วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 20:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2015, 22:02 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อุตตรมาณพ
ผู้เตือนปายาสิราชันย์

:: ศ.(พิเศษ) เสฐียรพงษ์ วรรณปก

=========================

เล่าเรื่องปายาสิราชันย์ผู้เคยเป็นมิจฉาทิฐิ ต่อมาสละความเห็นผิดประกาศตนถึงไตรสรณคมน์มาแล้ว ๒ ตอน ตั้งใจจะจบเพียงแค่นี้ แต่มีบางสิ่งเกี่ยวกับปายาสิราชันย์ที่น่าจะเป็นอนุสติ (เครื่องเตือนใจ) ชาวพุทธบ้าง จึงนำมาเล่าต่อ แต่คราวนี้เป็นเรื่องของเด็กหนุ่มผู้ดูแลโรงทานของปายาสิราชันย์ นามว่า อุตตระ ครับ

อุตตระ คนนี้ เดิมมิได้เกี่ยวข้องกับปายาสิราชันย์ แต่เห็นพฤติกรรมของปายาสิราชันย์แล้วไม่พอใจ หรือไม่เลื่อมใส จึงตักเตือน “โดยอ้อม”

เรื่องของเรื่องก็คือ หลังจากที่พระเจ้าปายาสิได้หันมานับถือพระพุทธศาสนาแล้ว ท่านก็ถวายทานแก่พระสงฆ์เป็นนิตย์ แต่เนื่องจากไม่เคยทำ เพราะเป็นคนนอกศาสนามานาน หรือเหตุใดก็ไม่ทราบได้ ท่านถวายทานที่ “เลว” ไม่ประณีต และทำก็สักแต่ว่าทำ ถวายทานโดยไม่เคารพ แม้ทำทานแก่ยาจกวณิพกทั้งหลายก็ทำด้วยท่าทีเช่นเดียวกัน และก็ทำอย่างนี้เสมอมา

อุตตรมาณพเห็นแล้วไม่สบายใจ จึงเตือนปายาสิราชันย์โดยทางอ้อม นั่นก็คือ แกจัดถวายทานแด่พระสงฆ์ด้วยภัตตาหารและไทยธรรมอันประณีต และให้ทานแก่ยาจกวณิพกโดยเคารพ ทุกครั้งที่ทำทานก็จะตั้งความปรารถนาดังๆ (คงต้องการให้ได้ยินไปถึงปายาสิราชันย์) ว่า

“ด้วยผลทานครั้งนี้ ขอให้ข้าพเจ้าได้พบกับปายาสิในชาตินี้เท่านั้น อย่าได้พบอีกในชาติหน้าเลย”

อธิษฐานดังๆ อย่างนี้หลายครั้งเข้า พระเจ้าปายาสิหรือปายาสิราชันย์ก็ได้ยินจนได้ มีความสงสัย จึงรับสั่งเรียกเขาเข้าเฝ้า ตรัสถามว่าทำไมอธิษฐานอย่างนั้นทุกครั้งที่ให้ทาน รังเกียจพระองค์ด้วยเรื่องใด จึงไม่ปรารถนาพบหน้าในชาติหน้า

อุตตรมาณพ กราบทูลว่า มิได้มีความรังเกียจพระองค์แต่ประการใด แต่ไม่ชอบใจวิธีทำทานของพระองค์ จึงไม่ปรารถนาจะคบกับคนเช่นนี้

“เราทำทานอย่างไรจึงไม่ชอบใจเธอ” ปายาสิราชันย์ตรัสถาม


พระองค์ถวายทานโดยไม่เคารพ ให้อาหารแก่พระและยาจกวณิพก ก็ให้อาหารที่เลวๆ อย่าว่าแต่จะบริโภคเลย แม้จะจับต้องก็ไม่ยากจะจับต้อง (ในบาลีว่าแรงขนาดว่า “ไม่อยากจะแตะแม้ด้วยเท้า” = ตีนก็ไม่อยากเอาแตะ อะไรจะรุนแรงปานนั้น) ให้เสื้อผ้าก็ให้เก่าๆ ขาดๆ เพราะเหตุนี้แหละ ข้าพระพุทธเจ้าจึงไม่ปรารถนาจะพบคนเช่นพระองค์ในชาติหน้า

พระเจ้าปายาสิทรงใคร่ครวญดูก็เห็นจริง จึงยอมรับว่าตนทำไม่ถูก ทรงแต่งตั้งอุตตรมาณพให้เป็นผู้จัดการเรื่องการทำทานของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นทานแด่พระสงฆ์ หรือแก่ยาจกวณิพก


อุตตรมาณพ ก็แนะนำว่า ใช้สอยเสื้อผ้าอาภรณ์เช่นใด พระองค์พึงให้ทานด้วยอาหารและเสื้อผ้าอาภรณ์เช่นนั้น ซึ่งพระเจ้าปายาสิก็ทรงยินยอมทำตาม และได้ทรงมอบภาระให้อุตตรมาณพช่วยดำเนินการให้

ในส่วนของอุตตรมาณพ ทำทานที่ประณีตดียิ่งกว่านั้น เมื่ออุตตรมาณพสิ้นชีพไป จึงไปเกิดเป็นเทพชั้นดาวดึงส์


ในขณะที่ปายาสิราชันย์สวรรคตแล้ว ไปอุบัติเป็นเทพในหมู่จาตุมหาราช สถิตอยู่ที่ต้นเสรีสกะ หรือสีรีสกะ (แปลกันว่าไม่ซึก) คือ ต้นเสรีสกะเป็นวิมาน ว่าอย่างนั้นเถอะ

ปายาสิเทพบุตร เมื่อรำลึกชาติหนหลังของตนได้ จึงปรารถนาจะเตือนมนุษย์ทั้งหลาย เมื่อพบพระเถระ นามว่า ควัมปติ จึงเข้าไปนมัสการแล้วฝากคำมายังมนุษย์ทั้งหลายว่า

“พระคุณเจ้าควัมปติ ข้าพเจ้าเมื่อเป็นมนุษย์มีมิจฉาทิฐิ เห็นว่าบุญบาปไม่มี นรกสวรรค์ไม่มี อาศัยพระคุณเจ้ากุมารกัสสปะช่วยชี้แนะ จึงสละทิฐิอันชั่วช้านั้นเสีย กระนั้นก็ถวายทานโดยไม่เคารพ ไม่ถวายทานที่ประณีต จึงมาบังเกิดเป็นเทพในหมู่จาตุมหาราช มีต้นเสรีสกะเป็นวิมาน

พระคุณเจ้าควัมปติ ข้าพเจ้าขอสั่งความไปยังมนุษย์ทั้งหลายได้ไหม ถ้าจะถวายทานก็ขอให้ถวายทานโดยเคารพ ถวายทานด้วยมือของตนเอง อย่าถวายทานไม่ประณีต อย่าถวายทานแบบทิ้งๆ ขว้างๆ (สักแต่ให้)”


จากนั้นปายาสิเทวบุตรก็ได้ถามถึงอุตตรมาณพว่าไปเกิดที่ไหน พระเถระ ตอบว่า อุตตรมาณพไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพราะอุตตรมาณพเธอถวายทานโดยเคารพ ถวายทานทีประณีต ไม่ใช่สักแต่ให้ ด้วยอานิสงส์นี้ เธอจึงไปเกิดเป็นเทพชั้นดาวดึงส์

ความจริงปายาสิราชันย์เป็นถึงเจ้าครองนคร ย่อมมีโอกาสทำบุญทำกุศลได้ดีกว่าอุตตรมาณพซึ่งเป็นข้ารับใช้ธรรมดา แต่ปรากฏว่าปายาสิราชันย์ไม่ได้ใช้โอกาสที่ดีกว่า ทำกุศลที่ดีกว่า จึงไปเกิดเป็นเทพชั้นจาตุมหาราช ต่ำกว่าดาวดึงส์สวรรค์ของอุตตรมาณพเสียอีก

:b39: เรื่องนี้เป็นอนุสสติเตือนใจชาวพุทธอย่างดี การทำทานนั้นจะต้องทำให้ครบองค์ประกอบ จึงจะไม่เสียทีที่ได้ทำทาน องค์ประกอบที่ว่านี้คือ

๑. สิ่งของที่จะให้ทาน จะต้องบริสุทธิ์ คือ ได้มาด้วยอาชีพสุจริต ได้มาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายจริงๆ มิใช่ได้มาด้วยการทุจริต เช่น ลักเขามาถวาย โกงเขามาถวาย ของนั้นต้องประณีต

๒. เจตนาที่ถวายก็ต้องบริสุทธิ์ คือ ก่อนจะให้ กำลังให้ และหลังจากให้แล้ว ต้องเป็นเจตนาที่เลื่อมใส ไม่เสียดาย ไม่ใช่พอให้ไปแล้วนึกเสียดายภายหลังว่า แหมเสียดาย ไม่น่าถวายพระเลย เอามากินเองยังจะดีกว่า อะไรทำนองนี้

๓. ผู้รับทานก็ต้องบริสุทธิ์ คือเป็นผู้มีศีลมีธรรม (ถ้าเราเลือกได้ ทานของเราก็จะมีผลมาก แต่ข้อนี้สุดวิสัยที่จะเลือกได้ ก็ต้องทำข้อ ๑ และข้อ ๒ ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์)


การให้ทานด้วยจิตใจเลื่อมใสจริงๆ แม้เล็กน้อยก็ให้ผลมหาศาล การทำทานด้วยจิตไม่บริสุทธิ์ เช่น หวังให้เขายกย่องว่าใจบุญ หวังอะไรมากกว่าเป็นผลตอบแทน หวังเอาหน้า ถึงจะสละเงินเป็นแสนเป็นล้านก็หาเป็นบุญโดยบริสุทธิ์ไม่ ถึงจะได้ผลก็คงพอได้บ้าง แต่ไม่สมบูรณ์เต็มที่

ความบริสุทธิ์ทั้งวัตถุและจิตใจนี้ พระพุทธศาสนาเน้นมาก สมัยรัชกาลที่ ๕ นี้เอง ยายแฟง แม่เล้าเก็บเงินจากหยาดเหงื่อจากการค้ากามของบรรดาลูกๆ ได้มาก จึงเอามาสร้างวัด ชื่อว่า วัดใหม่ยายแฟง ชื่อเป็นทางการภายหลัง “วัดคณิกาผล”

สร้างวัดเสร็จยายแฟงก็ทำบุญฉลอง นิมนต์สมเด็จโตมาเทศน์ฉลอง สมเด็จท่านก็เทศน์ตรงๆ ว่า ถึงจะสร้างวัดใหญ่โต ยายแฟงก็ได้บุญไม่เท่าไหร่ดอก สู้บรรดานางคณิกาทั้งหลายไม่ได้

ว่าแล้วยายแฟงโกรธสมเด็จนานทีเดียว ภายหลังมาตรึกตรองดูจึงรู้ว่าสมเด็จท่านพูดถูก เพราะทรัพย์ที่นำมาสร้างนั้นได้มาด้วยความไม่บริสุทธิ์เท่าไหร่เพราะเป็นผลมาจากซ่อง และคนที่ทำทรัพย์นั้นให้ก็คือบรรดาลูกๆ ทั้งหลายของเธอ แหล่งที่มาของทรัพย์ไม่ค่อยบริสุทธิ์ ผลมันจึงไม่ค่อยได้เท่าที่ควรตามที่สมเด็จโตท่านว่านั้นแล


:b8: :b8: :b8: คัดลอกมาจาก...หนังสือ พุทธสาวก พุทธสาวิกา
ประมวลประวัติพระเถระพระเถรี อุบาสกอุบาสิกาสมัยพุทธกาล
เรียบเรียงโดยศาสตราจารย์พิเศษ เสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต


=========================

:b45: ปายาสิราชันย์ นักคิดนักปรัชญาผู้หลงผิด
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=71&t=50367

:b45: อุบาสก ในสมัยพุทธกาล
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=71&t=46457


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร