วันเวลาปัจจุบัน 23 เม.ย. 2024, 19:35  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2016, 07:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


เพราะว่า คำว่า อนัตตา นี่น่ะ มันก็ไม่ใช่เป็นสิ่งลี้ลับอะไรเลย สามารถที่จะมองเห็นด้วยตาหนังนี่ก็พอมองได้ แต่ว่ามองเห็นแต่ว่าตาหนังเท่านี้มันก็ยังไม่พอ เราต้องมองด้วยตาใน คือ ตาปัญญา อันเกิดจากดวงจิตนู่น นั่นล่ะเมื่อมองดูด้วยตาปัญญาแล้วมันก็จะเห็นว่า ทุกสิ่งทุกอย่างว่างจากสัตว์จากบุคคล แต่คนเรานี่น่ะมันสู้อำนาจตัณหาไม่ได้ มันจึงมองเห็นว่า คนเป็นคน สัตว์เป็นสัตว์ อะไรอยู่อย่างนั้นร่ำไป นี่แหละอันข้าศึกของวิปัสสนาญาณ มันจะรู้ไม่ได้ วิปัสสนามันจะมัวหมองไป ก็เพราะว่า อาศัยความอยาก ความดิ้นรนทะเยอทะยานต่างๆเป็นเครื่องมาปิดบังปัญญา ปิดบังอนัตตานุปัสสนาไม่ให้เจริญงอกงามขึ้นได้

ดังนั้นแหละ พระศาสดาจึงทรงสอนให้บำเพ็ญสมถะ เพ่งใจให้สงบจากตัณหาความทะเยอทะยานต่างๆเสียก่อน เมื่อใจสงบลงไปได้แล้วจึงเพ่งดูทุกสิ่งทุกอย่างอันมีอยู่ภายในร่างกายอันนี้ก็ดี นอกร่างกายอันนี้ออกไปก็ดี มันก็จะเห็นเป็นของว่างตามที่พระศาสดาทรงแสดงไว้นั่นแหละ แต่ว่าความเห็นอันนี้นะ เห็นอย่างนี้แล้วไม่ใช่มันจะหลุดพ้นทีเดียวเลย..ไม่ใช่ แต่มันต้องเห็นอย่างนี้เสียก่อน เมื่อเห็นอย่างนี้แล้วก็พยายามเพ่งพิจารณาให้ติดต่อกันไปเรื่อยไปอย่างนี้นะ แล้วญาณความรู้นี้มันก็ยิ่งขึ้นไป แก่กล้าขึ้นไปโดยลำดับ เป็นอย่างนั้นให้พึงพากันเข้าใจ

เราไม่ทำบ่อยๆมันจะไปแก่กล้าได้อย่างไร ญาณความรู้อันนี้มีกันอยู่ทุกคนแหละแต่เมื่อเราไม่ทำบ่อยๆมันไม่รู้ มันไม่ยิ่งขึ้นไป นี่มันเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นแหละเมื่อทราบอย่างนี้แล้วก็ให้พึงพากันตั้งอกตั้งใจ ประพฤติปฏิบัติบำเพ็ญไปด้วยความไม่ประมาท คือ มีสติสัมปชัญญะนี่แหละประจำอยู่กับอัตภาพร่างกายนี้เสมอๆไป สติสัมปชัญญะนี่แหละเป็นธรรมเครื่องอุปการะญาณความรู้ให้แก่กล้าขึ้นไปโดยลำดับได้ ถ้าหากว่าปราศจากสติสัมปชัญญะนี้แล้ว ญาณนี้ไม่สามารถที่จะแก่กล้าขึ้นไปได้เลย เพราะฉะนั้นแหละเมื่อทราบอย่างนี้แล้วก็ให้ตั้งอกตั้งใจบำเพ็ญให้เป็นไป



:b44: :b44:


ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
“การเข้าไประงับสังขาร”



◇◆ ประวัติ ปฏิปทาและคำสอน “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ” ◆◇
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2016, 23:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ส.ค. 2016, 15:15 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 14 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร