วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 10:25  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 21 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2011, 11:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ต.ค. 2011, 14:22
โพสต์: 21


 ข้อมูลส่วนตัว


มีส่วนถูกบ้างไหม ความเข้าใจของผมเองเข้าใจว่าระหว่างมนุษย์เราที่อยู่ภพนี้หรือโลกนี้กับผู้ที่จากไปอยู่อีกภพหนึ่งนั้นผมเชื่อว่าสามารถสื่อถึงกันได้ โดยมีพระสงฆ์เป็นตัวกลางที่จะทำพิธีกรรมต่างๆเพื่อสื่อไประหว่างคนกับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว พิธีกรรมดังกล่าวก็ เช่น การสวดมนต์ต่างๆ พิธีกรวดน้ำหรืออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ผู้ที่ล่วงลับไป พิธีกรรมอีกหลายๆอย่างที่มีพระสงฆ์เข้ามาเกี่ยวข้องหรือเป็นผู้ทำพิธี พิธีต่างๆเหล่านั้นก็คือพิธีกรรมที่ผมเชื่อว่าระหว่างเรากับผู้ที่ล่วงลับไปแล้วสามารถสื่อถึงกันได้แน่นอน ผมเชื่ออย่างนั้น ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าความเชื่อของผมนั้นมีส่วนถูกต้องบ้างหรือไม่ ก็อยากขอความรู้ความเห็นจากท่านผู้รู้วิจารณ์หรือแนะนำด้วย ขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2011, 13:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


เท่าที่เราได้เจอมาบ้างน่ะค่ะ สื่อถึงกันได้ค่ะ ไม่ต้องมีพระสงฆ์มาเกี่ยวข้องก็ได้ค่ะ
คุณมีนั่งสมาธิ-หรือสวดมนต์หรือปล่าวค่ะ
แต่ไม่ใช่ทุกครั้งหรือเสมอไปน่ะ ที่เราเขียนออกมานี่
คือส่วนของเราน่ะกับท่านผู้รู้คนอื่นเราไม่รู้น่ะ :b12: :b41: :b48: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2011, 19:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คนบนเขา เขียน:
มีส่วนถูกบ้างไหม ความเข้าใจของผมเองเข้าใจว่าระหว่างมนุษย์เราที่อยู่ภพนี้หรือโลกนี้กับผู้ที่จากไปอยู่อีกภพหนึ่งนั้นผมเชื่อว่าสามารถสื่อถึงกันได้ โดยมีพระสงฆ์เป็นตัวกลางที่จะทำพิธีกรรมต่างๆเพื่อสื่อไประหว่างคนกับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว พิธีกรรมดังกล่าวก็ เช่น การสวดมนต์ต่างๆ พิธีกรวดน้ำหรืออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ผู้ที่ล่วงลับไป พิธีกรรมอีกหลายๆอย่างที่มีพระสงฆ์เข้ามาเกี่ยวข้องหรือเป็นผู้ทำพิธี พิธีต่างๆเหล่านั้นก็คือพิธีกรรมที่ผมเชื่อว่าระหว่างเรากับผู้ที่ล่วงลับไปแล้วสามารถสื่อถึงกันได้แน่นอน


ไม่ค่อยถูก..ก็อย่างที่คุณ bbby ว่ามานั้นแหละ

แต่ที่ว่า...สื่อถึงกันได้แน่นอน...นี้..ผิด

มันไม่ได้เป็นอย่างวิทยาศาสตร์ที่..1 + 1 = 2

เพราะมันไม่ได้ขึ้นกับพิธีการ...วิธีการอะไร

ดูง่าย ๆ ..ที่เราเห็น ๆ ...คือการโทรศัพท์

จะคุยกับอีกทางหนึ่ง...ต้องกดโทรออกใช่มั้ย?

แล้วคุยได้ทุกครั้งที่กดมั้ยละ?...

สายไม่ว่าง...แต่แกล้งคุย...ให้เขานึกว่าเรากำลังโทรคุยจริง ๆ

คนนอกจะไปรู้อะไร...

คนนอกไม่รู้..ใช่มั้ย...ก็เลยเป็นช่องให้พวกมิจฉาอาชีวะใช้หากิน...นี้งั้ย

ดังนั้น...เรื่องติดต่อกับคนตายไปแล้วได้นี้...อย่าด่วนเชื่อ...เป็นอันขาด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2011, 10:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ธ.ค. 2011, 20:43
โพสต์: 15


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าความเชื่อของคุณ เกิดจากการอ่านหนังสือมา เกิดจากการได้ยินได้ฟังจากคนที่เราศรัทธาเล่ามา
แล้วคุณก็เติมความคิดของคุณลงไป แล้วก็มาถามในกระทู้นี้ มันก็มีส่วนถูกหรือตรงกะความเชื่อของ
คนอื่น ๆ อยู่บ้าง

แต่หากพิจารณาตามความเป็นจริงแล้วผมเห็นว่าไม่มีส่วนถูกแม้แต่น้อย จากการที่
ผมนั่งสมาธิ จิตสงบระดับหนึ่ง ฌานไหนไม่ทราบ ได้ไปเที่ยวเมืองสวรรค์ ได้พบเทวดา
ได้พบเพื่่อนรวมถึงญาติที่ตายไปแล้ว พอออกจากสมาธิ ถึงแม้ภาพเหล่านั้นยังติดตา แต่มันก็ไม่มีอยู่
วันต่อมาพอนั่งอีก จิตสงบ อยากไปเที่ยวเมืองนรก มันก็ได้ไป อยากไปเหยียบดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์
ก็ได้ แต่พอออกจากสมาธิ ภาพเหล่านั้นก็ยังติดตา แต่มันก็ไม่มีอยู่
ผมเคยฟังเทปคนที่ตายแล้วฟื้น ท่านไปเมืองสวรรค์ ท่านบอกว่าบ้านที่เมืองสวรรค์สร้าง
ด้วยไม้สักทั้งหลัง ผมหัวเราะก๊าก ไม้สักบ้าอะไรขนขึ้นไปสร้างบนเมืองสวรรค์ได้

มันคือความมหัศจรรย์พันลึกของจิตซื่งเราไม่อาจประมาณได้ ขณะทำสมาธิ
คนสนใจหรือเชื่อเรื่องนรกสวรรค์ก็จะได้เจอในสมาธิ คนที่สนใจเรื่องบาปบุญก็จะเจอคนมีบุญคนบาป
ในสมาธิ
คนที่สนใจดาราศาสตร์ ก็อาจได้ไปดวงจันทร์ดาวอังคาร ในสมาธิ คนเชื่อเรื่องพระเจ้าก็จะได้เฝ้า
พระผู้เป็นเจ้าในสมาธิ
คนที่พิจารณาร่างกายว่าเป็นสิ่งปฏิน่าเกลียดก็อาจเห็นตับไต ใส้พุง ในสมาธิ
คนในยุคปัจจุบันอาจพบว่า ทั้งสวรรค์ ทั้งนรก มีเนตเวิร์ค เชื่อมโยงกัน ในสมาธิ
แต่ภาพที่เห็น สิ่งที่ได้สัมผัสในสมาธิ ผมพบว่าล้วนเกิดจากจิตปรุงทั้งนั้น ไม่ใช่ของจริงเลย
และภาวะสมาธิแบบนั้น ไม่น่าเรียกว่า สมาธิหรอก มันเป็นภาวะการสะกดจิตมากกว่า
เพราะ คำว่าสมาธิ มันหมายถึง การรู้สึกตัวทั่วพร้อมในปัจจุบันขณะ เช่น ขณะที่เราขับรถ
ขณะที่เราอ่านหนังสือ ขณะที่วิปัสสนานั่นเอง

ที่กล่าวมายืดยาว เพียงเพื่ออยากให้ข้ามพ้นมันเสีย ไม่ควรติดข้องหรือหลงติดในสิ่งเหล่านี้
การสิ้นสุดแห่งทุกข์รออยู่ โดยไม่ต้องอาศัยสิ่งเหล่านี้เลย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2011, 12:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


แต่ที่เราได้เห็น เราไม่ได้เห็นจากสมาธิค่ะ คือเราเห็นทางตา แล้วก็นานด้วย
เราเข้าใจว่าพวกเค้าคือคน อยู่กันเป็นครอบครัวเห็นอยู่2วัน

พอวันที่3ถึงได้รู้ว่าคือวิญญาน เพราะบ้านหลังนั้นคือบ้านร้างไม่มีคนอยู่
แต่ตอนที่เราเห็น เราก็รู้สึกแปลกใจน่ะ ว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ ถึงเดินตัวแ็ข็งๆ
คือเราเห็นเค้าเดินขึ้นบันไดน่ะ พอตอนหลังมานั่งนึกๆ คิดว่าเค้าคงไม่ใช่เดินหรอก
เค้าคงจะลอยน่ะ (รู้สึกสยองมั๊ย! นี่ของจริงน่ะไม่ใช่ในหนังน่ะ :b32: )

แต่ในความเชื่อส่วนตัวของเราน่ะ เราคิดว่าสิ่งที่ทำให้เราได้เห็นนั้น คงเป็นเพราะเรานั่งสมาธิ
ก็เลยทำให้เราสัมผัสตรงนี้ได้

เพราะวิญญานเหล่านั้น ตอนมีชีวิตอยู่เค้าก็อยู่ที่บ้านหลังนั้น
แต่พ่อ-แม่-น้องชายไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังนั้น แต่วิญญานของพวกเค้ามาอยู่รวมกันได้
เราเชื่อค่ะ สามารถสื่อถึงกันได้ค่ะ
แต่ถ้าทุกๆครั้งนี่ เราไม่ค่อยจะมั่นใจซักเท่าไหร่ค่ะ



คุณkitti123เขียน

อ้างคำพูด:
ที่กล่าวมายืดยาว เพียงเพื่ออยากให้ข้ามพ้นมันเสีย ไม่ควรติดข้องหรือหลงติดในสิ่งเหล่านี้
การสิ้นสุดแห่งทุกข์รออยู่ โดยไม่ต้องอาศัยสิ่งเหล่านี้เลย


แต่ก็เห็นด้วยกับข้อความนี้ของคุณkitti123 ค่ะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2011, 13:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


สำหรับเรื่องการมีร่างมาเข้านี่เรา ก็อยากจะเชื่อน่ะว่ามีจริง
แต่ถ้าจุดธูปแล้วมาทุกครั้งนี่เราก็สงสัยน่ะ
เราจะเล่าเรื่องของเราให้ฟังค่ะ :b12: ( เรานี่ไม่รู้ว่าเป็นนักเล่าประจำเว็บหรือปล่าว :b32: :b32: )

มีอยู่ช่วงหนึ่งตอนเราหลับ เรามักจะฝันว่าเราไปเรียนธรรมะที่ข้างบน แต่ไม่ใช่สวรรค์น่ะ
เราเห็นมีแต่เมฆหมอก แต่เราไม่เห็นอาจารย์ผู้ที่สอน แต่ได้ยินเสียง

ในมือเราจะมีหนังสือธรรมะ เป็นหนังสือที่เก่ามากๆ เราขอเรียกท่านว่าองค์เทพน่ะ
เพราะเราไม่รู้ว่าท่านคือใคร ท่านก็สอนเรื่องธรรมะนี่แหละค่ะ
เหมือนที่พระเทศน์สอนพวกเรานี่แหละค่ะ แล้วพอตอนจะกลับทุกครั้ง
ท่านจะพูดว่า " แล้วไปบอกให้พวกเค้ารู้ซะ เพราะบางอย่างที่ท่านสอน
ไม่มีในหนังสือ " จะเป็นอย่างนี้ทุกคืนประมาณ1อาทิตย์

ทีนี้มีอยู่วันหนึ่ง เื่พื่อนเราเค้าก็โทรมาชวนให้เราไปรวมกลุ่มกับเพื่อนของเค้า ที่รับอนุตรธรรม
เพื่อนๆของเค้าอยากจะรู้ว่า คนไทยปฎิบัติธรรมแบบไหน เราก็ไป
พอคุยๆกันไป พวกเค้าก็พูดว่า ถ้าเป็นแบบที่เธอพูดนั้นน่ะ
เป็นแบบพุทธ แต่พวกเค้าเนี่ยปฎิบัติธรรมแบบมหายาน

เราก็เลยเงียบๆ คือไม่พูดดีกว่า เพราะเราเคยคุยในเว็บ แล้วมีคนpostว่า
สิ่งที่เราpostเนี่ยคือมหายาน

แต่พอเราคุยที่นี่ พวกเค้าบอกนี่คือแบบพุทธ ใจเรานึก
เออ!แปลกแฮะ คุยกับคนไทย คนไทยบอกมหายาน คุยกับคนจีนคนจีนบอกพุทธ
เราก็เลยหยุดคือไม่ได้โกรธพวกเค้าน่ะ

เราก็นั่งเฉยๆ ทีนี้เรามีความรู้สึกว่า ตัวเราเบา เหมือนแขนขาไม่มีกระดูก
มีความรู้สึกเหมือนตัวเราลอย เราก็เลยมองที่แขนขาเรา
เราก็เห็นเนื้อเราใสๆโปร่งๆ พอเราเงยหน้าขึ้น เรามีความรู้สึกว่า
เหมือนเราเห็นมีลูกแก้วขาวๆลอยมา แล้วก็เข้ามาในร่างของเรา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2011, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


มาเข้าร่าง
รู้สึกว่าจะเป็นช่วงตรงอกน่ะ เรามีความสัมผัสว่าองค์เทพที่เป็นอาจารย์ของเรามา
คือเราได้ยินเสียงของท่าน เราก็คิดว่า " ดีล่ะให้อาจารย์องค์เทพสอนพวกเค้า"

แต่ตัวเราก็เบาๆเหมือนสำลีน่ะ ทีนี้ตาเราเห็น แต่หูเราไม่ได้ยินเสียง เราเห็นปากเราพูด
แต่หูเราไม่ได้ยินเรา ก็ไม่รู้ว่าท่านพูดอะไร

แล้วเราเห็นพวกเค้าสนใจฟังกันมากๆ คือหน้าตาของพวกเค้าตั้งใจฟัง
บางคนนั่งอยู่หลัง ยังลากเก้าอี้มาฟังใกล้เลยๆ
แค่นี้ก่อน่ะค่ะมีธุระค่ะ :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2011, 13:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนบนเขา เขียน:
มีส่วนถูกบ้างไหม ความเข้าใจของผมเองเข้าใจว่าระหว่างมนุษย์เราที่อยู่ภพนี้หรือโลกนี้กับผู้ที่จากไปอยู่อีกภพหนึ่งนั้นผมเชื่อว่าสามารถสื่อถึงกันได้ โดยมีพระสงฆ์เป็นตัวกลางที่จะทำพิธีกรรมต่างๆเพื่อสื่อไประหว่างคนกับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว พิธีกรรมดังกล่าวก็ เช่น การสวดมนต์ต่างๆ พิธีกรวดน้ำหรืออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ผู้ที่ล่วงลับไป พิธีกรรมอีกหลายๆอย่างที่มีพระสงฆ์เข้ามาเกี่ยวข้องหรือเป็นผู้ทำพิธี พิธีต่างๆเหล่านั้นก็คือพิธีกรรมที่ผมเชื่อว่าระหว่างเรากับผู้ที่ล่วงลับไปแล้วสามารถสื่อถึงกันได้แน่นอน ผมเชื่ออย่างนั้น ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าความเชื่อของผมนั้นมีส่วนถูกต้องบ้างหรือไม่ ก็อยากขอความรู้ความเห็นจากท่านผู้รู้วิจารณ์หรือแนะนำด้วย ขอบคุณครับ

พิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เป็นประเพณีส่วนหนึ่ง และเป็นเพราะศีลและวัตรปฏิบัติของพระท่านอีกส่วนหนึ่ง พระท่านมีศีลและขัดเกลากิเลสให้น้อยกว่าพวกเรา ถึงไม่ใช่พระอริยะบุญที่ส่งให้ผู้ล่วงลับก็ไม่ถูกตัดทอนด้วยกิเลสมากเท่าพวกเรา

ส่วนการอุทิศบุญด้วยตัวเราถึงจะมากจะน้อย ทุกครั้งที่บำเพ็ญบุญไม่ว่าทำทานหรือสมาธิ ก็ส่งบุญไปเถิดครับ ถึงส่งไปทีละนิดแต่ถ้าส่งบ่อยๆรวมยอดเข้าก็มากเข้าเอง

ดูเพิ่มเติมได้ที่หัวการทำบุญนะครับเรื่อง บุญกริยาวัตถุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2011, 13:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ส.ค. 2011, 15:12
โพสต์: 191


 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้อยู่ภพนี้กับผู้อยู่ภพอื่นจะสื่อถึงกันได้หรือไม่ ก้ไม่ได้เป็นอย่างนั้นทุกคนเสมอไป ผู้อยู่ภพนี้คือใครเป็นอย่างไร ผู้อยู่ภพอื่นคือใคร เป็นอย่างไร แม้ภิกษุสงฆ์บางรูป บางท่านก้ไม่สารมารถสือถึงกันได้ การจะรู้จะเห็นดังนั้นได้ก้ด้วยความมีภาวะจิตที่ทรงฌานสมาธิ เมื่อมีความชำนาญก็สามารถรู้เห็นได้หรือสื่ออย่างนั้นได้ แต่ทั้งนั้น เขาที่อยู่ภพนั้นจะเป็นอะไร ถ้าไม่เป็นอะไรดังที่จะสามารถรู้เห็นได้ ก้คงไม่รู้ไม่เห็นเช่นกัน แต่จะรู้จะเห็นหรือไม่ สิ่งที่เห็นรู้ได้จากสามธิก็คือ เห็นจริง อย่าไปยึดถือว่าเป็นแก่นสาระอะไร เพราะเมื่อผ่านไปก้หายไปตามกาลเวลา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2011, 14:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ส.ค. 2011, 15:12
โพสต์: 191


 ข้อมูลส่วนตัว


หลักสำคัญในการให้ทาน วัตถุดี เจตนา ผู้ให้ดี ผู้รับบริสุทธิดี ควรอ่านเพิ่มเติม ทานกถา ในมงคลสูตร ทานที่ให้ดีแล้ว อุทิศให้ ย่อมมีอานิสงส์มาก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2011, 20:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
มาเข้าร่าง
รู้สึกว่าจะเป็นช่วงตรงอกน่ะ เรามีความสัมผัสว่าองค์เทพที่เป็นอาจารย์ของเรามา
คือเราได้ยินเสียงของท่าน เราก็คิดว่า " ดีล่ะให้อาจารย์องค์เทพสอนพวกเค้า"

แต่ตัวเราก็เบาๆเหมือนสำลีน่ะ ทีนี้ตาเราเห็น แต่หูเราไม่ได้ยินเสียง เราเห็นปากเราพูด
แต่หูเราไม่ได้ยินเรา ก็ไม่รู้ว่าท่านพูดอะไร


แล้วเราก็เห็นพวกเค้ามีถาม แล้วท่านก็ตอบใช้เวลาประมาณเกิน30นาที แต่ร่างของเราก็เบาๆน่ะ
เราก็คิดว่า ท่านจะต้องสอนธรรมะที่ดีๆแน่ แต่หูเราไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น

แล้วพอตอนหลังเรามีความรู้สึกว่า ท่านสรุป แล้วที่หูของเราก็ได้ยินท่านพูดว่า
ท่านกลับแล้ว เรามีความรู้สึกว่าเหมือนเราหลับใน แล้วสดุ้งนิดๆเหมือนลืมตา

เรารู้สึกงงนิดๆ แล้วพวกเค้าก็พูดว่า "ทำไมเธอเก่งอย่างนี้ล่ะ เธอรู้เรื่องอย่างนี้ได้อย่างไง"
เราก็ไม่กล้าบอก ว่าไม่ใช่เราพูด เราก็พูดแค่ "เหรอๆเออ"
เราก็ขอตัวกลับบ้าน เราก็เลยเชื่อว่าเรื่องการเข้าร่างมีจริง

แล้วก็การที่เราจะสัมผัสหรือเห็นอะไรอีกภพหนึ่ง คงไม่ต้องเป็นตอนนั่งสมาธิเสมอไป
เราเจอเหตุการณ์อย่างนี้ครั้งเดียวค่ะ ก็เลยทำให้เราเชื่อค่ะว่าภพอีกภพหนึ่งนั้นมีจริงๆ
สิ่งใดที่คนเราทำหรือพูดอะไร อีกภพหนึ่งนั้นท่านรู้ค่ะ
ที่เล่าให้ฟังก็คือ อยากจะให้เชื่อว่าเราทำสิ่งใดได้สิ่งนั้นค่ะ

เพราะฉนั้นสิ่งที่คุณคนบนเขา ถาม เราตอบว่าสื่อถึงกันได้ค่ะ
โดยไม่ต้องทำพิธีก็ได้ค่ะ
แต่สำหรับเรา เราก็ไม่รู้ค่ะว่าทำไมเราถึงสื่อถึงได้ :b41: :b48: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2011, 20:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


จบแล้วหรอ...

อยากรู้ว่าท่านสอนอะไรบ้างจัง...

ไปตั้งกระทู้...เล่าความฝัน...น่าจะดี

หากนักปริยัติจะตำนิ...ก็แก้ว่า..นี้มันความฝัน... :b32:

เป็นเล่านิทานความฝันก็ได้... :b12:

ใคร ๆ ก็ชอบนิทาน rolleyes


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2011, 20:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ใช่ฝันค่ะ อ่านตั้งแต่ต้นๆสิค่ะ
แหม๋! คุณกบฯนี่ มาบอกว่าเราฝัน :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2011, 21:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b9: :b9:
คุณ bbby นี้ก็โตร๊ง...ตรง :b12:

เวลาครูบาอาจารย์...ท่านเล่าความฝันนี้นะ...หูนี้ผึง..ตาไม่กะพริบเชียวแหละ Kiss

ท่านมักจะแซวเล่น ๆ ...เวลาเทศน์ชอบจะหลับกัน...พอจะเล่าความฝัน...ตาใสทุกคนเลย :b32: :b32:

ฝัน...นี้...ของจริงทั้งนั้น...

แต่ท่านต้องบอกว่าฝัน...เพื่อกันไม่ให้บางคนบาปแบบไม่รู้ตัว

หากจะโพสต์บอกว่า...ได้ธรรมเทศนาจากองค์เทพ..นะ

เรือยังไม่ทันได้แล่นออกจากท่าหรอก...โดนถลมก่อนแล้ว :b32: :b32:

คนรอก็พอดีอดได้เห็นเรื่องสนุก ๆ กันพอดี...นะซิ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2011, 21:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สาระ..ในความไร้สาระ..นี้ดีอยู่อย่าง

คนตาดี..มองเห็น..ก็ได้สาระไป
คนตาไม่ดี...ก็ได้ความบันเทิงไป

มีแต่ได้...กับได้..

วิน..วิน :b17: :b17:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 21 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 104 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร