วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 04:41  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 45 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2012, 11:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.ย. 2012, 15:17
โพสต์: 7


 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉันอยู่กินกับสามีมาเกือบ 9 ปีแล้ว มีลูกสาวด้วยกัน 1 คนอายุ 4 ขวบ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาเขาจะคิด และคอยพูดกล่าวหาว่าเรามีชู้ตลอด ไม่ว่าจะทำอะไร ไปทางไหนเป็นอันต้องมีเรื่องมีชู้เข้ามาเกี่ยวข้องตลอดเวลา ทะเลาะกันเกือบทุกวันถึงกับลงไม่ลงมือตบตีดิฉันก็มีบ่อยครั้ง มีอยู่ครั้งถึงกับต้องขอเลิกถ้าไม่เลิกก็ให้ไปพบจิตรเวช.....เขามีความระแวงตลอดเวลา.....เราถามเขาว่าทำไมถึงคิดแบบนี้ตลอด เราไปทำอะไรให้นักหนา ไม่เคยมีมูล เอาอะไรมาพูด เห็นผิด เข้าใจผิดๆ คิดไปเองตลอด ก่อนที่ดิฉันจะแต่งงานกับเขา ดิฉันก็ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีเพื่อนชาย มีมาชอบแต่เราไม่ชอบ มีเราชอบเขา เขาไม่ชอบเรา ชีวิตก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่สมัยเรียน จนทำงาน และก็มารู้จักเขา.....เขาเป็นแฟนคนแรกและคนสุดท้ายในชาตินี้ของดิฉัน ดิฉันไม่เคยสนใจ ไม่เคยคิด ไม่เคยกระทำ สิ่งที่เป็นการนอกใจเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตั้งแต่รู้จักเขา ยอมรับเขาเป็นแฟน พูดง่ายๆ บริสุทธิ 100% เราก็พูดให้เขาว่าเป็นแบบ แต่เขาไม่เคยเชื่อ เขาบอกเป็นไปไม่ได้หรอกที่ดิฉันจะไม่เคยมีแฟนมาก่อน.....และยังมีการคิดอีกด้วยว่าเคยผ่านผู้ชายมาบ้างแล้วด้วยซ้ำ......แม้กระทั่งลูกเขายังคิดเลยว่าอาจจะไม่ใช่ลูกเขา อยากพาลูกไปตรวจ DNA ดิฉันก็บอกตามสบาย อยากจะทำอะไรก็ทำ ......ทุกวันนี้ดิฉันหาความกับชีวิตครอบครัวไม่ได้เลย ที่ทำงานก็มีปัญหา มีปัญหาเรื่องการเงินเรื่องหนี้สิน ..... หาทางออกไปพึงธรรมะบ้าง พยายามปฏิบัติธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิบ้าง ก็จะสงบเฉพาะตอนปฏิบัติเท่านั้น.....ตกเย็นเลิกงานกลับบ้านก็ต้องมาอยู่กับสามีที่คอยหาเรื่องเราต่างๆ นาๆ ทะเลาะเสียงดังให้ลูกเห็นเกือบทุกวัน ลูกก็เริ่มโต เริ่มรู้เรื่องแล้ว ดิฉันก็ไม่อยากจะทะเลาะให้ลูกเห็น แต่พอเขาพูดอะไรในเชิงกล่าวหาว่าดิฉันมีชู้ ดิฉันก็ทนไม่ได้สักครั้ง ปี๊ดขึ้นมาทันที เพราะดิฉันมั่นใจเกิน 100 ว่าดิฉันไม่เคยทำไม่เคยแม้แต่คิดนอกใจ ศิลข้อ 3 ดิฉันรักษามาได้ตั้งแต่เกิดแน่นอน .....ดิฉันทุกข์เหลือเกิน เบื่อหน่ายมาก เหนื่อยใจเหลือเกิน.....เขาไม่เคยรับรู้ถึงความทุกข์ของดิฉันเลยว่ามันมากมายขนาดไหน.....ดิฉันต้องทนให้เขาดูถูกความเป็นลูกผู้หญิงของดิฉันมาตลอดเกือบ 9 ปี.....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2012, 11:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว




1-1-1.jpg
1-1-1.jpg [ 42.79 KiB | เปิดดู 10981 ครั้ง ]
คิดว่าจะมีทางแก้ไขให้เขาเข้าใจได้มั้ยล่ะ ถ้าได้ก็ทำ ถ้าไม่ได้ก็เลิกเถอะจะไปอยู่กับความทุกข์ทำไม แนะนำสั้นๆ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2012, 13:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ย. 2012, 15:16
โพสต์: 18


 ข้อมูลส่วนตัว


เจ้าจุ๋มเอ๋ย เราจักบอกความจริงแก่เจ้า ณ บัดนี้ อันว่าชีวิตไซร้บางครั้งมันก็เป็นเยี่ยงนี้แล
เจ้าจุ๋มเอ๋ย อาจเป็นเวรกรรมแต่ปางก่อนหรือนี่กระไร เจ้าอาจเคยมีเวรกรรมในปางก่อนที่คิด
ระแวง ไม่ไว้ใจใคร คิดไม่ดีกับเขาไปหมด ชาตินี้เจ้าจึงได้เสวยผลกรรมเยี่ยงนี้แล มันเป็น
อนิจจัง เวรกรรมปางก่อนเจ้ามิอาจล่วงรู้ได้ว่าเคยไปทำกรรมต่อผู้ใดไว้บ้าง เจ้าจงใจกว้าง
พยายามเข้าใจปัญหาและหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับตัวเจ้าเอง

สำหรับเราจักแนะนำเจ้าในเบื้องต้นว่า หากเจ้ามีจิตใจบริสุทธิ์และมั่นคงแล้ว เจ้าจงเปิดใจ
ให้กว้างและยอมรับว่าว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้า ณ เพลานี้ เป็นสิ่งที่เจ้าต้องชดให้สามี และ
สามีเจ้านั้นอาจเป็นเจ้ากรรมนายเวรมาเอาคืน เจ้าจงหมั่นไหว้พระ สวดมนต์ แผ่เมตตา
และขออโหสิกรรมในทุกๆครั่งที่เจ้าแผ่เมตตา ผลกรรมอาจเบาบางลงได้นะเจ้านะ

การจมอยู่กับความทุกข์นั้นมันมีที่มานะเจ้าจุ๋มเอ๋ย การใช้ชีวิตคู่นั้นมันใช้แค่ความรักอย่าง
เดียวไม่พอดอกหนา มันต้องมีการเสียสละบ้าง รู้จักเข้าอกเข้าใจกัน เห็นใจ และให้อภัยกัน
สำหรับคนที่เรารักแล้วเราสามารถให้อภัยเขาได้ทั้งชีวิตเลยมิใช่ดอกหรือ อาจมีบางคนแนะ
นำว่าทนไม่ได้ก็เลิกกันไป อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ในบางครั้งการเลิกกันนั้นมิได้เป็น
บทสรุปของปัญหาซะทีเดียวดอกหนา เพราะหากเวรกรรมของเจ้านั้นยังมิสิ้นสุดสามีของ
เจ้าก็จะยังเข้ามาวนเวียนอยู่ในชีวิตของเจ้าอยู่ร่ำไป หรือหากแม้นมีคนใหม่ก็มิสามารถรับ
รองได่ว่าเจ้าอาจเจอปัญหาเยี่ยงเดิมอีกหรือหนักกว่าก็มิอาจคาดคะเนได้เลยนะเจ้าเอ๋ย

สิ่งที่เราได้กล่าวกับเจ้านั้นขอให้เจ้าลองพยายามทำดูก่อนเถิด ขั้นแรกเจ้าจงอยู่ประกบ
สามีตลอดเวลามิให้ห่างกาย ไปไหนไปด้วย ทำอันใดก็ทำด้วย หรือมากที่สุดเท่าที่จัก
เพียรทำได้เถิด หมั่นชักนำสามีไปในทางที่ดี เพราะสามีเจ้านั้นขาดภาวะผู้นำ ขอให้เจ้า
จงเป็นฝ่ายนำสามีอย่างเงียบๆอย่าให้โจ่งแจ้งไป อย่าให้สามีรู้ตัว เพราะมิมีชายใดดอก
ที่อยากจะให้อิสสตรีเป็นผู้นำ เจ้าจงหมันชักพาสามีไปในทางทีดี เช่นพาไปวัดทำบุญ
กรรมฐาน บ่อยๆ พาสามีไปเที่ยวที่ๆเจริญหูเจริญตา เจริญใจ ธรรมชาติ น้ำตก ภูกเขา
อยู่ใกล้สามีให้มาก พูดจากับสามีให้ไพเราะ นุ่มนวล บางทีอาจช่วยคลายความคลาง
แคลงในใจสามีลงได้บ้าง สามีเจ้านั้นมีกรรมที่คอยระแวงเจ้าอยู่ตลอดเวลา เจ้าจงใช้
สติในการแก้ปัญหาให้มาก ใช้น้ำเย็นเข้าลูบ อาจผ่อนหนักให้เป็นเบาบ้างก็ได้นะเจ้าจุ๋มเอ๋ย

ขอให้เจ้าประสพความสำเร็จ มีชีวิตคู่ที่มีความสุขด้วยประการทั้งปวงเทอญเจ้าจุ๋มน้อยเอ๋ย
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2012, 15:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


joomw1975 เขียน:
ดิฉันอยู่กินกับสามีมาเกือบ 9 ปีแล้ว มีลูกสาวด้วยกัน 1 คนอายุ 4 ขวบ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาเขาจะคิด และคอยพูดกล่าวหาว่าเรามีชู้ตลอด ไม่ว่าจะทำอะไร ไปทางไหนเป็นอันต้องมีเรื่องมีชู้เข้ามาเกี่ยวข้องตลอดเวลา ทะเลาะกันเกือบทุกวันถึงกับลงไม่ลงมือตบตีดิฉันก็มีบ่อยครั้ง มีอยู่ครั้งถึงกับต้องขอเลิกถ้าไม่เลิกก็ให้ไปพบจิตรเวช.....เขามีความระแวงตลอดเวลา.....เราถามเขาว่าทำไมถึงคิดแบบนี้ตลอด เราไปทำอะไรให้นักหนา ไม่เคยมีมูล เอาอะไรมาพูด เห็นผิด เข้าใจผิดๆ คิดไปเองตลอด ก่อนที่ดิฉันจะแต่งงานกับเขา ดิฉันก็ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีเพื่อนชาย มีมาชอบแต่เราไม่ชอบ มีเราชอบเขา เขาไม่ชอบเรา ชีวิตก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่สมัยเรียน จนทำงาน และก็มารู้จักเขา.....เขาเป็นแฟนคนแรกและคนสุดท้ายในชาตินี้ของดิฉัน ดิฉันไม่เคยสนใจ ไม่เคยคิด ไม่เคยกระทำ สิ่งที่เป็นการนอกใจเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตั้งแต่รู้จักเขา ยอมรับเขาเป็นแฟน พูดง่ายๆ บริสุทธิ 100% เราก็พูดให้เขาว่าเป็นแบบ แต่เขาไม่เคยเชื่อ เขาบอกเป็นไปไม่ได้หรอกที่ดิฉันจะไม่เคยมีแฟนมาก่อน.....และยังมีการคิดอีกด้วยว่าเคยผ่านผู้ชายมาบ้างแล้วด้วยซ้ำ......แม้กระทั่งลูกเขายังคิดเลยว่าอาจจะไม่ใช่ลูกเขา อยากพาลูกไปตรวจ DNA ดิฉันก็บอกตามสบาย อยากจะทำอะไรก็ทำ ......ทุกวันนี้ดิฉันหาความกับชีวิตครอบครัวไม่ได้เลย ที่ทำงานก็มีปัญหา มีปัญหาเรื่องการเงินเรื่องหนี้สิน ..... หาทางออกไปพึงธรรมะบ้าง พยายามปฏิบัติธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิบ้าง ก็จะสงบเฉพาะตอนปฏิบัติเท่านั้น.....ตกเย็นเลิกงานกลับบ้านก็ต้องมาอยู่กับสามีที่คอยหาเรื่องเราต่างๆ นาๆ ทะเลาะเสียงดังให้ลูกเห็นเกือบทุกวัน ลูกก็เริ่มโต เริ่มรู้เรื่องแล้ว ดิฉันก็ไม่อยากจะทะเลาะให้ลูกเห็น แต่พอเขาพูดอะไรในเชิงกล่าวหาว่าดิฉันมีชู้ ดิฉันก็ทนไม่ได้สักครั้ง ปี๊ดขึ้นมาทันที เพราะดิฉันมั่นใจเกิน 100 ว่าดิฉันไม่เคยทำไม่เคยแม้แต่คิดนอกใจ ศิลข้อ 3 ดิฉันรักษามาได้ตั้งแต่เกิดแน่นอน .....ดิฉันทุกข์เหลือเกิน เบื่อหน่ายมาก เหนื่อยใจเหลือเกิน.....เขาไม่เคยรับรู้ถึงความทุกข์ของดิฉันเลยว่ามันมากมายขนาดไหน.....ดิฉันต้องทนให้เขาดูถูกความเป็นลูกผู้หญิงของดิฉันมาตลอดเกือบ 9 ปี.....

ไปตามสามีมา ไม่ชอบฟังความข้างเดียว :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2012, 16:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2012, 15:53
โพสต์: 410


 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้มาโปรด เขียน:
เจ้าจุ๋มเอ๋ย เราจักบอกความจริงแก่เจ้า ณ บัดนี้ อันว่าชีวิตไซร้บางครั้งมันก็เป็นเยี่ยงนี้แล
เจ้าจุ๋มเอ๋ย อาจเป็นเวรกรรมแต่ปางก่อนหรือนี่กระไร เจ้าอาจเคยมีเวรกรรมในปางก่อนที่คิด
ระแวง ไม่ไว้ใจใคร คิดไม่ดีกับเขาไปหมด ชาตินี้เจ้าจึงได้เสวยผลกรรมเยี่ยงนี้แล มันเป็น
อนิจจัง เวรกรรมปางก่อนเจ้ามิอาจล่วงรู้ได้ว่าเคยไปทำกรรมต่อผู้ใดไว้บ้าง เจ้าจงใจกว้าง
พยายามเข้าใจปัญหาและหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับตัวเจ้าเอง

สำหรับเราจักแนะนำเจ้าในเบื้องต้นว่า หากเจ้ามีจิตใจบริสุทธิ์และมั่นคงแล้ว เจ้าจงเปิดใจ
ให้กว้างและยอมรับว่าว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้า ณ เพลานี้ เป็นสิ่งที่เจ้าต้องชดให้สามี และ
สามีเจ้านั้นอาจเป็นเจ้ากรรมนายเวรมาเอาคืน เจ้าจงหมั่นไหว้พระ สวดมนต์ แผ่เมตตา
และขออโหสิกรรมในทุกๆครั่งที่เจ้าแผ่เมตตา ผลกรรมอาจเบาบางลงได้นะเจ้านะ

การจมอยู่กับความทุกข์นั้นมันมีที่มานะเจ้าจุ๋มเอ๋ย การใช้ชีวิตคู่นั้นมันใช้แค่ความรักอย่าง
เดียวไม่พอดอกหนา มันต้องมีการเสียสละบ้าง รู้จักเข้าอกเข้าใจกัน เห็นใจ และให้อภัยกัน
สำหรับคนที่เรารักแล้วเราสามารถให้อภัยเขาได้ทั้งชีวิตเลยมิใช่ดอกหรือ อาจมีบางคนแนะ
นำว่าทนไม่ได้ก็เลิกกันไป อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ในบางครั้งการเลิกกันนั้นมิได้เป็น
บทสรุปของปัญหาซะทีเดียวดอกหนา เพราะหากเวรกรรมของเจ้านั้นยังมิสิ้นสุดสามีของ
เจ้าก็จะยังเข้ามาวนเวียนอยู่ในชีวิตของเจ้าอยู่ร่ำไป หรือหากแม้นมีคนใหม่ก็มิสามารถรับ
รองได่ว่าเจ้าอาจเจอปัญหาเยี่ยงเดิมอีกหรือหนักกว่าก็มิอาจคาดคะเนได้เลยนะเจ้าเอ๋ย

สิ่งที่เราได้กล่าวกับเจ้านั้นขอให้เจ้าลองพยายามทำดูก่อนเถิด ขั้นแรกเจ้าจงอยู่ประกบ
สามีตลอดเวลามิให้ห่างกาย ไปไหนไปด้วย ทำอันใดก็ทำด้วย หรือมากที่สุดเท่าที่จัก
เพียรทำได้เถิด หมั่นชักนำสามีไปในทางที่ดี เพราะสามีเจ้านั้นขาดภาวะผู้นำ ขอให้เจ้า
จงเป็นฝ่ายนำสามีอย่างเงียบๆอย่าให้โจ่งแจ้งไป อย่าให้สามีรู้ตัว เพราะมิมีชายใดดอก
ที่อยากจะให้อิสสตรีเป็นผู้นำ เจ้าจงหมันชักพาสามีไปในทางทีดี เช่นพาไปวัดทำบุญ
กรรมฐาน บ่อยๆ พาสามีไปเที่ยวที่ๆเจริญหูเจริญตา เจริญใจ ธรรมชาติ น้ำตก ภูกเขา
อยู่ใกล้สามีให้มาก พูดจากับสามีให้ไพเราะ นุ่มนวล บางทีอาจช่วยคลายความคลาง
แคลงในใจสามีลงได้บ้าง สามีเจ้านั้นมีกรรมที่คอยระแวงเจ้าอยู่ตลอดเวลา เจ้าจงใช้
สติในการแก้ปัญหาให้มาก ใช้น้ำเย็นเข้าลูบ อาจผ่อนหนักให้เป็นเบาบ้างก็ได้นะเจ้าจุ๋มเอ๋ย

ขอให้เจ้าประสพความสำเร็จ มีชีวิตคู่ที่มีความสุขด้วยประการทั้งปวงเทอญเจ้าจุ๋มน้อยเอ๋ย
รูปภาพ



สอนดีเจ้าค่ะ เข้าใจง่าย สาธุนะเจ้าค๊า :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2012, 16:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2012, 15:53
โพสต์: 410


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
joomw1975 เขียน:
ดิฉันอยู่กินกับสามีมาเกือบ 9 ปีแล้ว มีลูกสาวด้วยกัน 1 คนอายุ 4 ขวบ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาเขาจะคิด และคอยพูดกล่าวหาว่าเรามีชู้ตลอด ไม่ว่าจะทำอะไร ไปทางไหนเป็นอันต้องมีเรื่องมีชู้เข้ามาเกี่ยวข้องตลอดเวลา ทะเลาะกันเกือบทุกวันถึงกับลงไม่ลงมือตบตีดิฉันก็มีบ่อยครั้ง มีอยู่ครั้งถึงกับต้องขอเลิกถ้าไม่เลิกก็ให้ไปพบจิตรเวช.....เขามีความระแวงตลอดเวลา.....เราถามเขาว่าทำไมถึงคิดแบบนี้ตลอด เราไปทำอะไรให้นักหนา ไม่เคยมีมูล เอาอะไรมาพูด เห็นผิด เข้าใจผิดๆ คิดไปเองตลอด ก่อนที่ดิฉันจะแต่งงานกับเขา ดิฉันก็ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีเพื่อนชาย มีมาชอบแต่เราไม่ชอบ มีเราชอบเขา เขาไม่ชอบเรา ชีวิตก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่สมัยเรียน จนทำงาน และก็มารู้จักเขา.....เขาเป็นแฟนคนแรกและคนสุดท้ายในชาตินี้ของดิฉัน ดิฉันไม่เคยสนใจ ไม่เคยคิด ไม่เคยกระทำ สิ่งที่เป็นการนอกใจเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตั้งแต่รู้จักเขา ยอมรับเขาเป็นแฟน พูดง่ายๆ บริสุทธิ 100% เราก็พูดให้เขาว่าเป็นแบบ แต่เขาไม่เคยเชื่อ เขาบอกเป็นไปไม่ได้หรอกที่ดิฉันจะไม่เคยมีแฟนมาก่อน.....และยังมีการคิดอีกด้วยว่าเคยผ่านผู้ชายมาบ้างแล้วด้วยซ้ำ......แม้กระทั่งลูกเขายังคิดเลยว่าอาจจะไม่ใช่ลูกเขา อยากพาลูกไปตรวจ DNA ดิฉันก็บอกตามสบาย อยากจะทำอะไรก็ทำ ......ทุกวันนี้ดิฉันหาความกับชีวิตครอบครัวไม่ได้เลย ที่ทำงานก็มีปัญหา มีปัญหาเรื่องการเงินเรื่องหนี้สิน ..... หาทางออกไปพึงธรรมะบ้าง พยายามปฏิบัติธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิบ้าง ก็จะสงบเฉพาะตอนปฏิบัติเท่านั้น.....ตกเย็นเลิกงานกลับบ้านก็ต้องมาอยู่กับสามีที่คอยหาเรื่องเราต่างๆ นาๆ ทะเลาะเสียงดังให้ลูกเห็นเกือบทุกวัน ลูกก็เริ่มโต เริ่มรู้เรื่องแล้ว ดิฉันก็ไม่อยากจะทะเลาะให้ลูกเห็น แต่พอเขาพูดอะไรในเชิงกล่าวหาว่าดิฉันมีชู้ ดิฉันก็ทนไม่ได้สักครั้ง ปี๊ดขึ้นมาทันที เพราะดิฉันมั่นใจเกิน 100 ว่าดิฉันไม่เคยทำไม่เคยแม้แต่คิดนอกใจ ศิลข้อ 3 ดิฉันรักษามาได้ตั้งแต่เกิดแน่นอน .....ดิฉันทุกข์เหลือเกิน เบื่อหน่ายมาก เหนื่อยใจเหลือเกิน.....เขาไม่เคยรับรู้ถึงความทุกข์ของดิฉันเลยว่ามันมากมายขนาดไหน.....ดิฉันต้องทนให้เขาดูถูกความเป็นลูกผู้หญิงของดิฉันมาตลอดเกือบ 9 ปี.....

ไปตามสามีมา ไม่ชอบฟังความข้างเดียว :b13:


อุ๋ยว่าผู้หญิงน้อยคนนะเจ้าค่ะ ที่พูดโกหก ส่วนใหญ่ผู้ชายทั้งนั้นชอบโกหก แหะๆๆ (เข้าข้างผู้หญิงด้วยกัน คริๆๆ ) :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2012, 17:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.ย. 2012, 15:17
โพสต์: 7


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณในความเมตตาค่ะ.....เคยคิดถึงเรื่องกรรมเหมือนกันค่ะ.....คิดว่าเมื่อชาติก่อนเราคงไปทำกับเขาไว้อย่างที่ท่านว่า.....เพราะมั่นใจเต็มร้อยว่าชาตินี้ไม่เคยแม้แต่ที่คิดนอกใจสามี......พยายามคิดถึงเวรกรรมเมื่อชาติก่อนเหมือนกันค่ะ......แต่พอสามีพูดอะไร ถามอะไร ที่แสดงถึงความสงสัยในตัวดิฉัน ลำดับแรกดิฉันก็ตอบตามความจริงทุกครั้ง แต่เขาไม่เคยเชื่อในคำตอบของดิฉัน.....ประมาณว่าเราตอบไม่ตรงกับที่เขาคิด เขาเห็น ที่เขาเข้าใจ......ดิฉันก็จะเริ่มไม่พอใจขึ้นมาทันที และก็จะโกรธมาก.....ก็จะเริ่มทะเลาะกันดิฉันก็จะเสียงดังด้วยความโกรธ.....สุดท้ายก็ทนไม่ไหว.....ทุกๆ วันต้องมาคอยคิดว่าวันนี้พอเลิกงานกลับบ้านไป จะเป็นอย่างไรบ้าง สามีจะพูดกล่าวหาอะไรเราอีก......ไม่มีความสุข.....ในการที่จะอยู่ร่วมกับสามีเลย......ไม่อยากร่วมชายคาเดี่ยวกับเขา.....ลูกก็สงสาร....แต่ดิฉันก็มีความอดทนไม่พอ ที่จะทนให้เขามากล่าวหาดิฉันได้ทุกครั้ง......พยายามคิดถึงเวรกรรมก็แล้ว กรรมบท 10 ก็คิดถึง เรื่องการไม่พูดคำหยาบคาย เพราะทะเลาะกันก็ต้องมีคำหยายคายออกมาตลอด รู้ว่าเป็นบาป แต่ก็ทำไม่ได้สักครั้ง ต่อเวรต่อกรรมกับเขาเกือบทุกวัน......ทุกข์มากค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2012, 17:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ย. 2012, 15:16
โพสต์: 18


 ข้อมูลส่วนตัว


joomw1975 เขียน:
ขอบคุณในความเมตตาค่ะ.....เคยคิดถึงเรื่องกรรมเหมือนกันค่ะ.....คิดว่าเมื่อชาติก่อนเราคงไปทำกับเขาไว้อย่างที่ท่านว่า.....เพราะมั่นใจเต็มร้อยว่าชาตินี้ไม่เคยแม้แต่ที่คิดนอกใจสามี......พยายามคิดถึงเวรกรรมเมื่อชาติก่อนเหมือนกันค่ะ......แต่พอสามีพูดอะไร ถามอะไร ที่แสดงถึงความสงสัยในตัวดิฉัน ลำดับแรกดิฉันก็ตอบตามความจริงทุกครั้ง แต่เขาไม่เคยเชื่อในคำตอบของดิฉัน.....ประมาณว่าเราตอบไม่ตรงกับที่เขาคิด เขาเห็น ที่เขาเข้าใจ......ดิฉันก็จะเริ่มไม่พอใจขึ้นมาทันที และก็จะโกรธมาก.....ก็จะเริ่มทะเลาะกันดิฉันก็จะเสียงดังด้วยความโกรธ.....สุดท้ายก็ทนไม่ไหว.....ทุกๆ วันต้องมาคอยคิดว่าวันนี้พอเลิกงานกลับบ้านไป จะเป็นอย่างไรบ้าง สามีจะพูดกล่าวหาอะไรเราอีก......ไม่มีความสุข.....ในการที่จะอยู่ร่วมกับสามีเลย......ไม่อยากร่วมชายคาเดี่ยวกับเขา.....ลูกก็สงสาร....แต่ดิฉันก็มีความอดทนไม่พอ ที่จะทนให้เขามากล่าวหาดิฉันได้ทุกครั้ง......พยายามคิดถึงเวรกรรมก็แล้ว กรรมบท 10 ก็คิดถึง เรื่องการไม่พูดคำหยาบคาย เพราะทะเลาะกันก็ต้องมีคำหยายคายออกมาตลอด รู้ว่าเป็นบาป แต่ก็ทำไม่ได้สักครั้ง ต่อเวรต่อกรรมกับเขาเกือบทุกวัน......ทุกข์มากค่ะ


เจ้าจุ๋มเอ๋ย เราจักบอกความจริงต่อเจ้าแล อันว่าเวรกรรมนั้นเราเพียงแต่ระลึกถึงมันเพื่อเตือนใจเราเพียงเท่านั้น ไม่สมควรเก็บมาอาดูรเพ้อรำพันหนา มันผ่านแล้วก็ผ่านไป อีกอย่าเราไม่รู้ว่าเราไปทำอะไรไว้หรือไม่ เพราะนั่นเป็นเรื่องของชาติที่แล้ว มิควรเก็บมาพิร่ำรำพันดอกหนา ขอเพียงระลึกเป็นสิ่งเตือนใจก็เพียงพอแล้วหนา

การทะเลาะกัน คำหยาบนั้นย่อมมี ก็เป็นเรื่องธรรมดา มิมีใครมิเคยกล่าวคำหยาบดอกหนา ขอให้เจ้าเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา อย่าไปเก็บมารู้สึกผิดโศกาอาดูร ให้หมองใจเลย แต่หากละได้ก็จงเพียรพยายามละเสีย การด่าทอ การกล่าวคำหยาบคาย นำมาซึ่งการใช้อารมณ์ทั้งสองฝ่าย เพราะฉนั้นจงละเสียเถิด อย่าไปต่อเวรต่อกรรมไม่จบสิ้นเลยเจ้าจุ๋มเอ๋ย

อย่างที่เรากล่าวแก่เจ้าแล้วไซร้ว่าชีวิตคู่ต้องมีผู้เสียสละ มีคนร้อน ต้องมีคนเย็น หากพากันร้อนทั้งสองฝ่าย ต่างฝ่ายต่างไม่ยอม ถ้าเช่นนั้นก็คงบ้านแตกนะเจ้าจุ๋มเอ๋ย คงต้องมีฝ่ายใดเป็นฝ่ายยอมซักคน อยู่ที่เจ้าจะยอมหรือจะให้สามีเป็นฝ่ายยอมล่ะเจ้าเอ๋ย หากให้สามียอม ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็จงดูจากสภาพเอาเถิดว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ แต่เราจักบอกเจ้าว่า อันว่าผู้ชายนั้นโดยสัญชาตญานแล้วน้อยมากที่จักเป็นฝ่ายยอม อาจเป็นเพราะว่าคิดว่าตนนั้นเป็นเพศที่มีกำลังมากกว่า มีศักดิ์ศรีกว่า เพราะฉนั้นเจ้าจักเป็นผู้เสียสละเป็นฝ่ายยอมหรือเจ้าจะให้สามียอมล่ะ

หากสามีของเจ้ามิยอมเชื่อใจเจ้าไซร้ เจ้าลองบอกให้สามีตามไปที่ทำงานเจ้าสิ่ ให้ไปนั่งเฝ้าเจ้าไว้ แล้วเจ้าก็พยายามอย่าอยู่ใกล้ผู้ชายหรือใช้โทรศัพท์ แม้กระทั่งกับหัวหน้าหรือเจ้านายเจ้าก็ควรเว้นระยะห่างให้มาก แต่วิธีนี้หมายถึงว่าสามีของเจ้าอาการหนักขั้นวิกฤติแล้วนะเจ้าเอ๋ย

อันตัวเราแนะนำเจ้าได้เพียงเบื้องต้นเท่านั้นแล เพราะอันที่จริงแล้ว เรามิรู้เลยว่าเจ้ากำลังเผชิญสถาณการณ์อันใดอยู่ เราเพียงแค่ดูเจ้าเล่าแต่มิได้สัมผัสสถาณการณ์จริง จึงอยากให้เจ้าเพียรพยายามตั้งสติและหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับครอบครัวของเจ้าเทอญ

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2012, 21:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมเคยมีน้องคนหนึ่งมาปรึกษาเรื่องอย่างนี้ ผมไม่อธิบายอะไรมาก ไม่ต้องบอกเวรกรรมอะไรหรอก ถามว่ามีความสุขมั้ยล่ะ อยู่ด้วยกันนะถ้าอยู่กับเขาแล้วมีความสุขก็อยู่ไป ถ้าไม่มีความสุขเขานำแต่ปัญหามาให้ไม่รู้จักจบสิ้น คุยกันกี่ครั้งๆก็เหมือนเดิม บอกตรงๆเลยเลิกได้ก็เลิกซะมันจบเรื่อง ก็แค่นั้นง่ายจะตาย ตอนนี้เห็นน้องคนนั้นมีความสุขหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส (แก้ได้ก็แก้ แก้ไม่ได้ก็เลิกจบ ชีวิตมีอะไรให้ทำอีกเยอะเชื่อเถอะครับ)ความสุขรออยู่ข้าหน้า ทุกอย่างเริ่มต้นได้เสมอ ถ้าใหม่ๆยังไม่มีความสุขเก่าๆไปจะมีความสุขได้อย่างไร อย่าฝืนเลยเสียเวลาเปล่า ด้วยความปรารถนาดี :b12:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2012, 01:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


joomw1975 เขียน:
ขอบคุณในความเมตตาค่ะ.....เคยคิดถึงเรื่องกรรมเหมือนกันค่ะ.....คิดว่าเมื่อชาติก่อนเราคงไปทำกับเขาไว้อย่างที่ท่านว่า.....เพราะมั่นใจเต็มร้อยว่าชาตินี้ไม่เคยแม้แต่ที่คิดนอกใจสามี......พยายามคิดถึงเวรกรรมเมื่อชาติก่อนเหมือนกันค่ะ......แต่พอสามีพูดอะไร ถามอะไร ที่แสดงถึงความสงสัยในตัวดิฉัน ลำดับแรกดิฉันก็ตอบตามความจริงทุกครั้ง แต่เขาไม่เคยเชื่อในคำตอบของดิฉัน.....ประมาณว่าเราตอบไม่ตรงกับที่เขาคิด เขาเห็น ที่เขาเข้าใจ......ดิฉันก็จะเริ่มไม่พอใจขึ้นมาทันที และก็จะโกรธมาก.....ก็จะเริ่มทะเลาะกันดิฉันก็จะเสียงดังด้วยความโกรธ.....สุดท้ายก็ทนไม่ไหว.....ทุกๆ วันต้องมาคอยคิดว่าวันนี้พอเลิกงานกลับบ้านไป จะเป็นอย่างไรบ้าง สามีจะพูดกล่าวหาอะไรเราอีก......ไม่มีความสุข.....ในการที่จะอยู่ร่วมกับสามีเลย......ไม่อยากร่วมชายคาเดี่ยวกับเขา.....ลูกก็สงสาร....แต่ดิฉันก็มีความอดทนไม่พอ ที่จะทนให้เขามากล่าวหาดิฉันได้ทุกครั้ง......พยายามคิดถึงเวรกรรมก็แล้ว กรรมบท 10 ก็คิดถึง เรื่องการไม่พูดคำหยาบคาย เพราะทะเลาะกันก็ต้องมีคำหยายคายออกมาตลอด รู้ว่าเป็นบาป แต่ก็ทำไม่ได้สักครั้ง ต่อเวรต่อกรรมกับเขาเกือบทุกวัน......ทุกข์มากค่ะ

คุณจุมโพครับ ผมว่าคุณเลิกโทษโน้นโทษนี่ แล้วลองสำรวจตัวเองก่อนไม่ดีหรือ
ไอ้อาการที่คุณแสดงความเห็นมา มันเกิดจากคุณมองออกไปข้างนอก ไม่มองตัวเอง

สามีคุณก็เป็นแบบเดียวกับคุณ เขามองคุณอยู่ครับ
การที่สามีคุณเขาระแวงคุณมันก็ต้องมีสาเหตุมาจากคุณ คุณไปทำอะไรให้สามีระแวงหรือเปล่า
การแสดงออกมันเปลี่ยนไปจากตอนที่รักกันใหม่ๆหรือเปล่า ไม่ใช่มองแต่สามีหาว่าเขา ระแวง
ถึงขนาดหาว่าเขาเป็นโรคจิต

ลองสำรวจตัวเองดูครับว่า ทำอะไรบ้างที่ผิดไปจากเดิม
แล้วค่อยมาตีอกชกหัวโทษผัวตัวเอง

จะบอกให้ครับตำราที่ว่า มารยาหญิงร้อยเล่มเกวียนมันเป็นเรื่องจริงนะครับ
นี่ผมไม่ได้จะว่าคุณให้เจ็บช้ำมากกว่าเดิมนะครับ เพียงแต่จะพูดเป็นกลางๆ
จะได้ไม่หลงเพราะ ส่วนใหญ่จะมีแต่คนปลอบเอาใจ แทนที่ปัญหามันจะคลี่คลาย
กลับทำให้เจ้าตัวหลงไปใหญ่ คิดว่าตัวเองถูกอยู่ฝ่ายเดียว :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2012, 17:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว




564576_151890981617521_924096206_n (Custom) (2).jpg
564576_151890981617521_924096206_n (Custom) (2).jpg [ 143.16 KiB | เปิดดู 10876 ครั้ง ]
stop

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2012, 09:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.ย. 2012, 15:17
โพสต์: 7


 ข้อมูลส่วนตัว


อยากจะบอกกับทุกท่านว่า.....สิ่งที่ดิฉันเข้ามาเล่าให้ฟังมันเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆ มันมีอะไรอีกมากมายที่ดิฉันพบเจอมา.....สิ่งทีดิฉันเล่าให้ฟังเบื้องต้น มันเป็นความจริงทุกประการไม่ได้แต่งเสริมเกินกว่าที่เกิดขึ้นจริงเลยแม้แต่น้อย แต่มันยังน้อยกว่าที่เกิดขึ้นจริงเสียอีก.....มันเป็นความรู้สึกหดหู่ใจ เหนื่อยใจ ทุข์ใจ ทรมารใจอย่างที่สุด.....จึงเข้ามาเว็ปนี้เพื่อขอคำปรึกษาเพื่อจะช่วยให้บรรเทาทุกข์ลงได้บ้าง......อย่างที่บอก "ดิฉัน ไม่เคย แม้แต่คิด นอกใจสามีเลย" นับตั้งแต่รู้จักกัน คบหาดูใจกัน จนแต่งงาน มีลูกด้วยกัน.....ดิฉันเคยบอกให้เขาพาดิฉันไปสาบานด้วยซ้ำ ดิฉันไม่กลัวเลย อยากจะพาไปสาบานที่ไหนก็เชิญ หาให้พอใจ สาบานให้ตายภายใน 3 วัน 7 วันก็ไม่กลัว รู้ตัวดีว่าตายไปก็ไม่ทางตกนรกไปรับเวรรับกรรมศีลข้อ 3 นี้แน่นอน....แต่เขาก็ไม่ยอม ดิฉันบอกแม้แต่ ผีสาง เทวดา ยังรู้ว่าดิฉันไม่เคยเป็นอย่างที่เขาคิดแม่แต่ครั้งเดียว......ดิฉันเคยบอกให้เขามาสืบหาความจริงที่บริษัทฯ เหมือนกันพนักงานมีร่วม 200 คนถ้าดิฉันเป็นอย่างที่เขาคิดคงไม่มีใครมาปิดบังความจริงให้ดิฉันหมดทั้ง 200 คนหรอก.....ดิฉันเลิกงานก็กลับบ้าน ไม่ทำ OT มีงานกินเลี้ยงสังสรรค์ ไม่ว่างานปีใหม่ งานเลี้ยงส่ง งานท่องเที่ยวประจำปี ดิฉันก็ไม่เคยไป......จนหัวหน้าหรือว่าเพื่อนร่วมงาน ตำหนิว่าดิฉันไม่มีสังคม ไม่ให้ความร่วมมือกับบริษัทฯ.....ดิฉัน ก็ไม่สนใจเพราะเขาไม่รู้ถ้าดิฉันอยู่หรือไปร่วมงานด้วย ดิฉันจะมีปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย.....ดิฉันไปไหนมาไหนกับเขาตลอดตั้งแต่แต่งงานกัน ไม่เคยไมไหนมาคนเดียว.....ไม่เหมือนกับคู่สามีภรรยาของเพื่อนร่วมงาน....ซึ่งเขาสามารถแยกกันกัน มีความเป็นอิสระบ้าง.......แต่สำหรับดิฉันไม่มีเลย ยิ่งกว่าติดคุกเสียอีก......

สุดท้ายนี้ ดิฉันก็ยังยืนยันว่าสิ่งที่ดิฉันเล่ามาเป็นความจริงทุกประการ.....ไม่ได้เล่าเพื่อให้ใครมาสงสาร หรือเพื่อให้ใครมาตำหนิสามีดิฉัน.....เล่าเพื่อขอคำแนะนำเพื่อว่าจะมีใครที่มีปัญหาเหมือนดิฉันมาแนะนำว่าควรจะทำอย่างไรกับชีวิตของเราดี

แต่ตอนนี้เริ่มมีทางออกบ้างแล้ว..คือยอมรับเรื่องของกรรมเก่าเราอาจจะไปใส่ร้ายใครเขาหาว่าเขามีชู้.....ชาตินี้เจ้ากรรมนายเวรก็เลยทำให้เราได้รับความทุกข์บ้าง โดยการถูกใส่ร้ายว่ามีชู้จากสามีของเราเอง ซึ่งมันเป็นความเจ็บปวดยิ่งกว่าใครๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2012, 10:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกข์....มั้ย?

แล้วจะแก้ทุกข์...นี้อย่างไร?

เหตุ....มันเป็นอดีต....ก็ได้ผ่านไปแล้ว....อนาคตยังมาไม่ถึง...จะเอาอะไรไปแก้

มึแต่...เราในวันนี้...ที่ยืนเดินนั่งนอนอยู่นี้....ที่เราพอระจัดการได้....ตีวงแคบเข้ามาอีก...คือตัวเรานี้แหละ...ที่อยู่ในอำนาจเรา...

และ...แคบกว่านั้นอีก....ก็ใจเรานี้เอง...คือจุดของทุกข์ทั้งหลาย...ไม่ใช่ตรงไหนเลย

พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์..ที่ดับทุกข์ได้จริง.....เอามั้ย?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2012, 10:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.ย. 2012, 15:17
โพสต์: 7


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ทุกข์....มั้ย?

แล้วจะแก้ทุกข์...นี้อย่างไร?

เหตุ....มันเป็นอดีต....ก็ได้ผ่านไปแล้ว....อนาคตยังมาไม่ถึง...จะเอาอะไรไปแก้

มึแต่...เราในวันนี้...ที่ยืนเดินนั่งนอนอยู่นี้....ที่เราพอระจัดการได้....ตีวงแคบเข้ามาอีก...คือตัวเรานี้แหละ...ที่อยู่ในอำนาจเรา...

และ...แคบกว่านั้นอีก....ก็ใจเรานี้เอง...คือจุดของทุกข์ทั้งหลาย...ไม่ใช่ตรงไหนเลย

พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์..ที่ดับทุกข์ได้จริง.....เอามั้ย?



เอาค่ะ.....ทำอย่างไรหรือคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2012, 11:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ทำตามที่พระองค์สอนครับ...

พระองค์สอน..อริยสัจ..4....

หาเวลา..ศึกษา..ปฏิบัติ....เอานะครับ....สาธุ...


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 45 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 93 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร