วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 20:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 152 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2014, 16:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2013, 07:11
โพสต์: 90

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณคำแนะนำ ของคุณดอกจำปี / คุณ SOAMUSA มากจริงๆค่ะ ในวันนี้บอกไม่ถูกว่ามีความรู้สึกอย่างไร เหงา ท้อแท้ อ่อนแอ โดดเดี่ยว และรู้สึกผิดทุกครั้งที่มองหน้าลูก ที่ทุกอย่างเป็นแบบนี้ ต่อไปนี้คงไม่มีอีกแล้วสำหรับคำว่าครอบครัว สำหรับเราแม่ลูก คุณดอกจำปี พูดถูก ที่ผ่านมาเขาไม่เคยยอมรับและกล่าวอ้างสมบัติ เงินทองที่เขาดูแลส่งเสียและบอกว่าทำทุกอย่างเพื่อเราแม่ลูก เพื่อให้เขาดูไม่ผิดมาก และให้ฉันและทุกคนเห็นใจว่าเขามีภาระมากมายนักที่ต้องรับผิดชอบ เป็นเหตุใ้ห้ฉันตัดใจจากเขาไม่ได้และหลอกตัวเองตลอดมา แม้จะรู้ทุกอย่างอยู่แก่ใจ มาถึงวันนี้ยอมรับว่ายังคิดถึงเขา แม้ทุกอย่างมันจบแล้ว แม้จะรู้ว่าเขาอยู่ด้วยกัน แม้จะรู้ว่าเขาเลือกคนอื่นแล้วที่ไม่ใช่ฉัน แม้จะรู้ว่าเขาทิ้งเราแม่ลูกไปจริงๆแล้ว แต่เพราะความเคยชินกับการที่มีเขา การที่เป็นเมียเขาที่สังคมยอมรับ และรับรู้มานานเกือบยี่สิบปี จึงยอมรับว่ายังไม่อาจที่จะตัดใจให้ขาดจากเขาได้ในวันนี้ ไม่เคยคิดว่าชีวิตฉันกับลูกต้องจบลงแบบนี้ แล้วฉันกับลูกจะเดินต่อไปทางไหนดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2014, 16:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2013, 07:11
โพสต์: 90

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สามอาทิตย์ แล้วหลังจากที่ทะเลาะกัน และตัวเราเองพยายามที่จะอยู่กับความจริงและบอกตัวเองมาตลอดสามอาทิตย์ว่าทุกอย่างมันจบแล้ว และอยู่อย่างเหนื่อยๆเหงาๆ ท้อแท้ และบางครั้งก็รู้สึกผิดที่เห็นหน้าลูก ที่ตัวเองมีส่วนทำให้ทุกอย่างจบลงแบบนี้ ส่วนเขาเองก็ยังคงเงียบไม่โทรหาแม้กระทั้งลูก แต่ยังคงรับผิดชอบโอนเงินค่าใช้จ่ายมาให้เหมือนเดิมเหมือนทุกๆเดือนที่ผ่านมา (ทั้งที่วันนั้นที่ทะเลาะกันเขาบอกว่าจะไม่ให้อีก) ยอมรับว่ารู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ที่อย่างน้อยเขาก็คงยังคิดถึงลูกอยู่บ้าง ถึงส่งเงินมาให้ ส่วนเรื่องบ้านยังคงไม่ได้ไปเก็บข้าวของออกมา เพราะหลายๆคนไม่ว่าจะเป็นแม่และญาติพี่น้องของเขาขอเอาไว้ ยังไม่ให้ไปขนออกมา พวกเขาบอกไม่เชื่อที่ลูกหรือน้องของเขาจะเลวถึงขนาดติดผู้หญิงแล้วทิ้งลูกทิ้งเมีย รออีกสักพักถ้าเขายอมรับและจะเอาเด็กนั้นออกหน้าจริงๆค่อยไปขนออกเขาบอก สงสารหลาน เพราะก็มีเงินเราด้วยเขาซื้อแต่บ้าน ส่วนตกแต่งทั้งหมด ข้าวของเครื่องใช้และฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เป็นเงินของเราที่กู้ยืมมาทั้งหมด
ในตอนนี้ก็อยู่อย่างเหงาๆ นิ่งๆ ไม่ทำอะไร ไม่อยากฟังใคร ไม่อยากให้ความหวังตัวเอง พยายามยอมรับความจริง กลัวที่ทุกอย่างกลับไปเป็นแบบเดิม รอให้เวลารักษาทุกอย่าง ดูแลลูก ดูแลใจตัวเอง บอกตัวเอง ย้ำตัวเอง ว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว เขาหมดรักเราแล้ว เขามีคนอื่นแล้ว และบอกตัวเองให้เข็มแข็งซะที


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2014, 17:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2013, 07:11
โพสต์: 90

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดอกจำปี เขียน:
:b12: คุณกาลเวลา

...เยี่ยมค่ะ เก่งมาก อยู่กับเรื่องจริงที่เห็นอยู่ตรงหน้า อนาคตคือสิ่งที่มองไม่เห็น
วันนี้ เดี๋ยวนี้ คุณเจ็บอย่างไร เรียนรู้เสียให้ซึ้งในหัวอก

แม้ขณะ ก้าวถอยออกมาพักใจยามนี้ ใจอยู่กับเรื่องจริง นั้นเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว
เขานั้น ไม่ติดต่อมา ก็สุดแต่เขาเถิด หากจะติดต่อมาแค่ภาระที่ค้าวคากัน ก็ยังดีกว่าทิ้งภาระทั้งหมดไว้

ส่วนตัวเขา เมื่อพร้อรับความจริงที่ก่อไว้เมื่อใด ก็จะกลับมาเอง จะมาเริ่มต้นใหม่ หรือมาตัดขาด
ก้อยู่ที่วาสนาที่ร่วมกันมา ขอโปรดปลงใจไว้บ้าง

สิ่งที่เหลือต่อเขาในใจเรา เก็บงำไว้ให้อยู่เพียงใจเรา จากวันนี้จะมีเพียงเรื่องลูกในฐานะ พ่อ-แม่
ที่ยังต้องพูดคุยกัน

และเรื่องความรู้สึกที่มีต่อเขา ขอคุณกาลเวลาเรียนรู้ที่จะเก็บทุกอย่างไว้ในหัวใจ
ความรักเป็นเรื่องสวยงาม แม้รักนั้นเป็นเพียง การแอบรักเขาข้างเดียว :b27:


คุณดอกจำปี ค่ะ ยอมรับค่ะว่ายังตัดเขาไม่ขาดในตอนนี้ แต่ก็รู้ว่าใจตัวเองยอมรับความจริงได้มากขึ้น อยู่กับความจริงได้มากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากที่ตัวเอง ไม่ร้องไห้ ไม่มีน้ำตา ไม่ขอร้องเขา เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่ให้ความสำคัญกับเขาเหมือนที่ผ่านมา ไม่ดิ้นรน ไม่กระวนกระวายที่จะโทรหาเขา ไม่อยากรู้อยากเห็นว่าเขาทำอะไร อยู่ยังไง แต่ก็มีแป๊ปๆๆในใจทุกครั้งที่มีคนถามถึงเขา ก้ได้แต่หวังว่าเวลาจะช่วยให้ใจลืมและตัดใจจากเขาได้สักวัน แม้ว่ามันอาจจะเริ่มต้นช้าไปเสียหน่อย แต่ก้จะพยายามทำให้ได้ ก็ดีกว่าที่เราจะทนเจ็บตลอดไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2014, 12:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2013, 07:11
โพสต์: 90

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


[quote="ดอกจำปี"]:b9: :b32: คุณกาลเวลาคะ

อะไรหนอ...ที่ทำให้คุณเก่งกาจได้มากถึงเพียงนี้...........
อ่อ..ความสาหัสทางใจที่ได้รับนั่นเอง

นี่แหละค่ะ ประสบการณ์ที่ช่วยสอนใจ :b16:


ขอบคุณค่ะ คุณดอกจำปี ฉันไม่ได้เก่งกาจ อะไรหรอกค่ะ อ่อนแอเสียมากกว่า เพียงแต่ตอนนี้ กำลังต่อสู้กับใจของตัวเอง เพื่อที่จะเอาชนะใจต้นเอง ที่ยังแกว่งไปแกว่งมา ให้ยอมรับความจริง ว่าทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมแล้ว ในตอนนี้ยังแคร์สังคม แคร์หัวโขนที่สวมอยู่ ว่าวันไหนทุกอย่างมันจะเปิดเผยออกมา แล้ววันนั้นฉันจะมีความรู้สึกอย่างไร ทุกวันนี้ยังไม่มีใครรู้เรื่องของฉัน แม้แต่เพื่อนร่วมงาน ทุกคนยังคงมองว่าครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่อบอุ่น และน่าอิจฉาของใครหลายๆคน และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ใจฉันไม่นิ่งแก่วงไป แกว่งมา แว๊ปเข้ามาในความรู้สึกให้คิดถึงตอนเราอยู่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูก แต่ก็พยายามสลัดมันออก และบอกตัวเองว่ามันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว
เมื่อคืน พ่อกับแม่ ถามฉันว่า คิดดีแล้วหรือ ที่จะให้ทุกอย่างจบลงแบบนี้ ใจฉันเป็นอย่างไรในตอนนี้ คิดว่าตัดเขาได้ไหม แต่ถ้าฉันคิดดีแล้วก็แล้วแต่ฉันจะตัดสินใจ แต่ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่อยากเห็นครอบครัวลูกเป็นอย่างนี้ ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่ยอม และจะเอาชนะกัน มันก็ต้องมีแต่พังกับพัง คนที่รับกรรมก็คือลูก ถ้ายอมได้ก็ยอมคิดเสียว่าทำเพื่อลูก เพราะเราเป็นแม่ อย่างน้อยเขาก็ยังมีดีอยู่บ้างที่ยังส่งเสียลุกอยู่ ท่านบอกว่าให้ฉันเอาไปนอนคิดดู ทุกอย่างแล้วแต่ฉันจะตัดสินใจ ท่านเพียงอยากใ้ห้ฉันคิดดีๆ จะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง
ฉันเลยถามตัวเองว่า จะให้ฉันยอมทั้งที่เขาไม่ได้รักฉันสักนิดอย่างนั้นหรือ คำตอบคือ มันน่าจะพอได้แล้วกับความเจ็บปวด ถ้าหากเขายังรัก ยังแคร์ฉันบ้างสักนิด ฉันอาจจะอดทนต่อไป เผื่อว่าวันนี้เขาคิดได้ มาถึงวันนี้ทุกอย่างมันอาจจะสายเกินไปแล้ว ถ้าจะให้ฉันกลับไปง้อและอดทนเหมือนที่ผ่านมา เพราะฉันคิดว่าฉันทนมามากพอแล้ว และทำดีที่สุดแล้ว แต่ถ้าหากวาสนามีต่อกันจริงๆ หากเขาคิดได้และตัดขาดจากเด็กคนนั้นได้ เราคงได้มาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่สำหรับตอนนี้ ถ้าจะให้ฉันกลับไปทำแบบเดิมง้อหงอนและให้ความสำคัญกับเขา ยอมเขา เเล้วฉันต้องทนทุกข์และร้องไห้อีก ฉันเลือกที่จะเดินเจ็บออกมาแบบนี้ดีกว่า แม้ยังตัดขาดจากเขาไม่ได้ ยังคิดถึงเขาบ้าง แต่เวลามันคงทำให้ฉันทำใจได้ในสักวัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2014, 15:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


การเวลา เขียน:
[quote="ดอกจำปี"]:b9: :b32: คุณกาลเวลาคะ

อะไรหนอ...ที่ทำให้คุณเก่งกาจได้มากถึงเพียงนี้...........
อ่อ..ความสาหัสทางใจที่ได้รับนั่นเอง

นี่แหละค่ะ ประสบการณ์ที่ช่วยสอนใจ :b16:


ขอบคุณค่ะ คุณดอกจำปี ฉันไม่ได้เก่งกาจ อะไรหรอกค่ะ อ่อนแอเสียมากกว่า เพียงแต่ตอนนี้ กำลังต่อสู้กับใจของตัวเอง เพื่อที่จะเอาชนะใจต้นเอง ที่ยังแกว่งไปแกว่งมา ให้ยอมรับความจริง ว่าทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมแล้ว ในตอนนี้ยังแคร์สังคม แคร์หัวโขนที่สวมอยู่ ว่าวันไหนทุกอย่างมันจะเปิดเผยออกมา แล้ววันนั้นฉันจะมีความรู้สึกอย่างไร ทุกวันนี้ยังไม่มีใครรู้เรื่องของฉัน แม้แต่เพื่อนร่วมงาน ทุกคนยังคงมองว่าครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่อบอุ่น และน่าอิจฉาของใครหลายๆคน และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ใจฉันไม่นิ่งแก่วงไป แกว่งมา แว๊ปเข้ามาในความรู้สึกให้คิดถึงตอนเราอยู่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูก แต่ก็พยายามสลัดมันออก และบอกตัวเองว่ามันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว
เมื่อคืน พ่อกับแม่ ถามฉันว่า คิดดีแล้วหรือ ที่จะให้ทุกอย่างจบลงแบบนี้ ใจฉันเป็นอย่างไรในตอนนี้ คิดว่าตัดเขาได้ไหม แต่ถ้าฉันคิดดีแล้วก็แล้วแต่ฉันจะตัดสินใจ แต่ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่อยากเห็นครอบครัวลูกเป็นอย่างนี้ ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่ยอม และจะเอาชนะกัน มันก็ต้องมีแต่พังกับพัง คนที่รับกรรมก็คือลูก ถ้ายอมได้ก็ยอมคิดเสียว่าทำเพื่อลูก เพราะเราเป็นแม่ อย่างน้อยเขาก็ยังมีดีอยู่บ้างที่ยังส่งเสียลุกอยู่ ท่านบอกว่าให้ฉันเอาไปนอนคิดดู ทุกอย่างแล้วแต่ฉันจะตัดสินใจ ท่านเพียงอยากใ้ห้ฉันคิดดีๆ จะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง
ฉันเลยถามตัวเองว่า จะให้ฉันยอมทั้งที่เขาไม่ได้รักฉันสักนิดอย่างนั้นหรือ คำตอบคือ มันน่าจะพอได้แล้วกับความเจ็บปวด ถ้าหากเขายังรัก ยังแคร์ฉันบ้างสักนิด ฉันอาจจะอดทนต่อไป เผื่อว่าวันนี้เขาคิดได้ มาถึงวันนี้ทุกอย่างมันอาจจะสายเกินไปแล้ว ถ้าจะให้ฉันกลับไปง้อและอดทนเหมือนที่ผ่านมา เพราะฉันคิดว่าฉันทนมามากพอแล้ว และทำดีที่สุดแล้ว แต่ถ้าหากวาสนามีต่อกันจริงๆ หากเขาคิดได้และตัดขาดจากเด็กคนนั้นได้ เราคงได้มาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่สำหรับตอนนี้ ถ้าจะให้ฉันกลับไปทำแบบเดิมง้อหงอนและให้ความสำคัญกับเขา ยอมเขา เเล้วฉันต้องทนทุกข์และร้องไห้อีก ฉันเลือกที่จะเดินเจ็บออกมาแบบนี้ดีกว่า แม้ยังตัดขาดจากเขาไม่ได้ ยังคิดถึงเขาบ้าง แต่เวลามันคงทำให้ฉันทำใจได้ในสักวัน[/quote]


ไม่เป็นไรหรอกค่ะ สังคมภายนอกนั้น ถ้าเปิดเผยเมื่อไร ทุกคนจะเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาไปในที่สุด
คนเค้าก็จะสนใจไม่นาน เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาที่คนอยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็ต่างคนต่างไป
ซึ่งก็ไม่ได้มีเราเพียงคนเดียวในโลกที่เป็นเช่นนี้

สังคมก็ชอบครอบครัวอบอุ่น เห็นแล้วก็ชื่นชมไปด้วย เพราะเดี๋ยวนี้คนแยกกันเยอะค่ะ
คนที่ดีๆ ก็คงเสียใจไปกับเราด้วย และก็ทำใจได้ว่าเป็นเรื่องธรรมดาไปในที่่สุด

อนาคตไม่แน่นอนค่ะ
อย่างไรเสียก็มีลูกด้วยกัน ก็คงหนีกันไม่พ้นยังต้องเจอหน้ากัน ยังต้องวนเวียนมาเจอหน้ากันอีกค่ะ

สามีของคุณเค้าดีมาำกๆ ค่ะ ที่ส่งเสียเงินให้ คิดว่าเค้าคงน่าจะต้องคิดถึงลูกกับคุณอยู่นะคะ

ใจเย็นๆ ค่ะ บัวตัดแล้วก็ยังเหลือใยนะคะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2014, 15:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2013, 07:11
โพสต์: 90

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนาคตไม่แน่นอนค่ะ อย่างไรเสียก็มีลูกด้วยกัน ก็คงหนีกันไม่พ้นยังต้องเจอหน้ากัน ยังต้องวนเวียนมาเจอหน้ากันอีกค่ะสามีของคุณเค้าดีมาำกๆ ค่ะ ที่ส่งเสียเงินให้ คิดว่าเค้าคงน่าจะต้องคิดถึงลูกกับคุณอยู่นะคะใจเย็นๆ ค่ะ บัวตัดแล้วก็ยังเหลือใยนะคะ

:b5: คุณ SOAMUSA ค่ะ ยอมรับว่าเขาเป็นคนมีความรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่าย เสมอต้นเสมอปลายมาตลอด บางครั้งก็ปากร้าย แต่ใจดี ขี้สงสาร ด้วยเหตุผลนี้ จึงมีแต่คนรักใคร่เขาแม้แต่ พ่อ แม่ ของฉันเอง และวันนี้เขาก็ได้โทรมาหาพ่อของฉัน แต่ไม่โทรหาฉันกับลูก หลังจากที่ไม่ได้ติดต่อกันจะสามอาทิตย์แล้ว เขาก็ถามถึงลูกว่าเป็นไงบ้างและจะเปิดเรียนตอนไหน เหมือนไม่มีอะรเกิดขึ้น ระหว่างฉันกับเขา ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนอีก คิดถึงลูก รู้สึกผิด หรือคิดได้ ทั้งที่เขาอยู่ด้วยกัน ฉันพยายามที่จะไม่ฟังในสิ่งที่พ่อพูดพ่อเล่าถึงเขา เพราะกลัวตัวเองจะใจอ่อนลงอีก เพราะตั้งใจว่าจะเอาชนะใจตัวเองให้ได้ในคราวนี้ ถ้าเขาจะรู้สึกผิด หรือกลับมา มีครอบครัวอีกครั้ง ทุกอย่างจะต้องไม่เหมือนเดิม เหมือนที่คุณดอกจำปีเคยบอก ฉันจะต้องเข็มแข็งให้ได้กว่าเดิม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2014, 16:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


การเวลา เขียน:
อนาคตไม่แน่นอนค่ะ อย่างไรเสียก็มีลูกด้วยกัน ก็คงหนีกันไม่พ้นยังต้องเจอหน้ากัน ยังต้องวนเวียนมาเจอหน้ากันอีกค่ะสามีของคุณเค้าดีมาำกๆ ค่ะ ที่ส่งเสียเงินให้ คิดว่าเค้าคงน่าจะต้องคิดถึงลูกกับคุณอยู่นะคะใจเย็นๆ ค่ะ บัวตัดแล้วก็ยังเหลือใยนะคะ

:b5: คุณ SOAMUSA ค่ะ ยอมรับว่าเขาเป็นคนมีความรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่าย เสมอต้นเสมอปลายมาตลอด บางครั้งก็ปากร้าย แต่ใจดี ขี้สงสาร ด้วยเหตุผลนี้ จึงมีแต่คนรักใคร่เขาแม้แต่ พ่อ แม่ ของฉันเอง และวันนี้เขาก็ได้โทรมาหาพ่อของฉัน แต่ไม่โทรหาฉันกับลูก หลังจากที่ไม่ได้ติดต่อกันจะสามอาทิตย์แล้ว เขาก็ถามถึงลูกว่าเป็นไงบ้างและจะเปิดเรียนตอนไหน เหมือนไม่มีอะรเกิดขึ้น ระหว่างฉันกับเขา ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนอีก คิดถึงลูก รู้สึกผิด หรือคิดได้ ทั้งที่เขาอยู่ด้วยกัน ฉันพยายามที่จะไม่ฟังในสิ่งที่พ่อพูดพ่อเล่าถึงเขา เพราะกลัวตัวเองจะใจอ่อนลงอีก เพราะตั้งใจว่าจะเอาชนะใจตัวเองให้ได้ในคราวนี้ ถ้าเขาจะรู้สึกผิด หรือกลับมา มีครอบครัวอีกครั้ง ทุกอย่างจะต้องไม่เหมือนเดิม เหมือนที่คุณดอกจำปีเคยบอก ฉันจะต้องเข็มแข็งให้ได้กว่าเดิม


ก็ขอให้จิตใจเข้มแข็ง แจ่มใสสบายใจนะคะ :b27:

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2014, 10:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


ดอกจำปี เขียน:

:b1: แน่นอนนะคะ ไม่มีผู้หญิงคนไหนๆ ในยุคสมัยนี้ที่ทนยิ้มแย้ม สร้างจิตผ่องใสได้



ก็มีค่ะ ไม่ใช่ไม่มี .....ก็ขอให้ส่งเสริมเพื่อนในเวป ด้วยการคิดบวกค่ะ

ไม่ใช่อยู่แบบ เอาความทุกข์ทับถมตน

ถ้าจะคิดให้อยู่กับความเศร้า จิตก็เศร้า แล้วก็เคยชินอยู่กับความเศร้า ถ่ายถอนจากความเศร้ายากค่ะ

สิ่งที่ควรทำในขณะปัจจุบันนี้คือ หาวิธีถ่ายถอนจากความเศร้าใจให้ได้ค่ะ

ส่วนอนาคตนั้นไม่แน่นอนค่ะ
ถึงจะแยกจากสามีแล้วก็จริง แต่ก็ควรมองกันในแง่ดี และคิดบวกไว้ภายในใจค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2014, 13:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2013, 07:11
โพสต์: 90

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


s005 โชคไม่ดีจริงๆเลย พิมพ์ไว้ตั้งมากมายจากความรู้สึก พอส่ง ข้อความหาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2014, 08:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2013, 11:12
โพสต์: 421

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณการเวลา เข้ามาเยี่ยมค่ะ

สบายดีนะคะ เรามาฝึกการดูแลตนเอง สร้างความเข้มแข็งทางใจกันค่ะ เพราะเราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างให้ได้ดั่งใจเรา แม้ตัวเราเอง

อยากให้มุมมองเพิ่มค่ะ เผื่อได้ข้อคิดเพิ่มนะคะ

คุณ มีลูก ฉ้น ไม่มี
คุณมีพ่อแม่ ฉัน เสียแล้ว
สามีส่งเงิน ฉัน ไม่เคยรับผิดชอบ
เหมือนกันคิอเจ้าชู้ แยกกันอยู่

จะเห็นว่าต้นทุนคุณมากกว่า เรามาฝึกหยิ่งกันเถอะ :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย กล้วยไม้ม่วง เมื่อ 09 พ.ค. 2014, 13:19, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2014, 14:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2013, 07:11
โพสต์: 90

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


s007 เฮ่อ สองครั้งแล้วนะ ที่เีขียนไว้ตั้งมากมาย แต่ทำไมพอส่งแล้วหายไปเฉยๆเลย ท้อแล้วล่ะ แค่เขียนบรรยายความรู้สึกของตัวเองแท้ๆยังทำไม่สำเร็จเลย


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 152 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 20 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร