วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 19:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 25 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2011, 17:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2007, 17:49
โพสต์: 1720

ที่อยู่: สุโขทัยธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


“แอ่งดอยหลวง” ฝึกจิต

มีพระพุทธรูปไม้แกะสลักจากต้นจำปีป่าใหญ่ที่สุดในโลก
ณ วัดหลวงขุนวิน หมู่ที่ 7 ต.ดอนเปา อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่


รูปภาพ

ดีใจที่มีโอกาสได้กลับไปเยือน ดอยหลวงขุนวิน อีกครั้งหนึ่ง
เลยเก็บภาพมาฝากเยอะเลยค่ะ :b8: :b16:


รูปภาพ

:b44: ล้างอารมณ์ตรงสู่นิพพาน
พระธรรมเทศนา พระอธิการจรัญ ทักขญาโณ
วัดหลวงขุนวิน (สาขาวัดสังฆทาน จ.นนทบุรี)
ต.ดอนเปา อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=57050


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2011, 17:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2007, 17:49
โพสต์: 1720

ที่อยู่: สุโขทัยธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ประวัติพระธาตุวัดหลวงขุนวิน

....ในสมัยพุทธกาลหลังจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แล้ว
เสด็จสั่งสอนเวไนยสัตว์ทั้งหลายนานได้ 25 พรรษา
ครั้งนั้นพระพุทธองค์ทรงประทับอยู่ในพระวิหารเชตะวัน
ปัจจุบันสมัยใกล้รุ่งคืนหนึ่งพระพุทธองค์ทรงรำพึงว่า
“อายุตถาคตได้ 60 พรรษา นับแต่นี้ไปอีก 20 พรรษาบริบูรณ์
ก็จะนิพพานไปเวไนยสัตว์ผู้มีบุญสมภารมาก (มีบุญสะสมไว้มาก)
ต่างก็เข้ามาสู่ในคำสอนของคถาคตสำเร็จมรรคสำเร็จผลไป
สัตว์โลกที่มีสมภารอ่อน (มีบุญที่สะสมไว้น้อย) ก็ยังมีอีกมาก
เราสั่งสอนเวไนยสัตว์ให้ถึงมรรคถึงผลนั้นก็หาได้สอนเต็มที่ไม่
แม้พระพุทธเจ้าทั้งหลายก็ไม่พอเต็ม 25 อสงไขยทุกตัวสัตว์ได้ เราก็จักนิพพานไป
สมควรเราจะตั้งจิตอธิษฐานไว้ยังพระพุทธศาสนา พระบาท พระธาตุ และพระรัตนตรัย
เพื่อเป็นที่กราบไหว้สักการบูชาของคนและเทวดาทั้งหลาย ประการหนึ่ง
เมื่อเรานิพพานไปแล้วและเพื่อให้พระศาสนาอยู่เฝ้าสั่งสอนโปรดเวไนยสัตว์
ชักจูงเข้าสู่พระนิพพานให้ครบจำนวนประมาณ 25 อสงไขย
ตามพุทธประเพณีของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

....อีกประการหนึ่ง เมื่อเรานิพพานไปแล้วได้ตั้งพระพุทธศาสนาไว้ 5,000 พรรษา
คือ เมื่อพระพุทธศาสนาล่วงไปได้ 2,000 พรรษา เข้าไปสู่ 3,000 พรรษา
บาปและกรรมเวร 5 ประการ จะมาครอบงำยุยงส่งเสริมให้คนและสัตว์ทั้งหลายถึงความพินาศฉิบหาย
เหตุนั้นเราควรไปตั้งจิตอธิษฐานยังพระบาทและพระธาตุไว้ในที่อันสมควร
เพื่อเป็นที่สักการบูชาของคนและเทวดาทั้งหลายให้เป็นเสมือนดั่งตัวเรายังทรมานดำรงชีวิตอยู่”


:b8: :b8: :b8:

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2011, 17:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2007, 17:49
โพสต์: 1720

ที่อยู่: สุโขทัยธานี

 ข้อมูลส่วนตัว




หลวงขุนวิน030.jpg
หลวงขุนวิน030.jpg [ 116.51 KiB | เปิดดู 11418 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน031.jpg
หลวงขุนวิน031.jpg [ 247.85 KiB | เปิดดู 11418 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน033.jpg
หลวงขุนวิน033.jpg [ 181.26 KiB | เปิดดู 11418 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน089.bmp
หลวงขุนวิน089.bmp [ 2.81 MiB | เปิดดู 11418 ครั้ง ]
....ความรำพึงด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้าในข้อนี้บังเกิดขึ้นแก่พระองค์ในวันเดือนเจียง (เดือนอ้าย) วันเพ็ญ จากนั้นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระเถระอรหันต์ 3 รูป คือพระโสณเถระ 1 พระอุตตระเถระ 1 พระอานนทเถระ 1 พร้อมด้วยพระอินทร์ทรงกั้นฉัตรแก่พระพุทธเจ้า และยังมีพระยาองค์หนึ่งพระนามว่าพระยาอโศกราช (พระเจ้าอโศกมหาราช) เมืองใหญ่ในกุสินารา พระองค์ทรงบังเกิดปสาทศรัทธาทรงเป็นผู้อุปัฏฐาก (อุปถัมภ์บำรุง) พระพุทธเจ้าในเชตวันมหาวิหาร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพาท่านทั้งหลายดังกล่าวมานี้ เสด็จออกจากเชตวันมหาวิหาร ในวันเดือนเจียง แรม 2 ค่ำ เสด็จเข้าสู่เมืองกุสินารา เมืองคูลวา (ทมิฬ) เมืองแกว (ญวน) เมืองลังกา เมืองละโว้ อโยธยา ทวารวดีทั้งมวล เสด็จขึ้นไปเมืองจีนหลวง เมืองเวเทหะ (จีนฮ่อ) เมืองโกศล เมืองลื้อ ไทย

....ความเป็นจริงแล้วหลักฐานความเป็นมาของพระธาตุวัดหลวงฯ ไม่สามารถหาได้ในปัจจุบัน เพราะสร้างมาหลายยุคหลายสมัย มีทั้งรุ่งเรืองบ้างและเสื่อมบ้าง บางสมัยก็กลายเป็นวัดร้างหลายปี การเช่นนี้จึงทำให้หลักฐานความเป็นมาของวัดหลวงขุนวินสาบสูญไป ฉะนั้น เป็นการพยายามอย่างยิ่งที่จะรวบรวมประวัติความเป็นมาให้บริบูรณ์ได้ จึงสอบถามจากผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีความเลื่อมใสและได้กราบทูลขอพระเกศาธาตุ พระพุทธองค์ทรงประทานให้แล้วสร้างพระเจดีย์ครอบไว้บนยอดเตี้ยๆ ลูกหนึ่งชื่อว่า พระธาตุม่อนเปี้ยะดังนี้แล


:b8: :b8:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2011, 17:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2007, 17:49
โพสต์: 1720

ที่อยู่: สุโขทัยธานี

 ข้อมูลส่วนตัว




หลวงขุนวิน085.bmp
หลวงขุนวิน085.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11417 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน086.bmp
หลวงขุนวิน086.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11417 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน038.jpg
หลวงขุนวิน038.jpg [ 198.39 KiB | เปิดดู 11417 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน039.jpg
หลวงขุนวิน039.jpg [ 217.14 KiB | เปิดดู 11417 ครั้ง ]
หลังจากนั้น พระพุทธองค์ก็ทรงจาริกมาทางทิศที่จะมาเพื่อประทับรอยพระบาท แต่ในสถานที่นั้นหินที่เป็นก้อนใหญ่ไม่ค่อยมีจึงได้หินก้อนหนึ่งกว้างประมาณ 1 ศอก และยาว 2 ศอก จึงนำมาถวายพระพุทธองค์ทรงประทับรอยพระบาทให้ แต่เนื่องจากหินก้อนเล็กไปจึงปรากฏเฉพาะรอยฝ่าพระบาทเท่านั้น ส่วนส้นและนิ้วพระบาทหายไป และพระพุทธองค์ทรงทำนายไว้ว่า พระพุทธบาทนี้ไม่เต็มรอยเพราะแหว่งไป (ภาษาพื้นเมืองเรียกว่า หวิดไป) ฉะนั้น เมืองนี้จึงมีชื่อว่าเมืองหวิด ต่อมาได้ชื่อว่า เมืองวิน ดังนี้แล

...จากนั้น พระพุทธองค์ก็ทรงเสด็จจาริกมายังบริเวณที่ตั้งของวัดหลวงขุนวินปัจจุบันนี้ และพอจะสันนิษฐานได้ว่า ปู่หลาน เดิมนั้นคงจะมีบ้านเรือนตั้งอยู่ใกล้บริเวณวัดหลวงฯ และพระพุทธองค์ทรงรับบิณฑบาตในที่นี้ หลังจากทรงฉันภัตตาหารแล้ว มีชาวลัวะ 2 ท่าน คือ ขุนสาบและขุนสระเมิง มีจิตเลื่อมใส ได้กราบทูลขอพระเกศาธาตุ พระพุทธองค์ทรงเอื้อมพระหัตถ์แล้วทรงประทานเส้นพระเกศา 5 เส้น จึงได้สร้างพระเจดีย์ 5 ยอด บรรจุเอาไว้ เพื่อเป็นที่กราบไหว้สักการบูชาของชนทั้งหลายตราบจนทุกวันนี้
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2011, 18:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2007, 17:49
โพสต์: 1720

ที่อยู่: สุโขทัยธานี

 ข้อมูลส่วนตัว




หลวงขุนวิน023.bmp
หลวงขุนวิน023.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11417 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน018.bmp
หลวงขุนวิน018.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11417 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน026.bmp
หลวงขุนวิน026.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11417 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน032.jpg
หลวงขุนวิน032.jpg [ 187.69 KiB | เปิดดู 11417 ครั้ง ]
....หลังจากนั้น วัดหลวงขุนวิน ได้เจริญรุ่งเรืองและถึงความเสื่อมไปตามยุคตามสมัยเรื่อยมา ครั้นต่อมามีหลักฐานจารึกในใบลานว่า เจ้าหมื่นคำซาว ฐานะเป็นน้องของขุนหลวงวิลังคะ เจ้าเมืองเชียงใหม่ ได้ทำนุบำรุงวัดหลวงฯ ขึ้นมาอีกครั้ง โดยมีครูบาปัญญาวงศา เป็นเจ้าอาวาส เมื่อปี พ.ศ. 1760 ได้เจริญรุ่งเรืองมาถึงปี พ.ศ. 1802 พม่าตีเมืองเชียงใหม่แตกวันนี้จึงกลายเป็นวัดร้าง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2011, 18:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2007, 17:49
โพสต์: 1720

ที่อยู่: สุโขทัยธานี

 ข้อมูลส่วนตัว




หลวงขุนวิน087.bmp
หลวงขุนวิน087.bmp [ 1.43 MiB | เปิดดู 11417 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน084.bmp
หลวงขุนวิน084.bmp [ 1.67 MiB | เปิดดู 11417 ครั้ง ]
....ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2497 ครูบาอุ่นเรือน สุภทฺโท วัดบ้านควน ตำบลพรหมหลวง อำเภอสันป่าตอง มาบูรณะวัดนี้อีกครั้งหนึ่ง สร้างเสร็จได้นิมนต์ครูบาอภิชัย ขาวปี มาเป็นประธานร่วมฉลอง เมื่อปี พ.ศ. 2501 ครั้นต่อมา ปี พ.ศ. 2530 ครูบาอุ่นเรือน อาพาธหนักและได้มรณภาพเมื่อปี พ.ศ. 2507 ที่วัดบ้านควน ต่อมาเจ้าชื่น สิโรรส ได้นิมนต์หลวงปู่เณรไจ๋ อุ่นเรือน จากวัดอุโมงค์เถรจันทร์ มาจำพรรษาในปี พ.ศ. 2505 ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2532 พระอาจารย์สมบูรณ์ รตฺนญาโณ จำพรรษาอยู่ได้ 8 ปี และได้มอบให้แก่พระอาจารย์จรัญ ทกฺขญาโณ แห่งวัดสังฆทานดูแลสืบไป

<<<จบบริบูรณ์ประวัติวัดหลวงขุนวิน>>>

:b8:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2011, 18:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2007, 17:49
โพสต์: 1720

ที่อยู่: สุโขทัยธานี

 ข้อมูลส่วนตัว




หลวงขุนวิน083.bmp
หลวงขุนวิน083.bmp [ 1.64 MiB | เปิดดู 11416 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน049.bmp
หลวงขุนวิน049.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11416 ครั้ง ]
....พระอธิการจรัญ ทกฺขญาโณ เจ้าอาวาสวัดหลวงขุนวิน เล่าว่า วัดหลวงขุนวินนี้เป็นวัดเก่าแก่ ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดที่บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เล่ากันว่ากำเนิดจริงๆ ของวัดหลวงขุนวินนั้น มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมา ณ บริเวณที่ตั้งวัด และประทับรอยพระบาทไว้ในป่าแห่งนี้ ตามปกติพระพุทธเจ้าเสด็จไปแห่งใด จะไม่มีรอยพระบาท นอกจากจะทรงอธิษฐานประทับรอยพระบาท ซึ่งรอยพระบาทนี้เรียกว่า "พระบาทย่ำหวิด " ย่ำ คือ "เหยียบ " หวิด คือ แหว่งไป เนื่องจากพระบาทที่ทรงย่ำนั้น มีรอยแหว่ง เพราะแผ่นหินที่ประทับรอยพระบาทนั้นมีขนาดเล็กเกินไป ทำให้นิ้วของพระบาทหายหรือแหว่งไป และชื่อเมืองแต่เดิมชื่อ "หวิด " ต่อมาเปลี่ยนเป็น "วิน " จึงเป็นเมืองวินหรือขุนวิน ชาวบ้านได้ทูลขอพระเกศาธาตุจากพระพุทธองค์ แล้วจึงสร้างเจดีย์ไว้บรรจุพระธาตุเพื่อการกราบไหว้บูชาต่อไป และชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างวัดไว้ด้วย คือวัดหลวงขุนวิน ในปัจจุบัน
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2011, 18:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2007, 17:49
โพสต์: 1720

ที่อยู่: สุโขทัยธานี

 ข้อมูลส่วนตัว




คำอธิบาย: หลวงพ่อจรัญ
หลวงขุนวิน088.bmp
หลวงขุนวิน088.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11412 ครั้ง ]
คำอธิบาย: แม่ชีบุญมี
หลวงขุนวิน093.bmp
หลวงขุนวิน093.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11412 ครั้ง ]
คำอธิบาย: แม่ชีคิ้ง
หลวงขุนวิน091.bmp
หลวงขุนวิน091.bmp [ 1.48 MiB | เปิดดู 11412 ครั้ง ]
ประวัติหลวงหลวงพ่อจรัญ ทกฺขญาโณ
..หลวงพ่อจรัญ ทกฺขญาโณ เป็นคนจังหวัดน่าน ขณะทำงานที่กรุงเทพฯ มีความสนใจศึกษาและฝึกปฏิบัติจนเกิดศรัทธา และบวชที่วัดสังฆทาน ในปี พ.ศ. 2529 เมื่ออายุได้ 27 ปี พรรษาแรกจำพรรษาที่อุ้มผาง จังหวัดตาก และผ่านการเก็บอารมณ์ที่วัดหนองไผ่เจริญธรรม จังหวัดสุพรรณบุรี รวม 4 ปี

..ต่อมาท่านธุดงค์ไปทางภาคเหนือเพื่อการปฏิบัติ จนพบวัดพันต้น ซึ่งเป็นวัดร้างอยู่กลางทุ่ง ที่อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตามประวัตินั้นเป็นวัดที่จัดให้มีการทำสังคายนาพระไตรปิฎก มีพระมาประชุมกันพันองค์ หรือพันต้น ท่านเห็นว่าเป็นสถานที่สัปปายะ เหมาะแก่การฝึกปฏิบัติจึงอยู่จำพรรษาที่วัดนี้เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งในปีสุดท้ายนั้นมีพระจากวัดสังฆทานธุดงค์ผ่านมา ท่านจึงบอกทางไปจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยให้ตัดตรงผ่านเส้นทางนี้ไป ท่านจึงพบวัดหลวงขุนวินโดยบังเอิญ ซึ่งขณะนั้นพระอาจารย์สมบูรณ์ รตนญาโณ (ลูกศิษย์หลวงพ่อสนิท ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่สังวาลย์ วัดทุ่งสามัคคีธรรม จังหวัดสุพรรณบุรี) เป็นผู้ดูแลวัดได้ 8 ปีแล้ว พระอาจารย์สมบูรณ์จึงดีใจที่ได้พบพระจากวัดสังฆทาน และยกวัดให้หลวงพ่อจรัญ ทกฺขญาโณ ดูแลวัดสืบต่อไป ในปลายปี พ.ศ. 2539 นั้นเอง

...หลวงพ่อจรัญ ทกฺขญาโณ จึงอยู่ที่วัดหลวงขุนวินเรื่อยมา ซึ่งเดิมทีตั้งใจจะอยู่เงียบๆ แต่มีพระท่านขึ้นไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นหมู่คณะ และดูแลปกครองกันจนเป็นสาขาหนึ่งของวัดสังฆทาน ช่วยกันบูรณะและดูแลวัดเรื่อยมา ปัจจุบันที่วัดมีพระ 17 รูป (ปี 2551)ชาวบ้านที่อาศัยอยู่เป็นชาวเขาทั้งหมด ยากจนนับถือศาสนาพุทธและนับถือผี อาศัยอยู่ไกลจากวัด กว่า 5 กิโลเมตร พระจึงไม่ได้ออกบิณฑบาต มีแม่ครัวประจำวัด(แม่ชีบุญมี)เพื่อจัดเตรียมอาหารสำหรับหมู่สงฆ์ มีการฉันอาหารเพียงมื้อเดียวดำรงอยู่แบบพระป่ามุ่งปฏิบัติเพียรภาวนา โดยเข้าเมืองซื้อของและเสบียงสัปดาห์ละครั้ง ปกติพระจะอยู่กันเฉพาะหมู่สงฆ์ ไม่มีกิจนิมนต์ การทำวัตรสวดมนต์ต่างคนต่างปฏิบัติ เน้นการทำกรรมฐาน แต่ในวันเทศกาลสำคัญ เช่น วันสงกรานต์ วันลอยกระทง ชาวเขาจะมารวมตัวกันประมาณ 200-300 คน จากหลายสิบหมู่บ้านเพื่อทำบุญด้วยการถวายทาน รักษาศีล และสวดมนต์ แต่ขาดความสนใจและความเข้าใจในเรื่องภาวนา


:b44: :b44: :b44: :b44: :b44: :b44: :b44: :b44:


:b8: ภาพกลาง - แม่ชีบุญมี แม่ชีที่พักอาศัยภาวนาที่ดอยหลวงแห่งนี้มานานหลายปี

:b8: ภาพล่าง - แม่ชีคิ้ง อดีตเพื่อนที่เดินทางขึ้นไปภาวนาบนดอยหลวงด้วยกันเมื่อหลายปีก่อนและได้ตกลงอยู่ภาวนาต่อที่ดอยหลวง จนต่อมาตัดสินใจบวชเป็นแม่ชีจนถึงปัจจุบันนี้



:b44: :b44:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2011, 18:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2007, 17:49
โพสต์: 1720

ที่อยู่: สุโขทัยธานี

 ข้อมูลส่วนตัว




หลวงขุนวิน007.bmp
หลวงขุนวิน007.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11408 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน043.bmp
หลวงขุนวิน043.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11408 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน006.bmp
หลวงขุนวิน006.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11408 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน014.bmp
หลวงขุนวิน014.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11408 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน009.bmp
หลวงขุนวิน009.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11408 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน066.bmp
หลวงขุนวิน066.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11408 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน080.bmp
หลวงขุนวิน080.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11380 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน082.bmp
หลวงขุนวิน082.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11380 ครั้ง ]
...ปัจจุบัน มีคนเมืองหรือคนจากเชียงใหม่ที่สนใจการทำสมาธิเข้ามาวัดในวันเสาร์-อาทิตย์ กันมากขึ้น เพื่อการฝึกปฏิบัติกรรมฐานและภาวนา ท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงามร่มรื่น บรรยากาศดี และอากาศเย็นตลอดปี มักจะมีชาวต่างชาติเข้ามาแวะเยี่ยมชมโบราณสถานในวัดอยู่เสมอ

วัดอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 900 เมตร สามารถเดินทางโดยใช้เส้นทางเชียงใหม่-ฮอด เมื่อถึงสามแยกสันป่าตองให้เลี้ยงขวาไปอำเภอแม่วาง (ถึงแม่วางกิโลเมตรที่ 12) ไปตามทางจนถึงกิโลเมตรที่ 26 ถึงหมู่บ้านขุนวิน จะเห็นป้ายบอกทางไปวัดหลวงขุนวินอยู่ด้านขวามือ จากทางแยกนี้ไป ถึงวัดประมาณ 10 กิโลเมตร จะเป็นทางลูกรังตลอดในช่วง 5 กิโลเมตรแรก ทางค่อนข้างลาดชันจนถึงบ้านกะเหรี่ยงห้วยหยวก ซึ่งรถกระบะธรรมดาขึ้นได้ ส่วน 5 กิโลเมตรหลังเป็นทางที่ขึ้นได้เฉพาะขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น เนื่องจากเป็นถนนที่ใช้แรงคนในการขุดจึงต้องมีการซ่อมแซมกันตลอดเวลา
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2011, 18:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2007, 17:49
โพสต์: 1720

ที่อยู่: สุโขทัยธานี

 ข้อมูลส่วนตัว




หลวงขุนวิน063.bmp
หลวงขุนวิน063.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11408 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน062.bmp
หลวงขุนวิน062.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11387 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน064.bmp
หลวงขุนวิน064.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11387 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน068.bmp
หลวงขุนวิน068.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11387 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน071.bmp
หลวงขุนวิน071.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11387 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน057.bmp
หลวงขุนวิน057.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11387 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน061.bmp
หลวงขุนวิน061.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11387 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน052.bmp
หลวงขุนวิน052.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11387 ครั้ง ]
:b8:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2011, 09:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2007, 17:49
โพสต์: 1720

ที่อยู่: สุโขทัยธานี

 ข้อมูลส่วนตัว




หลวงขุนวิน054.bmp
หลวงขุนวิน054.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11386 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน055.bmp
หลวงขุนวิน055.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11386 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน060.bmp
หลวงขุนวิน060.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11386 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน035.bmp
หลวงขุนวิน035.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11386 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน037.jpg
หลวงขุนวิน037.jpg [ 115.19 KiB | เปิดดู 11386 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน016.bmp
หลวงขุนวิน016.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11386 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน077.bmp
หลวงขุนวิน077.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11386 ครั้ง ]
:b8:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2011, 10:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2007, 17:49
โพสต์: 1720

ที่อยู่: สุโขทัยธานี

 ข้อมูลส่วนตัว




หลวงขุนวิน015.bmp
หลวงขุนวิน015.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11383 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน017.bmp
หลวงขุนวิน017.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11383 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน034.jpg
หลวงขุนวิน034.jpg [ 201.57 KiB | เปิดดู 11383 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน072.bmp
หลวงขุนวิน072.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11383 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน073.jpg
หลวงขุนวิน073.jpg [ 220.44 KiB | เปิดดู 11383 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน074.bmp
หลวงขุนวิน074.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11383 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน079.bmp
หลวงขุนวิน079.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11383 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน075.bmp
หลวงขุนวิน075.bmp [ 2.81 MiB | เปิดดู 11383 ครั้ง ]
:b8:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2011, 10:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: สาธุ สาธุ สาธุค่ะ...คุณดุสิตธานี
ที่นำภาพงามๆพร้อมคำบรรยายประกอบภาพอย่างละเอียดมาฝากกันนะคะ

:b48: ธรรมรักษาค่ะ :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2011, 11:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2007, 17:49
โพสต์: 1720

ที่อยู่: สุโขทัยธานี

 ข้อมูลส่วนตัว




หลวงขุนวิน053.jpg
หลวงขุนวิน053.jpg [ 306.11 KiB | เปิดดู 11378 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน058.bmp
หลวงขุนวิน058.bmp [ 2.81 MiB | เปิดดู 11378 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน059.bmp
หลวงขุนวิน059.bmp [ 2.81 MiB | เปิดดู 11378 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน065.bmp
หลวงขุนวิน065.bmp [ 2.81 MiB | เปิดดู 11378 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน081.bmp
หลวงขุนวิน081.bmp [ 2.81 MiB | เปิดดู 11378 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน040.bmp
หลวงขุนวิน040.bmp [ 2.2 MiB | เปิดดู 11378 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน041.bmp
หลวงขุนวิน041.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11378 ครั้ง ]
:b8:


<<มีต่อหน้าที่สอง>>



:b41:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2011, 12:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2007, 17:49
โพสต์: 1720

ที่อยู่: สุโขทัยธานี

 ข้อมูลส่วนตัว




หลวงขุนวิน046.bmp
หลวงขุนวิน046.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11107 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน047.bmp
หลวงขุนวิน047.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11107 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน048.bmp
หลวงขุนวิน048.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11107 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน056.bmp
หลวงขุนวิน056.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11107 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน067.bmp
หลวงขุนวิน067.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11107 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน042.bmp
หลวงขุนวิน042.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11107 ครั้ง ]
หลวงขุนวิน027.bmp
หลวงขุนวิน027.bmp [ 1.24 MiB | เปิดดู 11107 ครั้ง ]
:b8: ช่วงที่ขึ้นดอยหลวงขุนวินคราวนี้เป็นงานกฐินพอดีซึ่งก็มีพระสงฆ์จากวัดสังฆทานขึ้นไปร่วมงานด้วยหลายสิบรูป ทำให้การฉันอาหารก็เป็นไปด้วยความเรียบง่าย

กลางคืนมีการฟังเทศน์จากหลวงพ่อจรัญ ก็เป็นไปด้วยความเรียบง่ายนั่งฟังกันท่ามกลางความหนาวใต้ต้นไม้

ปกติธรรมดาของวัดหลวงขุนวินจะไม่ใช้ไฟฟ้าจะใช้เฉพาะจำเป็นจริงๆ เท่านั้นแม้ว่าทางวัดจะมีแผงโซลาเซลล์ก็ตามเพราะฉะนั้นชีวิตประจำวันโดยปกติของพระสงฆ์ แม่ชี หรือโยมที่ขึ้นไปภาวนาที่นี่ ก็จะมีไฟฉาย เทียนไข เป็นเครื่องให้แสงสว่างยามค่ำคืน ยามเข้าห้องน้ำ
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 25 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 10 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร