30877.อันว่าด้วย “จิต สติ และการเจริญกรรมฐาน” (พระสยาดอ อู โชติกะ)

กุหลาบสีชา

“จิต สติ และการเจริญกรรมฐาน”
พระสยาดอ อู โชติกะ

:b44:

จิตของตัวเองคือสิ่งสำคัญที่พึงตามรู้
จุดประสงค์ของการเจริญกรรมฐานก็คือ
การคลี่คลายปมยุ่งเหยิงทั้งภายนอกและภายในใจเรานั่นเอง

(มีต่อ)

กุหลาบสีชา

การเจริญกรรมฐานเป็นการสื่อสารภายใน
หรือการทำความเข้าใจชีวิต (ปัญญาในเชิงลึก)
หากปรารถนาความสำเร็จในการเจริญกรรมฐาน
ต้องทุ่มเทจนหมดหัวใจ

(มีต่อ)

กุหลาบสีชา

การเจริญสติมิใช่การนั่งสมาธิเพียงอย่างเดียว
แต่เป็นการตามรู้ทุกอย่างที่ปรากฏขึ้น
ตามทวารทั้ง ๖ อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

(มีต่อ)

กุหลาบสีชา

การเจริญกรรมฐานเป็นกุศลกรรมที่ประเสริฐที่สุด
หากคุณมีสติและฉลาดพอก็จะมีแต่ได้กับได

(มีต่อ)

กุหลาบสีชา

เมื่อใดที่คุณตามรู้จิตได้โดยไม่มีความสำนึกผิดแอบแฝงอยู่
ไม่มีความคิดที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงมัน
เมื่อนั้นแหละคุณจะเห็นธรรมชาติของสภาวะจิตนั้นได้แจ่มชัด
สภาวะจิตนั้นจะไม่มีอำนาจเหนือคุณอีกต่อไป
เมื่อจับได้ไล่ทันแล้ว
คุณจะเห็นสภาพของมันได้ทะลุปรุโปร่งเลยทีเดียว

(มีต่อ)

กุหลาบสีชา

การต่อต้านก็คือความรังเกียจ
การอยากเก็บไว้ให้ยืดยาวก็คือ “การยึดติด”

แต่การไม่ต่อต้านขัดขวาง
ก็ไม่ได้แปลว่า “สนับสนุนให้เกิดขึ้นเสมอไป”
และการ “ไม่ยึดติด” ก็ไม่ได้แปลว่า “ไม่ต้องสลัดทิ้ง”

การเจริญสติคือการตามดูเฉยๆ นั้น
ไม่คลุคลีเข้าไปมีส่วนร่วมกับสภาวธรรมเหล่านั้น

(มีต่อ)

กุหลาบสีชา

จงมีสติอยู่เสมอ แม้ในยามที่ทำได้ยาก
ยามใดที่คุณคิดว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีสติ
ยามนั้นและจำเป็นที่สุดที่คุณจะต้องมีสติให้ได้

(มีต่อ)

กุหลาบสีชา

คนเรานี่ก็แปลก
ไม่เคยมั่นใจหรอกว่าอะไรเป็นอะไร
รู้แค่ว่าตนนั้นเป็นทุกข์
หากจิตเลิกว้าวุ่นได้เมื่อใด

ยามนั้นก็จะได้คำตอบ
ความถือดีว่ามีคำตอบนั่นแหละทำให้ฉันมืดบอด

(มีต่อ)

กุหลาบสีชา

สติปราศจากแรงจูงใจ
ปราศจากความคิดเห็น

สติตามรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง
ไร้การประเมินตัดสิน
ไร้ความคิดแก้ไขเปลี่ยนแปลง

ฝึกเจริญสติให้เห็นทุกสิ่งตามความเป็นจริง...แค่นั้นเอง

(มีต่อ)

กุหลาบสีชา

จิตที่คิด มองไม่เห็น มันตาบอด
จิตที่เห็น คิดไม่เป็น
เห็นย่อมไม่มีความคิด

การเห็นที่แท้จริงนั้น
แตกต่างจากการกำหนดเห็น

ยิ่งคิดมากเท่าใด
ก็ยิ่งพายเรือวนอยู่ในอ่างมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อใดที่เห็นการคิดได้ชัดๆ มันจึงยุติ

(มีต่อ)

กุหลาบสีชา

ความเข้าใจในธรรมและการหมั่นปฏิบัติธรรม
คือเกราะป้องกันอย่างเดียวที่เรามีอยู่

ยิ่งมีสติมากขึ้นเท่าใดจิตใจเราก็ยิ่งอ่อนโยนลง
อ่อนไหวมากขึ้น รับรู้ความเจ็บปวดความทุกข์
และความไร้สาระได้ไวขึ้น
รำคาญใจกับสิ่งที่ไร้ความหมายง่ายขึ้น

:b8:

(คัดลอกบางตอนมาจาก : “จิต สติ และการเจริญกรรมฐาน”
ใน หิมะกลางฤดูร้อน (Snow in the Summer) โดย พระสยาดอ อู โชติกะ
แปลและเรียบเรียงโดย มณฑาทิพย์ คุณวัฒนา
พิมพ์และจัดจำหน่ายโดย สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี, พิมพ์ครั้งที่ ๙ พ.ศ. ๒๕๕๑)

อุบาสกน้อย

ขออนุโมทนาบุญนะครับ :b17:

student

อนุโมทนาครับ

sirinpho

น้องพลอย

กฎการใช้บอร์ด

30877.อันว่าด้วย “จิต สติ และการเจริญกรรมฐาน” (พระสยาดอ อู โชติกะ)

ผู้ใช้งานขณะนี้