วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 03:21  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2010, 23:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

สุขและทุกข์ ก็เกิดจากใจทั้งนั้น

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี



ใจเป็นใหญ่กว่าสิ่งทั้งหมด
สิ่งทั้งหมดในโลกมารวมลงที่ใจแห่งเดียว
ถ้าไม่มีใจแล้ว โลกทั้ง หมดก็มีไม่ได้
เราฟังที่ใจ เห็นที่ใจ รู้ที่ใจ
จึงค่อยเกิดความรู้ ความฉลาด
สิ่งทั้งปวงหมดจึงค่อยมี
เราเอากายกับใจนั่นแหละปฏิบัติ
บางคนปฏิบัตินานแสนนานตั้ง ๒๐-๓๐ ปี ก็ไม่เห็นใจสักที
เอากาย กับใจปฏิบัติ
ทำไม่ไม่เห็นกายไม่เห็นใจกันสักที
การปฏิบัติมันยากตรงนี้
การฝึกอบรมสัตว์ เช่น ม้า วัว ควาย
เราจับตัวมันได้แล้ว จึงจะฝึกอบรมมันได้
ถ้าไม่ได้ตัวมันจะอบรมฝึกฝนได้อย่างไร ลองคิดดูซิ
เที่ยวป่า เที่ยวรก เที่ยวบ้าน เที่ยวเมือง
เที่ยวไปทุกทิศทุกทาง
เอากายเอาใจนั่นแหละไปเที่ยว
แล้ว ทำไมจึงไม่เห็นกายเห็นใจ



บางคนก็ว่า อยู่ที่ไหนก็ปฏิบัติได้
ไม่ต้องไปป่า ไปรก ก็จริงอยู่ละ
อยู่ที่ไหน ก็เอากายเอาใจนั่นแหละปฏิบัติเหมือนกันทุกคนแหละ
จะปฏิบัติในบ้านก็ได้
ในป่าหรืออยู่ในวัดในวา ก็ได้หมด ถ้าเห็นใจแล้ว
ถ้าไม่เห็นใจ ก็ไปเถิด
จะเดินไปรอบโลกก็ไปเถอะ
ตายทิ้งเสียเปล่า ๆ ไม่เห็นใจ สักที
เป็นของยากเหมือนกัน
ว่าถึงเรื่องยาก ว่าถึงเรื่องง่ายก็ง่ายนิดเดียว
ไม่ต้องไปหาไกลอยู่ตรงนี้แหละ ใต้คางเราไป
คือ ท่ามกลางอกเรานี่แหละ อยู่ใกล้นิดเดียว
หาเห็นง่าย ๆ แต่ไม่หาน่ะซี
หามันก็ ไม่เห็นนะซีถ้าไม่รู้ตัวมัน
รู้ตัวมันละก็ เห็นประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นแหละหาง่ายสบายเลย
พวกที่เข้าป่า เข้ารก ไปถ้ำ ไปเขา ก็เพื่อหาประสบการณ์
เรียกว่าไปหาวิเวก ไปหาความสงบ
ป่ารกมันเป็นสัปปายะดี ที่สุด ดีกว่าในบ้านเรา
มันไม่ได้เห็นผู้เห็นคน เห็นแต่ป่าแต่เถื่อน
กายมันก็สงบ จิตมันก็วังเวง
มันเปลี่ยนสภาพจากบ้าน เกิดความวังเวงขึ้นมา
เมื่อไม่เห็นความวังเวง หรือเห็นความวังเวงแล้ว
แต่ไม่เห็นใจ มันก็เท่าเก่านั่นแหละ
ครั้นมันเกิดความวังเวงขึ้นมา จับตัววังเวงนั้นได้
นั่นแหละจึงจะเห็นใจ ใครเป็นคนวังเวง ใครเป็นคนวิเวก
ใครเป็นคนสงบ จับตัวนั้นได้
นั่นแหละจึงจะเป็นประโยชน์แก่ตัว
ถ้าหากจับตัววังเวงไม่ได้ก็จะเลยฟุ้งซ่านใหญ่
คิดถึงบ้าน ถึงผู้ถึงคน คิดสิ่งสารพัดทั้งปวงหมด
นั่นแหละจิตไม่มีหลักมีที่มั่น
ถ้ามีหลักตั้งมั่นลงไปแล้ว มันไม่ไปไหนหรอก
ไปอยู่ป่าประสบเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้ทุกข์แสนทุกข์
กลัวแสนกลัว กลัวถึงที่สุดแล้วมันเห็นธรรม
เพราะพึ่งใครไม่ได้ต้องพึ่งตนเอง
ไปอยู่กับหมู่กับเพื่อน อาศัยหมู่เพื่อนอยู่
เลยสุขสบายเกิดความประมาท เลยไม่เห็นตนของตน
ตนคืออะไร ตนก็คือใจ ไปจับใจนั่นได้แล้วมันก็อยู่คงที่
สิ่งทั้งปวงหมดเกิดจากใจทั้งนั้น สุขและทุกข์ ก็เกิดจากใจทั้งนั้น
ไปหาที่สงบวิเวกในป่าไหน ๆ ก็เพื่อหาใจตัวเดียวนี้เท่านั้น



คัดลอกบางส่วนจาก...จับหลักปฏิบัติภาวนา
โดย พระนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาจารย์ (เทสก์ เทสรังสี)
แสดง ณ วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
วันที่ ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๕

คัดจากหนังสือ ธรรมเทศนา ๒๕๒๕
คัดลอกจากจาก เว็ปไซต์ ธรรมเทศนาแนวปฏิบัติ ของหลวงปู่เทสก์
http://www.geocities.com/luangpu_thate/ ... sson04.HTM


:b48: :b8: :b48:

:b50: :b49: รวมคำสอน “หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43000

:b50: :b49: ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=35963


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 42 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร