วางอีกชุดหนึ่ง เพื่อพาดพิงถึงข้างหน้า


ปุญญาภิสังขาร (ความดีที่ปรุงแต่งชีวิต) = กุศลเจตนาฝ่ายกามาวจรและฝ่ายรูปาวจร 13 (กามาวจรกุศล 8 รูปาวจรกุศล 5)

อปุญญาภิสังขาร (ความชัี่่วที่ปรุงแต่งชีวิต) = อกุศลเจตนาฝ่ายกามาวจรทั้ง 12

อาเนญชาภิสังขาร (ภาวะมั่นคงที่ปรุงแต่งชีวิต) = กุศลเจตนาฝ่ายอรูปาวจร 4

ถ้าท่านจะถามผมลึกลงตรงนี้ขอบอกว่าผมมีความรู้ในรายละเอียดน้อยมากเพราะผมบอกตรงๆนะผมไม่สนใจจึงไม่ได้ศึกษาแต่ท่านสนใจก็ตามสบายตราบใคยังไม่ใช่อรหันต์มันก็ต้องปรุงกันไปตามเหตุปัจจัยเรื่องของบุญบาป ตาสบายเลยท่าน

ตอบด้วยครับ จะไปอาบน้ำกินนมนอนแล้ว

อ้าวเรื่องง่ายๆว่าเป็นเรื่องของพระอรหันต์ไปอีกแระ

ก็เรื่องบุญ เรื่องบาปนี่เองปัดโธ่ เห็นมะ นี่แหละพื้นฐานทางภาษา ถึงบอกไงว่า จำขี้ปากเขามาพูด

ก็ง่ายๆคิดอะไรมากก็ทำกันไปปรุงกันไปไม่เห็นมีอะไรก็เรื่องบาปบุญทำไม่ต้องสนใจมากเป็นอรหันต์ก็จบสนใจปฎิบัติเถอะกรัชกายปลีกย่อยมากเรื่องแบบนี้ผมไม่สนใจเลยเคยฟังแล้วก็ผ่านสนใจการปฎิบัติ ตามสบาปรุงให้อร่อยนะ จะได้หยั่งลงมั่นสักที่

เลี่ยงปัญหานี้ไปอีก ทำเป็นโฮฮับสองไปได้ คิกๆๆ

ถ้าไม่ตอบ กรัชกายจะพูดว่า ของปลอม จตุตถฌานปลอม เข้าใจกายสังขารผิด ไปไกลด้วย บอกแล้วว่าต้องมีพื้นฐานบ้าง ไม่เชื่อ คิกๆๆ อาบน้ำกินนมนอนดีกว่า

คุณพูดมาเลยเป็นภาษาชัดๆผมตอบได้ไม่ยากจะถามอะไรเอาภาษาไทย อย่าทำสำนวนผมเข้าใจธรรมะด้วยสภาวะไม่ใช่ตัวหนังสือผมบอกไปแล้วไงผมไม่สนจริงๆ

ใจเย็นๆ ขอรับ ไม่สนอะไร ไม่เข้าใจ เราสนทนากัน ไม่สนหรอขอรับ อ่ะ แล้วจะพูดกันรู้เรื่องหรอ ถ้าไม่สนน่ะ งง

เราว่าถามชัดพอแล้วนะ

คือ ถามว่ายังเข้าจตุตถฌานดับกายสังขาร แบบที่เล่าให้ฟังว่า ใช้อานาปานสติ ทำไปๆๆๆๆ แล้วกายบังกลางสมองระหว่างคิ้วว่า เกือบระเบิดว่างั้น แต่ก็ไม่กลัว...ประมาณเนี่ยอยู่ไหม

amazing นิยาม กายสังขาร ยังไง ตามความคิดของเราน่ะ

คุยธรรมะใช้ภาษาง่ายๆนะกรัชกายอย่าใช้ภาษาที่พูดแล้วจะต้องแปลอย่าทำตัวอวดภูมิความรู้ ผมไม่สนใจถ่อยคำแบบนั้น เอาเป็นว่าที่ถามมาตอบไปโอเคนะ อะไรกายบังกลางสมอง บอกไปแล้ววว่าเขียนผิด จิตมันนไปรวมอยู่ที่ตรงกลางสมองนั้นเองนานพอสมควรแล้วในขณะที่กายสังขารจะดับนั้นมันต้องออกแรงหน่อยคือไม่ถ้อถอยแม้จะมีความมรู้สึกปีบคั้นอย่างมาก ที่สุดแล้วมันก็แค่บททดสอบของจิตเราสิ่งที่ดีไม่ได้มาง่ายหรอกกรัชกายไม่งั้นก็หลุดพ้นกันหมดแล้ว


นิยามกายสังขารกรัชกายจะให้คำกำจัดความอย่างไรก็เชิญผมไม่สนใจมาก. ผมสนใจแค่ว่าการเข้าถึงมีลักษณะลมหายใจดับไปอายตนทั้งหมดดับไปมีแต่ความสงบเพราะปราศจากสิ่งที่มากระทบทั้งหมด ส่วนนิยามว่าไปเลยจะให้มันสวยหรูอย่างไรกรัชกายจัดเลย. สมถะคือการเข้าถึสภาวะธรรมสูงสุดในฝ่ายสังขตะธรรมวิปัสนาคือการเข้าใจความจริงสูงสุดของสภาวะธรรมทั้งหมดทั้งมวนล้วนถูกปรุงแต่งขึ้นตามเหตุปัจจัยไม่มีตัวตนบุคคลเราเขา เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เมื่อเข้าใจทุกอย่างจิตวางทุกอย่างลงได้ก้เข้าถึงสภาวะธรรมสูงสุดในฝ่ายอสังขตธรรม สองอย่างลงตัวมันก็จบเรื่อง.

แน่ะ ๆ มาว่าเราใช้ภาษาต้องแปล ก็ตัวเองพูดแท้ๆ ว่าดับกายสังขาร พูดตั้งแต่ต้นนะขอรับนะ แล้วก็ว่าปฏิบัติอานาปานสติๆๆไป กายไปบังสมอง...เอาเป็นว่าเขียนผิดก็ไม่เ็ป็นไร ไม่ใช่ความผิดของกรัชกายหรือ amazing เป็นความผิดวัฏฏะก็แล้ว กันคิกๆๆ

หัวข้อนี้ จึงสรุปได้ว่า amazing เข้าใจความหมาย กายสังขาร (วจีสังขาร จิตตสังขาร เขามาเป็นชุด) ผิด พอรับได้ไหมขอรับ คือ amazing คิดว่าเป็นร่างกายเนี่ยๆ แล้วก็จะดับมัน (ดับร่างกาย เข้าใจคำ่ว่า ดับ ทำให้กายมันหายไป)

ส่วนท่อนล่าง มีคำว่าศัพท์ ทั้งสมถะ วิปัสสนา กรัชกายไม่ถามความหม่งความหมายอะไรแล้วขอรับ ถามไปก็เละออกทะเลอีก ขี้เกียจพายเรือตามขอรับ ปล่อยให้อยู่ตามท้องไร่ท้องนามีหญ้าขึ้นรกเป็นพงนั่นแหละ

กรัชกายจะเอาอะไร. พระสูตรก็ยกมาให้แล้วว่า. วจีสังขารดับก่อน กายสังขารดับทีหลัง และจิตสังขารดับหลังสุคก็ยกมาให้ดูแล้ว. จะเอาอะไรอีก. และอีกพระสูตรก็บอกว่ากายสังขารนั้นดับลงที่ฌานสี่. กรัชกายต้องการอะไรหรือ. และกายสังขารเขาก็หมายความว่าลมหายใจด้วย. ฉะนั้นกรัชกาไม่ต้องหามาเพิ่มหลอก แค่ลมหายใจระงับดับไปยังไม่เคยแล้วกรัชกายจะรู้อย่างอื่นได้อย่างไร.ผมบอกว่าอายตนะดับไปก็งงอีก

ประเด็นนี้ผ่าน อะไรจะดับยังไงก็ช่างมัน ไปเรื่องรูปนามบ้างที่โน่น

เราปฎิบัตเพื่อให้เข้าสู่ความจริงเมื่อผมปฎิบัติจนพบว่ามันเป็นวิธีก็น่าจะสนใจนำไปทำให้เกิดขึ้นจริงแก่ตนเอง

อะไรเล่าความจริงที่ว่านั่นน่ะ ความจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อะไรเล่าความจริง บอกชัดๆสิขอรับ