วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 19:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=28



กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ธ.ค. 2012, 17:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
:b44: :b44: :b44:

วิธีแผ่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

อหํ อเวโร โหมิ
ขอข้าพเจ้าจงเป็นผู้ไม่มีศัตรูภายในและภายนอก

อหํ อพฺยาปชฺโช โหมิ
ขอข้าพเจ้าจงเป็นผู้ไม่มีความวิตก กังวล เศร้าโศก พยาบาท

อหํ อนีโฆ โหมิ
ขอข้าพเจ้าจงเป็นผู้ไม่มีความลำบาก กาย ใจ พ้นจากอุปัทวภัย

อหํํ สุขี อตฺตานํ ปริหรามิ
ขอข้าพเจ้าจงเป็นผู้นำอัตภาพที่เป็นอยู่ด้วยความสุขกาย สุขใจ ตลอดกาลนาน

อหํ ทุกฺขา มุจฺจามิ
ขอข้าพเจ้าจงพ้นจากความทุกข์กาย ทุกข์ใจ

อหํ ยถาลทฺธสมฺปตฺติโต มา วิคจฺฉามิ
ขอข้าพเจ้าอย่าได้สูญสิ้นจากความสุข ความเจริญที่มีอยู่

อหํ กมฺมสฺสโก
เรามีกรรมเป็นของของเรา

ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปจฺฉิมาย ทิสาย อุตฺตราย ทิสาย ทกฺขิณาย ทิสาย

ปุรตฺถิมาย อนุทิสาย ปจฺฉิมาย อนุทิสาย อุตฺตราย อนุทิสาย ทกฺขิณาย อนุทิสาย
เหฏฐิมาย ทิสาย อุปริมาย ทิสาย

สพฺเพ สตฺตา สพฺเพ ปาณา สพฺเพ ภูตา สพฺเพ ปุคฺคลา สพฺเพ อตฺตภาวปริยาปนฺนา
สพฺพา อิตฺถิโย สพฺเพ ปุริสา สพฺเพ อริยา สพฺเพ อนริยา สพฺเพ เทวา สพฺเพ มนุสฺสา
สพฺเพ วินิปาติกา

อเวรา โหนฺตุ อพฺยาปชฺชา โหนฺตุ อนีฆา โหนฺตุ สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตุ

ทุกฺขา มุจฺจนฺตุ ยถาลทฺธสมฺปตฺติโต มา วิคจฺฉนฺตุ กมฺมสฺสกา



:b42: ขอสัตว์ทั้งหลาย สัตว์ที่มีชีวิตทั้งหลาย สัตว์ที่ปรากฏชัดทั้งหลาย บุคคลทั้งหลาย

สัตว์ที่มีอัตภาพทั้งหลาย หญิงทั้งหลาย ชายทั้งหลาย พระอริยบุคคลทั้งหลาย

ปุถุชนทั้งหลาย เทวดาทั้งหลาย มนุษย์ทั้งหลาย พวกวินิปาติกอสุราทั้งหลาย


:b42: ที่อยู่ทางทิศตะวันออก ที่อยู่ทางทิศตะวันตก ที่อยู่ทางทิศเหนือ ที่อยู่ทางทิศใต้

ที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

ที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ที่อยู่ทางทิศเบื้องล่าง ที่อยู่ทางทิศเบื้องบน


:b42: จงไม่มีศัตรูภายใน และภายนอกทั่วกัน จงไม่มีความวิตกกังวล เศร้าโศก

พยาบาททั่วกัน จงไม่มีความลำบากกาย ใจ พ้นจากอุปัทวภัยทั่วกัน จงนำอัตภาพที่เป็นอยู่

ด้วยความสุขกาย สุขใจ ตลอดกาลนานทั่วกัน จงพ้นจากความทุกข์กาย ทุกข์ใจ

อย่าได้สูญสิ้นจากความสุข ความเจริญที่มีอยู่ มีกรรมเป็นของของตน



:b8: :b8: :b8:
(เวรีภายในหรือศัตรูภายใน คือ โทสะ)

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 16:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2013, 08:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านด้วยค่ะ :b8:
:b46: :b44: :b44: :b44: :b46:

เมตตา เกิดได้กับทุกๆ คน
-เมตตาเทียม ที่มีสภาพการยึคในบุคคล
-เมตตาแท้ อาศัยเมตตาเทียมไปก่อน
ถึงเป็นเมตตาแท้ก็ตาม แต่ยังไม่ทำลายขอบเขตในแต่ละบุคคล

เมตตามีประโยชน์อย่างมหาศาล
๑. เมตตาธรรม ช่วยอุดหนุนกรุณา มุทิตา อุเบกขา
๒. ช่วยให้การสร้างบารมีอื่นๆ สำเร็จ
๓. เหตุนี้พระองค์จึงทรงแสดงเมตตาไว้เป็นอันดับแรก

ข้อเสนอแนะในการแผ่เมตตา
๑. ต้องมีความรู้ความเข้าใจในคำบริกรรม
การแผ่ไปในบุคคลตามลำดับที่เป็นไปในบุคคล ๑๒ และทิศทั้ง ๑๐
๒. ต้องท่องคำบริกรรมทั้งบาลี และคำแปลให้ได้
๓. ต้องแผ่จนเกิดความชำนาญ
๔. อย่าให้คำพูดแรงกว่าความรู้สึก

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2013, 16:29 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: สาธุ ขอโมทนาคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2013, 12:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 380&Z=7409

เมตตสูตรที่ ๘
[๓๐๘] กุลบุตรผู้ฉลาดในประโยชน์ ปรารถนาเพื่อจะตรัสรู้สันตบท
พึงบำเพ็ญไตรสิกขา กุลบุตรนั้นพึงเป็นผู้อาจหาญ เป็นผู้
ตรง ซื่อตรง ว่าง่าย อ่อนโยน ไม่เย่อหยิ่ง สันโดษ
เลี้ยงง่าย มีกิจน้อย มีความประพฤติเบา มีอินทรีย์อันสงบ
แล้ว มีปัญญาเครื่องรักษาตน ไม่คะนอง ไม่พัวพันในสกุล
ทั้งหลาย และไม่พึงประพฤติทุจริตเล็กน้อยอะไรๆ ซึ่ง
เป็นเหตุให้ท่านผู้รู้เหล่าอื่นติเตียนได้ พึงเจริญเมตตาใน
สัตว์ทั้งหลายว่า ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นผู้มีสุข มีความเกษม
มีตนถึงความสุขเถิด สัตว์มีชีวิตเหล่าใดเหล่าหนึ่งมีอยู่ เป็น
ผู้สะดุ้งหรือเป็นผู้มั่นคง ไม่มีส่วนเหลือ สัตว์เหล่าใดมี
กายยาวหรือใหญ่ ปานกลางหรือสั้น ผอมหรือพี ที่เรา
เห็นแล้วหรือไม่ได้เห็น อยู่ในที่ไกลหรือในที่ใกล้ ที่เกิด
แล้วหรือแสวงหาที่เกิด ขอสัตว์ทั้งหมดนั้นจงเป็นผู้มีตน
ถึงความสุขเถิด สัตว์อื่นไม่พึงข่มขู่สัตว์อื่น ไม่พึงดูหมิ่น
อะไรเขาในที่ไหนๆ ไม่พึงปรารถนาทุกข์ให้แก่กันและกัน
เพราะความโกรธ เพราะความเคียดแค้น มารดาถนอมบุตร
คนเดียวผู้เกิดในตน แม้ด้วยการยอมสละชีวิตได้ ฉันใด
กุลบุตรผู้ฉลาดในประโยชน์ พึงเจริญเมตตามีในใจไม่มี
ประมาณในสัตว์ทั้งปวง แม้ฉันนั้น กุลบุตรนั้นพึงเจริญ
เมตตามีในใจไม่มีประมาณ ไปในโลกทั้งสิ้น ทั้งเบื้องบน
เบื้องต่ำ เบื้องขวาง ไม่คับแคบ ไม่มีเวร ไม่มีศัตรู
กุลบุตรผู้เจริญเมตตานั้นยืนอยู่ก็ดี เดินอยู่ก็ดี นั่งอยู่ก็ดี
นอนอยู่ก็ดี พึงเป็นผู้ปราศจากความง่วงเหงาเพียงใด ก็พึง
ตั้งสตินี้ไว้เพียงนั้น บัณฑิตทั้งหลายกล่าววิหารธรรมนี้
ว่าเป็นพรหมวิหารในธรรมวินัยของพระอริยเจ้านี้ และกุลบุตร
ผู้เจริญเมตตาไม่เข้าไปอาศัยทิฐิ เป็นผู้มีศีลถึงพร้อมแล้ว
ด้วยทัศนะ นำความยินดีในกามทั้งหลายออกได้แล้ว ย่อม
ไม่ถึงความนอนในครรภ์อีกโดยแท้แล ฯ

จบเมตตสูตรที่ ๘

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2013, 12:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอเชิญฟัง

๑๐๓ เมตตาภาวนา

พระอาจารย์สมทบ ปรกฺกโม - เสียง : บรรยายธรรม

http://www.puthakun.org/puthakun/index. ... &Itemid=88

:b8: ขออนุโมทนาสาธุในบุญกุศลทุกๆ ท่านที่เข้ามาอ่านหรือฟังค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2013, 16:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


อัปปมัญญากัมมัฎฐาน

:b47: เมตตากัมมัฏฐาน :b47:

หิตาการปฺปวตฺติ ลกฺขณา
มีความเป็นไปแห่ง กาย วาจา ใจ ในอันที่จะอำนวยประโยชน์สุขให้แก่สัตว์ทั้งหลายเป็นลักษณะ

หิตูปสํหาร รสา
มีการนำประโยชน์สุขให้แก่สัตว์ทั้งหลายอย่างใกล้ชิด เป็นกิจ

อาฆาตวินย ปจฺจุปฎฺฐานา(ปัจจุปัฏฐานา)
มีการบำบัดความอาฆาต เป็นผล

มนาปภาวทสฺสนํ ปทฎฺฐานา(ปทัฏฐานา)
มีการพิจารณาแต่ความดีที่น่าพึงพอใจของสัตว์ทั้งหลาย โดยไม่มีการนึกถึงสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม เป็นเหตุใกล้

พฺยาปาทูปสโม สมฺปตฺติ
การสงบความพยาบาทลงได้เป็นเวลานาน เป็นความสมบูรณ์ของเมตตา

สิเนหสมฺภโว วิปตฺติ
การเกิดขึ้นแห่งตัณหาที่เหนียวแน่น เป็นความเสื่อมเสียแก่เมตตา

ราโค อาสนฺนปจฺจตฺถิโก
ราคะ เป็นข้าศึกใกล้ของเมตตา

พฺยาปาโท ทูรปจฺจตฺถิโก
พยาบาท เป็นข้าศึกไกลของเมตตา

:b45: :b45: :b45:

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2013, 10:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


:b47: กรุณากัมมัฏฐาน :b47:

ปรทุกฺขาปนยนาการปฺปวตฺติ ลกฺขณา

มีความเป็นไปแห่ง กาย วาจา ใจ ในอันที่จะบำบัดทุกข์ของผู้อื่นให้ปราศจากไป เป็นลักษณะ

ปรทุกฺขาสหน รสา
มีความอดกลั้นนิ่งดูดายอยู่ไม่ได้ต่อทุกข์ของผู้อื่น และอยากช่วย เป็นกิจ

อวิหึ สา ปจฺจุปฏฺฐานา(ปัฏฐานา)
มีการไม่เบียดเบียนผู้อื่น เป็นผล

ทุกฺขาภิภูตานํ อนาถภาวทสฺสน ปทฏฺฐานา(ปทัฏฐานา)
การพิจารณาเห็นบุคคลที่ตกอยู่ในความทุกข์ ไร้ที่พึ่งเป็นเหตุใกล้

วิหึ สูปสโม สมฺปตฺติ
ความสงบแห่งโทสจิตตุปปาทะในอันที่จะทำการเบียดเบียนสัตว์ เป็นความสมบูรณ์แห่งกรุณา

โสกสมฺภโว วิปตฺติ
การเกิดขึ้นแห่งความเศร้าโศก เป็นความเสื่อมเสียแก่กรุณา

เคหสิตํ โทมนสฺสํ อาสนฺนปจฺจตฺถิกํ
ความเสียใจที่เนื่องด้วยกามคุณอารมณ์เป็นข้าศึกใกล้

วิหึ สา ทูรปจฺจตฺถิกา
ความเบียดเบียนสัตว์ เป็นข้าศึกไกล


:b53: :b53: :b53:

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 10:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


:b47: มุทิตากัมมัฏฐาน :b47:

ปโมทน ลกฺขณา
มีการบรรเทิงใจในคุณความดี ทรัพย์ บริวาร ความสุข ของผู้อื่น เป็นลักษณะ

อนิสฺสายน รสา
มีการไม่ริษยาในคุณความดี ทรัพย์ บริวาร ความสุข ของผู้อื่น เป็นกิจ

อรติวิฆาต ปจฺจปฏฺฐานา(ปัฎฐานา)
ทำลายความริษยา เป็นผล

ปรสมฺปตฺติทสฺสน ปทฏฺฐานา(ปทัฎฐานา)
มีการรู้เห็นความเจริญด้วยคุณความดี ทรัพย์ บริวาร ความสุขของผู้อื่นเป็นเหตุใกล้

อรติวูปสโม สมฺปตฺติ
มีการสงบจากความไม่พอใจในสมบัติของผู้อื่นเป็นความสมบูรณ์แห่งมุทิตา

ปหาสสมฺภโว วิปตฺติ
ความสุข รื่นเริง โอ้อวด กำหนัด เกิดขึ้น เป็นความเสื่อมเสียแก่มุทิตา

เคหสิตํ โสมนสฺสํ อาสนฺนปจฺจตฺถิกํ
มีความดีใจที่เนื่องด้วยกามคุณอารมณ์เป็นข้าศึกใกล้

อรติ ทูรปจฺจตฺถิกา
มีความไม่ยินดี ไม่สบายใจในความเจริญของผู้อื่น เป็นข้าศึกไกล

:b46: :b46: :b46:

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2013, 22:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


:b47: อุเบกขากัมมัฏฐาน :b47:

สตฺเตสุมชฺฌตฺตาการปฺปวตฺติ ลกฺขณา
มีอาการเป็นไปอย่างกลางในสัตว์ทั้งหลาย เป็นลักษณะ

สตฺเตสุสมภาวทสฺสน รสา
มีการมองดูสัตว์ทั้งหลายด้วยความเสมอกันเป็นกิจ

ปฏิฆานุนยวูปสม ปจฺจุปฏฺฐานา(ปัฏฐานา)
มีการสงบจากความเกลียดและไม่มีความรักในสัตว์ั้หลาย เป็นผล

กมฺมสฺสกา สตฺตา เต กมฺมสฺส รุจิจยา สุขีตา วา ภิวสฺสนฺติ ทุกฺขโต วา
ปัญญาที่พิจารณาเห็นการกระทำของตนเป็นของตนเอง เป็นไปอย่างนี้ว่า

มุจฺจิสฺสนฺติ ปตฺตสมปตฺติโต วา น
"สัตว์ทั้งหลายมีการกระทำของตนเป็นของตนเอง

ปริหายิสฺสนฺตีติ เอวํ ปวตฺตกมฺมสฺส กตาทสฺสน ปทฏฺฐานา(ปทัฏฐานา)
จะมีความสุขหรือพ้นจากทุกข์ หรือจักไม่เสื่อมจากโภคสมบัติของตนที่มีอยู่เหล่านี้
ด้วยความประสงค์ของผู้หนึ่งผู้ใดนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยดังนี้"เป็นเหตุใกล้

ปฏิฆานุนย วูปสโม สมฺปตฺติ
การสงบจากความเกลียดและไม่มีความรักเป็นความสมบูรณ์ของอุเบกขา

เคหสิตาย อญฺญาณุเปกฺขาย สมฺภโว วิปตฺติ
การเกิดขึ้นแห่ง อญาณุเบกขา โดยอาศัยกามคุณอารมณ์เป็นความเสื่อมเสียแก่อุเบกขา

อญาณุเปกฺขา อาสนฺนปจฺจตุถิกา
การวางเฉยด้วยอำนาจแห่งโมหะ เป็นข้าศึกใกล้

ราคปฏิฆา ทูรปจฺจตุถิกา
ราคะและโทสะ เป็นข้าศึกไกล

:b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47:
:b8: :b8: :b8:

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2014, 12:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
:b44: :b44: :b44:

อัปปมัญญา ภาวนา ที่จะนำมาลงนี้ จะอ่านเป็นความรู้แล้วแผ่ตามนั้นก็ได้ หรืออ่านทำความเข้าใจเพิ่มเติมก็ได้เพราะได้ขยายรายละเอียดมากกว่าเดิม เมื่ออ่านแล้วจะเข้าใจความหมายเพิ่มมากขึ้นค่ะ นำมาจาก พระมหาประนอม ธมฺมาลงฺกาโร

ท่านจะแผ่เหมือนเดิมก็ได้ค่ะ จะสะดวกและสั้นกว่า ดิฉันก็แผ่ตามเดิมอย่างข้างต้นค่ะ เพราะจำได้แผ่เมื่อไรที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องดูเนื้อหา แต่ถ้าท่านใดสะดวกแบบที่จะลงใหม่นี้ก็ขอเชิญแผ่แบบยาวๆ นี้ก็ดีค่ะ จะละเอียดดีค่ะ ทั้งสองแบบดีทั้งนั้นแหละค่ะ ขอให้หมั่นแผ่ทุกวันหรือบ่อยได้แค่ไหนตามแต่ท่านจะทำนะคะ


อัปปมัญญา ภาวนา


อหํ อเวโร โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้า จงเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่มีภัย ไม่ศัตรูภายใน และไม่มีศัตรูภายนอก

อหํ อพฺยาปชฺโช โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้า จงเป็นผู้ปราศจากความพยาบาท ความเศร้าโศกและความวิตกกังวล อันเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์กาย ทุกข์ใจ

อหํ อนีโฆ โหมิ
ขอข้าพเจ้าจงเป็นผู้ไม่มีความลำบากกาย ลำบากใจ และพ้นจากอุปัทวภัย

อหํํ สุขี อตฺตานํ ปริหรามิ
ขอข้าพเจ้าจงเป็นผู้ดำรงอัตตภาพที่เป็นสุข เช่นนี้ตลอดไปสิ้นกาลนานเทอญ

.............................................

มม มาตาปิตโร จ
มารดาและบิดา ของข้าพเจ้าทั้งหลายด้วย

มม อาจาริยา จ
อุปัชฌา อาจารย์ ของข้าพเจ้าทั้งหลายด้วย

มม ญาติมิตฺตา จ
ญาติและมิตร ของข้าพเจ้าทั้งหลายด้วย

มม สพฺรหฺมจาริโน จ
เพื่อนสพรหมจารี ผู้ร่วมเจริญ ของข้าพเจ้าทั้งหลายด้วย

อเวรา โหนตุ
ขอจงเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่มีภัย ไม่มีศัตรูภายใน และไม่มีศัตรูภายนอก

อพฺยาปชฺโช โหนฺตุ
ขอจงเป็นผู้ปราศจากความพยาบาท ความเศร้าโศก และความวิตกกังวล อันเป็นเหตุ
ให้เกิดความทุกข์กายทุกข์ใจ

อนีโฆ โหนฺตุ
ขอจงเป็นผู้ไม่มีความลำบากกาย ลำบากใจ และพ้นจากอุปัทวภัย

สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตุ
ขอจงเป็นผู้ดำรงอัตตภาพที่เป็นสุข เช่นนี้ตลอดไป สิ้นกาลนานเทอญ

...........................................

อิมสฺสมึ อาราเม สพฺเพ โยคิโน
พระโยคี ผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่าน ในอาราม(สถานที่, วัด)นี้

อิมสฺสมึ อาราเม สพฺเพ ภิกฺขู
พระภิกษุทุกๆ องค์ในอารามฯ นี้

อิมสฺสมึ อาราเม สพฺเพ สามเณรา
สามเณร ทุกๆ รูป ในอารามฯ นี้

อิมสฺสมึ อาราเม อุปาสกอุปาสิกาโย จ
อุบาสก และอุบาสิกา ทุกๆ ท่าน ทั้งที่อยู่ในอารามนี้ และทั้งที่ไม่ได้อยู่ในอารามนี้ก็ดี

อมฺหากํ จตุปจฺจยทายกา จ
และทุกๆ ท่านที่บริจาคปัจจัย ๔ แก่พวกเราด้วย

อมฺหากํ อารกฺขา เทวดา
เทพยดาทุกๆ องค์ ที่ปกป้องคุ้มครองพวกเรา

อิมสฺสมึ วิหาเร
ในวัดนี้

อิมสฺสมึ อาวาเส
ในอาวาสนี้

อิมสฺสมึ อาราเม อารกฺขา เทวตา จ
ตลอดจนเทพยดาทั้งหลาย ที่ทำหน้าที่ปกปักษ์รักษาอารามนี้


สพฺเพ สตฺตา
สรรพสัตว์ทั้งหลาย

สพฺเพ ปาณา
สรรพสัตว์ทั้งหลายที่กำลังเกิด

สพฺเพ อตฺตภาวปริยาปนฺนา
สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เกิดแล้ว และยังมีชีวิตอยู่

สพฺพา อิตฺถิโย
ผู้หญิงทั้งหลาย

สพฺเพ ปุริสา
ผู้ชายทั้งหลาย

สพฺเพ อนริยา
ปุถุชนทั้งหลาย

สพฺเพ เทวา
เทพยดาทั้งหลาย

สพฺเพ มนุสสา
มนุษย์ทั้งหลายทุกๆ ท่าน

สพฺเพ วินิปาติกา
วินิปาติกาเทพยดา และวินิปาติกาอสุราทุกๆ ตน

..................................................

ทุกฺขา มุจฺจนฺตุ
ขอให้ท่านที่กล่าวนามมานี้ จงพ้นจากความทุกข์กาย ความทุกข์ใจเถิด


ยถาลทฺธสมฺปตฺติโต มา วิคจฺฉนฺตุ
ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย อย่าได้ปราศจากความสุข ความเจริญ ที่ตนมีอยู่เถิด


กมฺมสฺสกา สพฺเพ สตฺตา
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ล้วนมีกรรมเป็นของตน

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2014, 13:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


ปุรตฺถิมาย ทิสาย
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ในทิศตะวันออก

ปจฺฉิมาย ทิสาย
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ในทิศตะวันตก

อุตฺตราย ทิสาย
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ในทิศเหนือ

ทกฺขิณาย ทิสาย
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ในทิศใต้

ปุรตฺถิมาย อนุทิสาย
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ในทิศตะวันออกเฉียงใต้

ปจฺฉิมาย อนุทิสาย
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

อุตฺตราย อนุทิสาย
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

ทกฺขิณาย อนุทิสาย
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ในทิศตะวันตกเฉียงใต้

เหฏฐิมาย ทิสาย
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ในทิศเบื้องล่าง ตั้งแต่เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิลงมาจนถึงอเวจีนรก

อุปริมาย ทิสาย
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ในทิศเบื้องบน ตั้งแต่อเวจีนรกขึ้นมาจนถึงเนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ

..........................................
อุทธํ ยาว ภวคฺคา จ
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ในเบื้องบน กำหนดเอาภวัคคภูมิ ๓

อโธ ยาว อวีจิโต จ
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ในเบื้องล่าง กำหนดเอาอเวจีนรก

สมนฺตา จกฺกวาเฬสุ จ
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ในเบื้องขวาง กำหนดเอาภายในจักรวาฬ

เย สตฺตา ปถวีจรา
สรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่าใด ที่เที่ยวไปในแผ่นดิน และอาศัยอยู่ตามแผ่นดิน
............................................


อพฺยาปชฺชา จ
ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น
จงอย่าพยาบาท ปองร้าย ให้เกิดความทุกข์กาย ทุกข์ใจ แก่กันและกันเลย

นิเวรา จ
ขอจงอย่าได้มีเวร ก่อความทุกข์ แก่กันและกันเลย

นิทฺทุกฺขา จ
ขอจงอย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย

จานุปทฺทวา
ของจงอย่ามี อุปัทวภัย อันตรายใดๆ เลย
...........................................


อุทฺธํ ยาว ภวคฺคา จ
ในเบื้องบน กำหนดเอาภวัคคภูมิ ๓

อโธ ยาว อวีจิโต จ
ในเบื้องล่าง กำหนดเอาอเวจีนรก

สมนฺตา จกฺกวาเฬสุ จ
ในเบื้องขวาง กำหนดเอาภายในจักรวาฬ

เย สตฺตา อุทเกจรา
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่อยู่ในน้ำ และเที่ยวไปในน้ำเหล่าใดมีอยู่

..........................................
อพฺยาปชฺชา จ
ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น
จงอย่าพยาบาท ปองร้าย ให้เกิดความทุกข์กาย ทุกข์ใจ แก่กันและกันเลย

นิเวรา จ
ขอจงอย่าได้มีเวร ก่อความทุกข์ แก่กันและกันเลย

นิทฺทุกฺขา จ
ขอจงอย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย

จานุปทฺทวา
ขอจงอย่ามี อุปัทวภัย อันตรายใดๆ เลย

......................................

อุทฺธํ ยาว ภวคฺคา จ
ในเบื้องบน กำหนดเอาภวัคคภูมิ ๓

อโธ ยาว อวีจิโต จ
ในเบื้องล่าง กำหนดเอาอเวจีนรก

สมนฺตา จกฺกวาเฬสุ จ
ในเบื้องขวาง กำหนดเอาภายในจักรวาฬ

เย สตฺตา อากาเสจรา
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่อยู่ในอากาศ และเที่ยวไปในอากาศเหล่าใดมีอยู่

..........................................
อพฺยาปชฺชา จ
ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น
จงอย่าพยาบาท ปองร้าย ให้เกิดความทุกข์กาย ทุกข์ใจ แก่กันและกันเลย

นิเวรา จ
ขอจงอย่าได้มีเวร ก่อความทุกข์ แก่กันและกันเลย

นิทฺทุกฺขา จ
ขอจงอย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย

จานุปทฺทวา
ขอจงอย่ามี อุปัทวภัย อันตรายใดๆ เลย



:b8: :b8: :b8:


(หมายเหตุ เนื้อความนี้ต่อเนื่องกันหมดค่ะ ที่ตีเส้น...........คั่นไว้นั้น เพราะจะได้สะดวกในการสวดค่ะ)

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2018, 18:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2008, 09:34
โพสต์: 1322


 ข้อมูลส่วนตัว


4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2024, 13:45 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร