดทางเกิดปัญญาไงเวลาปัญญาเกิดไม่มีอนาคตตัวอักษรรอให้เห็นผิดจำผิด
เพราะการปรุงแต่งถูกตามเสียงคือสุตมยปัญญาคือสังขารขันธ์จากเสียงปรุงแต่งจิตถูกจากได้ยินในมืดสนิท
:b32: :b32:
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ม.ค. 2019, 17:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
คุณโรส..พูดไปพูดมา..ขัดขาตัวเองล้ม..ไปก็หลายครั้ง...แล้ว..

เจ็บ...เขาให้จำ....ธรรม..เขาให้คิด

:b12: :b12: :b12:

มาฟัง...สิ่งที่ร่มเย็น..กันมะ คุณโรส

มุตโตทัย โอวาทธรรม ของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต



Kiss Kiss Kiss

:b32:
ไม่รู้แปลว่ามีกิเลส
ไม่ใช่คิดว่าตนรู้
ตัวตนน่ะไม่รู้
:b32:
แต่ถ้าเป็นปัญญาน่ะ
รู้ละตัวตนถูกตามคำสอนได้แค่ตอนกำลังฟังเท่านั้น
ตอนคิดนึกรู้สึกไปตามเห็นของตัวเองและขาดฟังแปลว่าเป็นกิเลสไงคะ
เข้าใจไหมว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีความเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเป็นธรรมดาปกติมีกิเลสอวิชชาคือไม่รู้อะไรเลย
ปรุงแต่งตามเห็นตัวอักษรน่ะจำผิดทางเกิดปัญญาไงเวลาปัญญาเกิดไม่มีอนาคตตัวอักษรรอให้เห็นผิดจำผิด
เพราะการปรุงแต่งถูกตามเสียงคือสุตมยปัญญาคือสังขารขันธ์จากเสียงปรุงแต่งจิตถูกจากได้ยินในมืดสนิท
:b32: :b32:
onion onion onion


อ่อแสดงว่าที่ป้าเป็น คือ อวิชชา ทั้งหมดสิ เพราะป้าไม่รู้อะไรเลย :b14: :b14: :b14:

พูดถึง KFC รู้วิธีทำไก่ทอด KFC แต่ไม่เคยได้ลิ้มลองสัมผัสลิ้มรสชาติและได้กิน KFC เลย
..เดี๋ยวพาป้าไปกิน KFC ..สงสารป้า cry cry cry
..รู้จัก KFC รู้วิธีทำ แต่ไม่เคยได้กินเลยสักครั้ง


:b32: :b32: :b32: s002 s002 s002

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ม.ค. 2019, 17:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
Rosarin เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
คุณโรส..พูดไปพูดมา..ขัดขาตัวเองล้ม..ไปก็หลายครั้ง...แล้ว..

เจ็บ...เขาให้จำ....ธรรม..เขาให้คิด

:b12: :b12: :b12:

มาฟัง...สิ่งที่ร่มเย็น..กันมะ คุณโรส

มุตโตทัย โอวาทธรรม ของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต



Kiss Kiss Kiss

:b32:
ไม่รู้แปลว่ามีกิเลส
ไม่ใช่คิดว่าตนรู้
ตัวตนน่ะไม่รู้
:b32:
แต่ถ้าเป็นปัญญาน่ะ
รู้ละตัวตนถูกตามคำสอนได้แค่ตอนกำลังฟังเท่านั้น
ตอนคิดนึกรู้สึกไปตามเห็นของตัวเองและขาดฟังแปลว่าเป็นกิเลสไงคะ
เข้าใจไหมว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีความเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเป็นธรรมดาปกติมีกิเลสอวิชชาคือไม่รู้อะไรเลย
ปรุงแต่งตามเห็นตัวอักษรน่ะจำผิดทางเกิดปัญญาไงเวลาปัญญาเกิดไม่มีอนาคตตัวอักษรรอให้เห็นผิดจำผิด
เพราะการปรุงแต่งถูกตามเสียงคือสุตมยปัญญาคือสังขารขันธ์จากเสียงปรุงแต่งจิตถูกจากได้ยินในมืดสนิท
:b32: :b32:
onion onion onion


อ่อแสดงว่าที่ป้าเป็น คือ อวิชชา ทั้งหมดสิ เพราะป้าไม่รู้อะไรเลย :b14: :b14: :b14:

พูดถึง KFC รู้วิธีทำไก่ทอด KFC แต่ไม่เคยได้ลิ้มลองสัมผัสลิ้มรสชาติและได้กิน KFC เลย
..เดี๋ยวพาป้าไปกิน KFC ..สงสารป้า cry cry cry
..รู้จัก KFC รู้วิธีทำ แต่ไม่เคยได้กินเลยสักครั้ง


:b32: :b32: :b32: s002 s002 s002

พึ่งพระรัตนตรัยสูงสุดได้ตอนฟังคำสอนค่ะ
ตาไม่บอดอ่านไม่เข้าใจหรือคะ
ศาสนาแปลว่าคำสอน
ตถาคตคือศาสดา
เจ้าของศาสนา
ยกคำสอนขึ้น
แทนพระองค์
สุตมยปัญญาคือปริยัติคือสัจจญาณคือชื่อของปัญญา
สุตะแปลว่าฟัง...ใช้หูฟังเสียงคำสอนจากปรโตโฆสะ
ตาไม่บอดเอาหูมาตั้งไว้ที่ตาเป็นไปได้ไหม555
ไม่เห็นประโยชน์ของการฟังคำสอนเพื่อเกิด
สุตมยปัญญารู้สัจจะตรงที่กายใจกำลังมี
ไม่พึ่งหูตนเองร้อยเปอร์เซ็นต์แปลว่า
เชื่อและทำตามๆกันตามตำราโดยขาดการฟังคำสอนไม่รู้เรื่องเลย555
:b12:
:b16: :b16:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 06 ม.ค. 2019, 17:53, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ม.ค. 2019, 17:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ทำฟังเสียงนะไม่ใช่ทำอ่านตัวอักษรคริคริคริ
https://youtu.be/BQvBAagrdC4
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ม.ค. 2019, 19:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ทำฟังเสียงนะไม่ใช่ทำอ่านตัวอักษรคริคริคริ




:b13: :b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ม.ค. 2019, 20:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ทำฟังเสียงนะไม่ใช่ทำอ่านตัวอักษรคริคริคริ




:b13: :b13: :b13:


โอ้ว..ปาติหาร.. :b13: :b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ม.ค. 2019, 20:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ทำฟังเสียงนะไม่ใช่ทำอ่านตัวอักษรคริคริคริ

onion onion onion


ปากก็ว่า..ปฏิบัติภาวนา..

ระวัง..จะช้ากว่าคนสวดมนต์..แม้แต่บุญก็ไม่มีให้บันทึก...นะเอ้อ.. :b32: :b32: :b32:

ให้สนใจอย่างเดียว..คือ..บันทึกบุญ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ม.ค. 2019, 21:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ทำฟังเสียงนะไม่ใช่ทำอ่านตัวอักษรคริคริคริ

onion onion onion


ปากก็ว่า..ปฏิบัติภาวนา..

ระวัง..จะช้ากว่าคนสวดมนต์..แม้แต่บุญก็ไม่มีให้บันทึก...นะเอ้อ.. :b32: :b32: :b32:

ให้สนใจอย่างเดียว..คือ..บันทึกบุญ

:b32:
แค่คิดก็ไม่ตรง555
ถ้าปากว่ากบก็ตาขยิบไง
กบกำลังฟังเสียงโรสหรือคิดเอง
ไม่เห็นเหรอที่อ่านเนี่ยมีแต่จำตัวอักษร
บอกว่าสีดับในตาดำไม่มีสีนอกตาดำก็คิดให้ตรงสิคะ
เดี๋ยวนี้เห็นผิดอยู่ก็ดูให้ชัดสิก็บอกอยู่เนี่ยว่าคิดเห็นผิดตามตัวอักษร
ไม่ตรงเหรอจะไปรู้สึกตัวตอนไหนทำอะไรตามเห็นผิดไม่ใช่ปัญญาบอกไม่ฟังไม่รู้ตัวเลย
เดี๋ยวนี้ใช้ตาดูตัวอักษรจำแต่ตัวอักษรคิดตามตัวอักษรมันไม่ตรงทางของจิตได้ยินเสียงเกิดทางหูใช้หูดูได้รึ?
:b32: :b32: :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 482 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 18, 19, 20, 21, 22, 23, 24 ... 33  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 46 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร