วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 21:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


Facebook ลานธรรมจักร - http://www.facebook.com/larndhammajak
ห้องแชดสนทนาธรรม - http://www.dhammajak.net/chat/



กลับไปยังกระทู้  [ 78 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2013, 13:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คุณเอกอนเขียน

นี่...คุณเต้ ถ้าเขามาอีก
คุณเต้ถามเขาให้เขาเล่าเรื่องราวของเขาให้คุณเต้ฟังได้เรยยยยย...
คราวนี้พวกเราจะได้รู้จักกุมารทองมากขึ้น.... :b17: :b17: :b17:



ถ้าตามความรู้สึกของเราน่ะค่ะ ถ้าพวกเค้าที่อยู่คนล่ะภพกับพวกเราน่ะค่ะ
ถ้าเค้าเข้ามาในความฝัน หรือนิมิต เรามีความรู้สึกว่า คุยกับพวกเค้าได้ค่ะ
คือคุยได้ปกติ แต่ถ้าเค้ามาให้เราเห็น เรามีความรู้สึกว่า เหมือนเราจะพูดไม่ออกได้แต่ดู
แต่ใจคิดน่ะ เรามีความรู้สึกว่า จิตเราเหมือนตอนที่เรานั่งสมาธิ จนจิตว่างแล้ว
เหมือนชาๆ แต่พอเค้าไปแล้ว จิตก็กลับมาอย่างเก่า
เท่าที่เราสังเกตุตัวเราน่ะค่ะ จะเป็นอย่างนี้ทุกทีเลย

เพราะฉนั้น ถ้าเราจะคุยกับค้า คงเป็นไปไม่ได้แน่นอน
ถ้าคุยกับพวกเค้าได้ก็ดีน่ะสิ จะได้เอามาเขียนหนังสือแจก
คนที่นี่ส่วนใหญ่ พวกเค้าจะคิดว่าตายแล้วสูญเยอะมากค่ะ
พวกเค้าก็เลยไม่กลัวอะไร :b41: :b55: :b49:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2013, 14:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


หายเงียบไปหมดเลย คุณหญิงไทย คุณน้องคอง คุณเอกอน
คุณน้องคองไปอยู่ที่ภูเก็ตแล้วเหรอค่ะ เป็นไงบ้างสนุกมั๊ย
เล่าให้พี่ๆฟังบ้างสิ

ตอนนี้รู้สึกดีใจ กับน้องก๊อตที่เป็น ยาม มช.น่ะค่ะ
ชีวิตของคนเรานี่ พอจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนแบบไม่ตั้งตัวเลยน่ะ
นี่หล่ะค่ะชีวิต อย่าประมาทกับชีวิต

บางคนเปลี่ยน ได้รับสิ่งที่ดีขึ้น บางคนเปลี่ยน ตื่นเช้าขึ้นมาอาจจะไม่มีอะไรเลย
ถ้าจะใช้คำว่าแปลกคงไม่ใช่ ไม่รู้เรียกว่าอะไร
สำหรับน้องก๊อต คงจะบุญเก่าส่งผลน่ะ :b41: :b55: :b49:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2013, 17:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


อุ้ย... s005

ไม่ได้หายหรอกจร้า...
วันก่อนก็มาส่อง ๆ ดู กะว่าจะมาตะโกนถามหาคุณเต้
เพราะเห็นคุณเต้หายเงียบไป ...
เห็นแว่ว ๆ ว่าช่วงก่อนหายไปว่าไม่ค่อยสบาย
ก็ชะเง้อมองหาคุณเต้อยู่ด้วยความเป็นห่วง
ว่าจะเข้ามาตะโกนร้องเรียกหา...
แต่..ก็ลืม... :b9: :b9: :b9:

วันนี้เห็นคุณเต้มาแล้ว ค่อยหายห่วง

เป็นไงบ้างคะ นู๋กุมารทอง...

:b16: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2013, 17:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่อง น้องก๊อต ยังไม่รู้เรื่องเรย ...
เด๋วขอไปเสริชหาดูก่อน... :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2013, 20:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


น้องก๊อตเค้าสุดจะHOT คุณเอก่อนไม่รู้เรื่องเลยเหรอค๊าาาาาา :b32:
ดูรายการนั่งเคลีย ที่เอาน้องเค้ามาออกรายการขำมากๆเลยค่ะ
จริงๆแล้วเมืองไทย เรามีเรื่องที่คลายเครียดดีน่ะค่ะ คนไทยเป็นคนที่กล้าแสดงออก
มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่เก็บกดอะไร

ถ้าคนมาเลย์หรือสิงคโปร์ ไม่ได้ค่ะ เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบ
คิดดูแค่ง่ายๆน่ะ กฎของผู้หญิงจีนที่นี่
คือ ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว คุยเล่นกับผู้ชายคนอื่นไม่ได้ค่ะ
เราไม่เคยเห็นผู้หญิงที่นี่ คุยกับผู้ชายคนอื่น
ที่ไม่ใช่สามีของตัวเองเลยค่ะ :b1: :b41: :b55: :b49:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2013, 22:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


เราเพิ่งจะสบายใจเรื่องหนูกุมารทองไปได้ไม่กี่วัน พอวันนี้ มีเรื่องใหม่มาอีกแล้วค่ะ
เรื่องหมาค่ะ ไม่ใช่พวกหมาที่เราเอาอาหารไปให้เค้ากินหรอกน่ะ
หมาตัวนีน่าสงสารมากๆเลยค่ะ ชนิดที่ว่าคนในหมู่บ้านที่เราอยู่
ส่วนใหญ่ ต้องบอกว่ามันน่าสงสารมาก ๆ ๆ ๆ



เรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะ บ้านที่เค้าเลี้ยงหมาตัวนี้ เป็นบ้านที่เราจะต้องผ่าน
คือเห็นมันทุกวัน บางครั้งคนที่เลี้ยง พอช่วงที่ลูกเค้าปิดเทอม
เค้าจะไปเที่ยวกัน โดยไม่สนใจกับหมาว่ามันจะมีอะไรกินไม๊

สภาพของหมาตัวนี้ จะโดนล่ามที่คอ โดยเชือกสั้นๆ ถ้าฝนตกก็ตากฝน
ถ้าแดดออกก็ตากแดด บางครั้งเจ้าของไปเที่ยว3-4วัน เค้าไม่สนใจกับมันหรอกค่ะ
แต่ที่มันไม่อดตาย เพราะเราเอาของไปโยนเข้าไปให้มันกินค่ะ
ทีนี้เวลามันเห็นเราเดินผ่าน มันจะดีใจทุกครั้งค่ะ

พอดีวันนี้ เราคุยกับเจ้าของบ้านที่เลี้ยงหมา ทีนี้ก็มีคนมาเรียกเค้าที่หลังบ้าน
เค้าเดินไปที่หลังบ้าน เราก็เดินไปหาหมา แล้วหมาตัวนี้มันกระโดดกอดที่ขาเรา
แล้วเงยหน้ามองเรา เหมือนให้เราช่วยมัน เราก็เอามือลูบหัวมัน
แล้วคุยกับมัน มันกอดขาเราแน่นเลยค่ะ เราแปลกใจว่า หมามันรู้จักกอดอย่างนี้ด้วยเหรอ
เหมือนเด็กที่รู้สึกกลัวน่ะค่ะ

ทีนี้เราก็เลยนั่ง แล้วเราก็พูดกับมันว่า "หนูอดทนน่ะลูก" ทีนี้มันกอดที่คอเรา
แล้วมันก็ซบที่บ่า ที่หัวใจของเราร้องไห้เลย สงสารมันมากๆเลย
เราก็พูดกับมันว่า "หนูนึกถึงอามิโธโพน่ะลูก ให้อามิโธโพช่วยหนู
แล้วอันตี้ จะสวดมนต์ให้องค์อามิโธโพช่วยหนู อันตี้จะกลับแล้ว"

มันก็มองหน้าเรา แล้วก็กอดที่คอเราแน่นมากเลยค่ะ แล้วตัวมันสั่นเหมือนมันกลัว
แววตาของมัน เหมือนขอให้เราช่วยมัน ขนาดเราแกะมือมันออก
มันก็ยังซบอยู่เลยค่ะ เราก็บอกกับมันว่า"อันตี้จะกลับไปเอาของมาให้กินน่ะ"
มันก็เหมือนให้ช่วยมันด้วย เราก็เอาของไปให้มันกิน

แล้วเราก็ถามเจ้าของหมาว่า "เวลาคุณไม่อยู่หลายๆวัน มันกินอะไร
แล้วเชือกที่มัดมัน สั้นมากเลยน่ะ เวลามันนอนมัน ไม่ลำบากเหรอ"
คนที่เลียงมันตอบว่า "มันอดจนชินแล้ว ไม่เป็นอะไรหรอก หมามันอดได้"
เราก็ไม่กล้าบอก " เธอไม่อยู่ฉันเอาของมาให้มันกินมันถึงไม่อดตาย"
เราเล่าให้แฟนเราฟัง ไม่รู้จะช่วยมันยังไงค่ะ

เพราะที่บ้านเราก็มีหมา4ตัวแล้ว กฎหมายของมาเลย์ เค้าให้บ้านที่มีบริเวณ
เลี้ยงหมาได้ไม่เกิน2ตัว ถ้าบ้านไม่มีบริเวณเลี้ยงได้ไม่เกิน1ตัว
เราก็เลยกลัวว่า ถ้าเราเอามันมาเลี้ยงอีก ทางเทศกิจเค้าจับพวกมันไปฆ่าแน่ๆ
ที่นี่ฆ่าหมาค่ะ ตอนนี้ยังนึกไม่ออกเลยค่ะ
จะช่วยมันได้ทางไหนดี :b7: :b41: :b55: :b49:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2013, 23:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณเต้ก็ แสดงความเอ็นดูเขาเป็นปกติ...

ก็ส่งกระแสจิตไปหาเจ้าของสุนัขเรื่อย ๆ
ขอให้เขามีความ รัก เมตตา เอื้ออาทร ต่อสุนัขที่เขาเลี้ยง

มีโอกาสก็แวะไปเล่นกับเขาเรื่อย ๆ

ก่อนหน้านี้แถว ๆ บ้านเอกอนก็มีหมาคู่หนึ่ง...เฮ้อ...
เจ้าของเลี้ยงแบบปล่อย เขาก็ชอบวิ่งมาเล่นแถวบ้านเอกอน
เพราะ เอกอนจะมีขนมติดมือมาฝากเขาประจำ และก็เล่นกับเขาบ้าง
ตอนที่ตัวเมียจะจากไป เอกอนลูบหัวเขา เอกอนก็รู้สึกเหมือนว่าจะไม่ได้เจอเขาอีก
แล้วเขาก็คลอดลูกตายในวันถัดมา
เมื่อเร็ว ๆ นี้ตัวผู้ก็ได้จากไปอีกตัว
ตอนที่ลูบหัวเขา เอกอนรู้สึกเหมือนว่าจะไม่ได้เจอเขาอีก อีกแล้ว
แล้วคืนถัดมา เขาก็ถูกวางยา
ก่อนหน้านั้น แมวที่เอกอนเลี้ยงไว้
คืนหนึ่งเอกอนฝันเห็น สภาพเยินมาเรย มาหมอบอยู่ข้างหน้า
เหมือนจะมาลา เอกอนก็ลูบหัวแล้วบอกให้เขาไปอยู่กับแม่นะ
เขาก็พยักหน้า...
หลังจากนั้นก็ไม่เห็นเขาอีกเรย ได้มารู้ภายหลังว่าเขาไปถูกหมารุมกัดตาย
...
บางทีเอกอนไม่อยากจะเลี้ยงอะไร...
...
แม้แต่ กับคน...ได้แค่รู้...ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงชะตา
...


:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2013, 20:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านเรื่องหมาแล้วสงสารจังค่ะ รู้สึกว่าไม่ค่อยยุติธรรมเลย
ใจก็สงสัยว่าแล้วถ้าเกิดว่าหมาเขาตกลูกหลายๆตัวล่ะคะ
จะทำยังไงกับลูกหมาน้อยๆที่ออกมาดี จะเอาเขาไปไว้ที่
ไหน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2013, 20:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ได้หายไปไหนค่ะ ยังเข้ามาติดตามอ่านกระทู้เรื่อยๆ อาจไม่ค่อยมีเวลา
เพราะหน้าที่การงานบังคับ ช่วงนี้เลยเพลาๆมือจากการโพสต์ไปบ้าง แต่ถ้า
คิดถึงกันก็แวะเวียนมาทักทายกันได้ตลอดเวลานะคะ ถ้าว่างเมื่อไหร่จะเข้า
มาตอบค่ะ :b27:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2013, 20:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


วันนี้เข้าไปหาคำตอบจากพี่กุ๊กไก่มาค่ะ เรื่องไข่เยี่ยวม้า เลยขอนำมาฝากให้ได้อ่านกันเล่นๆค่ะ

สำนักพิมพ์สารคดี เขียน:
สันนิษฐานว่าไข่เยี่ยวม้ามีกำเนิดมาจากทางภาคใต้ของจีนแล้วแพร่ไปทางเหนือ
บางคนว่ามีกำเนิดจากบริเวณแม่น้ำยงสีจุดมุ่งหมายในการทำไข่เยี่ยวม้าก็เพื่อถนอม
อาหารเก็บเอาไว้กินนาน ๆ

ไข่ที่นำมาทำไข่เยี่ยวม้าใช้ได้ทั้งไข่ไก่ไข่เป็ด พอกด้วยส่วนผสมดังนี้คือ ใบชา
ปูนขาว เกลือป่น ขี้เถ้า โดยนำส่วนผสมทั้งหมดคลุกปนกับน้ำร้อนหรือน้ำเย็นก็
ได้ ให้เหนียวขนาดแป้งเปียก แล้วพอกไข่หนา ๗-๑๐ เซนติเมตร หลังจากนั้น
ก็นำไปคลุกแกลบ บรรจุลงภาชนะ เช่น ไห โอ่ง ถังไม้ ใช้กระดาษน้ำมันหรือ
พลาสติกปิดฝากันอากาศเข้า เก็บไว้ที่อุณหภูมิ ๒๔-๒๕ องศาเซลเซียส เปิด
ฝาทุก ๗ วันเพื่อกลับไข่ให้ไข่แดงอยู่ตรงกลางเก็บไว้นาน ๔๐-๕๐ วันก็กินได้
หรืออาจบรรจุภาชนะปิดฝาฝังดินไว้นาน ๕-๖ เดือน ไข่ที่ได้ที่แล้วสามารถเก็บ
ไว้ได้นาน ๑ ปีไข่เยี่ยวม้าที่ดี ไข่ขาวต้องเป็นสีน้ำตาลคล้ำใส

เชื่อกันว่าไข่เยี่ยวม้าเป็นอาหารบำรุงร่างกาย บำรุงโลหิตทำให้เจริญอาหาร ผู้
ผลิตบางรายอาจใส่สารตะกั่วลงไปด้วยเพื่อควบคุมความเป็นกรดด่างของไข่ สาร
ตะกั่วนี่เองที่ทำให้ไข่เยี่ยวม้าเป็นอาหารที่ไม่ปลอดภัยนัก

การทำไข่เยี่ยวม้า โปรตีนและ ฟอสโฟไลปิด (phospholipids) บางส่วนใน
ไข่จะสลายตัวทำให้เกิดแอมโมเนีย นอกจากนี้ไขมันในไข่แดง (yolk fat) ก็
ลดน้อยลงไปด้วย ได้มีการศึกษาเรื่อง การทำไข่เยี่ยวม้าว่าในกระบวนการทำไข่
เยี่ยวม้านั้น ไข่ที่ใช้ถ้ามีเชื้อ Salmonella (เป็นเชื้อโรคทำให้เกิดท้องร่วง ท้อง
เสีย) หรือเชื้อโรคจำพวก พาราไทฟอยด์อยู่ เมื่อทำเป็นไข่เยี่ยวม้าได้ที่แล้วเชื้อ
นี้จะตายไป

ถึงแม้ว่าไข่เยี่ยวม้ามีประโยชน์ในการบำรุงร่างกาย บำรุงโลหิต ก่อให้เกิดกำลัง
และเจริญอาหาร แต่ในกระบวนการผลิตไข่เยี่ยวม้าบางครั้ง ผู้ผลิตจะใส่สารประ
กอบของตะกั่วลงไป เพื่อควบคุมความเป็นกรดด่าง (pH) ให้คงที่ ซึ่งช่วยให้ไข่
ขาวแข็งตัวอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นในไข่เยี่ยวม้า จึงอาจมีสารตะกั่วในรูปของตะกั่ว
ซัลไฟด์อยู่ โดยสังเกตได้จากส่วน ของไข่ขาวจะมีสีดำมาก ลักษณะขุ่น ส่วนไข่
เยี่ยวม้าที่ไม่มีตะกั่วซัลไฟด์ ไข่ขาวจะมีสีน้ำตาลคล้ำและมีลักษณะใส ซึ่งถ้าพบ
ไข่เยี่ยวม้ามีลักษณะ ไข่ขาวขุ่นไม่ใสก็ควรจะหลีกเลี่ยงไม่รับประทาน

กล่าวง่าย ๆ คือ การที่ไข่เยี่ยวม้ามีสีดำนั้นมีผลจากการใส่สารประกอบของตะกั่ว
ลงไป เพื่อควบคุมความเป็นกรดด่าง (pH)

ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2013, 20:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


ทำไมไข่เยี่ยวม้าถึงมีสีดำ ไข่พันปี ไข่ร้อยปี


รู้มั๊ยว่า? ไข่เยี่ยวม้า ที่เราชอบกินกันอยู่ทุกวัน ที่จริงแล้วเรียกว่าอะไร? แล้วทำไมถึงมีสีดำ? และรู้กันหรือเปล่าว่า ไข่เยี่ยวม้า ภาษาอังกฤษ เขาเรียกว่าอะไร? teen.mthai จะมาเฉลยว่า ทำไมไข่เยี่ยวม้าถึงมีสีดำ ไข่พันปี ไข่ร้อยปี !

รูปภาพ


ต่างชาติเรียก ไข่เยี่ยวม้า ว่า ไข่พันปี ไข่ร้อยปี ( Century egg ) สงสัยใช่ไหมละ?ว่าทำไมเขาถึงเรียกว่า ไข่พันปี ไข่ร้อยปี บ้างก็ว่าเนื่องจากรสชาติที่อร่อยเหาะจนการรอคอย 2 เดือนระหว่างการดองไข่มันช่างยาวนานเหมือนกำลังรอคอยนานนับร้อยปีกว่าจะได้กิน บ้างก็ว่าเพราะสีสันของไข่ที่เหมือนถูกดองมาเป็นร้อยปี

รูปภาพ

ไข่เยี่ยวม้า ที่มีลวดลาย เรียกว่า ไข่ใบสน


ส่วนต้นกำเนิดของ ไข่เยี่ยวม้า นั้นเป็นปริศนามีแต่เรื่องเล่าว่า มันถือกำเนิดขึ้นในช่วงราชวงศ์หมิง มีชายคนหนึ่งไปพบไข่เป็ดในบ่อบ่มปูนขาวที่ใช้สร้างบ้านเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เมื่อเขาปอกเปลือกไข่ออกมาก็พบไข่ขาวได้กลายเป็นสีน้ำตาลโปร่งใสเหมือนวุ้น ไข่แดงกลายเป็นสีเขียวขี้ม้า แต่รสชาตินั้นอร่อยเกินบรรยาย เขาได้ทำการเติมเกลือลงไปในปูนขาวเพื่อทำให้รสชาติของไข่ที่ดองกลมกล่อมขึ้น ในบางครั้งเมื่อปอกเปลือกไข่เยี่ยวม้าออกจะพบ ลวดลายคล้ายใบสนบนผิวไข่ทำให้ในบางพื้นที่ของจีนเรียก ไข่เยี่ยวม้าว่า ไข่ใบสน โดยลวดลายใบสนที่เกิดขึ้นนี้เกิดขึ้นจากขบวนการดองพิเศษของผู้ผลิตบางราย

ไข่ที่นำมาทำไข่เยี่ยวม้าใช้ได้ทั้งไข่ไก่ไข่เป็ด พอกด้วยส่วนผสมดังนี้คือ ใบชา ปูนขาว เกลือป่น ขี้เถ้า การทำ ไข่เยี่ยวม้า โปรตีน และ ฟอสโฟไลปิด (phospholipids) บางส่วนในไข่จะสลายตัว ทำให้เกิดแอมโมเนีย นอกจากนี้ไขมันในไข่แดง (yolk fat) ก็ลดน้อยลงไปด้วย

ซึ่งถ้าในกระบวนการทำ ไข่เยี่ยวม้า นั้น ไข่ที่ใช้ถ้ามีเชื้อ Salmonella (เป็นเชื้อโรคทำให้เกิดท้องร่วง ท้องเสีย) หรือเชื้อโรคจำพวก พารไทฟอยด์อยู่ เมื่อทำเป็น ไข่เยี่ยวม้า ได้ที่แล้วเชื้อนี้จะตายไป (ว้าวเจ๋งอะ)

ถึงแม้ว่า ไข่เยี่ยวม้า มีประโยชน์ในการบำรุงร่างกาย บำรุงโลหิต ก่อให้เกิดกำลังและเจริญอาหาร แต่ในกระบวนการผลิตไข่เยี่ยวม้าบางครั้ง ผู้ผลิตจะใส่ สารประกอบของตะกั่วลงไป เพื่อควบคุมความเป็นกรดด่าง (pH) ให้คงที่ ซึ่งช่วยให้ไข่ขาวแข็งตัวอย่างสม่ำเสมอ

ดังนั้นใน ไข่เยี่ยวม้า จึงอาจมีสารตะกั่วในรูปของตะกั่วซัลไฟด์อยู่ โดยสังเกตได้จากส่วน ของไข่ขาวจะมีสีดำมาก ลักษณะขุ่น ส่วน ไข่เยี่ยวม้า ที่ไม่มีตะกั่วซัลไฟด์ ไข่ขาวจะมีสีน้ำตาลคล้ำและมีลักษณะใส

สรุป ไข่เยี่ยวม้า ที่กินได้ และ ปลอดภัย
•ไข่เยี่ยวม้า มีลักษณะ ไข่ขาวขุ่นไม่ใส ก็ควรจะหลีกเลี่ยงไม่รับประทาน (กินไม่ได้ ไม่ควรกิน)
•ไข่เยี่ยวม้า มีลักษณะ ไข่ขาวมีสีน้ำตาลคล้ำและมีลักษณะใส กินได้


สรุปการที่ ไข่เยี่ยวม้า มีสีดำ เกิดจาก การใส่สารประกอบของตะกั่ว เพื่อควบคุมความเป็นกรดด่าง (pH) นั่นเองจ้า

ขอบคุณข้อมูลจาก teen.mthai.com ด้วยจ้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2013, 20:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


สูตรการทำไข่เยี่ยวม้า

รูปภาพ


ส่วนผสม

1.ไข่เป็ด 30 ฟอง
2.เกลือแกง 800 กรัม
3.ปูนขาว 750 กรัม
4.น้ำ 5 ลิตร
5.ใบชา(ดำ) 80 กรัม
6.โซดาแอช หรือโซเดียมคาร์บอเนต 300 กรัม
7.สังกะสีออกไซต์

วิธีทำ

•นำไข่เป็ดดิบที่สดและใหม่ เลือกให้มีขนาดเท่าๆ กัน อย่าล้างน้ำให้เอาผ้าแ้ห้งหรือแปรงเช็ดหรือปัดเอาสิ่งสกปรกออก

•ต้มน้ำใบชา และนำเกลือแกง กับ โซดาแอชพร้อมทั่งปูนขาว ลงไปต้มร่วมกันในภาชนะเคลือบให้เดือด คนให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้ให้เย็น แล้วแยกตะกอนออกทิ้ง และเติมสังกะสีออกไซด์ 500 มิลลิกรัม/ 1 ส่วนลิตร

•เรียงไข่ที่เตรียมไว้ลงในถังพลาสติก ใช้ไม้ไผ่สานขัดแตะปิดไว้เหนือไข่ เพื่อป้องกันไม่ให้ไข่ลอย

•เทส่วนผสมที่เตรียมไว้ ลงในถังให้ท่วมไข่ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 - 30 วัน

•แล้วเมื่อครบกำหนด ก็นำไข่เยี่ยวม้าที่ได้ไปล้างน้ำ ปล่อยทิ้งไว้จนแห้ง แล้วเคลือบเปลือกไข่ด้วยดินขาว ผสมกับแป้งเปียก ในอัตราส่วน 5/1

สำหรับผู้ที่ต้องการทำเป็นอาชีพเรามีเกร็ดเล็กๆน้อยๆมาฝากกันค่ะ

รูปภาพ
รูปภาพ


***เงินลงทุน***

•เป็นค่าอุปกรณ์ประมาณ 1,000 บาท ไข่เป็ดประมาณ 3 บาท/ฟอง (เงินลงทุนสำหรับไข่ และส่วนผสมต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับไข่ที่จะซื้อ)

•รายได้ ประมาณ 4-5 บาท/ฟอง

•ตลาด/แหล่งจำหน่าย ตลาดทั่วไป หรือติดต่อขายส่งพ่อค้า-แม่ค้า หรือร้านขายอาหาร

ข้อแนะนำ
1.ต้องเลือกไข่เป็ดที่ใหม่ สด และไม่มีตำหนิมาทำ เพื่อจะได้ไข่เยี่ยวม้าที่มีคุณภาพดี ไม่เสีย
2.ภาชนะที่ใช้แช่ไข่ อาจใช้ภาชนะเคลือบก็ได้ แต่ต้องสะอาดและปลอดภัย

-เพียงเท่านี้เราก็จะได้ ไข่เยี่ยวม้าอร่อยๆ ทานกันแล้ว ถ้าเพื่อนๆ ไม่รู้จะไปซื้อ โซดาแอชหรือสังกะสีออกไซด์ ที่ไหน เพื่อนๆ รองถามที่ร้านขายเครื่องทำขนมดูก็ได้ เขาจะมีขายอยู่นะ เพราะ workdeena ก็เคยไปซื้อเหมือนกัน ที่ร้านขายเครื่องทำขนมเขาจะมีทุกอย่างที่เราต้องการ

ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณworkdeena tongue http://workdeena.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2013, 20:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


แหมที่แรกก็นึกว่าเอาไข่ไปแช่ในเยี่ยวม้าซะอีก smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2013, 18:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ไข่เยี่ยวม้าก็เป็นเมนูโปรดคุณน้องนะ ชอบไข่เยี่ยวม้าผัดใบกระเพรา มีครั้งนึงเคยทำยำไข่เยี่ยวม้าให้แฟนกิน แต่ว่ากำลังงอนเรื่องไรนี่แหละแล้วเราต้องทำกับข้าวให้มันกิน เลยแกล้งแม่มเลย555+
คุณน้องก็เอามาคลุกเคล้าให้มันเข้ากันทำให้เละ แล้วก็ราดน้ำยำแล้วก็คลุกๆๆๆๆ555555+ หน้าตาดูไม่ได้เลย คือเห็นแล้ว.. wink ไม่กล้ากิน :b14: แล้วพอมันเห็นหน้าตาของยำไข่เยี่ยวม้า มันก็ถามว่านี่อะไรทำไมมันเหมือนขี้แบบนี้ 555+ คุณน้องก็ทำหน้าบึ้งใส่มันแล้วบอกว่า จะกินไม่กิน ไม่กินก็ตามใจ ไม่มีใครบังคับนะ แต่เชื่อป่ะมันลองเอาช้อนเตะๆชิมดู ..แล้วมันก็กินต่อแล้วมันก็กินหมดเลย555+เวรกรรมมีการบอกว่าน่าตาไม่ค่อยน่าากินแต่รสชาติดีว่ะ555+
มีครั้งนึง แฟนมันหิวข้าวและบังคับให้คุณน้องทำให้กิน แล้วใช้กระทะไฟฟ้าแต่กระทะไฟฟ้าสายไฟมันชำรุดไง
แล้วคุณน้องโดนไฟดูด คุณน้องก็บอกว่าไฟดูดไม่ทำแล้ว ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูดิ :b24: มันก็โกรธคุณน้องแล้วมันก็ด่าๆ..แล้วมันก้อไปทำเอง แต่มันกลัวมันเลยใช้ผ้ารองไว้ตอนเสียบปลัีก ปรากฏว่าสายไฟระเบิดใส่มือมัน 555+คุณน้องก็นึกสมน้ำหน้าในใจเหมือนกัน :b32: :b32:
ปล.แฟนคนนี้คือคนที่เป็นตำรวจแหละ คู่กรรมคู่เวร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2013, 19:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
หายเงียบไปหมดเลย คุณหญิงไทย คุณน้องคอง คุณเอกอน
คุณน้องคองไปอยู่ที่ภูเก็ตแล้วเหรอค่ะ เป็นไงบ้างสนุกมั๊ย
เล่าให้พี่ๆฟังบ้างสิ

ตอนนี้รู้สึกดีใจ กับน้องก๊อตที่เป็น ยาม มช.น่ะค่ะ
ชีวิตของคนเรานี่ พอจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนแบบไม่ตั้งตัวเลยน่ะ
นี่หล่ะค่ะชีวิต อย่าประมาทกับชีวิต

บางคนเปลี่ยน ได้รับสิ่งที่ดีขึ้น บางคนเปลี่ยน ตื่นเช้าขึ้นมาอาจจะไม่มีอะไรเลย
ถ้าจะใช้คำว่าแปลกคงไม่ใช่ ไม่รู้เรียกว่าอะไร
สำหรับน้องก๊อต คงจะบุญเก่าส่งผลน่ะ :b41: :b55: :b49:


เรื่องน้องก๊อตนี่หญิงว่าน้องเขาก็หน้าตาดีนะคะ แต่ฟังจากรายการอาจารย์ยิ่ง
แล้วขอบอกว่าน้องไม่เหมาะกับวงการบันเทิงหรอกค่ะ สังเกตจากลักษณะการ
พูดการจา น้องไม่ค่อยมีสติ ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้ จะติดขำติดหัวเราะ
ตลอดเลย ช่วงที่พิธีกรคุยเป็นการเป็นงานน้องก็ยังหัวเราะตลอด ท่าทางของน้อง
ก็ดูซื่อๆ แต่บางครั้งหญิงสังเกตว่าน้องพยายามจะโกหกแต่ก็โกหกไม่เนียน
อาจเป็นเพราะตื่นเต้นมากไปมั้ง เรื่องที่น้องโกหกหญิงไม่ใสใจหรอกค่ะ เพราะ
วงการนี้ก็โกหก มายา สร้างเรื่องได้ทุกวี่วันจนชินแล้ว แต่ต้องโกหกเนียนๆหน่อย
หญิงเป็นห่วงว่าหากน้องจะเข้าวงการนี้เกรงว่าจะไปได้ไม่เท่าไหร่แล้วร่วงลงมา
ถ้าดีหน่อยก็เจ็บเบาะถ้าโชคร้ายก็เจ็บหนักเหมือนดาราจอมลวงโลกคนนึงน่ะสิ่คะ
แต่ก็ขอให้น้องโชคดีแล้วกันนะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 78 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร