วันเวลาปัจจุบัน 23 เม.ย. 2024, 20:01  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 58 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2018, 20:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


เดี๋ยวกระทู้จะยืดยาวจนเกินไป

หนูจะสรุปให้ว่า คุณยายโรส ขนะนี้ไม่สามารถที่จะอธิบายจิตได้หรอกค่ะ

เพราะเท่าที่พยายามอธิบายๆๆๆ
ได้อธิบายมาแต่เจตสิก คู่หู ที่ประกอบจิตเท่านั้น

สิ่งที่เร้นลับ ไร้รูปร่าง ไร้ร่องรอย คือจิต
ที่ซ่อนตัวอยู่แทรกซึมกลมกลืนไปกับเจตสิก จนแทบเป็นเนื้อเดียว
และสิ่งนั้นมีเจตสิก คือสังขารความปรุงแต่งของจิต
อันเป็นอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น ปิดบังจิตไว้

ทำให้จิต ไม่สามารถปรากฎตัวได้อย่างเด่นชัด

ให้คุณยายโรส แยกเจตสิก ออกจากจิต ให้ได้เสียก่อน
เมื่อแยกเจตสิกออก จากจิตได้ ก็จะเห็นอวิชชา ที่ละเอียดที่บดบังจิตไว้

และ จิต จะปรากฎตัวเด่นชัดขึ้น จนเห็นได้เองค่ะ

ถ้าคุณยาย ยังดูแต่เสื้อผ้าที่สวมทับจิตไว้ จะไม่สามารถเห็นจิตจริงๆได้เลย

เมขออนุโมทนากะคุณยายโรสด้วยค่ะ
ในความตั้งใจที่จะอธิบาย

แต่ คุณยายสับสนไปเยอะหน่อย
บรรยาย แต่เสื้อผ้า ที่ห่อจิตไว้า เท่านั้นเองค่ะ
ไม่ได้บรรยาย จิตค่ะ


สายแล้ว
ไปทำกิจก่อนหละค่ะ บ๊ายบาย
รักนะคะ จุ๊ฟๆ






โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2018, 21:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b12:
คุณเมโลกสวยคะ :b32: ยายโรสบอกสิ่งที่รู้ของจริงไม่ได้มาบอกทฤษฎีจ๊ะ
สติปัฏฐานไม่เลือกฐานคือจิต+โสภณเจตสิก+รูปคือสติสัมปชัญญะครบ6ทางตรงวิสยรูป7ค่ะ
จิตชาติกิริยาก็คือนามรู้รูปเป็นสติสัมปชัญญะทั่วตัวครบ6ทางไม่มีกุศลและไม่มีอกุศลเป็นอัพยากตศีลค่ะ
ถ้าเป็นชาติวิบากก็คือผลกรรมเก่าที่ทำให้เกิดมารับรู้อารมณ์ทางตาหูจมูกลิ้นกายใจค่ะก็กำลังมี
จิตชาติกุศลคือรู้ความจริงตรงปัจจุบันขณะทุกขณะตรงจริงไม่ขาดสติและปัญญาเพิ่มเมื่อฟังอีกค่ะ
ส่วนจิตชาติอกุศลนั้นแทรกเข้าไม่ได้เพราะรู้ตัวทั่วพร้อมทุกขณะลืมตาตื่นรู้ตามปกติเป็นปกติกุศลศีลค่ะ
จิตชาติอกุศลเกิดมากในผู้ที่ไม่รู้ตรงปัจจุบันขณะตามเป็นจริงค่ะมีปกติอกุศลศีลสะสมอกุศลเจตสิกค่ะ
1ขณะจิตที่เกิดดับนั้นค่ะมันครบทั้ง4ชาติและพระอรหันต์ไม่มีกิเลสคือไม่สะสมทั้งกุศลและอกุศลนะคะ
ส่วนอริยบุคคลไม่มีกิเลสแทรกเข้าได้เพราะรู้ตัวทั่วพร้อมตรงวิสยรูป7ทุกขณะค่ะมีปกติไม่เกิดอกุศลเจค่ะ
จิเจรุนิมีครบทั้ง4ชาติใน1ขณะจิตถ้าไม่รู้สึกตัวทั่วพร้อมตรงวิสยรูป7ทุกขณะจิตแปลว่าขาดสติไงคะ
สติไม่เกิดกับอกุศลเจตสิกนะคะเข้าใจไหมคะจิตเกิดดับทีละ1ขณะละเอียดตามอภิธรรมตรงจริงคือเดี๋ยวนี้
:b12:
:b4: :b4:


คุณยายโรสขา

ที่คุณยายนำมาโอ้อวดนี้ ก็ไม่ใช่จิตอยู่ดีหละค่ะ
เป็นเจตสิก ที่ตรงตามพระอภิธรรม
ไม่ใช่จิตค่ะ คุณยายโรส

คนจริงรู้จิตจริงๆ ต้องอธิบายจิต ตัวแรกสิคะ อย่าอธิบายคู่หู บัดดี้ค่ะ


จิต+ กริยา เป็นกริยาจิต
จิต+ กริยา + มหากริยา+ โสภณ เป็นมหากริยาจิต

ก็บอกแล้วว่า อธิบายจิตๆๆๆๆๆนะคะ


:b12:
วิสยรูป7คือวิสัยที่รู้ได้ตามปกติผ่านอายตนะ6
ที่เขียนข้างบนน่ะค่ะแค่จิต1ขณะ
ตอนนี้หลานกะพริบตาแล้ว
ถ้าไม่ทันตรงตัวธัมมะสะสม
เป็นอกุศลของหลานเองไงคะ
ทุกคำในพระไตรปิฎกละเอียด
แต่รู้รูปที่ปรากฏได้เท่านั้นไงคะ
ไม่ทันก็คือมีกิเลสอวิชชาคือเดี๋ยวนี้
ไม่รู้ว่าตนไม่รู้ว่าไม่รู้ไงคะสับสนไหมคะ
ทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัจจุบันทุกคำมีครบแต่ตนไม่รู้ไงคะ
:b32: :b32:


คุณยายโรสขา

อธิบาย จิต นะคะ



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 00:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
เดี๋ยวกระทู้จะยืดยาวจนเกินไป

หนูจะสรุปให้ว่า คุณยายโรส ขนะนี้ไม่สามารถที่จะอธิบายจิตได้หรอกค่ะ

เพราะเท่าที่พยายามอธิบายๆๆๆ
ได้อธิบายมาแต่เจตสิก คู่หู ที่ประกอบจิตเท่านั้น

สิ่งที่เร้นลับ ไร้รูปร่าง ไร้ร่องรอย คือจิต
ที่ซ่อนตัวอยู่แทรกซึมกลมกลืนไปกับเจตสิก จนแทบเป็นเนื้อเดียว
และสิ่งนั้นมีเจตสิก คือสังขารความปรุงแต่งของจิต
อันเป็นอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น ปิดบังจิตไว้

ทำให้จิต ไม่สามารถปรากฎตัวได้อย่างเด่นชัด

ให้คุณยายโรส แยกเจตสิก ออกจากจิต ให้ได้เสียก่อน
เมื่อแยกเจตสิกออก จากจิตได้ ก็จะเห็นอวิชชา ที่ละเอียดที่บดบังจิตไว้

และ จิต จะปรากฎตัวเด่นชัดขึ้น จนเห็นได้เองค่ะ

ถ้าคุณยาย ยังดูแต่เสื้อผ้าที่สวมทับจิตไว้ จะไม่สามารถเห็นจิตจริงๆได้เลย

เมขออนุโมทนากะคุณยายโรสด้วยค่ะ
ในความตั้งใจที่จะอธิบาย

แต่ คุณยายสับสนไปเยอะหน่อย
บรรยาย แต่เสื้อผ้า ที่ห่อจิตไว้า เท่านั้นเองค่ะ
ไม่ได้บรรยาย จิตค่ะ


สายแล้ว
ไปทำกิจก่อนหละค่ะ บ๊ายบาย
รักนะคะ จุ๊ฟๆ





เมโลกสวยคะตีความไม่แตกหรือคะ
วิสยรูป7คือวิสัยปกติรู้ได้ในชีวิตประจำวัน
ถ้ารู้เจตสิกแต่ละขณะได้ตถาคตคงไม่ตรัสว่าจิตวิปลาส
ก็เพราะไม่รู้ไงคะจำคลาดเคลื่อนไม่รู้ความจริงจึงต้องฟังเพื่อให้ปัญญาตัวเองน่ะ
แค่1แทรกเกิดท่ามกลางกิเลสตนที่นับไม่ได้ไงคะคิดไม่ออกหรือคะรู้ตรงวิสยรูป7ตรงทุกขณะ
จึงเรียกว่ามีสติสัมปชัญญะรู้ตัวทั่วพร้อมตอนลืมตาตื่นรู้ไงคะคือความจริงที่คิดเห็นถูกตามได้ตรงจริงๆ
จากฟังจนกว่านิพพานไม่ใช่พระพุทธเจ้าคนที่2นี่ถึงจะไปรู้ละเอียดเจตสิกได้คิดผิดคิดใหม่ได้นะคะหลาน
:b12:
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 00:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
เดี๋ยวกระทู้จะยืดยาวจนเกินไป

หนูจะสรุปให้ว่า คุณยายโรส ขนะนี้ไม่สามารถที่จะอธิบายจิตได้หรอกค่ะ

เพราะเท่าที่พยายามอธิบายๆๆๆ
ได้อธิบายมาแต่เจตสิก คู่หู ที่ประกอบจิตเท่านั้น

สิ่งที่เร้นลับ ไร้รูปร่าง ไร้ร่องรอย คือจิต
ที่ซ่อนตัวอยู่แทรกซึมกลมกลืนไปกับเจตสิก จนแทบเป็นเนื้อเดียว
และสิ่งนั้นมีเจตสิก คือสังขารความปรุงแต่งของจิต
อันเป็นอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น ปิดบังจิตไว้

ทำให้จิต ไม่สามารถปรากฎตัวได้อย่างเด่นชัด

ให้คุณยายโรส แยกเจตสิก ออกจากจิต ให้ได้เสียก่อน
เมื่อแยกเจตสิกออก จากจิตได้ ก็จะเห็นอวิชชา ที่ละเอียดที่บดบังจิตไว้

และ จิต จะปรากฎตัวเด่นชัดขึ้น จนเห็นได้เองค่ะ

ถ้าคุณยาย ยังดูแต่เสื้อผ้าที่สวมทับจิตไว้ จะไม่สามารถเห็นจิตจริงๆได้เลย

เมขออนุโมทนากะคุณยายโรสด้วยค่ะ
ในความตั้งใจที่จะอธิบาย

แต่ คุณยายสับสนไปเยอะหน่อย
บรรยาย แต่เสื้อผ้า ที่ห่อจิตไว้า เท่านั้นเองค่ะ
ไม่ได้บรรยาย จิตค่ะ


สายแล้ว
ไปทำกิจก่อนหละค่ะ บ๊ายบาย
รักนะคะ จุ๊ฟๆ





เมโลกสวยคะตีความไม่แตกหรือคะ
วิสยรูป7คือวิสัยปกติรู้ได้ในชีวิตประจำวัน
ถ้ารู้เจตสิกแต่ละขณะได้ตถาคตคงไม่ตรัสว่าจิตวิปลาส
ก็เพราะไม่รู้ไงคะจำคลาดเคลื่อนไม่รู้ความจริงจึงต้องฟังเพื่อให้ปัญญาตัวเองน่ะ
แค่1แทรกเกิดท่ามกลางกิเลสตนที่นับไม่ได้ไงคะคิดไม่ออกหรือคะรู้ตรงวิสยรูป7ตรงทุกขณะ
จึงเรียกว่ามีสติสัมปชัญญะรู้ตัวทั่วพร้อมตอนลืมตาตื่นรู้ไงคะคือความจริงที่คิดเห็นถูกตามได้ตรงจริงๆ
จากฟังจนกว่านิพพานไม่ใช่พระพุทธเจ้าคนที่2นี่ถึงจะไปรู้ละเอียดเจตสิกได้คิดผิดคิดใหม่ได้นะคะหลาน
:b12:
:b16: :b16:


คุณป้าโรสขา ไปอีกแล้วค่ะ

หนูให้อธิบายจิต

กลับไปไปอธิบาย รูป โคจรรูป วิสยรูปอีก

อธิบายจิต สิคะ เจตสิก รูป นิพพาน ไม่ต้องอธิบายค่ะ




โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 00:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


อ่อ อีกอันนะคะ คุณป้าโรส

ที่คุณป้าพยายามอธิบาย สัมปชัญญะ ที่เข้าไปรู้ตรงตามโคจรรูปแบบนั้น เพื่อให้เกิดปัญญา
คุณป้าทำอะไรลงไปเนี่ยะ

อันนั้น นั้นจะทำให้เกิด ปัญญาเจตสิกค่ะ

เกิดคู่หู ตัวใหม่ เป็นเจตสิกตัวใหม่ มาบดบังจิตอีกนะคะ

คุณป้าจะเห็นมั๊ย ว่าทำอะไรลงไป

หนูบอกให้อธิบายจิต ไปทำพิศดารสร้างเจตสิกตัวใหม่มาอีกแล้วค่ะ





โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 06:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
อ่อ อีกอันนะคะ คุณป้าโรส

ที่คุณป้าพยายามอธิบาย สัมปชัญญะ ที่เข้าไปรู้ตรงตามโคจรรูปแบบนั้น เพื่อให้เกิดปัญญา
คุณป้าทำอะไรลงไปเนี่ยะ

อันนั้น นั้นจะทำให้เกิด ปัญญาเจตสิกค่ะ

เกิดคู่หู ตัวใหม่ เป็นเจตสิกตัวใหม่ มาบดบังจิตอีกนะคะ

คุณป้าจะเห็นมั๊ย ว่าทำอะไรลงไป

หนูบอกให้อธิบายจิต ไปทำพิศดารสร้างเจตสิกตัวใหม่มาอีกแล้วค่ะ




Kiss
กล่วคำตถาคตแต่ไม่เข้าใจความจริงได้ประโยชน์อะไรหรือคะหลาน
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงจริงตั้งแต่ตอนฟีงพระพุทธพจน์
จนเกิดสัมปชัญญะคือรู้ทั่วตัวครบรูปที่ปรากฏครบ6ทาง7รูปปกติ
ถ้ากะพริบตาแล้วก็ยังไม่รู้ความจริงแม้เพียง1ปรมัตถ์คือไม่ถึงสติ
เพราะกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาไม่ใช่คิดเกิน1คำดีชั่วไม่รวมกัน
สติเจตสิกสัมปชัญญะเจตสิกปัญญาเจตสิกเกิดจากชำนาญแล้ว
รู้ความจริงทั่วตัวแล้วค่ะหลานเอาคำพูดในภาษาที่เข้าใจสิคะ
จะได้รู้ว่าไม่ได้จำแค่เรื่องราวของตถาคตทุกคำส่องถุึงมีแล้ว
กิเลสก็มีแล้วถ้าไม่มีไม่เกิดมาแล้วหรอกนะคะแค่คิดตรง1คำ
ยังเลยสติแล้วค่ะหลานอยู่ไปวันๆโดยขาดการฟังจึงไม่เกิดรู้
เพราะรู้ความจริงคือความรู้สึกตัวไม่ใช่พูดบาลีเป็นช๊อตได้
แค่ถามความเป็นปกติง่ายๆกลับตอบไม่ได้นั่นน่ะคะคือไม่รู้
ไม่รู้จักตัวเองตามเป็นจริงเลยหรือคะก็ที่อธิบายจิต4ชาติ
หลานยังไม่เกิดปัญญาอีกหรือก็หลานตอบไม่ได้คือไม่รู้
แล้วหลานก็ไม่รู้ว่าหลานไม่รู้ว่าตัวหลานน่ะไม่รู้ไงล่ะคะ
จิตมี4ชาติตรงขณะรู้ทั่ววิสยรูป7นั่นล่ะคือจิตรู้ทั่วตัว
ตามปกติเป็นปกติค่ะกิเลสเลยไม่ไหลไปหมดเพราะ
ปกติวิสัยคนทุกคนลืมตาเห็นมีกิเลสแต่รู้ตรงสัจจะ
ทันทุกขณะก่อนดับ...ก่อนดับครบ6ทางน่ะหลาน
รู้ตัวทั่วพร้อมทุกขณะมันเร็วก่อนกะพริบตาไม่ทัน
ก็คือไม่รู้แปลว่ามีกิเลสแล้วค่ะ(กิเลสแปลว่าไม่รู้)
ที่ไม่มีคือปัญญาไงคะถ้ามีปัญญาทันกิเลสก็คือ
รู้ทุกข์ไงคะขณะที่กำลังรู้นั่นแหละกำลังละไม่รู้
แต่ไม่ใช่จากอ่านต้องเป็นกำลังฟังเข้าใจถูกตาม
คิดเองหลานก็เลยไม่รู้ตัวว่าตัวเองไม่เข้าใจไงคะ
วิบากจิตกิริยาจิตกุศลจิตอกุศลจิตปุถุชนมีครบ
อริยบุคคลตัดออกคืออกุศลจิตนะจ๊ะรู้จักกิเลส
พระอรหันเท่านั้นที่มีปัญญาแล้วเข้าใจไหมคะ
พระอรหันต์จึงมีชีวิตแค่ดูรูปขันธ์มันดุ๊กดิ๊กๆๆ
พระอรหันต์ดับกิเลสหมดแล้วหมดอยากถึงไง
คือไม่อยากถึงนิพพานเพราะเป็นความจริงที่
เหลือแค่รับวิบากกรรมเก่าคือมีวิบากจิตและ
ที่ยังมีร่างกายขยับไปมาได้คือรู้กิริยาจิตไง
:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 07:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
อ่อ อีกอันนะคะ คุณป้าโรส

ที่คุณป้าพยายามอธิบาย สัมปชัญญะ ที่เข้าไปรู้ตรงตามโคจรรูปแบบนั้น เพื่อให้เกิดปัญญา
คุณป้าทำอะไรลงไปเนี่ยะ

อันนั้น นั้นจะทำให้เกิด ปัญญาเจตสิกค่ะ

เกิดคู่หู ตัวใหม่ เป็นเจตสิกตัวใหม่ มาบดบังจิตอีกนะคะ

คุณป้าจะเห็นมั๊ย ว่าทำอะไรลงไป

หนูบอกให้อธิบายจิต ไปทำพิศดารสร้างเจตสิกตัวใหม่มาอีกแล้วค่ะ




Kiss
กล่วคำตถาคตแต่ไม่เข้าใจความจริงได้ประโยชน์อะไรหรือคะหลาน
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงจริงตั้งแต่ตอนฟีงพระพุทธพจน์
จนเกิดสัมปชัญญะคือรู้ทั่วตัวครบรูปที่ปรากฏครบ6ทาง7รูปปกติ
ถ้ากะพริบตาแล้วก็ยังไม่รู้ความจริงแม้เพียง1ปรมัตถ์คือไม่ถึงสติ
เพราะกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาไม่ใช่คิดเกิน1คำดีชั่วไม่รวมกัน
สติเจตสิกสัมปชัญญะเจตสิกปัญญาเจตสิกเกิดจากชำนาญแล้ว
รู้ความจริงทั่วตัวแล้วค่ะหลานเอาคำพูดในภาษาที่เข้าใจสิคะ
จะได้รู้ว่าไม่ได้จำแค่เรื่องราวของตถาคตทุกคำส่องถุึงมีแล้ว
กิเลสก็มีแล้วถ้าไม่มีไม่เกิดมาแล้วหรอกนะคะแค่คิดตรง1คำ
ยังเลยสติแล้วค่ะหลานอยู่ไปวันๆโดยขาดการฟังจึงไม่เกิดรู้
เพราะรู้ความจริงคือความรู้สึกตัวไม่ใช่พูดบาลีเป็นช๊อตได้
แค่ถามความเป็นปกติง่ายๆกลับตอบไม่ได้นั่นน่ะคะคือไม่รู้
ไม่รู้จักตัวเองตามเป็นจริงเลยหรือคะก็ที่อธิบายจิต4ชาติ
หลานยังไม่เกิดปัญญาอีกหรือก็หลานตอบไม่ได้คือไม่รู้
แล้วหลานก็ไม่รู้ว่าหลานไม่รู้ว่าตัวหลานน่ะไม่รู้ไงล่ะคะ
จิตมี4ชาติตรงขณะรู้ทั่ววิสยรูป7นั่นล่ะคือจิตรู้ทั่วตัว
ตามปกติเป็นปกติค่ะกิเลสเลยไม่ไหลไปหมดเพราะ
ปกติวิสัยคนทุกคนลืมตาเห็นมีกิเลสแต่รู้ตรงสัจจะ
ทันทุกขณะก่อนดับ...ก่อนดับครบ6ทางน่ะหลาน
รู้ตัวทั่วพร้อมทุกขณะมันเร็วก่อนกะพริบตาไม่ทัน
ก็คือไม่รู้แปลว่ามีกิเลสแล้วค่ะ(กิเลสแปลว่าไม่รู้)
ที่ไม่มีคือปัญญาไงคะถ้ามีปัญญาทันกิเลสก็คือ
รู้ทุกข์ไงคะขณะที่กำลังรู้นั่นแหละกำลังละไม่รู้
แต่ไม่ใช่จากอ่านต้องเป็นกำลังฟังเข้าใจถูกตาม
คิดเองหลานก็เลยไม่รู้ตัวว่าตัวเองไม่เข้าใจไงคะ
วิบากจิตกิริยาจิตกุศลจิตอกุศลจิตปุถุชนมีครบ
อริยบุคคลตัดออกคืออกุศลจิตนะจ๊ะรู้จักกิเลส
พระอรหันเท่านั้นที่มีปัญญาแล้วเข้าใจไหมคะ
พระอรหันต์จึงมีชีวิตแค่ดูรูปขันธ์มันดุ๊กดิ๊กๆๆ
พระอรหันต์ดับกิเลสหมดแล้วหมดอยากถึงไง
คือไม่อยากถึงนิพพานเพราะเป็นความจริงที่
เหลือแค่รับวิบากกรรมเก่าคือมีวิบากจิตและ
ที่ยังมีร่างกายขยับไปมาได้คือรู้กิริยาจิตไง
:b32:



ถามคุณโรสนะขอรับโผม ในทุกๆวันเวลานาทีวินาทีทุกลมหายใจเข้าออก คุณโรสใช้จิตไหม

1. ใช้
2.ไม่ใช้

ตอบตรงๆชัดๆ ข้อไหน 1 หรือ 2

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 07:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
อ่อ อีกอันนะคะ คุณป้าโรส

ที่คุณป้าพยายามอธิบาย สัมปชัญญะ ที่เข้าไปรู้ตรงตามโคจรรูปแบบนั้น เพื่อให้เกิดปัญญา
คุณป้าทำอะไรลงไปเนี่ยะ

อันนั้น นั้นจะทำให้เกิด ปัญญาเจตสิกค่ะ

เกิดคู่หู ตัวใหม่ เป็นเจตสิกตัวใหม่ มาบดบังจิตอีกนะคะ

คุณป้าจะเห็นมั๊ย ว่าทำอะไรลงไป

หนูบอกให้อธิบายจิต ไปทำพิศดารสร้างเจตสิกตัวใหม่มาอีกแล้วค่ะ




Kiss
กล่วคำตถาคตแต่ไม่เข้าใจความจริงได้ประโยชน์อะไรหรือคะหลาน
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงจริงตั้งแต่ตอนฟีงพระพุทธพจน์
จนเกิดสัมปชัญญะคือรู้ทั่วตัวครบรูปที่ปรากฏครบ6ทาง7รูปปกติ
ถ้ากะพริบตาแล้วก็ยังไม่รู้ความจริงแม้เพียง1ปรมัตถ์คือไม่ถึงสติ
เพราะกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาไม่ใช่คิดเกิน1คำดีชั่วไม่รวมกัน
สติเจตสิกสัมปชัญญะเจตสิกปัญญาเจตสิกเกิดจากชำนาญแล้ว
รู้ความจริงทั่วตัวแล้วค่ะหลานเอาคำพูดในภาษาที่เข้าใจสิคะ
จะได้รู้ว่าไม่ได้จำแค่เรื่องราวของตถาคตทุกคำส่องถุึงมีแล้ว
กิเลสก็มีแล้วถ้าไม่มีไม่เกิดมาแล้วหรอกนะคะแค่คิดตรง1คำ
ยังเลยสติแล้วค่ะหลานอยู่ไปวันๆโดยขาดการฟังจึงไม่เกิดรู้
เพราะรู้ความจริงคือความรู้สึกตัวไม่ใช่พูดบาลีเป็นช๊อตได้
แค่ถามความเป็นปกติง่ายๆกลับตอบไม่ได้นั่นน่ะคะคือไม่รู้
ไม่รู้จักตัวเองตามเป็นจริงเลยหรือคะก็ที่อธิบายจิต4ชาติ
หลานยังไม่เกิดปัญญาอีกหรือก็หลานตอบไม่ได้คือไม่รู้
แล้วหลานก็ไม่รู้ว่าหลานไม่รู้ว่าตัวหลานน่ะไม่รู้ไงล่ะคะ
จิตมี4ชาติตรงขณะรู้ทั่ววิสยรูป7นั่นล่ะคือจิตรู้ทั่วตัว
ตามปกติเป็นปกติค่ะกิเลสเลยไม่ไหลไปหมดเพราะ
ปกติวิสัยคนทุกคนลืมตาเห็นมีกิเลสแต่รู้ตรงสัจจะ
ทันทุกขณะก่อนดับ...ก่อนดับครบ6ทางน่ะหลาน
รู้ตัวทั่วพร้อมทุกขณะมันเร็วก่อนกะพริบตาไม่ทัน
ก็คือไม่รู้แปลว่ามีกิเลสแล้วค่ะ(กิเลสแปลว่าไม่รู้)
ที่ไม่มีคือปัญญาไงคะถ้ามีปัญญาทันกิเลสก็คือ
รู้ทุกข์ไงคะขณะที่กำลังรู้นั่นแหละกำลังละไม่รู้
แต่ไม่ใช่จากอ่านต้องเป็นกำลังฟังเข้าใจถูกตาม
คิดเองหลานก็เลยไม่รู้ตัวว่าตัวเองไม่เข้าใจไงคะ
วิบากจิตกิริยาจิตกุศลจิตอกุศลจิตปุถุชนมีครบ
อริยบุคคลตัดออกคืออกุศลจิตนะจ๊ะรู้จักกิเลส
พระอรหันเท่านั้นที่มีปัญญาแล้วเข้าใจไหมคะ
พระอรหันต์จึงมีชีวิตแค่ดูรูปขันธ์มันดุ๊กดิ๊กๆๆ
พระอรหันต์ดับกิเลสหมดแล้วหมดอยากถึงไง
คือไม่อยากถึงนิพพานเพราะเป็นความจริงที่
เหลือแค่รับวิบากกรรมเก่าคือมีวิบากจิตและ
ที่ยังมีร่างกายขยับไปมาได้คือรู้กิริยาจิตไง
:b32:



ถามคุณโรสนะขอรับโผม ในทุกๆวันเวลานาทีวินาทีทุกลมหายใจเข้าออก คุณโรสใช้จิตไหม

1. ใช้
2.ไม่ใช้

ตอบตรงๆชัดๆ ข้อไหน 1 หรือ 2

:b32: :b32: :b32:
ไป ใช้ จิต ทำ ทำ ไม คะ จิต เกิด ดับ ตาม เหตุ ตาม ปัจจัย มีแล้ว ไม่ ต้อง ทำ ไง คะ
:b13:
:b31: :b31:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 07:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
อ่อ อีกอันนะคะ คุณป้าโรส

ที่คุณป้าพยายามอธิบาย สัมปชัญญะ ที่เข้าไปรู้ตรงตามโคจรรูปแบบนั้น เพื่อให้เกิดปัญญา
คุณป้าทำอะไรลงไปเนี่ยะ

อันนั้น นั้นจะทำให้เกิด ปัญญาเจตสิกค่ะ

เกิดคู่หู ตัวใหม่ เป็นเจตสิกตัวใหม่ มาบดบังจิตอีกนะคะ

คุณป้าจะเห็นมั๊ย ว่าทำอะไรลงไป

หนูบอกให้อธิบายจิต ไปทำพิศดารสร้างเจตสิกตัวใหม่มาอีกแล้วค่ะ




Kiss
กล่วคำตถาคตแต่ไม่เข้าใจความจริงได้ประโยชน์อะไรหรือคะหลาน
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงจริงตั้งแต่ตอนฟีงพระพุทธพจน์
จนเกิดสัมปชัญญะคือรู้ทั่วตัวครบรูปที่ปรากฏครบ6ทาง7รูปปกติ
ถ้ากะพริบตาแล้วก็ยังไม่รู้ความจริงแม้เพียง1ปรมัตถ์คือไม่ถึงสติ
เพราะกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาไม่ใช่คิดเกิน1คำดีชั่วไม่รวมกัน
สติเจตสิกสัมปชัญญะเจตสิกปัญญาเจตสิกเกิดจากชำนาญแล้ว
รู้ความจริงทั่วตัวแล้วค่ะหลานเอาคำพูดในภาษาที่เข้าใจสิคะ
จะได้รู้ว่าไม่ได้จำแค่เรื่องราวของตถาคตทุกคำส่องถุึงมีแล้ว
กิเลสก็มีแล้วถ้าไม่มีไม่เกิดมาแล้วหรอกนะคะแค่คิดตรง1คำ
ยังเลยสติแล้วค่ะหลานอยู่ไปวันๆโดยขาดการฟังจึงไม่เกิดรู้
เพราะรู้ความจริงคือความรู้สึกตัวไม่ใช่พูดบาลีเป็นช๊อตได้
แค่ถามความเป็นปกติง่ายๆกลับตอบไม่ได้นั่นน่ะคะคือไม่รู้
ไม่รู้จักตัวเองตามเป็นจริงเลยหรือคะก็ที่อธิบายจิต4ชาติ
หลานยังไม่เกิดปัญญาอีกหรือก็หลานตอบไม่ได้คือไม่รู้
แล้วหลานก็ไม่รู้ว่าหลานไม่รู้ว่าตัวหลานน่ะไม่รู้ไงล่ะคะ
จิตมี4ชาติตรงขณะรู้ทั่ววิสยรูป7นั่นล่ะคือจิตรู้ทั่วตัว
ตามปกติเป็นปกติค่ะกิเลสเลยไม่ไหลไปหมดเพราะ
ปกติวิสัยคนทุกคนลืมตาเห็นมีกิเลสแต่รู้ตรงสัจจะ
ทันทุกขณะก่อนดับ...ก่อนดับครบ6ทางน่ะหลาน
รู้ตัวทั่วพร้อมทุกขณะมันเร็วก่อนกะพริบตาไม่ทัน
ก็คือไม่รู้แปลว่ามีกิเลสแล้วค่ะ(กิเลสแปลว่าไม่รู้)
ที่ไม่มีคือปัญญาไงคะถ้ามีปัญญาทันกิเลสก็คือ
รู้ทุกข์ไงคะขณะที่กำลังรู้นั่นแหละกำลังละไม่รู้
แต่ไม่ใช่จากอ่านต้องเป็นกำลังฟังเข้าใจถูกตาม
คิดเองหลานก็เลยไม่รู้ตัวว่าตัวเองไม่เข้าใจไงคะ
วิบากจิตกิริยาจิตกุศลจิตอกุศลจิตปุถุชนมีครบ
อริยบุคคลตัดออกคืออกุศลจิตนะจ๊ะรู้จักกิเลส
พระอรหันเท่านั้นที่มีปัญญาแล้วเข้าใจไหมคะ
พระอรหันต์จึงมีชีวิตแค่ดูรูปขันธ์มันดุ๊กดิ๊กๆๆ
พระอรหันต์ดับกิเลสหมดแล้วหมดอยากถึงไง
คือไม่อยากถึงนิพพานเพราะเป็นความจริงที่
เหลือแค่รับวิบากกรรมเก่าคือมีวิบากจิตและ
ที่ยังมีร่างกายขยับไปมาได้คือรู้กิริยาจิตไง
:b32:



ถามคุณโรสนะขอรับโผม ในทุกๆวันเวลานาทีวินาทีทุกลมหายใจเข้าออก คุณโรสใช้จิตไหม

1. ใช้
2.ไม่ใช้

ตอบตรงๆชัดๆ ข้อไหน 1 หรือ 2

:b32: :b32: :b32:
ไป ใช้ จิต ทำ ทำ ไม คะ จิต เกิด ดับ ตาม เหตุ ตาม ปัจจัย มีแล้ว ไม่ ต้อง ทำ ไง คะ
:b13:
:b31: :b31:



จบข่าว นี่ยังไงขอรับศิษย์สำนักแม่สุจิน บริหารสุวรรณภูมิ ได้อีกกระทู้แล้ว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 19:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
อ่อ อีกอันนะคะ คุณป้าโรส

ที่คุณป้าพยายามอธิบาย สัมปชัญญะ ที่เข้าไปรู้ตรงตามโคจรรูปแบบนั้น เพื่อให้เกิดปัญญา
คุณป้าทำอะไรลงไปเนี่ยะ

อันนั้น นั้นจะทำให้เกิด ปัญญาเจตสิกค่ะ

เกิดคู่หู ตัวใหม่ เป็นเจตสิกตัวใหม่ มาบดบังจิตอีกนะคะ

คุณป้าจะเห็นมั๊ย ว่าทำอะไรลงไป

หนูบอกให้อธิบายจิต ไปทำพิศดารสร้างเจตสิกตัวใหม่มาอีกแล้วค่ะ




Kiss
กล่วคำตถาคตแต่ไม่เข้าใจความจริงได้ประโยชน์อะไรหรือคะหลาน
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงจริงตั้งแต่ตอนฟีงพระพุทธพจน์
จนเกิดสัมปชัญญะคือรู้ทั่วตัวครบรูปที่ปรากฏครบ6ทาง7รูปปกติ
ถ้ากะพริบตาแล้วก็ยังไม่รู้ความจริงแม้เพียง1ปรมัตถ์คือไม่ถึงสติ
เพราะกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาไม่ใช่คิดเกิน1คำดีชั่วไม่รวมกัน
สติเจตสิกสัมปชัญญะเจตสิกปัญญาเจตสิกเกิดจากชำนาญแล้ว
รู้ความจริงทั่วตัวแล้วค่ะหลานเอาคำพูดในภาษาที่เข้าใจสิคะ
จะได้รู้ว่าไม่ได้จำแค่เรื่องราวของตถาคตทุกคำส่องถุึงมีแล้ว
กิเลสก็มีแล้วถ้าไม่มีไม่เกิดมาแล้วหรอกนะคะแค่คิดตรง1คำ
ยังเลยสติแล้วค่ะหลานอยู่ไปวันๆโดยขาดการฟังจึงไม่เกิดรู้
เพราะรู้ความจริงคือความรู้สึกตัวไม่ใช่พูดบาลีเป็นช๊อตได้
แค่ถามความเป็นปกติง่ายๆกลับตอบไม่ได้นั่นน่ะคะคือไม่รู้
ไม่รู้จักตัวเองตามเป็นจริงเลยหรือคะก็ที่อธิบายจิต4ชาติ
หลานยังไม่เกิดปัญญาอีกหรือก็หลานตอบไม่ได้คือไม่รู้
แล้วหลานก็ไม่รู้ว่าหลานไม่รู้ว่าตัวหลานน่ะไม่รู้ไงล่ะคะ
จิตมี4ชาติตรงขณะรู้ทั่ววิสยรูป7นั่นล่ะคือจิตรู้ทั่วตัว
ตามปกติเป็นปกติค่ะกิเลสเลยไม่ไหลไปหมดเพราะ
ปกติวิสัยคนทุกคนลืมตาเห็นมีกิเลสแต่รู้ตรงสัจจะ
ทันทุกขณะก่อนดับ...ก่อนดับครบ6ทางน่ะหลาน
รู้ตัวทั่วพร้อมทุกขณะมันเร็วก่อนกะพริบตาไม่ทัน
ก็คือไม่รู้แปลว่ามีกิเลสแล้วค่ะ(กิเลสแปลว่าไม่รู้)
ที่ไม่มีคือปัญญาไงคะถ้ามีปัญญาทันกิเลสก็คือ
รู้ทุกข์ไงคะขณะที่กำลังรู้นั่นแหละกำลังละไม่รู้
แต่ไม่ใช่จากอ่านต้องเป็นกำลังฟังเข้าใจถูกตาม
คิดเองหลานก็เลยไม่รู้ตัวว่าตัวเองไม่เข้าใจไงคะ
วิบากจิตกิริยาจิตกุศลจิตอกุศลจิตปุถุชนมีครบ
อริยบุคคลตัดออกคืออกุศลจิตนะจ๊ะรู้จักกิเลส
พระอรหันเท่านั้นที่มีปัญญาแล้วเข้าใจไหมคะ
พระอรหันต์จึงมีชีวิตแค่ดูรูปขันธ์มันดุ๊กดิ๊กๆๆ
พระอรหันต์ดับกิเลสหมดแล้วหมดอยากถึงไง
คือไม่อยากถึงนิพพานเพราะเป็นความจริงที่
เหลือแค่รับวิบากกรรมเก่าคือมีวิบากจิตและ
ที่ยังมีร่างกายขยับไปมาได้คือรู้กิริยาจิตไง
:b32:



ถามคุณโรสนะขอรับโผม ในทุกๆวันเวลานาทีวินาทีทุกลมหายใจเข้าออก คุณโรสใช้จิตไหม

1. ใช้
2.ไม่ใช้

ตอบตรงๆชัดๆ ข้อไหน 1 หรือ 2

:b32: :b32: :b32:
ไป ใช้ จิต ทำ ทำ ไม คะ จิต เกิด ดับ ตาม เหตุ ตาม ปัจจัย มีแล้ว ไม่ ต้อง ทำ ไง คะ
:b13:
:b31: :b31:



จบข่าว นี่ยังไงขอรับศิษย์สำนักแม่สุจิน บริหารสุวรรณภูมิ ได้อีกกระทู้แล้ว

cool
จิตเกิดดับทีละ1ขณะนั้นน่ะ
ขณะจิตสุดท้ายคือจุติจิต
ที่พาเกิดเป็นจิตเจตสิกรูป
ตามกรรมเก่าที่มาให้ผลค่ะ
ก็ถูกกำหนดโดยกรรมที่เคย
ทำไว้แต่ปางไหนรู้หรือว่าชาติไหน
และที่ตาไม่บอดวันนี้เป็นผลกรรมชาติไหน
ถ้าเกิดพรุ่งนี้ตาบอดหมดโอกาสเข้าใจเลยค่ะ
เพราะการฟังพระพุทธพจน์ต้องมีผู้แสดงให้เข้าใจ
ความจริงที่กำลังปรากฏโดยกำลังฟังเข้าใจถูกตามได้
ตรงปัจจุบันธรรมทุกขณะที่กำลังปรากฏตรงตามที่กำลังฟังนะคะ
ความจริงไม่ได้เกิดจากการไปเพื่อทำแต่กำลังมีความจริงปรากฏกับอวิชชาของตน
จิตเจตสิกรูปมีตรงปัจจุบันขณะเป็นปัจจุบันที่ผู้รู้ตามได้แล้วคือผู้รู้ตื่นเบิกบานในธรรม
:b11:
:b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 19:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
อ่อ อีกอันนะคะ คุณป้าโรส

ที่คุณป้าพยายามอธิบาย สัมปชัญญะ ที่เข้าไปรู้ตรงตามโคจรรูปแบบนั้น เพื่อให้เกิดปัญญา
คุณป้าทำอะไรลงไปเนี่ยะ

อันนั้น นั้นจะทำให้เกิด ปัญญาเจตสิกค่ะ

เกิดคู่หู ตัวใหม่ เป็นเจตสิกตัวใหม่ มาบดบังจิตอีกนะคะ

คุณป้าจะเห็นมั๊ย ว่าทำอะไรลงไป

หนูบอกให้อธิบายจิต ไปทำพิศดารสร้างเจตสิกตัวใหม่มาอีกแล้วค่ะ




Kiss
กล่วคำตถาคตแต่ไม่เข้าใจความจริงได้ประโยชน์อะไรหรือคะหลาน
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงจริงตั้งแต่ตอนฟีงพระพุทธพจน์
จนเกิดสัมปชัญญะคือรู้ทั่วตัวครบรูปที่ปรากฏครบ6ทาง7รูปปกติ
ถ้ากะพริบตาแล้วก็ยังไม่รู้ความจริงแม้เพียง1ปรมัตถ์คือไม่ถึงสติ
เพราะกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาไม่ใช่คิดเกิน1คำดีชั่วไม่รวมกัน
สติเจตสิกสัมปชัญญะเจตสิกปัญญาเจตสิกเกิดจากชำนาญแล้ว
รู้ความจริงทั่วตัวแล้วค่ะหลานเอาคำพูดในภาษาที่เข้าใจสิคะ
จะได้รู้ว่าไม่ได้จำแค่เรื่องราวของตถาคตทุกคำส่องถุึงมีแล้ว
กิเลสก็มีแล้วถ้าไม่มีไม่เกิดมาแล้วหรอกนะคะแค่คิดตรง1คำ
ยังเลยสติแล้วค่ะหลานอยู่ไปวันๆโดยขาดการฟังจึงไม่เกิดรู้
เพราะรู้ความจริงคือความรู้สึกตัวไม่ใช่พูดบาลีเป็นช๊อตได้
แค่ถามความเป็นปกติง่ายๆกลับตอบไม่ได้นั่นน่ะคะคือไม่รู้
ไม่รู้จักตัวเองตามเป็นจริงเลยหรือคะก็ที่อธิบายจิต4ชาติ
หลานยังไม่เกิดปัญญาอีกหรือก็หลานตอบไม่ได้คือไม่รู้
แล้วหลานก็ไม่รู้ว่าหลานไม่รู้ว่าตัวหลานน่ะไม่รู้ไงล่ะคะ
จิตมี4ชาติตรงขณะรู้ทั่ววิสยรูป7นั่นล่ะคือจิตรู้ทั่วตัว
ตามปกติเป็นปกติค่ะกิเลสเลยไม่ไหลไปหมดเพราะ
ปกติวิสัยคนทุกคนลืมตาเห็นมีกิเลสแต่รู้ตรงสัจจะ
ทันทุกขณะก่อนดับ...ก่อนดับครบ6ทางน่ะหลาน
รู้ตัวทั่วพร้อมทุกขณะมันเร็วก่อนกะพริบตาไม่ทัน
ก็คือไม่รู้แปลว่ามีกิเลสแล้วค่ะ(กิเลสแปลว่าไม่รู้)
ที่ไม่มีคือปัญญาไงคะถ้ามีปัญญาทันกิเลสก็คือ
รู้ทุกข์ไงคะขณะที่กำลังรู้นั่นแหละกำลังละไม่รู้
แต่ไม่ใช่จากอ่านต้องเป็นกำลังฟังเข้าใจถูกตาม
คิดเองหลานก็เลยไม่รู้ตัวว่าตัวเองไม่เข้าใจไงคะ
วิบากจิตกิริยาจิตกุศลจิตอกุศลจิตปุถุชนมีครบ
อริยบุคคลตัดออกคืออกุศลจิตนะจ๊ะรู้จักกิเลส
พระอรหันเท่านั้นที่มีปัญญาแล้วเข้าใจไหมคะ
พระอรหันต์จึงมีชีวิตแค่ดูรูปขันธ์มันดุ๊กดิ๊กๆๆ
พระอรหันต์ดับกิเลสหมดแล้วหมดอยากถึงไง
คือไม่อยากถึงนิพพานเพราะเป็นความจริงที่
เหลือแค่รับวิบากกรรมเก่าคือมีวิบากจิตและ
ที่ยังมีร่างกายขยับไปมาได้คือรู้กิริยาจิตไง
:b32:



ถามคุณโรสนะขอรับโผม ในทุกๆวันเวลานาทีวินาทีทุกลมหายใจเข้าออก คุณโรสใช้จิตไหม

1. ใช้
2.ไม่ใช้

ตอบตรงๆชัดๆ ข้อไหน 1 หรือ 2

:b32: :b32: :b32:
ไป ใช้ จิต ทำ ทำ ไม คะ จิต เกิด ดับ ตาม เหตุ ตาม ปัจจัย มีแล้ว ไม่ ต้อง ทำ ไง คะ
:b13:
:b31: :b31:



จบข่าว นี่ยังไงขอรับศิษย์สำนักแม่สุจิน บริหารสุวรรณภูมิ ได้อีกกระทู้แล้ว

cool
จิตเกิดดับทีละ1ขณะนั้นน่ะ
ขณะจิตสุดท้ายคือจุติจิต
ที่พาเกิดเป็นจิตเจตสิกรูป
ตามกรรมเก่าที่มาให้ผลค่ะ
ก็ถูกกำหนดโดยกรรมที่เคย
ทำไว้แต่ปางไหนรู้หรือว่าชาติไหน
และที่ตาไม่บอดวันนี้เป็นผลกรรมชาติไหน
ถ้าเกิดพรุ่งนี้ตาบอดหมดโอกาสเข้าใจเลยค่ะ
เพราะการฟังพระพุทธพจน์ต้องมีผู้แสดงให้เข้าใจ
ความจริงที่กำลังปรากฏโดยกำลังฟังเข้าใจถูกตามได้
ตรงปัจจุบันธรรมทุกขณะที่กำลังปรากฏตรงตามที่กำลังฟังนะคะ
ความจริงไม่ได้เกิดจากการไปเพื่อทำแต่กำลังมีความจริงปรากฏกับอวิชชาของตน
จิตเจตสิกรูปมีตรงปัจจุบันขณะเป็นปัจจุบันที่ผู้รู้ตามได้แล้วคือผู้รู้ตื่นเบิกบานในธรรม


ตามหาจิต พูดฉอดๆเป็นช่องเป็นฉาก จิต เจตสิก เกิด ดับ ปัจจุบันขณะ ผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานสำราญใจในธรรม คิกๆๆ คุณโรสขอรับสงบสติอารมณ์เถอะขอรับ ฟุ้งซ่านมากไปแล้วขอรับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 20:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
อ่อ อีกอันนะคะ คุณป้าโรส

ที่คุณป้าพยายามอธิบาย สัมปชัญญะ ที่เข้าไปรู้ตรงตามโคจรรูปแบบนั้น เพื่อให้เกิดปัญญา
คุณป้าทำอะไรลงไปเนี่ยะ

อันนั้น นั้นจะทำให้เกิด ปัญญาเจตสิกค่ะ

เกิดคู่หู ตัวใหม่ เป็นเจตสิกตัวใหม่ มาบดบังจิตอีกนะคะ

คุณป้าจะเห็นมั๊ย ว่าทำอะไรลงไป

หนูบอกให้อธิบายจิต ไปทำพิศดารสร้างเจตสิกตัวใหม่มาอีกแล้วค่ะ




Kiss
กล่วคำตถาคตแต่ไม่เข้าใจความจริงได้ประโยชน์อะไรหรือคะหลาน
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงจริงตั้งแต่ตอนฟีงพระพุทธพจน์
จนเกิดสัมปชัญญะคือรู้ทั่วตัวครบรูปที่ปรากฏครบ6ทาง7รูปปกติ
ถ้ากะพริบตาแล้วก็ยังไม่รู้ความจริงแม้เพียง1ปรมัตถ์คือไม่ถึงสติ
เพราะกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาไม่ใช่คิดเกิน1คำดีชั่วไม่รวมกัน
สติเจตสิกสัมปชัญญะเจตสิกปัญญาเจตสิกเกิดจากชำนาญแล้ว
รู้ความจริงทั่วตัวแล้วค่ะหลานเอาคำพูดในภาษาที่เข้าใจสิคะ
จะได้รู้ว่าไม่ได้จำแค่เรื่องราวของตถาคตทุกคำส่องถุึงมีแล้ว
กิเลสก็มีแล้วถ้าไม่มีไม่เกิดมาแล้วหรอกนะคะแค่คิดตรง1คำ
ยังเลยสติแล้วค่ะหลานอยู่ไปวันๆโดยขาดการฟังจึงไม่เกิดรู้
เพราะรู้ความจริงคือความรู้สึกตัวไม่ใช่พูดบาลีเป็นช๊อตได้
แค่ถามความเป็นปกติง่ายๆกลับตอบไม่ได้นั่นน่ะคะคือไม่รู้
ไม่รู้จักตัวเองตามเป็นจริงเลยหรือคะก็ที่อธิบายจิต4ชาติ
หลานยังไม่เกิดปัญญาอีกหรือก็หลานตอบไม่ได้คือไม่รู้
แล้วหลานก็ไม่รู้ว่าหลานไม่รู้ว่าตัวหลานน่ะไม่รู้ไงล่ะคะ
จิตมี4ชาติตรงขณะรู้ทั่ววิสยรูป7นั่นล่ะคือจิตรู้ทั่วตัว
ตามปกติเป็นปกติค่ะกิเลสเลยไม่ไหลไปหมดเพราะ
ปกติวิสัยคนทุกคนลืมตาเห็นมีกิเลสแต่รู้ตรงสัจจะ
ทันทุกขณะก่อนดับ...ก่อนดับครบ6ทางน่ะหลาน
รู้ตัวทั่วพร้อมทุกขณะมันเร็วก่อนกะพริบตาไม่ทัน
ก็คือไม่รู้แปลว่ามีกิเลสแล้วค่ะ(กิเลสแปลว่าไม่รู้)
ที่ไม่มีคือปัญญาไงคะถ้ามีปัญญาทันกิเลสก็คือ
รู้ทุกข์ไงคะขณะที่กำลังรู้นั่นแหละกำลังละไม่รู้
แต่ไม่ใช่จากอ่านต้องเป็นกำลังฟังเข้าใจถูกตาม
คิดเองหลานก็เลยไม่รู้ตัวว่าตัวเองไม่เข้าใจไงคะ
วิบากจิตกิริยาจิตกุศลจิตอกุศลจิตปุถุชนมีครบ
อริยบุคคลตัดออกคืออกุศลจิตนะจ๊ะรู้จักกิเลส
พระอรหันเท่านั้นที่มีปัญญาแล้วเข้าใจไหมคะ
พระอรหันต์จึงมีชีวิตแค่ดูรูปขันธ์มันดุ๊กดิ๊กๆๆ
พระอรหันต์ดับกิเลสหมดแล้วหมดอยากถึงไง
คือไม่อยากถึงนิพพานเพราะเป็นความจริงที่
เหลือแค่รับวิบากกรรมเก่าคือมีวิบากจิตและ
ที่ยังมีร่างกายขยับไปมาได้คือรู้กิริยาจิตไง
:b32:



ถามคุณโรสนะขอรับโผม ในทุกๆวันเวลานาทีวินาทีทุกลมหายใจเข้าออก คุณโรสใช้จิตไหม

1. ใช้
2.ไม่ใช้

ตอบตรงๆชัดๆ ข้อไหน 1 หรือ 2

:b32: :b32: :b32:
ไป ใช้ จิต ทำ ทำ ไม คะ จิต เกิด ดับ ตาม เหตุ ตาม ปัจจัย มีแล้ว ไม่ ต้อง ทำ ไง คะ
:b13:
:b31: :b31:



จบข่าว นี่ยังไงขอรับศิษย์สำนักแม่สุจิน บริหารสุวรรณภูมิ ได้อีกกระทู้แล้ว

cool
จิตเกิดดับทีละ1ขณะนั้นน่ะ
ขณะจิตสุดท้ายคือจุติจิต
ที่พาเกิดเป็นจิตเจตสิกรูป
ตามกรรมเก่าที่มาให้ผลค่ะ
ก็ถูกกำหนดโดยกรรมที่เคย
ทำไว้แต่ปางไหนรู้หรือว่าชาติไหน
และที่ตาไม่บอดวันนี้เป็นผลกรรมชาติไหน
ถ้าเกิดพรุ่งนี้ตาบอดหมดโอกาสเข้าใจเลยค่ะ
เพราะการฟังพระพุทธพจน์ต้องมีผู้แสดงให้เข้าใจ
ความจริงที่กำลังปรากฏโดยกำลังฟังเข้าใจถูกตามได้
ตรงปัจจุบันธรรมทุกขณะที่กำลังปรากฏตรงตามที่กำลังฟังนะคะ
ความจริงไม่ได้เกิดจากการไปเพื่อทำแต่กำลังมีความจริงปรากฏกับอวิชชาของตน
จิตเจตสิกรูปมีตรงปัจจุบันขณะเป็นปัจจุบันที่ผู้รู้ตามได้แล้วคือผู้รู้ตื่นเบิกบานในธรรม


ตามหาจิต พูดฉอดๆเป็นช่องเป็นฉาก จิต เจตสิก เกิด ดับ ปัจจุบันขณะ ผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานสำราญใจในธรรม คิกๆๆ คุณโรสขอรับสงบสติอารมณ์เถอะขอรับ ฟุ้งซ่านมากไปแล้วขอรับ

:b32: :b32:
สติสัมปชัญญะคืออีกชื่อของปัญญาทำกิจหน้าที่ไม่ใช่เราทำก็เลยรู้สึกตัวตลอดเวลาไงคะ
เพราะฝึกความตรงมาจากการฟังค่อยๆจำถูกตัวตนทีละ1คำไม่ทิ้งเย็นจะรู้ร้อนไหมล่ะคะ
ทุกอย่างรู้ความจริงที่กายใจตัวเองอาศัยตัวตนฟังเข้าใจปัญญาเกิดตามหลังกิเลสจนทัน
ทุกขณะเร็วมากก่อนกระพริบตาไม่ทันก็เป็นอันสะสมอวิชชาของตัวเองนั่นคือตนมีกิเลส
:b32:
:b55: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2018, 08:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

กรัชกาย
ตามหาจิต พูดฉอดๆเป็นช่องเป็นฉาก จิต เจตสิก เกิด ดับ ปัจจุบันขณะ ผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานสำราญใจในธรรม คิกๆๆ คุณโรสขอรับสงบสติอารมณ์เถอะขอรับ ฟุ้งซ่านมากไปแล้วขอรับ


อ้างคำพูด:
สติสัมปชัญญะคืออีกชื่อของปัญญาทำกิจหน้าที่ไม่ใช่เราทำก็เลยรู้สึกตัวตลอดเวลาไงคะ
เพราะฝึกความตรงมาจากการฟังค่อยๆจำถูกตัวตนทีละ1คำไม่ทิ้งเย็นจะรู้ร้อนไหมล่ะคะ
ทุกอย่างรู้ความจริงที่กายใจตัวเองอาศัยตัวตนฟังเข้าใจปัญญาเกิดตามหลังกิเลสจนทัน
ทุกขณะเร็วมากก่อนกระพริบตาไม่ทันก็เป็นอันสะสมอวิชชาของตัวเองนั่นคือตนมีกิเลส


คิกๆๆ เอ้ากะพริบตาไป

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 58 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 49 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร