วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 17:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 57 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2009, 19:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว




อนัตตา.jpg
อนัตตา.jpg [ 74.78 KiB | เปิดดู 7020 ครั้ง ]
ลำไผ่ ยาวมากมาย หลายวา ฟันแต่ยอดลงมาทีละนิ้ว เปรียบบัญญัติ ปริยัติ อัตตา หนาหนัก อีกแบบ พิธี ข้อวัตร พันผูก ช่างยุ่งเยิง ยิ่งแท้ กว่าค้น พบธรรม
ปล่อยวาง แบบ กฎเกณฑ์ สาย วิธี มาพิจารณาให้ดี เถิดว่า ตัดไผ่เพียง 1 ที่ ล้มดิ้น ตัดรากโคนนั่นซิ ถูกแน่ คือตัดละอัตตา สิ้น หมด พ้น วนเวียน

ทิฐิ แปลว่า ความเห็น เป็นกลางๆ แต่เมื่อมารวมกับมิตรชั่วคือ มิจฉา เป็น มิจฉาทิฐิ เกิดอวิชชาโง่เขลา มืดบอดขึ้นมาทันที ทำให้เห็นผิดคือเห็นเป็น อัตตา ตัวตน นำไปสู่ อบาย

เมื่อมารวมกับมิตรดี คือ สัมมา เป็น สัมมาทิฐิ เกิดวิชา แสงสว่างเห็นถูกต้องเป็น อนัตตา ไม่ใช่ตัวตน นำไปสู่นิพพาน

อโศกะ
2524

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2009, 19:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
สัพเพธรรมา อนัตตา....ค่ะ

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2009, 20:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
ทิฐิ แปลว่า ความเห็น เป็นกลางๆ แต่เมื่อมารวมกับมิตรชั่วคือ มิจฉา เป็น มิจฉาทิฐิ เกิดอวิชชาโง่เขลา มืดบอดขึ้นมาทันที ทำให้เห็นผิดคือเห็นเป็น อัตตา ตัวตน นำไปสู่ อบาย

เมื่อมารวมกับมิตรดี คือ สัมมา เป็น สัมมาทิฐิ เกิดวิชา แสงสว่างเห็นถูกต้องเป็น อนัตตา ไม่ใช่ตัวตน นำไปสู่นิพพาน



สวัสดียามค่ำครับคุณอโศกะ


จากการตั้งกระทู้นี้ขึ้นเพื่อจะบอกว่า..


ละอัตตา แล้วได้อนัตตาใช่ไหมครับ ??


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2009, 21:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว




100_3678_resize_resize.JPG
100_3678_resize_resize.JPG [ 65.73 KiB | เปิดดู 6978 ครั้ง ]
มหาราชันย์เขียน

อโศกะ เขียน:
ทิฐิ แปลว่า ความเห็น เป็นกลางๆ แต่เมื่อมารวมกับมิตรชั่วคือ มิจฉา เป็น มิจฉาทิฐิ เกิดอวิชชาโง่เขลา มืดบอดขึ้นมาทันที ทำให้เห็นผิดคือเห็นเป็น อัตตา ตัวตน นำไปสู่ อบาย

เมื่อมารวมกับมิตรดี คือ สัมมา เป็น สัมมาทิฐิ เกิดวิชา แสงสว่างเห็นถูกต้องเป็น อนัตตา ไม่ใช่ตัวตน นำไปสู่นิพพาน

สวัสดียามค่ำครับคุณอโศกะ

จากการตั้งกระทู้นี้ขึ้นเพื่อจะบอกว่า..

ละอัตตา แล้วได้อนัตตาใช่ไหมครับ ??

อโศกะ ตอบ

ละอัตตา ได้ อนัตตา

ละอนัตตา ได้ นิพพาน


ดูตามภาพนะครับ

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2009, 23:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
อโศกะ ตอบ

ละอัตตา ได้ อนัตตา

ละอนัตตา ได้ นิพพาน

ดูตามภาพนะครับ



คำตอบนี้ได้ยืนยัน ความรู้ผิด ความเข้าใจผิด การปฏิบัติผิดได้แจ่มแจ้งชัดเจนแล้วครับ
เพราะคุณอโศกะศึกษามาไม่ดี เรียนมาไม่ดี คบกัลยาณมิตรที่ไม่ดี รู้มาผิด เข้าใจมาผิด คบเขาเป็นครูบาอาจารย์ จึงได้หลงทางออกจากทางมัคคผล


ความจริงที่ถูกต้อง ความรู้ที่ถูกต้อง สภาวะธรรมที่ถูกต้องเป็นอย่างนี้ครับคุณอโศกะ


อัตตา เป็นเรื่องของทิฏฐุปาทานสังโยชน์ เนื่องด้วยกิเลส เนื่องด้วยอวิชชาจึงมีอัตตาได้
เมื่อไม่มีทิฏฐุปาทานสังโยชน์ จิตปราศจากกิเลส จิตปราศจากอวิชชา อัตตาจึงจะไม่มีครับ



อนัตตา เป็นเรื่องของลักษณะของขันธ์ 5 และสภาวะธรรมต่าง ๆ ขันธ์ 5 และสภาวะธรรมเหล่านั้นมีมีทิฏฐุปาทานสังโยชน์ หรือไม่มีก็ตาม มีกิเลสหรือไม่มีกิเลสก็ตาม มีอวิชชาหรือไม่มีอวิชชาก็ตาม เป็นเหตุก็ตาม เป็นผลก็ตาม สภาวะธรรมทั้งหลายเหล่านั้นมีลักษณะเป็น อนัตตา ครับ



อัตตาไม่ได้เกี่ยวข้องสัมพันธ์หรือมีเหตุมีผลใด ๆ ต่ออนัตตาครับ อนัตตาบ่งชี้ลักษณะอัตตา จากอุปาทานขันธ์ 5 ว่าเป็นอนัตตาด้วยแค่นั้นเองครับ





อโศกะ เขียน:

ละอนัตตา ได้ นิพพาน

ดูตามภาพนะครับ


อนัตตาเป็นลักษณะ บ่งบอกลักษณะ อนัตตาไม่ใช่ขันธ์ที่จะต้องดับ อนัตตาไม่ใช่กิเลสและสังโยชน์ที่จะต้องละ อนัตตาเป็นความจริงของลักษณะโดยไตรลักษณ์ เป็นสัจจะโดยไตรลักษณ์ ต้องละกิเลสสังโยชน์จึงจะบรรลุนิพพาน และดับขันธ์ 5 ได้จึงเรียกว่าดับขันธ์ปรินิพพานครับ


สรุปแล้วที่สนทนากันมาเป็นเดือนนั้น คุณอโศกะไม่ได้เป็นผู้ปฏิบัติธรรมเลยครับ
ท่องจำมาจากตำรานอกพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น รู้มาผิด เข้าใจมาผิด ปฏิบัติมาผิดด้วยคำสอนผิด ๆ อย่างน่าเสียดายเวลาที่เสียไป

คุณอโศกะไม่รู้จักสภาวะธรรมที่ถูกต้อง ไม่รู้จักอรรถ ไม่รู้จักธรรม ไม่รู้จักนิรุติ ไม่รู้จักปฏิภาณในพระพุทธศาสนาที่ถูกต้องเลยครับ

ขันธ์ 5 เป็นอย่างหนึ่ง
กิเลสเป็นอย่างหนึ่ง
สังโยชน์เป็นอย่างหนึ่ง
อริยะสัจ 4 เป็นอย่างหนึ่ง
ไตรลักษณ์เป็นอย่างหนึ่ง
กาลเวลาก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง...ฯลฯ..


ผมแสดงธรรมมาด้วยความเมตตาและความเป็นกัลยาณมิตรต่อคุณอโศกะครับ




เจริญในธรรมครับ


แก้ไขล่าสุดโดย มหาราชันย์ เมื่อ 24 ธ.ค. 2009, 23:24, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2009, 23:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


:b5: :b5: :b5: :b5: :b5:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2009, 07:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ก.ย. 2009, 23:02
โพสต์: 530

แนวปฏิบัติ: เจโตวิมุติ ปัญญาวิมุตติ ด้วยอานาปานสติ
งานอดิเรก: อ่านพระไตรปิฎก
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




27-02-08_01.gif
27-02-08_01.gif [ 13.31 KiB | เปิดดู 6922 ครั้ง ]
อโศกะ เขียน:
อโศกะ ตอบ

ละอัตตา ได้ อนัตตา

ละอนัตตา ได้ นิพพาน

ดูตามภาพนะครับ


tongue
ขอเป็นพระธรรมเทศนาค่ะ นำมาอ้างอิงเลยค่ะ

บอกผู้อ่านไปเลยค่ะว่า
ภาพนี้พระอริยะเขียน แล้วรับรองมาแล้ว

แสดงที่มาเลยค่ะ
น้องกระบี่ฯ เชียร์ท่านพี่ อโศกะ สุดใจเลยค่ะ rolleyes

เมื่อท่านพี่อโศกะแสดงว่านำมาจากพระไตรปิฎกเล่มไหน (ไม่ต้องเป็นภาพ เป็นตัวหนังสือก็ได้ค่ะ)
กระบี่ฯ เชื่อว่าคุณมหาราชันย์ พร้อมผู้อ่าน ทุกท่านย่อมแซ่ซร้องสาธุการท่านพี่ อโศกะ
ที่นำมาจากพระธรรมเทศนา ในพระไตรปิฎก

มิใช่เป็นภาพ ที่ใช้ปัญญาปุถุชนเขียนค่ะ
Lips




รูปภาพ เจริญในธรรมค่ะ
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

.....................................................


ผลกล้วยแลย่อมฆ่าต้นกล้วย
ขุยไผ่ย่อมฆ่าต้นไผ่
ขุยอ้อย่อมฆ่าต้นอ้อ
สักการะย่อมฆ่าบุรุษชั่ว
เหมือนลูกในท้องฆ่าแม่ม้าอัสดร ฉะนั้น ฯ



:b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2009, 10:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว




DCP_0056.JPG
DCP_0056.JPG [ 50.76 KiB | เปิดดู 6902 ครั้ง ]
OU.BMP
OU.BMP [ 82.08 KiB | เปิดดู 6900 ครั้ง ]
tongue

ถ้ายังมีตัวผู้รู้ อยู่ จะไม่ถึง รู้ (บัญญัติ)

ถ้าหมดตัวผู้รู้ จึงจะถึง รู้ (ปรมัตถ์)

ละมิจฉาทิฐิ สัมมาทิฐิ เกิด

ละความเห็นผิด ความเห็นถูกต้อง เกิด

หมด มืด ได้ สว่้าง หมดสว่าง ได้ มืด

ละอัตตา อนัตตา เกิด

ละชั่ว ได้ ดี ละดี ได้ ความผ่องแผ้ว

ธรรมมะ มี 2 ฝ่ายเมือนกัน ฝ่ายหนึ่งเรียกว่า บัญญัติธรรม หรือปริยัติธรรม คือธรรมมะที่เป็นตัวหนังสือ บันทึกไว้ในตำรา

อีกฝ่ายหนึ่ง เรียกว่า ปรมัตถธรรม หรือ สัจจธรรม เป็นธรรมมะหรือความจริงที่แสดงอยู่ใน กาย และ จิต ทุกเมื่อเชื่อวัน

ใครจะอิงธรรมฝ่ายไหน พูด แสดง ก็แล้วแต่ประสบการณ์และความถนัด ขอให้เข้าใจธรรม ถูกต้องตามธรรม ถ้ากำจัดอนุสัย กิเลส ตัณหา อัตตา มานะทิฐิ ของตนให้เบาบาง จางลง และดับสลายไปได้ ก็เป็นอันใช้ได้

สิ่งเหล่านี้ละเอียด ลึกเกินไปกว่าที่ บัญญัติ ปริยัตติทั้งหลาย จะอธิบายบอกได้ ต้องสัมผัสที่ใจแล้วรู้เอง

:b34: :b27: :b12: :b1: :b11:




แผ่นภาพ อัตตา อนัตตา นี้ ได้มาจากครูบาอาจารรย์เมืองย่างกุ้ง วัดโกไมล์ครับ

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก


แก้ไขล่าสุดโดย อโศกะ เมื่อ 25 ธ.ค. 2009, 10:31, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2009, 11:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


สภาวะธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2009, 11:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ใครจะอิงธรรมฝ่ายไหน พูด แสดง ก็แล้วแต่ประสบการณ์และความถนัด ขอให้เข้าใจธรรม ถูกต้องตามธรรม ถ้ากำจัดอนุสัย กิเลส ตัณหา อัตตา มานะทิฐิ ของตนให้เบาบาง จางลง และดับสลายไปได้ ก็เป็นอันใช้ได้



ชอบความนี้ครับ คุณอโศกะ :b16:
แต่ ที่สุด ไม่มีใครเกินพระ พุทธเจ้า
:b8: :b8: :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 25 ธ.ค. 2009, 11:09, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2009, 11:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ก.ย. 2009, 23:02
โพสต์: 530

แนวปฏิบัติ: เจโตวิมุติ ปัญญาวิมุตติ ด้วยอานาปานสติ
งานอดิเรก: อ่านพระไตรปิฎก
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




guan-im62.jpg
guan-im62.jpg [ 18.79 KiB | เปิดดู 6874 ครั้ง ]
อโศกะ เขียน:
แผ่นภาพ อัตตา อนัตตา นี้ ได้มาจากครูบาอาจารรย์เมืองย่างกุ้ง วัดโกไมล์ครับ


รูปภาพ
ขอบคุณค่ะ ที่บอกที่มา
เพื่อผู้อ่านผู้มีปัญญา จะได้มีทางเลือกเสพธรรม ที่แต่ละท่านนำมาเสนอ


บางท่่าน แสดงตามสิ่งที่ตนอ่าน และเข้าใจเอง
บางท่่าน แสดงตามครูบาอาจารย์ที่ตนเรียนรู้มา
บางท่่าน แสดงตามความเข้าใจของตนเอง
บางท่่าน แสดงตามสำนักที่ตนปฏิบัติ
บางท่่าน แสดงตามพระไตรปิฎก



สาธุค่ะ... เปรียบเหมือนอาหารจานใหญ่
ผู้เสริฟ นำมาเสริฟ พร้อมบอกเครื่องปรุง แต่ไม่ควรลืมบอกที่มา
และไม่อ้างอิงว่าเป็นของที่หนึ่ง ทั้งที่นำมาจากอีกที่หนึ่ง

ผู้รับประทาน ก็เลือกทานตามที่ปรารถนา ตามที่ต้องการ ตามจุดมุ่งหมายที่วางไว้
ตามกรรมที่ทำมา ตามอธิษฐาน และตามบารมีที่บำเพ็ญมา


ใครใคร่กินก็กิน
ใครใคร่ดมก็ดม
ใครใคร่มองก็มอง
ใครไม่สนใจก็ผ่านเลยไป




รูปภาพ เจริญในธรรมค่ะ
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

.....................................................


ผลกล้วยแลย่อมฆ่าต้นกล้วย
ขุยไผ่ย่อมฆ่าต้นไผ่
ขุยอ้อย่อมฆ่าต้นอ้อ
สักการะย่อมฆ่าบุรุษชั่ว
เหมือนลูกในท้องฆ่าแม่ม้าอัสดร ฉะนั้น ฯ



:b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2009, 23:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
แผ่นภาพ อัตตา อนัตตา นี้ ได้มาจากครูบาอาจารรย์เมืองย่างกุ้ง วัดโกไมล์ครับ



สวัสดียามดึกครับคุณอโศกะ

แสดงว่าต้นตอของการทำลายพระพุทธศาสนามาจากครูบาอาจารรย์เมืองย่างกุ้ง วัดโกไมล์ในพม่าแห่งนี้



อโศกะ เขียน:
ละอัตตา อนัตตา เกิด




อกุศลวิบากรรมของชาวพุทธ ที่เกิดมาพบเจอคุณอโศกะและพระพม่าจริง ๆ นะครับ


เชิญตามสะดวกนะครับ


ผมทำหน้าที่กัลยาณมิตรที่ดีให้แล้วครับ



สวัสดีครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2009, 08:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว




buddha2.gif
buddha2.gif [ 15.7 KiB | เปิดดู 6806 ครั้ง ]
tongue สวัสดีท่านมหาราชันย์ และกัลยาณมิตรทุกท่าน

เอาเรื่องที่สำคัญและอันตรายนี้ก่อนนะครับ

อโศกะ เขียน:

แผ่นภาพ อัตตา อนัตตา นี้ ได้มาจากครูบาอาจารรย์เมืองย่างกุ้ง วัดโกไมล์ครับ

มหาราชันย์เขียน

สวัสดียามดึกครับคุณอโศกะ
แสดงว่าต้นตอของการทำลายพระพุทธศาสนามาจากครูบาอาจารรย์เมืองย่างกุ้ง วัดโกไมล์ในพม่าแห่งนี้


อโศกะ เขียน:

ละอัตตา อนัตตา เกิด

มหาราชันย์ เขียน

อกุศลวิบากรรมของชาวพุทธ ที่เกิดมาพบเจอคุณอโศกะและพระพม่าจริง ๆ นะครับ

เชิญตามสะดวกนะครับ

ผมทำหน้าที่กัลยาณมิตรที่ดีให้แล้วครับ

สวัสดีครับ


อโศกะ วิจารณ์

ท่านมหาราชันย์ กลับไปสังเกต พิจารณาแผ่นภาพ อัตตา อนัตตา โดยไม่ต้องดูคำอธิบาย ให้ดีๆ ที่สุดก่อนนะครับ แล้ว ก็มาคิดใหม่ ทำใหม่

อริยุวาตันตราย การประมาทจ้วงจาบพระอริยเจ้านี้ กั้นมรรค กั้นผล ได้นะครับ ถ้าไม่รีบขอขมา

กลับมาแก้ไข พูดให้เป็นกลางๆ เถิดนะครับ เป็นห่วง


อุปาทาน ความผูกยึดว่า ข้าพเจ้านี่แหละ รู้มากและถูกต้องที่สุด เกือบจะไม่มีผู้ใดเท่า ยกเว้นแต่พระพุทธเจ้านี้ เป็นอหังการ มนังการ เป็นมานะทิฐิ กิเลสที่ฝังลึก

การมาคอยทำตนเป็ดนผู้ตัดสิน ชี้ผิด ชี้ถูก อยู่ในลานเช่นนี้ พิจารณาดูลึกๆแล้ว มันเป็นหอกแทงกลับเข้าหาตัวเองนะครับ

ท่านมหาราชันย์จำได้ไหมว่า เวลาชี้นิ้วออกไปบอกว่า คนนั้นผิด คนนี้ถูก นั้น มันชี้ออกไปข้างนอก นิ้วเดียว แต่เขาชี้กลับเข้ามาหาตัวเจ้าของตั้ง 3 - 4 นิ้วเลยนะครับ


บัณฑิตย่อมเพ่งโทษตน ปรับปรุงตนอยู่เป็นนิจ

พาลชนคนผิด ชอบเพ่งพินิจ โทษผู้อื่น เป็นวิสัย

:b34: :b34: :b34:

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2009, 09:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 26 ธ.ค. 2009, 09:34, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ม.ค. 2010, 15:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว




b15.jpg
b15.jpg [ 48.46 KiB | เปิดดู 6735 ครั้ง ]
tongue

มิจฉาทิฐิ เห็นผิด เป็น อัตตา พาไป อบาย

สัมมาทิฐิ เห็นถูกต้อง เป็น อนัตตา พาไป นิพพาน


งานของผู้ปฏิบัติธรรมคือ

พิสูจน์ อนัตตา

ผลที่พึงได้รับจากการพิสูจน์ อนัตตา คือ

1.รู้จัก อัตตา

2.ได้พบ สมุทัย คือเหตุ ของความทุกข์ ความเวียนว่ายตายเกิด

3.เห็นความจริง ตามอริยสัจ 4

4.เห็นสามัญลักษณะ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

5.เกิดนิพพิทาญาณ คือความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด ละความเห็นผิด

6.เกิดสัมมาทิฐิ ความเห็นถูกต้องเต็มร้อยเปอร์เซนต์ คือเห็นอย่างที่พระพุทธเจ้าและพระอริยเจ้าทั้งหลายท่านเห็น คือ "สัพเพธัมมา อนัตตา"

7.ได้มรรคญาณ ผลญาณ นิพพาน เป็นผลพลอยได้ แห่งการพิสูจน์ อนัตตา

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 57 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 15 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร