วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 00:31  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 10:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
จากลูกกำพร้าสู่พระมหาเถระ


หลวงพ่อพุธ ฐานิโย เป็นลูกศิษย์รุ่นสุดท้ายที่ได้รับใช้พระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล
ท่านเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน จังหวัดนครราชสีมา
ซึ่งตกลงกันให้เป็นสำนักวิปัสสนาธุระและศูนย์กลางการชุมนุมของคณะพระกัมมัฏฐาน
ในการประชุมของคณะสงฆ์ที่เกี่ยวข้อง เมื่อปี ๒๕๐๓

หลวงพ่อพุธได้เล่าถึงความหมายของฉายา “ฐานิโย” ไว้ดังนี้

“ศัพท์ว่า ฐานิยะ หรือ ฐานิโย นี้ เป็นชื่อฉายาภาษามคธ
ที่พระอุปัชฌาย์มอบให้ตั้งแต่วันที่ท่านอุปสมบท
แปลความหมายว่า ผู้ตั้งมั่น (ในธรรม)


ท่านเป็นผู้ที่แตกฉานในธรรมะเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังมีอุปนิสัยอ่อนน้อม
ดังปรากฏในคำกล่าวของหลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท ความว่า


“ท่านเจ้าคุณพุธ มีความอ่อนน้อมถ่อมตัวมาก
เขียนหนังสือด้านการปฏิบัติได้ดี ถูกต้องทุกขั้นทุกตอน
เก่งกว่าพระที่มียศตำแหน่งเป็นสมเด็จเสียอีก
เราชอบอ่านหนังสือที่ท่านเจ้าคุณพุธเขียน”


เมื่ออายุประมาณ ๘ ปี ท่านเคยได้กราบพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต
ในงานศพที่วัดบ้านหนองดินดำ จังหวัดสกลนคร
นอกจากนี้หลวงพ่อยังเป็นเพื่อนสมัยเด็กของหลวงพ่อวัน อุตฺตโม

“...อาจารย์วัน (วัน อุตฺตโม) นี่เล่นกันมาตั้งแต่เป็นเด็ก อยู่คนละบ้าน
อาจารย์วันอยู่บ้านตาลโกน แต่นาท่านอยู่ติดหมู่บ้านเรา...”


และเป็นญาติทางฝ่ายบิดากับท่านพ่อลี ธมฺมธโร

“...ท่านพ่อลีท่านมีศักดิ์เป็นปู่ของหลวงพ่อ ท่านเป็นพี่น้องทางฝ่ายพ่อ (ของหลวงพ่อ)
ท่านมีชาติกำเนิดที่อุบลฯ เหมือนกัน ท่านใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า “ปู่” กับหลวงพ่อ...”


แต่หากมีผู้ถามถึงประวัติส่วนตัว ท่านจะบอกเสมอว่าตัวเองเป็นลูกกำพร้า

“เมื่อมีคนมาถามถึงสกุลรุนชาติ หลวงพ่อจะบอกเสมอว่า
หลวงพ่อเป็นเด็กขอทาน กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่อายุ ๔ ขวบ
อาจเคยทำกรรมพรากชีวิตสัตว์ไว้ จึงต้องเป็นกำพร้าตั้งแต่เด็ก”


สาเหตุเพราะโยมมารดาเมื่อคลอดท่านแล้วก็กลายเป็นคนเสียสติ
ส่วนโยมบิดาก็เป็นไข้มาลาเรียจนถึงแก่กรรม ตั้งแต่ท่านอายุได้ ๔ ปี
ท่านจึงพลัดพรากและถูกทำให้เข้าใจผิดมาตลอดว่าโยมมารดาเสียชีวิตแล้ว

“...เขาโกหกว่าแม่ตายแต่อายุ ๗ ขวบ ถามว่าทำไมถึงต้องโกหก
ถ้าบอกว่าแม่ยังอยู่กลัวว่าเราจะไปตามหา
หลวงพ่อจากแม่มาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๘ เพิ่งไปค้นพบญาติเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๖
ตอนนั้นหลวงพ่ออายุ ๓๒ ปีถึงได้รู้ว่าโยมแม่ยังไม่ตาย
เขามาบอกว่าแม่ท่านพึ่งตายไปได้ ๒ ปีนี้เอง...”


ท่านเล่าถึงความรู้สึกว้าเหว่เมื่อครั้งยังเป็นเด็กว่า...

“...สมัยเด็กๆ หลวงพ่อเคยเหงาเหมือนกัน แต่ไม่ถึงกับทุกข์
มันไปเหงาตรงที่ว่าพอได้ยินคนข้างบ้านเขาเอิ้น (เรียก) แม่ พ่อ ล่ะเหงาทันที
เราไม่มีพ่อแม่เรียกกับเขา…”


เพราะเป็นลูกกำพร้าจึงต้องพบความคับแค้นใจมาตั้งแต่เล็ก
ทั้งจากเพื่อนบ้าน และที่สำคัญคือจากญาติของตนเอง


“...บางทีกินข้าวอยู่ดีๆ เขาไล่ออกจากสำรับ ก็ยังเคยมีเลย
บางทีคล้ายๆ ว่าเขากลั่นแกล้ง เวลาค่ำมืดให้เราไปต้อนวัวต้อนควายเข้าคอกคนเดียว
ทีนี้เด็กอายุ ๑๒-๑๓ ปีนี่มันก็เกิดความกลัว แล้วบริเวณบ้านที่อยู่น่ะ มันป่าช้างดงเสือทั้งนั้น
ถ้าเราชวนน้องๆ ไปด้วย เขาก็หาว่าเกี่ยง ใช้งานแค่นี้ไม่ได้ มึงหนีจากบ้านกู
คุกเข่ากราบลงต่อหน้าที่ลานบ้าน ขอเวลาอีก ๖ เดือน
เพราะตอนนั้นเรียนอยู่ประถม ๖ ยังเหลืออีก ๖ เดือนจะจบ...”


ความทุกข์เหล่านั้นเป็นแรงผลักดันสำคัญยิ่ง ทำให้ท่านตัดสินใจบวช
ตั้งแต่เพิ่งเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มีอายุย่าง ๑๕ ปี


“...ที่หลวงพ่อบวชนี้เพราะหลวงพ่อคิดว่ามีความทุกข์ โลกนี้มีแต่ความทุกข์
จึงแสวงหาทางพ้นทุกข์ ความรู้สึกมันเป็นเช่นนั้นในขณะนั้น
แต่ว่าความรู้สึกทุกข์ทรมานตามความรู้สึกสามัญสำนึกธรรมดา
มันมีอยู่ตั้งแต่เริ่มรู้เดียงสามา คือความรู้สึกน้อยอกน้อยใจ
ว่าเราขาดพ่อขาดแม่ ขาดความอบอุ่น แม้แต่ไปเล่นกับเพื่อนบ้าน
บางทีเขาก็โมโหให้ บางทีเขาก็ด่า “ไอ้ลูกไม่มีพ่อแม่สั่งสอน” อะไรทำนองนั้น
มันก็รู้สึกกระทบกระเทือนจิต มีความรู้สึกอยู่เช่นนั้นตลอดมาจนกระทั่งบวชเณร”


เมื่อบวชแล้ว ท่านก็ตั้งใจศึกษาจนจบเปรียญธรรม ๓ ประโยค
ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร โดยใช้เวลาเพียง ๑ ปี
และได้เปรียญธรรม ๔ ประโยค ในเวลาต่อมา
แต่ที่สุดก็ต้องหยุดเรียนไปเพราะปัญหาสุขภาพ

ตลอดชีวิตในสมณเพศ ท่านได้ปฏิบัติสมณกิจสำคัญต่างๆ
เพื่อเป็นการเผยแผ่และค้ำจุนพระพุทธศาสนา
เหตุการณ์สำคัญหนึ่งก็คือ เมื่อประมาณปี ๒๕๒๕
ท่านเคยได้รับการอาราธนาให้ไปเทศน์ที่พระราชวังไกลกังวล
และได้ถวายวิสัชนาธรรมแด่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ


ในปี ๒๕๓๕ หลวงพ่อพุธได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช
ที่ “พระราชสังวรญาณ” อันเป็นสมณศักดิ์สูงสุดที่ท่านได้รับ
ซึ่งท่านเล่าว่า “เป็นนามที่สมเด็จพระบรมราชินีนาถท่านทรงเลือกเอง”

ชีวิตของหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ให้คติแก่เราทั้งหลายได้เป็นอย่างดียิ่ง
จากลูกกำพร้าที่ขาดทั้งความรักความอบอุ่น พบความทุกข์ยากมาตั้งแต่ยังเยาว์
แต่ด้วยคุณธรรม และจริยวัตรอันงดงามในสมณสารูป
จึงกลายพระสุปฏิปัณโณผู้เป็นที่กราบไหว้บูชาของคนทั้งแผ่นดิน
ดังที่ท่านได้เคยกล่าวถ้อยคำอันสมควรนำไปเป็นข้อคิดว่า


“...คนเรานี่จะอยู่ในฐานะอย่างไรก็ตาม ขอให้มีใจเข้มแข็ง กล้าสู้
แม้จะกำเนิดมาจากตระกูลขอทานมันก็เอาดีได้ ถ้าตั้งใจจริง...”


--------------------------------

:b47: เอกสารประกอบการเขียน

“ฐานิยตฺเถรวตฺถุ” เนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพพระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย)
ณ วัดป่าสาลวัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๔๓

“บูรพาจารย์” จัดดำเนินงานและพิมพ์โดยมูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ฉบับพิมพ์ปี ๒๕๔๕

“พระธุตังคเจดีย์ เจดีย์แห่งพระอรหันต์” ธรรมบรรณาการเนื่องในงานฉลองพระธุตังคเจดีย์
เจดีย์แห่งพระอรหันต์ และในงานบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายครบรอบวันมรณภาพปีที่ ๔๗
พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ท่านพ่อลี ธมฺมธโร) ๒๒-๓๐ เมษายน ๒๕๕๑

โดย เทียบธุลี http://www.dlitemag.com/

:b47: หมายเหตุผู้เขียน


รูปภาพ
รูปถ่ายแถมท้ายเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่ชื่นชอบผลงานของคุณดังตฤณ
ซึ่งเคยบวชที่วัดป่าสาลวัน โดยมีหลวงพ่อพุธ ฐานิโย เป็นพระอุปัชฌาย์
บางท่านเคยเห็นภาพนี้แล้ว แต่ก็คงมีบ้างที่ยังไม่เคยเห็นนะคะ


:b44: ประวัติและปฏิปทา “หลวงพ่อพุธ ฐานิโย”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=50583

:b44: รวมคำสอน “หลวงพ่อพุธ ฐานิโย”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=40915

:b44: ประมวลภาพ “หลวงพ่อพุธ ฐานิโย” วัดป่าสาลวัน
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=28489

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2010, 08:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 07:11
โพสต์: 93

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุ โมทนาเจ้าคะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2010, 16:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

:b48: :b41: :b48:

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


แก้ไขล่าสุดโดย เว็บมาสเตอร์ เมื่อ 10 เม.ย. 2010, 16:54, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2010, 17:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับคุณสาวิกาน้อย

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2011, 02:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ม.ค. 2010, 04:38
โพสต์: 376

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาครับน้องสาวิกาน้อย

ท่านสอนวิธีเจริญภาวนาไปละเอียดละออมาก

อกุศลวิบากท่านมากเหลือเกิน
ถูกผู้อื่นเบียดเบียนทางวาจาหลายต่อหลายครั้ง
ตั้งแต่เด็กชายพุธ จนเป็นพระผู้ใหญ่ชั้นราชาคณะ

นี่แหละไม่เห็นทุกข์ ไม่ถึงธรรม

สาธุ สาธุ สาธุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2011, 20:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2011, 13:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2011, 10:52
โพสต์: 256

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b47: :b8: :b8: :b8: :b47:

.....................................................
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร ไม่ต้อง อ้อนวอน ขอพร กะใคร ให้กวน
พรที่ ให้กัน ผันผวน เป็นเหมือน ลมหวน อวลไป อวลมา อย่าหลง
พรทำ ดีเอง มั่นคง วันคืน ยืนยง ซื่อตรง ต่อผู้ รู้ทำ
อยากรวย ด้วยพร เพียรบำ - เพ็ญบุญ กุศลนำ ให้ถูก ให้พอ ต่อตน
ทุกคน เกิดมา เป็นคน ชั่วดี มีจน เป็นผล แห่งกรรม ทำเอง
ถือธรรม เชื่อกรรม ยำเยง บาปชั่ว กลัวเกรง ทำแต่ กรรมดี ทวีพรฯ

ท่านพุทธทาสภิกขุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2011, 05:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2010, 09:11
โพสต์: 597


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: อนุโมทนาสาธุ ขอบพระคุณค่ะ :b53: :b53:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ค. 2011, 11:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ค. 2011, 11:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


Eikewsang เขียน:
ขออนุโมทนาครับน้องสาวิกาน้อย

ท่านสอนวิธีเจริญภาวนาไปละเอียดละออมาก

อกุศลวิบากท่านมากเหลือเกิน
ถูกผู้อื่นเบียดเบียนทางวาจาหลายต่อหลายครั้ง
ตั้งแต่เด็กชายพุธ จนเป็นพระผู้ใหญ่ชั้นราชาคณะ

นี่แหละไม่เห็นทุกข์ ไม่ถึงธรรม

สาธุ สาธุ สาธุ


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2014, 15:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 10:07
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2015, 23:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: กราบๆๆ ซาบซึ้่งจนน้ำตาคลอเลยเจ้าค่ะ Kiss


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 28 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร