วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 14:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 61 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2012, 18:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ต.ค. 2008, 15:38
โพสต์: 31

ชื่อเล่น: joy
อายุ: 0
ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุ สาธุ อนุโมทนาบุญครั้งใหญ่ด้วยค่ะ
tongue tongue tongue

.....................................................
รู้รักษาใจ...เป็นยอดดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2012, 21:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
เจริญสติ...เป็นวิปัสสนาหรอ??

:b32: :b32: :b32:

แล้วมันจะต่างอะไรกับที่ว่า...ปัญญาจะเกิดขึ้นเอง

:b12:

cool
"แล้วคุณกบคิดว่าการเจริญสติปัฏฐาน 4 เป็น สมถะหรือวิปัสสนาล่ะครับ กรุณาอธิบายขยายความให้เข้าใจด้วยครับ"
onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2012, 21:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


สัมมาสติ.....

สัมมาสมาธิ...

สัมมาญาณ...

สัมมาวิมุตติ...

:b13: :b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2012, 21:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ภาวนา....เขาถึงเรียก...สมถะวิปัสสนา... :b32:

คนตรง...เขาก็พูดตรง...

คนลำไม่ตรง....ก็พูดแค่อันเดียว....ว่าอันนี้ดีกว่าอันนั้น...อันนั้นดีกว่าอันนี้
huh


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2012, 14:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




ปัญญา สติ สมาธิ_resize_resize.jpg
ปัญญา สติ สมาธิ_resize_resize.jpg [ 43.75 KiB | เปิดดู 8879 ครั้ง ]
กบนอกกะลา เขียน:
ภาวนา....เขาถึงเรียก...สมถะวิปัสสนา... :b32:

คนตรง...เขาก็พูดตรง...

คนลำไม่ตรง....ก็พูดแค่อันเดียว....ว่าอันนี้ดีกว่าอันนั้น...อันนั้นดีกว่าอันนี้
huh

cool
แล้วคุณกบจะถามอย่างนี้ ทำไมล่ะครับ "เจริญสติ...เป็นวิปัสสนาหรอ??"

เวลาเจริญมรรค 8 นั้น ปัญญา สติ สมาธิ เขาทำงานร่วมกันเป็นเกลียว เป็นเหตุปัจจัยสนับสุนซึ่งกันและกัน เมื่อได้สัดส่วนสมดุลย์กันดีแล้วย่อมจะส่งให้ถึง มรรค ผล นิพพาน ความข้อนี้เคยแสดงให้ฟังอยู่หลายครั้ง

การแยกสมถะกับวิปัสสนาออกจากกันเป็นการแจงแจงธรรมออกมาให้เห็นชัดว่าอะไรเป็นอะไร มิใช่แยกเพื่อบอกว่าอันนั้นดี อันนี้ไม่ใช่ ผู้ปฏิบัติจะได้รู้ชัดในอุปนิสัย วาสนา บารมีที่ตนสร้างสมมา แล้วจะได้เติมเต็มในส่วนที่ขาด ตัดทอนในส่วนที่เกิน เพื่อให้เกิดความพอดีหรือสมดุลย์แห่งธรรม

การที่ asoka พยายามที่จะถ่วงดุลย์ด้วยการชี้เน้นเฉพาะด้านปัญญาและวิปัสสนาภาวนาก็เพราะเห็นว่าแทบทุกลานธรรม มักจะโน้มเอียงไปทางสมถะกันเป็นส่วนใหญ่จนเห็นดีเห็นงามตามกันไปเกือบจะหมด
อยากจะให้ทุกท่านนำข้อสรุปของพระ สารีบุตรมาพิจารณา ท่านได้กล่าวไว้สรุปได้ว่า ผู้ปฏิบัติภาวนาสาวกในพระสมณะโคดมจะมีอยู่ 3 กลุ่มคือ
1.สมถะนำหน้าวิปัสสนา
2.วิปัสสนานำหน้าสมถะ
3.สมถะและวิปัสสนาเจริญควบคู่กันไป
โลกปัจจุบันนี้จะเอากันแต่ข้อ 1 แล้วอีก 2 ข้อ 2 กลุ่มที่เหลือไปอยู่เสียที่ไหน หรือโลกยุคปัจจุบันนี้มีบุคคล นักปฏิบัติภาวนาเหลืออยู่เพียงกลุ่มเดียว

:b10:
คนตรง กับ คนเถรตรง นั้นต่างกันลิบลับเลยนะครับคุณกบ ถ้าพิจารณาโดยธรรม คนตรง นั้ันคือคนที่ยืนอยู่บนหลักของเหตและผล สัจจธรรม ความจริง

ส่วนคนเถรตรงนั้น เปรียบได้กับคนที่ยึดมั่นถือมั่นอยู่ในความเห็นเดียวอย่างเหนียวแน่นไม่ยอมเปลี่ยนแปลง

ขอให้สังเกตและพิจารณากันให้ดี ถี่ถ้วน ละเอียดละออก่อนจะตัดสินว่าอะไรเป็นอะไรนะครับ


"สัพเพธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2012, 14:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




กระบวนการทำงานของมรรค 8_100.1 Kb_resize.jpg
กระบวนการทำงานของมรรค 8_100.1 Kb_resize.jpg [ 45.99 KiB | เปิดดู 8879 ครั้ง ]
กบนอกกะลา เขียน:
สัมมาสติ.....

สัมมาสมาธิ...

สัมมาญาณ...

สัมมาวิมุตติ...

:b13: :b13: :b13:

cool
สงสัยคุณกบจะได้ฟังมาและฟังมากอยู่แค่มุมเดียว

เคยได้ยินได้ฟังได้อ่าน ได้ผ่านตาอย่างนี้บ้างไหมว่า

มรรคมีองค์ 8 นั้น ถ้ามรรคข้อที่ 1 เป็นสัมมาเสียแล้ว มรรคที่เหลืออีก 7 ข้อ ก็จะเป็นสัมมาตามกันไปหมด
แต่ถ้ามรรคข้อที่ 1 เป็น มิจฉา มรรคที่เหลืออีก 7 ข้อ ก็จะเป็นมิจฉาตามกันไปหมดเช่นกัน

:b10:
ถามว่า "มรรคข้อที่ 1 คืออะไร อยู่ในกลุ่มของ สติ สมาธิ หรือ ปัญญา"?
:b16:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2012, 20:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


สัมมาทิฏฐิ....มันไม่ได้มีทีเดียวแล้วก็จบ..หรอกนะ..อโสกะ

ตอนแรก..ปุถุชนจะเข้า....สัมมาทิฏฐิ..มันก็แบบง่าย ๆ

พอลึกเข้า...สัมมาทิฏฐิมันก็ละเอียดปราณีตขึ้น

ดังนั้นจะบอกว่า...จัดอยู่ในหมวดปัญญา..แล้วก็จบ...มันไม่ใช่หรอก

:b1: :b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2012, 20:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




อริยสัจ 4_resize.jpg
อริยสัจ 4_resize.jpg [ 58.29 KiB | เปิดดู 8875 ครั้ง ]
กบนอกกะลา เขียน:
สัมมาทิฏฐิ....มันไม่ได้มีทีเดียวแล้วก็จบ..หรอกนะ..อโสกะ

ตอนแรก..ปุถุชนจะเข้า....สัมมาทิฏฐิ..มันก็แบบง่าย ๆ

พอลึกเข้า...สัมมาทิฏฐิมันก็ละเอียดปราณีตขึ้น

ดังนั้นจะบอกว่า...จัดอยู่ในหมวดปัญญา..แล้วก็จบ...มันไม่ใช่หรอก

:b1: :b1: :b1:

:b16:
สัมมาทิฏฐิ ความเห็นถูกต้อง จะมีอะไรยิ่งไปกว่า ความเห็นว่า

นี่ทุกข์

นี่เหตุเกิดทุกข์

นี่ความดับทุกข์

นี่คือทางดำเนินไปให้ถึงความดับทุกข์


ส่วนความละเอียดลึกซึ้งในแต่ละหัวข้อนั้นเป็นเรื่องที่อยู่กับ อุปนิสัย วาสนา บารมีและสติปัญญาของผู้ปฏิบัติแต่ละคนอันเป็นเรื่องปัจจัตตังเวทิตัพโพวิญญูหีติ
:b16:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2012, 20:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้าวว....อย่างนี้...อโสกะก็เห็นแล้วนะสิ...

เห็นแล้ว...ผลมันเป็นยังงัยมั่ง?

เป็นโสดา...อนาคา...หรือดับทุกข์ได้ไปแล้วงั้นรึ?

หากยังไม่เห็นผล....ที่เห็นนั้นมันก็ยังไม่จริง...

มันท่อง...นะอโสกะ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2012, 20:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


จงอย่าได้ประมาท....คิดว่าตนเห็นแล้ว

ให้ดูที่ผล...

ผลมันต้องมี...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2012, 21:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ปุถุชนผู้มีความเห็นว่า...ทำดีได้ดี...ทำชั่วได้ชั่ว..บุญมีบาปมีจริง...ผลคือ..ทำดีไม่ทำบาป
นี้ก็เป็นความคิดที่ถูก....ศาสนาไหนก็มีได้

ปุถุชนผู้มีความเห็นว่า...การเกิดเป็นทุกข์...มีแต่ธรรมของพระพุทธองค์เท่านั้นที่พึ่งพาอาศัยได้...ผลคือ...มาศึกษามาปฏิบัติธรรม...ไร้ความลังเลสงสัยในพระธรรม...นี้เข้าถึงไตรสรณคม

ท่านอัญญาโกณฑัญญะ...เห็นแล้วถึงกับอุทานว่า...สิ่งใดเกิดขึ้น...ต้องดับไปเป็นธรรมดา...นี้คือผลที่ท่านถึงความเป็นโสดาบัน

สัมมาทิฏฐิ...ระดับปุถุชน..ระดับผู้เข้าถึงไตรสรณคม....กับผู้เข้าถึงความเป็นโสดาบัน..นี้

เหมือนกันมั้ย? huh

สกทาคา...อนาคา...อรหันตะ....

จะเหมือนกันมั้ย? :b16: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2012, 21:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2012, 02:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
สัมมาทิฏฐิ....มันไม่ได้มีทีเดียวแล้วก็จบ..หรอกนะ..อโสกะ

ตอนแรก..ปุถุชนจะเข้า....สัมมาทิฏฐิ..มันก็แบบง่าย ๆ

พอลึกเข้า...สัมมาทิฏฐิมันก็ละเอียดปราณีตขึ้น

ดังนั้นจะบอกว่า...จัดอยู่ในหมวดปัญญา..แล้วก็จบ...มันไม่ใช่หรอก

:b1: :b1: :b1:

กะลาเข้าใจผิดแล้ว สัมมาทิฐิก็เปรียบเหมือนกับคนที่ว่ายน้ำเป็น
หรือขี่จักยานได้ พอเป็นแล้วก็คงอยู่อย่างนั้น

ความสำคัญสัมมาทิฐิ ต้องอาศัย สติและความเพียร
จึงจะสามารถนำสัมมาทิฐิออกมาใช่ได้อย่างสม่ำเสมอ

สติที่ระลึกสัมมาทิฐิเรียกว่า สัมมาสติ

ความเพียรพยายาม หมั่นใช้สติระลึกสัมมาทิฐิเรียกว่า สัมมาวายามะ

นี่แค่มรรคสามองค์ อยากชวนคุณโสกะคุยว่า
เขาทำอย่างไรจึงครบองค์แปด เห็นคุยนักคุยหนาเรื่องอริยมรรคมีองค์แปด
:b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2012, 09:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ถูกของโฮ...ว่ายน้ำเป็นแล้ว...ไม่มีลืมหรอก

ตอนแรก...ได้แค่ท่าหมาตกน้ำ... :b32:

ต่อมาก็เริ่มได้ท่ากันเชียง.. :b9:

ทำต่ออีกนิด...ได้ท่ากบ

สุดท้าย...ปิดด้วยท่าฟรีสไตล์... :b12:

ปั่นจักรยาน..ตอนแรกก็ปั่น 3 ล้อเด็ก :b16:

ต่อมา..ก็ปั่น 2 ล้อใหญ่

ทำต่ออีกนิด...ก็ปั่นเสือภูเขา

ปิดท้ายด้วย...ปั่นฟิกเกียร์... :b17: :b17: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2012, 07:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อ้าวว....อย่างนี้...อโสกะก็เห็นแล้วนะสิ...

เห็นแล้ว...ผลมันเป็นยังงัยมั่ง?

เป็นโสดา...อนาคา...หรือดับทุกข์ได้ไปแล้วงั้นรึ?

หากยังไม่เห็นผล....ที่เห็นนั้นมันก็ยังไม่จริง...

มันท่อง...นะอโสกะ :b13:

cool
สรุปเอาเองอีกแล้ว นี่แหละนิสัยกบ

ใครจะรู้ธรรมเห็นธรรมยังไง เป็นระดับไหนนั่นเป็นเรื่องปัจจัตตัง ทุกวันนี้จะหาผู้ที่สามารถพยากรณ์ได้ว่าใคร ท่านใดเป็น พระโสดาบัน สกิทาาคา อนาคา อรหันตา นั้นน่าจะหายากหรือไม่มี มีแต่พระสัพพัญญูพระพุทธเจ้าเท่านั้นถึงจะมีญาณหยั่งรู้ได้ ใครในทุกวันนี้ที่เที่ยวไปพยากรณ์บอกกล่าวว่าท่านองค์นั้นองค์นี้เป็นอริยบุคคลระดับนั้นนี้แล้ว ล้วนแต่เป็นนักคาดเดาทั้งนั้นหาความจริงรองรับไม่ได้ หรือว่ายังมีใครที่เก่งระดับพระพุทธเจ้าเหลืออยู่อีกในโลกนี้

การที่จะรู้ว่าใครเป็นอริยเจ้าระดับใด พระพุทธองค์ทรงให้หลักไว้พิจารณาเปรียบเทียบ คือสังโยชน์ทั้ง 10 ข้อ แต่ก็เป็นเพียงเหตุผลประกอบในการอนุมาณ คืบลามเอา เพราะความจริงในจิตของท่านไม่มีใครมีฤทธิ์มีญาณไปล่วงรู้ได้

ทางที่ดีที่สุดคืออย่าได้คิดไปประมาทจ้วงจาบใครผู้ใดเพราะมีแต่เสียไม่มีได้ หากไปเผลอประมาทจ้วงจาบพระอริยเจ้า "อริยุวาตันตรายห้าม มรรค ผล นิพพาน"
onion


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 61 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 26 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร