วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 12:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 39 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2013, 15:38 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
govit2552 เขียน:
เป็นอริยะต้องเข้าใจทำให้ถึง.....วิเวก


เล่นนิมนต์ทุกวัน ใครจะวิเวกไหว

ท่านคงอาจต้องการเวลา เป็นส่วนตัวบ้าง

ตอบแบบนี้มันใช่เหตุผลหรือเปล่า วิเวกเกิดที่กายใจตนเอง
เมื่อทำไม่ได้ ก็อย่าโทษอะไรตะพึดตะพือ

พระก็ไม่ได้บอกว่าท่านเป็นอริยสงฆ์ มันก็พวกปุถุชนที่ชอบตรัสรู้แทนคนอื่นทั้งนั้น
ถ้าฆราวาสไม่ไปวุ่นวายกับท่าน ไม่ต้องอยากให้ท่านเป็นนู้นเป็นนี้ ท่านจะสึกหรือท่านจะเป็นอริยะ
มันก็เป็นเรื่องของท่านทั้งนั้น

แต่แทนที่จะเป็นเรื่องของพระท่าน มันไม่เป็นอย่างนั้นเพราะการที่ เอาเรื่องที่ท่านสึก
มาโพส โพสไม่โพสเปล่าดันพูดทำนองข่มขู่ว่า ห้ามวิจารณ์เพราะท่านเป็นอริยะ


แบบนี้มันเรียกแขกชัดๆ


ที่ผ่านมา ท่านชื่อว่าเป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตรง
ไม่มีเรื่องเสียหายด่างพร้อยใดๆ ตลอดเวลาที่อยู่ในสมณเพศกว่า 38 พรรษา
คำสอนของท่านเรียบง่าย ลึกซึ้ง ถึงแก่นธรรม นำมาปฏิบัติได้ผลจริง
ตามแบบหลวงพ่อชา อาจารย์ของท่าน
หากจะมีลูกศิษย์ลูกหา-ชาวพุทธคาดเดาว่า ท่านน่าจะสำเร็จขั้นใดขั้นหนึ่งแล้ว
ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลก หรือเป็นเรื่องเหลือวิสัย แต่อย่างใด
อีกทั้งท่านก็สร้างประโยชน์มากมายให้กับพระศาสนาและคนไทย ฯลฯ
ยากที่หาได้จากพระสงฆ์รูปอื่นๆ ในยุคปัจจุบันนี้
ต้องนับว่าท่านมีบารมีธรรมมาก เป็นทั้งนักเผยแผ่ธรรม เป็นทั้งนักปฏิบัติ
ซึ่งก็เป็นธรรมดาว่า มารไม่มี บารมีไม่เกิด มารไม่มี บารมีไม่แก่

ดังนั้น ด้วยเหตุการลาสิกขาของท่าน เราจึงควรสำรวมระวังในความคิด
วาจา และการกระทำ ที่จะไปวิพากษ์วิจารณ์ท่านในทางอกุศล
แต่เราควรเคารพการตัดสินใจของท่านว่าต้องผ่านการพิจารณามาดีแล้ว
โดยไม่ยึดมั่นถือมั่น แล้วปล่อยวาง อยู่กับปัจจุบันขณะคะ

จาก อรรถกถา กุททาลชาดก ที่มีผู้ยกมา ก็แสดงให้เห็นชัดว่า
“พระโพธิ์สัตว์” เมื่อครั้งเสวยพระชาติเป็น “กุททาลบัณฑิต”
ก็เคยบวชแล้วสึกถึง 6 ครั้งเหมือนกัน แต่เชื้อแห่งความดีไม่เคยเสื่อมถอยไป

ฉะนั้น ไม่มีใครเค้าไปพูดทำนองข่มขู่ว่า ห้ามวิจารณ์เพราะท่านเป็นอริยะ
อย่างที่คุณโฮฮับ เข้าใจแต่อย่างใดเลย
เพียงแต่เค้าประสงค์ไม่อยากให้เราชาวพุทธไปคิดในทางอกุศลแก่ท่านอาจารย์
ด้วยทราบดีว่าข้อวัตรปฏิบัติของท่านแต่ก่อนที่ผ่านมา เป็นอย่างไรคะ

และที่สำคัญท่านเป็นฆราวาส ท่านก็สามารถดำเนินตามโลกุตรมรรคปฏิบัติได้คะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2013, 21:10 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


มีเพื่อนคนใดมองเห็นว่าเป็นเรื่องของกรรมไหมคะ
กรรมของแต่ละท่านไม่เหมือนกันคะ


1. พระอริยคุณาธาร (เส็ง ปุสโส ป.ธ.6) วัดเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น
พระกรรมฐานชั้นผู้ใหญ่ ท่านเป็นลูกศิษย์โดยตรงของหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล
และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ฯลฯ ท่านอยู่รุ่นเดียวกับครูบาอาจารย์หลายองค์
เช่น หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม และท่านพ่อลี ธัมมธโร
รวมทั้ง เป็นอาจารย์องค์สำคัญของหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ในสมัยฝึกกรรมฐานใหม่ๆ
และเป็นอาจารย์ของพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ วัดภูทอก ด้วย
ท่านเป็นผู้เรียบเรียงหนังสือ ทิพยอำนาจ อันโด่งดังและเป็นที่ยอมรับ
องค์นี้ก็ลาสิกขาตอนแก่ พอสึกแล้ว ไม่ได้กลับมาบวชใหม่
แต่ไปบวชเป็นฤาษี นามว่่า ฤาษีสันตจิต เป็นที่โด่งดังมาก

หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม แห่งวัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี
ก็เคยเดินทางไปเรียนวิชาทิพย์อำนาจหลายอย่างจากพระอริยคุณาธาร
หลวงพ่อจรัญท่านบอกว่า องค์นี้เก่งกล้า สามารถแยกจิตและวิญญาณออกจากกัน
ไปปรากฏกายสอนในที่ต่างๆ กันในเวลาเดียวกันได้อย่างอัศจรรย์

แต่ท้ายที่สุดพระอริยคุณาธาร ท่านก็ละสังขารในเพศฆราวาส

ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่ากรณีของพระอริยคุณาธาร เป็นเรื่องของกรรม

2. หลวงตาทองคำ ญาโณภาโส
ท่านเคยอยู่จำำพรรษาร่วมกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ที่วัดป่าบ้านหนองผือ จ.สกลนคร
องค์นี้ก็ลาสิกาขาภายหลังหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ละสังขารไปแล้ว
แต่ก็กลับมาบวชใหม่ตอนแก่ มีนามว่า หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ
และในที่สุดท่านก็ละสังขารในสมณเพศ

ฯลฯ

และที่สำคัญที่สุด ฆราวาสก็สามารถดำเนินตามโลกุตรมรรคปฏิบัติได้คะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2013, 02:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่มีคำถามแบบนี้มาเพราะยึดในตัวบุคคลไม่ได้ยึดในตัวธรรม ตอบง่ายๆ ท่านไม่ใช่อรหันต์

ของแบบนี้มันไม่เที่ยง เพราะผู้ที่มีศรัทธาอันมั่นคงคือพระโสดาบัน ส่วนผู้ที่ไม่มีทางเสื่อมเลยคือพระอรหันต์ ไม่ต้องไปเทียบกับคนอื่นหรอก เทียบไปแล้วใช่ว่าขาเราจะพ้นนรกเพราะการเทียบเสียเมื่อไหร่ รังแต่จะเพิ่มมานะในใจให้เราตกต่ำเสียเปล่าๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2013, 05:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


sirinpho เขียน:
โฮฮับ เขียน:
แต่แทนที่จะเป็นเรื่องของพระท่าน มันไม่เป็นอย่างนั้นเพราะการที่ เอาเรื่องที่ท่านสึก
มาโพส โพสไม่โพสเปล่าดันพูดทำนองข่มขู่ว่า ห้ามวิจารณ์เพราะท่านเป็นอริยะ


แบบนี้มันเรียกแขกชัดๆ


ที่ผ่านมา ท่านชื่อว่าเป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตรง
ไม่มีเรื่องเสียหายด่างพร้อยใดๆ ตลอดเวลาที่อยู่ในสมณเพศกว่า 38 พรรษา
คำสอนของท่านเรียบง่าย ลึกซึ้ง ถึงแก่นธรรม นำมาปฏิบัติได้ผลจริง
ตามแบบหลวงพ่อชา อาจารย์ของท่าน

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า ความเห็นของผม
ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวบุคคล ที่ผมวิพากวิจารณ์เป็นเรื่องของความเห็นส่วนตัวที่มีต่อพระธรรม
ใครที่จะเข้ามาดูแลความประพฤติของผม กรุณาเจียดเวลาอ่านข้อความผมอย่างมีสติเสียก่อน :b13:


ที่เจ้าของความเห็นบอกว่า ท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตรง ที่พูดมานี้
ใครเป็นผู้ปฏิบัติครับ มันต้องเป็นผู้ปฏิบัติเป็นผู้รู้ ไม่ใช่ให้คนอื่นมารู้แทน
คนที่ไปเที่ยวรู้ผลการปฏิบัติของคนอื่น นั้นเขาเรียกว่า กำลังหลงไม่มองที่กายใจตนเอง
เที่ยวส่งจิตออกนอกจนเกิดราคะ เข้าใจมั้ยครับ

และที่บอกคำสอนของท่านเรียบง่าย ผมถามครับมันเรียบง่ายไม่สำคัญ
ความสำคัญมันอยู่ที่ คุณปฏิบัติหรือยัง หรือปฏิบัติแล้ว
ถ้าปฏิบัติแล้ว คุณยังมีอาการแบบนี้ผมว่า มันต้องมีอะไรไม่ถูกต้องกับสิ่งที่คุณพูดนะครับ
sirinpho เขียน:
หากจะมีลูกศิษย์ลูกหา-ชาวพุทธคาดเดาว่า ท่านน่าจะสำเร็จขั้นใดขั้นหนึ่งแล้ว
ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลก หรือเป็นเรื่องเหลือวิสัย แต่อย่างใด

แปลกซิครับทำไมไม่แปลก เป็นลูกศิษย์แต่ดันไปรู้ปัญญาของอาจารย์
ความเป็นปัจจัตตัง จะแสดงอาการสู่รู้แบบทางโลกไม่ได้น่ะครับ มันต้องมีเหมือนกัน
หรือมากกว่า ถึงจะรู้ได้ เข้าใจมั้ยครับ
sirinpho เขียน:
อีกทั้งท่านก็สร้างประโยชน์มากมายให้กับพระศาสนาและคนไทย ฯลฯ
ยากที่หาได้จากพระสงฆ์รูปอื่นๆ ในยุคปัจจุบันนี้
ต้องนับว่าท่านมีบารมีธรรมมาก เป็นทั้งนักเผยแผ่ธรรม เป็นทั้งนักปฏิบัติ
ซึ่งก็เป็นธรรมดาว่า มารไม่มี บารมีไม่เกิด มารไม่มี บารมีไม่แก่

นั้นน่ะซิครับ มารไม่มีบารมีไม่เกิด มารไม่มีบารมีไม่แก่
รู้อย่างนี้จะมาตั้งกระทู้ จะมาแสดงความเห็นข่มขู่ชาวบ้านทำไมครับ
ใครจะสึก ใครจะบวชมันก็เป็นเรื่องของเขา นิพพานอยากไปต้องทำเอง
จะอาศัยเกาะชายผ้าเหลืองตามแบบความคิดชาวบ้านไม่ได้นะครับ

พูดถึงมาร พูดถึงบารมี คุณพอจะอธิบายได้มั้ยว่า พระที่บวชมาหลายสิบปี
แต่ต้องมาสึกมาละจากเพศพรหมจรรย์ เพราะเป็นบารมีของท่านหรือเปล่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2013, 05:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


sirinpho เขียน:
ดังนั้น ด้วยเหตุการลาสิกขาของท่าน เราจึงควรสำรวมระวังในความคิด
วาจา และการกระทำ ที่จะไปวิพากษ์วิจารณ์ท่านในทางอกุศล
แต่เราควรเคารพการตัดสินใจของท่านว่าต้องผ่านการพิจารณามาดีแล้ว
โดยไม่ยึดมั่นถือมั่น แล้วปล่อยวาง อยู่กับปัจจุบันขณะคะ

ก็นั้นแหล่ะแล้วจะมาตั้งกระทู้หรือแสดงความเห็นข่มขู่ชาวบ้านเขาทำไม
มันต้องเราเองที่ต้องสำรวมความคิด เมื่อเรายังทำไม่ได้แต่มาเที่ยวบังคับคนอื่นให้สำรวมความคิด
ผมถึงได้บอกว่า กระทู้อย่างนี้และยิ่งความเห็นที่ข่มขู่ชาวบ้าน มันเป็นกระทู้เรียกแขก
คนที่เข้าเขามาแสดงความเห็นบางคน เขาไม่ต้องการไปยุ่งกับตัวบุคคลหรอก
ใครจะบวชใครจะสึกเป็นเรื่องของเขา แต่ที่ต้องเข้ามา ก็เพราะเที่ยวไปข่มขู่ชาวบ้าน
แบบนี้คนที่เขาพอมีความรู้ทนไม่ได้หรอกครับ
เล่นเอาธรรมะของพระพุทธเจ้า กลายเป็นลัทธิวูดูแบบนี้

sirinpho เขียน:
จาก อรรถกถา กุททาลชาดก ที่มีผู้ยกมา ก็แสดงให้เห็นชัดว่า
“พระโพธิ์สัตว์” เมื่อครั้งเสวยพระชาติเป็น “กุททาลบัณฑิต”
ก็เคยบวชแล้วสึกถึง 6 ครั้งเหมือนกัน แต่เชื้อแห่งความดีไม่เคยเสื่อมถอยไป

ฉะนั้น ไม่มีใครเค้าไปพูดทำนองข่มขู่ว่า ห้ามวิจารณ์เพราะท่านเป็นอริยะ
อย่างที่คุณโฮฮับ เข้าใจแต่อย่างใดเลย
เพียงแต่เค้าประสงค์ไม่อยากให้เราชาวพุทธไปคิดในทางอกุศลแก่ท่านอาจารย์
ด้วยทราบดีว่าข้อวัตรปฏิบัติของท่านแต่ก่อนที่ผ่านมา เป็นอย่างไรคะ
และที่สำคัญท่านเป็นฆราวาส ท่านก็สามารถดำเนินตามโลกุตรมรรคปฏิบัติได้คะ]

ถ้าบอกว่า ไม่เกี่ยวกับอริยะ แล้วเอาเรื่องพระอริยะมาอ้างอิงในความเห็นทำไมครับ
คุณอยากให้ชาวพุทธคิดในทางที่เป็นกุศลตามที่คุณบอก ผมอยากทราบครับ
ก่อนที่คุณจะคิดว่าคนอื่นจะเป็นอกุศล ใจในขณะนั้นมันเป็นอย่างไรครับ กลับการที่คุณคิดว่า
คนอื่นเขาจะคิดอกุศลกับพระ
คุณลองดูใจคุณซิว่า คุณคิดอกุศลกับคนอื่นหรือเปล่า
ไม่ต้องโกรธนะครับ ผมแค่สอนวิธีการดูจิตแบบง่ายๆให้รู้


แล้วที่ไปยกอรรถกถา กุททาชาดกมา ถามหน่อยครับ ตอนนั้นมีพระพุทธเจ้าหรือยัง
มีพระธรรมหรือยัง เอากุททาลบัณฑิตมาอ้าง ถ้าชาวบ้านเขาเอา พระเทวทัตมาอ้างบ้างล่ะครับ
ในชาดก อีกหน่อยพระเทวทัตก็จะได้เป็นพระพุทธเจ้าเหมือนกันนะครับ
จะยกจะอ้างอะไรกรุณามีสติหน่อยซิครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2013, 05:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


sirinpho เขียน:
และที่สำคัญที่สุด ฆราวาสก็สามารถดำเนินตามโลกุตรมรรคปฏิบัติได้คะ

อยากแนะนำเพื่อเป็นความรู้ เอาแค่เรื่องที่เป็นธรรมะจริงๆ เรื่องอิทธิฤทธิปาฏิหารที่คุณกล่าวถึง
ผมไม่ขอยุ่งเกี่ยว ที่ไม่ยุ่งไม่ใช่เพราะกลัว แต่เห็นว่ามันเป็นมิจฉาที่แก้ยาก ต้องเลยตามเลย

ชาวพุทธที่เป็นพุทธแท้นั้น การแสดงออกให้รู้ได้ด้วยการปฏิบัติตามคำสอน
การปฏิบัติอาจจะผิดบ้างถูกบ้างมันไม่เป็นปัญหา แต่สิ่งที่เราจะให้ผิดไม่ได้
นั้นก็คือ การปฏิบัติในเรื่อง สีล หรือที่ชาวบ้านเขาเรียกว่า ศีล

การปฏิบัติในเรื่องของสีลหรือศีล จะต้องหมั่นเจริญเพื่อให้สีลสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
การปฏิบัติเช่นนี้จึงจะเรียกว่า การปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของชาวพุทธ

แล้วอะไรคือสีลที่พวกเราชาวพุทธต้องปฏิบัติ นั้นก็คือ ศีลพรหมจรรย์
ศีลพรหมจรรย์เมื่อปฏิบัติแล้ว ต้องหมั่นทำให้เจริญยิ่งขึ้น
ถ้าาผู้ใดปฏิบัติในเรื่องศีลพรหมจรรย์แล้วกลับตกต่ำไปกว่าเดิม
เขาไม่เรียกบุคคลนั้นว่า ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เข้าใจมั้ย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2013, 07:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มิ.ย. 2007, 13:49
โพสต์: 1012


 ข้อมูลส่วนตัว


:b2: :b2: :b2: ทราบจากแหล่งข่าววงใน ที่เชื่อถือได้ว่า
ก่อนลาสิกขา ท่านอาจารย์มิตซูโอะ ถูกพาตัวไปในที่ลับของเมืองทองธานี
ประมาณเวลา 10.00 น. เศษ หลังบรรยายธรรมอบรมให้แก่ทนายใหม่
ซึ่งสภาทนายความได้นิมนต์ไว้ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 56 ที่เมืองทองธานี

ประมาณว่า หากท่านไม่สึก แล้วออกนอกประเทศไป
จะทำร้ายคนใกล้ตัวท่านให้เสียชีวิต
เช่น เบาะๆ อันแรกก็จะวางระเบิดที่วัดสุนันทวนาราม เป็นต้น
เข้าใจว่าท่านคงถูกข่มขู่มานานพอสมควรแล้วคะ

นี่คือสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ท่านต้องลาสิกขา :b5: :b7: :b14:

เล่าสู่กันฟัง ขอลูกศิษย์ลูกหาสืบหาความจริงกันด้วย

.....................................................
ทำความดีทุกๆ วัน


แก้ไขล่าสุดโดย ดาราวรรณ เมื่อ 13 มิ.ย. 2013, 09:07, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2013, 08:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มิ.ย. 2007, 13:49
โพสต์: 1012


 ข้อมูลส่วนตัว


สาวิกาน้อย เขียน:
:b1: ขออนุญาตพูดถึงทางด้านโหราศาสตร์บ้างนะค่ะ

อ.มิ้มเฒ่า โหราศาสตร์โบราณ
แห่ง https://www.facebook.com/profile.php?id=100001236041531

บอกว่า ตอนนี้ดวงเมือง ดาวพฤหัสบดี (๕) โคจรเล็งปะทะดาวพฤหัสบดีดวงเมือง (จีนเรียกว่าชง ๑๐๐%) ย่อมมีผลทำให้พระอริยสงฆ์มรณภาพ หรือ “จากเป็น” เช่น พระอาจารย์มิตซูโอะ ลาสิกขาได้

หมายเหตุ : ดาวพฤหัสบดีโดยทั่วไป หมายถึง ครู พระสงฆ์ ศาสนา กฏหมาย ต่างประเทศ

---------------------------------------------

ตอนปลายปีที่แล้ว ๒๕๕๕ ได้อ่านคำทำนายจากหมอดูหลายๆ ท่าน จำได้ขึ้นใจเลยค่ะว่า สิ่งที่หมอดูทุกท่านพูดตรงกันเรื่องหนึ่ง ก็คือ ภายในปี ๒๕๕๖ จะมีพระอริยสงฆ์หรือผู้นำทางจิตวิญญาณของประเทศไทย (องค์สำคัญมากๆ) ถึงกาลละสังขารค่ะ ตอนนั้นไม่ได้นึกถึงกรณีการ “จากเป็น” เลยค่ะ

ลูกขอน้อมกราบระลึกถึงคุโณปการที่ท่านอาจารย์มิตซูโอะ
มีต่อพระพุทธศาสนา คนไทย และมวลมนุษยชาติ
ทั้งในอดีตกาลและที่จะมีสืบต่อไปอีกในอนาคตกาลเจ้าค่ะ

---------------------------------------------

:b8: เราคนไทยทุกคนมาร่วมแรงร่วมใจกันสร้างกุศลกรรมให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
ปฏิบัติตามหลักไตรสิกขา ให้ทาน รักษาศีล เจริญจิตตภาวนา
แล้วแผ่เมตตาอุทิศถวายให้กับประเทศชาติบ้านเมืองของเรากันให้มากๆ ค่ะ


พึ่งอ่านเจอคะ อ๊อ นี่ล่ะกระมัง
ดวงเมือง เมื่อดาวพฤหัสบดี (๕) โคจรเล็งปะทะดาวพฤหัสบดีดวงเมือง (จีนเรียกว่าชง ๑๐๐%)

ตามหลักโหราศาสตร์บอกว่า
จะต้องมีเรื่องเสื่อมเสีย (เชิงลับๆ มีผลกระทบยาวนาน)
ต่อพระสงฆ์ วงการสงฆ์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ไ่ด้ด้วยคะ

.....................................................
ทำความดีทุกๆ วัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2013, 09:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ดาราวรรณ เขียน:
:b2: :b2: :b2: ทราบจากแหล่งข่าววงใน ที่เชื่อถือได้ว่า
ก่อนลาสิกขา ท่านอาจารย์มิตซูโอะ ถูกพาตัวไปในที่ลับของเมืองทองธานี
ประมาณเวลา 10.00 น. เศษ หลังบรรยายธรรมอบรมให้แก่ทนายใหม่
ซึ่งสภาทนายความได้นิมนต์ไว้ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 56 ที่เมืองทองธานี

ประมาณว่า หากท่านไม่สึก แล้วออกนอกประเทศไป
จะทำร้ายคนใกล้ตัวท่านให้เสียชีวิต
เช่น เบาะๆ อันแรกก็จะวางระเบิดที่วัดสุนันทวนาราม เป็นต้น
เข้าใจว่าท่านคงถูกข่มขู่มานานพอสมควรแล้วคะ

นี่คือสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ท่านต้องลาสิกขา :b5: :b7: :b14:

เล่าสู่กันฟัง ขอลูกศิษย์ลูกหาสืบหาความจริงกันด้วย


ไม่มีอะไรไม่เกิดแต่เหตุ.....เหตุนั่นเป็นเราทำมาเองทั่งสิ้น

ไม่ว่า..เรื่องราวจะเป็นอย่างไร.....ขอให้เพื่อน ๆ ระลึกถึง....ดึงเข้าสู่ธรรมของพระพุทธองค์ให้ได้...มิฉะนั้นเรื่องที่พูดคุยกัน

จะกลายเป็นเดรัจฉานคาถาไป....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2013, 21:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b53:
ปัจจุบันผลที่กำลังแสดงนี้ ขอให้วิเคราะห์กันดูให้ดี โดยมองเฉพาะในมุมบวก แล้วจะได้ ข้อคิด มาปรับปรุงพัฒนาวิธีการปฏิบัติธรรมและอยู่กับธรรมเฉพาะตนของใครของมัน

พระอาจารย์มิตซูโอะ ท่านได้แสดงธรรมครั้งใหญ่และสำคัญส่งท้ายให้เราทั้งหลายได้พิจารณา ...ขอให้ทุกๆท่านได้ประโยชน์จากกระทู้นี้กันนะครับ

:b8: :b8: :b37: :b37: :b38: :b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2013, 00:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แม้คนที่เราชอบจะสึกเป็นเป็นล้าน แม้ว่าคนอื่นจะกล่าวตัวบุคคล ก็ไม่ทำให้ธรรมของพระพุทธเจ้าสั่นคลอนหรือลดความดีลงได้แม้แต่นิดเลย โปรดพิจารณา ไม่ต้องมองบวกมองลบ ขอให้มองไปตรงๆ ธรรมเป็นของจริง ส่วนคนแค่มาแล้วก็ผ่านไป หากคนที่ชอบสึกแล้วศรัทธาในพระพุทธศาสนาตนลดลง ก็ขอให้พิจารณาตนดูอีกที เหมือนกับการหายใจ คนอื่นจะหายใจแทนเราก็ไม่ได้ เราก็หายใจแทนคนอื่นไม่ได้ คนอื่นเลิกหายใจ เราจะเลิกหายใจตามดีหรือเปล่าหนอ? :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2013, 00:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าเราวางใจถูกที่...จะไม่ทุกข์....ที่ทุกข์เพราะวางใจผิดที่
ถ้าเราศรัทธาถูกที่...จะไม่ทุกข์...ที่ทุกข์เพราะเราศรัทธาผิดที่

คนที่ทุกข์ใจ..กระวนกระวายใจกับเรื่องนี้....เพราะวางใจวางศรัทธาในตัวท่านผิดที่..แทนที่จะศรัทธาธรรมของท่าน...กลับศรัทธาในสถานะผ้าเหลืองของท่านซะนี้....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2013, 03:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
ปัจจุบันผลที่กำลังแสดงนี้ ขอให้วิเคราะห์กันดูให้ดี โดยมองเฉพาะในมุมบวก แล้วจะได้ ข้อคิด มาปรับปรุงพัฒนาวิธีการปฏิบัติธรรมและอยู่กับธรรมเฉพาะตนของใครของมัน

มองธรรมต้องมองทั้งสองมุมมันจึงจะเป็นวิชชา อยากจะมองอะไรให้เป็นมุมบวก เราต้องรู้มุมลบด้วย
ผมจะขอกล่าวถึงมุมลบให้ฟังครับ

ตอนเป็นพระทำไมเที่ยวปล่าวประกาศให้ชาวบ้านรู้ได้
ทีตอนจะสึกกลับไม่บอกไม่กล่าว แบบนี้หรือเป็นผู้รู้ธรรมของพระพุทธเจ้า
ทำอะไรกลับข้างย้อนศร ......การเป็นพระ จะก่อนบวชหรือเป็นพระแล้ว
ไม่ต้องเที่ยวโฆษณาให้ชาวบ้านรู้หรอกครับ แต่ถ้าเราทำไม่ได้ตอนสึกเราต้อง
บอกกล่าวชาวบ้านด้วย ไม่ใช่แอบไปเงียบๆแบบนี้มันสร้างปัญหาให้ญาติโยม


ทำแบบนี้ไม่คิดถึงลูกศิษย์ลูกหาตั้งมากมายที่ยังหลง ดูความเห็นแต่ละคนซิ
อีกหน่อยใครนึกจะมาบวช นึกจะตั้งตนเป็นครูบาอาจารย์สอนธรรม ก็ทำกันง่ายๆ
ยิ่งไปกว่านั้นอยากสึกก็สึก ไม่ต้องบอกกล่าวใคร

ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่มีการยูเทินกลับ ไม่มีย้อนศร
ธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นทางตรงไปแล้วไม่ย้อนกลับครับ
คนที่รู้และปฏิบัติอย่างนี้ได้ จึงจะเอาสถานะของพระสงฆ์ไปสอนคนได้

asoka เขียน:
พระอาจารย์มิตซูโอะ ท่านได้แสดงธรรมครั้งใหญ่และสำคัญส่งท้ายให้เราทั้งหลายได้พิจารณา ...ขอให้ทุกๆท่านได้ประโยชน์จากกระทู้นี้กันนะครับ

ท่านแสดงอะไรตรงไหนครับ ท่านแอบสึกเงียบๆไม่บอกกล่าว(เรื่องของท่าน)
คนที่กำลังแสดงธรรมเป็นพวกลูกศิษย์ทั้งนั้นครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2013, 03:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ถ้าเราวางใจถูกที่...จะไม่ทุกข์....ที่ทุกข์เพราะวางใจผิดที่
ถ้าเราศรัทธาถูกที่...จะไม่ทุกข์...ที่ทุกข์เพราะเราศรัทธาผิดที่

คนที่ทุกข์ใจ..กระวนกระวายใจกับเรื่องนี้....เพราะวางใจวางศรัทธาในตัวท่านผิดที่..แทนที่จะศรัทธาธรรมของท่าน...กลับศรัทธาในสถานะผ้าเหลืองของท่านซะนี้....

กะลาพูดเป็นเครื่องตอบรับอัตโนมัติเลยน่ะ สมองเหมือนถูกเมมเมอรี่ไว้
ถ้าใครพูดผิดจากที่เมมไว้ไม่ได้ ถ้าหนังสือเขียนไว้ว่า อรหันต์ก็ต้องเป็นอรหันต์เป็นโสดาไม่ได้
แต่ไม่รู้หรอกว่า อรหันต์จะเป็นได้ต้องผ่านสภาวะโสดาบันมีสัมมาทิฐิซะก่อน

มาที่ความเห็นนี้ กะลาพูดไปตามสคริป ไม่เข้าใจความหมายที่ตัวพูด
คนที่ทุกข์ใจเป็นเพราะ วางใจในธรรมของท่านมิตซูฯต่างหาก
ด้วยเหตุนี้ถึงแม้ท่านมิตซูจะสึกไปแล้ว ก็ยังเชื่อธรรมที่ท่านมิตซูฯสอนอยู่

การที่ท่านมิตซูฯลาสิกขา ชาวพุทธส่วนใหญ่ก็รู้ว่า ท่านมิตซูฯไม่สามารถดำเนินรอยตาม
เพศพรหมจรรย์แบบอริยะชนได้ เหตุนี้ลูกศิษย์ถึงได้เป็นทุกข์ต้องออกมาปกป้องเอาสารพัดเรื่อง
มาอ้างที่ท่านต้องสึก ซึ่งเราก็รู้ว่าการสึกจากเพศบรรพชิต เป็นการเดินถอยหลัง

ทั้งหมดนี้เป็นการปกป้องความเชื่อของตัวเองว่าถูกต้องครับ
เขาเชื่อที่ท่านมิตซูสอน ไม่อยากให้ความเชื่อของตัวเองผิด เลยทำให้การกระทำ
ของท่านมิตซูถูกต้องถูกแนวไปซะทุกอย่าง ....
สรุปคือกำลังหลงกับความเชื่อต้วเองว่าถูกต้องที่สุด
เรื่องของท่านมิตซูเป็นเพียงส่วนประกอบครับ
:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2013, 05:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นด้วยกับพี่โฮฮับและพี่กบนอกกะลานะครับ...ท่านจะสึกและสึกด้วยเหตุผลใดก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวของท่าน...ถ้าเราจะสะเทือนใจหรือจะสงสัยในเรื่องนี้ก็ไม่ผิด...แต่อย่าปล่อยใจให้เลยเถิดเกินไปจนเป็นทุกข์เป็นเดือดเป็นร้อนแก่ตนเอง...ให้มีสติอยู่กับตัวเองอยู่กับปัจจุบันธรรมของตนเองดีกว่าครับ :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 39 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 23 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร