วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 22:17  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2015, 07:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย



บรรดานิมิตทั้งหลายนั้นมันเรื่องราวของกิเลสนะให้เข้าใจ
ฉะนั้นอย่าไปหลงนิมิตต่างๆ บุคคลผู้หลงนิมิตนั้นจิตวิปลาส

พอแต่นิมิตปรากฏในมโนทวารอย่างไรก็เชื่อมั่นว่าเป็นจริงอย่างนั้น
ก็ปล่อยจิตให้ไหลไปตามนิมิตนั้นอย่างนี้นะนี้ล่ะมันเกิดวิปลาสให้เข้าใจ

มันไม่ใช่ธรรมของจริงนิมิตต่างๆ น่ะ ไม่ควรที่จะไปถือมั่น
ไปถือมั่นของไม่เที่ยงยังไงเล่า ไปถือมั่นของไม่เที่ยง
ก็เป็นทุกข์เหมือนกับไปถือมั่นร่างกายสังขารอันนี้
ว่าเป็นตัวเป็นตนมันก็ทุกข์อยู่อย่างนี้แหละ ให้เข้าใจ

ถือมั่นในสัญญาวิปลาสต่างๆ หมู่นี้
มันก็ล้วนแต่เป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์ทางจิตใจทั้งนั้นเลย

เอ้าทำยังไงว่ะถึงจะพ้นจากนิมิตเหล่านี้ไปได้?

ก็เมื่อนิมิตต่างๆ ปรากฏขึ้น มันจะปรากฏภายนอก
พอเห็นนิมิตเหล่านั้นแล้วเราก็กำหนดรู้ ว่านั่นคือ นิมิต..ไม่เที่ยง
มันเกิดขึ้นแล้วก็แปรปรวนแตกดับไป อย่าไปใส่ใจกับมัน
เตือนใจเข้าไปอย่างนี้แล้วถอย ทวนกระแสจิตเข้ามา
หาความรู้สึกอยู่ภายในนี้นะ หายใจเข้าก็รู้อยู่
หายใจออกก็รู้อยู่อย่างนี้นะ ก็มาเพ่งความรู้สึกอันนี้
ให้แน่วแน่อยู่ ไม่ให้มันคิดไปไหนมาไหนในขณะนั้นน่ะ


เช่นนี้แล้วไอ้ความที่นิมิตต่างๆที่มันปรากฏออกมานั้น
มันก็จะระงับไปเลย เพราะว่าจิตใจไม่ได้จดจ่อกับมัน
ให้เข้าใจอย่างนี้ ไอ้ที่นิมิตมันไม่หายนั้นน่ะ
เพราะว่าใจไปผูกพันกับมันไว้

ไปสำคัญว่ามันเป็นจริงเป็นจังอย่างนี้นะ

แท้ที่จริงแล้วมันไม่จริงไม่จังอะไรหรอก
มันเป็น “สัญญา” สัญญานี้เหมือนผีหลอกนี้นะ
มันหลอกให้จิตดิ้นรนกวัดแกว่งไปทั่วเลย

เพราะฉะนั้นอย่าไปหลงสัญญา ความจำหมายอารมณ์ต่างๆ
จำรูปจำ จำเสียงกลิ่นรส เครื่องสัมผัส จำสี จำเสียงต่างๆ
จำสีขาวสีดำ สีแดงสีเหลือง สีอะไรต่ออะไรหมู่นี้
มันก็ล้วนแต่สัญญาทั้งนั้นแหละ สีก็ไม่เที่ยง
สัญญาที่จำน่ะก็ไม่เที่ยง มันมีเกิดมีดับอยู่อย่างนั้น

เมื่อเรารู้ลักษณะอาการของนิมิตอย่างนี้แล้วถอยจิตกลับคืนมา
มีสติประคองความรู้สึกอยู่ในปัจจุบันนี้

ไม่ให้มันคิดอ่านไปทางไหนอย่างนี้นะ
แล้วนิมิตมันก็ดับไป เมื่อนิมิตดับไปแล้ว
จิตใจมันก็รวมลงเป็นหนึ่งได้สบาย เบา ปลอดโปร่ง

อันนิมิตนี่ถ้ารู้เท่าแล้วมันมีคุณอยู่เหมือนกันแหละ
ทำให้ใจผ่องใสเบิกบาน ทำให้ปัญญาเกิดขึ้น
มีสติความคิดนึกว่องไว รู้เท่าทันอารมณ์ต่างๆ
ที่จรมากระทบกระทั่งตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ หมู่นี้นะ
เรารู้เท่าทันแล้วไม่ยึดถือเอามัน ไม่ยินดียินร้ายกับมันแล้ว
มันก็หายไปดับไปตามเรื่องของมันเฉยๆ น่ะ

เรียกว่า มันสำคัญที่จิตไปหลงยึดหลงถือต่างหาก
ไปถือไปยึดถือเอาของไม่เที่ยง..หมายความว่าอย่างนั้นแหละ
มันก็ไม่เที่ยงแหละบัดนี้มันก็แปรสภาพไปทั่วเลย ก็อย่างว่ามันไม่เที่ยง

ดังนั้นน่ะพระพุทธองค์จึงได้ทรงสอนให้รู้เท่าเลย
แม่นนิมิตอะไรเกิดขึ้นมา ตั้งสติให้มั่น
แล้วกำหนดรู้เท่าว่า มันเป็นแต่เพียงสัญญาอารมณ์เท่านั้น
เกิดแล้วก็ดับไป ไม่คงที่อย่างนี้นะ ดังนั้นขอให้พากันเข้าใจ

การฝึกฝนอบรมจิตใจนี้น่ะ ให้เข้าใจตามนี้
ผู้ใดเทศน์ให้ฟังปานนี้ยังเข้าใจความหมายไม่ได้..บาปหลาย
บาปมากทีเดียว ก็ไปเสวยผลของบาปซะก่อนไป๊



:b47: :b47:


:: รวมคำสอน ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2015, 17:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2011, 14:07
โพสต์: 278


 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาสาธุค่ะ
Kiss :b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 11 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร