วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 20:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 48 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2016, 11:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตัดมานิดหน่อยก่อน เทียบภาคปฏิบัติธรรม หรือปฏิบัติกัมมัฏฐานได้เลย

จากหนังสือเล่มนี้ หน้า 422

รูปภาพ


หน้าที่ต่อทุกข์ คือ ปริญญา แปลว่า กำหนดรู้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2016, 11:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรามีหน้าที่รู้ทุกข์ เราไม่มีหน้าที่เป็นทุกข์

- คุณหมอรู้โรค ก็ไม่ใช่คุณหมอเป็นโรค แต่คุณหมอต้องรู้โรค คุณหมอจึงจะบำบัดโรครักษาคนได้

- คนที่รู้ปัญหา ก็ไม่ใช่คนเป็นปัญหา แต่คนต้องรู้ปัญหา คนจึงจะแก้ปัญหาได้

- คนที่รู้ทุกข์ ก็ไม่ใช่คนเป็นทุกข์ แต่คนต้องรู้ทุกข์ คนจึงจะดับทุกข์ได้


การรู้ทันทุกข์ หรือรู้จักทุกข์ กับการเป็นทุกข์ ไม่ใช่อย่างเดียวกัน

การเป็นทุกข์ เป็นการปฏิบัติผิดหน้าที่ต่ออริยสัจ ถ้าใครปฏิบัติหน้าที่ต่อริยสัจผิด ก็ผิดพลาดออกนอกทาง

พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนให้ใครเป็นทุกข์ แต่ทรงสอนให้รู้ทันทุกข์

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2016, 11:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วางตัวอย่างภาคปฏิบัติธรรมแบบเข้มข้นแล้วประสบทุกขอริยสัจประกบไว้ด้วย


ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วก จนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีก ซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่

ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการ กระทำ

หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2016, 17:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เพื่อให้เห็นหลักด้วยนำอริยสัจให้สังเกตอีกนิดหนึ่ง


ทุกข์เป็นสภาวะสำหรับปัญญารู้ เอาปัญญาเผชิญหน้ากับมัน ทุกข์นี้เราต้องมีปริญญา คือรู้ทันมัน

ฯลฯ

๔. ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ เป็นสิ่งที่พึง-เจริญ ปฏิบัติ ลงมือทำ

การปฏิบัติอยู่ที่ข้อที่สี่ เรียกว่า ภาวนา เราต้องปฏิบัติข้อเดียว คือข้อสี่ – มรรค

นอกนั้น เมื่อเราปฏิบัติไปตามข้อสี่แล้ว มันถึงเองหมด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2016, 17:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอา ตย.เทียบให้สังเกตอีก

เมื่อคืน ไปสวดมนต์ที่วัด และ นั่งสมาธิ
ระหว่างสวดนั้น ก็ได้ยินเสียง เหมือนคนคุยกัน เป็นเสียงเล็กๆ แต่ไม่ใช่เสียงเด็ก
เสียงเหมือน สะท้อนก้อง ว่าคนพูดอยู่ไกลมาก
หลาย ๆ เสียงคุยกัน ฟังดูวุ่นวายสับสน แต่จับได้ว่า เสียงคนคุยกัน ดูอึกทึก วุ่นวาย
ประมาณ เหมือนมีแมงหวี่ มาบินใกล้หู แต่นี่ ฟังออกว่า คนคุยกัน
เหมือน แม่ครัว งานบุญ สมัยก่อน ที่วุ่นวายในครัวกัน
มองไปที่คนนั่งข้างหลัง ก็ไม่มีใครคุยกัน
ข้างหน้าก็ไม่มีใคร
ด้านขวาก็ไม่มีคนคุย เพราะทุกคนมุ่งสวดมนต์กัน
ด้านซ้าย ไม่มีคน
มองออกไปนอกศาลาก็ไม่มีคน

พอสวดมนต์เสร็จ เสียงนั้นก็หายไป

มาใครเคยพบกับเหตุการณ์แบบนี้บ้างไหมคะ

http://pantip.com/topic/35653308

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2016, 19:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ได้ยินเสียงเช่นกัน


เมื่อถึงเวลาที่ต้องนั่งสมาธิ เกิดปวดขาอย่างมาก แต่ก็ไม่ยอมแพ้ ทนนั่งจนหมดเวลา (ซึ่งเป็นครั้งแรกค่ะเนื่องจากไม่เคยทนได้เลย) ระหว่างที่ปวดมากๆ ก็นึกถึงพระพุทธเจ้าตลอดเวลา และสู้เนื่องจากเคยได้ยินว่า "ไม่เคยมีใครตายจากการนั่งสมาธิ" รวมทั้งประโยคที่ว่า "นิพพานอยู่ฝั่งตาย" (จำไม่ได้ว่าเป็นของหลวงพ่อท่านไหนค่ะ) และคิดว่าตายเป็นตายแต่จะไม่ลืมตาเปลี่ยนอิริยาบถก่อนหมดเวลาแน่นอน (ใจก็นึกถึงแต่พระพุทธเจ้าตลอดเวลาค่ะ)

เมื่อนาฬิกาดังหมดเวลา เราก็ลืมตาเปลี่ยนอิริยาบถ เพื่อคลายอาการปวดขา แต่เรารู้สึกว่า...ทันทีที่เราลืมตา เราก็ได้ยินเสียงสวดมนต์ดังอยู่ในหู ทั้งๆที่เวลานั้นไม่ได้มีพระสวดมนต์อยู่ใกล้ๆค่ะ

ก่อนหน้านี้....เมื่อครั่งที่เราไปปฏิบัติธรรมครั้งแรก และเมื่อกลับมาถึงบ้าน เราก็สวดแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลที่บ้าน เราก็ได้ยินเสียงสวดมนต์ดังอยู่ในหูอีกเหมือนกัน ทั้งๆที่ใกล้ๆบ้านก็ไม่มีวัดและไม่มีใครเปิดวิทยุค่ะ (ตอนแรกนึกว่ามีพระสวดทำวัตรเย็นอยู่ใกล้ๆ แต่บ้านก็ไม่ได้อยู่ใกล้วัด )

แล้วก็เคยมีอีกครั้งนึง เราคุยกับแม่ แนะนำแม่เรื่องการไปปฎิบัติธรรม และชวนแม่ให้ไปปฏิบัติธรรมด้วยกัน ก็ได้ยินเสียงสวดมนต์ดังแว่วในหูอีก

เสียงสวดมนต์ที่ได้ยิน2 ครั้งแรก จะได้ยินเพียงช่วงเวลาสั้นๆไม่ถึงชม.ค่ะ แต่ครั้งล่าสุดได้ยิน(หลังจากนั่งสมาธิ)ดังนานหลายชม.ตั่งแต่ประมาณเกือบ 4 โมงเย็น จนถึงเวลานอนตอน 4 ทุ่มเลยค่ะ

เสียงสวดมนต์ดังกล่าว เป็นเสียงเหมือนพระสวดมนต์ ฟังจับใจความได้เป็นบางคำ แต่ไม่รู้ว่าเป็นบทสวดอะไร

บางครั้งก็จะได้ยินเป็นเสียงดนตรีไทยบรรเลงอยู่ ระหว่างสวดมนต์และตอนเดินจงกรม ทั้งที่วัดและที่บ้าน ถามเพื่อนที่ไปด้วยกันว่าได้ยินไหม เค้าบอกว่าไม่เห็นได้ยินอะไรเลย เราก็เลยไม่กล้าถามเค้าต่อ กลัวเขาว่าเราสติไม่ดี

เลยอยากถามผู้มีความรู้หรือผู้ที่เคยมีประสบการณ์ว่าเคยมีใครได้ยินเป็นลักษณะนี้บ้างหรือไม่ แล้วเป็นเสียงของใครเหรอคะ หรือว่าเราคิดมากไปเอง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2016, 18:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อืมม เหมือนกระทู้ถูกลบไปหนึ่ง คคห.นะ จำไม่ผิดว่าลงไปแล้วนี่ :b10: โปรย ตย.แล้วจะสรุปแนวทางแก้ปัญหาสะหน่อยลงไม่ได้อีก

จากลิงค์นี้

http://topicstock.pantip.com/religious/ ... 85609.html

ลง คคห. 19 กับ 39 ไว้ :b10:


(เอาอีก คคห.งั้นเบาๆ คิกๆ)

(จขกท.คคห. 51)

ขอบคุณค่ะ
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาที่ที่เห็นเป็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนั้นรู้สึกว่าแม้ร่างกายมันยัง
ไม่ใช่ของเราจะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ แบบนี้มันเกิดปัญญาใช่ไหมแต่มันแบบไม่ถึงที่สุด ปัญญาแค่เสี่ยว ต่อมาก็เลยหลงจนเพี้ยน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2016, 19:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ภาคปฏิบัติทางจิตมีอะไรที่ลึกซึ้งยิ่งนัก เพราะอะไร? เพราะชีวิตเป็นธรรม (ชาติ) เราก็ท่องจำนักแล้วนี่ว่า กายใจหรือรูปนามขันธ์ 5 มันเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นั่นมันบอกแล้วนี่ว่าไม่ใช่ตัวตนของเรามันเป็นธรรมชาติ คือมันเป็นของมันอย่างนั้น :b1: แม้นบ่คับ


สติปัฏฐาน 4 กาย เวทนา จิต ธรรม รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรม เราก็ท่องจำกันได้คล่องแล้ว :b1: แต่พอนำไปปฏิบัติจริงๆ (ภาวนา) กายใจหรือรูปนามขันธ์ 5 มันแสดงความเป็นตัวของมันเอง ทีนี้เราไปไม่เป็นเลย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2016, 19:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เบาๆ ลิงค์นั้นแหละ ศัพท์แสงได้ยินได้ฟังกันบ่อยอยู่แล้ว :b1:

(จขกท. คคห. 46)

ขอบคุณค่ะ ดิฉันสนใจเรื่องสติกับจิตมาก อยากรู้อยู่ แต่ไม่รู้จะอ่านอะไรที่ไหน พวกคุณชี้ทางสว่างพอดี

ดิฉันอยากตั้งข้อสงสัยอันนึงคือดิฉันทำงานที่ต้องใช้สมาธิมากวันละแปดถึงสิบชั่วโมง มาสิบกว่าปีแล้ว อาจะเป็นเหตุนึงที่เหมือนเราฝึกสมาธิตลอด สติจึงตามไม่ทัน แบบนี้
อาชีพหรือกิจกรรมอาจจะสงผลกระทบต่อการฝึกด้วยไหม แบบนี้คนไปฝึกต้องระวังพื้นฐานตัวเองให้ดีว่ามีจุดอ่อนด้านไหน


(จขกท. คคห. 47)

ปกติดิฉันรักษาศีลห้าประจำอยู่แล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ

ส่วนเรื่องเลิกทำสมาธิ หากนับเรื่องงาน ก็ลำบาก

และเรื่องฝึกสตินี้ยากจังค่ะ ในห้านาทีหลงไม่รู้กี่รอบ แต่ดิฉันไม่อยากผูกตัวเองกับการต้องเป็นคนโรคจิตไปตลอดชีวิต

ค่ายาก็แพง แถมผลกระทบยิ่งร้ายท้องผูกมากมาย และยังไม่รู้จะหายไหม เพราะทานมาครึ่งปีอาการก็ยังอยู่

ยังไงก็ต้องพยายามฝึกสติให้ได้ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2016, 19:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะ
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

รูปภาพ

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาที่ที่เห็นเป็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่าแม้ร่างกายมันยัง
ไม่ใช่ของเรา จะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ
แบบนี้มันเกิดปัญญาใช่ไหมแต่มันแบบไม่ถึงที่สุด ปัญญาแค่เสี่ยว ต่อมาก็เลยหลงจนเพี้ยน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2016, 20:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


(จขกท. คคห. 16)

ดิฉันยืนยันแบบไม่ได้หลอกตัวเองค่ะว่าไม่ได้ติดกับจมูก แต่ดูที่ลมค่ะ ค่อนข้างมั่นใจค่ะ เพียงแต่เฝ้าตรงทางที่มันเข้าและออก

.............

การปฏิบัติ,วิธีปฏิบัติ...พูดตามศัพท์ "ปฏิปทา" ไม่ผิดหรอก สังเกตไว้ ถ้าโยคีบุคคลปฏิบัติจนสภาวะมันเผยตัวตนของมันแล้ว ไม่ผิด ทุกๆ ตย.ที่นำมาให้ดูปฏิบัติถูกเลยแหละ แต่วิธีแก้ปัญหายังไม่ถูก ถามว่า ที่ถูกปฏิบัติอย่างไร? ตอบ กำหนดรู้ตามที่มันเป็น มันเป็นยังไง รู้สึกยังไง ว่าในใจ (กำหนด) อย่างนั้น เดี๋ยวนั้น ขณะนั้น ทุกครั้ง ทุกขณะ ที่มันเป็น ที่มันคิด (ว่าในใจ,พูดในใจ ตามที่มันเป็น มันคิด) ผู้ซึ่งเคยปฏิบัติแนวพอง-ยุบมา พอเข้าใจ (แต่ที่เข้าใจผิดก็มีนะจะนำตย.มาให้ดู) แต่ผู้ใช้พุทโธ เป็นต้น ยังงงๆอยู่ (ทิ้งไว้แค่นี้ก่อน) :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2016, 20:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตัวอย่างสอนผิด

ไม่ใช่คนสอนไปว่าสะเอง พองยุบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิกๆๆ

https://www.youtube.com/watch?v=ZwH3bCTlzbM

คนปฏิบัติได้ดิ้นร้องเป็นอาแปะขายขวดเท่านั้น :b9:

การเริ่มต้นควรทำให้ถูก (เริ่มต้นผิดแก้ยาก) คือ ให้ผู้ปฏิบัติสังเกตอาการท้องที่ พองกับยุบเอาเอง

แล้วก็บอกว่า ท้องพอง ว่าพองหนอ นะ ท้องมันยุบ ว่ายุบหนอ นะ (ว่าพร้อมๆกับที่พองที่ยุบไม่ก่อนไม่หลังกัน) จิต (ความคิด) มันแว้บออกไปนอกกัมมัฏฐาน คือ พอง-ยุบ ว่า คิดหนอๆๆนะ (เดี๋ยวท่านอโศกะค้านหนออีกนะ คิกๆๆ) หนอไม่ใช่ตัวหลัก ตัวหลักคือความคิด (สภาวะ) หนอจะตัดออกบางครั้งก็ได้ เมื่อพองยุบเร็ว (= ลมเข้าออกเร็ว, สภาวะเกิดดับเร็ว,รูปนามเกิดดับเร็ว แล้วแต่จะพูด) ตัดหนอออกเลย ว่าในใจแค่ พองยุบๆๆๆๆ แค่นี้อย่าไปติดหนอ กับไม่ใช่ผู้สอนไปว่าแทนเค้าพองยุบๆๆๆๆๆๆๆ ยังงั้น :b1: ไม่ใช่

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2016, 11:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ตัวอย่างสอนผิด

ไม่ใช่คนสอนไปว่าสะเอง พองยุบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิกๆๆ

https://www.youtube.com/watch?v=ZwH3bCTlzbM

คนปฏิบัติได้ดิ้นร้องเป็นอาแปะขายขวดเท่านั้น :b9:

การเริ่มต้นควรทำให้ถูก (เริ่มต้นผิดแก้ยาก) คือ ให้ผู้ปฏิบัติสังเกตอาการท้องที่ พองกับยุบเอาเอง

แล้วก็บอกว่า ท้องพอง ว่าพองหนอ นะ ท้องมันยุบ ว่ายุบหนอ นะ (ว่าพร้อมๆกับที่พองที่ยุบไม่ก่อนไม่หลังกัน) จิต (ความคิด) มันแว้บออกไปนอกกัมมัฏฐาน คือ พอง-ยุบ ว่า คิดหนอๆๆนะ (เดี๋ยวท่านอโศกะค้านหนออีกนะ คิกๆๆ) หนอไม่ใช่ตัวหลัก ตัวหลักคือความคิด (สภาวะ) หนอจะตัดออกบางครั้งก็ได้ เมื่อพองยุบเร็ว (= ลมเข้าออกเร็ว, สภาวะเกิดดับเร็ว,รูปนามเกิดดับเร็ว แล้วแต่จะพูด) ตัดหนอออกเลย ว่าในใจแค่ พองยุบๆๆๆๆ แค่นี้อย่าไปติดหนอ กับไม่ใช่ผู้สอนไปว่าแทนเค้าพองยุบๆๆๆๆๆๆๆ ยังงั้น :b1: ไม่ใช่


รู้ไม่ตรง..กับสิ่งที่กำลังเป็น...ก็แก้ไปตามการคาดเดา..ไปงั้น..ทั้ง..กักกาย..ทั้งคนสอน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2016, 11:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ตัวอย่างสอนผิด

ไม่ใช่คนสอนไปว่าสะเอง พองยุบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิกๆๆ

https://www.youtube.com/watch?v=ZwH3bCTlzbM

คนปฏิบัติได้ดิ้นร้องเป็นอาแปะขายขวดเท่านั้น :b9:

การเริ่มต้นควรทำให้ถูก (เริ่มต้นผิดแก้ยาก) คือ ให้ผู้ปฏิบัติสังเกตอาการท้องที่ พองกับยุบเอาเอง

แล้วก็บอกว่า ท้องพอง ว่าพองหนอ นะ ท้องมันยุบ ว่ายุบหนอ นะ (ว่าพร้อมๆกับที่พองที่ยุบไม่ก่อนไม่หลังกัน) จิต (ความคิด) มันแว้บออกไปนอกกัมมัฏฐาน คือ พอง-ยุบ ว่า คิดหนอๆๆนะ (เดี๋ยวท่านอโศกะค้านหนออีกนะ คิกๆๆ) หนอไม่ใช่ตัวหลัก ตัวหลักคือความคิด (สภาวะ) หนอจะตัดออกบางครั้งก็ได้ เมื่อพองยุบเร็ว (= ลมเข้าออกเร็ว, สภาวะเกิดดับเร็ว,รูปนามเกิดดับเร็ว แล้วแต่จะพูด) ตัดหนอออกเลย ว่าในใจแค่ พองยุบๆๆๆๆ แค่นี้อย่าไปติดหนอ กับไม่ใช่ผู้สอนไปว่าแทนเค้าพองยุบๆๆๆๆๆๆๆ ยังงั้น :b1: ไม่ใช่


รู้ไม่ตรง..กับสิ่งที่กำลังเป็น...ก็แก้ไปตามการคาดเดา..ไปงั้น..ทั้ง..กักกาย..ทั้งคนสอน



ถ้างั้นกบว่าไป เอาไง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2016, 11:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ตย. ทำนองที่กักกายยกมาบ่อยๆ..
.........
ตำรวจท่องเที่ยว..ชลบุรี

เวลาผมสวดมนต์...สวดไปซักพัก..จะรู้สึกว่ามีตัวเองไม่ได้สวด...ปากเรามันสวดไปเอง...บังคับไม่ได้...รู้สึกกลัวมากจนไม่อยากสวดมนต์...เป็นทุกบทสวด.....
,.............

พอเราไม่รู้ทันกับสิ่งที่กำลังเป็นกับคนคนนั้น...การแก้ก็จะใช้การคาดการณ์..ว่า..น่าจะเป็นเพราะอย่างนั้น..อย่างนี้..ไป

การเป็นครูอาจารย์แก้อาการต่างๆ...มันไม่ง่าย..อย่างที่อ่านๆแต่ตำรา..

อาการเหมือนกัน..แต่ต้นเหตุอาจต่างกันได้..คับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 48 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 118 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร