วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 10:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 19:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 18:49
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนี้ เรากับแฟนอยู่ในช่วงใกล้จะเลิกกันแล้วค่ะ..
แฟนเรามีกิ๊ก.. ตัดใจจากกิ๊กไม่ได้.. แต่ก็ไม่ยอมบอกเลิกเรา

พอเราถามว่า ไม่รักเราแล้วใช่ไหม รักกิ๊กใช่ไหม.. (เราจะได้ปล่อยให้เขาไป)
เขาก็อ้ำอึ้ง ให้คำตอบเราไม่ได้อีก

เขาบอกว่ากับเราว่า เขารู้สึกกับเราไม่เหมือนเดิม แต่กับกิ๊กก็ยังไม่ถึงกับรัก

เขาบอกว่าที่เขามีกิ๊ก.. เพราะเราเติมให้เขาไม่เต็ม
ซึ่งเราก็รับผิด เพราะช่วงหลังๆเราอยู่กับเพื่อนมาก ให้เวลาเขาน้อยลง

วันนี้ เราบอกกับเขาว่า..
เราให้อภัยเขา ให้ลองเริ่มต้นกันใหม่ พูดกันแต่ความจริง
มีอะไรก็บอก ไม่ปิดบัง และเราจะช่วยเติมเต็มส่วนที่เขาต้องการ
ช่วยกันๆเพื่อให้เดินไปข้างหน้า.. ถ้าไม่ไหวจริงๆ เราสองคนจะได้ยอมรับได้
เพราะเราได้ลองพิสูจน์ ได้ลองพยายามแล้ว.. จะได้ตัดใจ จะได้จากกันด้วยดี

แต่เขาก็บอกว่าตอนนี้เขากลับมาเริ่มต้นใหม่กับเราไม่ได้
เขาก็บอกว่าเขาไม่อยากได้สิ่งที่เขาบอกว่าขาดแล้ว.. เขาได้มันมาแล้ว ตอนนี้มันเต็มแล้ว
และเขาก็รู้สึกผิด..กับเรา และรู้สึกผิดกับกิ๊กมาก

เขาบอกว่า..
เขาได้ทำอะไรบางอย่าง ซึ่งทำให้เขารู้สึกผิดกับกิ๊กมากๆ และอยากกลับไปแก้ไข
โดยที่เขาก็ไม่แน่ใจ ว่าการกลับไปจะทำให้อะไรๆดีขึ้นหรือไม่ ?
(ทำนองว่า ไม่เลิกคบกิ๊กวันนี้ แล้วบอกเลิกทีหลัง กิ๊กจะเสียใจกว่านี้ไหม?)

เขาบอกว่า มีเหตุผลหนึ่งที่เขายังไม่ได้บอกเรา (สิ่งที่เขารู้สึกผิดกับกิ๊ก)
ถ้าเขาบอกเรา.. เราอาจจะเกลียดเขาไปเลยก็ได้
แต่ขอให้เราเก็บไว้เป็นความลับ...

เราก็เดาสาเหตุไปต่างๆนาๆ เช่น
- ทำให้เค้าท้อง ?
- มีอะไรกันกับเค้าแล้วหรอ.. ?
เขาก็บอกว่าไ่ม่ใช่.. เราก็นึกไม่ออก ว่าจะมีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีก

สำหรับเราแล้ว..
ถ้าเขาไม่รักเราแล้ว.. เราก็พร้อมจะจากไป
ถ้าเขาทำคนอื่นท้อง.. เราก็พร้อมจะไปเหมือนกัน
แต่ถ้าไม่ใช่ 2 สาเหตุนี้ จะมีสาเหตุไหนที่ทำให้เค้ารุ้สึกผิดกับกิ๊กมากๆๆ ??
แล้วถ้าเค้าไม่รักเราแล้ว ทำไมไม่ตัดสินใจบอกเรา ?? เราจะได้ตัดใจ..

แฟนบอกเครียดมาก สับสนมาก ไม่กล้าตัดสินใจ (กลัวทำให้เรื่องแย่ลงไปอีก)

คืนนี้..
เค้าจะบอกเหตุผลเรา ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เค้าคบกับเราตอนนี้ไม่ได้
และเป็นเหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกผิดกับกิ๊กมาก และเขาอยากไปคบกะกิ๊กเพื่อแก้ไขมัน ?

ตอนนี้เราควรทำตัวอย่างไรดีคะ..
หลังจากฟังเหตุผลแล้ว.. เราจะรู้ได้ไงคะว่าแฟนตัดสินใจถูกแล้ว
อ่านเรื่องกรรมแล้วเราก็กลัวเขามีกรรม,, ไม่อยากให้เขาสร้างกรรมเพิ่ม
สำหรับกิ๊กของเขา ตอนนี้เขาก็ทำบาปไปแล้ว,, หรือจะเป็นกรรมของกิ๊กคะ
และการที่แฟนเราจะกลับไปแก้ไขนั้น จะทำให้กรรมมากขึ้นหรือเปล่า ??

เรื่องตัดใจตอนนี้ก็อ่านกระทู้ในบอร์ดนี้อยู่ค่ะ ทำให้ปลงๆได้บ้างแล้ว
แต่ภูมิคุ้มกันจิตยังไม่แข็งแรงเท่าไรค่ะ ยังนึกถึงบ่อยครั้ง ทำให้รู้สึกเสียใจค่ะ

ปล. เพื่อนสนิทของเราได้แนะนำให้รู้จักกับเว็บบอร์ดนี้.. เรารู้สึกขอบคุณเพื่อนคนนี้มากจริงๆค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 19:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


"เต็ม" ที่ว่า มันไม่เต้มจริงหรอกครับ
มันเต็มเป็นขณะๆ อิ่มเป็นขณะๆ
และพร้อมที่จะหิวอะไรใหม่ๆได้ตลอดเวลา
วันนี้ว่าพอ พรุ่งนี้ก็หิวอีก
อาจจะอิ่มเรื่องนี้ พรุ่งนี้หิวอันอื่น


ดังนั้นที่เราคิดจะไป"เติมเต็ม" เขาน่ะครับ
"เติมอะไร""เต็มอะไร"อะไำร
แน่ใจได้อย่างไรว่ามันจะเต็ม
เต็มแล้วจะคงเต็มอยู่อย่างนั้นไหม

เราไม่สามารถเติมเต็ม"สิ่งที่ไม่มีปริมาณ"ได้หรอก
ลองสังเกตุตัวเองดูก็ได้ ลองดูสิว่า ใจเรามันเต็มทุกวันไหม
เอาสักเรื่องนึง สังเกตุดู
จะทดลองดูก็ได้ วันพรุ่งนี้ให้ไปกินของที่คิดว่าอร่อยที่สุดของตัวเอง
อันที่กินแล้วรู้สึก full fill น่ะ
แล้ววันต่อไปลองกินดู
วันไหนเบื่อนั่นแหละ ใจมันฟ้องให้ดูความจริงต่อหน้า
ว่ามัน"เบื่อความเต็ม"

ใจคนนี่นะ มันไม่ถาวร เอาแน่นอนอะไรได้หรอก
มันกลับกลอกยิ่งกว่าคลื่นในทะเล

หรือลองถามตัวเองดูสิว่า วันนี้เราคิดว่าเขาเต็ม
อะไรล่ะ ที่รับประกันว่าเขาจะเต็มตลอดไป

ความรักมันต้องสองทางครับ
อย่าหลงผิดว่าเราเลือกฝ่ายเดียว

ผมเห็นคนที่มาโพสต์ในห้องนี้นะ บางคนลูกโตอายุ 20-30 แล้ว
ถึงรู้ว่าพ่อมีลูกอายุพอๆกันอยู่อีกบ้านหนึ่ง

แล้วเรื่องรู้ตัวทีหลังว่าเป็นเมียหลวง
หรือรู้ตัวทีหลัวว่าแฟนมีเมียน้อยนี่นะ
เยอะที่สุด เยอะจนไม่รู้จะว่ายังไง

นี่คือโลกของความเป้นจริงนะ
ใจคน โดยเฉพาะใจผู้ชาย ไม่มีทางเต็มจริงนะ

มีน้อยมากๆ ที่คนสองคนจะรักกันได้อย่างบริสุทธิ์งดงาม ไม่มีคนที่สาม
ต้องเป็นคู่สร้างคู่สมกันมาจริงๆ
ถ้าคู่สร้างคู่สมกันนะ จะไม่มีคำว่า คนที่สามเด็ดขาดเลย
ไม่มีคนที่สามเพราะสมัครใจทั้งคู่นะ รักกันแคร์กัน ไม่ใช่บังคับตนเองให้ไม่มีคนที่สาม
คู่สร้างคู่สมนี่ เขาพอใจที่จะมีกันแค่สองคน


แก้ไขล่าสุดโดย ชาติสยาม เมื่อ 29 มี.ค. 2010, 19:41, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 19:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จะเติมเต็มด้วยการเสนอสนอง กิเลสตัณหากันนั้นไม่มีวันจะจบสิ้นหรอก เพราะกรรมแบบนี้ไม่ได้ขึ้นกับเราคนเดียว ที่เห็นอยู่จะเต็มได้ก็คือใจคุณเอง เต็มแรกคืออิ่มทุกข์ คือเบื่อทุกข์เรื่องนี้มาเต็มทีอยู่แล้ว และที่ควรจะเต็มต่อมาได้คือไม่สร้างเหตุแห่งทุกข์ในใจนี้คือไม่เอา ปล่อย วาง ไม่สร้างเงื่อนไขใดๆแล้วให้จิตใจนี้ต้องคาดหวังใดจากเขา ให้เขาเป็นอิสระไม่นี้นั้น ต้องนั้นนี้อะไร ที่จะมาซึ่งเรื่องที่ว่าไม่ได้ดั่งใจทั้งหลายทั้งสิ้น นี้ละเป็นหนทางที่จะเติมเต็มให้คุณได้ที่จะพ้นทุกข์ได้


แก้ไขล่าสุดโดย yodchaw เมื่อ 29 มี.ค. 2010, 19:43, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 20:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ตอนนี้เราควรทำตัวอย่างไรดีคะ..
หลังจากฟังเหตุผลแล้ว.. เราจะรู้ได้ไงคะว่าแฟนตัดสินใจถูกแล้ว
อ่านเรื่องกรรมแล้วเราก็กลัวเขามีกรรม,, ไม่อยากให้เขาสร้างกรรมเพิ่ม
สำหรับกิ๊กของเขา ตอนนี้เขาก็ทำบาปไปแล้ว,, หรือจะเป็นกรรมของกิ๊กคะ
และการที่แฟนเราจะกลับไปแก้ไขนั้น จะทำให้กรรมมากขึ้นหรือเปล่า ??


ไม่ต้องทำอะไรครับ เพราะไม่มีหน้าที่ต้องทำอะไร เพียงรับฟังเขาเท่านั้นเอง ไม่ต้องถามหรือคาดคั้นอะไร เพราะดูเหมือนว่าคุณได้ทำมาหมดแล้ว ดังนั้นการคาดค้นถามไถ่ไรๆก็คงได้คำตอบเดิม ..ให้ตั้งอธิษฐานในใจว่า ขอให้บุญของข้าพเจ้าปกป้องข้าพเจ้าจากคนทุศีลทั้งมวล ให้ข้าพเจ้าไม่เกิดโทสะในขณะฟังเขา ไม่เกิดพยาบาทเมื่อได้ทราบสิ่งที่ไม่ชอบใจ และระลึกเสมอว่าสัตว์ทั้งหลาย มีกรรมเป็นของตนจริงๆ กรรมดีของเราย่อมปกปักรักษาเราเสมอ .. สิ่งใดๆจะเกิดกับเราก็ย่อมมาด้วยอำนาจจัดสรรค์ ของกรรมที่ใครๆเข้าจัดการบังคับไม่ได้ แม้ชอบใจหรือไม่ชอบ ใครจะสั่งหรือร้องขอได้ ดังนี้..แล้วพึงวางเฉยอยู่....

รอดูท่าทีเขา ดุจผู้พิพากษาที่คอยฟังคำสารภาพของนักโทษฉะนั้น....

ขอให้โชคดีครับ :b46: :b47: :b48: :b41:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 22:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


-dd- เขียน:
รอดูท่าทีเขา ดุจผู้พิพากษาที่คอยฟังคำสารภาพของนักโทษฉะนั้น..

ชอบมากคำนี้ :b17: :b17: :b17: มันอาจหาญดี
เท่าที่้เคยพูดสนทนากับผู้ที่เคยมีปัญหาน้อยๆ กิ๊กๆ กั๊กๆ อะไรแนวนี้ โดยมากแล้วหากเป็นคู่อยู่จนแก่เฒ่าอีกฝ่ายจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากหน้ามือไปหลังมือ คือมีศีลมีธรรมะมากขึ้นเมื่อมีอีกฝ่ายมีการเข้าวัดรักษาศีล ปฏิบัติธรรมะ บ้านก็หน้าอยู่ขึ้น การพูดคุยกันมีเหตุผลมากขึ้น ไม่ใช้อารมณ์ใส่กันดั้งเดิม ในส่วนตัวแล้วเรื่องแบบนี้ อาจเกิดจากเงื่อนไขเล็กๆ น้อยๆ ของคุณแม่บ้านเอง ที่จับผิดถูกฟิคมากจนเขาอึดอับคือกลับมาบ้านแล้วไม่ผ่อนคลาย คือมีแต่ต้องนั้น ทำนั้น ต้องเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ที่จะให้เป็น ถ้าอย่างนี้เรียกว่าตึงมาก คนที่อยู่ใกล้ก็อึดอัดแม้ไม่ได้พูดอะไรสักคำ จิตนี้สื่อถึงกันหมด จึงมี คำว่า "คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก"ละ กดดันมากเขาก็ออกไประบายข้างนอก นี้ไม่ได้เข้าข้างผู้ชาย โดยที่เขาไม่รู้หรอกเรื่องแบบนี้ในทางตรงกันข้ามคนที่มีเมตตา เป็นคนใจเย็นก็มีแต่คนที่อยากจะใกล้ชิด ใกล้แล้วมันสบายใจ เย็นใจ
ที่ว่ามานี้สำหรับคนที่ต้องอยู่กันยาว
แต่หากคนที่ตัดได้ ปลงได้ สละได้ ก็ปลงซะเลย "ตัดหางเลยปล่อยที่บ้านนี้ละไป ที่ชอบๆ แล้วเอาตัวเองเข้าวัด เพราะไปตัดหางปล่อยวัด แล้วเขาคงไม่เข้าวัด" จะไม่ปัญหากวนใจอีกไม่มีเวรเกี่ยวพันอีกแบบเรื่องมันเศร้า ก็จะหมดไป :b12:


แก้ไขล่าสุดโดย เว็บมาสเตอร์ เมื่อ 30 มี.ค. 2010, 07:28, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 07:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 18:49
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นักโทษสารภาพแล้วค่ะ..

เขาไปมีอะไรกับกิ๊กจริงๆ.. (อย่างที่คิดไว้)

ตอนที่คิดไว้ ก็เผื่อใจไว้แล้ว.. แต่พอได้ฟัง ทำไมยังรู้สึกเจ็บขึ้นอีกคะ

แถมพอมารู้ว่าเป็นคนใกล้ตัว .. เป็นรุ่นน้องที่เรียนเมเจอร์เดียวกันเลย (ผู้ชายสารภาพเอง)

มันเจ็บ.. แบบเจ็บใจ.. ฝังแค้น (แค้นผู้ชายไม่เท่าไร, แต่รู้สึกแค้นน้องคนนั้น) ร้อนรุ่มในอกไปหมด

:b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

ตอนนี้เราตัดสินใจขอเลิกยุ่งเกี่ยวกับเขาแล้วค่ะ
ทีแรกกะว่าจะคุยเป็นเพื่อนไป เพราะเวลาที่ไม่คุยกันเรื่องเครียดๆ
ทั้งเขาและเราก็ยังรู้สึกมีความสุขอยู่ยังหัวเราะ ยังยิ้มได้..

แต่พอมาทบทวนดูแล้ว.. ตัดใจไปเลยดีกว่าค่ะ
คุยแบบเพื่อนก็เหมือนหลอกตัวเอง ว่าอย่างน้อยเราก็ยังมีเขาอยู่
แล้วถ้าวันหนึ่งเขาไม่คุยกับเราแล้ว.. เราก็คงทนไม่ได้อีก

ทำอย่างไรดีคะ เราไม่อยากรู้สึกพยาบาท ไม่อยากให้มีกรรมไปถึงชาติภพหน้า
อยากอโหสิกรรม.. อยากให้อภัย.. (ตอนแรกๆที่ยังไม่รู้เรื่อง ก็คิดว่าตัวเองทำได้นะคะ)
แต่พอมารู้เรื่องทั้งหมดจริงๆ กลับรู้สึกว่าการอโหสิกรรมมันยากเหลือเกินค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 13:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkhawpoon:

อ้างคำพูด:
ทำอย่างไรดีคะ เราไม่อยากรู้สึกพยาบาท ไม่อยากให้มีกรรมไปถึงชาติภพหน้า
อยากอโหสิกรรม.. อยากให้อภัย.. (ตอนแรกๆที่ยังไม่รู้เรื่อง ก็คิดว่าตัวเองทำได้นะคะ)
แต่พอมารู้เรื่องทั้งหมดจริงๆ กลับรู้สึกว่าการอโหสิกรรมมันยากเหลือเกินค่ะ


ก่อนอื่น ขอแสดงความเสียใจที่ต้องประสบเหตุเช่นนี้
และยินดีด้วยที่ได้ทราบความจริงก่อนที่จะ "สายเกินไป"...


เรื่องการให้อภัยนั้น ไม่ใช่จะทำกันได้โดยง่ายเพราะต้องอาศัยปัญญาจากการได้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้นจึงจะทำได้อย่างไม่ฝืดฝืน ..

และเวลานี้เรื่องเพิ่ง "แดงขึ้นมา" เราซึ่งเรามิได้เคยเตรียมในหรือคาดคิดมาก่อนจึงยังเกิดการ "ช็อค" อยู่ทั้งโดยปรกติของสัตว์ทั้งหลายย่อมมีจิตเข้าถึงโทสะและพยาบาทในทันทีที่ได้รับผัสสะหรือการกระทบที่ไม่น่าปรารถนา เรียกว่าทำกันมานานนับชาติไม่ถ้วนแล้วในสังสารวัฏ จึงเกิดได้ทันทีโดยอัตโนมัติ จึงเป็นเรื่องที่ควรเข้าใจและพึงพยายามฝึกตนที่จะลดละจนสามารถปล่อยวางได้อย่างแท้จริงในที่สุด..

การจะบอกให้เลิกเสียใจเลิกพยาบาทนั้น เหมือนบอกให้คนที่ยังรักจะแบกทุกข์ปล่อยทุกข์นั้น อุปมาเหมือนบุรุษหนึ่ง เก็บนุ่นได้ ๑๐๐ กก เขาได้แบกนุ่นเพื่อนำกลับมาบ้าน แต่มีแม่น้ำลึกขวางกั้นอยู่เขาต้องพานุ่นข้ามไปให้ได้ แต่จะทำอย่างไรในเมื่อไม่มีเรือแพหรือทุ่นเลย เขาจึงแบกนุ่นลงไปเพื่อพาว่ายข้ามแม่น้ำนั้น ครั้งนั้นมีบุรุษชราคนหนึ่งผ่านมาได้เห็นเข้า จึงร้องบอกเขาว่า "นี่แน่ะพ่อ ! อย่าได้ฉิบหายเพราะนุ่นนั่นเลย เพราะเมื่อมันถูกน้ำ มันก็จะหนักและจม เจ้าเองก็ต้องตายถ้าไม่ปล่อยมันเสีย!" ก็หากชายเจ้าของนุ่น ยังเห็นค่าของนุ่นอยู่ เขาจะปล่อยมันไปหรือ ? หากเขาได้คิดว่า ชีวิตมีค่ากว่านุ่น หากยังไม่ตายย่อมมีโอกาสหานุ่นและวิธีการพานุ่นกลับบ้านได้อีก เขาย่อมปล่อยนุ่นทิ้งไปเพื่อรักษาชีวิต..

การที่เราได้ก่อสร้างเยื่อใยแห่งตัณหาขึ้นแล้วเพื่อผูกใจตนกับคนรักนั้น ก็เหมือนชายที่ผูกนุ่นไว้กับตัวพาลงน้ำนั้น ตอนแรกอาจเบาสบายนุ่มดี แต่เมื่อถูกน้ำเข้าสภาพที่เคยเบาก็ย่อมหายไปกลายเป็นหนักขึ้นทันที..สิ่งใดที่เราคุ้นเคย หากมันเปลี่ยนแปลงไป ถ้าเปลี่ยนไปในทางที่เราไม่ชอบ ก็ทุกข์ทันทีและตรงข้าม เมื่อชอบ ก็ยิปปี้..Happy! จนลืมคิดถึงความจริงของโลกว่า สังขารทั้งปวง "ไม่เที่ยง" มีได้ก็หมดได้ หมดได้ก็มีได้...สลับกันไปมาอยู่เช่นนี้ตลอดเวลา..

ดังนั้น การที่เราเข้ายึดเอาตามใจกิเลสตนว่า คนนี้คือคนรัก "ของเรา" ซึ่งผิดไปจากหลักความจริงว่าแท้จริง ไม่มีใครหรือของใครจริง แต่เป็นเพียงการไหลไปของสภาพธรรมคือขันธ์ ๕ ตามเหตุปัจจัยปรุงแต่งเท่านั้น เพราะหากเขาเป็นของเราจริงแล้ว เราย่อมสามารถเข้าควบคุมบงการมิให้เขาเปลี่ยนแปลงมีพฤติกรรมเช่นนี้เลย...

อีกอย่างหนึ่ง เพราะการคาดหมายผิดว่าสิ่งนี้เที่ยง แม้ความรักของเราก็จะไม่มีวันแปรเปลี่ยนเลย ซึ่งขัดกับหลักความจริงสากลว่าทุกสิ่งล้วนอนิจจังไม่เที่ยง ดังนั้น พอเกิดความเปลี่ยนแปลงเข้่า เราจึงทุกข์เช่นนี้ อย่าว่าแต่ความรักเลย แม้แต่แก้วน้ำสักใบ ที่เราชอบ ที่เราใช้ พอมันแตกเข้า เราก็ยังโทมนัสเลย จริงใหม..นี่เพราะอะไร เพราะเรายึดว่ามันคือของเราและต้องเป็นเหมือนเดิม..

โดยที่สุดแล้ว เรานั้นรักตัวเองที่สุด สิ่งอื่นภายนอกทั้งหมดเป็นเพียงบริวารที่เรานำมาสนับสนุนความรักตัวเองทั้งสิ้น เพราะเรามีตัณหาติดยึดตนมากที่สุด .. แม้มีใครๆ มาป่าวร้องว่าข้าพเจ้ารักท่านยิ่งกว่าชีวิตตน...ก็พึงให้ทำการทดสอบดังนี้ ให้เอาถ่านไฟร้อนแดงวางบนศีรษะตนและคนรัก แล้วดูซิว่า เขาจะปัดถ่านจากศีรษะใครก่อน...

จึงขอให้พยายามรักตนเองให้เป็น คือไม่เอาใจไปอิงอาศัยสิ่งภายนอกเพื่อความสุข ขอให้คิดว่า นี้เป็นอำนาจแห่งบุญบารมีของตนที่ได้รับทราบพฤติกรรมของบุรุษผู้ไม่มั่นคงเช่นนี้เสียก่อนที่จะถลำตัวไปจนสายเกินแก้ ก็คนไม่มั่นคงนั้นเขาจะรับผิดชอบอะไรได้ แม้ตนเองยังจะพึ่งตนได้ละหรือ ไม่ควรโดยประการทั้งปวงที่จะฝากชีวิตอยู่ร่วมกับคนเช่นนี้ "คู่ที่ดี" ควรมีศีล ศรัทธา จาคะ ปัญญาเสมอกันจึงจะไปด้วยกันด้วยดี..หาใช่ความมีหน้าตาดีหรือฐานะดีไม่...

ดูเถิด บุรุษผู้โลเลไร้ศีลขาดธรรมทั้งหลาย ได้ทำบาปเวรกรรมแก่ภรรยาและคนรักรวมทั้งบริวารอย่างสาหัสดังปรากฏในเรื่องราวของผู้ทุกข์ทั้งหลายในเว็บนี้ ขอให้อ่านเพื่อเตือนใจตนเองเถิดว่า เรายังดีกว่าหลายๆ ท่าน เพราะบุญรักษาไว้ในเวลานี้ แล้วพึงปลื้มใจในบุญของตน รีบพาพ่อแม่ไปเลี้ยงฉลองความยินดีที่สามารถปลดตนออกจากคนพาลได้..ไม่ต้องวิบัติในกาลข้างหน้า ปรับใจใหม่เพื่อเปิดโอกาสให้คนดีมีศีลที่มีคุณค่าต่อไป ประโยชน์อันใดจะมัวก่นโศก เสียใจกับคนเช่นนี้ หรือพยาบาทคนอื่นอยู่ สมควรแต่จะเจริญ "กรุณา" แก่สาวคนใหม่ที่ไม่รู้เลยว่าชะตาในภายหน้าจะเป็นอย่างไร ขอเธออย่าได้พบว่า "เขา" ได้แปรผันไปหาหญิงอื่นเลย เพราะชายเช่นนี้ย่อมยากที่จะไม่เปลี่ยนใจอีก...หลังจากทำได้ครั้งหนึ่ง..ไฉนครั้งต่อๆ ไปจะทำไม่ได้เล่่า..

เอานะ ขอให้เข้มแข็ง ให้อภัยเขาเสีย จึงจะไม่ต้องต่อกรรมร่วมกันไปในภพหน้า ศึกษาธรรมะ เอาพระธรรมเป็นที่พึ่งเถิด ธรรมะย่อมรักษาครับ.. :b46: :b47: :b48:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย เว็บมาสเตอร์ เมื่อ 31 มี.ค. 2010, 19:33, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 22:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ให้อภัยทานค่ะ วางอุเบกขาด้วย วางอย่างเข้าใจนะคะว่าผู้ชายเป็นแบบนี้ผู้หญิงก็อย่างว่า มันไม่ใช่สิ่งดีเลยที่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น น้องหลุดจาดวงจรก็ดีค่ะ ทำได้ด้วยการให้อภัยและวางอุเบกขาค่ะ นี่แหละจะเป็นการตัดกรรม

น้องสามคนมีกรรมกันมาแต่ชาติอดีตและน้องได้เปรียบที่สุด พาตัวออกห่างจากเรื่องนี้โดยปล่อยให้เป็นเรื่องของเขาสองคน เรื่องจิตใจของน้องๆรักษาได้ค่ะ อย่าเอาความรู้สึกไปรวมกับความคิดมันจะได้ไม่เป็นอารมณ์ น้องมีความรู้สึกและเกิดอารมณ์ซึ่งมันมีปัจจัยคือความคิด เพราะฉะนั้นปรับความคิดใหม่ด้วยใจที่ปราศจากอคติด้วยสติที่เต็มร้อย ถอยออกมา เชื่อเถอะค่ะว่าอารมณ์สงบเมื่อไหร่ใจจะไม่เจ็บเมื่อนั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 13:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ย. 2009, 15:37
โพสต์: 112

ชื่อเล่น: ดอกพุทธ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkhawpoon เขียน:
อยากอโหสิกรรม.. อยากให้อภัย.. (ตอนแรกๆที่ยังไม่รู้เรื่อง ก็คิดว่าตัวเองทำได้นะคะ)
แต่พอมารู้เรื่องทั้งหมดจริงๆ กลับรู้สึกว่าการอโหสิกรรมมันยากเหลือเกินค่ะ


อาการช่วงวิกฤติ อาจจะทำให้เราอโหสิกรรมยาก

ทำใจให้เบาๆ ค่ะ ไม่ต้องเร่งการกระทำ

วันนี้เรารู้สึกว่ายาก วันถัดไปเรื่อยๆ เราจะรู้สึกว่าจิตใจเริ่มดีขึ้นนะ

" กาลเวลารักษาจิตใจได้ดีเสมอ "

ถึงตอนนั้น เราก็พร้อมที่จะอโหสิกรรมได้ทุกอย่าง
อย่างเต็มใจ ไม่ต้องขัดขืน ถ้าทำได้ ถ้าได้ทำ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีค่ะ

.....................................................
หลอมจิตบรรจง สู่แสงแห่งธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 19:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 18:49
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกๆท่านมากค่ะ

ขอเล่าเหตุการณ์ต่อจากนั้นนะคะ..
หลังจากเราขอเลิกติดต่อกับเขา
เขาก็พยายามหาทางติดต่อเราให้ได้ เขาบอกว่าเขารู้แล้ว ว่าเขารักเรา
และเขาบอกเลิกกับกิ๊กไปแล้ว เราจึงถามว่ามั่นใจไหม ?
เขาตอบว่า "ก็ทำไปแล้ว.."
เราเลยถามย้ำอีกทีว่ามั่นใจไหม ? เขาจึงตอบว่ามั่นใจ

เราจึงคุยกับเขาต่อ คุยให้คำปรึกษาเขาเพราะเขาเครียดมาก
ซึ่งลึกๆเราก็เป็นห่วงเขา ด้วยลักษณะชีวิตประจำวันของเขา
ตื่นนอน ไปเรียน กลับหอ เปิดคอมฯ คุยโทรศัพท์กับเรา.. เป็นอย่างนี้ทุกวัน
มาตลอด 2 ปีเต็ม (เขาไม่มีกลุ่มเพื่อนสนิทน่ะค่ะ เรียนแบบตัวคนเดียว)
เราก็ไม่อยากให้เขาเครียดมาก เพราะชีวิตเขาปกติก็น่าเป็นห่วงอยู่แล้ว

เขาบอกว่า เขาเลิกติดต่อกับกิ๊ก.. เพราะเขารู้สึกว่าเขาทำผิดต่อกิ๊กมาก
และเขาไม่กล้าคบกับกิ๊ก เพราะกลัวว่าต่อไปข้างหน้าเขาทิ้งกิ๊ก กิ๊กเขาจะเสียใจกว่านี้

เขาเล่าเรื่องของกิ๊ก เช่น นิสัยดื้อรั้น กินเก่ง ฯลฯ ให้เราฟังมากมาย
บอกว่านิสัยตรงข้ามกับแบบที่เขาชอบ แต่ทำไมเขาถึงชอบกิ๊กคนนี้ได้นะ
เขาขอเก็บของที่ระลึกจากกิ๊กไว้เป็นความทรงจำ ว่าครั้งหนึ่งเคยมีคนที่เข้าใจเขามากที่สุด
เราฟังแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรค่ะ แค่รับฟัง ถึงใจจะเจ็บเหมือนโดนกรีดก็ตาม..

คืนนั้น เขาก็เริ่มคิดว่า เขาคิดกับเราเป็นเพื่อนสนิทหรือคนรักกันแน่
พยายามหาข้อแตกต่างระหว่างสองคำนี้..
มีคนให้ข้อคิด ข้อแนะนำเขามากมาย แต่เขาก็ยังสับสนในใจอยู่ดี
เขาบอกว่าความรู้สึกของเขาก็ไม่เหมือนเดิม ไม่สามารถกลับมาคุยหยอกล้อกับเราได้เหมือนก่อน
ซึ่งเราก็ไม่สามารถคุยแบบนั้นกับเขาได้เหมือนกัน เพราะว่าทำใจไม่ได้

เช้าวันรุ่งขึ้น (วันนี้)
เราโทรหาเขาตอนตื่นนอน
บอกเขาว่า เรารู้สึกไม่มั่นใจในความรู้สึกของเขาเลย
เขาก็บอกว่า ไม่อยากให้เร่งรัดเอาคำตอบจากเขา เขายังคิดไม่ได้..
เราก็เลยบอกว่าจะไม่ถามอีกแล้ว

ตอนกลางวัน..
เราออกจากบ้านไปหาเพื่อนเพื่อขอคำปรึกษา
เราทนอยู่ในสภาพที่เขาโลเลไปมาไม่ได้, อยากให้เรื่องนี้จบเสียที,
อีกทั้งเขาก็ไม่ถนอมน้ำใจเราเลยโดยการเล่าเรื่องกิ๊กให้ฟัง
ถึงเราจะรอคำตอบต่อไป.. ก็คงเจ็บปวดอยู่ดี
เราจึกตัดสินใจจะเลิกติดต่อกับเขา (แต่คราวนี้ตั้งใจจะไปเงียบๆ ไม่บอกลาแล้ว)
ขณะนั้นเอง..
เขาก็โทรมา เขาบอกว่าเขารู้ตัวเองแล้วว่า..
เขารู้สึกกับเราเป็นเพื่อน ไม่ใช่คนรัก

เราจึงขอให้เขาไม่ติดต่อมาหาเราอีก
เขาก็ถามว่าเรา เราจะเป็นเพื่อนกันได้รึเปล่า
เราก็ตอบว่า ตอนนี้ไม่ได้หรอก เราทำใจไม่ได้
แล้วเราก็ไม่รู้ว่าอนาคต กี่เดือน กี่ปี เราถึงจะทำใจเป็นเพื่อนกับเขาได้
เขาบอกว่า ถ้าวันไหนเราอยากติดต่อไปหาเขา ก็ติดต่อไปหาได้เสมอ
เขาบอกขอโทษ และบอกว่าให้เราดูแลตัวเองดีๆ..

เราร้องไห้ กอดเพื่อนอยู่พักนึง ก็ต้องรีบกลับ
เพราะต้องขับรถแวะไปรับคุณแม่กลับบ้านพร้อมกันด้วย

เร็วๆนี้ เพื่อนของเราจะไปปฏิบัติธรรมแดนมหามงคล จ.กาญจนบุรี
เราจึงตัดสินใจว่าจะไปกับเพื่อน..
หวังว่าการปฏิบัติธรรม คงจะช่วยให้ใจเราสงบลงได้บ้าง :b45:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 19:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


nongkhawpoon เขียน:
เร็วๆนี้ เพื่อนของเราจะไปปฏิบัติธรรมแดนมหามงคล จ.กาญจนบุรี
เราจึงตัดสินใจว่าจะไปกับเพื่อน..
หวังว่าการปฏิบัติธรรม คงจะช่วยให้ใจเราสงบลงได้บ้าง :b45:

:b8: ขออนุโมทนาสาธุการด้วยค่ะ คุณ nongkhawpoon

กลับจากไปปฏิบัติธรรมมาแล้ว มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะค่ะ
:b1: ตัวเองก็ตั้งใจอยากไปปฏิบัติธรรมที่นี่ด้วยเช่นกันหากมีโอกาส

:b20: อยากได้ รูปภาพอุบาสิกาบงกช สิทธิผล มาลงเว็บจังเลย
รวมทั้ง อยากทราบ เบอร์โทรศัพท์ของแดนมหามงคล จ.กาญจนบุรี ด้วยจ้า

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 19:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เร็วๆนี้ เพื่อนของเราจะไปปฏิบัติธรรมแดนมหามงคล จ.กาญจนบุรี
เราจึงตัดสินใจว่าจะไปกับเพื่อน..
หวังว่าการปฏิบัติธรรม คงจะช่วยให้ใจเราสงบลงได้บ้าง :b45:


ความสงบจะมีได้เมื่อเรา"มีปัญญา"รู้ว่าสาระของการมีชีวิตคืออะไร .. อย่างไรก็ขอให้ทราบว่าการเสียใจตอนนี้ย่อมดีกว่าการเสียใจในภายหน้าเมื่ออยู่ในตำแหน่ง"ภรรยา"นั่นเทียว อ่านเรื่องของท่านเหล่านั้นไว้ปลอบใจตนว่า ..เรายังดีกว่าคนอื่นมาก แค่นี้ยังไม่สาหัสเท่าไรหรอก ..

ขออนุโมทนาการเข้าร่วมปฏิบัติธรรมครับ.. :b46: :b47: :b48:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 19:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ม.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 141


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkhawpoon เขียน:
เร็วๆนี้ เพื่อนของเราจะไปปฏิบัติธรรมแดนมหามงคล จ.กาญจนบุรี
เราจึงตัดสินใจว่าจะไปกับเพื่อน..หวังว่าการปฏิบัติธรรม คงจะช่วยให้ใจเราสงบลงได้บ้าง :b45:


ขออนุโมทนาค่ะ ที่แดนมหามงคล เป็นสถานที่ที่หน้าปฏิบัติธรรม ขอใ้ห้การปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ช่วยให้คุณ nongkhawpoon มีจิตใจสงบลงได้นะคะ :b8:

เราก็เป็นผู้หญิงอีกคนที่เหมือน ๆ คุณ เราก็ใช้การปฏิบัติธรรม สวดมนต์ แผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลให้ใจสงบลง ตอนนี้เวลาผ่านไปได้เดือนหนึ่งแล้ว ที่ตัดขาดกันจริง ๆ จิตใจดีขึ้นมาก ถึงจะลืมไปไม่ได้หมด แต่สักวันเวลาจะช่วยให้อะไร ๆ ดีขึ้นค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 20:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไปดี มาดี :b8: :b8: :b8: ดีแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2010, 16:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ต.ค. 2009, 17:14
โพสต์: 84

แนวปฏิบัติ: ตามดูจิต
งานอดิเรก: เลี้ยงแมว/ดูหนัง/เล่นเนต
สิ่งที่ชื่นชอบ: ธรรมะ
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


แนะนำไปดู เดี่ยวไมโครโฟน ไม่แน่ใจว่า 7 หรือเปล่า
ที่โน๊ตอุดม เล่าเรื่อง เหตุผลที่ผู้หญิงของเลิก
"คุณดีเกิน"
แล้วโน๊ตก็บอกประมาณว่า "ถ้าดีแล้วมาเลิกกะกุทำไม"
มันคงกะจะบอกว่า "บอกเลิกกุมาตรงๆเลยดีกว่ามั้ย"
********************
ดิฉันว่าคุณไม่ต้องไปหาคำถาม เอาคำตอบไรแล้ว
มันอยากไปปล่อยมันไปเห้อะ
มันสงสารกิ๊ก ไม่สงสารเรา
มันใช้หลักการคิดด้วยสามัญสำนักส่วนไหนก็ไม่รู้เนอะ

สาวน้อย เตรียมใจให้เข้มแข็ง
และ เรียนรู้ที่จะทุกข์ พร้อมกับเปิดรับความสุขครั้งใหม่

โชคดีค่ะ

.....................................................
จงขอบคุณเมื่อความทุกข์เกิด เพราะมันคือบทเรียนให้เราก้าวหน้า


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 22 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร