วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 20:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 36 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2018, 05:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b48: จบตอน จากพุทธธรรมหน้า ๑๑๑๖ :b53:


ต่อที่

viewtopic.php?f=1&t=56907

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 19 ธ.ค. 2018, 20:35, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2018, 06:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

Kiss Kiss Kiss

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาบุญกับ ท่าน กรัชกาย มีความเพียรในการ
นำธรรมมาแจกแจงให้ง่ายต่อความเข้าใจครับ

ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งทำก็ยิ่งชำนิชำนาญ ยิ่งให้ธรรมทาน นานวันเข้าก็ยิ่งรู้แจ้ง

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2018, 09:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

ผู้มีความตระหนี่สุดๆ ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยเจอนี้แหละ
เรียนเชิญอ่านได้จากที่นี้ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=5&t=56903 แม้ตระหนี่เพียงนั้นยังให้ทานได้เลย แล้ว
ท่านล่ะผมว่า ความตระหนี่ยังห่างกับท่าน โกสิยะมากนักทำไม
จะให้ทานไม่ล่ะจริงมั้ย ลองดู ท้าตัวเองว่า ลองดู

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2018, 05:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
https://www.naewna.com/likesara/385403

การให้..สุขทั้งผู้ให้..สุขทั้งผู้รับ...

คนที่อยู่ไม่สุข..เป็นสุขในฐานะมนุษย์กะเขาไม่เป็น...จะมีนิสัยตำนิคนไปทั่ว...ก็มักจะคิดว่าเขาทำบุญเอาหน้าบ้างละ...ไม่ใช่กิจของสงฆ์บ้างละ...ลืมว่าเราๆเป็นคน... :b12: :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2018, 06:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

อนุโมทนากับพระคุณเจ้า สาธุ คิดดี ทำดี มีประโยชน์
แก่สังคม แบ่งปันช่วยกัน นั้นแหละความสมัคคี นำมาชึ่งความ
สุขสงบ

คนที่ทำไม่ได้ก็ควร ยินดี อนุโมทนาด้วยย่อมจะได้บุญ มัวแต่
อิจฉา ก็พาให้จิตใจมั่วหมองเป็นโทษ เป็นทุกข์ให้กับตัวเองเปล่าๆ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2018, 07:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

อ้างคำพูด:
คนที่อยู่ไม่สุข..เป็นสุขในฐานะมนุษย์กะเขาไม่เป็น...จะมีนิสัยตำนิคนไปทั่ว...ก็มักจะคิดว่าเขาทำบุญเอาหน้าบ้างละ...ไม่ใช่กิจของสงฆ์บ้างละ...ลืมว่าเราๆเป็นคน... :b12: :b12: :b12:


ดีแต่ว่าเค้าไม่ส่องดูตัวเราเองบ้างเลย ว่าเราทำได้อย่างเค้าไหม?

ทุกการกระทำล้วนแล้วแต่มี คนกล่าวเหล่านี้ ติ ชม เฉย


:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ธ.ค. 2018, 11:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สังคมจะสันติสุข คนต้องรู้จักความสุขจากการให้หรือการแบ่งปัน

ฯลฯ

เรา : แย่จังเลยคะ สงสารคุณลุงมากๆเลย มีลูกเยอะแต่เลี้ยงดูกันไม่ได้เลย

ลุง : ชั่งเขาเถอะครับ ให้เขาหากินครอบครัวเขา เด่วพวกเขาจะไม่พอกินกัน รถผมก็ต้องเช่านะครับ วันละ 800 เดือนละ 20000 กว่า บางวันก็ได้บางวันก็แทบจะไม่พอ ซื้อข้าวกล่องกิน 1 กล่อง เก็บไว้ 2 มื้อ แต่ผมก็ไม่เคยขอเงินลูกนะครับ สงสารลูก
เรา : นั่งอึ้ง น้ำตาคลอหน่อยๆ

….คุยกันไปมา ถึงออฟฟิตพอดี จอดประตูหลัง ค่าแท๊กซี่ 75 บาท ไอเราก็ควักเงินมา 200 ยัดใส่มือแก จับมือแก กะตั้งใจให้แกไว้ใช้ไว้กิน ช่วยได้เท่าที่ช่วย เห็นใจแกมากๆ

…เปิดประตูมาแกก็ได้กลิ่นกาแฟโบราณ มันก็หอมอะเนอะ (ร้านพี่นงหลังออฟฟิศ) แกบอกหอมจัง ได้กลิ่นถ่าน คิดถึงบ้านนอก เลยให้แกไปจอดรถข้างหน้า แล้วให้แกรอ ก็รีบวิ่งไปซื้อกาแฟร้อนให้1แก้ว พร้อมกับน้ำแดงใส่แก้วให้กินระหว่างทาง ลุงยกมือไหว้เราพร้อมกับขอบคุณ (น้ำตาแกไหล) แกก็เอาน่าที่มีคราบน้ำตา เช็ดแขนเสื้อสีฟ้าของแก และให้พรปีใหม่ให้เราเจริญให้ลุงมาเท่าไรเอาให้ได้กลับไปเป็นร้อยเท่าพันเท่า ให้มีความสุข มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต ครอบครัวมีชีวิตที่ดี จากนั้นก็ร่ำลากันไป

#เราพอที่จะช่วยได้ไม่มาก แต่อยากช่วยเหลือ แกเป็นคนพูดจาไพเราะ พูดเรื่องชีวิตแกก็นั่งขำไปแต่ในใจแกคงเจ็บปวดแต่พูดอะไรไม่ได้ #ทำแค่นี้ก็มีความสุขมากแล้ว❤️ #พ่อแม่มีคนเดียวเลี้ยงกันไม่ได้ก็น่าสงสารลุงเขานะ”

https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2024710

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ธ.ค. 2018, 15:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สุขเวทนา หรือโสมนัสเวทนา ที่เกิดแก่เขาจากการให้ปันเล็กๆน้อยๆ ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 125 บ. นั้น เขาว่า “ทำแค่นี้ก็มีความสุขมากแล้ว” ถ้าพูดในแง่บุญ ก็เป็นบุญกิริยาวัตถุข้อแรกเลย
ดังนั้น เพื่อให้เห็น ว่าหนังสือหรือตำราเขาก็บันทึกเรื่องของคนหมดทั้งตัว (กายกับใจ) นี่เอง จากขั้นต้นจนถึงขั้นสูงสุด (เต็มๆอยู่ในหัวข้ออายตนะ ๖ ตรงนี้ตัดเอาแค่นี้)


การรับรู้จะเกิดขึ้น ต่อเมื่อมีองค์ประกอบเกิดขึ้นครบทั้งสามอย่าง คือ อายตนะ อารมณ์ และวิญญาณ

ภาวะนี้ ในภาษาธรรม มีคำเรียกโดยเฉพาะว่า "ผัสสะ" หรือ "สัมผัส" แปลตามรูปศัพท์ว่า การกระทบ
แต่มีความหมายทางธรรมว่า การประจวบ หรือบรรจบพร้อมกันแห่งอายตนะ อารมณ์ และวิญญาณ
พูดอย่างเข้าใจกันง่ายๆ ผัสสะ ก็คือ การรับรู้นั่นเอง ผัสสะ หรือ สัมผัส หรือการรับรู้นี้ มีชื่อเรียกแยกเป็นอย่างๆ ไปตามทางรับรู้ คืออายตนะนั้นๆ ครบจำนวน ๖ คือ จักขุสัมผัส โสต สัมผัส ฆานสัมผัส ชิวหาสัมผัส กายสัมผัส มโนสัมผัส


ผัสสะ เป็น ขั้นตอนสำคัญ ในกระบวนการรับรู้ เมื่อผัสสะเกิดขึ้นแล้ว กระบวนธรรมก็ ดำเนินต่อไป เริ่มแต่ความรู้สึกต่ออารมณ์ที่รับรู้เข้ามานั้น ปฏิกิริยาอย่างอื่นของจิตใจ การจำหมาย การนำอารมณ์นั้นไปคิดปรุงแต่ง ตลอดจนการแสดงออกต่างๆ ที่สืบเนื่องไปตามลำดับ

ในกระบวนธรรมนี้ สิ่งที่ควรสนใจเป็นพิเศษในการศึกษาขั้นนี้ ก็คือ ความรู้สึกต่ออารมณ์ที่รับรู้เข้ามา ซึ่งเกิดขึ้นในลำดับถัดจากผัสสะนั่นเอง

ความรู้สึกนี้ ในภาษาธรรมเรียก ว่า "เวทนา" แปลว่า การเสวยอารมณ์ หรือการเสพรสอารมณ์ คือความรู้สึกต่ออามรณ์ที่รับรู้เข้ามานั้น โดยเป็นสุข สบาย ไม่สบาย หรือ เฉยๆ อย่างใดอย่างหนึ่ง

เวทนานี้ ถ้าแบ่งตามทางรับรู้ ก็มี ๖ เท่าจำนวนอายตนะ คือ เวทนาที่เกิดจากสัมผัสทางตา เวทนาที่เกิดจากสัมผัสทางหู เป็นต้น

แต่ถ้าแบ่งตามจำนวนคุณภาพ จะมีจำนวน ๓ คือ

๑. สุข ได้แก่ สบาย ชื่นใจ ถูกใจ

๒. ทุกข์ ได้แก่ ไม่สบาย เจ็บปวด

๓. อทุกขมสุข ไม่ทุกข์ ไม่สุข คือเรื่อยๆ เฉยๆ ซึ่งเรียกว่าอีกอย่างหนึ่ง อุเบกขา

อีกอย่างหนึ่ง แบ่งละเอียดลงไปเป็น ๕ อย่าง คือ

๑. สุข ได้แก่ สบายกาย

๒. ทุกข์ ได้แก่ ไม่สบายกาย เจ็บปวด

๓. โสมนัส ได้แก่ สบายใจ ชื่นใจ

๔. โทมนัส ได้แก่ ไม่สบายใจ เสียใจ และ

๕. อุเบกขา ได้แก่ เฉยๆ ไม่สุขไม่ทุกข์

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ธ.ค. 2018, 16:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
รูปภาพ
https://www.naewna.com/likesara/385403

การให้..สุขทั้งผู้ให้..สุขทั้งผู้รับ...

คนที่อยู่ไม่สุข..เป็นสุขในฐานะมนุษย์กะเขาไม่เป็น...จะมีนิสัยตำนิคนไปทั่ว...ก็มักจะคิดว่าเขาทำบุญเอาหน้าบ้างละ...ไม่ใช่กิจของสงฆ์บ้างละ...ลืมว่าเราๆเป็นคน... :b12: :b12: :b12:

cool
กบ...เป็นชาวบ้านดีๆมีเงินซื้อข้าวของมาแจกกันได้มันเรื่องปกติของคนดีเขาทำกันตามปกตินะ

ไม่เคยเห็นมูลนิธิปอเต็กตึ้งเขาทำบุญเทกระจาดหรือคนน่ะทำได้แต่ต้องรู้ฐานะไหนล่ะ

บอกให้เข้าใจกันชัดๆบรรพชิตเกิดจากบรรพชาคือผู้ที่สละอาคารบ้านเรือนทรัพย์สินเงินทองญาติมิตรหมด
ได้รับอนุญาตตามการบรรพชาให้มาอาศัยนอนในวัดเรียกว่าจำวัดและไม่ต้องเลี้ยงใครไม่สะสมเงินและของ
จะเอามาแจกได้ไหมคะในเมื่อตถาคตอนุญาตให้รับอาหารจากการบิณฑบาตฉันได้ไม่เกิน12.00น.แม้เกลือ
ยังเก็บไม่ได้การรับบิณฑบาตรับได้แต่กัปปิยะวัตถุรับบริจาคที่ดินเงินทองแม้ยินดีในใจก็อาบัติคือมีกิเลสเพิ่ม
:b11:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ธ.ค. 2018, 12:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
รูปภาพ
https://www.naewna.com/likesara/385403

การให้..สุขทั้งผู้ให้..สุขทั้งผู้รับ...

คนที่อยู่ไม่สุข..เป็นสุขในฐานะมนุษย์กะเขาไม่เป็น...จะมีนิสัยตำนิคนไปทั่ว...ก็มักจะคิดว่าเขาทำบุญเอาหน้าบ้างละ...ไม่ใช่กิจของสงฆ์บ้างละ...ลืมว่าเราๆเป็นคน... :b12: :b12: :b12:

cool
กบ...เป็นชาวบ้านดีๆมีเงินซื้อข้าวของมาแจกกันได้มันเรื่องปกติของคนดีเขาทำกันตามปกตินะ

ไม่เคยเห็นมูลนิธิปอเต็กตึ้งเขาทำบุญเทกระจาดหรือคนน่ะทำได้แต่ต้องรู้ฐานะไหนล่ะ

บอกให้เข้าใจกันชัดๆบรรพชิตเกิดจากบรรพชาคือผู้ที่สละอาคารบ้านเรือนทรัพย์สินเงินทองญาติมิตรหมด
ได้รับอนุญาตตามการบรรพชาให้มาอาศัยนอนในวัดเรียกว่าจำวัดและไม่ต้องเลี้ยงใครไม่สะสมเงินและของ
จะเอามาแจกได้ไหมคะในเมื่อตถาคตอนุญาตให้รับอาหารจากการบิณฑบาตฉันได้ไม่เกิน12.00น.แม้เกลือ
ยังเก็บไม่ได้การรับบิณฑบาตรับได้แต่กัปปิยะวัตถุรับบริจาคที่ดินเงินทองแม้ยินดีในใจก็อาบัติคือมีกิเลสเพิ่ม
:b11:
:b32: :b32:

พระภิกษุที่บวชตามพระธรรมวินัยมีหน้าที่แค่2อย่างคือ
1คันถะธุระคือสิกขาคำสอนและ2วิปัสสนาธุระคือรู้แจ้ง
มีหน้าที่ทำตนให้เกิดปัญญาเพราะสละอาชีพการงานแล้ว
สังคมสงเคราะห์เขามีสถานสงเคราะห์และมูลนิธิต่างๆทำแล้ว
บวชแล้วยังใช้เงินทองแปลว่าไม่สละอะไรเลยบาปมากที่ยังห่มจีวร
รู้จักว่าอาบัติไหมคำว่าอาบัติไม่มีในคฤหัสถ์บวชแล้วอาบัติทำผิดวินัยคือมีกิเลสเพิ่มแล้วเข้าใจไหมมมมม
:b8:
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ธ.ค. 2018, 12:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
รูปภาพ
https://www.naewna.com/likesara/385403

การให้..สุขทั้งผู้ให้..สุขทั้งผู้รับ...

คนที่อยู่ไม่สุข..เป็นสุขในฐานะมนุษย์กะเขาไม่เป็น...จะมีนิสัยตำนิคนไปทั่ว...ก็มักจะคิดว่าเขาทำบุญเอาหน้าบ้างละ...ไม่ใช่กิจของสงฆ์บ้างละ...ลืมว่าเราๆเป็นคน... :b12: :b12: :b12:

cool
กบ...เป็นชาวบ้านดีๆมีเงินซื้อข้าวของมาแจกกันได้มันเรื่องปกติของคนดีเขาทำกันตามปกตินะ

ไม่เคยเห็นมูลนิธิปอเต็กตึ้งเขาทำบุญเทกระจาดหรือคนน่ะทำได้แต่ต้องรู้ฐานะไหนล่ะ

บอกให้เข้าใจกันชัดๆบรรพชิตเกิดจากบรรพชาคือผู้ที่สละอาคารบ้านเรือนทรัพย์สินเงินทองญาติมิตรหมด
ได้รับอนุญาตตามการบรรพชาให้มาอาศัยนอนในวัดเรียกว่าจำวัดและไม่ต้องเลี้ยงใครไม่สะสมเงินและของ
จะเอามาแจกได้ไหมคะในเมื่อตถาคตอนุญาตให้รับอาหารจากการบิณฑบาตฉันได้ไม่เกิน12.00น.แม้เกลือ
ยังเก็บไม่ได้การรับบิณฑบาตรับได้แต่กัปปิยะวัตถุรับบริจาคที่ดินเงินทองแม้ยินดีในใจก็อาบัติคือมีกิเลสเพิ่ม
:b11:
:b32: :b32:

พระภิกษุที่บวชตามพระธรรมวินัยมีหน้าที่แค่2อย่างคือ
1คันถะธุระคือสิกขาคำสอนและ2วิปัสสนาธุระคือรู้แจ้ง
มีหน้าที่ทำตนให้เกิดปัญญาเพราะสละอาชีพการงานแล้ว
สังคมสงเคราะห์เขามีสถานสงเคราะห์และมูลนิธิต่างๆทำแล้ว
บวชแล้วยังใช้เงินทองแปลว่าไม่สละอะไรเลยบาปมากที่ยังห่มจีวร
รู้จักว่าอาบัติไหมคำว่าอาบัติไม่มีในคฤหัสถ์บวชแล้วอาบัติทำผิดวินัยคือมีกิเลสเพิ่มแล้วเข้าใจไหมมมมม
:b8:
onion onion onion

มีแต่ข้อห้ามทำผิดวินัย...ไม่มีข้อห้ามลาสิกขา
รู้ตัวว่าผิดวินัยและยังไม่ปลงอาบัติตถาคตตรัสว่าไงรู้ไหมคะ
ขโมยข้าวของผู้ทำถูกตามธรรมวินัยก้อนข้าวนั้นของผู้อาบัติ
เสมือนการกลืนก้อนถ่านไฟแดงลงในท้องลวกตั้งแต่ปากถึงทวารหนักยังตายแค่อัตภาพนี้เท่านั้น
แต่เมื่ออาบัติบ่อยๆโดยไม่ปลงอาบัติยังครองจีวรตายลงปุ๊บไปอบายภูมิทันทีเร็วแบบกระพริบตาแล้วกิเลสเกิด
:b8:
:b44: :b44:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 31 ธ.ค. 2018, 12:55, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ธ.ค. 2018, 12:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
รูปภาพ
https://www.naewna.com/likesara/385403

การให้..สุขทั้งผู้ให้..สุขทั้งผู้รับ...

คนที่อยู่ไม่สุข..เป็นสุขในฐานะมนุษย์กะเขาไม่เป็น...จะมีนิสัยตำนิคนไปทั่ว...ก็มักจะคิดว่าเขาทำบุญเอาหน้าบ้างละ...ไม่ใช่กิจของสงฆ์บ้างละ...ลืมว่าเราๆเป็นคน... :b12: :b12: :b12:

cool
กบ...เป็นชาวบ้านดีๆมีเงินซื้อข้าวของมาแจกกันได้มันเรื่องปกติของคนดีเขาทำกันตามปกตินะ

ไม่เคยเห็นมูลนิธิปอเต็กตึ้งเขาทำบุญเทกระจาดหรือคนน่ะทำได้แต่ต้องรู้ฐานะไหนล่ะ

บอกให้เข้าใจกันชัดๆบรรพชิตเกิดจากบรรพชาคือผู้ที่สละอาคารบ้านเรือนทรัพย์สินเงินทองญาติมิตรหมด
ได้รับอนุญาตตามการบรรพชาให้มาอาศัยนอนในวัดเรียกว่าจำวัดและไม่ต้องเลี้ยงใครไม่สะสมเงินและของ
จะเอามาแจกได้ไหมคะในเมื่อตถาคตอนุญาตให้รับอาหารจากการบิณฑบาตฉันได้ไม่เกิน12.00น.แม้เกลือ
ยังเก็บไม่ได้การรับบิณฑบาตรับได้แต่กัปปิยะวัตถุรับบริจาคที่ดินเงินทองแม้ยินดีในใจก็อาบัติคือมีกิเลสเพิ่ม
:b11:
:b32: :b32:

พระภิกษุที่บวชตามพระธรรมวินัยมีหน้าที่แค่2อย่างคือ
1คันถะธุระคือสิกขาคำสอนและ2วิปัสสนาธุระคือรู้แจ้ง
มีหน้าที่ทำตนให้เกิดปัญญาเพราะสละอาชีพการงานแล้ว
สังคมสงเคราะห์เขามีสถานสงเคราะห์และมูลนิธิต่างๆทำแล้ว
บวชแล้วยังใช้เงินทองแปลว่าไม่สละอะไรเลยบาปมากที่ยังห่มจีวร
รู้จักว่าอาบัติไหมคำว่าอาบัติไม่มีในคฤหัสถ์บวชแล้วอาบัติทำผิดวินัยคือมีกิเลสเพิ่มแล้วเข้าใจไหมมมมม
:b8:
onion onion onion

มีแต่ข้อห้ามทำผิดวินัย...ไม่มีข้อห้ามลาสิกขา
รู้ตัวว่าผิดวินัยและยังไม่ปลงอาบัติตถาคตตรัสว่าไงรู้ไหมคะ
ขโมยข้าวของผู้ทำถูกตามธรรมวินัยก้อนข้าวนั้นของผู้อาบัติ
เสมือนการกลืนก้อนถ่านไฟแดงลงในท้องลวกตั้งแต่ปากถึงทวารหนักยังตายแค่อัตภาพนี้เท่านั้น
แต่เมื่ออาบัติบ่อยๆโดยไม่ปลงอาบัติยังครองจีวรตายลงปุ๊บไปอบายภูมิทันทีเร็วแบบกระพริบตาแล้วกิเลสเกิด
:b8:
:b44: :b44:

ฟังให้เข้าใจชัดๆว่าที่มีจริงๆแน่ๆคือความจริงตามคำสอนที่รู้ถูกตามได้ที่กายใจตนเองมีตอนกำลังฟังเท่านั้น
https://youtu.be/MTwUK1-D9wM
:b31:
:b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ม.ค. 2019, 07:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
รูปภาพ
https://www.naewna.com/likesara/385403

การให้..สุขทั้งผู้ให้..สุขทั้งผู้รับ...

คนที่อยู่ไม่สุข..เป็นสุขในฐานะมนุษย์กะเขาไม่เป็น...จะมีนิสัยตำนิคนไปทั่ว...ก็มักจะคิดว่าเขาทำบุญเอาหน้าบ้างละ...ไม่ใช่กิจของสงฆ์บ้างละ...ลืมว่าเราๆเป็นคน... :b12: :b12: :b12:

cool
กบ...เป็นชาวบ้านดีๆมีเงินซื้อข้าวของมาแจกกันได้มันเรื่องปกติของคนดีเขาทำกันตามปกตินะ

ไม่เคยเห็นมูลนิธิปอเต็กตึ้งเขาทำบุญเทกระจาดหรือคนน่ะทำได้แต่ต้องรู้ฐานะไหนล่ะ

บอกให้เข้าใจกันชัดๆบรรพชิตเกิดจากบรรพชาคือผู้ที่สละอาคารบ้านเรือนทรัพย์สินเงินทองญาติมิตรหมด
ได้รับอนุญาตตามการบรรพชาให้มาอาศัยนอนในวัดเรียกว่าจำวัดและไม่ต้องเลี้ยงใครไม่สะสมเงินและของ
จะเอามาแจกได้ไหมคะในเมื่อตถาคตอนุญาตให้รับอาหารจากการบิณฑบาตฉันได้ไม่เกิน12.00น.แม้เกลือ
ยังเก็บไม่ได้การรับบิณฑบาตรับได้แต่กัปปิยะวัตถุรับบริจาคที่ดินเงินทองแม้ยินดีในใจก็อาบัติคือมีกิเลสเพิ่ม
:b11:
:b32: :b32:

พระภิกษุที่บวชตามพระธรรมวินัยมีหน้าที่แค่2อย่างคือ
1คันถะธุระคือสิกขาคำสอนและ2วิปัสสนาธุระคือรู้แจ้ง
มีหน้าที่ทำตนให้เกิดปัญญาเพราะสละอาชีพการงานแล้ว
สังคมสงเคราะห์เขามีสถานสงเคราะห์และมูลนิธิต่างๆทำแล้ว
บวชแล้วยังใช้เงินทองแปลว่าไม่สละอะไรเลยบาปมากที่ยังห่มจีวร
รู้จักว่าอาบัติไหมคำว่าอาบัติไม่มีในคฤหัสถ์บวชแล้วอาบัติทำผิดวินัยคือมีกิเลสเพิ่มแล้วเข้าใจไหมมมมม
:b8:
onion onion onion

มีแต่ข้อห้ามทำผิดวินัย...ไม่มีข้อห้ามลาสิกขา
รู้ตัวว่าผิดวินัยและยังไม่ปลงอาบัติตถาคตตรัสว่าไงรู้ไหมคะ
ขโมยข้าวของผู้ทำถูกตามธรรมวินัยก้อนข้าวนั้นของผู้อาบัติ
เสมือนการกลืนก้อนถ่านไฟแดงลงในท้องลวกตั้งแต่ปากถึงทวารหนักยังตายแค่อัตภาพนี้เท่านั้น
แต่เมื่ออาบัติบ่อยๆโดยไม่ปลงอาบัติยังครองจีวรตายลงปุ๊บไปอบายภูมิทันทีเร็วแบบกระพริบตาแล้วกิเลสเกิด
:b8:
:b44: :b44:

ฟังให้เข้าใจชัดๆว่าที่มีจริงๆแน่ๆคือความจริงตามคำสอนที่รู้ถูกตามได้ที่กายใจตนเองมีตอนกำลังฟังเท่านั้น
https://youtu.be/MTwUK1-D9wM
:b31:
:b44: :b44:

:b8:

คุณ Rosarin กล่าวได้มีเหตุผล ครับ แต่ผมว่าท่านก็ทำดีอยู่
เพราะท่านทำทานคือการแบ่งปันบ้าง หากผู้ที่ตระหนี่ย่อมจะให้ไม่ได้แน่

แล้วคุณ Rosarin เคยให้ทานเช่นนี้ หรือมากกว่านี้บ้างยังในชาติปัจจุบันครับ
ทังอยู่ในถานะที่ทำได้ ไม่ผิดวินัยอะไรด้วย

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ม.ค. 2019, 10:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
กบนอกกะลา
https://www.naewna.com/likesara/385403

การให้..สุขทั้งผู้ให้..สุขทั้งผู้รับ...

คนที่อยู่ไม่สุข..เป็นสุขในฐานะมนุษย์กะเขาไม่เป็น...จะมีนิสัยตำนิคนไปทั่ว...ก็มักจะคิดว่าเขาทำบุญเอาหน้าบ้างละ...ไม่ใช่กิจของสงฆ์บ้างละ...ลืมว่าเราๆเป็นคน...

อ้างคำพูด:
Rosarin
กบ...เป็นชาวบ้านดีๆมีเงินซื้อข้าวของมาแจกกันได้มันเรื่องปกติของคนดีเขาทำกันตามปกตินะ

ไม่เคยเห็นมูลนิธิปอเต็กตึ้งเขาทำบุญเทกระจาดหรือคนน่ะทำได้แต่ต้องรู้ฐานะไหนล่ะ

บอกให้เข้าใจกันชัดๆบรรพชิตเกิดจากบรรพชาคือผู้ที่สละอาคารบ้านเรือนทรัพย์สินเงินทองญาติมิตรหมด
ได้รับอนุญาตตามการบรรพชาให้มาอาศัยนอนในวัดเรียกว่าจำวัดและไม่ต้องเลี้ยงใครไม่สะสมเงินและของ
จะเอามาแจกได้ไหมคะในเมื่อตถาคตอนุญาตให้รับอาหารจากการบิณฑบาตฉันได้ไม่เกิน12.00น.แม้เกลือ
ยังเก็บไม่ได้การรับบิณฑบาตรับได้แต่กัปปิยะวัตถุรับบริจาคที่ดินเงินทองแม้ยินดีในใจก็อาบัติคือมีกิเลสเพิ่ม


คุณโรสมองโลกแค้บแคบ ประเพณีชาวพุทธเช่นถึงคราวงานเทศกาล เป็นต้น พุทธศาสนิกชนก็แห่แหนกันไปวัดตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เช่น วันออกพรรษาเงี้ย ทีนี้ของกินของใช้ก็ไปรวมอยู่ที่วัดล้นเหลือ เจ้าอาวาสวัดนั้นๆก็นำออกแจกจ่ายคนที่ขัดสนแล้วมันจะเป็นอะไรนักหนา หือ :b32: หรือจะให้เอาไปทิ้ง :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2019, 19:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
สาวใจดี ยอมโกหก เพื่อให้ลุงรปภ. ได้กินชาบู

หลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก (...) โพสต์รุปภาพพร้อมเล่าเรื่องราวขณะที่เธอ และแฟนกำลังนั่งกินชาบูอยู่ แต่ได้สังเกตเห็นลุง รปภ. คนหนึ่ง ที่กำลังทำงานอยู่ และได้มองมาที่ตนเองหลายคล้าย จึงตัดสินใจเลี้ยงลุง รปภ. ซึ่งตอนแรกลุงปฏิเสธ เนื่องจากเกรงใจ จนต้องหลอกว่าถูกลอตเตอรี จึงยอมกิน พร้อมกับขอเบอร์ไว้เพื่อจะเลี้ยงตอบแทนวันหลัง

โดยเธอระบุว่า "เรื่องราวดีๆ เรากับแฟนนั่งกินชาบูอยู่ หันไปเห็น เห็นคุณลุงยืนมองอยู่ข้างนอกและก็ทำหน้าเหมือนนึกอะไรสักอย่างและเดินไป สักพักใหญ่ลุงคนนี้ก็เดินกลับมาอีก ยืนมองเรากับแฟนอีกและก็ทำหน้านึกอะไรสักอย่างและเดินหนีไป เรากับแฟนก็คุยกันว่าลุงคงอยากจะกินแน่เลย เราเลยออกจากร้านและเดินตามลุงไป เราแอบเห็นลุงนั่งกินม่าม่ากับไข่ไก่ 1 ฟอง

เรา : ลุงกินอะไร
ลุง : ออ ลุงหิว กินม่าม่า
เรา : อยากกินชาบูไหม
ลุง : มันคืออะไรหรอ
เรา : มันเหมือนสุกี้ไง ที่ลุงยืนมองตะกี้อะ
ลุง : มันแพงแน่เลย ไม่จ้าหนู ขอบคุณมากนะ
เรา : ออ ลุงมากินเลย หนูจ่ายให้ (เราโกหกว่าเราถูกหวย) ลุงถึงยอมตามมา (จะบาปไหมเนี้ย!) จากนั้นก็ตามภาพเลยลุงก็นั่งกิน เราถามอร่อยไหม แกก็ตอบอร่อย

(แอบน้ำตาไหลนะ นึกถึงคุณตาของตัวเอง อายุรุ่นราวคราวเดียวกันมั้ง แต่ตอนนี้คุณตาเสียไปแล้ว)

ส่งท้ายคือ ลุงบอกว่า ลุงขอเบอร์ไว้ได้ไหม เงินเดือนลุงออก ลุงจะให้หนูมาเอาเงินค่าชาบู เราบอกไม่เป็นไรจ้าหนูถูกหวยไง หนูบอกว่า หนูเลี้ยง (หันกลับไปมองลุงนั่งกิน และก็ยิ้ม) งั้นไว้เงินออกลุงจะเลี้ยงคืนนะ ลุงพูดก่อนจะจากกัน คือลุงก็จะตอบแทนเราคืนเหมือนกัน"


https://i.webch7.com/images/a6f2edf8489 ... B516-9.jpg

ไม่ใช่โกหก แต่เป็นกุสโลบาย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 36 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 55 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร