เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ เวลา ๑๙.๐๐ น. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ร่วมกับวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร จัดพิธีประดิษฐาน “ธรรมเจดีย์” คัมภีร์โบราณอายุกว่า ๒,๐๐๐ ปี (นับเป็นพระคัมภีร์เก่าแก่ที่สุดแห่งพระพุทธศาสนา ที่ได้ถูกขนย้ายออกมาจากถํ้าต่างๆ ของหุบเขาบามิยัน ประเทศอัฟกานิสถาน) จากสถาบันอนุรักษ์สเคอเยน ราชอาณาจักรนอร์เวย์ มาสู่ราชอาณาจักรไทย เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ น้อมถวายเป็นพระราชกุศลถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๗ รอบ ๘๔ พรรษา ณ บริเวณศาลาจารุนิธิ์ เชิงบันไดทางขึ้นพระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร โดยมีเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

จากนั้น นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ประธานฝ่ายฆราวาส เข้าถวายสักการะ และกล่าวถวายรายงานโดยสังเขป ดังนี้

“ธรรมเจดีย์ คัมภีร์โบราณเก่าแก่ที่สุดแห่งพระพุทธศาสนา เกิดขึ้นโดยการจารึกของเหล่าพระอรหันตสาวก ในราวพุทธศตวรรษที่ ๖ หรือประมาณกว่า ๒,๐๐๐ ปีที่ผ่านมา ปรากฏบนเส้นทางสายไหมซึ่งเดิมเรียกว่า แคว้นคันธาระ ปัจจุบันได้แก่ ประเทศอัฟกานิสถาน เป็นต้น ในคราวนั้นเหล่าพระอรหันตสาวกได้ทำการจารึกพระไตปิฎกไว้ในใบลาน, เปลือกไม้, หนังสัตว์ และแผ่นทองเหลือง ต่อมาได้ถูกค้นพบในถ้ำบริเวณเทือกเขาบามิยัน ห่างจากพระพุทธรูปหินแห่งบามิยันประมาณ ๒ กิโลเมตร เบื้องต้นสถาบันอนุรักษ์สเคอเยน แห่งราชอาณาจักรนอร์เวย์ ได้คัมภีร์ชุดแรกจากพ่อค้าของเก่าชาวอังกฤษ ซึ่งนำออกจากสถานที่เดิมโดยประชาชนในท้องถิ่นนั้น จึงได้วางแผนขนย้ายทุกวิถีทาง เก็บรักษาชิ้นส่วนที่สมบูรณ์และแตกหักเล็กน้อยไว้ได้ประมาณ ๕,๐๐๐ ชิ้น และชิ้นส่วนเล็กๆ อีกประมาณ ๘,๐๐๐ ชิ้น ซึ่งนักโบราณคดีและนักภาษาศาสตร์นานาชาติใช้เวลาในการชำระศึกษาเป็นเวลา ๑๒ ปี จึงสามารถทราบหลักฐานที่ชัดเจนว่าเป็นธรรมเจดีย์ คัมภีร์แห่งพระพุทธศาสนาที่มีอายุไม่ต่ำกว่า ๒,๐๐๐ ปี

ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๓ รัฐบาลได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ร่วมกับคณะสงฆ์ไทย โดยมหาเถรสมาคมอัญเชิญธรรมเจดีย์ คัมภีร์โบราณแห่งพระพุทธศาสนา จากสถาบันอนุรักษ์สเคอเยน ราชอาณาจักรนอร์เวย์ มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ อาคารพิพิธภัณฑ์ทางพระพุทธศาสนา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ระหว่างวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔ รวมเป็นเวลา ๑๙๗ วัน เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ น้อมถวายเป็นพระราชกุศลถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๓ พรรษา และเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนและประชาชนทั่วไปได้สักการะ ตลอดจนศึกษาประวัติศาสตร์การจารึกพระคัมภีร์แห่งพระพุทธศาสนาอีกแนวทางหนึ่ง

เมื่อครบกำหนดส่งคืนธรรมเจดีย์ คัมภีร์โบราณแก่สถาบันอนุรักษ์สเคอเยน แห่งราชอาณาจักรนอร์เวย์ นั้น มิสเตอร์เจนส์ บราร์วิก ศาสตราจารย์ด้านโบราณคดี และมิสเตอร์มาร์ติน สเคอเยน ผู้อำนวยการและเจ้าของสถาบันอนุรักษ์สเคอเยน ได้มอบให้ ฯพณฯ เอกอัครราชทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทย ถวายธรรมเจดีย์ คัมภีร์โบราณส่วนหนึ่งแด่เจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ไว้ในคราวนั้นด้วย คณะสงฆ์วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร และพุทธศาสนิกชนทั้งมวลมีมติเห็นสมควรประดิษฐานธรรมเจดีย์ คัมภีร์โบราณแห่งพระพุทธศาสนานี้ไว้ ณ พระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) เพื่อถวายเป็นพระพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ตลอดกาลนาน และน้อมถวายเป็นพระราชกุศล ถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๗ รอบ ๘๔ พรรษา ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ นี้”

ทั้งนี้ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ได้เปิดให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าชมและสักการะ “ธรรมเจดีย์” คัมภีร์พุทธศาสนาโบราณเก่าแก่ที่สุดในโลก ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป นับได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่ได้รับคัมภีร์โบราณจากรัฐบาลนอร์เวย์ ซึ่งการประดิษฐาน “ธรรมเจดีย์” ไว้ภายในบริเวณศาลาจารุนิธิ์ เชิงบันไดทางขึ้นพระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) ดังกล่าว จะมีการจำลองหุบเขาบามิยัน พร้อมโอ่งบรรจุคัมภีร์โบราณเป็นแบบโปร่งใส และมีแว่นขยายส่องเพื่อให้เห็นอักษรพราหมี (อ่านว่า พราม-มี) โบราณ ที่จารึกโดยพระอรหันตสาวกได้อย่างชัดเจน ในขณะเดียวกันภายในศาลาจารุนิธิ์จะมีการแสดงประวัติความเป็นมาของคัมภีร์โบราณ และความเจริญรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนาในประเทศอัฟกานิสถานอีกด้วย


ขอขอบพระคุณที่มาของข้อมูล
http://www.onab.go.th/index.php?option= ... Itemid=219