วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 04:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2011, 19:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2011, 14:26
โพสต์: 10


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ กัลยาณมิตรแห่งลานธรรมจักรทุกคน
หลังจากที่ได้ตั้งกระทู้"สามี เกิดอุบัติเหตุรถชนกับรถพ่วง เสียชีวิตคาที่" ก็มีเพื่อนแห่งลานธรรมจักรเข้ามาพูดคุยและให้กำลังใจ.....ขอบคุณมากค่ะ.
ตอนนี้เหนื่อยเหลือเกินค่ะ นี่ก็2เดือนกับ10วันแล้วที่สามีจากไปอย่างไม่มีวันกลับมา หน้าที่ทุกอย่างตกมาที่เราหมด ตอนนี้อยู่บ้านเลี้ยงลูกชาย2คน
ไม่ได้ทำงานค่ะเพราะลูกยังเล็ก ดีที่มีเงินประกันของสามีและเงินสวัสดิการที่นี่คอยช่วยเหลือ ทำให้เรากับลูกไม่ลำบากเรื่องการเงิน จะมีก็แต่เหนื่อยกายเหนื่อยใจที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว
สิ่งที่กลัวมากที่สุดก็คือถ้าเราเจ็บป่วยขึ้นมา ลูกๆจะทำยังไง ยิ่งอากาศที่นอร์เวย์หนาวมาก ถึงจะมีปู่กับย่าคอยช่วย แต่ก็ไม่เสมอไปเพราะพวกท่านก็ทำงาน อีก4ปีถึงจะเกษียณ
คนโต6ขวบครึ่งและคนเล็กอีก4วันก็จะ3เดือน.วันจันทร์ถึงศุกร์ต้องตื่น ตั้งแต่6โมงเช้า ทำอาหาร, แต่งตัวให้ลูกคนชายคนโตไปร.รเสร็จ ก็ให้เค๊านั่งทานข้าวเอง
และระหว่างนั้นก็จัดการกับคนเล็ก นอนอยู่ก็ต้องปลุกค่ะ ต้องเอาไปส่งคนโตที่ ร.ร ด้วย.แต่ช่วงนี้ไปถึงเดือนมีนาคม ลำบากสุดๆเพราะถ้าวันไหนหิมะตกหนัก
ต้องตักหิมะหน้าโรงรถออกก่อนเพราะไม่อย่างนั้นรถออกไม่ได้ค่ะ. จะสบายก็วันศุกร์ตอนเย็นถึงวันอาทิตย์ เพราะปู่กับย่าจะมาเอาคนโตไปช่วยเลี้ยง.
เวลาที่เค๊าอยู่บ้านก็จะมีบางครั้งที่ซนมากๆและไม่ยอมที่จะฟังเราเลย ของเล่นก็จะไม่ยอมเก็บถ้าแม่ไม่ช่วยเก็บ. บางครั้งเวลาที่ให้นมน้องอยู่
เค๊าก็ชอบมาเรียกร้องความสนใจอยากให้แม่เล่นด้วย อยากให้อุ้มเหมือนที่พ่อเขาเคยทำ ซึ่งเราก็ทำไม่ได้เพราะเขาตัวโตและก็คลอดน้องได้ไม่นาน
ลูกก็บอกว่าเข้าใจแต่ก็บ่นคิดถึงพ่อด้วย ยิ่งได้ยินก็ยิ่งเจ็บค่ะ เพราะแม่เองก็คิดถึงพ่อเค๊ามากๆเช่นกัน.อยากจะรู้จักกับเพื่อนๆที่เลี้ยงลูก คนเดียวค่ะ.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2011, 23:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


แม้จะไม่ได้เลี้ยงลูกคนเดียว หรือจะพูดให้ถุกก็คือไม่ค่อยมีโอกาส
ได้เลี้ยงลูกเองเสียด้วยซ้า ต้องมาทำงานในที่ที่ห่างไกลจากบ้าน
ตั้งแต่ลูกชายคนโตได้แค่สี่ขวบ ลูกสาวคนเล็กได้ขวบกับอีกสองเดือน
ที่เหลือจากนั้น ก็ไปๆ กลับๆ ตอนนี้ลูกชายจะสิบหก ลูกสาวกำลังจะสิบสาม
แต่นับเวลาที่เราแม่ลูกได้อยู่ด้วยกันจริงๆไม่ถึงห้าปี...

ขออนุญาตคุยด้วยได้ไหมค่ะ? :b13:

ตอนที่มีโอกาสเลี้ยงลูกทั้งสองคน เป็นสภาวะที่เหนื่อยมากๆ
เด็กเล็ก จะว่าเขาไม่รู้เรื่อง แต่เขาก็รู้เรื่อง พอคิดว่าเขารู้เรื่อง
ก็ปรากฎว่าเขาไม่รู้เรื่อง บางครั้งต้องทำตัวเป็นเด็กเล็กๆตามพวกเขา
เพื่อลดช่องว่าง....เหนื่อยมาก บางคร้้งก็เครียด เพราะไม่มีเวลา
เป็นของตัวเองเลย แม้แต่จะอ่านหนังสือดีๆสักเล่ม ที่เราชอบ

แต่ถ้าให้เลือก ระหว่างการที่จะต้องวุ่นวายอยู่กับลูกๆ แบบไม่มีเวลาพัก
แต่ลึกๆแล้วสุขใจ ชื่นใจ ไม่เคยรุ้จักคำว่าเหงา แม้จะไม่มีคนเคียงข้างคอยช่วยเลี้ยง
กับการที่ต้องมาทำงานห่างไกลจากพวกเขา มีเวลาเป็นส่วนตัวมาก มีเวลาที่จะทำอะไรๆ
ที่ตัวเองชอบ...แต่เหงาสุดหัวใจ อยากกอด อยากหอมแก้ม อยากลูบหัว
ตบก้น อยากคุยกับเขา ก่อนจะเข้านอน ก็ได้แต่จินตนาการเอา...เลือกได้
อย่างไม่ลังเลใจเลยว่าขอเลือกข้อแรก

ตอนนี้ที่ทำได้ก็แค่หอมเขา จับต้องเขาทางกล้องเวลาเอ็มคุยกัน...ทำได้แค่นั้นจริงๆ
ความสุขใดๆในโลกนี้ ไม่มีอะไรจะเท่าเทียมกับการได้ เฝ้าดูพวกเขาเจริญเติบโต
ที่ละนิดๆ ด้วยตัวของเราเอง เวลาที่ผ่าน มีค่าควรแก่การจดจำ ทุกวินาที
เมื่อเขาโตขึ้น....แล้วย้อนนึกถึงเด็กตัวเล็กๆที่เราได้มีโอกาสเลี้ยงเขามากับมือตัวเอง
แล้วแสนจะชื่นใจ แสนจะภาคภูมิใจ ยิ้มได้ทุกครั้งที่นึกถึง....

ถ้าพี่ชายเขาเรียกร้องความสนใจ ก็หากิจกรรมให้เขาช่วยเลี้ยงน้องซิค่ะ
เช่นให้เขาจับขวดนมให้น้อง ขณะที่น้องนอนที่ตักแม่ ช่วยหยิบจับของ
ที่จะใช้อาบน้ำ หรือป้อนอาหารให้น้อง เขาก็จะรู้สึกว่าตัวเองสำคัญ
และมีความหมาย...จะสร้างความรู้สึกผูกพัน และ รักน้องมากกว่าเดิม
แทนการอิจฉา ชิงดีชิงเด่นกับน้องนะค่ะ

คุณแอนิต้าเป็นคนที่น่าอิจฉาที่สุดในโลกคนหนึ่ง... :b4: :b4:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2011, 15:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2011, 14:26
โพสต์: 10


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำที่คุณตะเกียงแก้ว

และคุณทักทายแนะนำมา จะทำตามค่ะ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2011, 19:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณทักทายเขียน
อ้างคำพูด:
คุณแอนิต้าเป็นคนที่น่าอิจฉาที่สุดในโลกคนหนึ่ง... :b4: :b4:


ประโยคนี้ของคุณทักทายเราเห็นด้วยค่ะ บางคนอยากจะอยู่บ้านเลี้ยงลูก
ในขณะที่ไม่มีพ่อแต่ไม่มีโอกาส เพราะต้องทำงานหาเงินมารับผิดชอบในครอบครัว
หัวหมุนจนเหมือนน๊อต แต่คุณแอนิต้าโชคดีที่พร้อมทางด้านปัจจัย


การมีลูกเราต้องเลี้ยงเองค่ะ พอเค้าโตได้สิบกว่าปีคุณจะรู้สึกเลยมันคุ้มกับความเหนื่อย
เค้าจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ

ตอนลูกเราเล็กๆ เราก็หัวฟูเลยค่ะไม่ได้หยุดเลย ไม่รู้จะหันไปตรงไหนดี
พอเค้าหลับถึงได้มีเวลาเป็นของตัวเองบ้าง

เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ตอนนี้คุณต้องเป็นทั้งพ่อและแม่ คุณต้องสู้ค่ะ
ส่วนเรื่องร่างกายก้อคอยระวังไว้บ้าง ถ้าอากาศเย็นมากๆ ลองตุ๋นตังกุยกับหมูไม่ติดมันกินบ้างก็ดีค่ะ

ดีกว่าไปกินพวกเหล้า เพื่อให้หายหนาว พวกเครื่องดื่มที่เป็นแอกอฮอร์ อย่าไปสนใจมาก
ถ้าติดแล้วลำบาก

แล้วคุยกันใหม่น่ะค่ะคุณแอนิต้า :b4: :b4: :b41: :b47: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2011, 22:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ลูกชายของทักทาย อายุมากกว่าน้องสาวของเขาสามปีพอดีๆ
ตอนที่เขายังเล็กอยู่ เวลาน้องสาวเขาเข้ามาแย่งของเล่น หรือทะเลาะกัน
เขาจะบอกทุกครั้งว่า "เอาน้องไปคืนคุณหมอให้ที" แม่ก็จะแกล้งเก็บข้าวของ
เครื่องใช้ของน้อง เตรียมตัวเอาไปคืนคุณหมอจริงๆ ตอนแรกเขาก็ลังเลใจ
สักพักก็จะวิ่งเข้ามากอดน้อง แล้วบอกว่าไม่เอา ไม่ต้องเอาไปคืนแล้ว

เวลาที่น้องสาวเขาดี้อ ถูกทำโทษ ถูกตีบ้าง ถูกขังในห้องน้ำบ้าง
จะให้พี่ชายเขาเป็นฝ่ายไปเปิดห้องน้ำให้ ให้เขาโอ๋และปลอบกันเอง
น้องจะได้มีความรู้สึกว่า พี่ชายเป็นที่พึ่งของเขา ปกป้องเขาได้
ส่วนพี่ชายก็จะมีความรู้สึกว่า ตัวเองเป็นผู้ใหญ่พอที่จะรับผิดชอบน้องสาว

เดี๋ยวนี้...เขาโตๆกันแล้ว มีทะเลาะกัน ขัดแย้งกันบ้างตามประสา
แต่...พี่ชายจะไม่เคยรุนแรงกับน้อง ถ้าน้องไม่ยอมอ่อนข้อให้
เขาจะใช้คำพูดว่า "เดี๋ยวพี่ชายไม่รักนะ"

ส่วนน้องสาว...ดื้อสุดฤทธิ์ ไม่ค่อยยอมใคร แต่ถ้าอยากได้อะไร
ขออะไรแล้วเราไม่ให้...เขาจะพูดออกมาแบบไม่คิดเลยว่า
"น้องขอพี่ชายก็ได้ พี่ชายเขาให้น้องอยู่แล้ว เพราะเขารักน้อง"
ได้ยินแค่นี้....ก็แอบยิ้มจนแก้มปริแล้วค่ะ :b13:

เขาเป็นเด็กแค่ร่างกาย ส่วนจิตใจพวกเขาเป็นผู้ใหญ่มากกว่าที่เราคิดกัน
ถ้ามีปัญหา ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ลองคุยกับเขา เสมือนหนึ่งว่าปรีกษาดู
บางคำตอบอาจจะทำให้เราอึ้ง เพราะไม่คิดว่าจะออกจากปากเด็กเล็กๆ
แบบเขาก็ได้นะค่ะ

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่กลุ้มใจมาก คิดอะไรไม่ออก...นอนเอามือก่ายหน้าผาก
มองเพดาน...ลูกชายเล่นอยู่ใกล้ๆ หันมาเห็นก็เข้ามาชะโงกดู เห็นอาการของแม่
เขาคงรู้ด้วยสัญชาติญาณ เขาเข้ามากอดแล้วถามว่ามี๊ไม่สบายใจหรือ?
มี๊ไม่ต้องคิดถึงวันพรุ่งนี้นะ...มีคิดถึงวันนี้ก็พอ....ส่วนน้องสาวก็เข้ามากอด
แล้วบอกว่า หนูรักมี๊ ใครไม่รักก็ช่างเขาเน๊าะ มี๊ปวดหัวใช่ไหม? เดี๋ยวน้องนวดให้
สักพักพี่ชายก็จะหันไปพูดกับน้องว่ามี๊ไม่สบายใจ อย่ากวนมี๊นะ.....ฟังลูกแล้ว อึ้งจริงๆ
ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเป็นคำพูดของเด็กหกขวบกับสามขวบพุดกัน

ผ่านไปเกือบสิบปี แต่ความทรงจำเหล่านี้ จะทำให้ยิ้ม มีกำลังใจ หายเหนื่อย
หายท้อแท้ได้ทุกครั้งที่คิดถึง.....เก็บความทรงจำของเด็กๆไว้ให้ได้มากที่สุด
เท่าที่คุณจะทำได้....แล้ววันข้างหน้าคุณจะรู้ว่าสิ่งที่คุณทำในวันนี้
เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด.... :b20:


คิดเสียว่าเป็นนิทานอ่านเล่นแก้เหงานะค่ะ :b4: :b4:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2011, 08:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ม.ค. 2010, 03:39
โพสต์: 55

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Consider yourself a very lucky mom to be able to raise two healthy boys with family and government supports in a safe, warm home of your own. What more can you ask for?


All of your complains can be easily managed by yourself.
No one is running your life, but you. No boss, No jealous co-workers, No shortage of income, No working against deadline, No idiotic clients to be pleased.

I bet many people out there would love to swap their place to yours.

Winter will pass, and spring will be a lot brighter for you next year.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2011, 16:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2011, 14:26
โพสต์: 10


 ข้อมูลส่วนตัว


พรุ่งนี้มีนัดกับจิตแพทย์เด็กค่ะ เพราะไม่สบายเรื่องลูกคนโต เค๊าชอบพูดถึงแต่เรื่องตาย

เช่นมาถามแม่ว่า "มาม๊ารู้ไหมว่าผมจะตายนานแล้ว แต่พระเยซูบอกผมว่าให้อยู่ต่อไป"

เวลาทำอะไรผิดก็อ้างแต่พระเยซูบอก. พูดให้เพื่อนฟัง เขาก็หัวเราะ อาจเป็นเรื่องตลกสำหรับคนอื่น

แต่เราที่เป็นแม่นี่สิ กลุ้มใจ. เราเองก็นับถือศาสนาพุทธ และก็ไม่รู้จะพูดยังไงกับลูกเรื่องพระเยซู

แต่ก็บอกเขานะว่าทุกศาสนาสอนให้เราทำดี เป็นคนดี. กับน้องคนเล็กเขาก็รักนะ

ตอนนี้ก็ให้เขาช่วยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้น้อง หาอะไรให้เขาทำกับเราค่ะ.มองดูหน้าลูกๆแล้วน่าสงสาร

โดยเฉพาะคนโต เขานอนเตียงเดียวกับแม่และน้อง เวลาน้องตื่นกินนมตอนกลางคืน ก็ตื่นด้วย

บอกให้นอนต่อก็ไม่นอน รอนอนพร้อมกัน.กลางวันอยู่ที่ ร.ร ก็ง่วงนอน ตาก็แดง แต่ทาง ร.ร ก็เข้าใจ

ครูเขาก็บอกให้ไปนอนที่โซฟาหลังห้อง.ตอนที่ปาป๊าเขายังอยู่ ลูกนอนห้องตัวเอง

แต่ตอนนี้ไม่อยากแม้แต่จะเข้าไป เขากลัว. กลุ้มใจและเป็นห่วงลูกมากค่ะ.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2011, 21:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ทำตัวตามกระแสน้ำซิค่ะ
เขาเชื่อในพระเจ้า ก็บอกเขาว่าพระเจ้าส่งให้เขา
เกิดมาเพื่อช่วยม่าม้า หนูต้องอยุ่เพื่อช่วยม่าม้า
ดูแลน้องก่อน....เมื่อถึงเวลาพวกเราทุกคน
ก็ต้องตายเหมือนๆกัน...

คุยกับเขาให้มากๆ
ยิ่งเขาพูดมากเท่าไหร่? เราก็ยิ่งจะรู้เขา
มากขึ้นเท่านั้น....เขาจะเชื่อหรือนับถือศาสนาอะไร
ไม่ใช่เรื่องที่ควรกังวล ขอเพียงให้เขามีจุดยืน
มีที่พึ่งทางใจ เพื่อเขาจะได้ไม่นอกลู่นอกทางก็พอ
ทุกศาสนาก็มีสิ่งดีๆที่นำมาสั่งสอนคนให้เป็นคนดีทั้งนั้น
เขาศรัทธาอะไร? ก็ใช้สิ่งนั้นโน้มน้าว..ดัดแปลงแก้ไขเขา

เขาเพิ่งจะหกขวบ...ยังจะมีอะไรอีกมากมายที่จะต้องเปลี่ยนแปลง
ค่อยๆ ประคับประคอง ชี้แจง แนะนำสิ่งที่ดีๆให้เขา เชื่อแน่ว่า
ไม่ว่าเขาจะนับถือศาสนาอะไร เขาก็เป็นคนที่ดีได้...นะค่ะ :b4: :b4:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2011, 14:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Anita เขียน:
หลังจากที่ได้ตั้งกระทู้"สามี เกิดอุบัติเหตุรถชนกับรถพ่วง เสียชีวิตคาที่"

ลูกก็บอกว่าเข้าใจแต่ก็บ่นคิดถึงพ่อด้วย ยิ่งได้ยินก็ยิ่งเจ็บค่ะ
เพราะแม่เองก็คิดถึงพ่อเค๊ามากๆเช่นกัน.
อยากจะรู้จักกับเพื่อนๆที่เลี้ยงลูกคนเดียวค่ะ.


คุณ Anita เก่งมากค่ะ เลี้ยงลูกด้วยตัวเองทั้งสองคน
เป็นประสบการณ์อันมีค่าสำหรับความเป็นแม่อันยอดเยี่ยมเลยค่ะ
ทั้งคุณก็คิดถึงสามีและลูกก็คิดถึงพ่อ นั่นดีที่สุดแล้ว
เพราะคุณและลูกได้คิดถึงแต่ความทรงจำที่ดีงามก่อนหน้านี้
ถึงแม้คนที่คิดถึงจะจากโลกนี้ไปก็ตาม

ยังมีภรรยาอีกมากมายที่คิดถึงบุคคลอันเคยรักเคยใกล้ชิด
ขณะที่เขาเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่ แต่ทิ้งลูกและภรรยาไว้อย่างไม่แยแส
นั่นเป็นความคิดถึงแบบทุกข์ทรมานเลยทีเดียว
หญิงสาวบางคนจึงยอมให้เพื่อนชายของเธอบางคนไปตายดีกว่าไปมีคนใหม่

คุณ Anita เก็บความทรงจำดีๆเหล่านี้ไว้ให้นาน เพื่อเป็นกำลังใจใน
การเลี้ยงดูลูกๆนะคะ ดิฉันคิดว่าวิญญาณเขาคงรับรู้ได้อยู่
ว่าคุณทำดีที่สุดแล้ว

กิจวัตรประจำวันในการดูแลเด็กเล็กนี่นับเป็นความวุ่นวายปนกับความสุข
คุณ Anita ไม่น่าจะว่างขนาดมาเหงาๆได้เลยนะคะ
ดิฉันขอเป็นกำลังใจนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2012, 10:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


สวัสดีปีใหม่ค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2012, 21:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ย. 2011, 14:26
โพสต์: 13


 ข้อมูลส่วนตัว


ยังมีภรรยาอีกมากมายที่คิดถึงบุคคลอันเคยรักเคยใกล้ชิด
ขณะที่เขาเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่ แต่ทิ้งลูกและภรรยาไว้อย่างไม่แยแส
นั่นเป็นความคิดถึงแบบทุกข์ทรมานเลยทีเดียว
หญิงสาวบางคนจึงยอมให้เพื่อนชายของเธอบางคนไปตายดีกว่าไปมีคนใหม่


จริงอย่างที่ คุณวันนี้ ได้พูดค่ะ

แอมก็ได้เลี้ยงลูกคนเดียวเหมือนกัน เลี้ยงคนเดียวตั้งแต่ลูกเกิด
ไม่ได้มีใครคอยช่วยเหลือเหมือนกันค่ะ
แถมต้องมานั่งทุกข์ใจ กับพ่อของลูกอีก (เพราะเรามาอย่างไม่ถูกต้อง)
แต่แอมก็ยืนหยัด ในการเลี้ยงลูกเพียงลำพัง ซึ่งตอนนี้ ลูกก็ได้ 6 เดือนแล้ว
ถึงแม้ในใจเราจะเศร้าอย่างไร แค่มองหน้าลูก ก็ช่วยบรรเทาได้แล้วค่ะ

คุณยังเป็นคนโชคดีมากๆ กว่าผู้หญิงหลายคนเยอะค่ะ
ที่เค้าได้จากไป แล้วยังเหลือสิ่งที่ดีๆ ให้เราได้คิดถึง
แต่คนที่ยังอยู่ซิค่ะ ยังคงวนเวียนหลอกหลอนในใจของเราตลอดเวลา
(เพราะเรายังต้องพึ่งปัจจัยจากเค้าอยู่)

สู้ๆๆ ค่ะ ผู้หญิงอย่างพวกเรา ต้องเข้มแข็งอยู่แล้ว


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 12 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร