วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 06:17  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2010, 18:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

ขันติความอดทน อดกลั้น ทนทาน เป็นตบะของนักปฏิบัติ

พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป


นโม ตสฺสะ ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

นโม ตสฺสะ ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

นโม ตสฺสะ ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

“ขนฺติ ปรมํ ตโป ติติขา ติ”

ณ บัดนี้ จะอธิบายขยายเนื้อความศาสนธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

พอเป็นเครื่องประดับสติปัญญาเพิ่มพูนบารมีพุทธบริษัท

อุบาสก อุบาสิกา สาธุชนทั้งหลาย ที่ได้มาพรักพร้อมกันอยู่ในสถานที่นี้ ในวันนี้จะแสดง

เรื่องขันติความอดทน เป็นหนทางที่ให้บรรลุมรรคผล ไปถึงจุดหมายปลายทาง

ที่บุคคลที่พึงปรารถนาตั้งเอาไว้ได้ เหตุฉะนั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

จึงอยากให้พวกเราท่านทั้งหลายเป็นผู้มีขันติความอดทน อดกลั้น ทนทาน

เป็นตบะของนักปฏิบัติอันจะได้บรรลุผลคุณงามความดีที่เราต้องการให้เกิดมีขึ้นแก่ตนเองได้


การที่พวกเราท่านทั้งหลายมีความตั้งใจขวนขวายหาซึ่งความดี เพื่อที่จะให้ได้เป็นที่พึ่งของเรานั้น

อันคนเราที่เกิดขึ้นมาร่วมโลกอยู่ด้วยกัน การที่บุคคลเราจะมีขันติสม่ำเสมอกันนั้นเป็นของยาก

หากบุคคลเป็นผู้ไม่มีศรัทธาและเป็นผู้ไม่มีความอดทนขยันหมั่นเพียร

ในการกระทำกิจการงานหน้าที่ของตนด้วยเป็นผู้มีขันติอดทนแล้ว

ผลก็จะไม่ได้ดีอะไรเกิดขึ้นแก่ตนออกมา แม้อุบาสก อุบาสิกา พุทธบริษัททั้งหลาย ก็ดี

จะทำการงานอะไรให้สำเร็จลุล่วงไปได้นั้น ก็อาศัยต้องมีขันติความอดทนกันทั้งนั้น

การที่บุคคลเรามีความอดทนนี้ เป็นสิ่งที่มีผลมีประโยชน์ยิ่งใหญ่ไพศาล

จนทำให้บุคคลนั้นบรรลุมรรคผล เข้าสู่เมืองนฤพานได้

ตั้งแต่ครั้งพุทธกาลโน้นผ่านมาแล้วก็ดี ก็มีนักปฎิบัติทั้งหลายได้พากันเป็นผู้ขยันขันแข็ง

มีความอดทน อดกลั้น ทนทานจริงๆนั้นได้บรรลุความดีมีผลมามากแล้ว

เหตุฉะนั้นเมื่อในปัจจุบันนี้ก็เหมือนกัน

หากบุคคลทำอะไรทุกสิ่งทุกอย่างทำด้วยเป็นผู้มีขันติความอดทนแล้ว

ในการกระทำงานด้านวัตถุก็ดี ด้านการรักษาศีลก็เหมือนกันนั้นก็ดี

ด้านการนั่งทำสมาธิ นั่งเจริญเมตตา ภาวนาฝึกฝนอบรมจิตใจนั้นก็เหมือนกัน

ก็อาศัยซึ่งขันติความอดทนกันทั้งนั้น ขันติความอดทนนี้เป็นของที่มีประโยชน์มากมาย

เป็นหนทางที่นักปฏิบัติทั้งหลายท่านสรรเสริญเอาไว้นักปราชญ์ทั้งหลาย

ที่ท่านจะได้เป็นนักปราชญ์ราชบัณฑิตเมธีทั้งหลายนั้น ก็อาศัยซึ่ง ท่านมีขันติความอดทน

ทำอะไรแม้การงานทางภายนอกก็เหมือนกัน บุคคลทำการงานนั้นจะสู้ทนต่อกิจการงานนั้นๆ

ไม่คิดถึงความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า อะไรนั้นอย่างหนึ่ง ก็มีความอดทนทั้งร้อนและหนาว

ท่านก็ไม่ย่อท้อ ไม่ย่อหย่อน สู้ทนต่อความหนาว สู้ทนต่อความร้อน

อันนี้เรียกว่า ขันตความอดทน ทำการงานนั้นด้วยเป็นผู้มีความอดทนอยู่

กิจการที่กระทำงานนั้นจึงจะสำเร็จลุล่วงไปได้


การงานทั้งหลายเหล่านั้นจะสำเร็จไปได้ก็อาศัยซึ่งมีความพากเพียรและพยายาม

มีขันติความอดทนกันทั้งนั้น งานนั้นจึงสำเร็จลุล่วงไปได้

รับผลรับประโยชน์ ให้ได้รับซึ่งความสุขความสบายได้งานแต่ละชิ้นละอัน

เราพากันมาพิจารณาให้เข้าใจเข่นนี้ งานภายนอกทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จไปด้วยดี

ก็เพราะบุคคลนั้นมีขันติความอดทนกระทำอยู่ งานนั้นจึงสำเร็จได้ดังประสงค์



ที่มา...คัดลอกบางส่วนจาก หนังสือ ขันติ-ความอดทน
พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป
http://www.panyapatipo.com


:b48: :b8: :b48:

:b47: รวมคำสอน “พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=38758

:b47: หลวงปู่ตื้อแนะนำเรื่องนิมิตให้แก่ “พระอาจารย์เปลี่ยน”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=57719

:b47: อดีตชาติของ “ท่านพระอาจารย์เปลี่ยน” ที่เขาวังเพชรบุรี
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=58256


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2010, 00:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

:b8: อนุโมทนา..สาธุ..จร้า..น้องลูกโป่ง :b8:

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2010, 17:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญว่า

"ยกเว้นปัญญาแล้ว เราตถาคตสรรเสริญว่า ขันติเป็นเลิศ"

เนื่องเพราะเป็นหลักเป็นประธานที่ทำให้เกิดคุณ
คือ ศีล สมาธิ กุศลธรรม
ธรรมอีกหลายประการทุกอย่างจะเจริญขึ้นมาได้
ก็เพราะอาศัยขันติเป็นพื้นฐาน


ผู้มีขันติธรรมอยู่ในใจ
จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ย่างขึ้นสู่หนทางสวรรค์และนิพพานโดยแท้

:b8: :b8: :b8:

:b8: ขออนุโมทนาสาธุการด้วยค่ะ คุณลูกโป่ง :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2015, 22:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ย. 2019, 13:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ค. 2021, 19:59 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 24 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร