กรัชกายถาม
ผมไปบวชได้แปดเดือน บวชวันแรกเกิดกำหนัดแอบสองอาทิตย์ผ่านไป เอาวินัยมาอ่าน อ่าวนี่มันผิดศีลนี่หว่าอายไม่กล้า ใครก็เดินจงกรมนั่งสมาธิ ตอนนั่งสมาธิ ก็หลับตา ไม่คิดอะไรท่องพุท-โธ ตามลมหายใจ จนเข้าเดือนที่สี่ออกพรรษาคิดว่าจะสึก แต่เห็นแสงเทียนในกระจกหน้าต่าง ก็วิ่งไปบอกเจ้าอาวาสๆก็ได้แต่ยิ้ม เข้าเดือนที่แปดนั่งสมาธิแบบเดิม ตอนนั้นเครียดเรื่องท่องหนังสือไม่ได้ ในขณะที่นั่ง มีเสียงผู้ชายมาถามว่าบรรลุรึยัง ผมเลยบอกว่ายังพูดในใจ อยู่ดีๆก็มีเสียงสวดมนต์เพราะมาก ตามด้วยบทธรรมจักร อยู่ดีๆก็มีภาพผมมีน้ำอสุจิไหลออกมา เห็นภาพที่เคยมีอะไรกับแฟน และมีเรื่องไม่ดีมากมาย ก็เลยพิจารณาการเกิดดับแก้ เรื่องหนึ่งมันก็มาอีก เรื่องหนึ่งเสียงก็ด่าว่าไอ้เลวตลอด อวัยวะเพศแข็งอยากมีเซ็กตลอดเวลา เลยตัดสินใจสึก คิดอะไรเหมือนมีคนรู้ เสียงด่าก็ด่าตลอด

โลกสวยตอบ
นั่นไม่ได้เรียกว่าสมาธิอะไรเรย
แค่นั่ง และหลับตา เพ้อเจ้อ ตามประสาคนที่ไม่รู้ ไม่มีครูบาอาจารย์ที่ชำนาญทั้งปริยัติ และปฎิบัติสั่งสอน

และคุณกรัชกายก็ไม่มีความรู้ว่า
สัมมาสมาธินั้น มีองค์ธรรมอะไรบ้าง
ยังถอดองค์ธรรมไม่ได้
เพราะไม่ได้เรียนปริยัติ และไม่ได้ปฎิบัติ

ไม่รู้ว่าสัมมาสมาธิ องค์ธรรมคือ เอกคัคตาเจตสิก

ปฎิบัติแบบนั้น จึงเรียกว่า ไม่ได้ปฎิบัติ ไม่เอาไหน
จึงได้แต่ สะสมอวิชชานุสัยใว้ในจิตตสันดานต่อไป ค่ะ

คุณกรัชกาย รู้สึกชอบมากเหรอคะ การปฎิบัติห่วยแตก
แบบนี้ ที่สะสมไว้ในจิตสันดาน จนต้องนำออกมาโพสต์หลายรอบแล้ว ?

กรัชกาย

เป็นคำถามปราบเซียน เพราะอะไรจึงกล่าวอย่างนั้น ? เพราะที่พูดๆกันมานั่น สรุปได้เป็นสองด้าน คือ

มโนเอาหนึ่ง สอง อ่านตำราอย่างเดียวแต่ไม่เคยทำไม่เคยปฏิบัติเลย

อย่างคุณนู๋เมโลกสวยนี่ มโน + เพ้อเจ้อ คิกๆๆ คือหมายความว่า อ่านหนังสือจะว่าพระสูตร ว่าอภิธรรมอะไรก็แล้วแต่ เท่ากับรู้ท่อนซุงทั้งดุ้น ไม่รู้ในส่วนปลีกย่อย คือรู้คลุมๆไป

แต่ส่วนที่น่าชมก็มีนะ คือ "ปากดี" ข้อนี้น่าชม

โลกสวย

ช่างเขลาเบาปัญญาเสียจริงค่ะ ที่คิดว่านั่นเป็นคำถามปราบเซียน
และเป็นการปฎิบัติ


ปฎิบัติห่วยแตกเช่นนั้น มีแต่บัญญัติ ไม่มีปรมัตถ์เป็นอารมณ์สักนิดเดียว

เพราะคุณไม่มีปริยัติรับรอง เพราะไม่เรียนปริยัติ
เรยไม่รู้ว่า ปริยัติ เป็นศาสนพรหมจรรย์

จึงไม่สามารถรู้ และเข้าถึงปฎิบัติและปฎิเวธที่ถูกต้องตามพระธรรมได้เลย

และการไปหาทางแก้ ก็ไม่ใช่วิปัสสนา ไม่ใช่ลักขณูปนิฌาน ด้วยซ้ำ

ไม่มีนามปรมัตถ์ รูปปรมัตถ์ เป็นอารมณ์ และไม่มีการยกขึ้น

พิจารณาตามอาการแห่งลักษณะสาม
โดยอนิจจลักษณะ ทุกขลักษณะ ไม่มีอนัตตลักษณะ ไปตามลำดับวิปัสสนาแห่งญาน10 เรย

คุณช่างโง่เขลาเบาปัญญา เสียจริงค่ะ ที่หลงชื่นชมว่า เป็นคำถามปราบเซียน

เพราะการปฎิบัติแบบนั้น ปฎิบัติผิด รุ้ผิด
และโง่หลงเข้าใจผิด ว่าปราบเซียน

ไม่ตรงตามอักขระ และพยัญชนะ ตามที่พระพุทธองค์ทรงแสดงค่ะ

ปฎิบัติห่วยแตก และก็ห่วยแตกที่ไปหลงชื่นชมว่าคำถามปราบเซียนค่ะ

เดี๋ยวนี้ไม่ได้นั่งสมาธิเลยค่ะ กลัวอะไรก็บอกไม่ถูก เมื่อก่อน เวลานั่งสักพัก รู้สึกเหมือนมีแมลงมาไต่อยู่ที่ขา ลูบดูก็ไม่มี
วันต่อๆ มาก็เป็นอีก จุดเดิม ที่เดิม เหมือนเดินไต่ไปเรื่อยๆ แต่รู้ว่ามันไม่มีอะไรไต่จริง แต่ก็ไม่รู้มันคืออะไร บางครั้งก็ได้ยินเสียงดัง "ปัง" ดังมากด้วย เหมือนอะไรตกบนบ้าน แต่ถามแม่ แม่กลับไม่ได้ยิน

เคล็ดลับการทำจิตให้สงบแบบรวดเร็ว

เห็นกบนอกกะลาคุยกันที่ กท.


http://larndham.org/index.php?/topic/44 ... ge__st__20

อยากให้ฟังหลวงพ่อคูณตอบคำถาม ที่เขาถามว่า อยากจะถามหลวงพ่อว่า สมาธิ กับ วิปัสสนากรรมฐาน แตกต่างกันยังไง ? กูก็ไม่รู้เลยไอ้หลาน คือ ท่านไม่รู้วิชาการอะไร แต่ท่านไม่พูดพล่ามทำเพลง ลงมือทำลงมือภาวนากันเลย ภาวนาแรกๆ มันมีตัวอะไรก็ไม่รู้ไต่ตามเนื้อตามตัวระยุ่มระย่าม บางทีจะเข้าหู แต่ก็ไม่ลูบไม่ปัด ภาวนาไป ถือคติอดทน อธิษฐานใจว่าภายใน 15 นาที หรือ 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง จะเกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่ภาวนานิ่งไปทีเดียว (ท่านว่าประมาณนี้)

ฟังดู

https://www.youtube.com/watch?v=0vpUMq41XjI

แต่ของเรานี่ไม่ทำ เอาแต่คุยชื่อคุยศัพท์แสงกัน เช่นว่า สติปัฏฐาน ๔ กาย เวทนา จิต ธรรม ปิดรูนั้น เปิดรูนี้ อะไรต่ออะไรกันไป

หลวงพ่อคูณ ไม่ใช่พระบรมศาสดา

ธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง สมบูรณ์ทั้งอรรถะ พยัญชนะ บริสุทธิ์โดยสิ้นเชิง

และทรงกำหนดด้วย อสาธารณะญาณ 6 ของพระพุทธองค์ ที่หลวงพ่อคูณไม่มี

และทรงแสดงปริยัติธรรมตลอดพระชมน์ชีพ เพื่อเป็นเหตุให้ผู้ศึกษาได้เข้าถึง ปริยัติสัจธรรมอันสมบูรณ์

แล้วจึงจะเกิดปริยัติญานอันสมบูรณ์ ตามคำสอนพระพุทธองค์

จนถึงปฎิเวธญาณที่ถูกต้อง สมบูรณ์ ตามคำสอนพระพุทธองค์

ถ้าไม่มี ไม่รู้เรื่อง ปริยัติแล้ว จะไม่ถึงปฎิเวธญาณ ที่สมบูรณ์ ตามคำสอนพระพุทธองค์ได้


ดังนั้น


คำสอนใด ที่หลวงพ่อคูณ ที่ผิดเพี้ยน ไม่ตรงกับอรรถ และพยัญชนะ ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ดีแล้ว

นั่นไม่ใช่คำสอนของพระบรมศาสดาค่ะ

คำสอนพระพุทธองค์ สามารถปราบเซียนได้ ไม่ว่า จะเป็นเซียนปลุกพระเครื่อง เซียนเคาะกระโหลกะกลา

หรือเซียนเหยียบเมฆ แม้นแต่เง๊กเซียน

ถ้าปฎิบัติ ไม่ตรงตาคำสอนอรรถ และพยัญชนะ ที่พระพุทองค์ทรงแสดง

ขาดตกบกพร่อง

ไม่อาจถึงปฎิเวธที่บริบูรณ์ได้ ค่ะ

ขณะสวดมนต์แล้วได้เอนตัวลงนอนอย่างมีสติ...ได้บริกรรมพอง กับ ยุบ ไปเรื่อย ๆ ไม่ได้คิดอะไร...จนหลับไปไม่รู้ตัว...ระยะหนึ่ง...จิตได้เกิดกลางดึก คือ มีสติรู้ขึ้นมาทันทีของการพองยุบของท้อง และรู้สึกว่ามีนิ้วมือมากดที่สะดือแรงมาก เวลาที่พองออก ท้องก็จะพองออกมาก มือที่กดก็จะแรงไปตามการพองและยุบ จนรู้สึกกลัวมากเหมือนไส้จะหลุดออกมา.. แต่ผมก็พยายามดึงสติให้อยู่กับคำบริกรรมพอง ยุบอีก แต่พยายามแล้วจิตก็ทนไม่ได้ จิตสั่นไปหมดเหมือนท้องจะแตก จิตคิดตอนนั้นครับ

ได้ฟังคลิบหลวงพ่อคูณ ถึงนาทีที่ 2

https://www.youtube.com/watch?v=0vpUMq41XjI

ท่านตอบคำถามเรื่อง "สมาธิ วิปัสสนากัมมัฏฐาน" ฟังที่ท่านเล่าถึงการภาวนาของท่านเองตอนแรกๆแล้วเทียบกับคำถามที่ขีดเส้นใต้ข้างบน

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผมไม่ใช่ ชาวพุทธศาสนิกชน นะ แต่หลายอาทิตย์ ผมลองนอนสมาธิดูลมหายใจ โดยเปลี่ยนคำบริกรรมเป็น นามอื่นในศาสนาที่ผมถือแทน ทีนี้ พอทำไปทำมา เหมือนรู้สึกตัวหาย เหมือนหายไปเลย ประมาณ สอง ชม.เห็นจะได้ แต่รู้สึกเหมือนแปปเดียว
จากนั้นผมก็ไม่ได้นั่งหรือนอนสมาธิ เป็นกิจลักษณะ แต่แค่ดูลมหายใจเข้าออกแทนพร้อมบริกรรมไปด้วย คือผมรู้สึกติดใจกับการนั่งสมาธิ เพราะผมรู้สึกดี สงบดี และมีสติและอดทนต่อเหตุการณ์ต่างที่เข้ามาได้ดีขึ้น แต่ที่นี้ผมไม่เลิกฟังเพลง ตอนนี้รู้สึกจะดูลมหายใจตามลำบากมาก และสติหายกลับไปเหมือนเมื่อก่อนที่คิดลบ คิดเยอะ อันนี้เพราะมีกิเลสเข้ามาแทรกใช่ไหม
เข้าคำถามที่สอง ทีนี้ตอนนี้ ผมเลยฝึกนั่งดูตัวเอง มองตัวเอง ณ ปัจจุบัน หมายถึง ดูตัวเองขณะปัจจุบันว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ เลยรู้สึกมีสติมากขึ้น และสงบขึ้น ถามว่าแบบนี้คือการฝึกสติใช่ไหม ขอคำอธิบายแบบภาษาง่าย ชาวบ้านหน่อยครับ

และถึงบอกว่าให้เทียบเคียงระหว่างคำถามของผู้ปฏิบัติคนหนึ่ง กับ ที่หลวงพ่อคูณเล่าถึงการภาวนาของท่านเอง

เจ้าของคำถามนั้นภาวนาไปๆๆ ถึงระดับหนึ่ง รู้สึกว่ามีตัวไรใต่ตามเนื้อตามตัว จึงเอามือลูบดูก็รู้ไม่มีตัวอะไร ทีนี้เลยฟุ้งไปกับมันใหญ่โตเลย ส่วนหลวงพ่อคูณก็เช่นนั้นมีไรๆไต่ แต่ท่านอดทนอดกลั้นไม่ลูบไม่ปัด อธิษฐานใจนั่งนิ่งภาวนาไป ภาวนาไปๆๆ มันก็ผ่านไป นี่แหละลักษณะสมถะ หรือสมาธิจิต หลวงพ่อคูณนี่ได้สมถะ หรือได้สมาธิจิตระดับหนึ่ง

ส่วนนู๋เมโลกสวย ได้มโนธรรมะ คิกๆๆ

กระทู้ถามจากพันทิพ



คนตั้ง กท.ถาม เขาทำจริงๆลงมือทำจริง เขาเล่าจากความรู้สึกที่เขาประสบ แต่ผู้ที่ร่วมตอบร่วมสนทนา เกือบทั้งนั้นไม่เคยทำ แต่มีความรู้พื้นฐานจากการฟังหลวงพ่อ หลวงปู่ หลวงตา อาจารย์นั่นนี่พูดไว้กล่าวไว้ ตนเองฟังแล้วอนุมานเอาตามเหตุผลก็เลยว่าไปตามแนวที่ตนเคยได้ยินได้ฟังมา ดูก็รู้ได้จากการตอบคำถาม รู้เลยว่ามาจากไหนสำนักใดอาจารย์ไหน รู้เลย

นี่คือการแสดงความตื้นเขิน ของคุณกรัชกาย
เพราะไม่ได้ศึกษาปริยัติ
เรยไม่รู้ว่า

การบรรลุธรรม นั้นมีสามขั้น


คือ

1 ต้องมีการศึกษา และปฎิบัติ เพือบรรลุปริยัติญาน

2 ต้องมีการศึกษา และปฎิบัติ เพื่อบรรลุ ปฎิบัติญาน

3 ต้องมีการศึกษา และปฎิบัติ เพื่อบรรลุปฎิเวธะญาน


นู๋เม มีการศึกษา ปริยัติ ที่ถูกต้องตามคำสอนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถูกต้องตามพระไตรปิฎก

จึงปฎิบัติได้ถูกต้อง และจะถึงปฎิเวธได้ถูกต้องสมบูรณ์ ตามคำสอนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ



แต่ คุณกรัชกาย ปริยัติ ก็ไม่ได้ศึกษา ปฎิบัติ ก็ไม่ได้เรื่อง ไม่อาจถึงปฎิเวธได้

เพราะไร้การศึกษาปริยัติ

จึงปฎิบัติได้แค่ไปลอกกระทู้ตามเวปต่างๆ มาแปะ แล้วคุยโว

นู๋เม มีการศึกษา ปริยัติ ที่ถูกต้องตามคำสอนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถูกต้องตามพระไตรปิฎก

จึงปฎิบัติได้ถูกต้อง และจะถึงปฎิเวธได้ถูกต้องสมบูรณ์ ตามคำสอนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ