คุยไปถึงเรื่อง มานะทิฏฐิซึ่งเป็นงานที่พระอรหันต์ถึงจะเอาออกได้โน่นเลยเชียวนะ กบ มันไม่เกินตัวมากไปหรือ
ชาตินี้ขอให้แค่ทำลายความเห็นผิดหรือสักกายทิฏฐิได้ ก็น่าจะเพียงพอแล้วละมั้ง ทำไมตัวเล็กๆแค่ กบ ที่ียังเปิดกะลาแทบไม่ไหว แต่หมายสูงจัง

มันเป็นเรื่องตลก ที่พวกสมถะ มักพูดในทำนองว่า โสดาบันเป็นเรื่องง่ายๆ. มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนะ.

และมันอาจจะสะเทือนใจจนรับไม่ได้ ถ้าระดับพระป่าชั้นยอดอย่างหลวงปู่มั่น ก็ยังไม่ใช่โสดาบัน.
เราเชื่อว่า พระสงฆ์ (อริยบุคคล) ได้สูญจากแผ่นดินนี้ไป นับร้อยห้าสิบปีแล้ว.

คำพูดดังที่อ้างอิงมานี้ เป็นคำพูดที่อันตรายและขาดเหตุผลรองรับนะครับ คุณ murano

เคยได้ยินคำพูดนี้ไหมครับ

"สัมมาวิหาเรยุง อสุญโญโลโก อรหันเตหิ"....ตราบใดที่ยังมีผู้เจริญสัมมาทั้ง 8 ข้อ คือ มรรคมีองค์ 8 อยู่ ตราบนั้นโลกนี้จักไม่ว่างจากพระอรหันต์

นี่เป็นพุทธดำรัสเชียวนะ

พระพุทธศาสนายังไม่หมดอายุขัย 5,000 ปีดังที่เราเคยทราบ อริยสัจ 4 มรรค 8 ยังมีผู้รู้อยู่สอนอยู่ ใครจะเอาเหตุผลอะไรมากล่าวตู่ลอยๆขึ้นมาเองว่า "เราเชื่อว่า พระสงฆ์ (อริยบุคคล) ได้สูญจากแผ่นดินนี้ไป นับร้อยห้าสิบปีแล้ว".........เรา......ผู้ที่กล้ากล่าวว่า พระสงฆ์ (อริยบุคคล) ได้สูญจากแผ่นดินนี้ไป นับร้อยห้าสิบปีแล้ว เขาเป็นใคร มีคุณวิเศษอะไรที่เหนือกว่าพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือ คุณ murano วานบอกที

อโสกะ...ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรอ..ว่า..สักกายทิฏฐิ...กับ..มานะ...มันละหม้ายคล้ายกัน
แค่..หยาบละเอียด..ต่างกันเท่านั้นเอง...
ไม่รู้สึกอะไรจริงๆรึ?

ครูบาอาจารย์...บางท่าน..ยังสอนว่า..อรหันต์นจริงๆเขาทำลายสักกายทิฏฐิตัวเดียว...

อันนี้..ผมละเข้าใจเลย...

อโสกะเข้าใจมัยว่าทำไม?

ฆราวาสผู้ซึ่งเคยเห็นซึ่งพระนิพพาน ช่วยแชร์ประสบการณ์เหตุการเพื่อเป็นประโยชน์แก่ชาวพุทธที่
https://www.facebook.com/profile.php?id=100008103360610

คุณ naat
ลานธรรมจักร เปิดกว้างเพียงพอที่จะร่วมแบ่งปัน ประสบการณ์ที่คุณต้องการ
โดยไม่จำเป็นต้องไปสนทนากันที่อื่น

หากคุณ naat สะดวก และไม่มีเรื่องใดปิดบังเป็นส่วนตัว ถึงคุณวิเศษที่มีอยู่อย่างเพียงพอที่จะทราบว่า
พระนิพพานเป็นอย่างไร ก็เชิญสนทนาในลานธรรมจักรนี้ได้

คุณ naat เปิดกระทู้ใหม่ขึ้นได้ครับ
จะมีสหธัมมิก ที่เป็นกัลยาณมิตรพร้อมสนทนากับคุณ naat

คุณ naat อยากพบปะพูดคุยกับพระโสดาบันในยุคของเราหาเอาและสังเกตดีในลานธรรมจักรแห่งนี้หรือที่ลานธรรมเสวนา มีแน่ครับ

ผมไปสังเกตการณ์ในเฟสที่คุณเชื่้อเชิญแล้วท่านจะไม่เข้าไปักันหรอกครับ เพราะมันเหมือนกับไปอวดอุตริเพราะใครไปแบ่งปันความเห็นในนั้นเหมือนกับประกาศตัวเองว่าเป็นโสดาบันบุคคลไปโดยปริยาย ซึ่งสิ่งนี้พระโสดาบันทั้งหลายท่านไม่ทำกันถึงแม่ท่านจะไม่เป็นพระแต่หิริ โอตัปปะของท่านมีกำลังมากยิ่งนัก

สังเกตดีๆนะครับ โสดาบันบุคคลท่านมีแต่ให้ ไม่หวังเอาหรือได้อะไรนะครับ พรหมวิหารธรรมของท่านจะมากและยิ่งครับ

โสดาบันทำข้อสอบเอา....

การตีความจากคำสอนของครูบาอาาจารย์นั้นต้องระมัดระวังให้ดี เพราะถ้าตีความผิดอาจเป็นการลบหลู่ครูบาอาจารย์โดยไม่รู้ตัว

"อรหันต์จริงๆ ทำลายสักกายทิฏฐิตัวเดียว"..........ความข้อนี้ถ้าว่าตามลำดับแห่งธรรมของสังโยชน์ 10 น่าจะไม่ใช่

แต่ถ้าว่าตามลำดับของเหตุและผลก็น่าจะใช่ เพราะการที่จะก้าวขึ้นไปถึงอรหัตมรรค อรหัตผลนั้น ต้องผ่านด่านแรก คือทำลายสักกายทิฏฐิ ทุกท่านทุกคน

เมื่อ...ไม่มีตัวกู..ของกู..แล้ว

จะมีราคะในรูปใดเล่า....จะเอาอะไรไปมีราคะ
จะมีราคะในอรูปใดเล่า....จะเอาอะไรไปมีราคะ
จะมีมานะไปเพื่ออะไร...จะเอาอะไรไปมีมานะ
จะฟุ้งซ่านไปเพื่ออะไร....จะเอาอะไรไปมีความฟุ้งซ่าน
ความไม่รู้จะอยู่ได้งั้ย....ก็เมื่อใจมันรู้แล้ว..ว่า...ร่างกายนี้ไม่ใช่เรา...ไม่มีเราในร่างกายนี้

จบ....

หยาบไปนะ ๆ คุณกบ

โดยธรรมมีความละเอียดอ่อนซ่อนลึกยิ่งกว่านั้น

ตัวกูของกูชั้นความเห็นผิดหรือสักกายทิฏฐิเป็นชั้นหยาบไม่หมดกาม
ราคะ ปฏิฆะได้

ชั้นที่จะเอาออกได้ต้องลึกละเอียดกว่านี้คือต้องทำลายความยึดผิด (มานะทิฏฐิ)ออกได้อีก 1/4 หรือ 25%

แล้วอโสกะคิดว่า..จะละมานะได้นี้..ต้องทำอย่างไร....ภาวนาอย่างไร..หรอครับ?...

55555555555

ก็......"สำรวมกาย ใจ มานิ่งรู้ นิ่งสังเกต ปัจจุบันอารมณ์ จนละความยึดผิด ว่ากาย ใจ นี้เป็นอัตตา ตัวกู ของกู
พอกพูนความยึดถูกต้องว่า กาย ใจ นี้เป็น อนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่ตัวกู ของกู

ทุกวัน เวลา นาที วินาที ที่ระลึกได้และมีโอกาส"


หรือ

ก็เจริญสติปักฐาน 4 ต่อไป เพราะอารมณ์ปัจจุบันที่จะเกิดขึ้นให้รู้ให้เห็น จะเป็นอารมณ์ที่ละเอียดอ่อน ลึกซึ้งยิ่งกว่าเมื่อครั้ง เอาความเห็นผิดออก วิธีเอาออก ก็ยังคงเป็นดาบเล่มเก่าแต่ต้องคมกริบยิ่งกว่าเก่า ก็คือ วิปัสสนาภาวนา สติปัฏฐาน 4 ปัจจุบันอารมณ์ อันเดิมนั่นแหละ

ความเห็นผิด (สักกายทิฏฐิ).....ละได้ เป็นโสดาบันบุคคล

ความยึดผิด (มานะทิฏฐิ)........ทำให้เบาบาง เป็นสกิทาคามีและอนาคามีบุคคล......ละได้เด็ดขาดเป็นอรหันต์บุคคล

เห็นไม่ละ....ก็พิจารณาละตัวกูของกู...อันเป็นสักกายทิฏฐิ....นี้แหละ..มันก็เป็นการละมานะ...ในตัวไปด้วย

แต่..กลับไปแย้งความเห็นเดิม...ของตน..ซะเนี้ย


อันเก่าผิด.....ก็ทิ้งมันไปซะ....เอาอันใหม่ที่ถูกนั้นแหละ..อโสกะ