ไปรษณีย์ไทยยันแสตมป์เซเว่นใช้ส่งจดหมายไม่ได้ คาดผิดพลาดจากการคัดแยกที่มีมาก หากพบคิดค่าปรับที่ผู้รับ 5 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า(6 ก.ย.) หลังจากที่โลกออนไลน์โดยเฉพาะในเฟซบุ๊ก ได้มีการส่งต่อภาพจดหมายซึ่งใช้แสตมป์รักเมืองไทยของเซเว่น-อีเลฟเว่น (7-11) ซึ่งมีมูลค่าดวงละ 1 บาท สำหรับสะสมเพื่อใช้แลกสินค้า มาติดซองจดหมายแล้วส่งไปรษณีย์และมีตราประทับของไปรษณีย์ไทย ซึ่งหมายความว่ามีการส่งจดหมายดังกล่าวได้จริงนั้น

นายปิยะวัฒน์ มหาเปารยะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) กล่าวว่า ขอยืนยันว่าแสตมป์ของเซเว่นฯ ไม่สามารถใช้เพื่อส่งจดหมายได้ การส่งจดหมายจะใช้แสตมป์ของไปรษณีย์ไทยเท่านั้น ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นคาดว่าคงเป็นความผิดพลาดในการคัดแยกจดหมายของพนักงานไปรษณีย์ไทย เนื่องจากในแต่ละวันจะมีจดหมายเป็นจำนวนมาก

นายปิยะวัฒน์ กล่าวต่อว่า หากพบว่าใช้แสตมป์เซเว่นฯ ในการติดซองจดหมาย พนักงานไปรษณีย์ไทยจะดำเนินการคิดค่าปรับที่ผู้รับปลายทาง โดยแบ่งเป็นค่าปรับสำหรับดำเนินการจัดส่ง 2 บาท และค่าแสตมป์ 3 บาท เนื่องจากแสตมป์ของเซเว่นฯ ไม่ถือว่าเป็นแสตมป์จึงตีว่าไม่ได้ติดแสตมป์ในจดหมาย

news.sanook.com

เห็นข่าวนี้แล้วอดขำไม่ได้ ใครหนอเป็นคนต้นคิด คิดได้ยังไงว่าเอาแสตมป์ 7 มาใช้ส่งจดหมายได้

เซเว่นเขาทำออกมาให้ดูเหมือนว่าเป็นแสตมป์ เพื่อใช้ในธุรกิจของเขาเท่านั้น ใช้ได้แต่ที่ 7 เท่านั้นล่ะ
ไม่นึกว่าจะมีคนคิดไปได้ว่าใช้เอามาส่งจดหมาย คิดได้ไง ทำไปได้ ขำอีกที

เดี๋ยวกระทู้คงมี พรายน้ำเข้ามา ว่าแล้วก็เชิญซะเลยดีกว่า

เอ้า

โฮกฮาก ว่าไง โฮกฮาก ทางนี้ๆ จุ๊บุ๊ จุ๊บุ๊ จุ๊บุ๊ ด่วน ๆ ๆ

บางคนเห็นเป็นเรื่องตลก
นักสะสมแสตมป์มองเห็นคุณค่า ความผิดพลาดที่มีมูลค่า

กระทู้แบบนี้เข้าเรียกว่ากระทู้ไม่สร้างสรร อาจเรียกได้เต็มปากเลยว่า
กระทู้ด้อยปัญญา แสดงใหเห็นถึงจิตใต้สำนึกจขกทว่าเป็นคนเช่นไร

แต่นั้นแหล่ะ มีเหตุย่อมมีผล มีกรรมย่อมต้องมีวิบาก คิดดีทำดีย่อมได้ดี
คิดชั่วทำชั่ว ย่อมได้ชั่ว

ผลชั่วหรือวิบากที่กล่าวไม่ใช่ใครอื่น มันเป็นผลกรรมของจขกทเอง
จิตอกุศลของจขกทที่เพ่งโทษคนอื่น แล้วเกิดการเยาะเย้ย ถากถางเขา
ที่ไหนได้ ผลกรรมของจขกทมันย้อนกลับมาแสดงให้เห็นว่า...
จขกทเป็นคนด้อยปัญญา ขาดการพินิจวิเคราะห์ว่า สิ่งที่เกิดมันมีสาเหตุมาจากอะไร


มันไม่มีใครเป็นต้นคิดหรอก เพียงแต่มันเกิดความเข้าใจผิด ในวัตถุและบัญญัติ
การที่เสียงดำมาหัวเราะตลกขบขัน คนที่เอาแสตมป์เซ่เว้นไปส่งจดหมาย
อันที่จริงคนที่น่าหัวเราะเยาะที่สุดก็คือเสียงดำเองนั้นแหล่ะ

เรื่องนี้มันเป็นเรื่องความเข้าใจผิดของผู้ส่งจดหมาย อันเกิดจากการเอา
บัญญัติของภาษาต่างประเทศมาใช้ทับศัพท์ นั้นก็คือ...การไม่แบ่งแยก
หรือเรียกสิ่งต่างๆให้ตรงตัวลงไป แทนที่จะเรียก แสตมป์
ควรจะแยกหรือเรียกให้ถูกกาลเทศะ นั้นก็คือ อย่าดัดจริตเอาภาษาฝรั่งมาใช้
ในภาษาไทย เพราะมันจะทำให้เข้าใจผิด

อย่างแสตมป์ที่ใช้ส่งจดหมาย ควรจะเรียกว่า...ดวงตราไปรษณีย์
หรือถ้าเป็นแสตมป์ที่ใช้แลกใช้แถม ควรเรียกว่า....ดวงตราเซ่เว้น

ถ้าเซ่เว้นมันคิดแบบที่เสียงดำพูด ไอ้เซเว้นมันก็เลวเกินกว่าที่จะบรรยายแล้ว
มันมาดูถูกลูกค้าตัวเอง ทั้งๆที่ความผิดพลาดที่เกิด ว่ากันตามจริงแล้ว มันก็เกิดจาก
ทางเซ่เว้นเองนั้นแหล่ะ ดันไปเรียกของแถมตัวเองว่า...แสตมป์เซ่เว้น

ว่าโดยลักษณะแล้ว ภาษาต่างประเทศที่เรียกว่า แสตมป์ มันมีลักษณะของการใช้งาน
ที่ต้องผ่านการประทับตราจากผู้ที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ มันจึงจะสมบูรณ์ถึงเรียกได้ว่า..
การแสตมป์

ผู้ที่สามารถเรียกดวงตราของตนได้ก็คือ ไปรษณีย์
เพราะดวงตรานั้นจะต้องผ่านการประทับตรายางของทางการไปรษณึย์เสียก่อน
จึงจะสามารถนำส่งให้แก่ผู้รับได้

แต่ดวงตราของเซ่เว้น เป็นการแลกเปลี่ยนกันเฉยๆ ไม่ได้มีการประทับตรา
ดังนั้นการที่เซ่เว้นใช้เรียกดวงตราของตนว่า แสตมป์ มันใช้ไม่ได้มันผิด

เชิญเสียงดำขำไปคนเดียวเถอะ เพราะไม่มีใครเข้าขำกับเสียงดำหรอก
เพราะอะไรรู้มั้ย ก็เพราะมันแสดงให้เห็นถึง จิตใจของผู้ที่ปราศจาก
ความเมตตา กรุณา ชอบเหยียบย้ำซ้ำเติมผู้อื่น ทั้งๆที่ความผิดพลาดนั้น
ไม่ได้เกิดจากความประมาท
อาการหัวเราะเยาะของเสียงดำมันก็เหมือน เสียงดำไปเห็นคนตาบอดที่เดินอยู่บนทางเท้า
ที่มีใครไม่รู้มาเปิดฝาท่อไว้แล้วไม่ปิด จนทำคนตาบอดเดินตกท่อ
แทนที่เสียงดำจะประนามคนที่เปิดฝาท่อแล้วไม่ปิด กลับหัวเราะเยาะคนตาบอด
(อุปมาอุปไมยให้ดูน่ะ ไม่ต้องคิดมาก )

ไอ้อาการแบบนี้เขาเรียกว่า เชิญแก้เกี้ยว รู้ๆอยู่ว่าเราต้องเข้ามา
เลยออกอาการ....ปากกล้าขาสั่นดิกๆ

ก็เหมาะกับโฮกฮากดี โฮกฮากนิยมชมชอบเรื่องแบบนี้ เพราโฮกฮากเป็นคนแบบนี้ จึงชอบเข้ามาแสดงภูมไปในทางนี้ ส่วมแบบผมเขาเรียกเล่าสู่กันฟัง ผ่านแล้วผ่านไป แต่ไม่ได้เอามายึดเป็นตังเม เป็นวิบากเหมือนโฮกฮากนี่นา

และคนที่น่าขบขันยิ่งกว่าก็คือโฮกฮากนั่นแหละ เกิดเป็นคนมันก็ต้องมีอารมณ์ขันบ้าง ผมเดาว่าขนาดคนติดแสตมป์มันคงจะขำตัวเองด้วยซ้ำ แต่โฮกฮากกลับเห็นเป็นเรื่องการเพ่งโทษ บ่งบอกถึงปัญญาของโฮกฮากเองว่าเป็นคนไร้ปัญญา เห็นอะไรก็จับไปยึด จับไปเกาแน่นซะหมด พลอยทำให้จิตใจเศร้าหมอง หดหู่ ทำร้ายตัวเอง

พอจิตใจขุ่นมัวแล้วจะคิดการใดมันก็เป็นไปในทางที่ย่ำแย่ แบบนี้ไงโฮกฮาก คิดไปต่างๆนานาว่ากลัวคนอื่นเขาจะทำร้าย กลัวคนอื่นเขาซ้ำเติม นี่ก็เพราะโฮกฮากเพ่งโทษผู้อื่นตลอดเวลา แถมมาบอกไม่ให้คนอื่นคิดมาก คนอื่นน่ะเขาไม่ได้คิดอะไร ผ่านแล้วผ่านไป แต่โฮกฮากนี่สิ่ คิดไปไหนต่อไหนก็ไม่รู้ สงสัยจะแค้นฝังหุ่น ^^

เอ๊า ก็ถึงได้จุดธูปเชิญแล้วไง เอ!! หรือว่าเราลืมเครื่องเซ่นนะ ถึงได้ออกอาการแยกเขี้ยวแบบนี้^^