วันเวลาปัจจุบัน 23 เม.ย. 2024, 23:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2017, 07:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 2664

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

"ปัญญาเกิดก่อน"

" .. ครั้นถ้าหากพูดถึงเรื่องปัญญาแล้ว "หัดสมถะก็ต้องเกิดปัญญาเสียก่อน จึงค่อยเกิดสมถะ" อย่างพิจารณาอสุภะ พิจารณาธาตุ พิจารณาขันธ์อายตนะต่าง ๆ "เห็นเป็นของไม่เที่ยง เห็นเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา อันนั้นละตัวปัญญา"

ปัญญาเกิดก่อนจึงค่อยมีสมถะ ครั้นเห็นชัดอย่างนั้นแล้วจิตก็รวมลงไปได้ ถ้าไม่เห็นชัดอย่างนั้นจิตไม่รวม "อันเห็นชัดนั้นเรียกว่าปัญญา อันนี้เรียกว่าปัญญาเกิดก่อนสมถะ สมถะเต็มที่แล้วจึงค่อยเกิดปัญญาวิปัสสนา"

"ปัญญาวิปัสสนาอันหนึ่งต่างหาก ปัญญาธรรมดาสามัญนี้อีกอันหนึ่งต่างหาก"

อย่าว่าตั้งแต่สมถะเลย ทาน ศีล ภาวนา เบื้องต้นแหละ "ทานนี้ต้องมีปัญญาจึงสามารถทําทานได้ เห็นว่า ทานเป็นของดีวิเศษ" เป็นของช่วยมนุษย์คนทั้งปวงหมดให้อยู่ได้ด้วยการทําทาน เฉลี่ยความสุขให้คนอื่น "เห็นประโยชน์ของการเฉลี่ยความสุขให้คนอื่น นั้นจึงค่อยทําทาน"

"การเห็นประโยชน์อันนั้นน่ะ นั่นแหละเรียกว่าปัญญา" เห็นคุณค่าของการทําทานนั้นเรียกว่า "มีปัญญาจึงค่อยทําทานได้ นั่นละเกิดปัญญาก่อน"

รักษาศีลก็เหมือนกัน "ศีลห้า ศีลแปด เห็นโทษของการทําชั่วบาปต่าง ๆ จริงจังด้วยใจจริง ๆ ชัดเจนจริง ๆ อันนั้นละเรียกว่าปัญญา" จึงค่อยสามารถรักษาศีลให้มั่นคงถาวรต่อไปได้ .. "

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

http://tesray.com/afterhours-25

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
.. สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ ..


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 31 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร