วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 19:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2015, 22:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


onion onion onion

ตนต้นมงคล

พระธรรมเทศนาโดย...หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ
วัดป่าวิเวกวัฒนาราม บ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖


รูปภาพ

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส (๓ จบ)
อเสวนา จ พาลานํ ปณฺฑิตานญฺจ เสวนา
ปูชา จ ปูชะนียานํ เอตมฺมงฺคล มุตฺตมํ ตีติ


ณ บัดนี้จะได้อธิบายในการซ่องเสพคบพบปะบุคคลอย่างไรในโลก
ให้เราทุกคนจงใคร่ครวญตรึกตรองพิจารณา
ที่เราอยู่มาๆ ทุกวันในโลก เราได้ผ่านพบบุคคลเช่นไรอย่างไร
ได้ผลประโยชน์ความดีหรือได้ผลของความชั่วอย่างใด
ดังนี้ ให้เราทุกคนจงคิดอ่านตั้งใจในตัวบุคคล
นับตั้งแต่เราตื่นนอนขึ้นมา แล้วเราได้พบปะคนดีหรือคนชั่ว
เพราะการคบบุคคลนี้เองหน้าที่เราจะได้ไปสู่นรกหรือจะได้ไปสู่สวรรค์

การไปนรก ไม่มีใครสักคนต้องการจะไป ไม่มีใครต้องการปรารถนาจะไป
แต่ที่ไปก็มาก ไปกันมากเพราะเหตุอันใด
เพราะตนไม่คิดถึงในการซ่องเสพบัณฑิตนักปราชญ์
เพราะในตนของตนเมาสิ่งดึงดูดตนให้ไปในทางชั่วประการต่างๆ
เป็นอันต้องชอบพอใจ ให้คิดอ่านใคร่ครวญให้ดี
กินไป อยู่ไป หาไป เล่นไป เมาไป เพลินไป ไปตามเรื่องตลอดไป
ไม่คิดดีชั่วประการใดๆ เพราะตนไม่ชอบบัณฑิต ไม่ชอบธรรม
ชอบใจแต่พาลพาโล ให้เครื่องชั่วดึงดูดพาไป
เช่น พระเจ้าอชาตศัตรู ตระกูลอุปัฏฐากพระเถรเทวทัต ๕๐๐ ตระกูล เป็นต้น

คนชั่วคนพาลมีแต่ชักจูงผู้คนให้เดินไปสู่ความชั่วอยู่ตลอด
ไม่มีการที่จะชี้แจงแนะนำให้ไปสู่ความดีแต่ประการอย่างใด
ให้เราคิดดูว่าคบคนพาลก็พาไปสู่การทำชั่ว
จนที่สุดบุคคลผู้เดินไปในทางชั่วก็ตกนรกหมกไหม้ เป็นนิสัยปัจจัยความชั่ว
นำตนไปสู่ความทุกข์ จากทุกข์ไปสู่ทุกข์ ทุกข์ต่อไปเมื่อหน้า
อันนี้เราคิดอ่านพิจารณาในชีวิตของตนทุกคนที่เราได้เป็นมนุษย์ในเวลาบัดเดี๋ยวนี้
ความดีจะเกิดขึ้น ความชั่วจะเกิดขึ้น ทั้งสองอย่างนี้เป็นทิศทางที่จะไป

บุคคลจะไปนรก ก็ไปจากมนุษย์
บุคคลจะไปสู่สวรรค์ ก็ไปจากมนุษย์
บุคคลจะไปสู่เดรัจฉาน ก็ไปจากมนุษย์
บุคคลจะไปสู่พรหม ก็ไปจากมนุษย์
บุคคลจะไปสู่เปรตผี ก็ไปจากมนุษย์


จึงว่ามนุษย์นี้เป็นบ่อเกิดแห่งความดี เป็นบ่อเกิดแห่งความชั่ว
ดีจึงเกิดขึ้นจากการคบพบปะบุคคลผู้ชี้แจงแนะนำทางดี
ชั่วจึงเกิดขึ้นจากการคบพบปะบุคคลผู้ชี้แจงแนะนำไปในทางชั่ว
ให้ระลึกเสมอว่า ความดีจะเกิดขึ้นอย่างใด ความชั่วจะเกิดขึ้นอย่างใด

หนทางความดี พระพุทธเจ้าได้ทรงวางเอาไว้ให้แล้ว
เป็นบาทพระคาถาสิกขาวินัย ชี้บอกความถูกต้องไว้ให้มีอยู่
แต่เพราะเราเคยฝึกหัดในการคบคนไม่ดีมาก่อนจึง

ชอบพอกับบุคคล ผู้โง่งมงาย
ชอบพอกับบุคคล ผู้ลุ่มหลง
ชอบพอกับบุคคล ผู้มืดมน
ชอบพอกับบุคคล ผู้มัวเมา


หากเราไม่คิดอ่านอันใด มีแต่หาอยากหากิน
อยากได้ หลงใหลในโลก โมโหร้าย ก็หนักแต่เรื่องตนของตนนี้เอง
ดิ้นรนหาได้ไม่พอ ห่วงปากห่วงท้อง ห่วงได้ห่วงเสีย ไม่รู้ภาวะใดๆ
ตายไปก็ไปนรก ถึงผลการเป็นพาลของตน
อันนี้ให้เราคิดอ่านในชีวิตความเป็นอยู่ของตนแต่เดี๋ยวนี้
อย่าให้สิ่งชั่ว กรรมใดๆ มันมีกำลังงอกงามขึ้นในใจของตน
ใจของเรานี้ บุญกับบาปทั้ง ๒ เป็นสมบัติ มีมาแต่อเนกชาติ
เราทำดีก็เป็นของเรา เราทำชั่วก็เป็นของเรา ดีชั่วมาแต่การพบปะบุคคล

พระอริยเจ้าทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เริ่มต้นก็เป็นปุถุชน
มาจากปุถุชน ก็หลงงมงาย เมามืดอยู่หลายภพหลายชาติ
นานเข้าหลายพระพุทธเจ้ามาตรัสในโลก
จึงได้เพิ่มเติมสะสมคุณงามความดีของตน
นานเข้าๆ ก็ได้ชัยชนะความชั่วใดๆ เป็นอริยเจ้าขึ้นทันที
ไม่เกี่ยวข้องในคนพาลอีกต่อไป

อันนี้ให้เราคิดนึกอ่านในตนของตนผู้เกิดมาในโลก
ให้คิดว่าอย่างเช่น เขม่ามินหม้อ
* เป็นผงฝุ่นดำ
หากมันติดเนื้อเสื้อผ้าเรา มันจะดำหรือมันจะขาว ให้คิดดู

ข้าวแป้งฝุ่นแป้งของขาว เราเอามาปะทาลูบไล้ร่างกาย
มันจะขาวหรือมันจะดำ ในเมื่อเราพบปะเช่นใดแล้วต้องได้รับผลเช่นนั้น
คบคนเช่นใดก็ต้องใกล้ชิดไปอย่างคนเช่นนั้น
มินหม้อของดำ ข้าวแป้งของขาว
คนชั่ว คนพาล คนดี คนปราชญ์ บัณฑิตก็เช่นกัน

ในชีวิตของเราเดี๋ยวนี้ เรามีลมหายใจเข้าออกอยู่ตลอด
หน้าที่เราจะได้ฝึกฝน จะให้ละเว้นสิ่งความชั่ว หลีกห่างคนพาล
เพื่อให้ความดีงามเกิดขึ้นมา
ให้บุญกุศล ธรรมะปัญญางอกงามขึ้นในใจของตน
เจริญขึ้นในตนของตนต่อไป

เราเกิดมาแล้วในโลก เจตนามาสร้างความดีเป็นหมู่พวก
พบปะบัณฑิตนักปราชญ์ สะสมคุณงามความดีแก่ตนตลอดไป
หากเราไปคบคนไม่ดีเข้า ก็มีแต่จะได้ความชั่ว เพิ่มชั่วให้แก่ตนของตน
เพิ่มความโง่ เพิ่มความมืด เพิ่มความงมงาย เพิ่มความลุ่มหลง เพิ่มความไม่รู้สาอันใด
ใจนี้เองจะไปตามชั่วก็ได้ ใจนี้เองจะไปตามดีก็ได้
กรรมความชั่วมันห่อหุ้มปกปิดจิต มันไม่รักษาจิตของตน เพราะเราคบคนไม่ดี
หากเราคบคนดี ก็พาให้เราได้สุข ได้ความสว่างไสวในจิตใจ ได้วิชชา ได้ธรรมะในที่สุด
ผู้ชนะสิ่งความชั่วได้อย่างเด็ดขาดแล้วเท่านั้นจึงจักได้เป็นพระอริยเจ้า
พระอริยเจ้าชั้นต้นก็ได้แก้ไขตน จนได้พระอรหันต์
หลุดพ้นแล้วจากเครื่องห่วงกังวลใดๆ
ความทุกข์ไม่มี ความเกิดอีกก็ไม่มี ตายก็ไม่มี อยู่สุขสำราญต่อไป
รูปกายนามใจเป็นธรรม เป็นธรรมอันบริสุทธิ์ ให้คิดอ่านให้ดี

พวกเราทุกคนบัดเดี๋ยวนี้ยังเป็นปุถุชน
คำว่า “ปุถุชน” ยังเกี่ยวในบุคคลดี บุคคลไม่ดี
ยังเกี่ยวในบุญในบาป ยังเกี่ยวในสุขในทุกข์ ยังเกี่ยวในโลกนี้ในโลกหน้า
ไม่ดีก็ลงไปสู่ขุมนรก นานเท่าใดตนของตนจึงจักได้ขึ้นมา
ดีก็ไปสู่สวรรค์ ภายหน้าก็ลงมาเกิดมาสร้างบำเพ็ญบารมีของตนอีกต่อไป
นี่เรียกว่าการเวียนว่ายตายเกิดของมนุษย์ทั้งหลายในโลก

ดีก็เกี่ยวกับตัวเจ้าของ ชั่วก็เกี่ยวกับตัวเจ้าของ จึงให้ใช้ปัญญาอยู่เสมอ
คิดอ่านให้ดี ให้รู้จักภาวะของตนอย่างไร เราต้องการอย่างไร
ให้คิดอ่านของตนว่ากิจของตนในเวลาบัดเดี๋ยวนี้อย่างไร
ไหว้พระเช้าเย็น รักษาศีล ๕ ศีล ๘ เลี้ยงบิดามารดา
เคารพคุณวุฒิ วัยวุฒิ ธัมมวุฒิ เมตตาสัตว์ทั้งหลายในโลก
พิจารณาเกิด แก่ เจ็บ ตาย พิจารณาสุขทุกข์ การเกิดมา
พิจารณาอันใดเป็นสมบัติของใจ ทำดีประการใดๆ ทุกอย่าง

ชั่วเราไม่ทำ กายไม่ทำชั่ว วาจาไม่พูดชั่ว ใจไม่คิดชั่ว วัตถุใดๆ ไม่ให้ชั่ว
รักษาแต่ให้เป็นกรรมความดีอยู่เสมอ
อันนี้เรียกว่าใช้ปัญญาพิจารณารักษาตัว
อเสวนา จ พาลานํ อย่าคบคนพาล คนพาลมันดึงดูดไปหาชั่ว
ปณฺฑิตานญฺจ เสวนา ให้คบคนดี ปราชญ์ บัณฑิต

คนคบพระพุทธเจ้าไปสวรรค์ พ้นทุกข์ไปได้
คนคบอเจลกะ ก็ชอบพอกับอเจลกะ
เป็นพาล โกหก ยักยอก มุสา ล่อลวง ต้มตุ๋น หาวิธีรายการ
ตายไปก็แห่กันไปนรกตลอด ๕,๐๐๐ พระพุทธเจ้ามาตรัสในโลก

ให้คิดอ่านในตัวของเราบัดเดี๋ยวนี้ เราเป็นมนุษย์ เป็นผู้รู้จักภาวะดีชั่วใดๆ แล้ว
เมืองนิพพาน สวรรค์ มนุษย์ เปรต ผี เดรัจฉาน พรหมโลก หน้าที่เป็นมนุษย์ไป
การพบปะคนพาล เราฝึกฝนกันมามาก
การพบปะบัณฑิต เราต้องคบต่อไปอีกเมื่อหน้า ฝึกฝนนิสัยปัจจัยต่อไป
การพบปะพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพระพุทธเจ้า
พระอรหันต์ พระอริยเจ้า บัณฑิตนักปราชญ์ทั้งหลาย
ก็เพราะเราฝึกฝนแต่เดี๋ยวนี้ เมื่อพบปะแล้วก็ได้สดับตรับฟัง
ได้ทำบุญให้ทาน ได้บูชาด้วยปัจจัยทั้ง ๔ ได้บูชาด้วยการปฏิบัติ

ปูชา จ ปูชะนียานํ การบูชาเช่นนี้ในบุคคลเหล่านั้น ชื่อว่าเป็นการบูชาอันเลิศ
จนในที่สุดก็ได้สำเร็จมรรคผล พ้นจากกองทุกข์ใดๆ ในชีวิต
บัดเดี๋ยวนี้ให้ตั้งใจใน นิสฺสยปจฺจโย อุปนิสฺสยปจฺจโย ปุเรชาตปจฺจโย
ปจฺฉาชาตปจฺจโย อาเสวนปจฺจโย กมฺมปจฺจโย วิปากปจฺจโย
อดีตเราฝึกฝนมาแล้ว ปัจจุบันเราก็ฝึกฝน อนาคตต่อไปข้างหน้าเราก็ฝึกฝน
ไม่คบคนพาล คบแต่บัณฑิต เพิ่มเติมความดีของตนอยู่เป็นนิจกาล

บุญ ไม่เป็นตนเป็นตัว แต่เป็นของมีฤทธิ์
บาป ไม่เป็นตนเป็นตัว แต่เป็นของมีฤทธิ์
ใจ ไม่เป็นตนเป็นตัว แต่เป็นของมีฤทธิ์
บุญบาปเกิดแต่กรรม มีกรรมก็มีผล กรรมมาแต่โลภ โกรธ หลง
มาแต่ใจบังคับบัญชาให้ทำ บังคับให้ดี บังคับให้ชั่ว
คบคนดีก็ดีไป คบคนชั่วก็ชั่วไป แต่ใจเป็นผู้รับ ใจเป็นผู้เสวย
ให้เราคิดอ่านในตนของตนทุกคน

อาตมาได้เตือนในการซ่องเสพบุคคล และการบูชาอันเลิศ
ด้วยการทำดี ละหนีคนพาล ให้รู้จักดีชั่วประการใดๆ
จึงเป็นปัจจัยนิสัยของตนต่อไปในภายภาคหน้า

เอวํ ก็มีด้วยประการฉะนี้


:b50: หมายเหตุ : * มินหม้อ - เขม่าติดก้นหม้อ

คัดมาจาก : หนังสือ พระธรรมเทศนาของหลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ
จัดพิมพ์โดยคณะศิษย์ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
พิมพ์ครั้งที่ ๑ : กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ :b8: :b8: :b8:


:b44: ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่จาม มหาปุญโญ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=24254

:b44: รวมคำสอน “หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=50221

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2016, 21:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มิ.ย. 2007, 13:49
โพสต์: 1012


 ข้อมูลส่วนตัว


กราบสาธุๆๆ
:b8: :b8: :b8:

.....................................................
ทำความดีทุกๆ วัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2021, 10:17 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2021, 12:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:
Kiss


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2022, 13:16 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 17 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร