วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 16:57  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 60 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2013, 03:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พูดแบบเต็มปากเต็มคำเลยว่า พวกเราในนี้ถ้ากล่าวถึง พรหมวิหารสี่ ก็จะเข้าใจว่า
เมตตาคือการให้ กรุณาคือการช่วย มุทิตาคือยินดี อุเบกขาปล่อยวาง

ที่กล่าวมามันไม่เกี่ยวกับจิตโดยตรง มันเป็นการกระทำทางกายและวาจา
กล่าวก็คือมันเป้นกายสังขารและวจีสังขาร พระพุทธองค์เน้นปฏิบัติที่ใจ

ดังนั้นการปฏิบัติในเรื่องพรหมวิหารสี่ในส่วนของใจ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง
รู้ว่า ความเป็นปรมัตถ์ของ พรหมวิหารเป็นอย่างไร พูดแบบนี้อาจจะงง
นั้นคือ พรหมวิหารสี่ในความเป็นจิต เจตสิกเป็นอย่างไร

พวกคุณๆในนี้ใครพออธิบายได้บ้าง :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2013, 05:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไหนลองว่าไปดิ จะไปทางไหน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2013, 06:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปรมัตถ์ คือ อะไร ผมยังไม่รู็เลย s002


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2013, 11:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ส.ค. 2011, 13:22
โพสต์: 79


 ข้อมูลส่วนตัว


เท่าที่อ่านในพระไตรปิฏก ปรม้ตถ์คือที่สุด สูงสุด หมายความว่าที่สุดหรือสูงสุดแห่งใจ เจตสิกเป็นเพียงอาการหรือช่องทางแสดงออกของใจ เพราะใจมีหน้าที่รู้และจำอย่างเดียวแสดงออกไม่ได้ ถ้าไม่มี รูปกับนามมาประกอบ เหมือน ฮาร์ทดิสที่มีข้อมูลครบ แต่แสดงอะไรให้เราเห็นไม่ได้ถ้าขาดอุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆ รวมถึงอาหารก็คือไฟฟ้านั้นเองขอรับ ถูกหรือเปล่าพิจารณาเองนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2013, 14:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บางท่านอาจคิดว่า "เมตตา"ในพรหมวิหาร เป็น จิตหรือเจตสิก
เมตตาไม่ได้เป็นจิตหรือเจตสิก ใจเราไม่มีสภาวะธรรมที่เรียกว่าเมตตาครับ

เห็นหลายๆท่านชอบพูดว่า มีใจเมตตา ในความเป็นจริง ใจเมตตามันไม่มี
พรหมวิหารสี่สิ่งที่เป็นสภาวะธรรมในใจเรา มีแค่ กรุณา มุทิตาและอุเบกขา

เมตตาเป็นกิเลสอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เกิด กรุณา มุทิตา ครับ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2013, 14:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
บางท่านอาจคิดว่า "เมตตา"ในพรหมวิหาร เป็น จิตหรือเจตสิก
เมตตาไม่ได้เป็นจิตหรือเจตสิก ใจเราไม่มีสภาวะธรรมที่เรียกว่าเมตตาครับ

เห็นหลายๆท่านชอบพูดว่า มีใจเมตตา ในความเป็นจริง ใจเมตตามันไม่มี
พรหมวิหารสี่สิ่งที่เป็นสภาวะธรรมในใจเรา มีแค่ กรุณา มุทิตาและอุเบกขา

เมตตาเป็นกิเลสอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เกิด กรุณา มุทิตา ครับ :b13:



เห็นคุณโฮฮับอธิบายแล้ว ก็ได้แต่สงสารกันค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2013, 15:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


SOAMUSA เขียน:
โฮฮับ เขียน:
บางท่านอาจคิดว่า "เมตตา"ในพรหมวิหาร เป็น จิตหรือเจตสิก
เมตตาไม่ได้เป็นจิตหรือเจตสิก ใจเราไม่มีสภาวะธรรมที่เรียกว่าเมตตาครับ

เห็นหลายๆท่านชอบพูดว่า มีใจเมตตา ในความเป็นจริง ใจเมตตามันไม่มี
พรหมวิหารสี่สิ่งที่เป็นสภาวะธรรมในใจเรา มีแค่ กรุณา มุทิตาและอุเบกขา

เมตตาเป็นกิเลสอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เกิด กรุณา มุทิตา ครับ :b13:



เห็นคุณโฮฮับอธิบายแล้ว ก็ได้แต่สงสารกันค่ะ

ไหนลองเอาอภิธรรมมาคุยให้ความรู้หน่อยว่า ที่ผมพูดแท้จริงคืออะไร
ส่งข้อความส่วนตัวไปปรึกษาลุงหมานก่อนก็ได้
หรือจะมาช่วยกันแสดงความเห็นทั้งสองเลยก็ดีครับ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2013, 15:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
เมตตาเป็นกิเลสอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เกิด กรุณา มุทิตา ครับ :b13:

ไม่เคยได้ยินใครสอนอย่างนี้ .. พี่โฮฯ ลองอธิบายเพิ่มเติมหน่อย ก็ดีนะขอรับ
อย่าพูดเรื่อยเปื่อย ..


:b1:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2013, 16:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


เคยได้ยินคำนี้มั้ย - ตัอมาจากพระไตรปิฏก

"บุคคลเสพอยู่ซึ่งเมตตาวิมุติ กรุณาวิมุติ มุทิตาวิมุติ และอุเบกขาวิมุติในกาลอันควร ไม่ยินร้ายด้วยโลกทั้งปวง พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด"

หรือ

มีจิตพ้นดีแล้วมีปัญญาพ้นดีแล้ว เป็นผู้มีความบริบูรณ์ มีพรหมจรรย์อยู่จบแล้ว เป็นอุดมบุรุษ เป็นบรมบุรุษ
ถึงความบรรลุปรมัตถะ พระอรหันต์นั้น มิได้ก่อ มิได้กำจัด กำจัดตั้งอยู่แล้ว มิได้ละ มิได้ถือมั่น
ละแล้วจึงตั้งอยู่ มิได้เย็บ มิได้ยก เย็บแล้วจึงตั้งอยู่ มิได้ดับ มิได้ให้ลุก ดับแล้วจึงตั้งอยู่
ดำรงอยู่ เพราะเป็นผู้ประกอบด้วยศีลขันธ์ สมาธิขันธ์ ปัญญาขันธ์ วิมุตติขันธ์ วิมุตติญาณ
ทัสสนขันธ์ ซึ่งเป็นอเสขะ แทงตลอดอริยสัจจะแล้วจึงตั้งอยู่ ก้าวล่วงตัณหาอย่างนี้แล้ว จึง
ตั้งอยู่ ดับไฟกิเลสแล้วจึงตั้งอยู่ ตั้งอยู่เพราะเป็นผู้ไม่ต้องไปรอบ ยึดถือเอายอดแล้ว ตั้งอยู่
ตั้งอยู่เพราะเป็นผู้ซ่องเสพวิมุติ ดำรงอยู่ด้วยเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาอันบริสุทธิ์ ดำรง
อยู่ด้วยความบริสุทธิ์โดยส่วนเดียว ดำรงอยู่ในความเป็นผู้ไม่แข็งกระด้างด้วยตัณหาทิฏฐิ มานะ
อันบริสุทธิ์ ตั้งอยู่เพราะเป็นผู้หลุดพ้น ตั้งอยู่เพราะเป็นผู้สันโดษ ตั้งอยู่ในส่วนสุดรอบแห่งขันธ์
ธาตุ อายตนะ คติ อุปบัติ ปฏิสนธิ ภพ สงสาร วัฏฏะ ตั้งอยู่ในภพอันมีในที่สุด ตั้งอยู่
ในสรีระที่สุด ทรงไว้ซึ่งร่างกายที่สุด.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2013, 18:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เคยสงสัยกันบ้างมั้ยว่า ในเรื่องของเจตสิก๕๒ทำไมครูบาอาจารย์ ถึงไม่ได้กล่าวถึง
"เมตตา"เลย ครูบาอาจารย์กำหนดไว้ว่า กรุณา มุทิตาเป็นโสภณเจตสิก
แต่ไม่มี เมตตากับอุเบกขา

แบบนี้ เมตตากับอุเบกขาเป็นอะไรใครพอรู้ ใครแย้งใครกล่าวหาผมว่าพูดเรื่อยเปื่อย
เอาเหตุผลภูมิรู้มาแสดงหน่อยครับ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2013, 18:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คงสงสัยกันไม่รู้จบละขอรับ .. พี่โฮฯ ..

อย่างบารมีสิบ ทำไมมีแต่ เมตตากับอุเบกขา ไม่มี กรุณา - มุทิตา ..
ที่กระผมสงสัยคือ พี่โฮว่า เมตตาเป็นกิเลสอย่างหนึ่ง
มันเป็นยังไงละ .. ขอรับ
:b13:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2013, 18:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
เคยสงสัยกันบ้างมั้ยว่า ในเรื่องของเจตสิก๕๒ทำไมครูบาอาจารย์ ถึงไม่ได้กล่าวถึง
"เมตตา"เลย ครูบาอาจารย์กำหนดไว้ว่า กรุณา มุทิตาเป็นโสภณเจตสิก
แต่ไม่มี เมตตากับอุเบกขา

แบบนี้ เมตตากับอุเบกขาเป็นอะไรใครพอรู้ ใครแย้งใครกล่าวหาผมว่าพูดเรื่อยเปื่อย
เอาเหตุผลภูมิรู้มาแสดงหน่อยครับ :b13:

การที่เราจะอธิบายเมตตาที่มีองค์ประกอบของเจตสิกมันจะยุ่งยากสลับซับซ้อนไปรึป่าวค่ะ คุนน้องเข้าใจความหมายที่พี่จะสื่อ
เมตตา ยกตัวอย่าง เมตตาเป็นอาการของเจตสิกถ้าเมตตาเกิดแล้วไม่มีสัมมาสติ เมตตาจะกลายเป็นกิเลสได้เช่นกัน ความสงสารก็เป็นเมตตา ถ้าขาดสัมมาสติแล้วละก็ เมตตานั้นจะกลายเป็นกิเลสทำให้เราทุกข์แทนผู้อื่น ยกตัวอย่าง ลูกเราทำผิดและโดนครูตี เราเกิดความเมตตาลูกเพราะสงสาร และไปเอาเรื่องกับครูโดยไม่ถามถึงสาเหตุความเป็นมาเป็นไป(ขาดสัมมาสติ)ทำให้กลายเป็นวิบัติของเมตตาได้เช่นกัน :b1: (ก็ตอบตามปัญญาของตนนะไม่ได้ลอกเลียนแบบใครผิดถูกก็ชี้แนะด้วย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2013, 19:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับพี่โฮฮับ
การมองแบบปรมัตถะนั้นก็แค่มองดูแค่รู้อยู่อย่างนั้น ไม่ต้องพูดอธิบายใดๆ นี่แหละมองแบบปรมัตถ์ครับ

ขอบคุณครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2013, 20:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
เมตตานั้นจะกลายเป็นกิเลสทำให้เราทุกข์แทนผู้อื่น

เมตตาความรัก กรุณาความสงสาร ยากช่วยให้พ้นทุกข์ แต่เกินวิสัย
จึงเป็นทุกข์ เศร้าเสียใจ ที่เป็นดังนี้ก็เพราะขาด อุเบกขา ..


nongkong เขียน:
เราเกิดความเมตตาลูกเพราะสงสารและไปเอาเรื่องกับครู

ไม่ใช่เมตตากรุณาหรอก แต่เป็นเพราะขาดเหตุผล

อาฆาตพยาบาทเป็นศัตรูที่ห่างของ เมตตา
ราคะสิเนหาเป็นศัตรูที่ใกล้ของ เมตตา ..


:b13: :b1:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2013, 21:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
nongkong เขียน:
เมตตานั้นจะกลายเป็นกิเลสทำให้เราทุกข์แทนผู้อื่น

เมตตาความรัก กรุณาความสงสาร ยากช่วยให้พ้นทุกข์ แต่เกินวิสัย
จึงเป็นทุกข์ เศร้าเสียใจ ที่เป็นดังนี้ก็เพราะขาด อุเบกขา ..


nongkong เขียน:
เราเกิดความเมตตาลูกเพราะสงสารและไปเอาเรื่องกับครู

ไม่ใช่เมตตากรุณาหรอก แต่เป็นเพราะขาดเหตุผล

อาฆาตพยาบาทเป็นศัตรูที่ห่างของ เมตตา
ราคะสิเนหาเป็นศัตรูที่ใกล้ของ เมตตา ..


:b13: :b1:

คุนน้องยังต้องเจริญความเพียรในเรื่องพรหมวิหารสี่ จ้ะ
เชื่อม่ะถ้าคุนน้องเอาออกให้ได้เสียซึ่งความยินร้าย จิตคุนน้องก็หลุดพ้นแล้ว
แต่ทำไม่ได้ :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย nongkong เมื่อ 25 เม.ย. 2013, 21:53, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 60 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 38 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร