วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 04:30  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 45 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2009, 12:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ย. 2009, 11:43
โพสต์: 14

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บุญชัย เขียน:
สาธุท่าน กล่าวดีแล้ว
คนดีชอบแก้ไข คน ไรชอบแก้ตัว :b20:
ไม่พูด ไม่ดู ไม่ฟัง ไม่ยุ่ง แค่นี้ครับ


Onion_L รบกวนถามหน่อยนะคะ ไม่พูด ไม่ดู ไม่ฟัง คงพอได้ แต่บางเรื่องไม่ยุ่งเห็นจะไม่ได้ค่ะ รู้สึกว่า การปล่อยให้คนชั่วลอยนวล ก็เหมือนการทำบาปประการหนึ่งค่ะ tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.พ. 2010, 01:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ม.ค. 2010, 20:54
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พึ่งอยู่ในกอบที่เรียกว่า กิจของสงฆ์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2010, 08:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาสาธุคร๊าบบ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ค. 2010, 14:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ธ.ค. 2009, 18:41
โพสต์: 46

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ค่ะ คิดว่าตัวเอง เป็นคนที่มีวจีกรรมค่ะ เพราะเป็นคนชอบพูดจาส่อเสียด พูดตรงๆ พูดจาขวานผ่าซาก ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ และชอบเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ เชื่อในเรื่องที่คิดว่าน่าเชื่อ อย่างเรื่องที่คนรอบข้างตัวเองมักกล่าวว่า เป็นคนในตัวมีของ ใครอยู่ด้วยไม่ได้(แต่งงาน) ก็ไม่เชื่อ ทำให้เถียงกัน และพูดจาว่า ถ้าเป็นคนมีของ คบใครก็ต้องพลัดพราก และแฟนตาย ก็ให้ของมันตายไปด้วยกันนี่หล่ะ ไม่ต้องไปแก้ไขอะไรมันหรอก มันไม่มีหรอก (บางทีก็คิดว่าเรารั้นไปหรือปล่าว) ส่วนกะลูกสาว เขาชอบแปรงฟันเรื่อยเปื่อย แปรงใช้เวลาน้อยมาก หรือไม่ค่อยอยากจะแปรงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร พอพิสูจน์ว่ามีกลิ่นปากไหม ก็เลยหยอกเขาว่า บอกแล้วให้กินข้าว ทำไมชอบกินหมาเน่ามา คือพูดให้เขาคิด และให้เขาตลก จะได้แปรงฟันนานๆ อย่างนี้ค่ะ พออ่านหนังสือธรรมะ เจอหัวข้อ วจีกรรม ชักไม่กล้าพูดสักเท่าไหร่ กลัวบาปเหมือนกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2010, 00:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 มิ.ย. 2010, 15:21
โพสต์: 14

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ธรรมมะ
ชื่อเล่น: นิ
อายุ: 2

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue ได้ความรู้มากเลยค่ะ
เราเองก็พยายามรักษาศีล 5 อยู่ค่ะและพยายามระงับความโกรธ ดูอารมณ์ตัวเองเมื่อมีสิ่งมากระทบหรือดูกายภายในกายค่ะ :b48: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2010, 12:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 13:34
โพสต์: 1654

งานอดิเรก: ฟังเพลง และฟังธรรมตามกาลเวลา
สิ่งที่ชื่นชอบ: อภัยทาน
อายุ: 39
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว


..นิทานชาดก เรื่อง.. นันทิวิสาลชาดก (เรื่องที่ 32)

นิทานชาดกนี้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ "พระพุทธเจ้า" ขณะที่ยังเป็นพระโพธิสัตว์ พระองค์ได้บำเพ็ญพระบารมีมาในแต่ละชาติ จะเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แล้วได้ตรัสเล่าบุพกรรมเหล่านี้ ซึ่งมีมาในพระไตรปิฎกมากมายหลายเรื่อง ในตอนนี้ จะขอนำการ์ตูนเรื่องที่ 32 มีชื่อว่า "นันทิวิสาลชาดก" (อ่าน..นันทิวิสาละชาดก) เป็นเรื่องของการกล่าววาจา โดยพระพุทธองค์เสวยพระชาติเป็น "พญาโคโพธิสัตว์" จึงขออนุโมทนา www.rakbankerd.com ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย

.....This story is a fable about "Buddha" While still a Bodhisat. He has to perform the prestige of each nation. Is a true story that occurred. Then spoke told these deeds. Which in many Tripitaka on. At this will be cartoon chapters No.32 called "Nanthi-wisal Jataka" The come into the Buddha "Paya cow".

นันทิวิสาลชาดก : ชาดกว่าด้วย "การใช้วาจาไพเราะ"

......ครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล มีภิกษุ ๖ รูป เรียกว่า "พระฉัพพัคคีย์" เป็นผู้ที่ไม่ตั้งใจปฏิบัติธรรม ชอบก่อกวน กลั่นแกล้ง หาเรื่องทะเลาะวิวาท พูดจาข่มขู่ เสียดสีภิกษุอื่นๆ อยู่เสมอ จนกระทั่งความทราบถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธองค์จึงกล่าวตำหนิโทษพระฉัพพัคคีย์ แล้วตรัสให้โอวาทว่า

“ผู้กล่าววาจาหยาบคาย ย่อมนำความฉิบหายมาให้ตนเอง เพราะเขาย่อมไม่เป็นที่พอใจของใครๆ แม้แต่สัตว์เดียรัจฉานก็ตาม” แล้วพระพุทธองค์ทรงนำ นันทิวิสาลชาดก มาตรัสเล่าเป็นอุทาหรณ์ ดังนี้....

เนื้อความของชาดก

......กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในสมัยของพระเจ้าคันธาระ ครองเมืองตักกศิลา แคว้นคันธาระ พระโพธิสัตว์เกิดเป็นโคนามว่า นันทิวิสาล เป็นโคมีรูปร่างสวยงาม มีพละกำลังมาก มีพราหมณ์คนหนึ่งได้เลี้ยงและรักโคนั้นเหมือนลูกชาย โคนั้นคิดจะตอบแทนบุญคุณการเลี้ยงดูของพราหมณ์ในวันหนึ่ง ได้พูดกะพราหมณ์ว่า

"พ่อ...จงไปท้าพนันกับโควินทกเศรษฐีว่า โคของเราสามารถลากเกวียนหนึ่งร้อยเล่ม ที่ผูกติดกันให้เคลื่อนไหวได้ พนันด้วยเงินหนึ่งพันกหาปณะเถิด"

พราหมณ์ได้ไปที่บ้านเศรษฐีและตกลงกันตามนั้น นัดเดิมพันกันในวันรุ่งขึ้น ในวันเดิมพัน พราหมณ์ได้เทียมโคนันทิวิสาลเข้าที่เกวียนเล่มแรก เพื่อลากเกวียนหนึ่งร้อยเล่มผูกติดกันซึ่งบรรทุกทราย กรวดและหินเต็มลำ แล้วขึ้นไปนั่งบนเกวียน เงื้อปฏักขึ้นพร้อมกับตวาดว่า "ไอ้โคโกง โคโง่ เจ้าจงลากเกวียนไปเดี๋ยวนี้"

ฝ่ายโคนันทิวิสาลเมื่อได้ยินพราหมณ์พูดเช่นนั้น ก็คิดน้อยใจว่า
"พราหมณ์เรียกเราผู้ไม่โกง..ว่าโกง ผู้ไม่โง่..ว่าโง่..!"

จึงยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว โควินทกเศรษฐีจึงเรียกให้พราหมณ์นำเงินหนึ่งพันกหาปณะมาให้แล้วกลับบ้านไปฝ่ายพราหมณ์ผู้แพ้พนันเงินหนึ่งพันกหาปณะ ปลดโคแล้วก็เข้าไปนอนเศร้าโศกเสียใจอยู่ในบ้าน ส่วนโคนันทิวิสาลเห็นพราหมณ์เศร้าโศกเสียใจเช่นนั้น จึงเข้าไปปลอบและกล่าวว่า

"พ่อ...ฉันอยู่ในเรือนของท่านตลอดมา เคยทำภาชนะอะไรแตกไหม เคยเหยียบใครๆ เคยถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะในที่อันไม่ควรหรือไม่ เพราะเหตุใด ท่านจึงเรียกเราว่า โคโกง โคโง่ ครั้งนี้เป็นความผิดของท่านเอง ไม่ใช่ความผิดของฉัน บัดนี้ ขอให้ท่านไปเดิมพันกับโควินทกเศรษฐีใหม่ด้วยเงินสองพันกหาปณะ ขออย่างเดียว ท่านอย่าได้เรียกฉันว่า โคโกง โคโง่ ท่านจะได้ทรัพย์ตามที่ท่านปรารถนา ฉันจะไม่ทำให้ท่านเศร้าเสียใจ"

......พราหมณ์ได้ทำตามที่โคนันทิวิสาลบอก ในวันเดิมพัน พราหมณ์จึงพูดหวานว่า
"นันทิวิสาล...ลูกรัก เจ้าจงลากเกวียนทั้งร้อยเล่มนี้ไปเถิด !"

โคนันทวิสาลได้ลากเกวียนร้อยเล่มที่ผูกติดกัน ด้วยการออกแรงลากเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ทำให้เกวียนเล่มสุดท้ายไปตั้งอยู่ที่เกวียนเล่มแรกอยู่ ทำให้พราหมณ์ชนะพนัน ด้วยเงินสองพันกหาปณะพระพุทธองค์เมื่อนำอดีตนิทานมาสาธกแล้วตรัสว่า
"ภิกษุทั้งหลาย ชื่อว่า..คำหยาบ ไม่เป็นที่ชอบใจของใครๆ แม้กระทั่งสัตว์เดียรัจฉาน"

แล้วได้ตรัสพระคาถาว่า
"บุคคลควรพูดแต่คำที่น่าพอใจเท่านั้น ไม่ควรพูดคำที่ไม่น่าพอใจในกาลใดๆ เมื่อพราหมณ์พูดคำที่น่าพอใจ โคนันทิวิสาลได้ลากสัมภาระอันหนักได้ ทั้งยังทำให้หราหมณ์ผู้นั้นได้ทรัพย์อีกด้วย ส่วนตนเองก็เป็นผู้ปลื้มใจ เพราะการช่วยเหลือนั้นด้วย"

.....ครั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสชาดกจบลง แล้วทรงแสดงอริยสัจ ๔ โดยอเนกปริยายไปตามลำดับ แล้วทรงประชุมชาดกว่า

....." พราหมณ์ในครั้งนั้น ได้เสวยพระชาติเป็น "พระอานนท์" ส่วน "โคนันทิวิศาล" ได้มาเป็นพระองค์เอง"

ข้อคิดจากชาดก

.....๑. แม้คนที่กตัญญูรู้คุณ ตั้งใจจะทดแทนคุณ ยอมทำตามใจเราทุกอย่าง ก็ยิ่งมีสิ่งที่เขาทนไม่ได้คือ ถ้อยคำที่ไม่ไพเราะ คำพูดที่เสียดแทงใจ เพราะฉะนั้นไม่ว่ากาลไหนๆ ใครๆ ก็ไม่ควรพูดคำหยาบเลย
.....๒. การพูดด้วยคำพูดที่ดีพร้อมในทุกแง่ทุกมุม เป็นมงคลอย่างยิ่ง จัดอยู่ในมงคลชีวิต มงคลที่ ๑๐ มีวาจาสุภาษิต
.....๓. องค์ประกอบของวาจาสุภาษิต

(๑) พูดด้วยจิตประกอบด้วยเมตตา มีเจตนาดี
(๒) พูดแต่คำจริง
(๓) พูดแต่คำสุภาพอ่อนน้อม
(๔) พูดแต่คำที่เป็นประโยชน์
(๕) พูดตามกาลอันสมควร รู้ว่าเมื่อไรควรพูด เมื่อไรควรนิ่ง

ที่มา :: dhammathai
ที่มา :: ตามรอยพระพุทธบา *..New..* การ์ตูน..นิทานชาดก เรื่อง.. นันทิวิสาลชาดก (เรื่องที่ 32)

กราบอนุโมทนาบุญกับผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ tongue tongue tongue

.....................................................
ธรรมอำนวยพร
ขอให้.....มีจิตที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน (พุทธะ)
ขอให้.....ทำการงานด้วยความสุข (อิทธิบาทสี่)
ขอให้.....ขจัดทุกข์ได้ด้วยปัญญา (อริยสัจสี่)
ขอให้.....มีดวงตาที่เห็นความจริง (ไตรลักษณ์)
ขอให้.....เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มี.ค. 2011, 13:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มี.ค. 2011, 10:47
โพสต์: 11

แนวปฏิบัติ: อานาปานสติ, สติปัฏฐาน ๔
งานอดิเรก: ปฏิบัติธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: พุทธธรรม
ชื่อเล่น: พัท
อายุ: 37
ที่อยู่: กรุงเทพ

 ข้อมูลส่วนตัว www


สาธุครับ :b8: :b8:
ขอน้อมรับและจะพยายามนำไปปฏิบัติให้ได้ครับ และให้ครบถ้วนทั้งทางกาย วาจา และใจ :b8: :b8:

.....................................................
ปล่อยวาง...ปล่อยวาง...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2011, 18:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุ สาธุ สาธุ
ขอให้ข้าพเจ้ามีวจีอันสุจริต ปราศจาคโทษ ไม่เบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่นทางคำพูด ด้วยเทอญ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2011, 16:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


................. :b8: :b8: :b8: :b8: :b8:..................

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2011, 01:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ก.ย. 2011, 14:46
โพสต์: 6


 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุค่ะ :b8: :b8: :b8:

.....................................................
คาถากันน้ำตาไหล : ไม่แน่ ไม่ได้ดั่งใจ ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ (ว.วชิรเมธี)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2012, 15:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 มี.ค. 2009, 00:58
โพสต์: 16


 ข้อมูลส่วนตัว


รู้สึกตัวเองจะหมิ่นเหม่ ข้อการพูดเพ้อเจ้อเหลวไหล นิดหน่อย
ยิงมุขกับเพื่อนบ่อย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2012, 01:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 00:03
โพสต์: 17

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บุคคลใดไม่เข้าใจในธรรมะ แล้วพูดออกไป

บุคคลนั้นเรียกว่า ผู้บ่นเพ้อธรรมะ

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.พ. 2013, 12:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2013, 11:46
โพสต์: 137


 ข้อมูลส่วนตัว


คนมีองค์ เขียน:
บุญชัย เขียน:
สาธุท่าน กล่าวดีแล้ว
คนดีชอบแก้ไข คน ไรชอบแก้ตัว :b20:
ไม่พูด ไม่ดู ไม่ฟัง ไม่ยุ่ง แค่นี้ครับ


Onion_L รบกวนถามหน่อยนะคะ ไม่พูด ไม่ดู ไม่ฟัง คงพอได้ แต่บางเรื่องไม่ยุ่งเห็นจะไม่ได้ค่ะ รู้สึกว่า การปล่อยให้คนชั่วลอยนวล ก็เหมือนการทำบาปประการหนึ่งค่ะ tongue


คนชั่วบางคนถือว่าตนมีอำนาจมาก ไม่มีใครสามารถเอาผิดได้ จึงหลงระเริง ทำบาป ก่อกรรมไม่จบสิ้น
คำพระท่านว่า ความผิดทางโลก แม้ไม่มีใครเอาผิดได้ด้วยเพราะมีอิทธิพลคุ้มหัว แต่บาปกรรมที่ก่อไว้ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทุกชีวิตล้วนต้องรับกรรมที่ตัวเองก่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ทั้งสิ้นค่ะ

.....................................................
อันความกรุณาปราณี จักมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจ จากฟากฟ้าสุลาลัยสู่แดนดิน
มอง...ข้างหน้า ให้เป็นความหวัง มอง...ข้างหลัง ให้เป็นบทเรียน มอง...สิ่งที่มัน หมุนเวียน เพื่อยอมรับ...การเปลี่ยนไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.พ. 2013, 12:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2013, 11:46
โพสต์: 137


 ข้อมูลส่วนตัว


วจีสุจริต ย่อมเกิดจากใจสุจริต มีคุณธรรม เป็นผู้ชอบธรรม
วจีทุจริต ย่อมเกิดจากผู้มีจิตใจโสมม ใจผี ขาดความชอบธรรม

สาธุ

.....................................................
อันความกรุณาปราณี จักมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจ จากฟากฟ้าสุลาลัยสู่แดนดิน
มอง...ข้างหน้า ให้เป็นความหวัง มอง...ข้างหลัง ให้เป็นบทเรียน มอง...สิ่งที่มัน หมุนเวียน เพื่อยอมรับ...การเปลี่ยนไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ส.ค. 2013, 15:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2013, 14:43
โพสต์: 68

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




thank.jpg
thank.jpg [ 15.21 KiB | เปิดดู 14905 ครั้ง ]
:b8: :b8: :b8: สาธุ สาธุ สาธุ
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 45 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 23 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron