วันเวลาปัจจุบัน 16 เม.ย. 2024, 10:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 346 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 24  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2014, 19:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
ธรรมจักร......กงล้อแห่งธรรม

ธัมมจักกัปปวัตน........ขอบเขต (Scop)แห่งธรรม อันได้แกอริยสัจ 4 ประการ

ธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอนทั้งหมดล้วนรวมลงในอริยสัจทั้ง 4

พระสูตร ธรรม วินัย ทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ล้วนงอกออกมาจากอริยสัจ 4 ทั้งสิ้น

:b37:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2014, 20:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว



ธรรมที่ปรากฎ ประกอบด้วย การรู้ สิ่งที่ถูกรู้ การเข้าไปรู้ คือ ... จิต

จักร ... ลักษณะการโคจรที่หมุนวน

:b42: :b42: :b42:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2014, 19:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2014, 15:21
โพสต์: 38

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สงสัยเกี่ยวกับ ศีล ข้อ 3

เห็นมี คนบอกประมาณว่า
การล่วงเกิน หญิงที่เป็นภรรยาของชายชั่วครั้งชั่วคราว นั้น
มันเป็น เรื่อง ผิดศีล ข้อ 3

ก็เลยสงสัยว่า

แล้วเช่นนี้ โสเภณีดีกรีโสดาบัน อาทิเช่น นางสิริมา
ไป สมสู่ กับ สามีผู้อื่น โดยที่ หญิงผู้เป็นภรรยา มิได้เต็มใจ ให้ คนทั้งคู่สมสู่กัน
นางโสเภณีโสดาบัน คนนี้ จะ ผิดศีลข้อ 3 หรือไม่ ?

และถ้า เรา ออฟ โสเภณีโสดาบัน มาบำบัดความใคร่ ให้
เราจะผิดศีล ข้อ 3 หรือไม่อย่างไร ลักษณะความผิด ต่างจาก นางโสเภณีฯ นั่นหรือไม่ ?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2014, 23:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


รู้ได้งัยว่า...ท่านเป็นโสดาบันแล้ว....ยังทำแบบเดิมอยู่...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2014, 23:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ต.ค. 2010, 10:42
โพสต์: 249

แนวปฏิบัติ: ไม่เอา ไม่เป็น ไม่ยึด
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่มของท่านพุทธทาส
อายุ: 32
ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: คุณไอ้ฟัก

เท่าที่ผมทราบมา นางสิริมาเป็นหญิงขายบริการมาก่อน แต่เมื่อได้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์ก็ได้เป็นโสดาบันบุคคล
หลังจากนั้นนางก็ได้ให้ทานอยู่สม่ำเสมอ ผมคิดว่านางคงจะเลิกอาชีพเดิมแล้วครับ

เมื่อนางตาย ร่างกายนางก็ยังถูกใช้เป็นอุปกรณ์สอนธรรมแก่ผู้ที่เคยหลงไหลนางด้วยครับ

จึงควรกล่าวถึงอริยบุคคลด้วยความเคารพ

อ่านเรื่องของนางสิริมาเพิ่มเติมได้ที่
http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... 5&i=21&p=2

และถ้าต้องการให้ทราบเรื่องของนางดีขึ้น ควรอ่านเรื่องของอุตตราอุบาสิกาก่อนครับ ไปที่
http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... 5&i=27&p=3

:b8:

.....................................................
วงว่างยงอยู่ยั้ง อนันตกาล
ในถิ่นที่ทุกสถาน แหล่งหล้า
ยึดมั่นไป่พบพาน ประจักษ์
ยามปล่อยหยุดไขว่คว้า ถึงได้โดยพลัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2014, 23:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อะแฮ่ม...อะแฮ่ม....นุ่มนวลจริง

:b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2014, 15:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:

eragon_joe เขียน:

ธรรมที่ปรากฎ ประกอบด้วย การรู้ สิ่งที่ถูกรู้ การเข้าไปรู้ คือ ... จิต

จักร ... ลักษณะการโคจรที่หมุนวน

:b42: :b42: :b42:


วันนี้บังเอิญถือหนังสือเล่มหนึ่งอยู่ในมือ และ
เรื่องราวเริ่มต้นที่

"โลกจิต

คุณคิดว่า โลกนี้ มีจริงรึเปล่า ?
สมมติว่า มีห้องอยู่ห้องหนึ่ง ผนังตกแต่งด้วยรูปนางแบบชุดว่ายน้ำ
เพดานติดแอร์เปิดเบอร์แรงสุด กลางห้องมีสเตอริโออยู่เครื่องนึง
เปิดเพลงแดนซ์สุดฮิตดังกระหึ่ม มุมห้องมีโซฟาที่นุ่มสบายที่สุดในโลก
บนพื้นมีทุเรียนหมอนทองแกะแล้ววางไว้สามจาน...
ถ้าตราบใดที่ยังไม่มีใครย่างกรายเข้าไปในห้อง ถามว่า นางแบบในรูป
จะเซ็กซีหรือไม่ แอร์จะเย็นหรือไม่ โซฟาจะนุ่มหรือไม่ เพลงแดนซ์จะ
มันดึ๊บเร้าใจหรือไม่ และทุเรียนจะอร่อยหวานละมุน มีกลิ่นหอมยวนใจหรือไม่ ?
คิดดูให้ดีนะครับ สรรพสิ่งมีอยู่จริง... หรือว่าเป็นเพราะมนุษย์ไปรับรู้มันเข้า
มันถึงมีอยู่จริง ?


แทนไท ประเสริฐกุล

:b8: :b4: ...


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 09 มี.ค. 2014, 12:25, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2014, 15:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ก็มีคำถามต่อว่า....อะไรคือมนุษย์?
และ....นางแบบเซ็กซ์ซี่...กลิ่นหอม...โซฟานุ่มๆ.....เป็นข้อเท็จจริงหรืออย่างไร

อิอิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2014, 15:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ก็มีคำถามต่อว่า....อะไรคือมนุษย์?
และ....นางแบบเซ็กซ์ซี่...กลิ่นหอม...โซฟานุ่มๆ.....เป็นข้อเท็จจริงหรืออย่างไร

อิอิ


เป็น เดินเข้าไปในห้องสงสัยอีกแล้ว... งัย

:b32: :b4:

แบบว่า มันโคจร...น่ะ

:b4: :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2014, 23:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b13:
เผื่อจะเป็นจักรจร...บ้าง

อิอิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2014, 12:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
สาธุ อนุโมทนากับความคิดเห็นที่หลากหลายและเป็นเรื่องธรรมะที่มี่ตัวอย่างทันยุคทันสมัย คนรุ่นใหม่คงเข้าใจได้ง่ายดีนะครับ
smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2014, 12:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


s004
โลก หรือ โลเก ในสติปัฏฐาน 4 นั้น หมายถึง ผัสสะ ของทวารทั้ง 6 นั่นเอง เพราะผัสสะทั้งหมด ทำให้เกิด
ยินดี กับ ยินร้าย ........เกิด ตัณหา อุปาทาน กรรมภวะ.....ชาติ.....ตามมาเป็นลำดับ

:b37:
:b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2014, 20:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2014, 15:21
โพสต์: 38

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โกเมศวร์ เขียน:
:b8: คุณไอ้ฟัก

เท่าที่ผมทราบมา นางสิริมาเป็นหญิงขายบริการมาก่อน แต่เมื่อได้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์ก็ได้เป็นโสดาบันบุคคล
หลังจากนั้นนางก็ได้ให้ทานอยู่สม่ำเสมอ ผมคิดว่านางคงจะเลิกอาชีพเดิมแล้วครับ

เมื่อนางตาย ร่างกายนางก็ยังถูกใช้เป็นอุปกรณ์สอนธรรมแก่ผู้ที่เคยหลงไหลนางด้วยครับ

จึงควรกล่าวถึงอริยบุคคลด้วยความเคารพ

อ่านเรื่องของนางสิริมาเพิ่มเติมได้ที่
http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... 5&i=21&p=2

และถ้าต้องการให้ทราบเรื่องของนางดีขึ้น ควรอ่านเรื่องของอุตตราอุบาสิกาก่อนครับ ไปที่
http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... 5&i=27&p=3

:b8:


ไอ้เรื่อง นางโสเภณีดีกรี โสดาบัน เนี่ย
เราคาดว่า นางก็คงจะยึดถือ อาชีพ บำบัดความใคร่ ให้ผู้ชายไปจนตาย นะ
เพราะ ว่า ในสมัยก่อน นครโสเภณี น่ะ เป็นที่อยู่ของ หญิงงามเมือง
และ การเป็น อีตัว ใน นครแห่งนี้ ก็ เป็นสิ่งปกติ
ที่ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ในสายตา ของคนสมัยก่อน

ที่สำคัญ การเลิกอาชีพ นั้น กลางคัน
แม่เล้า แมงดา ในนครนั้น มันจะยอม เหรอ
ก็ในเมื่อ นางสิริมา ยังสาวยังแส้ ยัง เรียกลูกค้า ทำกำไรได้อีกมาก

แล้วเท่าที่อ่านดู หลัง บรรลุโสดาบัน
นางก็ทำบุญทำทานทานแบบ มือเติบ ถึงวันละตั้ง ๑๖ กหาปณะทุกวัน ด้วย
ถ้าไม่ขายตัวต่อ แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปทำบุญ ล่ะ
ขืน เก็บกินแต่ของเก่า ก็ร่อยหรอ หมดอ่ะดิ


แล้ว ผู้หญิงสมัยก่อน น่ะ ถ้าไม่มีผัวมาเลี้ยงดู
นอกจาก อาชีพ ขอทาน กับ โสเภณี แล้ว จะไปทำมาหากิน อะไรได้
ยิ่งโตมา โดยที่ถูกฝึกให้เชี่ยวชาญแต่เฉพาะในเรื่อง สนองกามตัณหา ผู้ชายอย่างนั้น
ถ้า ไม่ขาย นาผืนน้อย หาเลี้ยงตัว มันจะ ออกมาทำอะไรเป็น

โสดาบัน เนี่ย ไง ก็ยัง มี รักโลภ โกรธหลง และ ชื่นชอบ ความสุขสบายนะ
ถ้าจะให้ ลำบากตรากตรำ ออกไปเลี้ยงควายไถนา นางคงไม่ยอมทำหรอก


อ้อ แล้ว เราเองก็มีคติ ว่า พึง เคารพ อริยะบุคคลที่พึงเคารพ เช่นกันนะ
แต่ ถ้า ระดับ โสดาบันเนี่ย เราว่า
คนพวกนี้ ยังมี รัก โลภ โกรธ หลง ไม่ต่างกับ ปุถุชน อ่ะ
อริยะชั้นต่ำ แบบนี้ เรา ยังเคารพไม่ลง อ่ะ

เพราะ อริยะ ใน มาตราฐานของเรา
ต้องมี คุณสมบัติขั้นต่ำ ประมาณนี้ อ่ะ

1.ต้องไม่ใฝ่ต่ำ ละทิ้งพ่อแม่
แล้วหอบผ้าหอบผ่อนหนีตามผู้ชาย

2.ต้องประกอบ อาชีพ ที่น่านับถือ
มากกว่า การเร่ขายนาผืนน้อย เพื่อบำบัดความใคร่ให้ผู้ชาย

3.ต้องรู้จัก เจริญสติปัฏฐาน อย่างน้อย ๆ ก็รู้เท่าทัน เวทนา
ไม่ใช่ว่า พอ หลานสุดที่รักของตัวเอง ตายกะทันหัน ก็ หัวใจสลาย
ร้องไห้จะเป็นจะตาย โดยไม่มีสติ เท่าทัน ใน โลกธรรม อ่ะ

อนึ่ง และ เท่าที่ อ่านประวัติ โสดาบัน ทั้งหลาย
และ พิจารณา ดูแล้ว เรารู้สึกว่า อริยะชั้นต่ำ อย่างโสดาบัน นี่
ก็ไม่ค่อยจะผ่าน มาตรฐาน ของเราเลย huh


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2014, 21:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


ไอ้ฟัก เขียน:
โกเมศวร์ เขียน:
:b8: คุณไอ้ฟัก

เท่าที่ผมทราบมา นางสิริมาเป็นหญิงขายบริการมาก่อน แต่เมื่อได้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์ก็ได้เป็นโสดาบันบุคคล
หลังจากนั้นนางก็ได้ให้ทานอยู่สม่ำเสมอ ผมคิดว่านางคงจะเลิกอาชีพเดิมแล้วครับ

เมื่อนางตาย ร่างกายนางก็ยังถูกใช้เป็นอุปกรณ์สอนธรรมแก่ผู้ที่เคยหลงไหลนางด้วยครับ

จึงควรกล่าวถึงอริยบุคคลด้วยความเคารพ

อ่านเรื่องของนางสิริมาเพิ่มเติมได้ที่
http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... 5&i=21&p=2

และถ้าต้องการให้ทราบเรื่องของนางดีขึ้น ควรอ่านเรื่องของอุตตราอุบาสิกาก่อนครับ ไปที่
http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... 5&i=27&p=3

:b8:


ไอ้เรื่อง นางโสเภณีดีกรี โสดาบัน เนี่ย
เราคาดว่า นางก็คงจะยึดถือ อาชีพ บำบัดความใคร่ ให้ผู้ชายไปจนตาย นะ
เพราะ ว่า ในสมัยก่อน นครโสเภณี น่ะ เป็นที่อยู่ของ หญิงงามเมือง
และ การเป็น อีตัว ใน นครแห่งนี้ ก็ เป็นสิ่งปกติ
ที่ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ในสายตา ของคนสมัยก่อน

ที่สำคัญ การเลิกอาชีพ นั้น กลางคัน
แม่เล้า แมงดา ในนครนั้น มันจะยอม เหรอ
ก็ในเมื่อ นางสิริมา ยังสาวยังแส้ ยัง เรียกลูกค้า ทำกำไรได้อีกมาก

แล้วเท่าที่อ่านดู หลัง บรรลุโสดาบัน
นางก็ทำบุญทำทานทานแบบ มือเติบ ถึงวันละตั้ง ๑๖ กหาปณะทุกวัน ด้วย
ถ้าไม่ขายตัวต่อ แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปทำบุญ ล่ะ
ขืน เก็บกินแต่ของเก่า ก็ร่อยหรอ หมดอ่ะดิ


แล้ว ผู้หญิงสมัยก่อน น่ะ ถ้าไม่มีผัวมาเลี้ยงดู
นอกจาก อาชีพ ขอทาน กับ โสเภณี แล้ว จะไปทำมาหากิน อะไรได้
ยิ่งโตมา โดยที่ถูกฝึกให้เชี่ยวชาญแต่เฉพาะในเรื่อง สนองกามตัณหา ผู้ชายอย่างนั้น
ถ้า ไม่ขาย นาผืนน้อย หาเลี้ยงตัว มันจะ ออกมาทำอะไรเป็น

โสดาบัน เนี่ย ไง ก็ยัง มี รักโลภ โกรธหลง และ ชื่นชอบ ความสุขสบายนะ
ถ้าจะให้ ลำบากตรากตรำ ออกไปเลี้ยงควายไถนา นางคงไม่ยอมทำหรอก


อ้อ แล้ว เราเองก็มีคติ ว่า พึง เคารพ อริยะบุคคลที่พึงเคารพ เช่นกันนะ
แต่ ถ้า ระดับ โสดาบันเนี่ย เราว่า
คนพวกนี้ ยังมี รัก โลภ โกรธ หลง ไม่ต่างกับ ปุถุชน อ่ะ
อริยะชั้นต่ำ แบบนี้ เรา ยังเคารพไม่ลง อ่ะ

เพราะ อริยะ ใน มาตราฐานของเรา
ต้องมี คุณสมบัติขั้นต่ำ ประมาณนี้ อ่ะ

1.ต้องไม่ใฝ่ต่ำ ละทิ้งพ่อแม่
แล้วหอบผ้าหอบผ่อนหนีตามผู้ชาย

2.ต้องประกอบ อาชีพ ที่น่านับถือ
มากกว่า การเร่ขายนาผืนน้อย เพื่อบำบัดความใคร่ให้ผู้ชาย

3.ต้องรู้จัก เจริญสติปัฏฐาน อย่างน้อย ๆ ก็รู้เท่าทัน เวทนา
ไม่ใช่ว่า พอ หลานสุดที่รักของตัวเอง ตายกะทันหัน ก็ หัวใจสลาย
ร้องไห้จะเป็นจะตาย โดยไม่มีสติ เท่าทัน ใน โลกธรรม อ่ะ

อนึ่ง และ เท่าที่ อ่านประวัติ โสดาบัน ทั้งหลาย
และ พิจารณา ดูแล้ว เรารู้สึกว่า อริยะชั้นต่ำ อย่างโสดาบัน นี่
ก็ไม่ค่อยจะผ่าน มาตรฐาน ของเราเลย huh


cool
คุณฟักอาจได้ข้อมูลมาไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนก็เป็นได้ครับ
อย่าเพิ่งด่วนตัดสินอะไรลงไปตามอัตโนมัย ถ้าตัดสินผิดจะมีโทษมากกว่ามีคุณ สู้ฟังหูไว้หู ตั้งอยู่ตรงกลางๆจะปลอดภัยกว่านะครับ
อริยุวาตันตราย ถึงแม้จะแก้ไขได้ แต่ถ้าไม่รู้ตัวก็อาจห้ามมรรคห้ามผลของตนเองหรือของผู้ที่หลงเชื่อเห็นคล้อยผิดตามไปก็ได้นะครับ

อีกประการหนึ่งมาตรฐานที่คุณฟักตั้งอาจสูงเกินระดับพระโสดาบันไปก็ได้นะครับ

สาระสำคัญที่เป็นคุณสมบัติจำเพาะของพระโสดาบันนั้นคือ ความเห็นผิด ว่ากายใจนี้เป็นอัตตา ตัวกู ของกู ตายสนิทไม่หวนกลับคืนมาอีก

ดีใจเสียใจมีอยู่แต่ไม่ล่วงศีล 5

มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะที่พึ่งเต็มร้อย มั่นคงอยู่บนทางแห่งวิปัสสนาภาวนา เที่ยงแท้แน่นอนอยู่ที่นิพพานหนึ่งเดียวไม่เคลื่อนคลายเป็นอื่น

อย่างอื่นก็ยังคล้ายปุถุชนคนธรรมดาอยู่
ดูไป สังเกตไป ศึกษากันไปนานๆก่อน
s004


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2014, 22:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32:
อโสกะเอ๋ย...มาตราฐานของไอ้ฟักนั้นนะ...อโสกะเห็นว่าสูงเกินโสดาบันรั....ถึงได้กลัวจนพูดยกยอปานนั้น

นี้มันมาตราฐานอเวจี....อย่าตัวสั่นน่าอโสกะ

:b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 346 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 24  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 19 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร