วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 23:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 39 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2012, 13:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2012, 16:06
โพสต์: 59


 ข้อมูลส่วนตัว


เราอ่านมาหลายกระทู้และจากความจริงที่เมียน้อยถ้ามีลูกๆต้องมีปมด้อย แต่กรณีของเราสังคมที่เมียน้อยและสามีอยู่นั้นเค้าต้อนรับเมียน้อย แบบว่าออกหน้าออกตาอวดกันด้วยซ้ำว่าใครได้เมียน้อยสวยๆถือว่าเก่ง เพื่อนฝูงในสังคมก้อต้อนรับเมียน้อยประมาณว่าไม่เสียหายอะไร (อยู่ตปท.ไม่ใช่เมืองไทย) และถ้ามีปัญหาอะไรสังคมคนที่นั่นจะเข้าข้างคนประเทศเค้า(เมียน้อย) ด้วยซ้ำ เราเลยงงจริงๆว่า คนเป็นเมียน้อยมีแต่ต้องทุกข์หลบๆซ่อนๆ ได้รับความอับอายไม่มีศักดิ์ศรี แต่ความจริงกลายเป็นเมียน้อยออกหน้าออกตาอยู่กินกับสามีเราแบบสังคมรับรู้และต้อนรับด้วยซ้ำอีกทั้งลูกที่เกิดกับเมียน้อยเพื่อนฝูงก้อต้อนรับไม่มีปัญหาว่าจะทำให้มีปมด้อยแต่อย่างใด เราเป็นเมียหลวงกลายเป็นว่าหน้าด้านหน้าทนไม่ยอมหย่า ทำให้ครอบครัวลูกเมียเค้าต้องพลัดพรากจากกันถ้าสามีกลับมาอยุ่กับเรา ทุกวันนี้สามีกลับไทยก้อปิดบังเมียน้อยว่ากลับบ้านเกิดไม่ได้กลับบ้านเมียไทย เพราะกลัวเีมียน้อยจะน้อยใจแล้วเคลียร์กันไม่ได้ เราพูดไม่ออกเลยที่จะได้ยินคำนี่้จากปากสามี เวลาเจอเพื่อนๆสามีก้อคุยว่าพระอาจารย์ที่เราทั้งคู่นับถือยังไม่ว่าเค้าซักคำเรื่องเมียน้อย เหมือนกับว่าคนมีปัญหาคือเราคนเดียวที่มีปัญหากะเค้าไปเอง เหมือนที่เค้าทำมันไม่ผิดเพราะสังคมและพระท่านไม่ว่า ... เราละงง จริงๆว่าสามีเห็นกงจักรเป็นดอกบัววได้ขนาดนี้ เค้าหาตัวช่วยตลอดว่าสิ่งที่เค้าทำมันเป็นอะไรที่ใครๆก้อทำ เค้าบอกว่าเพื่อนฝูงคนไทยที่คบกะเค้าทุกคนมีเมียน้อยมีลูกและไม่ได้เลิกรากับเมียหลวง ประมาณว่ายังรับผิดชอบส่งเสียเมียหลวงก้อบุญแล้ว อยู่คนละประเทศเมียน้อยไม่เคยมาวุ่นวายมาวีน เมียน้อยดีอยู่เงียบๆ มีแต่เมียหลวง(คือเรา)ที่ไปวีนสามีเรื่องเมียน้อยตลอดจนเค้ารำคาญและขู่ว่าจะเลิกด้วย เรายังไม่อยากเลิกจึงได้แต่กล้ำกลืน...เค้ามาก้อดีกะเราแต่เราระงับอารมณ์ไม่ได้เลยหาเรื่องเหน็บแนมจนทะเลาะกัน นี่เค้ากลับไปแล้ว เราเลยเครียดเพราะจากกันแบบไม่สวยเลย เค้าเบื่อที่อยู่กันมาเป็นสิบปีเราก้อรู้ แต่การมีเมียน้อยแล้วยอมมีลุกเป็นการทำร้ายจิตใจกันแรงสุดเพราะเราไม่มีลูก และสามีอยากมีลุก นิสัยสามีหลงอะไรแล้วยาวนาน เราได้แต่รอเวลาที่สามีตัดใจไปจากเราเพราะเค้ารักเมียน้อยมากกว่าเราเมื่อไหร่เค้าไปแน่นอน และความห่างเหินที่มีก้อเป็นตัวแยก นี่คือความทุกข์ที่เรามีมันกัดกร่อนจิตใจมาก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2012, 14:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


รุ่งอรุณ เขียน:
เป็นเมียน้อยต้องรับผลกรรม แต่เท่าที่เห็นเมียน้อยสุขกว่าเรา


แต่เรายังไม่เคยเห็นผู้หญิงที่แย่งสามีคนอื่น หลุดจากบ่วงกรรมได้เลย
บางคนผลของกรรมจะร็ว บางคนอาจจะช้า ที่เราเห็นๆ มาส่วนหญ่จะได้รับทั้งนั้น

มุมมองของเรา เรามองอย่างนี้น่ะ บางครั้งสามีกับภรรยาคู่นั้น อาจจะไม่ใช่คู่ชีวิตกันจริงๆ
ถึงอย่างไรก็ต้องมีเหตุให้ต้องเลิกกัน แต่.........ทีนี้ถ้าสามีภรรายาคู่นั้น
มีลูกด้วยกันล่ะ ทีนี้เด็กคือผู้บริสุทธ์ ผู้หญิงคนที่มาเป็นเมียน้อย ไปสร้างกรรมให้กับเด็ก

ให้เด็กต้องกำพร้า พรากพ่อเค้าไป เรามองว่าตรงนี้น่ะคือกรรมหนัก
คือเราบอกตรงๆ เลยน่ะ ปกติเราจะสงสารคนเวลาที่เค้าล้ม
แต่กับผู้หญิงที่ไปแย่งความเป็นพ่อจากเด็กมา
เราไม่เคยให้ความสงสารเลย แต่ไม่ได้สะใจน่ะ คือเฉยๆ

เพราะความเจ็บปวดที่เค้าได้รับ เวลาที่ผู้ชายไปมีคนอื่น
มันไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของความเจ็บปวดที่เด็กได้รับเลย

มีอยู่ครั้งหนึ่งพี่ชายเรามีเมียน้อยหลงเมียน้อยคนนี้มาก พอกลับมาบ้านก็
จะต้องทะเลาะตบตีพี่สะไภ้เราทุกที พี่สะไภ้เรา ไม่ได้ว่าอะไรแต่บางครั้ง
จะหยิบของอะไรให้พี่ชายเราช้า พี่ชายเราหาว่าพี่สะไภ้เราประชดเค้า
เรื่องแค่นี้เองทั้งด่าทั้งตบตี

หลานเราสิค่ะอายุแค่ 2 ขวบกว่า เค้ายืนดูแต่เค้าไม่แสดงอาการอะไร
เค้าจะเฉยๆ ซึ่งทุกคนคิดว่าเค้าคงไม่รู้เรื่อง เพราะเค้าเด็ก
แต่ที่ไหนได้เค้าเก็บความเสียใจไว้ในใจทั้งหมดเลย

เวลาที่เค้านั่งอยู่คนเดียวเค้าจะซึมๆ เราก็ถามหลานว่าคิดเรื่องอะไร
เค้าบอกเค้าคิดถึงเรื่องพ่อของเค้า สงสารแม่ เราได้ฟังแล้วน้ำตาซึมเลย
นี่เด็กแค่ 2 ขวบกว่าน่ะค่ะ แต่ไม่นานค่ะผู้หญิงคนนั้นก็ได้รับกรรมนั้นไป

ขอโทษน่ะค่ะประเทศไหนค่ะ ที่สามีคุณมีเมียน้อย
บางครั้งเพื่อนบ้านอาจะไม่รู้กระมังค่ะ
ว่าสามีคุณมีภรรยาอยู่เมืองไทย :b1: :b41: :b55: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2012, 16:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2012, 15:53
โพสต์: 410


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณรุ่งอรุณคะ อุ๋ยอ่านที่คุณรุ่งอรุณกระทู้แล้วรู้สึกเห็นใจคะ ตามความคิดของอุ๋ยนะ คนทำดีย่อมได้ดีคะ คนชั่วย่อมได้ชั่ว คุณรุ่งอรุณเชื่อสิคะว่า "ผู้ใดกระทำกรรมอันใดไว้ ผู้นั้นจักต้องรับกรรมนั้นในที่สุด" เราหว่านพืชชนิดใด ย่อมได้รับผลชนิดนั้น ทำความดีย่อมได้รับผลดี ทำความชั่วก็ย่อมได้รับผลชั่ว ความเป็นอยู่ปัจจุบันเป็นผลของการกระทำในอดีต ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด อุ๋ยขอยกตัวอย่างจากหนังสือ (กรรมสนองกรรม )ของ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ มีใจความว่า "กรรมชั่วทุกอย่างเกิดขึ้นจากการหลงตัวเอง - รักตัวเอง มีความเห็นแก่ตัวมากกว่าจะนึกถึงใจคนอื่น ความเห็นแก่ตัวนี้เป็นต้นเหตุ ลาภ ยศ สรรเหสริญ โลภ โกรธ หลง เป็นตัวเร่งที่คอยสนับสนุนให้เกิดกรรมชั่วปรากฏ ฉะนั้นเมื่อรู้ว่าผลกรรมที่ทำไปนั้นจะตกเป็นของตนเองแล้ว จงระวังอย่าได้ทำอะไรลงไปด้วยอำนาจ ความหลงตัวเองเป็นอันขาด จงถามตนเองก่อนว่า ถ้าเขาทำกับเราอย่างที่เราทำกับเขา เราจักพอใจไหม เมื่อมีสติดคิดได้อย่างนี้ ก็ย่อมไม่ทำความเดือดร้อนให้แก่ใคร กรรมอันชั่วร้ายก็ไม่บังเกิด และเมื่อมีใครก่อความเดือนร้อนให้ ก็จงคิดว่าเป็นกรรมของเราเอง อย่าไปโกรธเคืองเขาเลย เพราะการโกรธทำให้เกิดคิดแก้แค้น ผูกกรรมให้เกิดขึ้นอีก เป็นการเพิ่มบาป เพิ่มทุกข์แก่ตัวเอง การยอมให้อภัยเป็นการตัดกรรมให้หมดสิน จงพยายามเอาชนะความชั่วด้วยความดี เอาชนะความโกรธด้วยความรัก และขอให้จำไว้ว่า คนที่แสดงความชั่วร้ายต่อเรานั้นเป็นคนเลวอยู่แล้ว ถ้าเราแสดงความโกรธตอบ กระทำตอบแทน เราก็เป็นคนเลวยิ่งไปกว่าเขา เท่ากับช่วยกันเพิ่มคนเลวขึ้นในโลก โลกจะเต็มไปด้วยการจองเวรกันกลับไปกลับมาไม่รู้จักจบ ความพยายาล ความคิดในทางร้าย ย่อมเป็นเหตุให้ใจเศร้าหมอง ความเหตตาอารีไม่จองเวรแก่ใครๆ ย่อมทำให้จิตใจบริสุทธิ์ รู้เช่นนี้แล้วจงถอนความคิดในทางบาป ของท่านออกเสียจากใจเถิด แล้วจงทำจิตใจให้เปี่ยมด้วยความรัก ความเมตตา และให้อภัยแม้แต่ศัตรูเถิด บาปของท่านจักบรรเทาได้เป็นแน่ " อุ๋ยเข้าใจคุณรุ่งอรุณนะคะ เมื่อก่อนอุ๋ยก็เป็นแบบนี้ มันไม่ได้ช่วยทำให้เราดีขึ้นคะ การทำจิตใจให้สงบมันทำได้ยาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับใจของเรา ความทุกข์ร้อนใจของเราทำให้เราไม่สงบ ค่อยๆ คิด ค่อยคลายนะค๊า ร้อนกายไม่เท่าไหร่ ร้อนใจนี่มันทรมานนะ เราจะหาความสงบไม่ได้เลยคะ มันขึ้นอยู่กับใจของคุณนะค๊า ขอให้นึกถึงคำสั่งพระพุทธเจ้านะ มีศีล สมาธิ ปัญญา ทุกข์ร้อนในใจก็คลายได้เจ้าคะ เป็นกำลังใจให้นะเจ้าคะ Kiss


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2012, 17:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


คิดว่า ควรจะพิจารณาให้ดีๆเพราะบาปกรรมไม่ได้เกิดขึ้นและให้ผลตรงนี้ เดี๋ยวนี้เสมอไป ไม่ได้สนองตามใจใคร

ชาตินี้ไม่ใช่ชาติเดียว เราเกิดมาแล้วไม่รู้เท่าไร และยังเกิดอีกไม่รู้เท่าไร ดังนั้น การจะสรุปว่า เขาทำชั่วอย่างนั้นๆแล้วไม่ได้รับผลชั่วนั้นๆเลยจะเป็นการด่วนสรุปเกินไปค่ะ กรรมชั่วที่รอส่งผลอยู่นั้นอาจรอเขาอยู่ในภพหน้า เป็นต้น ก็เป็นได้ค่ะ


ท่านถึงว่า ให้เรามุ่งพิจารณาเอาตัวเองให้รอดดีกว่า รอดในปัจจุบัน คือ ให้มีใจที่สุขสงบตามสมควร หาอุบายให้ตนเองสงบ ให้อภัย คิดว่าเขาไม่มีตัวตน ฯลฯ ส่วนคนอื่นเขาเป็นอย่างไรก็ช่างเขาเถอะค่ะ ถ้าเขาตกนรกก็เขาตกค่ะ เราไปเป็นเดือดเป็นร้อนทำไม แม้ทางโลกเรายังต้องมีภาระว่าเขาเป็นสามีเราก็จริง ก็ให้เป็นแต่ในทางโลกไปอย่างนั้น ในทางธรรม หรือในจิตใจเรา ให้อยู่ตัวคนเดียว ระลึกเอาไว้ว่า ตัวใครตัวมันเน้อ

อีกอย่างคือ จำคำที่พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก ท่านเคยสอนไว้ ท่านว่า "ความชั่วของคนอื่น เราไม่อต้องเอามาแบก" (อาจจะผิำดคำไปบางคำไม่แน่ใจแต่ใจความตามนี้) เชื่อในผลของกรรมค่ะ และต้องเชื่อด้วยว่า กรรมใครกรรมมัน ความชั่วของเขา ถ้าเราไม่เอาใจไปพัวพันแบกเขาไว้ เราก็ไม่ทุกข์ อย่างน้อยก็ต้องเบากว่าแบกความชั่วของพวกเขาไว้แน่ค่ะ


อีกอย่าง ให้พิจารณาความตายไว้เยอะๆ เราตาย เขาตาย เธอคนนั้นก็ตาย ใครๆก็ตาย ถามว่า ถ้าผู้ชายที่ทำเราเจ็บใจ ตายลงในปัจจุบัน เราจะยังต้องหึงหวงอะไรไหมคะ ตายแล้วไม่มีใครหวงใครแล้ว ฝ่ายเมียใหญ่กับเมียเล็กก็เป็นเลิกรากันไป ไม่รู้จะหึงหวงใครกันแล้ว


หรือเราตาย เขาไม่ตายตามเราเสียหน่อย เรื่องความตายนี่ดีมาก พิจารณาบ่อยๆถึงใจดีมากค่ะ



การทำใจนั้นก็ยาก พอเข้าใจ แต่ก็ต้องทำค่ะ ไม่มีทางอื่นหรอกค่ะ นอกจากการพิจารณาลงไปเรื่อยๆ

ขอเอาใจช่วยในฐานะเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย ขวนขวายดับทุกข์ในใจเราดีกว่าค่ะ อย่าไปแก้ไขคนอื่นเลย เหนื่อยเปล่า ปะเดี๋ยวปะด๋าวก็ตายจากกันแล้วค่ะ

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2012, 19:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2012, 16:06
โพสต์: 59


 ข้อมูลส่วนตัว


สามีอยู่กัมพูชาค่ะ เค้าคุยตลอดว่าผู้ชายไทยเป็นแบบเค้าทั้งนั้น มีเีมียน้อยมีลูกอยู่กันเป็นสิบๆปีก้อมี พูดแบบว่าไม่ได้ผิดแปลกอะไรประมาณนี้ ส่วนเราเพื่อนสามีที่โน่นรู้จักเราทุกคนว่าเป็นเมียคนไทยที่เป็นแม่บ้านไม่ค่อยออกสังคม ไม่ค่อยช่างพูด ไม่แต่งตัว คือดูเชยๆมั๊ง สมัยทำงานเราแต่งตัวเก่งหน้าที่การงานสูงแต่พอลาออกก้อตั้งใจเป้นแม่บ้านเต็มตัวทำอย่างดีที่สุดประหยัดเงินไม่ซื้อเครื่องสำอางค์ใช้คิดว่าไม่จำเป็นเลยโทรมมาก เพื่อนๆก้อทักแต่เราเห็นสามีไม่เคยบ่นเราก้อเลยคิดว่าเค้ารับได้ เราชะล่าใจมากๆกะสามีเพราะเค้าทำตัวเนียนมากจับไม่ได้เลย แต่พอจับได้ก้อเลิกเอาใจเราอีกต่อไป ทำตัวเหินห่าง เหมือนกับว่าเราทนได้ก้อทนไป แต่ถ้าทนไม่ได้ก้อไปซะเค้าไม่ว่าอะไรประมาณนี้แต่เค้าไม่พูดออกมาแค่นั้น เหมือนอยุ่แบบนี้ใช้ความห่างเหินเป็นตัวเล่นงานเรา ให้ทนไม่ไหวเพราะเค้ารู้นิสัยเราว่าถ้าเค้าไม่ซื้อสัตย์เราจะเลิกกะเค้่า แต่พอมาเจอจริงๆเรากลับเลิกไม่ได้ จิตใจทุกข์มากมาย ยังคิดว่าไม่น่าปล่อยให้ล่วงเลยมานานขนาดนี้น่าจะเลิกตั้งแต่รุ้ตอนแรก ดีกว่าปล่อยให้เราวีนใส่เค้่าจนเค้าเห็นเราหมดค่าเพราะเราทำตัวงี่เง่ามากพอสมควรเพราะทนไม่ไหว .. ก้อเป็นบทเรียนให้กะเพื่อนๆทุกคนที่มีปัญหาแบบเราว่าการวีนใส่ การประชด การท้าเลิกโดยไม่พร้อม และการต่อรองเอาเงินเพื่อชดเชยความผิดของเค้าเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำอย่างที่สุด เราทำแล้วเจอผลไม่ดีเอามากๆ ทำให้เสียดายทุกวันนี้ว่า ถ้่าเรานิ่งสนิทจริงๆตั้งแต่เรกเค้าจะเกรงใจเรามากกว่านี้ แต่นี้ก้อสายไปแล้วค่ะ ไม่รู้ทำไมแย่ได้ขนาดนี้ นิสัยเราเหวี่ยงใส่เค้าแบบหมดไส้หมดพุง เค้ายังขู่ว่าจะทนไม่ไหวถ้าไม่หยุด และเมียน้อยก้อเป็นนางเอกน่ารัักไปโดยปริยาย เพราะเมียหลวงร้าย นิสัยเปลี่ยนจากคนใจเย็นให้อภัยตลอดเป็นร้อนใส่ ทะเลาะกันแรงๆตลอด เราบอกตรงๆว่าบางทีคิดว่าไหนๆจะเิลิกกันอยู่แล้วก้อให้แตกหักกันไปเลย แต่พอมาคิดดูเราอยากรักษาชื่อเสียงเราที่ดีมาตลอดไม่อยากให้สามีมาโทษได้ว่าเราแย่เองเค้าเลยรับไม่ได้...เฮ้อ เราไม่ผิดอะไรเลยแต่กลายเป็นต้องมานั่งเครียดรักษาความสัมพันธ์ รักษาน้ำใจเค้า ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ สามีรักเด็กมากๆ และสามีเป็นพ่อบ้านเราเชื่อว่าเค้าก้อดูแลเมียน้อยอย่างดีเอาใจเหมือนที่ทำกะเรานั่นแหละ ทรมานจังค่ะกับการอยู่ตรงทางแยกไปทางไหนไม่ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2012, 20:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ส.ค. 2012, 08:50
โพสต์: 86


 ข้อมูลส่วนตัว


เข้าใจและเห็นใจคุณรุ่งอรุณนะคะ เพราะเจ็บปวดก็คิดเหมือนคุณคะว่า เราไม่ได้ทำผิดแต่ทำไมคนที่เสียใจต้องเป็นเราด้วย และทำไมต้องเป็นเราที่ยังต้องประคับประครองให้ครอบครัวกลับมาสมบูรณ์ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2012, 20:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 เม.ย. 2012, 13:00
โพสต์: 69


 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านถึงว่า ให้เรามุ่งพิจารณาเอาตัวเองให้รอดดีกว่า รอดในปัจจุบัน คือ ให้มีใจที่สุขสงบตามสมควร หาอุบายให้ตนเองสงบ ให้อภัย คิดว่าเขาไม่มีตัวตน ฯลฯ ส่วนคนอื่นเขาเป็นอย่างไรก็ช่างเขาเถอะค่ะ ถ้าเขาตกนรกก็เขาตกค่ะ เราไปเป็นเดือดเป็นร้อนทำไม แม้ทางโลกเรายังต้องมีภาระว่าเขาเป็นสามีเราก็จริง ก็ให้เป็นแต่ในทางโลกไปอย่างนั้น ในทางธรรม หรือในจิตใจเรา ให้อยู่ตัวคนเดียว ระลึกเอาไว้ว่า ตัวใครตัวมันเน้อ

:b8: :b8: :b8: สาธุ คะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2012, 20:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2012, 15:53
โพสต์: 410


 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุคะ ขอให้ใจเราสงบๆๆๆๆ onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2012, 07:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ธ.ค. 2011, 07:44
โพสต์: 142

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณรุ่งอรุณคะ ดิฉันมีเรื่องคล้ายๆกับคุณจะเล่าให้ฟัง

ดิฉันรู้จักชาวต่างชาติคนนึงเข้ามาทำการค้าที่นี่มานานกว่าสิบปีแล้วค่ะ ด้วยความที่คุยกันถูกคอ แกก็เล่าให้ฟังว่า แกมีครอบครัวที่บ้านเกิดแล้ว แต่ไปๆมาๆระหว่างเมืองไทยกับบ้าน แล้วความที่แกเหงาและต้องการคนพูดไทยได้ไว้คอยช่วยเรื่องการค้า ทำให้เขาไปได้ผู้หญิงไทยคนนึงเป็นเมียน้อยแบบไม่ตั้งใจ ดิฉันเตือนว่ามันเป็นเรื่องผิดต่อภรรยาและลูกๆเขานะ เขาบอกว่ารู้ทั้งรู้แต่มันเป็นความจำเป็นอย่างนึง ประมาณว่าจะไม่ยอมให้ภรรยามาดูหรือเห็นที่นี่เลย ขณะเดียวกันก็ยังดูแลครอบครัวตามปกติอยู่

สองปีก่อน ดิฉันเริ่มเห็นสัญญาณสื่อว่าชีวิตเริ่มไม่ดีบางอย่างจากผู้ชายคนนี้ หลายครั้งที่คุยกัน เขาพูดคล้ายๆว่าชีวิตครอบครัวมีปัญหา ประมาณว่าพูดถึงแต่ลูกๆ แต่ไม่พูดถึงภรรยาอีกเลย บอกแต่ว่าลูกๆจบการศึกษากันหมดแล้ว และอาจทิ้งธุรกิจที่เมืองไทย แล้วตั้งใจว่าอีกไม่เกิน 5 ปีจะเกษียณตัวเอง และออกท่องเที่ยวตามใจปรารถนา ดิฉันไม่กล้าถามถึงเรื่องเมียน้อยที่เมืองไทย (เพราะเห็นเป็นเรื่องส่วนตัว ถ้าอยากเล่า เขาคงพูดแล้ว) ได้แต่เลียบๆเคียงๆดูเหมือนกันว่า จะไม่เหลือทุกสิ่งทุกอย่างไว้ที่นี่อีกแล้ว

เมื่อหนึ่งเดือนก่อน ได้เจอเขาอีกครั้ง เขาบอกว่ากำลังเก็บของทุกอย่างกลับประเทศ พร้อมกับพูดคำเดิมค่ะว่า จากนี้ไปจะไม่ทำการค้าใหญ่โตอะไรอีก เอาแค่พอกินเลี้ยงตัวเองก็พอ หลังจากนั้นจะออกท่องเที่ยวประสาคนแก่ (แต่ไม่พูดถึงภรรยาและเมียน้อยเลยค่ะ) ดิฉันถามถึงลูก แกบอกว่า ลูกๆไม่มีใครสานต่อธุรกิจของแก เพราะต่างคนต่างมีงานทำกันหมดแล้ว

เท่าที่ดิฉันรู้จักกับผู้ชายคนนี้มา แกเป็นคนซื่อ ไม่คดโกง จิตใจโอบอ้อมอารี มีน้ำใจ และแกเองยังเคยสั่งสอนดิฉันถึงบางแง่มุมของการใช้ชีวิตคู่ด้วยค่ะ แต่จากสิ่งที่แกพูด ทำให้ดิฉันมั่นใจว่า ความที่แกเองไม่ได้คิดแก้ไขตั้งแต่ต้น (ทั้งๆที่ดิฉันเองก็เตือนเสมอ) ทำให้ปัญหามันรุนแรงและสะสมมานาน จนวันนึงมันก็ถึงขั้นแตกหัก แกสูญเสียทั้งสองฝ่าย เหมือนคนจับปลาสองมือ สุดท้ายแกก็ไม่เหลืออะไรเลย แล้วลูกๆแกเองก็ไปทางแม่หมด ดิฉันเคารพแกในฐานะผู้ใหญ่คนนึง จึงไม่กล้าว่ากล่าวอะไรมาก ได้แต่เตือนให้นึกถึงหัวอกคนเป็นเมียและแม่อยู่เสมอ ดูเหมือนแกมั่นใจว่าแกเอาอยู่ทั้งสองฝ่ายรึเปล่าไม่ทราบได้ แต่กรรมมันก็ติดจรวดค่ะ ทุกวันนี้ได้เห็นหน้าแกเหมือนคนอมทุกข์ ช่างแตกต่างจากเมื่อสิบปีก่อนอย่างสิ้นเชิง

อยากบอกคุณรุ่งอรุณค่ะว่า อย่าเอาความสุขของเราไปผูกกับคนอื่น ความสุขต้องมาจากตัวเราเอง ไม่ใช่ให้คนอื่น (หรือสามี) หยิบยื่นให้ เพราะสามีก็คือคนอื่น เขาย่อมเห็นแก่ความสุขของตัวเองก่อนเช่นเดียวกัน อะไรที่คุณคิดว่าดีและเหมาะแล้วสำหรับคุณ (เป็นสิ่งที่ดี) ก็จงทำเถิดค่ะ เราไม่รู้อนาคตก็จริง แต่สิ่งที่ดีๆที่ทำไว้ในวันนี้ จะส่งผลดีในวันหน้าแน่นอน เช่นเดียวกันกับเวรกรรมที่ผู้อื่นกระทำกับเรา เขาเองก็จะได้รับผลกรรมนั้นในวันใดวันหนึ่งแน่นอนค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2012, 10:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 เม.ย. 2012, 13:00
โพสต์: 69


 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าเอาความสุขของเราไปผูกกับคนอื่น ความสุขต้องมาจากตัวเราเอง ไม่ใช่ให้คนอื่น (หรือสามี) หยิบยื่นให้ เพราะสามีก็คือคนอื่น เขาย่อมเห็นแก่ความสุขของตัวเองก่อนเช่นเดียวกัน อะไรที่คุณคิดว่าดีและเหมาะแล้วสำหรับคุณ (เป็นสิ่งที่ดี) ก็จงทำเถิดค่ะ เราไม่รู้อนาคตก็จริง แต่สิ่งที่ดีๆที่ทำไว้ในวันนี้ จะส่งผลดีในวันหน้าแน่นอน เช่นเดียวกันกับเวรกรรมที่ผู้อื่นกระทำกับเรา เขาเองก็จะได้รับผลกรรมนั้นในวันใดวันหนึ่งแน่นอนค่ะ

สาธุคะ :b8: เห็นด้วยกับประโยคนี้คะ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนคะ สู้ๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2012, 08:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2012, 07:09
โพสต์: 142


 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ไปทำบุญทอดผ้าป่ามาค่ะ แบ่งบุญให้ทุกคนนะคะ
กรรมติดจรวดค่ะ เห็นกันชาตินี้แหละค่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2012, 08:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 เม.ย. 2012, 13:00
โพสต์: 69


 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาคะ :b8: เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้สู้ คะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2012, 23:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2012, 16:06
โพสต์: 59


 ข้อมูลส่วนตัว


จากทุกข์เพราะเสียใจผิดหวัง...ตอนนี้กลายเป็นแค้นอีกแล้ว...อารมณ์เหวี่ยงขึ้นๆลงๆ ตลอดที่คิดเรื่องสามี....ถ้าเราเฉยๆนิ่งๆเค้าก้อได้ทีตีปีก และคงจะหายไปเลย...หรือนานๆค่อยติดต่อมา...ที่สำคัญการมีลูกที่เค้าอยากมีมานานและสมใจอยากกะคนที่เค้าลุ่มหลงอยากได้เป็นแม่ของลูก...ตอนนี้สามีกำลังหลงลูกทีี่จะเกิดห่อมาก...เตรียมการวางแผนทำบ้านทำห้องนอนเด็ก หาพี่เลี้ยง เปิดตำราเลี้ยงลูก...สารพัด...เราเริ่มรู้สึกคับแค้นแน่นอกว่า....มีความสุขกันได้อย่างเต็มที่เหมือนไม่ได้ทำผิด สุขบนความทุกข์ของคนที่เค้าเคยรักและรักเค้ามาก...ตอนนี้ท่องคำว่าอดทน...ไม่หนี..ไม่สู้..ก้มหน้ารับวิบากทางใจที่สุดๆของความทุกข์...เห็นแต่ทุกข์ไม่เคยเห็นสุข....ความรู้สึกของคนถูกทิ้งนี่เจ็บปวดทรมานจริงๆ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2012, 01:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 เม.ย. 2012, 13:00
โพสต์: 69


 ข้อมูลส่วนตัว


เข้าใจความรู้สึกของคุณรุ่งอรุณนะคะ ดิฉันเอาใจช่วยนะคะ ขอให้ผ่านเรื่องร้ายๆ ไปได้ด้วยดีนะคะ คิดว่าเป็นบททดสอบความอดทนในชีวิตของเรานะคะ คนเราชีวิตต้องดำเนินต่อไปนะคะ อย่าท้อถอย พยายาม สร้างกรรมดี เพื่อให้ กรรมชั่วเบาบางนะคะ

ได้ยินมาว่าช่วงที่กรรมชั่วส่งผล ถ้าได้ส่งผลเมื่อไหร่มันจะรุนแรงและหนักมากขอให้เราตั้งสติให้ดีนะคะ แต่เมื่อไหร่ที่กรรมชั่วส่งผลจนเริ่มเบาบางแล้ว กรรมดีที่เราสร้างไว้จะเข้ามาแทนที่คะ และถ้าช่วงนี้เราทำความดีมาก ๆ ดิฉันเชื่อคะว่า เมื่อถึงเวลาที่กรรมดีส่งผลก็คงจะทำให้คุณมีความสุขมากเป็นแน่ (แต่เมื่อมีสุขแล้วก็อย่าลืมทำกรรมดีสั่งสมไว้นะคะ เพื่อที่จะได้ไม่เปิดโอกาสให้กรรมชั่วได้ส่งผลอีกคะ)

เป็นกำลังใจให้นะคะ :b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2012, 16:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2012, 15:53
โพสต์: 410


 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นกำลังใจให้คะ ค่อยๆ คิดนะคะ เราคิดมากเราก็เจ็บคะ ถึงเขาจะอยู่กับเรา อยู่แต่กาย ใจไม่อยู่ก็มีค่าเท่ากันคะ เขาไม่ได้มาแคร์ความรู้สึกของเรา ยิ่งเราเสียใจ มันทำให้เขามองเราอย่างสมเพชคะ อันนี้อุ๋ยเคยเป็นมาก่อน ต่อไปตั้งใจว่าจะไม่อ่อนแอให้ใครเห็น และจะเป็นกำลังใจให้ตัวเองและลูก จะไม่ตั้งความหวังกับเขาซึ่งเป็นคนอื่น อยู่กับตัวเองและลูก ก็พอคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆๆคะ ชีวิตมันต้องเดินคะ ถ้าทุกข์ทนแล้วมันทรมานไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เขาไม่เห็น ไม่รู้ แล้วเราจะมาเศร้าทำไมคะ เชื่ออุ๋ยนะ สู้ๆๆคะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 39 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 22 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร