วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 08:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง





กลับไปยังกระทู้  [ 42 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 10:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

ปัญหา 108 (2)
โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก


วัดป่าสุนันทวนาราม
บ้านท่าเตียน ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี



คำนำ

เมื่อปี พ.ศ. 2541 ได้มีการจัดพิมพ์หนังสือ “ปัญหา 108 (1)” ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเป็นประมวลคำถามคำตอบของผู้เข้าอบรมอานาปานสติ ณ วัดป่าสุนันทวนาราม และที่อื่นๆ ซึ่งได้กราบมนัสการพระอาจารย์มิตซูโอะ ในช่วงปี 2539-2541

เนื่องจากมีคำถามคำตอบที่น่าสนใจในห้วงปี 2542-2543 ตลอดจนคำถามที่ตกค้างของห้วงแรกที่ยังไม่ได้นำมาจัดพิมพ์ จึงได้มีการรวบรวมเพิ่มเติมเป็น “ปัญหา 108 (2)” ที่ปรากฏอยู่นี้

หวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านตามสมควร และขออนุโมทนากับทุกท่านที่มีส่วนในการพิมพ์หนังสือเล่มนี้ ขอให้ทุกท่านจงเจริญงอกงามในธรรมปฏิบัติต่อไป


มูลนิธิมายา โคตมี

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 10:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


สารบัญ

ถาม 1 ถ้าจะขออโหสิกรรมจากใครสักคนหนึ่ง เราต้องพูดขออโหสิกรรมกับเขา หรือคิดในใจเราเอง หรือกระทำต่อหน้าพระพุทธรูป

ถาม 2 ชาติหน้ากับอดีตมีหรือไม่

ถาม 3 ตายแล้วจำเป็นหรือไม่ว่าต้องไปสวรรค์กับนรก ไม่ไปไม่ได้หรือ

ถาม 4 จะทราบได้อย่างไรว่าเจ้ากรรมนายเวรเขาอโหสิกรรมให้เราแล้ว

ถาม 5 อยากทราบว่า ในอดีตเราเคยทำให้ผู้อื่นเสียใจหรือทำให้เขาเสียชีวิต ปัจจุบันเราได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ เราจะหมดบาปหรือไม่

ถาม 6 ในกรณีที่พ่อแม่ประพฤติตัวไม่ดี ผิดศีลธรรม แต่มีลูกที่ประพฤติดี เช่น ลูกได้บวชแทนพ่อแม่ ลูกจะช่วยส่งบุญกุศลให้พ่อแม่ได้อย่างไร

ถาม 7 บุคคลบางคนที่คิดไม่ดีกับเราอยู่เสมอ ลับหลังมักจะพูดใส่ร้ายอคติ แต่ดิฉันไม่ถือโทษ ไม่โกรธ ดิฉันคิดว่าเขาคงมีปมด้อยบางอย่างที่ทำให้เขาเป็นคนเช่นนั้น ดิฉันจะแผ่เมตตาให้บุคคลเหล่านี้เสมอและเป็นเวลานานกว่า 10 ปี เขาจะดีขึ้นไหมคะ

ถาม 8 คนที่ไม่เคยปฏิบัติธรรม แต่มีจิตใจดี กับคนที่ปฏิบัติธรรมแต่จิตใจไม่บริสุทธิ์ ใครจะได้รับกรรมดีมากกว่า

ถาม 9 ที่ท่านอาจารย์บอกว่า ก่อนตายถ้าจิตใจจดจ่ออยู่กับเรื่องที่ดี ก็จะไปสู่สุคติ ถามว่าคนที่ไม่เคยทำดีเลยในชาตินี้ ทำความชั่วไว้มาก แต่ตอนตายเขาคิดดีแล้วชาติหน้าเขาจะเป็นอย่างไร

ถาม 10 การที่มนุษย์ฆ่าสัตว์เพื่อเลี้ยงชีวิตตัวเองและครอบครัว เป็นบาปหรือไม่

ถาม 11 การกระทำจัดว่าเป็นบาปหรือไม่ขึ้นกับเจตนาใช่หรือไม่คะ ถ้ามีเจตนาเพื่อการศึกษา คือ ต้องจับแมลงมาสตาฟ ถือว่าเป็นบาปไหมคะ

ถาม 12 ถ้าเราพาสุนัขไปทำบุญ สวดมนต์ให้ฟัง จะสามารถเปลี่ยนภพ เปลี่ยนชาติได้เร็วขึ้นไหมคะ และเมื่อสุนัขสิ้นชีวิตไป ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้จะได้รับหรือเปล่าคะ

ถาม 13 ดิฉันเชื่อว่ากรรมมีจริง ถ้าเป็นกรรมเก่า จะทำอย่างไรให้หมดไปในชาตินี้

ถาม 14 หากคนอื่นจะทำร้ายเรา แล้วเราทำร้ายเขาก่อน เป็นการป้องกันตัว บาปหรือไม่

ถาม 15 ต้นไม้ที่ชื่อว่า ลั่นทม ปลูกไว้ในบ้านจะทำให้มีชีวิตที่ไม่สดชื่นหรือไม่

ถาม 16 คำว่าเนื้อนาบุญหมายความว่าอย่างไร

ถาม 17 ลูกมีสิทธิด่าว่า ติเตียนบิดามารดาหรือไม่ในกรณีที่พ่อแม่ไม่รักษาคำพูดที่เคยพูดไว้กับลูก

ถาม 18 ทำไมบางคนทำผิดมาก คนอื่นเตือนให้ประพฤติตัวให้ดีขึ้น ทำไมเขาจึงโกรธเพื่อนคะ

ถาม 19 พระอาจารย์คิดว่าหลักธรรมใดของพระพุทธเจ้าที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้มากที่สุด

ถาม 20 ลองปฏิบัติด้วยการนอนสมาธิ แต่มักจะเผลอหลับไป อยากให้อาจารย์บอกวิธีฝึกในการนอนสมาธิด้วย

ถาม 21 คนที่เรารักมากๆ แต่ก่อนเคยเป็นของเรา ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว ไม่เป็นของเราแล้ว อาจเป็นของคนอื่น ทำให้เราทุกข์ใจ ตัดใจไม่ได้ เรายังอยากได้เป็นของเราอยู่ ควรใช้ธรรมข้อใดพิจารณาดีคะ

ถาม 22 คนทำบุญร่วมกันเพื่อว่าในชาติหน้าจะได้เกิดมาอยู่ร่วมกันอีก หากคู่สามีภรรยาที่ไม่ค่อยรักกัน ทำบุญร่วมกัน กรณีเช่นนี้จะเป็นอย่างไรในชาติหน้า

ถาม 23 พระอาจารย์สอนว่าพูดน้อย เรื่องน้อย แต่ในที่ทำงานมีผู้หญิงมากๆ ส่วนใหญ่ก็จะพูดกันทั้งวัน คนพูดน้อยก็จะถูกมองว่าแยกตัว ไม่เข้าสังคม ขอให้พระอาจารย์แนะนำว่าต้องคิดอย่างไรจึงไม่ยินดียินร้าย

ถาม 24 จะทำอย่างไรเมื่อเราชอบคิดถึงอดีตอยู่บ่อยๆ และเมื่อคิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นจะทำให้เกิดความรู้สึกผิดเกิดความเศร้าเสียใจ จะต้องแก้ไขอย่างไร

ถาม 25 เมื่อกระทบสิ่งที่ไม่อยากฟัง เพราะเป็นปมด้อย เช่น เรื่องตกงาน จะมีวิธีคิดอย่างไร จึงไม่เกิดยินร้าย

ถาม 26 การโกหกที่ก่อให้ผู้รับฟังมีความสุขใจ เป็นบาปเพียงใด ส่งผลอย่างไร

ถาม 27 การเป็นโรคภัยไข้เจ็บมีโรคประจำตัวถือว่าเป็นกรรมแต่ปางก่อนหรือไม่ และชาตินี้จะมีวิธีพิชิตโรคได้อย่างไร

ถาม 28 การกินปลา กินเนื้อสัตว์ เป็นบาปหรือไม่

ถาม 29 ทำไมบางคนเกิดมาอายุ 70-100 ปีถึงตาย แต่บางคนอายุเพียง 1 ปี ก็ตายแล้ว

ถาม 30 ตามความเชื่อกฎแห่งกรรมที่ว่า ทำกรรมดีไปสู่ที่ดีและตายแล้วเกิดใหม่ แต่ปัจจุบันนี้หาคนทำดียาก จึงน่าเชื่อว่าตายไปแล้วจะไปเกิดในนรก ซึ่งนานมากจะได้เกิดเป็นมนุษย์อีก แต่ปัจจุบันประชากรโลกกลับมากขึ้น ถามว่าคนที่เพิ่มขึ้นมาจากไหน

ถาม 31 คนที่ปฏิบัติได้เร็วและถูกทาง จักต้องสร้างสมมาแต่ชาติก่อนจริงหรือไม่

ถาม 32 การที่เราคิดตำหนิหรือคิดร้ายต่อครูบาอาจารย์ โดยไม่เจตนาจะเป็นบาปไหม

ถาม 33 เราควรแนะนำอย่างไร เมื่อเพื่อนชาวต่างประเทศสนใจปฏิบัติธรรม แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร

ถาม 34 ความโกรธเปรียบเหมือนไฟไหม้ป่า การละความโกรธได้เปรียบเหมือนอะไร

ถาม 35 เมื่อรู้ว่าใกล้เสียชีวิต ควรกำหนดลมหายใจทางจมูกหรือทางท้อง หรือทางเท้าเพื่อจะให้จิตไปในทางที่ดี

ถาม 36 คนที่กำลังคิดฆ่าตัวตายแต่ยังไม่ทำ เพียงแต่คิดจะเป็นบาปไหม

ถาม 37 การฝึกปฏิบัติจิตให้เป็นกุศล ไม่ยินดียินร้ายและตั้งอยู่บนความเมตตากรุณานั้น จะเป็นอุปสรรคในการปกครองคนไหม เพราะถ้าลูกน้องใต้บังคับบัญชารู้ว่าเรามีใจเมตตากรุณา เมื่อเขาทำงานไม่ดี ไม่เรียบร้อย เจ้านายก็ไม่โกรธและพร้อมที่จะให้อภัยเสมอ เขาก็จะเกียจคร้าน ซึ่งบางคนต้องแสดงความโกรธจึงจะได้ผล ให้อาจารย์ช่วยแนะนำการปกครองคนเช่นนี้ด้วย

ถาม 38 ควรใช้ธรรมข้อใดในการแก้ไขหรือต่อสู้กับปรัชญาของตะวันตกในเรื่องการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ทั้งนี้เพื่อทำให้สังคมไทยอยู่รอด

ถาม 39 ครั้งหนึ่งเคยเดินทางผิด แต่พอเรารู้ เราก็ปฏิบัติดีมาตลอด แต่ทำไมยังถูกมองว่าไม่ดีอยู่

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 10:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ถาม 1

ถ้าจะขออโหสิกรรมจากใครสักคนหนึ่ง เราต้องพูดขออโหสิกรรมกับเขาหรือคิดในใจเราเองหรือกระทำต่อหน้าพระพุทธรูป


ตอบ

การขออโหสิกรรมนั้น ต้องพิจารณาให้เห็นด้วยปัญญาว่า เราผิด หรือเห็นโทษของความผิด แล้วตั้งใจไม่ให้เกิดขึ้นต่อไป วิธีที่ดีที่สุด คือ ขออโหสิกรรมจากเขาด้วยความจริงใจและแสดงต่อหน้าเขา จะทำให้ผู้รับอโหสิกรรมเห็นและให้อภัยได้เป็นบางเรื่องและบางระดับ

ถ้ามีเหตุบางอย่าง พบเขาไม่ได้ จะทำต่อหน้าพระพุทธรูป ก็ได้ สมมุติพระพุทธเจ้าเป็นพยาน และขอพร ขอกำลังใจในการต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ และพัฒนาตนเป็นคนดีต่อไป

ในวงการพระสงฆ์ การปกปิดความผิดของตัวเองเป็นสิ่งที่อันตราย เป็นสิ่งที่ไม่ดี โดยปกติ 14 ค่ำ 15 ค่ำ พระสงฆ์จะสำรวจศีลของตัวเอง 227 ข้อ ที่ผ่านไป 14 วัน 15 วัน เพื่อแสดงอาบัติเหล่านั้นต่อหน้าเพื่อนภิกษุ เพื่อการสำรวมระวังต่อไป

ในชีวิตฆราวาส ก็ไม่ควรปกปิดความผิดของตัวเอง การเปิดเผยแสดงความผิดของตัวเองเป็นสิ่งที่ชอบที่ดี ทำให้เกิดความสบายใจความสุขใจ เช่น การฆ่าสัตว์การเบียดเบียนสัตว์ต่างๆ ที่เคยกระทำมา ก็ให้สำรวจแล้วก็นึกอโหสิกรรม ที่สำคัญคือ ให้เห็นผิด เห็นโทษ แล้วตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ทำบาปต่อไป

เมื่อเราอยู่ในสังคม เช่น ครอบครัว เราทำของเสียหาย เช่น ทำแจกันที่แพงๆ ที่ผู้ใหญ่รัก หวงอยู่แตก เมื่อไม่มีใครเห็น บางคนก็จะปกปิดไว้ ผู้ใหญ่ก็จะถามหาว่าใครทำแตก ต่างคนต่างสงสัยว่าน่าจะเป็นคนนี้ คนนั้น วุ่นๆ อยู่อย่างนั้น ถ้าเราปกปิดความผิดของตัวเองแล้ว เราก็จะไม่สบายใจไปนาน และมีอุปาทาน ลึกๆ อยู่ในหัวใจ เป็นกรรมที่ไม่ดี ถึงแม้ว่านานไปเราจะลืมก็ตาม มันเป็นกรรมหนัก

ถ้าเรามีจิตใจกล้าหาญที่จะยอมรับความจริง แสดง บอกความจริง ขอโทษ ขออโหสิกรรม ผู้ใหญ่แม้จะโกรธ ก็จะโกรธชั่วคราว แล้วก็จะให้อภัย อาจจะให้รางวัลความซื่อสัตย์ก็ได้ ความผิด กรรมชั่ว ก็จะเบาลง และอาจจะให้อภัยกันและกัน และอโหสิกรรมกันโดยสมบูรณ์ก็เป็นได้

ขอโทษ – ขอบคุณ เป็นเอกลักษณ์ของคนดี


ให้มีสำนึก ให้มีความรู้สึก ขอโทษ ขอบคุณ ซึ่งเป็นความสวัสดี เป็นมงคลแก่ชีวิต ตามธรรมเนียมประเพณีเราไหว้กันเป็นประจำ แต่คนส่วนใหญ่ สักแต่ว่าไหว้กันไปอย่างนั้น แต่ถ้าจะให้มีความหมายลึกซึ้ง เราควรจะนึก ยกมือข้างหนึ่งขอโทษ อีกข้างหนึ่งขอบคุณ ก้มศรีษะ อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ถือทิฏฐิมานะ ดื้อกระด้างด้วย แล้วการไหว้ก็จะมีความหมายมาก มีประโยชน์มาก

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 10:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ถาม 2

ชาติหน้ากับอดีตชาติมีหรือไม่


ตอบ

สิ่งเหล่านี้คิดไปฟังไปด้วยตัวเอง จะไม่เข้าใจอย่างแท้จริง จำเป็นจะต้องเจริญกรรมฐาน อย่างน้อยเมื่อเกิดจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิแล้ว แยกกายกับใจ เห็นกายเห็นใจชัดเจน ก็จะเห็นว่าร่างกายนี้ กว้างศอก ยาววา หนาคืบ ที่กำลังเดิน กำลังนั่ง ก็ประกอบด้วยดินน้ำลมไฟ เกิดจากการนำเอาดิน เอาน้ำ เอาลม เอาไฟ เข้าไปสู่ร่างกายในรูปแบบต่างๆ เช่น การกินอาหาร การดื่มน้ำและการหายใจ เป็นต้น เห็นเป็นวัตถุเหมือนบ้านที่เรากำลังอาศัยอยู่ ความแก่ เจ็บ ตายอยู่ที่กาย เป็นรูปธรรม ส่วนจิตใจเป็นนามธรรม

ใจมีหน้าที่รู้ จำ รู้สึก นึก คิด เป็นของละเอียดอ่อน ดูเหมือนเล็กที่สุดในโลกก็ได้ ใหญ่ที่สุดในโลกก็ได้ เมื่อทำสมาธิ ใจค่อยๆ รวมเป็นสมาธิ ตัดอายตนะทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจอยู่เป็นเอกเทศ ใจรวมเป็นใจอยู่โดดเดี่ยวก็ได้ ออกจากร่างกายก็ได้ กลับมาอยู่กับกายก็ได้

ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติของใจแล้ว จะมีความรู้สึกว่า กายไม่มี กายตายใจก็จะอยู่ต่อไป ความตายอยู่ที่กาย ใจไม่ตาย ใจนี่แหละที่ท่องเที่ยวไปในวัฏฏสงสาร ใจจะอาศัยกายนี้ชั่วคราว

ตามหลักพุทธศาสนาถือว่า จิตวิญญาณของเราเวียนว่ายตายเกิดมาแล้วหลายภพหลายชาติกว่าจะมาเป็นเราอยู่ในทุกวันนี้ เราควรจะศึกษาจากพุทธประวัติ จากการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าเป็นการเริ่มต้น ในคืนวันเพ็ญเดือนวิสาขะ เจ้าชายสิทธัตถะนั่งสมาธิและอธิษฐานว่า ถ้าหากยังไม่ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้ร่างกายและเลือดเนื้อจะเหือดแห้ง ชีวิตจะแตกดับ ก็จะไม่ยอมลุกขึ้น

ช่วงเวลา 6 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่ม ท่านก็เริ่มต้นระลึกถึงอดีต เริ่มต้นทบทวนว่า วันนี้เราปฏิบัติอย่างไรบ้าง กลางวันเป็นอย่างไร เช้าเป็นอย่างไร 1 วัน 2 วัน 1 อาทิตย์ 1 เดือน 10 ปี 20 ปี เป็นอย่างไร ย้อนกลับเข้าไปถึงในท้องแม่ - ชาติก่อน - 100 ปี 200 ปี 1000 ปี 2000 ปี ไปเรื่อยๆ ก็เป็นการระลึกชาติของพระองค์ พระองค์ก็รู้ว่าชีวิตก็ท่องเที่ยวไปในวัฏฏสงสาร หลายภพ หลายชาติ เรียกว่า ระลึกชาติ

4 ทุ่ม ถึง ตี 2 ท่านก็ทบทวน ทุกชาติ ชีวิตก็ต่างๆ กัน บางชาติก็สุขมาก บางชาติก็สุขน้อย บางชาติก็ทุกข์มาก บางชาติก็ทุกข์น้อย หาเหตุ ก็เข้าใจกฎแห่งกรรม ชีวิตของเราก็เป็นไปตามกรรม

ตี 2 ถึง 6 โมงเช้า ก็พิจารณาถึงว่า ทำไมเราเกิด ทำไมเราเป็นทุกข์ ทรงเห็นกฎธรรมชาติ ปฏิจจสมุปบาท อิทัปปัจจยตา รู้แจ้งเห็นจริงในอริยสัจ ในที่สุดก็สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า

ถ้าพูดถึงความจริง ชาติหน้ามีจริงก็ผิด ชาติหน้าไม่มีจริงก็ผิด ตามความเป็นจริงแล้ว ก็แล้วแต่เหตุ ถ้ายังมีกิเลสตัณหา ชาติหน้าก็มีจริง แต่ถ้าละเหตุ เป็นพระอรหันต์ ชาติหน้าก็ไม่มีจริง

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 10:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ถาม 3

ตายแล้วจำเป็นหรือไม่ว่าต้องไปสวรรค์กับนรก ไม่ไปไม่ได้หรือ


ตอบ

ตามหลักพุทธศาสนานั้น ก็มีมนุษย์ 1 สัตว์เดรัจฉาน 1 นรก เปรต อสูรกาย และมีสวรรค์ 6 ชั้น รูปพรหม 16 ชั้น อรูปพรหม 4 ชั้น รวมแล้วก็ 31 ภพ จะไปที่ไหนก็เป็นไปตามกรรม

ถ้าอยากเกิดเป็นมนุษย์ก็พยายามปฏิบัติความเป็นมนุษยธรรม พยายามรักษาความเป็นมนุษย์ มนุษย์คือ ผู้มีใจสูง รู้จักบาปบุญ ผิดถูก ไม่ตามกิเลส รู้จักรักษาขอบเขต เช่น รักษาศีล 5 เป็นต้น

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 10:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ถาม 4

จะทราบได้อย่างไรว่าเจ้ากรรมนายเวรเขาอโหสิกรรมให้เราแล้ว


ตอบ

คงจะไม่ทราบถ้าเราไม่ใช่พระพุทธเจ้า หน้าที่ของเราคือตั้งมั่นอยู่ในปัจจุบันเดี๋ยวนี้ ไม่ยินดียินร้าย ถึงแม้ว่ากระทบอารมณ์ไม่พอใจ ก็ให้รีบอโหสิกรรม ให้อภัยเสีย ให้มีจิตตั้งมั่นไม่หวั่นไหวต่อทุกสถานการณ์ให้ปฏิบัติต่อเนื่องกันไป

เมื่อเราเข้าใจกฎแห่งกรรมและเข้าใจธรรมแล้ว จิตของเราก็มีอุเบกขา คือ พร้อมที่จะรับทุกสิ่งทุกอย่าง หรือมีเมตตาที่บริสุทธิ์ แม้จะมีคนมาเอาชีวิตก็ไม่อาฆาตพยาบาทเขา เมื่อเรามีกำลังใจดี ใจหนักแน่น เจ้ากรรมนายเวรจะอย่างไรก็ไม่สำคัญ เขาไม่สำคัญ เรานั้นแหละสำคัญ อย่างน้อยเราไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรกับใคร เราอโหสิกรรมแล้ว ไม่โกรธ ไม่มีเวร ไม่เบียดเบียนกับใครแล้ว มีเมตตาธรรมแล้ว

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 10:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ถาม 5

อยากทราบว่า ในอดีตเราเคยทำให้ผู้อื่นเสียใจหรือทำให้เขาเสียชีวิต ปัจจุบันเราได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เราจะหมดบาปหรือไม่


ตอบ

ไม่หมด สิ่งที่เคยทำบาป มันก็เป็นบาป สิ่งที่ทำบุญในปัจจุบันเดี๋ยวนี้ ก็เป็นบุญ แต่การทำบุญอุทิศให้ ทำให้เกิดอโหสิกรรมก็มีอยู่ เป็นการชำระบาป เป็นส่วนหนึ่งระดับหนึ่ง

การทำบุญอุทิศให้ ทำให้วิบากกรรมตามไม่ทัน ทำให้หมดอายุความเป็นส่วนหนึ่ง การทำบุญหรือการปฏิบัติธรรมนั้น ถึงแม้ว่าวิบากกรรมในอดีตจะปรากฏขึ้นก็ตาม แต่เราก็สามารถทำให้เป็นประโยชน์ได้ เคยเห็นไหม บางวัดให้สุขาภิบาลเอาอุจจาระมาบำรุงดิน บำรุงต้นไม้ บางวัดให้เอาขยะมาเทในวัด ถมดิน บำรุงดิน บำรุงต้นไม้ไปในตัว บางทีถ้าไม่เกิดปัญหา เป็นทุกข์ ก็คงจะหลงเมาอยู่ในโลกียสุข อยู่ไปวันๆ ตามที่เคยเป็นมา

สำหรับชีวิตของเรา วิบากกรรมทำให้เสื่อมลาภ เสื่อมยศ ถูกนินทา หรือสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงก็ตาม ถ้าเรามีปัญญา รู้จักคิดถูกแล้วทำให้สิ่งเหล่านั้นเป็นประโยชน์ได้ เช่น เมื่อเกิดทุกข์ รู้จักเหตุและดับทุกข์ได้ ธรรมจึงเป็นสิ่งอัศจรรย์ ผู้ปฏิบัติธรรมเป็นผู้ได้เปรียบฝ่ายเดียว ดีๆๆๆๆ ทั้งนั้น เพราะเหตุนี้ ควรทำบุญปฏิบัติธรรมต่อไปและตลอดไป

การเจริญวิปัสสนานั้น เป็นการชำระหนี้สิน ชำระบาปกรรมที่ทำมาแล้วในอดีตที่ประมาณมิได้ ทำให้บาปกรรมนั้นเป็นโมฆะไป เช่น องคุลีมาล ฆ่าคนตั้ง 999 คน แต่เมื่อเจริญวิปัสสนาบรรลุอรหันต์แล้วก็ไม่ต้องตกนรก เหมือนไม่ได้ทำบาปเลย รับกรรมแต่ทางกายนิดเดียว คือเมื่อไปบิณฑบาต ชาวบ้านรังเกียจ โกรธ พากันขว้างปาด้วยหินจนเลือดไหล จีวรเปื้อนด้วยเลือด แต่ไม่นานนัก ประชาชนก็ให้ความเคารพบูชา

เมื่อเราสามารถทำให้เกิดอริยมรรคมีองค์ 8 ที่ใจได้เมื่อใด ก็หมดบาปไป

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 10:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ถาม 6

ในกรณีที่พ่อแม่ประพฤติตัวไม่ดี ผิดศีลธรรม แต่มีลูกที่ประพฤติดี เช่น ลูกได้บวชแทนพ่อแม่ ลูกจะช่วยส่งบุญกุศลให้พ่อแม่ได้อย่างไร


ตอบ

การบวชถือศีลนั้นไม่มีโทษทางกาย วาจา ในส่วนของการกระทำ คือเรียกว่า ไม่ทำบาป ธรรมดาแล้วพ่อแม่ก็จะเกิดความภูมิใจเป็นธรรมชาติของพ่อแม่ที่คิดถึงลูกเป็นธรรมดา โดยเฉพาะตอนจะตายพ่อแม่มักจะคิดถึงลูก ยิ่งถ้าตอนนั้นลูกยังเป็นพระ เป็นสามเณรอยู่จะสบายใจ ถ้าตายก็จะตายด้วยความสบายใจเป็นสุคติ จะไปในทางที่ดี ภพที่ดี เขาเรียกกันว่าขึ้นสวรรค์ หมายถึง จะไปทางที่ดีนั่นแหละ

ท่านเจ้าคุณพระธรรมคุณาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เทศน์สอนผู้เข้าบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อเดือน มีนาคม 2539 ไว้ว่า

“พวกเธอจะบวชทำอะไร..... เอาบุญ..... บุญนั้นคือ ต้องฝึกหัดอบรมการปฏิบัติให้ดีกว่าเดิม ทั้งกายและใจ ไม่เคยนั่งนานๆ ก็ต้องนั่ง ไม่เคยกินข้าวจำกัด ก็ต้องกิน เคยดื้อ เคยเล่นสนุกทั้งวัน ก็ไม่ได้เล่น เป็นเหตุแห่งความเลื่อมใสศรัทธาแก่ผู้พบเห็น เป็นความสุขความปลาบปลื้มยินดีทั้งต่อตนเองและพ่อแม่.....

.....พ่อแม่ของเราก็ดี ผู้ที่มีส่วนร่วมในการบวชของเราก็ดี ล้วนมีส่วนได้รับอานิสงส์จากการบวชของเราทั้งสิ้น มีเรื่องเล่าว่า

มีครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่ใกล้วัด แต่ไม่เคยเข้าวัดเลย ส่วนลูกชาย พ่อแม่ไม่อยู่ก็เข้าไปเล่นกับพระกับสามเณรในวัด นานเข้าก็คิดอยากจะบวช ไปขออนุญาตพ่อ พ่อก็ปฏิเสธ อยู่มาจนอายุ 15–16 ปี พ่อก็ตาย เหลือแต่แม่ ก็เลยไปขอแม่บวชอีก แม่ก็ปฏิเสธ ทั้งประกาศตัดแม่ ตัดลูกกันถ้าไปบวช

ลูกชายอยากบวชมาก จึงตกลงใจหนีไปบวช พอบวชได้ 2 อาทิตย์ แม่ก็เป็นลมหมดสติไป เกิดนิมิตว่ามีพวกนิรบาลมานำตัวไปสอบสวน เห็นว่าในชีวิตไม่เคยทำความดีเลย จึงมีคำสั่งให้เอาไปโยนลงกะทะทองแดง

ครั้นโยนจวนถึงน้ำร้อนที่กำลังเดือด ก็มีดอกบัวผุดขึ้นมารับไว้ พวกนิรบาลก็ให้เอาขึ้นมาสอบสวนใหม่ ก็ไม่ปรากฏความดีใดๆ ถูกบันทึกไว้เลย ก็ให้โยนลงกะทะอีก การณ์ก็ปรากฏดังเดิม ครั้นให้โยนลงใหม่ครั้งที่สาม นางจึงระลึกได้ว่า มีลูกชายหนีไปบวชเณรโดยที่นางมิได้ยินยอมพร้อมใจด้วย

พวกนิรบาลก็เห็นว่า แม้นางไม่ยินยอมพร้อมใจ แต่สามเณรก็เป็นสายเลือดของนาง นางจึงถูกให้ปล่อยกลับคืนโลกมนุษย์ แม้ผู้พ่อผู้เป็นเปรตต้องทนทุกขเวทนาอยู่ ก็พลอยได้รับอานิสงส์ให้พ้นจากทุกขเวทนานั้นด้วย

ผู้แม่ครั้นกลับได้สติ ก็คิดได้ หันกลับมาทำนุบำรุงสามเณรลูกชาย จนได้บวชเป็นภิกษุในเวลาต่อมา.....

พ่อ - แม่ - พี่ - น้อง และผู้มีส่วนให้เราบวชล้วนได้บุญ ทั้งบุญปัจจุบันและบุญอนาคต พวกเธอทุกคนจึงควรมีน้ำอดน้ำทน ผลบุญจะเกิดเพราะความอดทน อดทน..... อดทนแบบนี้ละก็ ผลบุญจึงเกิด

อย่างไรก็ตาม เราเป็นลูกผู้ชายก็ดี ลูกผู้หญิงก็ดี ลูกที่ดีต้องมีชีวิตที่มั่นคงทางเศรษฐกิจก็ดี หรือในชีวิตครอบครัวก็ดี ชีวิตครอบครัวของตัวเองที่สามัคคีกัน มีความพอใจในชีวิตของตัวเองทุกอย่าง ทุกด้านเป็นสำคัญ เมื่อพ่อแม่นึกถึงเราก็ไม่มีอะไรจะห่วง มีแต่ความพอใจ เราทำได้อย่างนี้ก็เป็นลูกที่ดี ลูกที่ดีต้องมีความสุข

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 12:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ถาม 7

บุคคลบางคนที่คิดไม่ดีกับเราอยู่เสมอ ลับหลังมักจะพูดใส่ร้ายอคติ แต่ดิฉันไม่ถือโทษ ไม่โกรธ ดิฉันคิดว่าเขาคงมีปมด้อยบางอย่างที่ทำให้เขาเป็นคนเช่นนั้น ดิฉันจะแผ่เมตตาให้บุคคลเหล่านี้เสมอและเป็นเวลานานกว่า 10 ปี เขาจะดีขึ้นไหมคะ


ตอบ

เขาจะรับมากน้อยเพียงใดเราไม่ต้องกังวล แต่เราก็มองดูจิตใจของตัวเองที่จะไม่ถือโกรธ อโหสิกรรมให้เขา ไม่เบียดเบียน หมายความว่า อย่าดูหมิ่นเขา

เมื่อเราไม่พอใจการกระทำของคนอื่น
พยายามคิดถูก บางคนคิดผิดแล้วคิดว่าคิดถูกก็มี

เช่น มีใครทำอะไรไม่ถูกใจเรา คิดๆ ๆ ดูหมิ่นเขาว่า
เขายากจนจึงเป็นอย่างนี้ แล้วให้อภัยเขา
เขาเป็นคนโง่ เขามีปมด้อย จึงเป็นอย่างนี้
ไม่เป็นไรให้อภัยเขา ฯลฯ
ดูหมิ่นเขาแล้วรู้สึกปลอบใจตัวเองได้ดี
ระงับความโกรธได้ดี
แต่จริงๆ แล้วคิดผิด


ลองคิดดูว่า ความคิดของเรา ถ้าเขากำลังฟังอยู่ เขาจะรู้สึกอย่างไร ถ้าเขาสบายใจ พอใจ มีความสุข ถ้าเป็นอย่างนั้น แสดงว่าใจเราเมตตาจริง แต่ถ้าความคิดของเรา เขารู้แล้วไม่สบายใจ เมตตาของเราก็คือ เมตตาปลอม

อย่างไรก็ตาม แผ่เมตตาให้บุคคลเหล่านี้เสมอ เป็นเวลานานกว่า 10 ปี เขาคงจะดีขึ้นบ้างแน่นอน แต่คงยังไม่พอ น่าจะเพิ่มขึ้นอีกต่อไปยิ่งๆ ขึ้นไป อย่างน้อยเรานี้เองจะได้รับเต็มที่ จะเป็นคนที่มีความสุขใจ เมื่อเรามีใจที่เป็นสุข อะไรๆ ก็ดีขึ้นไปเรื่อยๆ

เมื่อใจเราดีจริง มีเมตตาจริง ถึงแม้ว่าเขาไม่ดีอย่างไร ก็ไม่เป็นอะไร เรารู้สึกว่า เมตตาสงสารเขา ยิ่งเขาไม่ดี ยิ่งสงสารเขา คือ เมตตา ใจเราเป็นสุข

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 12:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ถาม 8

คนที่ไม่เคยปฏิบัติธรรม แต่มีจิตใจดี กับคนที่ปฏิบัติธรรมแต่จิตใจไม่บริสุทธิ์ ใครจะได้รับกรรมดีมากกว่า


ตอบ

การปฏิบัตินั้นไม่ใช่เข้าวัด ใส่บาตร ฟังเทศน์ ทำวัตรสวดมนต์เท่านั้น ปฏิบัติที่แท้จริงนั้นคือ การพูด การคิด การกระทำ ให้อยู่ในทำนองคลองธรรม สำหรับบางคนไม่เคยเห็นพระ แต่การพูด การคิด การกระทำ แล้วมีโทษน้อยๆ ก็เป็นการปฏิบัติธรรมอยู่ จิตใจบริสุทธิ์นั่นแหละกรรมดี

ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นหัวหน้า
เมื่อใจดี ใจบริสุทธิ์
พูดก็ดี ทำก็ดี ดีไปหมด มีความสุข


ในความเป็นชาวพุทธ ต้องมีสัมมาทิฐิ ความเห็นชอบ เชื่อหลักวัฏฏสงสารมีจริง เชื่อหลักกฎแห่งกรรม เชื่อหลักอริยสัจ 4

บางคนที่เข้าวัดปฏิบัติธรรมอยู่เป็นประจำ แต่ยังใจร้อน เข้าใจหลักธรรมดีพอสมควร และพยายามปฏิบัติธรรมอยู่ แต่สติปัญญาที่จะคุ้มครองอารมณ์ก็ยังไม่เพียงพอ เลยกระทบคนอื่น รู้สึกตัวอยู่ว่าผิด พยายามแก้ไขอยู่ ถ้าไม่ได้ปฏิบัติคงจะแย่กว่านี้มาก บุคคลประเภทนี้ควรแก่การยกย่อง กำลังพัฒนาตน ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ แต่คนอื่นอาจจะมองไม่เห็น เพราะกระทบอารมณ์และกำลังถูกดูหมิ่น ดูถูก นินทา อยู่

บางคนตั้งแต่กำเนิดมีนิสัยเรียบร้อย ใจเย็น ใจดี อยู่ในสังคมสิ่งแวดล้อมดี ไม่ค่อยกระทบกับใคร ไม่ได้ศึกษาธรรม ก็เหมือนรักษาศีลอยู่ แม้แต่สัตว์เดรัจฉานบางตัวก็เหมือนกัน เช่น หมา นิสัยดี ว่าง่าย สอนง่าย เรียบร้อย น่ารัก

มีนิทานอยู่เรื่องหนึ่ง สมัยก่อน มีคุณนายผู้ดีคนหนึ่ง นิสัยดี ใจดี ใจมีเมตตา ใครมีทุกข์ลำบาก ก็ช่วยเหลือทุกคน ชาวบ้านต่างก็ชม สรรเสริญว่า คุณนายใจดี วันหนึ่งสามีเสียชีวิตไป เด็กรับใช้นึกสงสัยขึ้นมาว่า นายของเราเป็นคนดีจริงหรือเปล่า เลยลองดู ไม่เชื่อฟัง และด่านาย คุณนายใจดีแสดงอาการโกรธ โมโห เลยเข้าใจว่า คุณนายทำตัวเป็นคนดี ใจดีได้เมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี มีเงินมีทองมากมาย สามีรัก ใครๆ ก็เอาใจดูแล ชื่นชม สรรเสริญ

เราจะรู้จักตัวเองได้เมื่อเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ ทำใจได้ดีจึงจะเป็นคนดีจริง ถ้าพูดถึงตามหลักทั่วๆ ไปแล้ว การปฏิบัติธรรมเป็นประจำดีกว่า เพราะการฟังธรรมตามกาล การสนทนาธรรมตามกาล เป็นมงคลอันยิ่งใหญ่ เพราะมีโอกาสที่จะมีความเห็นถูกต้อง มีโอกาสที่จะอบรมสัมมาทิฏฐิ กิเลสหรืออารมณ์ร้อนเป็นคนละเรื่องกัน

สรุปแล้ว คนที่ไม่ปฏิบัติ แต่ใจดีแล้ว ก็น่ายินดีอนุโมทนา คนที่ชอบเข้าวัด ฟังเทศน์ ปฏิบัติ ก็เป็นสิ่งที่น่าอนุโมทนา น่าสรรเสริญทั้ง 2 ฝ่าย

ธรรมเป็นสิ่งอัศจรรย์ มหาโจรองคุลีมาลฆ่าคนถึง 999 คน ยังสามารถกลับใจเป็นดี เป็นพระอรหันต์ได้ เป็นสุดยอดคนดี เพราะอาศัยธรรมะ

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า การปรารภความเพียรเพียงราตรีเดียวมีค่ามากกว่ามีชีวิต 100 ปีแต่ปราศจากความเพียร คนที่เห็นธรรม 1 นาที มีค่ามากกว่าคนอายุ 100 ปีแต่ไม่เห็นธรรม

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 13:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ถาม 9

ที่ท่านอาจารย์บอกว่า ก่อนตายถ้าจิตใจจดจ่ออยู่กับเรื่องที่ดี ก็จะไปสู่สุคติ ถามว่าคนที่ไม่เคยทำดีมาเลยในชาตินี้ ทำความชั่วไว้มาก แต่ตอนตายเขาคิดดี แล้วชาติหน้าเขาจะเป็นอย่างไร


ตอบ

ชาตินี้ทำความชั่วมากๆ ก็ตาม ขณะที่ตายสามารถเข้าสมาธิ เข้าฌานได้ก็จะไปสู่สุคติ แต่ปกติคนเรา 100 % เมื่อทำความชั่วไว้มากๆ บังคับให้คิดดีไม่ได้ จิตใจก็ไม่สงบ แค่การระลึกรู้ลมหายใจเข้า - ออก 2 - 3 นาทีก็ทำไม่ได้ เมื่อขณะที่ตายจริงๆ ธรรมดาเป็นไปตามธรรมชาติ เป็นเรื่องของกรรมที่จะออกผล ควบคุมไม่ได้ เป็นไปเอง อย่าประมาท อย่าคิดว่าทำความชั่วเยอะๆ แล้วตอนตายจะคิดดีได้เป็นไปได้ยากมาก

ลองคิดดู คนกลัวผีมากๆ ๆ เมื่ออยู่ในสภาพที่น่ากลัว น่าจะมีผีดุมากๆ พยายามนึกรักผีๆ ๆ เป็นไปไม่ได้ หรือกลางวันกระทบอารมณ์รุนแรง โกรธกันแล้วก่อนนอนตั้งใจฝันดีมีความสุข ก็เป็นไปไม่ได้ คงฝันร้ายเพราะควบคุมไม่ได้ การตายคล้ายกับการนอนหลับ ควบคุมไม่ได้ เป็นไปตามกฎแห่งกรรม

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 13:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ถาม 10

การที่มนุษย์ฆ่าสัตว์เพื่อเลี้ยงชีวิตตัวเองและครอบครัวเป็นบาปหรือไม่


ตอบ

บาปเหมือนกัน ผิดศีลข้อปาณาติปาตา

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 13:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ถาม 11

การกระทำจัดว่าเป็นบาปหรือไม่บาปขึ้นกับเจตนาใช่หรือไม่คะ ถ้ามีเจตนาเพื่อการศึกษา คือต้องจับแมลงมาสตาฟ ถือว่าเป็นบาปไหมคะ


ตอบ

บาปเหมือนกัน เป็นปาณาติปาตา ตั้งใจฆ่า จงใจฆ่า เป็นเจตนาในการฆ่า การฆ่ามีเจตนาฆ่าเป็นบาปสมบูรณ์ คนต่างชาติเห็นคนไทยแล้วสนใจจับคนไทยฆ่าเพื่อศึกษาทำสตาฟไว้ในพิพิธภัณฑ์ของเขา น่าจะบาปใช่ไหม

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 13:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ถาม 12

ถ้าเราพาสุนัขไปทำบุญ สวดมนต์ให้ฟัง สามารถทำให้สุนัขเปลี่ยนภพ เปลี่ยนชาติได้เร็วขึ้นไหมคะ และเมื่อสุนัขเสียชีวิตไป ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ จะได้รับหรือเปล่าคะ


ตอบ

ได้เหมือนกัน แต่การพาสุนัขเข้าวัดนั้น บางแห่งก็ไม่สมควร เพราะเป็นการรบกวนผู้ปฏิบัติธรรม ในกรณีนี้เราตั้งใจทำบุญก็จะกลายเป็นบาปได้ ยกเว้นแต่บางวัดที่อนุญาต และยินดีให้นำสุนัขเข้าวัดได้ ส่วนการอุทิศส่วนกุศลให้นั้นก็ได้รับเหมือนมนุษย์นี่แหละ

ในสมัยพระกัสสปะพุทธเจ้า มีพระองค์หนึ่งได้ไปสวดพระอภิธรรมในถ้ำค้างคาว ค้างคาว 500 (ภาษาอินเดียโบราณแปลว่าจำนวนมาก) ตัวนั้นเมื่อตายไปก็ได้ไปเกิดในเทวโลก และต่อมาสมัยพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ค้างคาว 500 ตัวนั้นก็ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ และได้บวชในพระพุทธศาสนา เมื่อพระสารีบุตรสอนเรื่องนั้น ภิกษุเหล่านั้นก็จำได้

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 13:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ถาม 13

ดิฉันเชื่อว่าเรื่องกรรมมีจริง ถ้าเป็นกรรมเก่า จะทำอย่างไรให้หมดไปในชาตินี้


ตอบ

เร่งรีบ ปรารภความเพียร เจริญศีล สมาธิ ปัญญา เกิดวิปัสสนาปัญญา เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่างๆ นี่เป็นการหนีกรรมเก่า ไม่ให้กรรมเก่าเกิดผล ยกจิตหรือชำระจิตให้ขาวรอบ อยู่เหนือกรรมดี กรรมชั่วในอดีต ต้องบรรลุอรหันต์ถึงจะหมดกรรมในชาตินี้

เหมือนองคุลีมาลฆ่าคนตั้ง 999 คน เมื่อบรรลุอรหันต์แล้ว ทางจิตใจก็ไม่ต้องชดเชย มีเพียงทางกายที่ต้องใช้วิบากกรรมนิดหน่อย

ระดับศีล

ไม่ถึงขนาดเป็นพระอรหันต์ ก็อย่างน้อยให้เข้าถึงระดับศีล หมายถึง ทำใจให้หนักแน่น ไม่ยินดียินร้ายต่อเหตุการณ์ต่างๆ ต่อกรรมเก่าที่ตามมาในรูปแบบต่างๆ เช่น เกิดโรคเจ็บไข้ป่วย เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ต่างๆ ทำใจดีๆ ทำใจเป็นกลางๆ ไม่ยินร้าย ก็เรียกว่า ใจเป็นศีล เป็นกลาง สุขภาพใจดี คนทั่วๆ ไปให้มีสุขภาพใจดีในทุกสถานการณ์ เป็นเป้าหมายในการปฏิบัติ

ระดับสมาธิ

ถ้ามีกำลังใจดี ก็จะพัฒนาจิตใจเป็นสมาธิ จิตตั้งมั่น หรือว่า เมตตาภาวนา ทำให้จิตใจของตนมีความสุขใจเสมอ เมื่อใจเราสุข อะไรๆ เกิดขึ้นก็ตาม..... ไม่สำคัญ แต่ถึงแม้ว่า..... สำคัญเหมือนกัน..... ก็ยอมรับความจริงของชีวิตได้

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 42 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร