วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 15:39  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2012, 17:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว



รูปภาพ

ข้อที่ควรเว้นในการเจริญกัมมัฏฐาน

๑. กมฺมารามตา ประกอบกิจอื่นเสีย
เช่น เขียนหนังสือ อ่านหนังสือ สวดมนต์ เป็นต้น
อันไม่ใช่กิจในการเจริญกัมมัฏฐาน

๒. ภสฺสรามตา
มัวแต่คุยกันเสีย ไม่ตั้งใจกำหนด

๓. นิทฺทารามตา
มัวแต่เห็นแก่นอน นอนมากทำความเพียรน้อย
โยคีบุคคลนอนแต่น้อยเพียงคืน ละ ๔ ชั่วโมง
ตั้งแต่ ๒ นาฬิกา ถึง ๖ นาฬิกาก็พอ กลางวันห้ามนอน
จงนึกถึงคำเก่าที่กล่าวไว้ว่า คชาพี ฤาษีผอม นั้นเป็นเครื่องเตือนใจ

๔. สงฺคาณิการามตา
พอใจคลุกคลีอยู่กับหมู่คณะ ไม่ชอบอยู่ตามลำพังโดยเฉพาะ

๕. อคุตฺตทฺวารตา
ไม่สำรวมทวารทั้ง ๖ ด้วยดี

๖. โภชเน อมตฺตตญฺญุตา
ไม่รู้จักประมาณในการบริโภค คือกินอิ่มเกินไป
คะเนว่าอีก ๕ คำจะอิ่ม ให้หยุด เป็นพอดี

๗. ยถาวิมุตฺตํ จิตฺตํ น ปจฺจเวกฺขติ
จิตจับอารมณ์ใด ไม่กำหนดอารมณ์นั้น
หรือจิตตกไปโดยอาการใด ไม่กำหนดรู้โดยอาการนั้น

:b42: :b42:

ข้อที่ควรปฏิบัติในการเจริญกัมมัฏฐาน

นอกจากต้องปฏิบัติตามนัยที่ตรงกันข้ามกับข้อที่ควรเว้น
เช่น ประกอบแต่กิจที่เพ่งกัมมัฏฐานโดยไม่ประกอบกิจอื่น
ตั้งใจกำหนดโดยไม่คุยกับผู้อื่น เป็นต้น ทั้ง ๗ ข้อนั้นแล้ว
ยังมีข้อที่ควรปฏิบัติอยู่อีกมากมายหลายประการ
ที่สำคัญอันควรยกขึ้นมากล่าวในที่นี้นั้น ได้แก่

๑. ต้องมีขันติ
มีความอดทนพร้อมทั้ง ๓ ประการ คือ

ก. อดทนต่อความยากลำบาก
ข. อดทนต่อทุกขเวทนา
ค. อดทนต่อความเย้ายวนของกิเลส


๒. เพื่อให้ขันติธรรมนั้นสมบูรณ์ จะต้องตั้งใจอย่างแน่วแน่
ในการเจริญกัมมัฏฐานว่า แม้เนื้อจะเหือด เลือดจะแห้ง
คงเหลือแต่ หนัง เอ็น กระดูก ก็จะไม่ท้อถอยละเลิกไป
จนกว่าจะบรรลุถึงธรรมที่กำลังบำเพ็ญเพียรอยู่นี้

๓. เพื่อให้สมประสงค์ตามข้อ ๒ จะต้องกระทำอินทรียให้เสมอกัน คือ
สัทธากับปัญญา จะต้องเสมอกันคู่หนึ่ง
วิริยะกับสมาธิ อีกคู่หนึ่งนี้ก็จะต้องให้เสมอกันด้วย

ทั้งนี้เพราะ
- ถ้าสัทธากล้า ก็ทำให้เชื่ออย่างงมงาย ไม่คำนึงถึงเหตุผล
- สัทธาอ่อน ก็ทำให้ความเลื่อมใสน้อยเกินควร ชวนจะให้เลิกปฏิบัติ
- ปัญญากล้า ทำให้คิดออกนอกลู่นอกทาง
- ปัญญาอ่อน ทำให้ไม่เข้าถึงเหตุผลตามความเป็นจริง
- วิริยะกล้า ทำให้คิดพล่าน ฟุ้งซ่านไป
- วิริยะอ่อน ทำให้เกียจคร้าน
- สมาธิกล้า ทำให้ติดในความสุขนั้นเสีย
- สมาธิอ่อน ทำให้ไม่ถึงอุปจารภาวนา อัปปนาภาวนา
ส่วนสติไม่มีเกิน มีแต่ขาดอยู่ร่ำไป

:b53: :b53:

กระทู้จากบอร์ดเก่าโพสโดยคุณ med_med
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=10293

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 20 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร