วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 19:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 34 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2012, 07:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


ก็เราทำให้ ไม่มีใครหรืออะไร ไปเสวย นั้นแหละครับ ที่เหลือก็ตาม เหตุปัจจัย นั้นๆ ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2012, 09:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


บทว่า มีจิตอย่างนี้ มีใจอย่างนี้ ความว่า ธรรมชาติอันใดเป็นจิต ธรรมชาติอันนั้น
ชื่อว่าใจ ธรรมชาติอันใดเป็นใจ ธรรมชาติอันนั้นชื่อว่าจิต
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... 9%A8%D4%B5

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2012, 09:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


[๗๖๗] ธรรมเป็นจิต เป็นไฉน?
จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ มโนธาตุ
มโนวิญญาณธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นจิต.
ธรรมไม่เป็นจิต เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์, รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ สภาวธรรม
เหล่านี้ชื่อว่า ธรรมไม่เป็นจิต.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... 9%A8%D4%B5

[๙๔๓] ธรรมเป็นจิต เป็นไฉน?
จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ มโนธาตุ
มโนวิญญาณธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นจิต.
ธรรมไม่เป็นจิต เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ รูป และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมไม่
เป็นจิต.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... 9%A8%D4%B5


[๑๑๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย วิญญาณเป็นไฉน? ดูกรภิกษุทั้งหลาย วิญญาณ ๖ หมวดนี้
คือ จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ มโนวิญญาณ. ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย นี้เรียกว่าวิญญาณ.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... agebreak=0
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... agebreak=0

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2012, 10:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
จิตของเรานั้นเป็นสมมุติสัจจะ

ท่านพูดออกมาได้อย่างไรครับท่าน


ปรมัตถสัจจะ มีสี่อย่างคือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน

http://www.kammatan.com/download/book/paramattatam.pdf


" จิตของเราตามที่เราตีความหมายของคุณฝึกจิต" คือ ทำไมพูดว่า จิต ของเรา จิต ของเขา นาย ก นาย ข สิ่งเหล่านี้พูดเพื่อสื่อสาร นั่นคือสมมุติสัจจะ จะไม่บอกว่า ขันธ์5 กองนั้น ขันธ์5 กองนี้ จิตของขันธ์5กองนี้ ครับผม

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2012, 11:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถามว่า "จิตเป็นเช่นไร เกิดดับอย่างไร"

คำตอบ ได้แก่ตัวอย่างนี้ :b1:

ช่วงหลังๆ อิชั้นเริ่มนั่งสมาธิได้นานขึ้นจิตก็นิ่งมากขึ้น
สองวันนี้จากภาวนาอยู่ดีๆ จิตก็มีการถามและจิตก็ตอบเอง เสมือนเป็นการพูดคุย
แต่ไม่ได้มีเสียงหรือได้ยินเสียงจากแห่งใด เหมือนจิตอิชั้นกำลังพูดคุยอยู่กับใครบางคน
แล้วดิชั้นก็พยายามดึงจิตกลับมาสู่การภาวนาจดจ่อที่ลมหายใจเข้าออก และคิดว่าการพูดคุยนั้นมันเป็นการอุปาทานไปเอง ซึ่งแสดงว่า จิตดิฉันยังไม่สงบนิ่งใช่หรือไม่ จิตจึงมีการคิดนึกถามและตอบเอง

ในจิตที่ถาม-ตอบ

อิชั้น ถามว่า จิตอุปาทานเองใช่ไหม จิตก็ตอบว่า ไม่

ดิฉันก็ถามต่อแล้วท่านเป็นใคร จิตก็ตอบว่า ไม่ต้องรู้หรอกเมื่อถึงเวลาท่านก็รู้เอง

อิชั้นถามเรื่องกรรมว่า เมื่อไหร่จะพ้นกรรมที่เผชิญอยู่นี้ จิตก็ตอบว่า ปฏิบัติไปเรื่อยๆภาวนาไป ไม่เกิน 6 เดือนนี้

ตอนกำลังจะออกจากสมาธิดิฉันบอกว่า ขออนุญาตขอถอนออกจากสมาธิก่อนนะเจ้าคะ จิตตอบว่า ได้ แล้วอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรเลย เขารอรับอยู่



ที่จริงบทสนทนามีมากกว่านี้ แต่ว่าไม่รู้เป็นอุปาทาน หรือเป็นคำตอบใต้จิตสำนึกของดิฉัน เพราะระหว่างที่มีสนทนาทางจิต ดิฉันก็ยังมีความสงสัยว่ามันเป็นอุปาทานการปรุงแต่งของดิฉันเอง เพราะดิฉันสงสัยตัวเองว่าจะมีความก้าวหน้าจากการปฏิบัติขนาดสื่อกับใครได้เชียวหรือ

http://board.palungjit.com/f4/ถามนักปฏิบัติขณะนั่งสมาธิมีถามตอบในจิตถือเป็นอุปทานหรือไม่-345804.html#post6314769

ที่เน้นสีนั่นแหละ จิต (ความคิด) และการเกิดดับของมัน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2012, 13:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
ก็เราทำให้ ไม่มีใครหรืออะไร ไปเสวย นั้นแหละครับ ที่เหลือก็ตาม เหตุปัจจัย นั้นๆ ครับ

ไปเสวย...อะไร....ก็รู้

ไม่เสวย..อะไร..ก็รู้เน๊าะ...ว่าไม่ได้เสวยอะไร...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2012, 13:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ถามว่า "จิตเป็นเช่นไร เกิดดับอย่างไร"

คำตอบ ได้แก่ตัวอย่างนี้ :b1:

ช่วงหลังๆ อิชั้นเริ่มนั่งสมาธิได้นานขึ้นจิตก็นิ่งมากขึ้น
สองวันนี้จากภาวนาอยู่ดีๆ จิตก็มีการถามและจิตก็ตอบเอง เสมือนเป็นการพูดคุย
แต่ไม่ได้มีเสียงหรือได้ยินเสียงจากแห่งใด เหมือนจิตอิชั้นกำลังพูดคุยอยู่กับใครบางคน
แล้วดิชั้นก็พยายามดึงจิตกลับมาสู่การภาวนาจดจ่อที่ลมหายใจเข้าออก และคิดว่าการพูดคุยนั้นมันเป็นการอุปาทานไปเอง ซึ่งแสดงว่า จิตดิฉันยังไม่สงบนิ่งใช่หรือไม่ จิตจึงมีการคิดนึกถามและตอบเอง

ในจิตที่ถาม-ตอบ

อิชั้น ถามว่า จิตอุปาทานเองใช่ไหม จิตก็ตอบว่า ไม่

ดิฉันก็ถามต่อแล้วท่านเป็นใคร จิตก็ตอบว่า ไม่ต้องรู้หรอกเมื่อถึงเวลาท่านก็รู้เอง

อิชั้นถามเรื่องกรรมว่า เมื่อไหร่จะพ้นกรรมที่เผชิญอยู่นี้ จิตก็ตอบว่า ปฏิบัติไปเรื่อยๆภาวนาไป ไม่เกิน 6 เดือนนี้

ตอนกำลังจะออกจากสมาธิดิฉันบอกว่า ขออนุญาตขอถอนออกจากสมาธิก่อนนะเจ้าคะ จิตตอบว่า ได้ แล้วอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรเลย เขารอรับอยู่



ที่จริงบทสนทนามีมากกว่านี้ แต่ว่าไม่รู้เป็นอุปาทาน หรือเป็นคำตอบใต้จิตสำนึกของดิฉัน เพราะระหว่างที่มีสนทนาทางจิต ดิฉันก็ยังมีความสงสัยว่ามันเป็นอุปาทานการปรุงแต่งของดิฉันเอง เพราะดิฉันสงสัยตัวเองว่าจะมีความก้าวหน้าจากการปฏิบัติขนาดสื่อกับใครได้เชียวหรือ

http://board.palungjit.com/f4/ถามนักปฏิบัติขณะนั่งสมาธิมีถามตอบในจิตถือเป็นอุปทานหรือไม่-345804.html#post6314769

ที่เน้นสีนั่นแหละ จิต (ความคิด) และการเกิดดับของมัน

อาการคล้ายกัน เวลานั่งกรรมฐาน จิตจะเกิด วิตก วิจารณ์ นิ่ง สงบ สลับกันไป คุนน้องก็ถามเองตอบตัวเองเหมือนกัน.. แต่จิตของคุนน้องมันมีตัวสัญญาคอยตอบคำถามพวกนั้น แถมเกิดความรู้สึกนึกคิดไหลออกมาไม่หยุด ไม่รู้มันทะลักออกมาได้ยังงัย จนเราต้องดึงสติกลับมาเหมือนเดิมหยุดคิดก่อน แล้วทำจิตให้สงบก่อนแล้วค่อยใช้ความคิดต่อ พอมันฟุ้งไปเยอะก็ดึงกลับมาให้สงบ เป็นการฝึกปัญญาพิจารณาธรรม ตามแบบฉบับคุนน้องเองแหละ :b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2012, 13:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 เม.ย. 2012, 17:37
โพสต์: 37

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ก็เราทำให้ ไม่มีใครหรืออะไร ไปเสวย นั้นแหละครับ ที่เหลือก็ตาม เหตุปัจจัย นั้นๆ ครับ

ไปเสวย...อะไร....ก็รู้

ไม่เสวย..อะไร..ก็รู้เน๊าะ...ว่าไม่ได้เสวยอะไร...


ถ้าเรารู้ ไปเสวย...อะไร....ก็รู้ ไม่เสวย..อะไรก็รู้ แล้วจบลงที่รู้ แล้วมันจะมีอะไรต่อมั้ยครับ รู้ที่มันแก่รอบแล้วมันจะมีเชื้ออยู่มั้ยครับ

กระทู้นี้อ่านแล้วมีประโยชน์ครับ
:b8: :b8: :b8:
ด้วยความเคารพอย่างสูง
---------------
plekaran


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2012, 16:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


หลังจาก...ไม่เสวยอะไร...ก็รู้..นี้นะ..

หลังจากนี้....นะรื..

ถ้าแบบยังมีกิเลสอยู่...นะ....เฉย..ๆ...รู้เฉย..แต่ครั้งใหม่อาจไม่แน่

หากเป็นแบบหมดกิเลส..นะ....ไม่รู้..(คือผมไม่รู้)..

ว่าแต่...เจ้ารู้แก่รอบ..นี้มันรู้แบบไหนหรอครับ?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2012, 17:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 เม.ย. 2012, 17:37
โพสต์: 37

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ว่าแต่...เจ้ารู้แก่รอบ..นี้มันรู้แบบไหนหรอครับ?


คือรู้ว่า รู้ไม่เที่ยงเป็นไตรลักษณ์ รู้ว่ารู้ รู้ไม่เอารู้ รู้เฉย เพราะรู้ว่ามีขันธ์อยู่จึงรู้
เปรียบเหมือนรู้เป็นไ้ก่อ่อนในไข่ เมื่อไก่กระเทาะออกจากเปลือกแล้ว ก็รู้ว่าเปลือกไข่มันปิดตัวไก่ไว้อยู่ พอรู้แล้วอวิชารู้ ก็ถูกเปิด เปิดพอเปิดแล้วก็เปิดเลย

ผิดพลาดประการใดขออภัยแนะนำด้วยนะครับ
:b8: :b8: :b8:
ด้วยความเคารพอย่างสูง
-----------------
plekaran


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2012, 17:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ทำไมมันถึงเฉย....ทำไมมันถึงไม่เอา...ทำไมถึงไม่เอารู้...ละ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2012, 18:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8:
อ้อ ครับ เข้าใจครับ คุณ student

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2012, 19:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 เม.ย. 2012, 17:37
โพสต์: 37

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ทำไมมันถึงเฉย....ทำไมมันถึงไม่เอา...ทำไมถึงไม่เอารู้...ละ


เพราะไม่ใช่พระอรหันต์ครับ น่าจะถูกนะครับพี่กบ

:b12: :b12: :b12: :b8:
ด้วยความเคารพอย่างสูง
------------
plekaran


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2012, 21:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ช่ายยย...ไม่ใช่พระอรหันต์....ก็เลยไม่รู้.... :b17:

แต่..สักวันก็จะรู้...แหละนะ... :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 07:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
มีผู้มาโปรดกระผม แค่นี้หรือ ผู้เข้าถึงธรรมท่านอื่นๆ ไม่เห็น เฮ้ย!!ไม่ใช่... ไม่มีความคิดเห็น บ้างหรือ หรือ กลัวผิดถูก :b12:

ไม่มีใครชี้ได้หรอก :b12:

ห่วง อัตตา กันจัง :b12:

ยั่วๆๆๆ :b28:


อิ....อิ....

ตอนนี้อารมณ์มันอยากจะพูดแค่เรื่องง่าย ๆ ...

เรื่องอภิธรรมล้ำลึกละก้อ..ขอบาย....เอิ๊ก...เอิ๊ก.. :b32:

ในเมื่อจิตมันเกิด..ดับ...เกิดดับ...แล้วฝึกจิต...จะไปฝึกอะไร.

ดวงเก่าดับไป..ดวงใหม่เกิดมา...ตลอดทิวาราตรี....แล้วจะไปฝึกอารายยได้?

เอิ๊ก...เอิ๊ก.....เอิ๊ก :b17: :b17: :b17:



ออ!! ก็แรกๆเราก็ฝึก จิต ให้เห็นการเกิด-ดับ แล้วค่อย หยุดไม่ให้มันเกิดไปเสวย สิ่งที่เกิด-ดับ อะดิท่านกบ จิตจึงจะหลุดพ้น

:b8:

เราฝึกจิตเพื่อให้รู้ความเห็น เกิด-ดับ ของรูปของนาม ตามสภาวะตามความเป็นจริง
จะได้ไม่หลงไปว่า รูปนามเป็นของเที่ยง เมื่อเห็นความไม่เที่ยงของรูปของนาม
ย่อมยังความเบื่อหน่ายในรูปนามขันธ์ ๕ ละความเห็นที่เป็นอัตตา สิ่งที่มีอยู่เดิมคือความเห็นผิด
ตรงนี้แหละครับควรเข้าไปรู้ไปเห็น ที่เป็นวิปัสสนาญานเบื้องต้น

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 34 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 57 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร