วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 23:39  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 29 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 19:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


lock กระทู้โดยทีมงานค่ะ

กรณีมีข่าวอื้อฉาวต่างๆ เกี่ยวกับพระสงฆ์นั้น
ในแง่ของเว็บธรรมะแล้ว ควรมีส่วนในการปกป้องพระศาสนาด้วย
แต่เราต้องระมัดระวังและเฝ้าดูกระทู้อย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษอย่างยิ่ง
ซึ่งสิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ มีทั้งประโยชน์และโทษ
และเราต้องรับทั้งบุญทั้งบาป (กุศล-อกุศล) ในเวลาเดียวกัน

หากไม่ประสงค์จะก่อบาปอกุศลต่อกันเลย
ต้องหลีกเลี่ยงการตั้งกระทู้ลักษณะนี้ทั้งหมด
ทั้งไม่ควรเข้าไปอ่านกระทู้ในลักษณะแบบนี้ด้วย

ทางเว็บพิจารณาเห็นว่าควรมีการนำเสนอข้อมูลในเชิงสร้างสรรค์
ไม่ใช่มุ่งโจมตี วิพากษ์วิจารณ์แบบเอาอารมณ์เป็นใหญ่ค่ะ


:b39: ................................ :b39:


ว่อนเน็ต!! คลิปพระนั่งเครื่องบินส่วนตัว ใส่แว่นตาดำ

วันที่ 20 พฤษภาคม 2556 ชาวสังคมออนไลน์ได้ส่งต่อคลิปชื่อ เครื่องบินเจ็ทประจำองค์ ๒ ซึ่งเผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูป โพสเมื่อวันที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมา

โดยภายในคลิปเป็นภาพคณะสงฆ์จำนวน 2 รูปนั่งอยู่บนเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว หูเสียบหูฟังไอโฟน สวมแว่นตาดำเรย์แบน และใช้กระเป๋าหลุยส์วิกตองราคาแพง โดยเครื่องบินเครื่องดังกล่าวบินลงจอดที่สนามบินนานาชาติอุบลราชธานี ซึ่งทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าพระบนเครื่องบิน มีชื่อว่า หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก วัดป่าขันติธรรม อ.กันทารมย์ จ.ศรีสะเกษ

http://pantip.com/topic/30509098

---------------------------------------------------------

อึ้ง..ทึ่ง..งง.. คลิปว่อน!! พระนั่งเครื่องบินเจ็ท
หิ้วหลุยส์ - ใส่เรย์แบน พศ. เร่งสอบผิดวินัยสงฆ์


สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบคลิปพระสงฆ์นั่งเครื่องบินเจ็ท พร้อมลงโทษหากกระทำผิดจริง

วานนี้ (16 มิถุนายน 2556) มีรายงานว่า นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เผยว่า หลังจากที่ประชาชนได้ร้องเรียนเรื่องที่มีคลิปพระสงฆ์สองรูป นั่งเครื่องบินเจ็ทสุดหรู ใช้กระเป๋ามียี่ห้อราคาแพง และสวมแว่นตาราคาหลายหมื่น ซึ่งผิดอาจาระของสงฆ์ และคลิปดังกล่าวก็เผยแพร่ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของพระรูปดังกล่าวอีกด้วย โดยทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบพระสงฆ์รูปนั้น และจะลงโทษทันทีหากมีการกระทำผิดอีก

ทั้งนี้ เบื้องต้นทราบว่า พระดังกล่าวเป็นหลวงพ่อรูปหนึ่งในจังหวัดศรีษะเกษ และจากการตรวจสอบกับทางวัด ก็พบว่ามีพระรูปดังกล่าวอยู่ในวัดนั้นจริง จึงได้ให้มีการติดตามข้อมูลว่า พระสงฆ์กลุ่มนั้นยังปฏิบัติตนผิดทางโลกหรือไม่ หากพบว่ายังกระทำผิดก็จะประสานไปยังคณะผู้ปกครองเพื่อพิจารณาลงโทษทันที

นอกจากนี้ ยังมีรายงานอีกว่า ยังมีพระสงฆ์หลายรูปที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งสะสมรถหรู ใช้ของราคาแพง หรือเผยแพร่พระพุทธศาสนาในทางที่ผิด เบื้องต้นยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อวัดและชื่อพระสงฆ์รูปดังกล่าวได้ แต่ได้ตักเตือนทางวาจาแล้ว

http://www.tnews.co.th/html/news/60149/ ... B9%8C.html

รูป
รูปภาพ

รูปภาพ

คลิป




โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 20:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


แล้วเจ้าของกระทู้รู้ที่มาที่ไปของคลิปหรือเปล่าครับ
เครื่องบินที่นั่งรู้มั้ยใครเป็นคนเหมาให้ท่านนั่ง หรือท่านซื้อไว้ใช้เป็นการส่วนตัว
ท่านฟังไอโฟนแล้วเจ้าของกระทู้ทราบหรือไม่ว่าท่านกำลังฟังอะไร ฟังเพลงหรือกำลังฟังสาระอะไรอยู่
แว่นดำที่ท่านใส่เจ้าของกระทู้รู้มั้ยว่าท่านใส่ทำไม มีเหตุผลอะไร ท่านอาจสายตามีปัญหาหรือเปล่า
ท่านนั่งเครื่องบินเพราะญาติโยมนิมนต์ท่านไปงานด่วนอะไรหรือเปล่า

ว่าแต่ว่ามันแปลกอะไรตรงไหนเหรอครับท่านเจ้าของกระทู้

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 21:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มิ.ย. 2007, 13:49
โพสต์: 1012


 ข้อมูลส่วนตัว


เนื้อหาข้างล่างนี้ เป็นการเล่าสู่กันฟังคะ
(หากผู้ดูแลเห็นว่าไม่เหมาะสม ต้องขอโทษ และลบทิ้งได้คะ)


เมื่อเกือบ ๓ ปีมาแล้ว ได้ทราบเรื่องของหลวงปู่เณรคำ
(พระอาจารย์วิรพล ฉัตติโก วัดป่าขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ)
จากหลวงพ่อรูปหนึ่งท่านเป็นคนศรีสะเกษโดยกำเนิด
ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งที่ ต.พราน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ
และเป็นประธานสงฆ์สำนักฯ แห่งหนึ่งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
[ท่านเทศน์ทางวิทยุ-เคเบิ้ล-ได้รับนิมนต์ให้เป็นองค์แสดงธรรม
ในพิธีสวดพระอภิธรรมหลวงพ่อสนอง กตปุญโญ วัดสังฆทานด้วย]
รู้จักท่านมาได้ ๙ ปีแล้วคะ หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า...

คนกรุงเทพฯ และที่จังหวัดอื่นๆ จะศรัทธาหลวงปู่เณรคำมากๆ
แห่มาทำบุญกันตรึม แต่สำหรับคน จ.ศรีสะเกษ
โดยเฉพาะชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆ วัดของหลวงปู่เณรคำ (อ.กันทรารมย์)
กลับไม่ศรัทธา ไม่เข้าวัด เมินหน้า แบะหน้าให้เวลามีใครพูดถึงหลวงปู่เณรคำ
หลายคนเรียกชื่อหลวงปู่ว่า เณรคำ เฉยๆ ไม่เรียกว่า หลวงปู่เณรคำ
ชาวบ้านลือกันเกี่ยวกับหลวงปู่เณรคำหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องการฟอกเงินด้วย

หลวงพ่อบอกอีกว่า มีชาวบ้านและลูกศิษย์มาเล่าเรื่องหลวงปู่เณรคำ
ให้ท่านฟังมานานหลายปีแล้ว ท่านก็รับฟังเอาไว้
ซึ่งหากมีโอกาสก็จะพยายามพิสูจน์ความจริงเหมือนกัน
วันหนึ่งหลวงพ่อมีโอกาส ท่านได้เดินทางไปสาขาของวัดหลวงปู่เณรคำ
ที่ จ.อุบลราชธานี ท่านไปถึงที่วัดตอนกลางวัน แล้วพบว่า
วัดแห่งนี้ ดูจากภายนอกแล้วเหมือนไม่ใช่วัด
มีการสร้างกำแพงรอบวัดเป็นปูนทึบ สูงเกือบ ๓-๔ เมตร สร้างให้ดูแน่นหนา
ทึบๆ เหมือนกับโรงงาน โดยประตูวัดถูกปิดไว้ไม่อนุญาตให้คนทั่วไปเข้าไป
ต้องขออนุญาตก่อน ประตูหน้าวัดทำด้วยเหล็ก ออกแบบเป็นช่องซี่เล็กๆ
ประมาณว่า หากบุคคลภายนอกมองเข้าไปในวัด
แทบจะไม่สามารถมองเห็นได้ว่า ข้างในวัดมีอะไร ทำอะไรกันอยู่ข้างใน

หลวงพ่อบอกว่า ลักษณะเช่นนี้ ไม่ใช่วัดที่จะน้อมนำญาติโยมให้มาปฏิบัติธรรม
และหากหลวงปู่เณรคำเป็นพระอรหันต์ดังคำล่ำลือจริง ควรจะสงบร่มเย็น ฯลฯ

คน จ.ศรีสะเกษ ไม่กล้าพูด ไม่กล้าโจมตี เรื่องหลวงปู่เณรคำ เพราะกลัวอิทธิพลมืด

ในทัศนะของข้าพเจ้าตอนนี้ ขอรับฟังไว้ก่อน เพราะหากเป็นของไม่จริงในพระศาสนา
ไม่วันใดวันหนึ่งมันจะต้องเปิดเผยตัวตน-ความจริงออกมา
ในทางตรงข้าม หากเป็นของจริง เป็นเพชรในพระศาสนา
ยังไงๆ ท้ายที่สุดก็ไม่มีใครสามารถจะทำอะไรได้ เพราะเพชรก็ย่อมคือเพชร

หลวงปู่องค์หนึ่ง [มีชื่อเสียง-ได้รับนิมนต์ให้เป็นองค์แสดงธรรม
ในพิธีสวดพระอภิธรรมหลวงพ่อสนอง กตปุญโญ วัดสังฆทานด้วย]
อยู่วัด ใน ถ.มาลัยแมน ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
ลูกศิษย์ท่านถูกหลวงปู่เณรคำ หลอกเอาเงินไป จึงมาเล่าให้ท่านฟัง
หลวงปู่พูดเสียงตามสายในวัดเลยเกี่ยวกับหลวงปู่เณรคำ
หลวงปู่องค์นี้ประกาศท้าเจอกับหลวงปู่เณรคำเลย หากสิ่งที่ท่านพูดออกไปไม่จริง

กับ หลวงปู่อีกองค์หนึ่ง [นี่ก็มีชื่อเสียง-เป็นเจ้าคุณชั้นสามัญ]
อยู่วัด ใน ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร
มีเพื่อน 2 คน ลาไปบวชพระ 5 วัน ให้ในหลวง 5 ธค.2555 ที่ผ่านมา
เพื่อนคนหนึ่งศรัทธาหลวงปู่ที่อยู่วัด ใน จ.พิจิตร ดังกล่าว+หลวงปู่เณรคำ
เพื่อนอีกคนหนึ่งพยายามบอกว่า อย่าไปกราบเลยหลวงปู่เณรคำ น่ะ
เลยเล่าเรื่องหลวงปู่เณรคำ ทั้งหมดที่ตนเองรู้มาให้ฟัง
เพื่อนคนนั้นแกก็ไม่ยอมเชื่อ เลยต้องมีการนำตัวไปฟังจากปาก
หลวงปู่ที่อยู่วัด ใน จ.พิจิตร ดังกล่าว แกก็ งงๆ กับสิ่งที่ได้ยิน

2 หลวงปู่ดังกล่้าว คือ หลวงปู่ที่อยู่วัด ใน จ.นครปฐม + จ.พิจิตร
พูดตรงกันเลยว่า หลวงปู่เณรคำ เป็นของปลอม คะ

--------------------------------------------------

รูปภาพของหลวงปู่เณรคำตอนนั่งเครื่องบิน, ตอนไปช็อบปิ้งห้างที่ต่างประเทศ,
ตอนเท้าแขนบนรถเบนซ์, ตอนเมานอนหลับใกล้ผู้หญิง ฯลฯ
ทุกภาพที่พูดไป (ยกเว้น ตอนเมานอนหลับใกล้ผู้หญิง)
ได้โพสท์ลงในเว็บวัดป่าขันติธรรม http://luangpunenkham.com/
รูปภาพเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่มีการนำไปแจกจ่ายตามตลาด-ที่สาธารณะต่างๆ ฯลฯ
ภายใน จ.ศรีสะเกษ โดยเฉพาะใน อ.กันทรารมย์ คะ
โดยเป็นการกระทำจากบุคคลที่ประสงค์จะให้ชาวพุทธจำนวนมาก
ได้ทราบความจริงเกี่ยวกับหลวงปู่เณรคำ วัดป่าขันติธรรม

เรื่องเครื่องบินนั้น ทราบมาว่า ลูกศิษย์ถวายให้ท่านไว้ใช้เดินทางไกล เร่งด่วน

ส่วนเรื่องใส่แว่นตาดำ ทราบมาว่า ท่านมีปัญหาสุขภาพตา แพ้แสงแดด

สำหรับเรื่องข่าวลือการฟอกเงิน-ยาเสพติด-สีกา ฯลฯ นั้น
หลวงปู่เณรคำได้ให้ทนายความทำหนังสือชี้แจงต่อสื่อต่างๆ
พอดีำไปเจอที่ facebook หลวงปู่เณรคำ
ได้เซพเก็บไว้ แต่ตอนนี้ยังหาไม่เจอ หากเจอจะนำมาโพสท์ให้ชมกันคะ

.....................................................
ทำความดีทุกๆ วัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 22:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มิ.ย. 2007, 13:49
โพสต์: 1012


 ข้อมูลส่วนตัว


ที่มา ดูต่อที่ลิ๊งค์นี้
http://www.alittlebuddha.com/News%20201 ... 02013.html


อรหันต์เรียกพี่ !

ประมวลภาพพระอรหันต์แห่งยุค "หลวงปู่เณรคำ" เดินสายจ่ายส่วย ถวายรถสวยๆ แด่พระมหาเถระในสายธรรมยุต นับตั้งแต่อีสานถึงกรุงเทพฯ มหาวิทยาลัยสงฆ์ มมร. ก็ติดเบ็ด อา..ชาติหน้าไม่ขอมาเกิดอีกแล้ว ชาตินี้จึงขอเป็นทั้งพระอรหันต์และด็อกเตอร์ ดูอย่างแม่ชีทศพร แห่งวัดพิชัยญาติสิ มีดวงตาเห็นกรรม ทำนายทายทักได้ดังสมเด็จพระบรมศาสดา แต่ว่าคนไม่เชื่อน้ำยา ก็เลยต้องนำเงินทองไปประเคน มจร. จนได้ปริญญาด๊อกเตอร์มาติดบ่าติดไหล่ หลังจากนั้น "พูดอะไรใครๆ ก็เชื่อ" สูตรสำเร็จแบบนี้เล่นไม่ยาก มีเงินซะอย่าง ถามว่าอะไรบ้างที่เงินซื้อไม่ได้ในยุคนี้ ยุค "Money talk"

กดฟังจาก youtube แบบนี้อวดอุตริฯ ??


พระอรหันต์แห่งยุคพุทธชยันตี

มีดวงตาทิพย์ สามารถระลึกชาติได้ถึง 2600 ปี เล่าได้ชัดถ้อยชัดคำ เคยเข้าเฝ้าสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ วัดพระเวฬุวัน กรุงราชคฤห์ แบบนี้ไม่อุตริ เพราะว่าในมหาเถรสมาคมและบรรดาพระสงฆ์ไทยทั้งสิ้นทั้งปวงกว่า 300,000 รูปในปัจจุบันนั้น ไม่มีรูปใดได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์เลย มีแต่พระหันซ้ายหันขวา ก็เลยไม่กล้าตรวจสอบใคร ปล่อยให้พระอรหันต์กำมะลอครองเมือง เชื่อเหอะ ประเดี๋ยวพระอรหันต์มันก็วิ่งเต้นเอาเงินทองเข้ามาประเคนพระผู้ปกครองเอง ไม่เชื่อก็ไปถามพระเทพปริยัติวิมล วัดบวรนิเวศวิหาร ดูสิ ตอนที่เป็นอธิการบดี มมร. อยู่นั้น พระอรหันต์ที่ไหนวิ่งมากราบตีนถึงศาลายา

รูปภาพ

เก๋งใหม่ ป้ายแดง ของกำนัลจากพระอรหันต์

รูปภาพ
รูปภาพ

ถวายพระธรรมฐิติญาณ
เจ้าคณะภาค 10 (ธรรมยุต) วัดบึงพลาญชัย จังหวัดร้อยเอ็ด


รูปภาพ

นิมนต์เข้าไปนั่งด้านในให้เป็นสิริมงคลครับผม

พิธีมอบรถเก๋งโตโยต้า แคมรี่ ให้กับพระธรรมฐิติญาณ เจ้าคณะภาค 10 (ธ) วัดบึงพลาญชัย จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2553 โดยมี พระราชธรรมโกศล เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี (ธ) พระญานวิเศษ เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธ) เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษ พระอาจารย์หนูกร เจ้าคณะอำเภอโซ่พิสัย จังหวัดหนองคาย ร่วมพิธีถวาย พร้อมทั้งพุทธศาสนิกชน ที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก และสื่อมวลชนในจังหวัดร้อยเอ็ด ให้ความสนใจมาร่วมทำข่าวในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก เช่นกัน ซึ่งหลวงปู่เณรคำ ได้กล่าวว่า การถวายรถในครั้งนี้เพื่อให้เจ้าคณะภาค 10 (ธ) นำไปใช้ในภารกิจเผยแผ่พุทธศาสนา ต่อไป หลังจากพิธีมอบถวายรถแล้ว พระเดชพระคุณเจ้าคณะภาค 10 (ธ) เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี (ธ) เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธ) และพระเดชพระคุณหลวงปู่เณรคำ ได้นั่งรถรอบอุโบสถภายในวัดบึงพลาญชัยจำนวน 3 รอบด้วยกัน

รูปภาพ
รูปภาพ

ภาพนี้ นิมนต์รวบ 7 จังหวัด
กินกันทั่วทั้งอีสานอย่างนี้ จะผิดพระธรรมวินัยก็ให้มันรู้ไปสิ

*
*
*
ดูต่อที่ลิ๊งค์นี้
http://www.alittlebuddha.com/News%20201 ... 02013.html


รูปภาพ

รูปภาพ

หลวงปู่เณรคำมอบรถตู้โตโยต้าแก่พระเทพปริยัติวิมล
องค์อธิการบดีมหาวิทยาลัย มหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร)
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2554
ที่มหาวิทยาลัยสงฆ์ มมร. ศาลายา นครปฐม


รูปภาพ

ภาพนี้ชื่อว่า "สอนพระอรหันต์"

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

หน้าปกหนังสือของหลวงปู่เณรคำ


ข่าว : หลวงปู่เณรคำ ดอทคอม
6 มิถุนายน 2554

.....................................................
ทำความดีทุกๆ วัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 22:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มิ.ย. 2007, 13:49
โพสต์: 1012


 ข้อมูลส่วนตัว


ที่มา ดูต่อที่ลิ๊งค์นี้
http://www.alittlebuddha.com/News%20201 ... 02013.html

โดย: ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์

ว่อนเน็ต! พระดังกิริยาไม่เหมาะสม ตัวแทนยันภาพเก่าตัดต่อ-ใส่ร้ายให้เสื่อมเสีย
http://m.thairath.co.th/content/life/323832

-----------------------------------------

จับตอแหลหลวงปู่เณรคำ
เลขาอ้างว่า "มีผู้ไม่หวังดี" ทั้งพระและโยม
โจมตีใส่ร้ายป้ายสีและทำการตัดต่อภาพ


ทั้งที่ความเป็นจริง ภาพทั้งหมดนั้นก็เอามาจากหลวงปู่เณรคำ ดอทคอม ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของพระอรหันต์กำมะลอรูปนี้เอง เดี๋ยวนี้ก็ยังมีอยู่ครบเซ็ต ใครไม่เคยเห็นก็เชิญได้ ตามลิงค์ข้างล่าง ส่วนการจะสอบสวนเอาผิดเอาความประการใดนั้น ก็เป็นเรื่องของเจ้าคณะผู้ปกครองในฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ว่าจะปล่อยให้อรหันต์กำมะลอทำการหลอกลวงประชาชนต่อไปอีกหรือไม่ ซึ่งงานนี้ก็คงหนีไม่พ้นเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต คือ สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร ว่าจะทำการปกป้องพระรูปนี้ไว้หรือไม่ ?

ขอถามคำเดียวว่า แค่เรื่องภาพที่ถ่ายเองโพสต์เองสามารถพิสูจน์ได้เช่นนี้ พระ...รูปนี้ยังอ้างว่า "ไม่ได้ทำ แต่ถูกใส่ร้าย" แล้วเรื่องสวรรค์นิพพานมันจะเหลวไหลไร้สาระปานใด ?

ภาพตัวอย่างจากแฟ้มภาพของ หลวงปู่เณรคำ ดอทคอม

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

ที่มาของภาพทั้งหมด

http://www.luangpunenkham.com/gallery/

ชุดขับเครื่องบิน
http://www.flickr.com/photos/luangpunen ... 578898627/

ชุดนั่งสมาธิบนก้อนหิน
http://www.flickr.com/photos/luangpunen ... 471637521/

ชุดเที่ยวห้าง แสดงฤทธิ์ยกก้อนหิน และกอดเบ็นซ์
http://www.flickr.com/photos/luangpunen ... 15/?page=2



ภาพ : หลวงปู่เณรคำ ดอทคอม
2 กุมภาพันธ์ 2556

.....................................................
ทำความดีทุกๆ วัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 22:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีข้อให้ชาวพุทธสังเกตไว้สองประเด็น พระรูปหรือ...ก็ตาม ชื่อตนเองมีอยู่ แต่ไปเปลี่ยนชื่อให้ดูขลังๆ พึงระวัง
สอง พระรูปใดหรือ...ที่อวดอ้างตัวว่านั่งสมาธิทำกรรมฐานแล้วมุดน้ำดำดินเดินบนน้ำ...ไปโผล่เมืองบาดาลเป็นเครือญาติกับพระญานาค...พึงระวัง จะโดนล้วงตับ เหมือนตุ๊กแกที่ถูกงูเขียวล้วงตับนั่นแล :b1: ตับๆๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 23:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มิ.ย. 2007, 13:49
โพสต์: 1012


 ข้อมูลส่วนตัว


ที่มา
http://www.alittlebuddha.com/News%20201 ... 02013.html

โดย: ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
ว่อนเน็ต! พระดังกิริยาไม่เหมาะสม ตัวแทนยันภาพเก่าตัดต่อ-ใส่ร้ายให้เสื่อมเสีย
http://m.thairath.co.th/content/life/323832


"บรรลุฌาณ 8 แถมอภิญญา"
เลขา "หลวงปู่เณรคำ" ยืนยันผ่าน "ไทยรัฐ" ชัดเจน


อา..สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติของคุณนพรัตน์ว่ายังไงฮะ จะกล้าสอบหรือไม่ ? คดีอิทธิพลน้องๆ กำนันเป๊าะเชียวนะ ดูภาพข้างล่างโน้นสิ ส่วยไหลเข้าไปถึงวัดบวรนิเวศวิหารของสมเด็จพระสังฆราชเชียวนะ สมเด็จพระวันรัตคงไม่รู้กระมังว่ารถตู้โตโยต้าคันนี้พระเทพปริยัติวิมลท่านได้แต่ใดมา ?

กลายเป็นเรื่องฮือฮาในโลกโซเชียลอีกครั้ง หลังจากมีคนเผยแพร่ภาพของพระสงฆ์ในอิริยาบทต่างๆ ที่ดูไม่เหมาะสม ผ่านโลกโวเชียลเน็ตเวิร์ก โดยผู้บรรยายอ้างว่าพระสงค์รูปนี้คือ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก

ไทยรัฐออนไลน์ได้สอบถามไปยังต้นสังกัดของหลวงพ่อรูปดังกล่าว พระเสริม ธีรธรรมโม กองงานพระเลขาฯ ตัวแทนพระชื่อดังรูปดังกล่าว กล่าวว่า เป็นภาพที่ทำการตัดต่อเพื่อให้หลวงพ่อเสียชื่อเสียง ซึ่งการโจมตี สร้างกระแสปั่นป่วนแบบนี้มีมาอย่างต่อเนื่องกว่า 2 ปีแล้ว

“ตอนนี้ท่านก็อยู่วัดกับอาตมาที่ จ.นครนายก เป็นวัดที่ไม่มีชื่อ ท่านมาทำงานด้านพัฒนาและศึุกษาธรรมะ ดังนั้น จึงจะไม่รับไม่คุยโทรศัพท์กับใคร เรื่องภาพไม่เหมาาะสมในเฟซบุ๊ก ไม่ใช่เฟซบุ๊กของท่าน เพราะท่านไม่ได้เล่น มีแต่พระลูกวัดที่เล่น ส่วนใหญ่ท่านก็ใช้อินเตอร์เน็ตติดตามข่าวสารเพื่อให้ทันโลก แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีเฟซบุ๊กส่วนตัวแน่นอน ถามว่าใครเป็นคนปล่อยภาพเราก็พอรู้บางสิ่งบางอย่าง คนที่โจมตีเป็นฆราวาสก็มี พระก็มี เยอะแยะไปหมด แต่ท่านก็ไม่ได้สนใจ อยากทำก็ทำไป เราไม่ได้สะทกสะท้านอะไร และที่สำคัญท่านอยู่ประเทศไทย ไม่ได้อยู่ต่างประเทศอย่างที่เป็นข่าวกันอย่างแน่นอน” กองงานพระเลขาฯ กล่าว

สำหรับประวัติของพระชื่อดังที่เป็นข่าว บวชเณรตั้งแต่อายุ 12 แล้วปฏิบัติทางสมาธิภาวนาแบบอุกฤษฏ์คือยอมตายถ้าไม่บรรลุธรรม จนมีสมาธิจิตสูงถึงระดับฌาณ 8 มีฤทธิ์อภิญญา ขณะนี้ท่านอายุเพียง 30 ปีเศษเท่านั้น แต่ที่ท่านเรียกตัวเองว่า หลวงปู่ เพราะรวมกับอายุในชาติที่แล้ว ท่านระลึกชาติได้หลายแสนชาติ เห็นนรก เห็นเทวดาและองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ต่างๆ ช่วงที่ธุดงค์อยู่ตามป่าตามถ้ำก็ได้สัมผัสกับผี เปรต พญานาค เทวดามากมาย ครั้งหนึ่งปฏิบัติธรรมอยู่บนยอดเขา ก็มีภิกษุชรารูปหนึ่งเดินขึ้นมาสอนธรรมะ การเดินจงกรม การพิจารณาข้อธรรมให้ท่านบ่อยๆ ท่านถามว่าเป็นใคร ภิกษุรูปนั้นก็ไม่ตอบ ต่อมาเมื่อท่านลงจากเขาจึงเห็นรูปภิกษุนั้นในวัดแห่งหนึ่ง จึงทราบว่าเป็นพระอาจารย์..ที่ละสังขารไปเพราะเครื่องบินตกเมื่อปี 2518

หลวงปู่ได้ใช้กรรมที่ท่านทำไว้ในอดีตชาติ เคยทำไม่ดีไว้กับภรรยาท่าน ชาตินี้ภรรยาเกิดเป็นงูเห่าคอยแก้แค้น ท่านรู้และยอมใช้กรรม วันหนึ่งท่านยืนสมาธิอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง งูเห่าตัวนี้ก็ฉกเข้าที่ขา พิษแปลบเข้าหัวใจ ท่านนั่งสมาธิอยู่ 3 วัน ยอมตาย แต่ก็ไม่ตาย พิษงูไม่อาจทำร้ายท่านได้

อดีตชาติหนึ่ง เคยจับเพื่อนมัดรอบตัวหวังให้ตาย แต่เกิดความสงสารเลยปล่อยไป ชาตินี้เพื่อนเกิดเป็นงูเหลือม ท่านรู้และขอชดใช้กรรม นั่งสมาธิอยู่ งูเหลือมก็เข้ามารัดกายท่านจนหายใจไม่ออก ท่านนึกถึงพระพุทธเจ้าและขอใช้กรรมให้งู แต่งูก็คลายแล้วเลื้อยหนีไป ไม่ตายอีก


วันหนึ่งท้าวสักกะพระอินทร์มาหาท่าน บอกให้ท่านสร้างพระแก้วมรกตองค์ใหญ่เพื่อแก้ไขโลกให้พ้นจากเหตุเลวร้ายทั้งมวล ขณะนี้หลวงปูเณรคำสร้างพระแก้วมรกตที่ใหญ่ที่สุดขึ้นมาแล้ว หน้าตัก 15 เมตร สูง 18.5 เมตร ผิวกายเคลือบด้วยหยกเขียว เครื่องศิราภรณ์และเครื่องทรงใช้ทองคำหนัก 9 ตันเศษ รูปองค์พระเสร็จแล้วเหลือแต่เครื่องประดับ เมื่อเสร็จจะเป็นพระแก้วมรกตที่ใหญ่ที่สุดในโลก สุกสกาวด้วยทองคำเหลืองอร่าม ใช้งบ 1,500 ล้านบาท ท่านผู้ใจบุญทั้งหลายร่วมทำบุญกับท่านจะได้ผลบุญมหาศาล หนึ่งทำบุญสร้างพระก็เป็นกุศลใหญ่ สองทำกับพระปฏิบัติดีผลบุญไม่ตกหล่น ได้เต็มเปี่ยม

ถ้ามีโอกาสเราจะไปกราบไหว้ท่านที่วัดสักครั้ง ตอนนี้ส่งเงินไปช่วยท่านสร้างพระให้สำเร็จ เป็นการสืบต่อพระศาสนาให้มั่นคง ยั่งยืนไปชั่วกาลนาน สาธุ

http://www.facebook.com/photo.php?fbid= ... =1&theater

รูปภาพ

.....................................................
ทำความดีทุกๆ วัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2013, 07:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มิ.ย. 2007, 13:49
โพสต์: 1012


 ข้อมูลส่วนตัว


http://www.alittlebuddha.com/

Wat Thai Las Vegas 2920 McLeod Dr. Las Vegas
NV 89121 U.S.A. Phone (702) 384-2264

เป็นเวปไซต์ที่จัดทำขึ้นโดยกลุ่มพระสงฆ์หนุ่ม รุ่นใหม่ มีการศึกษาดี
หากนำเรื่องพระมาพูด ค่อนข้างจะพูดถึงพระทุกสำนักฯ ทุกค่าย ที่เป็นข่าว

.....................................................
ทำความดีทุกๆ วัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2013, 09:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปัจจุบันสังคมพุทธส่วนใหญ่ ขาดความรู้เรื่องพระพุทธศาสนา มีอยู่ก็จำพวกที่เน้นในเรื่องของอภินิหาริย์อิทธิฤทธิอิทธิเดชเวทมนต์ หูตาทิพย์ทายใจคนไปโน่น...เมื่อสังคมพุทธโดยรวมมุ่งไปทางนี้

จึงมีคำถามว่า ใครล่ะที่บวช ตอบ ก็คนในสังคมพุทธนี้เอง แล้วเป็นไง อ้าวก็เมื่อพื้นฐานจิตใจของแต่ละคนมุ่งไปทางดังกล่าว นักบวชก็ได้ช่องหาเอกลาภต่อคนในสังคมที่เน้นทางนี้ดิ

เริ่มทำกรรมฐานหน่อย ทำสมาธินิดหนึ่ง เอาแล้วมาแล้วอริยะ อรหันต์ ทายใจคน เห็นนั่นเห็นนี่ หลงสะ...ก็ประกาศข่าว สร้างข่าวทางสื่อ ปากต่อปาก พักเดียว ถนนทุกสายมุ่งไปหาหลวงพี่ หลวงพ่อ หลวงปู่ หลวงตา ฯลฯ หนักเข้าก็ทำพระเครื่องขายสะ ต้นทุน 5 บาท 10 บาท ติดราคาเป็นพัน เป็นหมื่น พอดังแล้วทีนี้ หลวงพ่อ หลวงปู่...จะเอาอะไร? อิฉันหาให้ บลาๆๆๆ :b9:

จะโทษใครได้ ต้องโทษสังคมพุทธเองรวมๆ ว่าไม่ศึกษาพุทธธรรมให้เข้าใจอย่างถูกต้อง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2013, 10:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ท่านกรัชกาย

พุทธศาสนาจะมั่นคงอยู่ได้ยืนยาว...โดยอาศัยเพียงศรัทธาอย่างเดียวไม่ได้..ต้องเป็นศรัทธาที่จะพัฒนาไปสู่ตัวปัญญา..คือตัวความรู้...เป็นอยู่ด้วยความรู้ที่ถูกต้อง..ไม่ใช่เป็นอยู่ด้วยความเชื่อเพียงอย่างเดียว...
ลักษณะของพุทธศาสนาเป็นศรัทธาญาณสัมปยุทธ์ ...อาศัยศรัทธาเพื่อพัฒนาไปสู่ปัญญาคือรู้ความจริงตามธรรมชาติของชีวิต แต่พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ยังติดกันอยู่แค่..ศรัทธา...ไม่ศึกษาเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาไปสู่ปัญญา ซึ่งเป็นเนื้อในของพุทธศาสนา....เลยเข้าไม่ถึงประโยชน์สูงสุดของพุทธศาสนา.....
เมื่อไม่ศึกษาก็ไม่มีความรู้เป็นของตนเอง....ไม่รู้ว่าอะไรจริง อะไรเท็จ อะไรถูก อะไรผิด อะไรเป็นประโยชน์ อะไรไม่เป็นประโยชน์...ไม่สามารถวิเคราะห์แยกแยะได้ด้วยความรู้..ก็อาศัยแต่ความเชื่อที่ยังมีความไม่แน่ใจลังเลสงสัย...และพร้อมจะเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัยอยู่ตลอดเวลา........
ดังนั้นหน้าที่ที่สำคัญอย่างหนึ่งของพุทธศาสนิกชน อย่างเราๆก็คือต้องช่วยกันรณรงค์ให้คนใกล้ตัวรู้และเข้าใจพุทธศาสนาให้ถูกต้องพยายามพัฒนาจากศรัทธาไปสู่ปัญญาให้มากขึ้นเพื่อให้เข้าถึงสาระหรือแก่นของพุทธศาสนาให้ได้...เมื่อนั้นรากฐานของพุทธศาสนาก็จะแข็งแรงมากขึ้น...

:b41:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2013, 10:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


หรือต้องไปทบทวน
คำว่า อวดอุตริมนุสธรรม

[๒๔๗] ถามว่า ภิกษุกล่าวอวดอุตริมนุสธรรม อันไม่มี ไม่เป็น จริง ต้องอาบัติเท่าไร.
ตอบว่า ภิกษุกล่าวอวดอุตริมนุสธรรม อันไม่มี ไม่เป็นจริง ต้อง อาบัติ ๓ คือ ภิกษุมีความปรารถนาลามก ถูกความปรารถนาครอบงำ กล่าว อวดอุตริมนุสธรรมอันไม่มี ไม่เป็นจริง ต้องอาบัติปาราชิก ๑ ภิกษุกล่าวว่า ภิกษุใดอยู่ในวิหารของท่าน ภิกษุนั้นเป็นพระอรหันต์ เมื่อผู้พึงเข้าใจความ ต้องอาบัติถุลลัจจัย ๑ เมื่อไม่เข้าใจความ ต้องอาบัติทุกกฏ ๑.
ภิกษุกล่าวอวดอุตริมนุสธรรมอันไม่มี ไม่เป็นจริง ต้องอาบัติ ๓ เหล่านี้.

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2013, 11:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ต.ค. 2012, 19:33
โพสต์: 117


 ข้อมูลส่วนตัว


เคยได้ยินได้ฟังมามากพอสมควร...เกี่่ยวกับพระ.....
จากเพื่อนๆที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่วัดท่าน.....และทราบว่าพระผู้ใหญ่ท่านออกมาตำหนิ
เรื่องการอวดอ้างสิ่งที่ไม่มีในตน
และมาได้ทราบข้อมูลอีกว่า...มีลูกศิษย์ใกล้ชิดท่านมาก...นำข้อมูลมาเปิดเผย
เพราะทนต่อไปไม่ไหวกับพฤติกรรม

1. เบื้องต้นก็ติดตามท่านอยู่...เมื่อมีคนพูดถึงพระ...ในทางไม่ดีเราก็พยายามอธิบาย...
หลังๆมาข่าวบ่อยมาก....แฟนบอกว่าลองเปิดใจฟังคนอื่นดูบ้าง
เรื่องบางเรื่อง ถ้าไม่มีมูล...เขาไม่มาลือกันหรอก ประวัติของเขาเธอรู้ดีแค่ไหน
ก็เห็นแค่หนังสือ และออกเทศน์ตามงานเท่านั้น...
หากเขาสอนให้คนปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์ แล้วทำไมตัวเขายังหลงวัตถุอยู่
..ทุกวันนี้ที่บ้าน...และเพื่อนๆในกลุ่มก็ถอนตัวกันหมดแล้วค่ะ นานแล้วค่ะ

(เป็นความเห็นส่วนตัวค่ะ) ลองใช้วิจารณญาณของแต่ละท่านเองเถิด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2013, 11:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปลีกวิเวก เขียน:
:b8: ท่านกรัชกาย

พุทธศาสนาจะมั่นคงอยู่ได้ยืนยาว...โดยอาศัยเพียงศรัทธาอย่างเดียวไม่ได้..ต้องเป็นศรัทธาที่จะพัฒนาไปสู่ตัวปัญญา..คือตัวความรู้...เป็นอยู่ด้วยความรู้ที่ถูกต้อง..ไม่ใช่เป็นอยู่ด้วยความเชื่อเพียงอย่างเดียว...
ลักษณะของพุทธศาสนาเป็นศรัทธาญาณสัมปยุทธ์ ...อาศัยศรัทธาเพื่อพัฒนาไปสู่ปัญญาคือรู้ความจริงตามธรรมชาติของชีวิต แต่พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ยังติดกันอยู่แค่..ศรัทธา...ไม่ศึกษาเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาไปสู่ปัญญา ซึ่งเป็นเนื้อในของพุทธศาสนา....เลยเข้าไม่ถึงประโยชน์สูงสุดของพุทธศาสนา.....
เมื่อไม่ศึกษาก็ไม่มีความรู้เป็นของตนเอง....ไม่รู้ว่าอะไรจริง อะไรเท็จ อะไรถูก อะไรผิด อะไรเป็นประโยชน์ อะไรไม่เป็นประโยชน์...ไม่สามารถวิเคราะห์แยกแยะได้ด้วยความรู้..ก็อาศัยแต่ความเชื่อที่ยังมีความไม่แน่ใจลังเลสงสัย...และพร้อมจะเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัยอยู่ตลอดเวลา........
ดังนั้นหน้าที่ที่สำคัญอย่างหนึ่งของพุทธศาสนิกชน อย่างเราๆก็คือต้องช่วยกันรณรงค์ให้คนใกล้ตัวรู้และเข้าใจพุทธศาสนาให้ถูกต้องพยายามพัฒนาจากศรัทธาไปสู่ปัญญาให้มากขึ้นเพื่อให้เข้าถึงสาระหรือแก่นของพุทธศาสนาให้ได้...เมื่อนั้นรากฐานของพุทธศาสนาก็จะแข็งแรงมากขึ้น...

:b41:


(นำมาให้ดูกันพอหอมปากหอมคอ เท่าที่พาดพิงถึงศรัทธา เอามาทั้งหมดเดี๋ยวหลงกันไปใหญ่ แล้วก็ไม่แน่ใจว่า กระทู้นี้จะปรินิพพานเมื่อไร คิกๆๆ :b1: )


ลำพังศรัทธาอย่างเดียว เมื่อไม่ก้าวหน้าถึงขั้นปัญญาต่อไปตามลำดับ ย่อมมีผลอยู่ในขอบเขตจำกัด เพียงแต่สวรรค์เท่านั้น ไม่สามารถให้บรรลุจุดหมายของพุทธธรรมได้ ดังพุทธพจน์ที่ว่า


“ภิกษุทั้งหลาย ในธรรมที่เรากล่าวไว้ดีแล้ว ซึ่งเป็นของง่าย เปิดเผย ประกาศไว้ชัด ไม่มีเงื่อนงำใดๆ อย่างนี้

- สำหรับภิกษุผู้เป็นอรหันตขีณาสพ ...ย่อมไม่มีวัฏฏะเพื่อจะบัญญัติต่อไป

ฯลฯ

- ผู้ที่มีเพียงศรัทธา มีเพียงความรักในเรา ย่อมเป็นผู้มีสวรรค์ เป็นที่หมาย”


ในกระบวนการพัฒนาปัญญา ที่ถือเอาประโยชน์จากศรัทธา อย่างถูกต้อง ปัญญาจะเจริญขึ้นโดยลำดับ จนถึงขั้นเป็นญาณทัสสนะ คือเป็นการรู้การเห็น ในขั้นนี้ จะไม่ต้องใช้ความเชื่อและความเห็นอีกต่อไป เพราะรู้เห็นประจักษ์กับตนเอง จึงเป็นขั้นที่พ้นขอบเขตของศรัทธา ขอให้พิจารณาข้อความในพระไตรปิฎกไปนี้

ถาม: ท่านมุสิละ โดยไม่อาศัยศรัทธา ไม่อาศัยความถูกกับใจคิด ไม่อาศัยการเรียนรู้ตามกันมา ไม่อาศัยการคิดตรองตามแนวเหตุผล ไม่อาศัยความเข้ากันได้กับการทดสอบด้วยทฤษฎี ท่านมุสิลมีการรู้จำเพาะตน (ปัจจัตตญาณ) หรือว่า เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะจึงมี ?

ตอบ: ท่านปวิฏฐ์ ผมย่อมรู้ ย่อมเห็นข้อที่ว่า เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะจึงมี นี้ได้ โดยไม่ต้องอาศัยศรัทธา...ความถูกกับใจคิด...การเรียนรู้ตามกันมา...การคิดตรองตามแนวเหตุผล...ความเข้ากันได้กับการทดสอบด้วยทฤษฎีเลยทีเดียว

(จากนี้ ถามตอบหัวข้ออื่นๆ ในปฏิจจสมุปบาท ตามลำดับ ทั้งฝ่ายอนุโลม ปฏิโลม จนถึงภวนิโรธเป็นนิพพาน)


เมื่อมีญาณทัสสนะ คือการรู้การเห็นประจักษ์แล้ว ก็ไม่ต้องมีศรัทธา คือไม่ต้องเชื่อต่อผู้ใดอื่น ดังนั้นพุทธสาวกที่บรรลุคุณวิเศษต่างๆ จึงรู้และกล่าวถึงสิ่งนั้นๆ โดยไม่ต้องเชื่อต่อพระศาสดา เช่น ได้มีคำสนทนาถามตอบระหว่างนิครนถนาฏบุตร กับจิตตคฤหบดี ผู้เป็นพุทธสาวกฝ่ายอุบาสกที่มีชื่อเสียงเชี่ยวชาญในพุทธธรรมมากว่า


นิครนถ์: แน่ะท่านคฤหบดี ท่านเชื่อพระสมณโคดมไหมว่า สมาธิที่ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีอยู่ ความดับแห่งวิตกวิจารได้ มีอยู่ ?


จิตตคฤหบดี: ในเรื่องนี้ ข้าพเจ้ามิได้ยึดถือด้วยศรัทธา มิได้เชื่อต่อพระศาสดาว่า สมาธิที่ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีอยู่ ความดับแห่งวิตกวิจารได้ มีอยู่ ฯลฯ
ข้าพเจ้า ทันทีที่มุ่งหวัง...ก็เข้าปฐมฌานอยู่ได้...เข้าทุติยฌานอยู่ได้... เข้าตติยฌานอยู่ได้...เข้าจตุตถฌานอยู่ได้ ข้าพเจ้านั้น รู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ จึงไม่ยึดถือด้วยศรัทธาต่อสมณะหรือพราหมณ์ผู้ใดๆ ว่า สมาธิที่ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีอยู่ ความดับแห่งวิตกวิจารได้ มีอยู่”

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 21 พ.ค. 2013, 11:35, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2013, 11:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมอยากหัวร่อ คนที่เขามาแสดงความเห็นในกระทู้นี่จริงๆ
แต่ละคนขาดสติไร้ซึ่งสมาธิในการพิจารณาธรรมเอาซะจริงๆ

หัวข้อกระทู้เขาถามว่า "เรื่องนักบวชถูกวิจารณ์เรื่องนั่งครื่องบิน"
แต่ดูเนื้อหาที่แสดงความเห็น ไม่เห็นมันจะเกี่ยวกันตรงไหน
อวดกิเลสแท้ๆ เที่ยวเพ่งโทษคนอื่นเขา

นักบวชหรือไม่ใช่นักบวช กระทำอะไรที่ไม่ผิดกฎหมาย
หรือกฎหมายไม่สามารถเอาผิดได้ ทั้งหมดมันก็เป็นเรื่องของเขา

ใครมันไม่สามารถรักษาศีลได้มันก็เรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา

กระทู้นี้มันต้องแสดงความเห็นว่านักบวชคนนั้น นั่งเครื่องบินมันผิดวินัยหรือเปล่า
ไม่ใช่ไปขุดเรื่องที่มันไม่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้มาโจมตีเขา เว็บนี้เป็นเว็บธรรมะ
ไม่ใช่เว็บการเมือง เห็นอะไรที่ไม่ดีก็หัดเจริญสติบ้าง ไม่ใช่ปล่อยตัวปล่อยใจ
ปรุงแต่งจนออกอาการแบบนี้ ไม่งั้นคำที่เที่ยวว่ากล่าวชาวบ้านมันจะย้อนเข้าตัว :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2013, 11:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ผมอยากหัวร่อ คนที่เขามาแสดงความเห็นในกระทู้นี่จริงๆ
แต่ละคนขาดสติไร้ซึ่งสมาธิในการพิจารณาธรรมเอาซะจริงๆ

หัวข้อกระทู้เขาถามว่า "เรื่องนักบวชถูกวิจารณ์เรื่องนั่งครื่องบิน"
แต่ดูเนื้อหาที่แสดงความเห็น ไม่เห็นมันจะเกี่ยวกันตรงไหน
อวดกิเลสแท้ๆ เที่ยวเพ่งโทษคนอื่นเขา

นักบวชหรือไม่ใช่นักบวช กระทำอะไรที่ไม่ผิดกฎหมาย
หรือกฎหมายไม่สามารถเอาผิดได้ ทั้งหมดมันก็เป็นเรื่องของเขา

ใครมันไม่สามารถรักษาศีลได้มันก็เรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา

กระทู้นี้มันต้องแสดงความเห็นว่านักบวชคนนั้น นั่งเครื่องบินมันผิดวินัยหรือเปล่า
ไม่ใช่ไปขุดเรื่องที่มันไม่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้มาโจมตีเขา เว็บนี้เป็นเว็บธรรมะ
ไม่ใช่เว็บการเมือง เห็นอะไรที่ไม่ดีก็หัดเจริญสติบ้าง ไม่ใช่ปล่อยตัวปล่อยใจ
ปรุงแต่งจนออกอาการแบบนี้ ไม่งั้นคำที่เที่ยวว่ากล่าวชาวบ้านมันจะย้อนเข้าตัว :b32:


ความคิดเช่นโฮฮับนี่แหละพุทธศาสนาจึงดับสูญจากอินเดีย พุทธศาสนาเป็นของชาวพุทธทุกคน พุทธศาสนิกชนควรปกป้องป้องกัน เห็นอะไรไม่เป็นไปตามทำนองคลองธรรมแล้วไซร้ ควรแสดงออก มิใช่นั่งอมน้ำประปา อิๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 29 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 47 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร