วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 03:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 65 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2010, 11:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว




100_3755_resize_resize.JPG
100_3755_resize_resize.JPG [ 51.24 KiB | เปิดดู 3767 ครั้ง ]
tongue อนุโมทนาสาธุกับท่านมหาราชันย์ ที่มีกรุณานำกระทู้ธรรมสั้นๆมาแนะนำ มีประโยชน์มากครับ

อยากเห็นสำนวนอื่น จากบัณฑิตท่านอื่นบ้างครับ

อยากเรียนขอให้สั้น เข้าใจง่าย เป็นภาษาชาวบ้าน บอกหลักการปฏิบัติ ง่ายๆ ยิ่งกว่านี้อีก ได้ไหมครับ

ตัวอย่างเช่น

ธรรมทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น แล้วบอกเทคนิคปฏิบัติว่าทำอย่างไร

หรือ สัพเพธัมมา อนัตตา แล้วบอกเทคนิคปฏิบัติว่าทำอย่างไร

นิ่งรู้ เป็นวิปัสสนาภาวนา นิ่งอยู่ เป็นสมถภาวนา แล้วบอกเทคนิคปฏิบัติว่าทำอย่างไร

สุญญตา แล้วบอกเทคนิคปฏิบัติว่าทำอย่างไร

สมถะนำวิปัสสนา แล้วบอกเทคนิคปฏิบัติว่าทำอย่างไร

วิปัสสนา นำ สมถะ แล้วบอกเทคนิคปฏิบัติว่าทำอย่างไร

วิปัสสนา ควบคู่กับ สมถะ แล้วบอกเทคนิคปฏิบัติว่าทำอย่างไร

วิปัสสนาล้วนๆ แล้วบอกเทคนิคปฏิบัติว่าทำอย่างไร

เจริญมรรค 8 แล้วบอกเทคนิคปฏิบัติว่าทำอย่างไร

ฯลฯ

เทคนิคปฏิบัติที่ ทำให้ง่าย เป็นภาษาชาวบ้านแล้วนะครับ

ขอบพระคุณมากๆครับ
:b8: :b43: :b37: :b36:

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2010, 11:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว




100_3652_resize.JPG
100_3652_resize.JPG [ 111.95 KiB | เปิดดู 3767 ครั้ง ]
tongue

อ้างคำพูด:
เอรากอน เขียน

อโศกะ เขียน:
tongue
กราบเรียนเชิญ นักปริยัติและนักปฏิบัติธรรมทุกท่านช่วยเมตตาและกรุณาชี้แนะ ว่า

ปริยัติที่น้อยที่สุดแต่สามารถนำไปปฏิบัติให้ถึงโสดาปัตติมรรคได้ จะต้องเรียนรู้อะไรบ้างที่จำเป็นจริงๆ

:b8:
tongue

สวัสดีปีใหม่...นะคะ....ท่านอโศกะ

จริง ๆ ไม่งงกับคำถามค่ะ แต่ท่อนที่ขีดเส้นใต้ไว้ ทำให้งงค่ะ.. :b9:

ชี้แนะ...? บอกวัตถุประสงค์ของคำถามสักนิดได้รึเปล่าคะ
เพื่อว่าขี้เกี้ยมจะพยายามให้ความร่วมมือกับท่านได้อย่างตรงประเด็นที่ท่านต้องการ
คาดว่า คงเป็นคำถามที่ท่านจะนำข้อมูลไปใช้ในการทำประโยชน์อะไรสักอย่าง...หง่ะค่ะ


อโศกะ ตอบ

ประเด็นคำถาม สั้นๆ เท่าที่ยกมาข้างล่างนี้แหละครับ

ปริยัติที่น้อยที่สุดแต่สามารถนำไปปฏิบัติให้ถึงโสดาปัตติมรรคได้ จะต้องเรียนรู้อะไรบ้างที่จำเป็นจริงๆ

ท่านมหาราชันย์จับประเด็นได้ถูกต้องและแสดง ปริยัติง่ายๆ เพื่อให้ถึงโสดาปัตติมรรคมาแล้วหลาย คห.เลยครับ

แต่ยังไม่จุใจ ไม่ตรงใจดี เพราะยังมิได้บอกหรืออธิบายเทคนิคปฏิบัติ อยากได้ทั้งปริยัติและเทคนิคปฏิบัติ เพื่อให้นำไปปฏิบัติแล้วได้ผลจริงๆ โดยยังไม่ต้องเรียนรู้ หลัก ทฤษฎี ปริยัติอะไรมากเกินไป แล้วปฏิบัติธรรมได้ผลนะครับ

คุณเอราก้อนไม่มีปัญหานี้หรือครับ ถ้าไม่มีปัญหา น่าจะสรุป หลักทฤษฎีและ วิธีปฏิบัติ สั้นๆ เพื่อให้ถึงโสดาปัตติมรรคในชาตินี้มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าแทนชาวพุทธทั่วโลกที่กำลังเฝ้าติดตามอยู่นะครับ สาธุ

ปริยัติที่น้อยที่สุดแต่สามารถนำไปปฏิบัติให้ถึงโสดาปัตติมรรคได้ จะต้องเรียนรู้อะไรบ้างที่จำเป็นจริงๆ

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2010, 12:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เคยดูหนังละครไหม พระ นางเอก จากกันอยากเจอกันมาตอนจบ หาแล้วหาอีก เสาะหาหาตั้งนาน จะเจอกันก็ตอนหมดอยาก เรียกว่าหมดตัว หมดตน เสาะแสวงหาละ เมื่ออยู่นิ่งๆหรือหันหลังกลับก็เจอเลย ในสิ่งที่คุณแสวงหา คุณธรรมนั้นนี้ก็เหมือนไม่ใช่สิ่งที่ จะมุ่งไปให้ได้ ให้มี ให้เป็น มันล้วนเป็นกรรมบัง บังความเป็นจริง ที่ไม่เนืองด้วยวิถี ไม่เนืองด้วยวิถีการนิพพานอยู่เองแล้ว

ขอเชิญศึกษาธรรมบรรลุฉลับพลัน จบโลก จบธรรม จบกรรม การปฏิบัติ โดยหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต วัดร่มโพธิธรรม จ.เลย ที่บอร์ดสนทนาทั่วไปขอรับ หรือ http://www.rombodhidharma.com/

ขอให้ท่านมีส่วนในความ ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา แจ่มแจ้งในสัจธรรม ลุล่วงพ้นทุกข์ ตามองค์พุทธะ พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต นั่นเทอญ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2010, 19:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
คุณเอราก้อนไม่มีปัญหานี้หรือครับ ถ้าไม่มีปัญหา น่าจะสรุป หลักทฤษฎีและ วิธีปฏิบัติ สั้นๆ เพื่อให้ถึงโสดาปัตติมรรคในชาตินี้มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าแทนชาวพุทธทั่วโลกที่กำลังเฝ้าติดตามอยู่นะครับ สาธุ

ปริยัติที่น้อยที่สุดแต่สามารถนำไปปฏิบัติให้ถึงโสดาปัตติมรรคได้ จะต้องเรียนรู้อะไรบ้างที่จำเป็นจริงๆ


ขอบพระคุณล่วงหน้าแทนชาวพุทธทั่วโลกที่กำลังเฝ้าติดตามอยู่นะครับ สาธุ

โอย๋...ได้อ่านท่อนนี้แล้วหัวใจข้าน้อยจะวาย...... :b9: :b9:
ถ้าขี้เกี้ยม มีศักยภาพที่จะทำอย่างนั้นได้ ก็คงจะเป็นกุศลยิ่งนัก...

จริง ๆ ถ้าทำได้...แม้ต้องแลกด้วยชีวิต ก็ไม่เสียดายเลย...ถือว่าคุ้ม
ยินดีที่จะกระโดดเข้าปากจรเข้ ในฉับพลัน...
แต่ทุกวันนี้ ขี้เกี้ยมยังเห็นตนเอง เป็นปุถุชน ธรรมดาอยู่เลย...เจ้าค่ะ...

ซึ่งถ้าพูดถึงการปฏิบัติสิ่งที่ขี้เกี้ยมเห็นความสำคัญ คือการยังจิตให้เป็นกุศลอยู่เนือง ๆ นี่ล่ะค่ะ

ส่วนเรื่องวิถีชีวิต ก็พยายามมีชีวิตอยู่ในโซน สมถะ เจ้าค่ะ...
...วางวิถีตัวเองให้เป็นผู้ที่มีความเป็นอยู่ง่าย ๆ
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะนำไปสู่ความยุ่งเหยิง การเสพติดทางวัตถุ และการลุ่มหลงต่าง ๆ
...
และเพียรพิจารณาในเรื่อง พรหมวิหาร 4...
เท่านี้ ชีวิตของขี้เกี้ยมก็ผาสุขในระดับหนึ่ง

ยังไม่เคยคิดไปไกลว่าตนจะฝึกเพื่อไปเป็นอะไรเลย...เจ้าค่ะ...

:b48: :b55: :b48: :b55: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2010, 20:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
และเพียรพิจารณาในเรื่อง พรหมวิหาร 4...
เท่านี้ ชีวิตของขี้เกี้ยมก็ผาสุขในระดับหนึ่ง

ยังไม่เคยคิดไปไกลว่าตนจะฝึกเพื่อไปเป็นอะไรเลย...เจ้าค่


สาธุ.. :b8:
พรหมวิหาร 4...เกิดขึ้นแล้ว..อะไร..ๆ มันก็ง่ายแล้วละครับ..ช่างถ่อมตัวจริ้ง

อ้างคำพูด:
ปริยัติที่น้อยที่สุดแต่สามารถนำไปปฏิบัติให้ถึงโสดาปัตติมรรคได้ จะต้องเรียนรู้อะไรบ้างที่จำเป็นจริงๆ


เรื่องปริยัติที่น้อยที่สุด..นี้คุณมหาราชันย์..นำมากล่าวก็คลุมหมดแล้วนี้ครับ.. :b8:

แต่..ให้บอกเทคนิคด้วยนี้..หุ..หุ..หุ..จะกล้า..เล่าไหมละ? ..เดียวเจอ(รถ)สวน..ว่า..ไอ้คนบอกนี้มันได้มรรคได้ผลอะไรบ้างแล้ว..หรืองัย..?..กล้ามาบอกเทคนิคการปฎิบัติด้วยนะ..อิ..อิ..อิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ม.ค. 2010, 09:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว




ee247_resize.jpg
ee247_resize.jpg [ 69.57 KiB | เปิดดู 3673 ครั้ง ]
tongue
อ้างคำพูด:
กบนอกกะลาเขียน

เรื่องปริยัติที่น้อยที่สุด..นี้คุณมหาราชันย์..นำมากล่าวก็คลุมหมดแล้วนี้ครับ.. :b8:

แต่.. ให้บอกเทคนิคด้วยนี้..หุ..หุ..หุ..จะกล้า..เล่าไหมละ? ..เดียวเจอ(รถ)สวน..ว่า..ไอ้คนบอกนี้มันได้มรรคได้ผลอะไรบ้างแล้ว..หรืองัย ..?..กล้ามาบอกเทคนิคการปฎิบัติด้วยนะ..อิ..อิ..อิ


อโศกะ แสดงความเห็น

ใครเดินไปถึงไหน ก็บอกเทคนิคปฏิบัติไปถึงตรงนั้น ก็แล้วกัน นะครับ คุณกบนอกกะลา

อาจมีอีกหลายท่านหลายคน ที่มีโอกาสได้พบกัลยาณมิตร มหากัลยาณมิตร ที่มีประสบการณ์จริง ท่านเล่าให้ฟัง ก็ให้มีเมตตา ตามพรหมวิหาร 4 ที่คุณวลัยพรว่า นำมาเล่าต่อ สู่กันฟังในลานธรรมจักรแห่งนี้ เป็นขวัญหู ขวัญตา แห่งยุค สมัย ก็จะเป็นพระคุณยิ่งนะครับ

ขอบพระคุณล่วงหน้าแทนชาวโลกที่อยากรู้ธรรมมะอย่างง่าย ทุกๆคนครับ

onion s001 Kiss Lips

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2010, 02:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้างั้น..จะลองดูนะครับ

ว่ากันที่สังโยชน์..ก่อน..แบบไม่เรียงลำดับนะ

เอา..สังโยชน์ข้อที่ 2 วิจิกิจฉา..

ปกติจะคิดว่า...พระพุทธเจ้าลำบากมามากหนอ..กว่าจะตรัสรู้ธรรมนำมาสอนเราได้..ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย..กว่าจะรู้ธรรมเห็นธรรม..ก็ลำบากเจียนตายทุกองค์..ท่านทั้งหลายมีพระคุณกับพวกเราจริง ๆ หนอ..

ก็คิดอย่างนี้..แรก ๆมันก็เป็นความคิดแห้ง ๆ ..งั้น ๆ แหละ..แต่ก็คิดไปเรื่อย

จนมีวันหนึ่ง

ขณะกำลังจะสวดมนต์ทำวัตรเย็น พอตั้งแค่ นะโม บังเอิญมีความคิดหนึ่งเกิดขึ้นแทรกการสวด..มันคิดอย่างนี้..

พระพุทธเจ้า..ท่านบำเพ็ญบารมีเพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า..เป็นมหาโพธิสัตว์มา 4 อสงไขยกับแสนมหากัลป์..นี้มันน้อยที่ไหน..เกิดตาย ๆ ไม่รู้เท่าไร..ทุกข์มาไม่รู้เท่าไร..เกิดครั้งไหนก็ทุกข์ครั้งนั้น..แม้พระองค์ท่านจะรู้หนทางสู่ความพ้นทุกข์..แต่เพราะความสงสารสัพสัตว์..อยากจะช่วยเหล่าสัตว์ทั้งหลายให้พ้นทุกข์..ท่านยอมทุกข์ต่อมาอีก 4 อสงไขยกับแสนมหากัลป์..เพื่อสั่งสมวิชาของบรมครูผู้ยิ่งใหญ่..ชาติแล้ว..ชาติเล่า..ทุกข์แล้ว..ทุกข์เล่า..เป็นเรา..หากรู้ทางรอดจากทุกข์..คงหนีไปนานแล้ว..แต่พระองค์ท่าน..ไม่ไป..มีโพธิสัตว์มากมายทรงลาพุทธภูมิ. .แต่พระองค์ท่านไม่ไป..ที่ว่า..ดวงดาวบนฟ้ากฟ้ายังน้อยกว่าดวงตาที่สละเพื่อความเป็นบรมครูของสัพพสัตว์..ก็คงจะจริง..

เรา..อยากให้..พ่อแม่พี่น้อง..ญาติ ๆ เพื่อน ๆ เรา..มีความสุขเพียงไม่กี่คน..แต่พระองค์ท่าน..อยากให้สัพพสัตว์ทั้งจักรวาล..มีความสุข..
อะไรหนอ..ที่ทำให้พระองค์..ทำได้ถึงปานนี้?..เรามีอะไรที่จะได้แม้เพียงเศษเสี้ยว..ของพระองค์หนอ?..หาไม่มีเลย

พระอริยะสงฆ์..ครูบาอาจารย์ของเราๆ ทั้งหลายหน่า..อายุก็มากแล้ว..สังขารก็โรยแล้ว..อรหันต์นั้งนาน ๆ ก็เมื่อยหน่า..ก็เจ็บเป็นหน่า..โรคภัยไข้เจ็บมาก็เจ็บก็ปวด..แม้เหลือเพียงปากของท่านที่ยังขยับได้..ก็ยังอุตส่าพร่ำสอนไม่หยุด..เรานี้มันชั่งโง่แท้ ๆ ..ปล่อยให้คนแก่สอนจนจะตาย..ก็ยังไปไม่ถึงไหน..เป็นเรา..เจ็บขนาดนี้..ป่วยขนาดนี้..จะยังมีใจช่วยผู้อื่นเหมือนท่านไหมหน่า?..เราไม่มีอะไรจะไปเทียบท่านได้เลย..หาไม่มี

นี้แหละหนอ..คุณของพระพุทธเจ้า..
นี้แหละหนอ..คุณของพระอริยะสงฆ์..

ขณะคิด..มโนภาพก็ฉายให้เห็นความทุกข์..ความยาก..ของพระพุทธเจ้า..ของหลวงปู่..หลวงตา..หลวงพ่อครูบาอาจารย์ของเรา..

น้ำตาไม่รู้มาจากไหน..

ปากพูดได้แค่..นะโม..น้ำตาก็ร่วง..นะโม..น้ำตาก็ร่วง..

เอ้า..สวดไม่ได้..ก็กราบแทน..กราบ 3 ครั้งเสร็จ..เอ้า..น้อยไป..กราบอีก..ยังไม่พอ..กราบอีก..คิดแต่ว่ากราบยังไม่พอ..วันนั้นก็เลยไม่รู้กราบลงไปเท่าไร..สุขอย่างบอกไม่ถูก

ไม่กี่วันต่อมา..ก็เจอทดสอบ

มีพระปลอม..มาบินฑบาตรและขอผ้าไตร..รู้..แต่ก็กราบได้สนิทใจ..เพราะใจมันรู้ว่ากราบที่พระรัตนตรัย..หาใช่คนไม่มีผมแต่ห่มเหลือง..ใจมันนึกสงสารพระปลอมคนนั้นด้วยซ้ำ

นี้จะเรียกว่าเทคนิค..หรือ..พร่ำพรรณา..เพ่อเจ้อ..หรือยังงัยก็ดูเอาเอง :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2010, 10:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ขณะคิด..มโนภาพก็ฉายให้เห็นความทุกข์..ความยาก..ของพระพุทธเจ้า..ของหลวงปู่..หลวงตา..หลวงพ่อครูบาอาจารย์ของเรา..

น้ำตาไม่รู้มาจากไหน..

ปากพูดได้แค่..นะโม..น้ำตาก็ร่วง..นะโม..น้ำตาก็ร่วง..

เอ้า..สวดไม่ได้..ก็กราบแทน..กราบ 3 ครั้งเสร็จ..เอ้า..น้อยไป..กราบอีก..ยังไม่พอ..กราบอีก..คิดแต่ว่ากราบยังไม่พอ..วันนั้นก็เลยไม่รู้กราบลงไปเท่าไร..สุขอย่างบอกไม่ถูก

ไม่กี่วันต่อมา..ก็เจอทดสอบ

มีพระปลอม..มาบินฑบาตรและขอผ้าไตร..รู้..แต่ก็กราบได้สนิทใจ..เพราะใจมันรู้ว่ากราบที่พระรัตนตรัย..หาใช่คนไม่มีผมแต่ห่มเหลือง..ใจมันนึกสงสารพระปลอมคนนั้นด้วยซ้ำ

นี้จะเรียกว่าเทคนิค..หรือ..พร่ำพรรณา..เพ่อเจ้อ..หรือยังงัยก็ดูเอาเอง :b12: :b12:


อิ อิ พร่ำพรรณนา...เพ้อเจ้อ จริง ๆ ด้วย...เจ้าค่ะ... :b32: :b9: :b32: :b9:

และแบบว่ามันก็ยังเป็นอาการพร่ำพรรณา เพ้อเจ้อ ที่ขี้เกี้ยมเองก็ยังสงสัยนะ...เจ้าคะ...
เพราะเวลาที่ขี้เกี้ยมเกิดอาการประมาณนี้ สภาวะการมองเห็นจะเปลี่ยนไปเจ้าค่ะ
เหมือนแสงแดด จะมีความกระจ่างใส และเป็นสีออกส้ม ๆ สบายตา เรืองรอง...ทุกที...
สภาวะการได้ยินของหู ก็ประหนึ่ง ไสกิ๊ง ... กังวาลเหมือนเสียงตีระฆัง
จะมีอาการเช่นนี้อยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ สภาวะจึงกลับสู่ปกติ
ท่าน มหาราชันย์ หรือ ใครพอจะบอกได้รึเปล่าคะว่า มันเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร
แบบว่า สงสัย แต่ก็ไม่เคยถาม... เพราะยังเห็นว่าเป็นสิ่งเพ้อเจ้อ เจ้าค่ะ...

ก็ได้แต่เก็บเป็นความสงสัยไว้ในใจ :b20: :b20:
....


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 05 ม.ค. 2010, 12:28, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ม.ค. 2010, 00:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุ..
มันเป็น..ปีติ..สุข..เอกคัตตา..แบบไม่ต้องหลับตานะ..

ไม่รู้นะ..แบบนี้ไม่เคยเป็น :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2010, 12:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว




ee232.jpg
ee232.jpg [ 18.8 KiB | เปิดดู 3609 ครั้ง ]
tongue

สาธุกับการแสดงความเห็นของคุณเอรากอนกับคุณกบนอกกะลา

ยังไม่ลงประเด็นดีนะครับ อยากเห็นธรรมมะสั้นๆ และเทคนิคปฏิบัติง่าย เพื่อให้บรรลุโสดาปัตติมรรค จาก กัลยาณมิตรและมหากัลยาณมิตรท่านอื่นๆอีกนะครับ

ขอบพระคุณ อนุโมทนา
:b8: :b8: :b8: :b27:

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2010, 12:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




Y8715244-5.gif
Y8715244-5.gif [ 119.1 KiB | เปิดดู 3603 ครั้ง ]
อโศกะ เขียน:
tongue

อยากเห็นธรรมมะสั้นๆ และเทคนิคปฏิบัติง่าย เพื่อให้บรรลุโสดาปัตติมรรค จาก กัลยาณมิตรและมหากัลยาณมิตรท่านอื่นๆอีกนะครับ


ขอถามคุณอโศกะหน่อยครับ จะเอาโสดาปัตติมรรคเป็นต้นไปทำอะไรครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2010, 14:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 745


 ข้อมูลส่วนตัว


มหาราชันย์ เขียน:
อโศกะ เขียน:
ปริยัติที่น้อยที่สุดแต่สามารถนำไปปฏิบัติให้ถึงโสดาปัตติมรรคได้ จะต้องเรียนรู้อะไรบ้างที่จำเป็นจริงๆ



สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุก ๆ ท่าน

รู้คาถาบทเดียว แล้วแทงตลอดคาถาบทนั้นก็พอครับ
เช่นบทนี้


ความโศกทั้งหลาย
ย่อมไม่มีแก่ผู้มีจิตมั่นคง ไม่ประมาท
เป็นมุนีผู้ศึกษาในทางแห่งมโนปฏิบัติ ผู้คงที่
สงบระงับแล้วมีสติในกาลทุกเมื่อ





เจริญในธรรมครับ


อธิบายคาถา

เป็นแค่การยกตัวอย่าง ความจริงแล้วมีหลายนัยยะ

ความโศกทั้งหลาย
ย่อมไม่มีแก่ผู้มีจิตมั่นคง

ความโศกที่ไม่มีแก่ผู้มีจิตไม่มั่นคงแยกได้หลายนัยยะ

ความโศกเศร้าในวัฎฎวน ย่อมไม่มีแก่ท่านผู้พ้นแล้ว เป็นต้น

ไม่ประมาท เป็นมุนีผู้ศึกษาในทางแห่งมโนปฏิบัติ

ความไม่ประมาณ เป็น ต้นกุศลธรรม การทำให้จิตเป็นกุศลธรรม ก็คือการเจริญกรรมฐาน ทำกุศลให้ถึงพร้อม นั้นเอง

ผู้คงที่ สงบระงับแล้วมีสติในกาลทุกเมื่อ

อันนี้หมายถึงจิตพระอรหันต์

กรุณาอย่าเชื่อจนกว่าจะตรองด้วยปัญญาตน

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2010, 14:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 745


 ข้อมูลส่วนตัว


มหาราชันย์ เขียน:
อโศกะ เขียน:
ปริยัติที่น้อยที่สุดแต่สามารถนำไปปฏิบัติให้ถึงโสดาปัตติมรรคได้ จะต้องเรียนรู้อะไรบ้างที่จำเป็นจริงๆ



สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุก ๆ ท่าน

รู้คาถาบทเดียว แล้วแทงตลอดคาถาบทนั้นก็พอครับ
เช่นบทนี้




ภิกษุพึงมีสติเพื่อการละสักกายทิฏฐิ งดเว้นเสีย
ประดุจบุคคลถูกแทงด้วยหอก
ประดุจบุคคลถูกไฟไหม้ศีรษะอยู่ ฯ





สามารถบรรลุธรรมได้ตั้งแต่โสดาบัน ถึงพระอรหันต์ได้เลยครับ





เจริญในธรรมครับ


ไม่อยากตีความมากนะงับ แต่ขออธิบายนิดหน่อย นะงับ แล้วกรุณาอย่าเชื่อจนกว่าจะได้ตรองตามด้วยปัญญา และ ในเนื้อความมีหลายนัยยะ




ภิกษุพึงมีสติเพื่อการละสักกายทิฏฐิ งดเว้นเสีย
ประดุจบุคคลถูกแทงด้วยหอก
ประดุจบุคคลถูกไฟไหม้ศีรษะอยู่ ฯ


เพราะความยึดถือกายใจโดยความเป็นของเราเป็นเหตุให้ทุกข์เกิดขึ้น

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2010, 14:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 745


 ข้อมูลส่วนตัว


มหาราชันย์ เขียน:
อโศกะ เขียน:
ปริยัติที่น้อยที่สุดแต่สามารถนำไปปฏิบัติให้ถึงโสดาปัตติมรรคได้ จะต้องเรียนรู้อะไรบ้างที่จำเป็นจริงๆ



สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุก ๆ ท่าน

รู้คาถาบทเดียว แล้วแทงตลอดคาถาบทนั้นก็พอครับ
เช่นบทนี้


ภิกษุพึงเป็นผู้สำรวมจักษุ
ไม่พึงเป็นผู้โลเลเพราะเท้า
พึงเป็นผู้ขวนขวายในฌาน
พึงเป็นผู้ตื่นอยู่มาก
พึงเป็นผู้ปรารภอุเบกขา มีจิตตั้งมั่น
พึงเข้าไปตัดความตรึก
และตัดธรรมที่อาศัยอยู่แห่งความตรึกและความรำคาญ





สามารถบรรลุธรรมได้ตั้งแต่โสดาบัน ถึงพระอรหันต์ได้เลยครับ





เจริญในธรรมครับ



ไม่อยากตีความมากนะงับ แต่ขออธิบายนิดหน่อย นะงับ แล้วกรุณาอย่าเชื่อจนกว่าจะได้ตรองตามด้วยปัญญา และ ในเนื้อความมีหลายนัยยะ

ภิกษุพึงเป็นผู้สำรวมจักษุ
ไม่พึงเป็นผู้โลเลเพราะเท้า

มีนัยยะมากมายแล้วแต่การตีความ

พึงเป็นผู้ขวนขวายในฌาน

หมายถึง ควรเจริญในยิ่ง ในอธิจิตตสิกขา

พึงเป็นผู้ตื่นอยู่มาก

คนไม่มีสติ เมื่อตื่นอยู่ชื่อว่าหลับ คนมีสติอยู่แม้หลับก็ชื่อว่าตื่น


พึงเป็นผู้ปรารภอุเบกขา มีจิตตั้งมั่น

ตรงนี้คือให้เจริญ โลกุตรฌาน ไม่ใช่พรหมวิหาร 4

พึงเข้าไปตัดความตรึก

ในสักกปัญหสูตรว่า ด้วยปัญญาท้าวสักกะ

ความตรึก คือ วิตก

วิตกมีเหตุคือ สัญญา

แจ้งในสัญญาก็คือตัดความตรึก

และตัดธรรมที่อาศัยอยู่แห่งความตรึกและความรำคาญ

และ ธรรม ในบาทนี้ ก็คือ ปปัญจธรรม 3 ที่อาศัยสัญญาเกิด

แจ้งในสัญญาก็จบแล้ว

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2010, 14:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 745


 ข้อมูลส่วนตัว


มหาราชันย์ เขียน:
อโศกะ เขียน:
ปริยัติที่น้อยที่สุดแต่สามารถนำไปปฏิบัติให้ถึงโสดาปัตติมรรคได้ จะต้องเรียนรู้อะไรบ้างที่จำเป็นจริงๆ



สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุก ๆ ท่าน

รู้คาถาบทเดียว แล้วแทงตลอดคาถาบทนั้นก็พอครับ
เช่นบทนี้


ดูก่อนพราหมณ์
เราเห็นธิดาของเธอเป็นเสมือนถังใส่คูถ
เรามิปรารถนาจะแตะต้องแม้ด้วยเท้า







สามารถบรรลุธรรมได้ตั้งแต่โสดาบัน ถึงพระอรหันต์ได้เลยครับ





เจริญในธรรมครับ


อันนี้ไม่สมบูรณ์งับ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 65 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร