วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 13:46  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 68 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2012, 05:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ยอมรับกันหรือเปล่าครับว่า หลายๆท่านในนี้คิดว่าการไม่เสพเมถุนกับคู่ครองตัวเองได้
แสดงว่าตัวเอง เป็นผู้มีศีลที่สุดยอดอภิมหาอมตะแห่งศีล และยังคิดว่านี้และหนทาง
แห่งการบรรลุธรรม :b32:

เรื่องแบบนี้มันมีสาเหตุมาจากได้รับการถ่ายทอด หรือได้รับการสอนมา
แต่ทั้งผู้สอนและผู้ถูกสอนต่างไม่เข้าใจในสถานะของกันและกัน

มันก็เหมือนกับเอาครูบาสเก็ตบอลมาสอนนักฟุตบอล นักบาสการจะทำประตูหรือ
ทำคะแนนได้ย่อมต้องอาศัยมือเป็นสำคัญ แต่นักฟุตบอลต้องใช้เท้า
เมื่อมาสอนใช้วิธีการทำคะแนนผิดไปจากสถานะของแต่ละชนิด ย่อมก็ย่อมต้องฟาวล์
ตั้งแต่เริ่มแรก

ยกตัวอย่างให้ดูแล้ว ที่นี้มาเข้าเรื่อง ลองดูตัวเองซิว่า ครูผู้สอนกับผู้ถูกสอนเป็นใคร
ดูซิว่าอยู่ในสถานะเดียวกันหรือแตกต่างกัน ครูที่สอนเป็นพระหรือฆราวาส
แล้วผู้ถูกสอนล่ะเป็นพระหรือฆราวาส

ตัวการสำคัญมันอยู่ที่ตัวผู้สอน ครูผู้สอนจะต้องรู้และคำนึงถึงสถานะของตนและ
ลูกศิษย์ สิ่งที่เอามาสอนต้องเอาสถานะของลูกศิษย์เป็นหลัก ไม่ใช่เอาตัวเองเป็นหลัก
เช่นมีสถานะเป็นพระภิกษุ แต่ลูกศิษย์เป็นฆราวาส แทนที่จะเอาธรรมของฆราวาส
มาสอนลูกศิษย์ แต่เพราะขาดความเข้าใจกลับไปเอาธรรมของตัวเองซึ่งเป็นการปฏิบัติ
ของพระภิกษุมาสอนลูกศิษย์ที่เป็นฆราวาส แบบนี้ลูกศิษย์ก็สับสนเกิดหลงในหลักการปฏิบัติ

แล้วที่ว่าสับสนมันเป็นอย่างไร เช่นเป็นพระสอนเรื่องศีลแต่ดันเอา ศีลที่ตัวเองปฏิบัติมาสอน
ลูกศิย์ที่เป็นฆราวาส อีกครับอย่างเรื่อง เรื่องการห้ามเสพเมถุน

เอาเรื่องห้ามเสพเมถุนมาสอนฆราวาส แล้วบอกว่า..เป็นศีลพรรมจรรย์
ใช่ครับเป็นศีลพรหมจรรย์ แต่มันเป็นศีลของพระ ภิกษุต้องถือเพศพรหมจรรย์ครับ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2012, 07:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1077216.gif
1077216.gif [ 33.96 KiB | เปิดดู 5093 ครั้ง ]
ว่าแต่คนอื่น โฮฮับจังเองก็ถูกสอนมั่วๆผิดๆหรือฟังไม่ได้สับจับเอาไปกระเดียดมาก่อนเหมือนกัลล์ จึงเป็นอย่างนี้ไงล่ะ :b1:

นี่แหละปรโตโฆสะที่ไม่ดี แล้วยังแถมคิดไม่เป็น (อโยนิโสมนสิการ) อีก เลยสองแรงบวก :b9:

นี่แหละอิทธิพลสภาพแวดล้อมซึ่งมนุษย์รับเข้ามาทางตาทางหูเป็นต้น

ดังนั้น จะต้องรู้จักเสพอารมณ์ :b12: และรู้จักคิด (โยนิโสมนสิการ) ชีวิตคงต้องเร่ร่อนอีกเป็นอเนกชาตินะว่ามั้ย :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2012, 09:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ยอมรับกันหรือเปล่าครับว่า หลายๆท่านในนี้คิดว่าการไม่เสพเมถุนกับคู่ครองตัวเองได้
แสดงว่าตัวเอง เป็นผู้มีศีลที่สุดยอดอภิมหาอมตะแห่งศีล และยังคิดว่านี้และหนทาง
แห่งการบรรลุธรรม :b32:

เรื่องแบบนี้มันมีสาเหตุมาจากได้รับการถ่ายทอด หรือได้รับการสอนมา
แต่ทั้งผู้สอนและผู้ถูกสอนต่างไม่เข้าใจในสถานะของกันและกัน

มันก็เหมือนกับเอาครูบาสเก็ตบอลมาสอนนักฟุตบอล นักบาสการจะทำประตูหรือ
ทำคะแนนได้ย่อมต้องอาศัยมือเป็นสำคัญ แต่นักฟุตบอลต้องใช้เท้า
เมื่อมาสอนใช้วิธีการทำคะแนนผิดไปจากสถานะของแต่ละชนิด ย่อมก็ย่อมต้องฟาวล์
ตั้งแต่เริ่มแรก

ยกตัวอย่างให้ดูแล้ว ที่นี้มาเข้าเรื่อง ลองดูตัวเองซิว่า ครูผู้สอนกับผู้ถูกสอนเป็นใคร
ดูซิว่าอยู่ในสถานะเดียวกันหรือแตกต่างกัน ครูที่สอนเป็นพระหรือฆราวาส
แล้วผู้ถูกสอนล่ะเป็นพระหรือฆราวาส

ตัวการสำคัญมันอยู่ที่ตัวผู้สอน ครูผู้สอนจะต้องรู้และคำนึงถึงสถานะของตนและ
ลูกศิษย์ สิ่งที่เอามาสอนต้องเอาสถานะของลูกศิษย์เป็นหลัก ไม่ใช่เอาตัวเองเป็นหลัก
เช่นมีสถานะเป็นพระภิกษุ แต่ลูกศิษย์เป็นฆราวาส แทนที่จะเอาธรรมของฆราวาส
มาสอนลูกศิษย์ แต่เพราะขาดความเข้าใจกลับไปเอาธรรมของตัวเองซึ่งเป็นการปฏิบัติ
ของพระภิกษุมาสอนลูกศิษย์ที่เป็นฆราวาส แบบนี้ลูกศิษย์ก็สับสนเกิดหลงในหลักการปฏิบัติ

แล้วที่ว่าสับสนมันเป็นอย่างไร เช่นเป็นพระสอนเรื่องศีลแต่ดันเอา ศีลที่ตัวเองปฏิบัติมาสอน
ลูกศิย์ที่เป็นฆราวาส อีกครับอย่างเรื่อง เรื่องการห้ามเสพเมถุน

เอาเรื่องห้ามเสพเมถุนมาสอนฆราวาส แล้วบอกว่า..เป็นศีลพรรมจรรย์
ใช่ครับเป็นศีลพรหมจรรย์ แต่มันเป็นศีลของพระ ภิกษุต้องถือเพศพรหมจรรย์ครับ :b13:
ตับล้วนๆไม่มีกี๋นเลยอิๆๆ ขอกึ๋นหน่อย เขาไปถึงไหนแล้ว บอกแล้วใครจะทำอย่างไรก็ทำไปๆๆๆ ธรรมะชั้นสูงๆนะเขาไม่วนอยู่กับของเก่าแล้ว นั้นมันสมัยโน้นมั้งที่ผมเป็นเหมือนคุณ ฝึกไปนะค่อยๆฝึกไป

แล้วกล้าๆหน่อยที่จะอธิฐาน ถ้าไม่บรรลุธรรมต่อให้กระดูกหนังเอ็นจะต้องแตกสลายไป ถ้าไม่บรรลุธรรมก็จะไม่ลุกขึ้นจะได้เห็นความจริงสักที เอาที่พระพุทธองค์ทรงบอกน่ะเอาตรงนี้แหล่ะ จะได้ไม่มาวนอยู่กับสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ แล้วก็ว่าตัวเองทำถูก มันก็ถูกอยู่เหมือนเด็กๆที่มันได้แต่แก้โจทย์ง่าย1+1=2 แต่มาเจอโจทย์ที่เป็นสมาการ ก็งง ไปไม่เป็นก็เท่านั้น

และเรื่องครูอาจารย์นะอาพูดเลยท่านไม่ได้มายุ่งเกี่ยว

และคำว่าผิดถูก กับการปฎิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมนั้น ท่านเข้าใจอะไรหรือเปล่า ชั้นไหนมันก็แล้วแต่ชั้น จะให้ผมลงมาเสพ มันจะทำได้อย่างไร เหมือนคนที่เป็นอรหันต์เขาจะเสพเหรอ แต่ผมยังไม่ใช่อรหันต์หรอกนะ มันไม่ใช่ว่าผิดหรือถูกธรรมะคุณทำได้แค่นั้นก็ยอมรับว่าทำได้แค่นั้น บอกแล้วไงว่าผมหาหนทางกลับไม่เจอแล้ว ยังไม่เข้าใจอีก เห่อ!เราก็ลืมไปเขาเป็นเด็กน้อยนี่

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2012, 10:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
ตับล้วนๆไม่มีกี๋นเลยอิๆๆ ขอกึ๋นหน่อย เขาไปถึงไหนแล้ว บอกแล้วใครจะทำอย่างไรก็ทำไปๆๆๆ ธรรมะชั้นสูงๆนะเขาไม่วนอยู่กับของเก่าแล้ว นั้นมันสมัยโน้นมั้งที่ผมเป็นเหมือนคุณ ฝึกไปนะค่อยๆฝึกไป

ไอ้ที่วนอยู่กับที่อยู่กับของเก่ามันเป็นบิกทู่ เข้าใจมั้ยว่า การปฏิบัติมันมีขั้นตอน การละกิเลส
มันก็มีขั้นตอน ถ้ายังละกิเลสเบื้องต่ำไม่ได้ ก็อย่ามาพูดเงอะๆงะๆว่าธรรมเบื้องสูง

จะสาธยาย กิเลสบิกทู่ให้ จะได้ไม่"หลงกับกิเลสตัวเอง"

สักกายทิฐิ.....บิกทู่ยังหลงยึดจนแสดงออกมาเป็นกายสังขาร
และวจีสังขาร อาการที่ว่าก็คือ หลงว่าตัวเองดีเลิศประเสริฐศรี จนพร่ำพูดว่า
เมียก็รัก...เพื่อนก็รัก เพราะความดีของตน อย่างนี้เรียกว่า..ขาดซึ่งสัมมาวาจา :b6:


วิจิกิจฉา.... ขาดความเข้าใจพระรัตนไตร ยิ่งเป็นพระธรรมด้วยแล้ว
เหมือนคนที่ไม่มีความรู้ในธรรมแม้สักกระผีก ดูได้จากชาวบ้านเข้าเอาธรรม
มาแย้ง แทนที่บิกทู่จะมีสติแก้ข้อสงสัยในธรรมที่เข้าแย้ง
กลับไปหาเรื่องราวสร้างภาพขึ้นมาใหม่ ทั้งๆที่มันไม่เกี่ยวกับประเด็นธรรมที่เขาแย้งแม้แต่น้อย
และอีกชอบพูดส่งเดชแล้วบอกพระพุทธเจ้าเป็นคนกล่าว แต่พอเขาให้หาหลักฐานมาแสดง
ก็ทำไม่ได้ เป็นเพราะตัวเองก็ไม่มีความเข้าใจในสิ่งที่ตัวพูด
...กับพระสงฆ์ก็เช่นกัน ไม่รู้สถานะของความเป็นสงฆ์ แยกแยะไม่ถูกว่าพระสงฆ์กับฆราวาส
แตกต่างกันอย่างไร คิดไปเองว่าการปฏิบัติเหมือนกัน ซึ่งมันเป็นการขาดด้วย...
สัมมากัมมันตะ :b6:

สีลพรตปรามาส......ขาดความเข้าใจซี่งอริยสัจจ์สี่มรรคมีองค์แปด
คิดแต่เพียงว่า ศีลเท่านั้นจะทำให้บรรลุธรรมขั้นสูงได้ ทำให้หลงคิดว่า
สิ่งไปเอาศีลของผู้ที่มีสถานะสูงกว่าตนมาปฏิบัติ จะทำให้ตัวเองบรลุอรหันต์
หลงผิดคิดไปว่า สถานะความเป็นอยู่ของตน สามารถทำเยี่ยงพระภิกษุสงฆ์ได้
อันนี้เข้าข่าย ขาดซึ่งสัมมาอาชืวะ
:b6:


เพียงแค่นี้ก็รู้แล้วว่า บุคคลที่ขาดปัญญาสัมมาทิฐิ มองเห็นสัมมาศีล
ในลักษณะผิดจากความเป็นจริง ปล่อยให้อกุศลจิตคอยบ่งการ
ให้เกิดกายกรรมและวจีกรรมที่นอกลู่นอกทาง
เราอาจเรียกบุคคลชนิดนี้ว่า ปุถุชนชั้นปลายแถวครับ :b13:

จิตอกุศลที่ทำให้เกิดกายกรรมและวจีกรรมนอกลู่นอกทาง ที่ผมกล่าวถึงก็คือ
การโพสรูปที่หมิ่นเหม่ แล้วก็ประชาสัมพันธ์ตัวเอง ว่าทำได้บรรลุแล้ว
หรืออ้างพุทธพจน์ซี่ซั้ว ขาดซึ่งหลักฐานอ้าง ไม่สนใจว่าจะกระทบถึงพระศาสดา
ขอเพียงให้ตัวเองเจ๋งในสายตาคนอื่น (คิดเอง เออเอง หลงตัวเองเต็มเปา) :b32:


จากการที่ยังมีกิเลสเบื้องต่ำและจิตที่เป็นอกุศล ดังที่กล่าวมาแล้วนั้น
ทำให้บิกทู่หลงเข้าใจไปว่า การมีเมียอยู่บ้านเดียวกับเมีย มองเห็นเมียยังสาวยังสวย
แต่ไม่ยุ่งหรือเสพเมถุนกับเมีย เป็นการละแล้วซึ่งกามราคะ แบบนี้พูดได้คำเดียวว่า
ไกลเกินเหนี่ยวรั้ง :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2012, 10:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับจัง มัวแต่อธิบายกิเลสคนอื่น ไม่เกิดประโยชน์กับชีวิตตนเองดอก ไหนลองอธิบายกิเลสตนเองให้ดูหน่อยดิ :b1: อ้าวว่าไป

แต่ที่เห็นชัดๆ คือ สักกายทิฐิ เต็มๆเลย คือ เห็นว่าชีวิตเป็นตน ชัดเลย ไม่ต้องไปมองที่ไหนหรอก ชีวิตคงต้องแร่ร่อนอีกเป็นอเนกชาติ :b1: หลงชีวิตแต่บอกไม่ยึดติดขันธ์ 5 ถามว่า ขันธ์ 5 อะไรบ้าง เห็นบอกมาขันธ์เดียว ตาเห็นรูปเรียกว่าขันธ์ ว่างั้น คิกๆๆ :b1:

อยากรู้นักว่าอีก 4 ขันธ์ จะเอาที่ไหนมา :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 05 ก.ย. 2012, 10:46, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2012, 10:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
แล้วกล้าๆหน่อยที่จะอธิฐาน ถ้าไม่บรรลุธรรมต่อให้กระดูกหนังเอ็นจะต้องแตกสลายไป ถ้าไม่บรรลุธรรมก็จะไม่ลุกขึ้นจะได้เห็นความจริงสักที เอาที่พระพุทธองค์ทรงบอกน่ะเอาตรงนี้แหล่ะ จะได้ไม่มาวนอยู่กับสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ แล้วก็ว่าตัวเองทำถูก มันก็ถูกอยู่เหมือนเด็กๆที่มันได้แต่แก้โจทย์ง่าย1+1=2 แต่มาเจอโจทย์ที่เป็นสมาการ ก็งง ไปไม่เป็นก็เท่านั้น

ความกล้าของบิกทู่ดูดีๆผมว่า มันเป็นความด้านมากกว่า แถมมีความเขลาซุกซ่อนอยู่
รอเวลาบิกทู่เผลอมันจะแสดงออกมาครับ นี่ก็เหมือนกันครับ

มันอ้างพระพุทธเจ้าตะบี้ตะบัน อ้างไปเรื่อยอ้างแบบตัวเองก็ไม่เข้าใจ
ที่พระองค์ทรงกระทำน่ะ เป็นปลายทางเองการที่จะตรัสรู้แล้ว พระองค์ลองผิดลองถูกมาเยอะ

ถามบิกทู่ซิ เอาพระพุทธเจ้ามาอ้าง แล้วตัวเองทำอย่างพระองค์หรือเปล่า
กล้าทิ้งลูกทิ้งเมีย ออกบวชมั้ย ลูกเมียบิกทู่ก็ไม่มีอะไรที่น่าห่วง หน้าที่การงานก็ไม่มี
จะอยู่เป็นจรเข้ขวางคลอง หรือสุนัขหวงก้าง(สำนวนไทย)ทำไมครับ

สรุปที่พูดมาทั้งหมดก็คือแต่งเรื่องขึ้นมา
มันรับไม่ได้เมื่อมีใครเขามาจับผิด เหมือนเดินหมากรุก โดนรุกฆาตแล้ว
เดินออกนอกกระดานก็ด้านทำ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2012, 10:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




j2019.gif
j2019.gif [ 31.58 KiB | เปิดดู 5038 ครั้ง ]
การศึกษาศาสนาของโฮฮับ ตัน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2012, 10:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
และเรื่องครูอาจารย์นะอาพูดเลยท่านไม่ได้มายุ่งเกี่ยว

ใครกันแน่ที่มันอ้างครูบาอาจารย์ ใครกันแน่ที่ชอบอ้างพุทธพจน์ผิดๆ
ใครกันแน่ โชว์เว็บไซด์สำนักตัวเอง แล้วใครกันแน่ที่เอาเนื้อหาคำสอนมาลง
แบบผิดหลักธรรม มันก็เป็นบิกทู่ทั้งนั้น

ผมไปกล่าวล่วงใครรือเปล่า ผมแค่บอกเอ่ย"ครูผู้สอน" มันเป็นแค่คำพูดเพื่อให้คนฟังเข้าใจ
บิกทู่ถามจริงทำไม ไม่ยืมขวานนู๋กรัชกายมาเหลาหัวสมองมั้ง ปล่อยให้มันทู่อยู่ได้ :b32:
bigtoo เขียน:
และคำว่าผิดถูก กับการปฎิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมนั้น ท่านเข้าใจอะไรหรือเปล่า ชั้นไหนมันก็แล้วแต่ชั้น จะให้ผมลงมาเสพ มันจะทำได้อย่างไร เหมือนคนที่เป็นอรหันต์เขาจะเสพเหรอ แต่ผมยังไม่ใช่อรหันต์หรอกนะ มันไม่ใช่ว่าผิดหรือถูกธรรมะคุณทำได้แค่นั้นก็ยอมรับว่าทำได้แค่นั้น บอกแล้วไงว่าผมหาหนทางกลับไม่เจอแล้ว ยังไม่เข้าใจอีก เห่อ!เราก็ลืมไปเขาเป็นเด็กน้อยนี่

กับประโยคนี้ของคุณที่ว่า.."และคำว่าผิดถูก กับการปฎิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมนั้น
ท่านเข้าใจอะไรหรือเปล่า " ลองย้อนดูตัวเองหรือเปล่า
ตัวเองปฏิบัติผิดที่ผิดทาง แล้วเที่ยวชี้นิ้วว่าคนอื่น...ทำไม่ได้ เอาเหตุผลอะไรมาคิดครับ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2012, 12:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
แล้วกล้าๆหน่อยที่จะอธิฐาน ถ้าไม่บรรลุธรรมต่อให้กระดูกหนังเอ็นจะต้องแตกสลายไป ถ้าไม่บรรลุธรรมก็จะไม่ลุกขึ้นจะได้เห็นความจริงสักที เอาที่พระพุทธองค์ทรงบอกน่ะเอาตรงนี้แหล่ะ จะได้ไม่มาวนอยู่กับสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ แล้วก็ว่าตัวเองทำถูก มันก็ถูกอยู่เหมือนเด็กๆที่มันได้แต่แก้โจทย์ง่าย1+1=2 แต่มาเจอโจทย์ที่เป็นสมาการ ก็งง ไปไม่เป็นก็เท่านั้น

ความกล้าของบิกทู่ดูดีๆผมว่า มันเป็นความด้านมากกว่า แถมมีความเขลาซุกซ่อนอยู่
รอเวลาบิกทู่เผลอมันจะแสดงออกมาครับ นี่ก็เหมือนกันครับ

มันอ้างพระพุทธเจ้าตะบี้ตะบัน อ้างไปเรื่อยอ้างแบบตัวเองก็ไม่เข้าใจ
ที่พระองค์ทรงกระทำน่ะ เป็นปลายทางเองการที่จะตรัสรู้แล้ว พระองค์ลองผิดลองถูกมาเยอะ

ถามบิกทู่ซิ เอาพระพุทธเจ้ามาอ้าง แล้วตัวเองทำอย่างพระองค์หรือเปล่า
กล้าทิ้งลูกทิ้งเมีย ออกบวชมั้ย ลูกเมียบิกทู่ก็ไม่มีอะไรที่น่าห่วง หน้าที่การงานก็ไม่มี
จะอยู่เป็นจรเข้ขวางคลอง หรือสุนัขหวงก้าง(สำนวนไทย)ทำไมครับ

สรุปที่พูดมาทั้งหมดก็คือแต่งเรื่องขึ้นมา
มันรับไม่ได้เมื่อมีใครเขามาจับผิด เหมือนเดินหมากรุก โดนรุกฆาตแล้ว
เดินออกนอกกระดานก็ด้านทำ :b32:
ปลายทางยังไง พระองค์ก็ทรงแสดงต่อสาวก ถ้าจะเป็นปลายทางก็เพราะคุณเห็นเวลสผ่านมาสองพันกว่าปีนี่มั้งที่คุณเรียกว่าปลายทางคุณก็ไม่น้อมมาปฎิบัติพุทธพจน์เห็นชัดๆ ที่คุณว่าผมผิดทางนะมองดูตัวเองนะ ศิลห้า กับศิลแปดนะ คุณธรรมอันไหนมันสูงกว่ากันในเรื่องปฎิบัติธรรมเอาง่ายๆอย่างนี้ คุยมากก็ว่าอวด เรื่องบวชเหรอไม่ต้องห่วงหรอกถ้าผมไม่ถูกขอไว้ผมนะบวชตั้งนานแล้ว และเรื่องที่บอกแต่งขึ้นมานะ นี่มันยังน้อยมากผมมีเรื่องแปลกที่คุณไม่เคยรู้มากกว่านี้อีกเยอะ เอาอย่างนี้ตื่นเช้าดีนี่ เปลี่ยนใหม่ตื่นเช้าๆไปหาซื้ออาหารมาใส่บาตบ้างจะได้มีจิตใจรู้จักให้ทานบ้าง จะได้เกิดดวงตาเห็นธรรมกับเขาสักที

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2012, 12:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
และเรื่องครูอาจารย์นะอาพูดเลยท่านไม่ได้มายุ่งเกี่ยว

ใครกันแน่ที่มันอ้างครูบาอาจารย์ ใครกันแน่ที่ชอบอ้างพุทธพจน์ผิดๆ
ใครกันแน่ โชว์เว็บไซด์สำนักตัวเอง แล้วใครกันแน่ที่เอาเนื้อหาคำสอนมาลง
แบบผิดหลักธรรม มันก็เป็นบิกทู่ทั้งนั้น

ผมไปกล่าวล่วงใครรือเปล่า ผมแค่บอกเอ่ย"ครูผู้สอน" มันเป็นแค่คำพูดเพื่อให้คนฟังเข้าใจ
บิกทู่ถามจริงทำไม ไม่ยืมขวานนู๋กรัชกายมาเหลาหัวสมองมั้ง ปล่อยให้มันทู่อยู่ได้ :b32:
bigtoo เขียน:
และคำว่าผิดถูก กับการปฎิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมนั้น ท่านเข้าใจอะไรหรือเปล่า ชั้นไหนมันก็แล้วแต่ชั้น จะให้ผมลงมาเสพ มันจะทำได้อย่างไร เหมือนคนที่เป็นอรหันต์เขาจะเสพเหรอ แต่ผมยังไม่ใช่อรหันต์หรอกนะ มันไม่ใช่ว่าผิดหรือถูกธรรมะคุณทำได้แค่นั้นก็ยอมรับว่าทำได้แค่นั้น บอกแล้วไงว่าผมหาหนทางกลับไม่เจอแล้ว ยังไม่เข้าใจอีก เห่อ!เราก็ลืมไปเขาเป็นเด็กน้อยนี่

กับประโยคนี้ของคุณที่ว่า.."และคำว่าผิดถูก กับการปฎิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมนั้น
ท่านเข้าใจอะไรหรือเปล่า " ลองย้อนดูตัวเองหรือเปล่า
ตัวเองปฏิบัติผิดที่ผิดทาง แล้วเที่ยวชี้นิ้วว่าคนอื่น...ทำไม่ได้ เอาเหตุผลอะไรมาคิดครับ :b13:
ในเรื่องธรรมะเข้าดูกันตรงไหนดูตรงท่องจำหรือการลดละเลิก พูดใครก็พูดได้ ฉันบรรลุธรรมะแล้ว !เขียนมาเหมือนปล่อยวาง พอถามว่าเลิกได้มั้ย ก็เลิกไม่ได้ อธิบายซะสวยงาม ไอ้เราเลิกได้มาว่าเพี้ยน อิๆๆใครหว่าเพี้ยน ไปเลิกมาก่อนไป แล้วค่อยมาคุยกัน อดจับช้างน้อยสักสามเดือนก่อนไป หรือจะมาอธิฐานตลอดชีวิตมาแข็งกันทำความดีมั้ยล่ะ ไม่ต้องแข่งกันเรื่องความรู้ในตัวบทตัวหนังสือหรอก เพราะผมฟังมาเกือบสิบปี แต่ไม่ค่อยสนใจจำมาท่องเท่าไหร่เข้าใจก็แล้วก็แล้วกัน จนสรุปหรือนิดเดียวแล้วลงมือลดละดีกว่ามันชัดดี เข้าไปตรงๆมันได้สภาวะชัดเจนมันมีทั้งความรู้สึกแท้จริง ไม่ใช่รู้ทั้งหมดอดไม่ได้ เข้าใจ๋บ่! :b12:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2012, 12:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
ตับล้วนๆไม่มีกี๋นเลยอิๆๆ ขอกึ๋นหน่อย เขาไปถึงไหนแล้ว บอกแล้วใครจะทำอย่างไรก็ทำไปๆๆๆ ธรรมะชั้นสูงๆนะเขาไม่วนอยู่กับของเก่าแล้ว นั้นมันสมัยโน้นมั้งที่ผมเป็นเหมือนคุณ ฝึกไปนะค่อยๆฝึกไป

ไอ้ที่วนอยู่กับที่อยู่กับของเก่ามันเป็นบิกทู่ เข้าใจมั้ยว่า การปฏิบัติมันมีขั้นตอน การละกิเลส
มันก็มีขั้นตอน ถ้ายังละกิเลสเบื้องต่ำไม่ได้ ก็อย่ามาพูดเงอะๆงะๆว่าธรรมเบื้องสูง

จะสาธยาย กิเลสบิกทู่ให้ จะได้ไม่"หลงกับกิเลสตัวเอง"

สักกายทิฐิ.....บิกทู่ยังหลงยึดจนแสดงออกมาเป็นกายสังขาร
และวจีสังขาร อาการที่ว่าก็คือ หลงว่าตัวเองดีเลิศประเสริฐศรี จนพร่ำพูดว่า
เมียก็รัก...เพื่อนก็รัก เพราะความดีของตน อย่างนี้เรียกว่า..ขาดซึ่งสัมมาวาจา :b6:


วิจิกิจฉา.... ขาดความเข้าใจพระรัตนไตร ยิ่งเป็นพระธรรมด้วยแล้ว
เหมือนคนที่ไม่มีความรู้ในธรรมแม้สักกระผีก ดูได้จากชาวบ้านเข้าเอาธรรม
มาแย้ง แทนที่บิกทู่จะมีสติแก้ข้อสงสัยในธรรมที่เข้าแย้ง
กลับไปหาเรื่องราวสร้างภาพขึ้นมาใหม่ ทั้งๆที่มันไม่เกี่ยวกับประเด็นธรรมที่เขาแย้งแม้แต่น้อย
และอีกชอบพูดส่งเดชแล้วบอกพระพุทธเจ้าเป็นคนกล่าว แต่พอเขาให้หาหลักฐานมาแสดง
ก็ทำไม่ได้ เป็นเพราะตัวเองก็ไม่มีความเข้าใจในสิ่งที่ตัวพูด
...กับพระสงฆ์ก็เช่นกัน ไม่รู้สถานะของความเป็นสงฆ์ แยกแยะไม่ถูกว่าพระสงฆ์กับฆราวาส
แตกต่างกันอย่างไร คิดไปเองว่าการปฏิบัติเหมือนกัน ซึ่งมันเป็นการขาดด้วย...
สัมมากัมมันตะ :b6:

สีลพรตปรามาส......ขาดความเข้าใจซี่งอริยสัจจ์สี่มรรคมีองค์แปด
คิดแต่เพียงว่า ศีลเท่านั้นจะทำให้บรรลุธรรมขั้นสูงได้ ทำให้หลงคิดว่า
สิ่งไปเอาศีลของผู้ที่มีสถานะสูงกว่าตนมาปฏิบัติ จะทำให้ตัวเองบรลุอรหันต์
หลงผิดคิดไปว่า สถานะความเป็นอยู่ของตน สามารถทำเยี่ยงพระภิกษุสงฆ์ได้
อันนี้เข้าข่าย ขาดซึ่งสัมมาอาชืวะ
:b6:


เพียงแค่นี้ก็รู้แล้วว่า บุคคลที่ขาดปัญญาสัมมาทิฐิ มองเห็นสัมมาศีล
ในลักษณะผิดจากความเป็นจริง ปล่อยให้อกุศลจิตคอยบ่งการ
ให้เกิดกายกรรมและวจีกรรมที่นอกลู่นอกทาง
เราอาจเรียกบุคคลชนิดนี้ว่า ปุถุชนชั้นปลายแถวครับ :b13:

จิตอกุศลที่ทำให้เกิดกายกรรมและวจีกรรมนอกลู่นอกทาง ที่ผมกล่าวถึงก็คือ
การโพสรูปที่หมิ่นเหม่ แล้วก็ประชาสัมพันธ์ตัวเอง ว่าทำได้บรรลุแล้ว
หรืออ้างพุทธพจน์ซี่ซั้ว ขาดซึ่งหลักฐานอ้าง ไม่สนใจว่าจะกระทบถึงพระศาสดา
ขอเพียงให้ตัวเองเจ๋งในสายตาคนอื่น (คิดเอง เออเอง หลงตัวเองเต็มเปา) :b32:


จากการที่ยังมีกิเลสเบื้องต่ำและจิตที่เป็นอกุศล ดังที่กล่าวมาแล้วนั้น
ทำให้บิกทู่หลงเข้าใจไปว่า การมีเมียอยู่บ้านเดียวกับเมีย มองเห็นเมียยังสาวยังสวย
แต่ไม่ยุ่งหรือเสพเมถุนกับเมีย เป็นการละแล้วซึ่งกามราคะ แบบนี้พูดได้คำเดียวว่า
ไกลเกินเหนี่ยวรั้ง :b13:
คุณเอาแต่ความคิดของคุณมาว่าผมอีกตามเคยและคุณก็เอาตัวหนังสือมาอธิบายอยู่ดี คุณนึกว่าผมไม่รู้เรื่องที่คุณเขียนมาเหรอ ผมไม่คุยแล้วมันไม่ได้อะไรมากเท่ากับลงมือลดละเลิก เอาแนวลดละเลิกมาสอนตรงๆและเอาแบบปฎิบัติแบบจริงจังตายเป็นตายมันจะได้เห็นซะที แต่คุณก็จะเอาแต่ความเข้าใจของคุณ มันคนละทางกับผม แล้วคุณนึกว่าผมคุย ผมเอาเรื่องจริงมากล่าว เกิดจากความจริง มันมีธรรมะแฝงอยู่ดันไม่ดู กลับมาว่าเขาคุยโม้ คุณเป็นคนว่าทั้งหมด คุณว่ามา ผมก็โต้แย้งมันไม่เห็นแปลก แล้วผมก็ถามว่าคุณทำได้มั้ย คุณก็ทำไม่ได้ แล้วมาว่าผมผิดทาง เอ๊ะมันยังไงนี่ เรื่องราวในชีวิตคนมันก็แตกต่างกัน ธรรมะเขาดูกันที่ทำได้หรือทำไม่ได้ กล่าวหากันมันง่ายจะตาย มันเป็นความคิดด้านเดียวเพราะเราไม่รู้จักเขาจริง :b12:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2012, 13:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


และเรื่องรูปที่ผมโพสลงไปนั้นคุณลองคิดดู ทีมงานเขายังติดป้ายว่าน่าสนใจ แต่คุณคิดว่าผมดูถูกศาสนา

และเรื่องที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนเรานั้น ปัญญาทั้งหมดที่เราศึกษาเรียนรู้นั้น เพื่อให้เรารู้จักความจริง เพื่อลด ละ เลิก กิเลสได้ และเครืองวัดการลดละเลิกไม่ได้อยู่ที่คำพูดสวยหรู มันอยู่ตรงรักษาศิลได้ เลิกได้จริง ส่วนคำพูดที่ผมกล่าวไปท่านไม่เข้าใจหรอกผมกล่าวเพื่ออะไรอย่าเดาเอามันผิดความจริงเยอะ ธรรมะดูกันที่ลดละเลิกได้จริง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2012, 13:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
ในเรื่องธรรมะเข้าดูกันตรงไหนดูตรงท่องจำหรือการลดละเลิก พูดใครก็พูดได้ ฉันบรรลุธรรมะแล้ว

ก็ใช่ไงใครพูดก็พูดได้ เพราะแบบนี้มันจึงต้องทดสอบด้วยการลองภูมิไง
แล้วผลก็ปรากฏว่า แต่งเรื่องมาแก้ตัวได้สารพัด ถามเรื่องเก่า แถไปสร้างเรื่องใหม่
แค่นี้ก็รู้แล้วที่คุยมาขี้โม้ทั้งเพ
bigtoo เขียน:
เขียนมาเหมือนปล่อยวาง พอถามว่าเลิกได้มั้ย ก็เลิกไม่ได้ อธิบายซะสวยงาม ไอ้เราเลิกได้มาว่าเพี้ยน อิๆๆใครหว่าเพี้ยน ไปเลิกมาก่อนไป แล้วค่อยมาคุยกัน อดจับช้างน้อยสักสามเดือนก่อนไป :

ผมบอกคุณหรือว่าเลิกไม่ได้ ผมดูการกระทำของคุณแล้วรู้สึกสังเวช
แล้วจะให้ผมตามอย่างคุณหรือ ขี้โม้อวดตัวลั่นบอร์ด ยังสอนเลยว่า
คนที่ทำได้เขาไม่อวดตัว หรือแสดงความเห็นเหมือนกับยังลืมมันไม่ลงแบบนี้
ไอ้เลิกนะเลิกมาตั้งนานแล้วและไม่ได้เที่ยวมองผู้หญิงยังสาวยังสวยด้วย

ไอ้ที่เพี้ยนนะมันคุณ ปากบอกเลิกแล้ว แต่พอเห็นผู้หญิงตาหื่นขึ้นมาที่เดียว..
ตลกดีครับ..ประกาศว่า...
ฉันไม่มีเรื่องอย่างว่ากับผู้หญิง แต่เห็นหญิงสาวสวยเข้าหน่อย แลบลิ้นเลียปาก
ดวงตาแทบทะหลน
แบบนี้แบกพระประธานมาคุยก็ไม่มีใครเชื่อครับ

คนที่ทำได้เขาไม่คุยหรอกครับ แล้วเขาก็รู้ด้วยว่า
ใครมันขี้โม้ เพราะเขาปฏิบัติมาเอง ไม่ได้ศึกษาธรรมตามเว็บโป๊แบบคุณ :b32:

bigtoo เขียน:
หรือจะมาอธิฐานตลอดชีวิตมาแข็งกันทำความดีมั้ยล่ะ ไม่ต้องแข่งกันเรื่องความรู้ในตัวบทตัวหนังสือหรอก เพราะผมฟังมาเกือบสิบปี แต่ไม่ค่อยสนใจจำมาท่องเท่าไหร่เข้าใจก็แล้วก็แล้วกัน จนสรุปหรือนิดเดียวแล้วลงมือลดละดีกว่ามันชัดดี เข้าไปตรงๆมันได้สภาวะชัดเจนมันมีทั้งความรู้สึกแท้จริง ไม่ใช่รู้ทั้งหมดอดไม่ได้ เข้าใจ๋บ่! :b12:

เอาอีกแล้วไม่สำนึก อวดมันเข้าไป แก้ผ้าประจานตัวเองยังไม่รู้ตัว :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2012, 13:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
คุณเอาแต่ความคิดของคุณมาว่าผมอีกตามเคยและคุณก็เอาตัวหนังสือมาอธิบายอยู่ดี คุณนึกว่าผมไม่รู้เรื่องที่คุณเขียนมาเหรอ:

ผมไม่ได้เอาความคิดผมมาว่าคุณ เอาก็เอามาจากการกระทำของคุณเองนั้นแหล่ะ
โชว์อ๊อฟซะขนาดนั้น ใช่แล้วครับคุณไม่รู้เรื่องธรรมที่ผมสื่อ
อาจมีรู้เรื่องบ้าง ที่ผมตลกขบขันคุณ จนคุณต้องแถสร้างเรื่องมากลบเกลื่อน :b13:
bigtoo เขียน:
ผมไม่คุยแล้วมันไม่ได้อะไรมากเท่ากับลงมือลดละเลิก เอาแนวลดละเลิกมาสอนตรงๆและเอาแบบปฎิบัติแบบจริงจังตายเป็นตายมันจะได้เห็นซะที แต่คุณก็จะเอาแต่ความเข้าใจของคุณ มันคนละทางกับผม แล้วคุณนึกว่าผมคุย

ไอ้คำพูดแก้ตัวแบบคุณผมเจอมาเยอะครับ พอคนไหนรู้ธรรมมากกว่า
ก็โมเมหาว่าเขาท่องมา ตัวเองปฏิบัติมาไม่เหมือนกัน ตลกซะไม่มีล่ะ :b9:

ยังสงสัยเลยปฏิบัติภาษาอะไร อยากทำอย่างพระ แต่ชอบอยู่อย่างฆราวาส
นี่เรียก"เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง" :b32:

ที่บอกคนละทางไม่ต้องบอกก็รู้ และจะบอกให้อย่างคุณผมไม่ทำหรอกครับ
จรเข้ขว้างคลอง พูดมาได้เมียรักตัวเองเพราะตัวเองดีเลิศ
ลองไปบวชตลอดชีวิตดูซิครับ ดูซิเมียยังเหมือนเดิมหรือเปล่า
กล้ามั้ยล่ะครับแบบ กล้าๆหน่อย เรื่องนี้รับรองไม่กล้าแน่ ทำเป็นมาปากดี :b32:
bigtoo เขียน:
ผมเอาเรื่องจริงมากล่าว เกิดจากความจริง มันมีธรรมะแฝงอยู่ดันไม่ดู กลับมาว่าเขาคุยโม้ คุณเป็นคนว่าทั้งหมด 2:

เรื่องจริงหรือ ทุกอย่างที่คุณพูด พูดก็พูดไม่หมด พอผมจี้ประจานเข้าหน่อย
ก็สร้างเรื่องใหม่ แบบนี้เรียกว่าเรื่องจริงหรือ

แล้วที่ว่าแฝงธรรม ผมไม่เห็นมีธรรมที่ไหนเลย เห็นมีแต่มารแฝงมาในความเห็นคุณ
กิเลสที่คุณซ่อนมันไว้กดมันไว้ มันมาแสดงออกในความเห็นของคุณ ยังไม่รู้ตัวอีก :b6:
bigtoo เขียน:
คุณว่ามา ผมก็โต้แย้งมันไม่เห็นแปลก แล้วผมก็ถามว่าคุณทำได้มั้ย คุณก็ทำไม่ได้ แล้วมาว่าผมผิดทาง เอ๊ะมันยังไงนี่ เรื่องราวในชีวิตคนมันก็แตกต่างกัน ธรรมะเขาดูกันที่ทำได้หรือทำไม่ได้ กล่าวหากันมันง่ายจะตาย มันเป็นความคิดด้านเดียวเพราะเราไม่รู้จักเขาจริง :b12:

ผมว่าคุณคุณโต้แย้งที่ไหนกัน ผมเห็นมีแต่สร้างเรื่องใหม่ กลบเกลื่อนความเห็นเดิม
แล้วคุณรู้ได้ไงว่า ผมทำได้หรือไม่ได้ ผมบอกคุณหรือ ผมแค่อธิบายสิ่งที่ผิดสิ่งที่ถูกให้ฟัง
ที่คุณโมเมว่า ผมทำไม่ได้เป็นเพราะนิสัยคุณ ที่ไม่เห็นหัวคนอื่นไง ตัวเองดีที่สุดในโลก :b32:

ตัวจริงๆคุณผมไม่รู้จัก แต่ผมรู้ลึกไปถึงจิตใจคุณได้ก็เพราะ
คนมันลืมตัว โชว์กิเลสในใจออกมาอวดชาวบ้านเขา :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2012, 13:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
ในเรื่องธรรมะเข้าดูกันตรงไหนดูตรงท่องจำหรือการลดละเลิก พูดใครก็พูดได้ ฉันบรรลุธรรมะแล้ว

ก็ใช่ไงใครพูดก็พูดได้ เพราะแบบนี้มันจึงต้องทดสอบด้วยการลองภูมิไง
แล้วผลก็ปรากฏว่า แต่งเรื่องมาแก้ตัวได้สารพัด ถามเรื่องเก่า แถไปสร้างเรื่องใหม่
แค่นี้ก็รู้แล้วที่คุยมาขี้โม้ทั้งเพ
bigtoo เขียน:
เขียนมาเหมือนปล่อยวาง พอถามว่าเลิกได้มั้ย ก็เลิกไม่ได้ อธิบายซะสวยงาม ไอ้เราเลิกได้มาว่าเพี้ยน อิๆๆใครหว่าเพี้ยน ไปเลิกมาก่อนไป แล้วค่อยมาคุยกัน อดจับช้างน้อยสักสามเดือนก่อนไป :

ผมบอกคุณหรือว่าเลิกไม่ได้ ผมดูการกระทำของคุณแล้วรู้สึกสังเวช
แล้วจะให้ผมตามอย่างคุณหรือ ขี้โม้อวดตัวลั่นบอร์ด ยังสอนเลยว่า
คนที่ทำได้เขาไม่อวดตัว หรือแสดงความเห็นเหมือนกับยังลืมมันไม่ลงแบบนี้
ไอ้เลิกนะเลิกมาตั้งนานแล้วและไม่ได้เที่ยวมองผู้หญิงยังสาวยังสวยด้วย

ไอ้ที่เพี้ยนนะมันคุณ ปากบอกเลิกแล้ว แต่พอเห็นผู้หญิงตาหื่นขึ้นมาที่เดียว..
ตลกดีครับ..ประกาศว่า...
ฉันไม่มีเรื่องอย่างว่ากับผู้หญิง แต่เห็นหญิงสาวสวยเข้าหน่อย แลบลิ้นเลียปาก
ดวงตาแทบทะหลน
แบบนี้แบกพระประธานมาคุยก็ไม่มีใครเชื่อครับ

คนที่ทำได้เขาไม่คุยหรอกครับ แล้วเขาก็รู้ด้วยว่า
ใครมันขี้โม้ เพราะเขาปฏิบัติมาเอง ไม่ได้ศึกษาธรรมตามเว็บโป๊แบบคุณ :b32:

bigtoo เขียน:
หรือจะมาอธิฐานตลอดชีวิตมาแข็งกันทำความดีมั้ยล่ะ ไม่ต้องแข่งกันเรื่องความรู้ในตัวบทตัวหนังสือหรอก เพราะผมฟังมาเกือบสิบปี แต่ไม่ค่อยสนใจจำมาท่องเท่าไหร่เข้าใจก็แล้วก็แล้วกัน จนสรุปหรือนิดเดียวแล้วลงมือลดละดีกว่ามันชัดดี เข้าไปตรงๆมันได้สภาวะชัดเจนมันมีทั้งความรู้สึกแท้จริง ไม่ใช่รู้ทั้งหมดอดไม่ได้ เข้าใจ๋บ่! :b12:

เอาอีกแล้วไม่สำนึก อวดมันเข้าไป แก้ผ้าประจานตัวเองยังไม่รู้ตัว :b32:
พูดให้เต็มปากหน่อยซิเลิกอะไร เลิกสำเร็จความใครหรือยังตอบชัดๆ(ตัวอย่างอย่างเช่น ผมเลิกสำเร็จความใคร่แล้วครับ) เอาอย่างนี้ไม่ใช่กำกวม จะได้อนุโมทนาได้เต็มปากหน่อย

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 68 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 36 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร