วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 01:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2016, 09:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านอโศกใช้คำพูดว่า "ทำสมาธิภาวนา" บ้างก็ว่า นั่งสมาธิ

อ้างคำพูด:
asoka
หมู่คณะที่ทำสมาธิภาวนาลืมตาในมืองไทยก็มีเพียงศิษย์สายหลวงพ่อเทียน กับสันติอโศก สายอื่นนอกนั้นเขาหลับตาภาวนากันแทบทั้งนั้น น้องรสรินไปเอารูปแบบจากไหนมา มีแสดงไว้ในพระสูตรไหมเรื่องลืมตาภาวนา

หรือกรัชกายผู้เชี่ยวชาญตำรามีข้อมูลช่วยก้อปมาแปะให้ดูหน่อยนะครับ!!!


viewtopic.php?f=1&t=53475&p=403309#p403309


แต่ตรงนี้ ประเด็น หลับตา กับ ลืมตา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2016, 10:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
:b12:
เรียนให้ท่านอโศกะเข้าใจความจริงหน่อยก็ได้ไม่ว่าจะนั่งสมาธิแบบหลับตาหรือไม่หลับตา
ก็คือการทำสมาธิคือทำจิตใจให้ตั้งมั่นอยู่ที่กายและจิตตนไม่วอกแวกไปตามสิ่งที่คิดนะคะ
เพราะเวลาทำสมาธิไม่ใช่การนั่งเงียบๆโดยไม่รู้อะไรเลยต้องมีการฟังและคิดตามพระธรรม
ไม่ส่งจิตออกไปรู้เห็นสิ่งใดเลยนอกจากรู้ความจริงตามสภาวะที่จิตรู้ตามเป็นจริงที่ผัสสะน๊า
ไม่ใช่คิดเป็นภาพโน่นนี่นั่นตอนปิดตาหรือไม่ใช่คิดไปตามสิ่งที่เห็นตอนลืมตาแต่ต้องรู้ที่ตั้ง
คือฐานที่ตั้งของมหาภูตรูปที่เป็นกายตนและรู้ว่าจิตตนต้องตั้งมั่นที่กายไม่วอกแวกไปไหนๆ
รู้ที่กายว่ามีจริงๆไหม รู้ว่าเวทนามีจริงๆไหม รู้ว่าจิตมีจริงๆไหม และรู้ว่าธัมมะมีจริงๆไหมค่ะ
ไม่ใช่ส่งออกจากฐานที่ตั้งไปรู้เห็นเทวดานางฟ้า นรก สวรรค ์ พรหมโลกที่ไหน เข้าใจไหม
รู้ความจริงที่จิตมีจริงๆตอนกำลังฟังเพื่อไม่ให้หลงผิดคิดไปตามสิ่งที่อยากจะไปรู้ไปเห็นนะคะ
เวลาทำสมาธิในการฟังอ่ะค่ะ ไม่ต้องส่งจิตไปตามเสียงหรือส่งไปที่ผู้เทศน์ แค่รู้ว่าเสียงมีแน่ๆ
ไม่จำเป็นต้องจำเนื้อความได้เป็นการรู้ว่าความจริงที่มีการเกิดดับแต่ละทางว่าเวลาดับอะไรดับ
เวลาที่มีการดับแล้วมีอะไรปรากกฏเกิดให้รู้ว่าตั้งอยู่ได้จริงๆ ไม่ใช่หลงปรุงไปตามสิ่งที่อ่านมาอ่ะ
ความจริงที่รู้ตรงแล้วจริงๆนะคะตรงตำราแบบเปะเว่อร์เลยเป็นการรู้จริงๆและไม่ใช่ไปจดจำแบบอ่าน
:b4: :b4:
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2016, 13:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ท่านอโศกใช้คำพูดว่า "ทำสมาธิภาวนา" บ้างก็ว่า นั่งสมาธิ

อ้างคำพูด:
asoka
หมู่คณะที่ทำสมาธิภาวนาลืมตาในมืองไทยก็มีเพียงศิษย์สายหลวงพ่อเทียน กับสันติอโศก สายอื่นนอกนั้นเขาหลับตาภาวนากันแทบทั้งนั้น น้องรสรินไปเอารูปแบบจากไหนมา มีแสดงไว้ในพระสูตรไหมเรื่องลืมตาภาวนา

หรือกรัชกายผู้เชี่ยวชาญตำรามีข้อมูลช่วยก้อปมาแปะให้ดูหน่อยนะครับ!!!


แต่ตรงนี้ ประเด็น หลับตา กับ ลืมตา


คำพูดของท่านอโศกนั่นบ่งบอกว่าตนไม่เคยฝึกเคยทำสมาธิเลยไม่เคยเร๊ยจริงๆ สาบานได้ เพียงแต่เคยฟังครูบาจารย์ที่ตัวนับถือมาบ้างเท่านั้น แล้วก็มามโนจับแพะชนไก่โยงไปนั่นมานี่มั่วๆอย่างเห็นๆ :b32:

ทำสมาธิ,นั่งสมาธิ,เจริญสมาธิ เป็นต้น ตอนใช้อิริยาบถนั่งกำหนดอารมณ์ ควรหลับตาเบาๆ เพราะหลับตาจะกำหนดจับอารมณ์ความรู้สึกได้ลึกกว่าตอนลืมตา แต่ก็ลืมตาได้ ดูตัวอย่างนี้ประกอบคำอธิบายไปก่อน

นี่เค้านั่งหลับตานะ เกิดอะไรขึ้นดู

อ้างคำพูด:
เดี๋ยวนี้ไม่ได้นั่งสมาธิเลยค่ะ กลัวอะไรก็บอกไม่ถูก เมื่อก่อนเวลานั่งสักพักรู้สึกเหมือนมีแมลงมาไต่อยู่ที่ขา ลูบดูก็ไม่มี
วันต่อๆมาก็เป็นอีก จุดเดิม ที่เดิม เหมือนเดินไต่ไปเรื่อยๆ แต่รู้ว่ามันไม่มีอะไรไต่จริง แต่ก็ไม่รู้มันคืออะไร บางครั้งก็ได้ยินเสียงดัง "ปัง" ดังมากด้วย เหมือนอะไรตกบนบ้าน แต่ถามแม่ แม่กลับไม่ได้ยิน


ลืมตาดูให้แน่ใจก็ได้ เมื่อลืมตาดูชัดๆแล้วว่าบ่มีอันหยั่ง ให้หลับตาภาวนากรรมฐานไปใหม่ ครั้นหลับตาภาวนาแล้วๆๆ เกิดรู้สึกเช่นนั้นอีก ทีนี้ให้กำหนดจิตไปเลย รู้หนอๆๆ (แต่ไม่ใช่ครั้งเดียวจบนะ เกิดอีก กำหนดอีกๆๆๆ) ก็จะผ่านจุดนี้ไปได้

ถามว่ามันถืออะไร ภาษาทางธรรมเรียกว่า สภาวะ,สภาวธรรม เหมือนมันบอกเราว่า คุณจิตนิ่งๆแล้วนะ ฟุ้งซ่านลดลงแล้วนะ

ส่วนตอนจงกรม ควรลืมตาเดิน ใช้ความรู้สึกจับอาการก้าวเดินไปทีละก้าวๆ สลับไปสลับมา (กายก็เดิน ใจก็กำหนดรู้)

ปล. ให้สังเกตตอนนั่งแล้วเกิดเวทนาแรงๆ ให้ลืมตากำหนดได้ สังเกตเวทนาตอนลับตา กับ ตอนลืมตา ลืมตาเหมือนเวทนาจะเบาลง แต่หลับตาเหมือนเวทนาแรง แรงจนตัวหดขมิดก้นเลยทีเดียว อิอิ อ้าวบอกไม่เชื่อ ไม่เชื่อลอง

ลองเล่นกับมัน (อารมณ์) ดูได้ ซึ่งไม่ผิดกติกาให้การฝึกจิตแต่ประการใด เป็นการเรียนรู้ ปัญญาจะได้เกิด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2016, 20:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


cool
เชิญไปที่นี่ครับ

viewtopic.php?f=1&t=53521
smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ม.ค. 2017, 16:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก่อนหน้าบอกว่า ลืมตาได้ แล้วยังบอกอีกว่า ระหว่างหลับตากับลืมตา หลับตาภาวนาจิตจับอารมณ์ได้ลึกกว่าลืมตา แล้วให้สังเกตตอนเวทนาเกิดระหว่างหลับตาพิจารณาเวทนา กับ ลืมตาพิจารณา

โยคีนี้หลับตาภาวนา ทำไปๆๆๆๆสภาวะแบบเหวี่ยงหมุนเวียนหัวจนทำต่อไม่ได้จะอ้วก จึงลืมตาดูผู้อื่นสะ มันก็คลายไปได้ พอหลับตาภาวนาเกิดอีก

ท่านอโศกดูไว้




ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพัก ประมาณสิบนาที เริ่มมีอาการเหวี่ยง แบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามา ก็เริ่มมาหาอ่านเอง จนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลย หมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ

หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ม.ค. 2017, 16:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ท่านอโศกใช้คำพูดว่า "ทำสมาธิภาวนา" บ้างก็ว่า นั่งสมาธิ

อ้างคำพูด:
asoka
หมู่คณะที่ทำสมาธิภาวนาลืมตาในมืองไทยก็มีเพียงศิษย์สายหลวงพ่อเทียน กับสันติอโศก สายอื่นนอกนั้นเขาหลับตาภาวนากันแทบทั้งนั้น น้องรสรินไปเอารูปแบบจากไหนมา มีแสดงไว้ในพระสูตรไหมเรื่องลืมตาภาวนา

หรือกรัชกายผู้เชี่ยวชาญตำรามีข้อมูลช่วยก้อปมาแปะให้ดูหน่อยนะครับ!!!


viewtopic.php?f=1&t=53475&p=403309#p403309


แต่ตรงนี้ ประเด็น หลับตา กับ ลืมตา



กรัชกายรับประกันซ่อมฟรีว่า ท่านอโศกไม่รู้เรื่องภาวนาเลยจินๆ คิกๆๆ ให้ดิ้นตายเอ้า :b1:

ท่านอโศกก็รู้ตัวเองดี แต่ยอมรับในลานนี้ไม่ได้ เพราะกลัวคนนุ่งขาวห่มขาวนั่นๆจะหายเกลี้ยง คิกๆๆ หรือไม่จิน :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2017, 19:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่หลังจากนั่งสมาธิแล้ว แล้วกำลังจะนอนพอหลับตา เพื่อจะนอนซักพัก ซึ่งจะอยู่ในช่วงกึ่งหลับกึ่งตื่นจะรู้สึกเหมือนร่างกายถูกของมีคมกรีดทั่งร่างเลยค่ะ หลังจากนั้นจะมีอาการตัวลอยขึ้นสูงมาก เหมือนจะสูงกว่าหลังคา บ้านซะอีก ตอนนั้นรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลาเลยค่ะ แต่รู้สึกตัวแบบเบลอๆ ทั้งๆที่ก็นอนหลับตาอยู่ คล้ายๆกับกำลังฝัน แต่ไม่ได้ฝันค่ะ หลังจาก นั้นตัวก็ลอยกลับลงมาที่เดิม แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ รู้สึกว่ามันเย็นมาก จนต้องลืมตาแล้วต้องไปหาผ้าห่มมาห่มเพิ่มหลายผืนเพราะหนาวมาก คิดอยู่ตลอดว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น คิดจนหลับไป

บางครั้งพอหลับตากำลังจะนอนซึ่งก็อยู่ในช่วงกึ่งหลับกึ่งตื่นอีกนั่นแหละ ก็รู้สึกสว่างจ้าเหมือนมีคนเอาไฟสปอร์ทไลท์ดวงใหญ่ๆมาส่องที่หน้าขณะที่กำลังนอนค่ะ

พอตื่นขึ้นมาตอนเช้า รู้สึกเบื่อหน่ายชีวิตเบื่อหน่ายโลก เหมือนอยากตัดขาดจากโลกไปเลยค่ะ แต่รู้สึกแบบสงบๆนะคะ.. และก็เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง อยากทราบว่าอาการที่ว่านั้นเกิดจากอะไร เกี่ยวข้องกับการนั่งสมาธิหรือเปล่า


ท่านอโศกมีอะไรแนะนำเป็นวิทยาทานขอรับ กำหนดถี่ๆ กำหนดยังไงใช้ตัวอย่างนี้แนะนำเค้าเลยขอรับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2017, 19:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ท่านอโศกใช้คำพูดว่า "ทำสมาธิภาวนา" บ้างก็ว่า นั่งสมาธิ

อ้างคำพูด:
asoka
หมู่คณะที่ทำสมาธิภาวนาลืมตาในมืองไทยก็มีเพียงศิษย์สายหลวงพ่อเทียน กับสันติอโศก สายอื่นนอกนั้นเขาหลับตาภาวนากันแทบทั้งนั้น น้องรสรินไปเอารูปแบบจากไหนมา มีแสดงไว้ในพระสูตรไหมเรื่องลืมตาภาวนา

หรือกรัชกายผู้เชี่ยวชาญตำรามีข้อมูลช่วยก้อปมาแปะให้ดูหน่อยนะครับ!!!


viewtopic.php?f=1&t=53475&p=403309#p403309


แต่ตรงนี้ ประเด็น หลับตา กับ ลืมตา



อ้างคำพูด:
ทำสมาธิภาวนาลืมตาในมืองไทยก็มีเพียงศิษย์สายหลวงพ่อเทียน กับ สันติอโศก


เพิ่งได้ยินว่าสำนักสันติอโศกทำสมาธิลืมตาด้วยจากท่านอโศกนี่เอง

เคยเห็นแต่ :b13:

http://f.ptcdn.info/821/028/000/1424949 ... khd6-o.jpg

:b31: :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ม.ค. 2017, 07:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
แสดงว่าโลกทัศน์หรือ Vission ของคุณกรัชกายยังแคบไป ต้องพัฒนานะครับ
:b29:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ม.ค. 2017, 08:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
แสดงว่าโลกทัศน์หรือ Vission ของคุณกรัชกายยังแคบไป ต้องพัฒนานะครับ
:b29:


พูดค้างๆคาๆ อีกแระ

บอกสิขอรับ เมื่อโลกโทรทัศน์แคบแล้ว เราต้องพัฒนายังไงจึงจะกว้างงงง ว่าไปสิขอรับ :b8: ยินดีรับฟัง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ม.ค. 2017, 08:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ท่านอโศกใช้คำพูดว่า "ทำสมาธิภาวนา" บ้างก็ว่า นั่งสมาธิ

อ้างคำพูด:
asoka
หมู่คณะที่ทำสมาธิภาวนาลืมตาในมืองไทยก็มีเพียงศิษย์สายหลวงพ่อเทียน กับสันติอโศก สายอื่นนอกนั้นเขาหลับตาภาวนากันแทบทั้งนั้น น้องรสรินไปเอารูปแบบจากไหนมา มีแสดงไว้ในพระสูตรไหมเรื่องลืมตาภาวนา

หรือกรัชกายผู้เชี่ยวชาญตำรามีข้อมูลช่วยก้อปมาแปะให้ดูหน่อยนะครับ!!!


viewtopic.php?f=1&t=53475&p=403309#p403309


แต่ตรงนี้ ประเด็น หลับตา กับ ลืมตา


ไปเห็นมาอีกสายหนึ่ง คือ เอาอุจจาระหรือขี้ผสมน้ำราดตามเนื้อตามตัว เขาว่าไล่มาร :b1:

https://www.facebook.com/media/set/?set ... 445&type=3

ตอนราดน้ำผสมอุจจาระ น่าจะหลับตากันน้ำเข้าตา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 71 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร