วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 20:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 181 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 13  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 19:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
ความพยายามที่จะทำของยากให้เป็นของง่าย สื่อภาษาที่เต็มไปด้วยศัพท์แสง บาลี อันละเอียดลึกซึ้ง แล้วมีผู้มาพยายามที่จะนำมาอธิบายใหม่โดยใช้ภาษาสามัญธรรมดาที่ชาวบ้านทั่วไปฟังรู้เรื่อง เข้าใจง่าย ปฏิบัติได้ทันที นั้น น่าจะเป็นสิ่งที่ดี เป็นกุศล ถึงแม้บัญญัติอาจดูแตกต่างจากตำรา แต่เมื่อพิจารณาให้ดีแล้ว ไม่ทิ้งความหมายที่แท้จริงตามธรรม ก็น่าจะยอมรับกันได้ไปก่อน เพราะผมคิดว่า อรรถกถา ครูบาอาจารย์ กัลยาณมิตรทุกท่านล้วนมีจิตเป็นกุศล มีเมตตา ปารถนาดี ที่จะช่วยเหลือให้เพื่อนมนุษย์ได้รู้ ได้เข้าใจ ธรรมมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอน


สวัสดียามค่ำครับคุณอโศกะ

สภาวะธรรมที่เป็นภาษาไทยง่าย ๆ ตามที่คุณอโศกะต้องการให้ยอมรับนั้น ถ้าตรงอรรถ ตรงธรรม ตรงนิรุติ ตรงปฏิภาณตามพระธรรมเทศนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผมยอมรับแน่นอนครับ

แต่คำสอนที่คุณอโศกะแสดงมาเป็นความคิดนึกของคุณอโศกะเอง เข้าใจว่าอย่างนั้นเอาเอง ซึ่งไม่ตรงคำกับอรรถ ธรรม นิรุติ และปฏิภาณตามพระธรรมเทศนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วจะมาเรียกร้องให้คนอื่นยอมรับไปก่อนคงยอมรับสิ่งที่คุณอโศกะรู้มาผิดเข้าใจมาผิดไม่ได้หรอกครับ

ดังนั้นจะให้ผู้อื่นยอมรับในความรู้ที่คุณอโศกะอยากบอก อยากแสดง อยากโชว์ อยากอวด คุณอโศกะต้องทำความรู้นั้นให้ตรงอรรถ ตรงธรรม ตรงนิรุติ ตรงปฏิภาณตามพระธรรมเทศนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสียก่อนครับ


ถ้าคุณอโศกะสมามารถทำได้ ผมและคนอื่น ๆ ยอมรับแน่นอนครับ




เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 19:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
ผมยังประทับใจคำสอนหลวงปู่ชาสั้นๆท่อนหนึ่งว่า "ก็โยมไปพยายามทำเป็ดให้มันขันเสียงเหมือนไก่ นี่"
ลองมาตีความกันดูซิว่าหลวงปู่กำลังสอนธรรมเรื่องอะไร ผมว่าหลวงปู่ท่านสอนธรรมเรื่อง ตถตา
อัตตา อนัตตา เลยที่เดียว ไม่ทราบว่าอย่างนี้ท่านมหาราชันย์กับคนสวยกระบี่ไร้เงา หรือคุณโคตรภูจะรับได้หรือไม่ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่มีให้อ้างในพระสูตร


สวัสดีครับคุณอโศกะ

ข้อความนี้เป็นความรู้ผิด เป็นความเข้าใจผิดของคุณอโศกะครับ ไม่ใช่เรื่องตถตา อัตตา อนัตตาหรอกครับ แต่ท่านกำลังแสดงเรื่องความสามารถของแต่ละบุคคลครับ

ไก่และเป็ดมีความสามารถไม่เท่าเทียมกันครับ
ในความเป็นจริง เป็ดไม่สามารถทำเสียงให้เป็นเสียงไก่ได้ และไก่ก็ไม่สามารถทำเสียงให้เป็นเหมือนเป็ดได้ นี่เป็นเรื่องของสัตว์เดรฉานครับ สัตว์เดรฉานเป็นผู้ด้อยความสามารถครับ


แต่มนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต่างกันกับสัตว์เดรฉานครับ
มนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต้องทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในความสามารถของคนทั่วไป ให้เป็นไปได้ครับ
เช่น
มนุษย์ปกติมีนิวรณ์ครอบงำ มนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต้องกำจัดนิวรณ์ 5 ให้หมดสิ้นแล้วบรรลุฌานสมาบัติ 8 ให้ได้
มนุษย์ปกติมีกามสัญญาครอบงำ มนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต้องละกามสัญญาเข้าสู่สัญญาในสมาธิให้ได้
มนุษย์ปกติมีโลกียะธรรมครอบงำ มนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต้องละโลกียะธรรมเข้าสู่โลกุตตระธรรมให้ได้
มนุษย์ปกติมีอาสาวะกิเลสและไม่มีอภิญญา มนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต้องอบรมจิต ฝึกจิตให้บรรลุอิทธิวิธี ทิพย์โสต ทิพย์จักษุ รู้จักจิตใจผู้อื่น และทำอาสาวะกิเลสให้หมดสิ้นให้ได้


ต้องทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ครับ จึงจะเรียกว่าบรรลุธรรมครับ



เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 19:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว


tongue เจริญสุขท่านมหาราชันย์ และกัลยาณมิตรทุกท่าน

มหาราชันย์ เขียน

อ้างคำพูด:
สวัสดียามค่ำครับคุณอโศกะ

สภาวะ ธรรมที่เป็นภาษาไทยง่าย ๆ ตามที่คุณอโศกะต้องการให้ยอมรับนั้น ถ้าตรงอรรถ ตรงธรรม ตรงนิรุติ ตรงปฏิภาณตามพระธรรมเทศนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผมยอมรับแน่นอนครับ

แต่คำสอนที่คุณอโศกะแสดงมาเป็นความคิดนึกของคุณ อโศกะเอง เข้าใจว่าอย่างนั้นเอาเอง ซึ่งไม่ตรงคำกับอรรถ ธรรม นิรุติ และปฏิภาณตามพระธรรมเทศนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วจะมาเรียกร้องให้คนอื่นยอมรับไปก่อนคงยอมรับสิ่งที่คุณอโศกะรู้มาผิด เข้าใจมาผิดไม่ได้หรอกครับ

ดังนั้นจะให้ผู้อื่นยอมรับในความรู้ที่ คุณอโศกะอยากบอก อยากแสดง อยากโชว์ อยากอวด คุณอโศกะต้องทำความรู้นั้นให้ตรงอรรถ ตรงธรรม ตรงนิรุติ ตรงปฏิภาณตามพระธรรมเทศนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสียก่อนครับ


ถ้าคุณอโศกะสมามารถทำได้ ผมและคนอื่น ๆ ยอมรับแน่นอนครับ


อโศกะ ตอบ

จากข้อเขียนของท่านมหาราชันย์ บอกว่าผมเขียนธรรมเอาเอง
ขอความกรุณากลับไปดูแผ่นภาพเรื่องอริยสัจ 4 แล้วช่วยวิจารณ์ให้หน่อยว่า อะไร ที่ไม่มีในคำสอนของพระพุทธเจ้า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค สัมมาทิฐิ มิจฉาทิฐิ อัตตา อนัตตา มีอันไหนที่พระพุทธเจ้าไม่ได้สอินบ้าง ช่วยวิจารณ์มาให้ชัดๆด้วยครับ ขอบคุณ

ขอให้เจริญในบัญญัติต่อไปครับ สาธุ


แล้วโจทย์ที่ผมยกถามมา เป็นการขอความรู้เรื่องของประสบการณ์การปฏิบัติโดยตรง ไม่กล้าตอบหรือครับ
ทำไม เลี่ยงบาลีไปอีกแล้วครับ เฉไปจากประเด็นคำถามลักษณะนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วนะครับ ผมเลยขอยกโจทย์มาให้ท่านลองพิจารณาอีกครั้งนะครับ


เมื่อท่านมหาราชันย์ได้ปฏิบัติธรรมมา บ้างแล้วอย่างนี้ ต่อจากนี้ไป อยากจะขอรับเมตตาและกรุณาจากท่านช่วย เล่าประสบการณ์ทางธรรม อธิบายวิธีปฏิบัติเป็นภาษาง่ายๆ จากโจทย์ข้างท้ายนี้ ไม่ต้องอ้างปริยัติในคัมภีร์มาให้เวียนหัว เอาสภาวธรรมจริงๆ ที่เกิดขึ้นในกาย จิต ตามธรรมชาติธรรมดามาคุยกันแบบชาวบ้านๆ กันดูหน่อย เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศนะครับ

โจทย์

1. เมื่อมีความขุ่นมัว (ปฏิฆะ) หรือโกรธ (โทสะ) เกิดขึ้นในจิต อะไรเป็นเหตุ อะไรจะเกิดตามมาเป็นผลบ้าง ท่านปฏิบัติอย่างไร ท่านนำธรรมมะข้อไหนมาใช้บ้าง ส่วนไหนเป็น สมถะ ส่่วนไหนเป็นวิปัสสนา ท่านออกจากฌาณมาทำงานต่ออย่างไร ทำอย่างไรจึงเรียกว่ายกขึ้นสู่วิปัสสนา แล้วเพื่อจะให้เกิดปฏิเวท จะทำงานต่ออย่างไร

2.ถ้าความฟุ้งซ่าน(อุทธัจจะ)เกิดขึ้นในจิต ท่านแก้และขุดถอน อุทธัจจะนิวรณ์นี้ด้วย สมถะอย่างไร วิปัสสนา อย่างไร อธิบาย

โจทย์ 2 ข้อนี้ ฝากถึงคุณโคตรภู น้องกระบี่ไร้เงา คุณเช่นนั้น คุณหลับอยู่ คุณวรานนท์ และกัลยาณมิตรที่สนใจ ลองมาแสดงภูมิปฏิบัติ เล่าประสบการณ์จริง สู่กันฟัง ท่านละสำนวน เป็นธรรมทาน ธรรมทัศนะ ประกอบไว้ในกระทู้นี้เพื่อประโยชน์แก่ชนหมู่มากนะครับ ขอบพระคุณ สาธุ อนุโมทนา ล่วงหน้าครับ


:b19: :b15: :b32: :b4:

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 19:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
ส่งท้ายนิดหนึ่งว่า ธรรมมะ ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้า แต่เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ แล้วนำมาแสดงแจกแบ่ง ชี้แนะ แก่ชาวโลกนะครับ


ใช่ครับคุณอโศกะ

แต่สิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงนำมาแสดง ทรงแสดงสิ่งที่ถูกต้องครับ
ไม่ใช่แสดงสิ่งที่ผิด ไม่ใช่แสดงสิ่งที่ไม่ถูกต้องครับ

ที่เราสนทนากันหลายหน้ากระทู้นี้ เราสนทนากันเรื่องการนำสิ่งที่ถูกต้องมาแสดงครับ
และเราสนทนากันในเรื่องที่คุณอโศกะนำสิ่งที่ไม่ถูกต้องมาแสดงครับ


เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 19:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ใจเย็น ๆ ครับคุณอโศกะ
ผมกำลังทยอยตอบไปทีละข้อความครับ จะได้ไม่สับสนในการทำความเข้าใจครับ

ผมตอบแน่นอนครับรอสักครู่นะครับ
ผมตอบไปตามคิวครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 20:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
ธรรมมะของพระพุทธเจ้า นี้เป็นเรื่อง อัตตา ธรรมมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอน นี้เป็น อนัตตา


ความรู้ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสรู้นั้นพระองค์ทรงรู้แจ้งโลกครับ ทรงรู้ทุกเรื่องราวครับ
แต่สิ่งที่พระองค์ทรงรู้แล้วและเป็นประโยชน์แก่การตรัสรู้ของพระสาวก แล้วนำมาสั่งสอนเวไนยสัตว์ คืออริยะสัจ 4 ครับ ไม่ใช่ไตรลักษณ์ หรืออนัตตาหรอกครับ

ข้อความนี้เป็นความรู้ผิด เป็นความเข้าใจผิดของคุณอโศกะครับ

ธรรมะที่เป็นประโยชน์แก่การตรัสรู้ของคุณอโศกะคืออริยะสัจ 4 ครับ



เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 20:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
ผู้ศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรม ส่วนใหญ่ก็เริ่มต้นมาจากผิด ไม่รู้ มาก่อน แล้วค่อยๆ ปรับปรุงพัฒนามาจน เป็นผู้รู้ยิ่ง รู้จริง รู้ถูกต้องมากขึ้น ๆ ตามลำดับ เมื่อรู้ถูกต้องสมบูรณ์ มีสัมมาทิฐิเต็ม 100 คือเห็นว่า "สัพเพธัมมา อนัตตา" ก็จักได้โอกาสถึงธรรมอันเอก คือ พระนิพพาน


ต้องเริ่มจากรู้ถูกต้องจากกัลยาณมิตรเช่นพระพุทธเจ้าเลยครับ จึงจะปฏิบัติได้ถูกต้องตรงเหตุตรงผล หรือตรงมัคคตรงผล เมื่อรู้ถูกต้องแล้วค่อยพัฒนาอินทรีย์ให้แก่กล้าขึ้นตามลำดับ จนบรรลุมัคค 4 ผล และนิพพานครับ


เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 20:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว


tongue เจริญสุขอีกครั้งนะครับท่านมหาราชันย์

มหาราชันย์เขียน
สวัสดีครับคุณอโศกะ

ข้อความ นี้เป็นความรู้ผิด เป็นความเข้าใจผิดของคุณอโศกะครับ ไม่ใช่เรื่องตถตา อัตตา อนัตตาหรอกครับ แต่ท่านกำลังแสดงเรื่องความสามารถของแต่ละบุคคลครับ

ไก่และเป็ดมีความสามารถไม่เท่าเทียมกันครับ
ใน ความเป็นจริง เป็ดไม่สามารถทำเสียงให้เป็นเสียงไก่ได้ และไก่ก็ไม่สามารถทำเสียงให้เป็นเหมือนเป็ดได้ นี่เป็นเรื่องของสัตว์เดรฉานครับ สัตว์เดรฉานเป็นผู้ด้อยความสามารถครับ


แต่มนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต่างกันกับสัตว์เดรฉานครับ
มนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต้องทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในความสามารถของคนทั่วไป ให้เป็นไปได้ครับ

อโศกะ วิจารณ์

เฉพาะความเห็นท่อนนี้ ผมก็รู้ทันทีเลยว่า ท่านรู้ธรรมปริยัติมากแต่ปฏิบัติไม่เป็น ไม่เข้าใจแก่นธรรม
ตีความคำสอนครูบาอาจารย์ไม่ออก เพราะสำคัญว่าตนเองรู้ปริยัติมากละเอียดละออกว่าครูบาอาจารย์


มหาราชันย์เขียนต่อ

เช่น
มนุษย์ปกติมีนิวรณ์ครอบงำ มนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต้องกำจัดนิวรณ์ 5 ให้หมดสิ้นแล้วบรรลุฌานสมาบัติ 8 ให้ได้
มนุษย์ปกติมีกามสัญญาครอบงำ มนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต้องละกามสัญญาเข้าสู่สัญญาในสมาธิให้ได้
มนุษย์ปกติมีโลกียะธรรมครอบงำ มนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต้องละโลกียะธรรมเข้าสู่โลกุตตระธรรมให้ได้
มนุษย์ ปกติมีอาสาวะกิเลสและไม่มีอภิญญา มนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต้องอบรมจิต ฝึกจิตให้บรรลุอิทธิวิธี ทิพย์โสต ทิพย์จักษุ รู้จักจิตใจผู้อื่น และทำอาสาวะกิเลสให้หมดสิ้นให้ได้


อโศกะ วิจารณ์

ท่อนนี้ก็เริ่มเฉโกไปลงล๊อกเดิม คือดึงเข้าไปหาปริยัติและบัญญัติที่ตนถนัด และไม่ตรงกับประเด็น ที่ควรวิเคราะห์ให้ได้หลายๆนัย จากคำสอนที่หลวงปู่ชาท่านกล่าวว่า

"ก็โยมไปพยายามทำให้เป็ดมันขันเหมือนเสียงไก่นี่"

เสียงเป็ดขัน มันจะจะเหมือนเสียงไก่ขันได้อย่างไร เพราะเป็ด เขามีธรรมชาติ กรรม วิบากและเหตุปัจจัยแบบเป็ด ไก่ก็เช่นกัน ธรรมชาติของเสียงขันของไก่และเป็ด มันเป็นของเขาอย่างนั้นเอง แต่ตัณหาของโยม คืออยากจะให้เป็ดมันขันเหมือนไก่ มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ มันบังคับบัญชาให้เป็นไปดั่งใจไม่ได้ หรือมันเป็น อนัตตา นั่นเอง

เทียบในทางธรรม คนที่พยายามจะทำสิ่งที่เป็นอนิจจัง ให้เป็น นิจจัง สิ่งทีเป็นทุกขัง ทนอยู่ไม่ได้ ให้เป็น สุขขัง สิ่งที่เป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ไร้แก่นสารตัวตน ให้บังคับได้ เป็นตัวตน นี่ก็เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะไม่ใช่ธรรม

วิเคราะห์ให้เป็นธรรมต้องอย่างนี้ เป็นต้น


มหาราชันย์เขียน

ต้องทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ครับ จึงจะเรียกว่าบรรลุธรรมครับ

คำพูดท่อนนี้ยิ่ง น่าเป็นห่วง นี่แสดงความเป็นอาตมัน อันเป็นนิสัยของฤาษีและพรหมทั้งหลายชัดๆเลย

นอกตำรานี่อธิบายให้เป็นธรรมไม่เป็นเลยหรือครับ

ถ้าจะแก้ตัว ต้องลองไปตอบโจทย์ 2 ข้อ ที่ผมถาม ให้ได้ความจับใจอย่างที่ยกปริยัติในตำรามาอ้างดังเห็นกระทู้ของท่านอยู่ทั่วลานธรรมจักร ไม่มีใครสู้ได้ ผมจึงจะศรัธาและยอมรับครับ


เมื่อท่านมหาราชันย์ได้ปฏิบัติธรรมมา บ้างแล้วอย่างนี้ ต่อจากนี้ไป อยากจะขอรับเมตตาและกรุณาจากท่านช่วย เล่าประสบการณ์ทางธรรม อธิบายวิธีปฏิบัติเป็นภาษาง่ายๆ จากโจทย์ข้างท้ายนี้ ไม่ต้องอ้างปริยัติในคัมภีร์มาให้เวียนหัว เอาสภาวธรรมจริงๆ ที่เกิดขึ้นในกาย จิต ตามธรรมชาติธรรมดามาคุยกันแบบชาวบ้านๆ กันดูหน่อย เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศนะครับ

โจทย์

1. เมื่อมีความขุ่นมัว (ปฏิฆะ) หรือโกรธ (โทสะ) เกิดขึ้นในจิต อะไรเป็นเหตุ อะไรจะเกิดตามมาเป็นผลบ้าง ท่านปฏิบัติอย่างไร ท่านนำธรรมมะข้อไหนมาใช้บ้าง ส่วนไหนเป็น สมถะ ส่่วนไหนเป็นวิปัสสนา ท่านออกจากฌาณมาทำงานต่ออย่างไร ทำอย่างไรจึงเรียกว่ายกขึ้นสู่วิปัสสนา แล้วเพื่อจะให้เกิดปฏิเวท จะทำงานต่ออย่างไร

2.ถ้าความฟุ้งซ่าน(อุทธัจจะ)เกิดขึ้นในจิต ท่านแก้และขุดถอน อุทธัจจะนิวรณ์นี้ด้วย สมถะอย่างไร วิปัสสนา อย่างไร อธิบาย


:b34: :b1: :b16: :b12:

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 20:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
1.เมื่อมีความขุ่นมัว (ปฏิฆะ) หรือโกรธ (โทสะ) เกิดขึ้นในจิต อะไรเป็นเหตุ อะไรจะเกิดตามมาเป็นผลบ้าง ท่านปฏิบัติอย่างไร ท่านนำธรรมมะข้อไหนมาใช้บ้าง ส่วนไหนเป็น สมถะ ส่่วนไหนเป็นวิปัสสนา ท่านออกจากฌาณมาทำงานต่ออย่างไร ทำอย่างไรจึงเรียกว่ายกขึ้นสู่วิปัสสนา แล้วเพื่อจะให้เกิดปฏิเวท จะทำงานต่ออย่างไร


สวัสดีครับคุณอโศกะ

โทสะเป็นอกุศลมูล เกิดขึ้นในจิตเมื่อใด จิตนั้นเรียกว่าอกุศลจิต สิ่งที่จะเกิดตามมาคืออกุศลวิบากเพื่อภพต่อไป

อกุศลจิตเมื่อเกิดขึ้นย่อมดับไป จิตดวงใหม่ย่อมเกิดตามมา การแก้ปัญหาไม่สามารถไปแก้ที่จิตโกรธ แต่แก้ที่จิตใหม่ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันขณะ ว่าจะให้เป็นจิตอะไรในลำดับต่อไป


ในการปฏิบัติของผมก็ปล่อยให้อกุศลจิตนั้นดับไป แล้วเปลี่ยนจิตดวงใหม่ที่เกิดขึ้นเสียใหม่ ให้เป็นรูปาวจรกุศลฌาน หรืออรูปาวจรกุศลฌาน หรือโลกุตตระกุศลฌานมีบทอรหัตตมัคคในคาถาธรรมบทเป็นอารมณ์ครับ

วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกคตารมณ์ //หรือ ปีติ สุข เอกคตารมณ์ //หรือ สุข เอกคตารมณ์ //หรือ อุเบกขา และเอกคตารมณ์ ที่เกิดจากการปฏิบัติเป็นสมถะ


การอบรมจิตด้วยบทอรหัตตมัคคในคาถาธรรมบท ที่เกิดจากการปฏิบัติเพื่อสร้างจิตดวงใหม่เป็นวิปัสสนา


อกุศลจิตที่มีโทสะเป็นมูลดับไปแล้วไม่เกิดอีก ผมมีปีติ สุข อุเบกขาในกุศลฌานจิต และกุศลวิบากฌานจิต มีฌานไม่เสื่อมแล้วเป็นปฏิเวธ



เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 21:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
2.ถ้าความฟุ้งซ่าน(อุทธัจจะ)เกิดขึ้นในจิต ท่านแก้และขุดถอน อุทธัจจะนิวรณ์นี้ด้วย สมถะอย่างไร วิปัสสนา อย่างไร อธิบาย


สวัสดีครับคุณอโศกะ


มี 2 กรณีครับคุณอโศกะ

1.ผมเป็นผู้ชำนาญในฌานสมาบัติ 8 มีวสีในฌานสมาบัติ 8 ผมไม่มีความกังวลเรื่องอุทธัจจะเลยครับ เมื่อมีนิวรณ์เกิดขึ้นผมนึกที่จะเข้าฌานไหน เรียงตามลำดับหรือข้ามลำดับผมย่อมสามารถกระทำได้ทันที แล้วเข้าฌานออกฌานเป็นอนุโลมปฏิโลม แบบนี้เรียกว่าสมถะเกิดก่อนวิปัสสนามีในภายหลัง


2.ผมเสื่อมจากฌานเพราะอุทธัจจะ ผมระลึกถึงบทอรหัตตมัคคขึ้นมาใหม่ อบรมจิตไปตามบทอรหัตตมัคคนั้น ไม่ง่อนแง่นไม่คลอนแคลนด้วยปัญญาเครื่องทำลายกิเลส แล้วบรรลุฌานตามลำดับจาก 1 - ไป - 8 ปฏิบัติอย่างนี้เรียกว่าปฏิบัติสมถะมีวิปัสสนาเป็นเบื้องหน้าครับ


ขณะสนทนากับคุณอโศกะ ตอบคำถามคุณอโศกะผมมีฌานไม่เสื่อม เข้าฌานสมาบัติ 8 โดยอนุโลมปฏิโลมไปด้วยครับ นี่เป็นวิธีแก้และขุดถอน อุทธัจจะนิวรณ์นี้ด้วยสมถะและวิปัสสนาของผมครับ


เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 21:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
เฉพาะความเห็นท่อนนี้ ผมก็รู้ทันทีเลยว่า ท่านรู้ธรรมปริยัติมากแต่ปฏิบัติไม่เป็น ไม่เข้าใจแก่นธรรม
ตีความคำสอนครูบาอาจารย์ไม่ออก เพราะสำคัญว่าตนเองรู้ปริยัติมากละเอียดละออกว่าครูบาอาจารย์



สวัสดีครับคุณอโศกะ

คุณต้องบอกผมก่อนว่าครูบาอาจารย์ของใคร
ครูบาอาจารย์ของคุณอโศกะ หรือครูบาอาจารย์ของมหาราชันย์



ถ้าครูบาอาจารย์ของมหาราชันย์ สอนให้ผมศึกษาพระไตรปิฎก ปฏิบัติตามพระธรรมเทศนาในพระไตรปิฎกครับ




เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 21:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
อโศกะ วิจารณ์

ท่อนนี้ก็เริ่มเฉโกไปลงล๊อกเดิม คือดึงเข้าไปหาปริยัติและบัญญัติที่ตนถนัด และไม่ตรงกับประเด็น ที่ควรวิเคราะห์ให้ได้หลายๆนัย จากคำสอนที่หลวงปู่ชาท่านกล่าวว่า

"ก็โยมไปพยายามทำให้เป็ดมันขันเหมือนเสียงไก่นี่"

เสียงเป็ดขัน มันจะจะเหมือนเสียงไก่ขันได้อย่างไร เพราะเป็ด เขามีธรรมชาติ กรรม วิบากและเหตุปัจจัยแบบเป็ด ไก่ก็เช่นกัน ธรรมชาติของเสียงขันของไก่และเป็ด มันเป็นของเขาอย่างนั้นเอง แต่ตัณหาของโยม คืออยากจะให้เป็ดมันขันเหมือนไก่ มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ มันบังคับบัญชาให้เป็นไปดั่งใจไม่ได้ หรือมันเป็น อนัตตา นั่นเอง



คุณอโศกะแน่ใจหรือว่าคนทั้งศาลานั้นพยายามทำให้เป็ดมันขันเหมือนเสียงไก่
คุณอโศกะรู้วาระจิตเขาได้หรือครับ หรือว่าหลวงพ่อชารู้ได้จิตคนทั้งศาลาพยายามทำให้เป็ดมันขันเหมือนเสียงไก่ แทนสนใจที่จะฟังธรรมจากหลวงพ่อชา หลวงพ่อชาจึงได้เปิดโปงจิตของโยมออกมาอย่างนั้น ??


อีกประการหนึ่ง หรือว่านี่เป็นเพียงข้อสัณณิฐานของคุณอโศก หรือว่าหลวงพ่อชาได้เฉลยเอาไว้แล้ว ว่าท่านหมายแสดงอนัตตา ??


เอาความจริงที่เป็นไปได้มาแสดงครับคุณอโศกะ
ผมว่าคุณกำลังฟุ้งซ่าน เพ้อเจ้อ ไม่ยอมรับความจริงว่าตัวเองแสดงธรรมผิด เข้าใจธรรมะผิดต่างหากล่ะครับ


เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 21:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
เทียบในทางธรรม คนที่พยายามจะทำสิ่งที่เป็นอนิจจัง ให้เป็น นิจจัง สิ่งทีเป็นทุกขัง ทนอยู่ไม่ได้ ให้เป็น สุขขัง สิ่งที่เป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ไร้แก่นสารตัวตน ให้บังคับได้ เป็นตัวตน นี่ก็เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะไม่ใช่ธรรม

วิเคราะห์ให้เป็นธรรมต้องอย่างนี้ เป็นต้น


ตรงนี้เป็นภูมิปัญญาที่รู้ผิด เข้าใจผิดของคุณอโศกะครับ


ลองอ่านดี ๆ อีกครับ ผมเขียนตรงกันข้ามกับคุณอโศกะครับ


มหาราชันย์ เขียน:
แต่มนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต่างกันกับสัตว์เดรฉานครับ
มนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต้องทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในความสามารถของคนทั่วไป ให้เป็นไปได้ครับ
เช่น
มนุษย์ปกติมีนิวรณ์ครอบงำ มนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต้องกำจัดนิวรณ์ 5 ให้หมดสิ้นแล้วบรรลุฌานสมาบัติ 8 ให้ได้
มนุษย์ปกติมีกามสัญญาครอบงำ มนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต้องละกามสัญญาเข้าสู่สัญญาในสมาธิให้ได้
มนุษย์ปกติมีโลกียะธรรมครอบงำ มนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต้องละโลกียะธรรมเข้าสู่โลกุตตระธรรมให้ได้

มนุษย์ปกติมีอาสาวะกิเลสและไม่มีอภิญญา มนุษย์ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต้องอบรมจิต ฝึกจิตให้บรรลุอิทธิวิธี ทิพย์โสต ทิพย์จักษุ รู้จักจิตใจผู้อื่น และทำอาสาวะกิเลสให้หมดสิ้นให้ได้


ต้องทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ครับ จึงจะเรียกว่าบรรลุธรรมครับ



เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 21:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ก.ย. 2009, 23:02
โพสต์: 530

แนวปฏิบัติ: เจโตวิมุติ ปัญญาวิมุตติ ด้วยอานาปานสติ
งานอดิเรก: อ่านพระไตรปิฎก
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




ly2.jpg
ly2.jpg [ 30.23 KiB | เปิดดู 3337 ครั้ง ]
กระบี่ไร้เงา เขียน:

ถูกพาดพิงค่ะ wink

อ่านทบทวนใหม่ค่ะ

อนาคตสูตรที่ดิฉันยกมา คนละประเด็นที่คุณอโศกะกล่าวนะคะ


ดิฉันเน้นที่ผู้ที่สอนผิดพระธรรมเทศนาแล้วไม่รับผิด
กับผู้ที่บรรจงสร้าง คำสอน แต่งตำรากันขึ้นมาใหม่ค่ะ


เพราะบุคคลเหล่านี้ จะทำให้พระพุทธศาสนา หรือคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าสาบสูญไปค่ะ

ต้องดูที่ประเด็นของพระสูตรที่ยกมานะคะ
ในพระสูตรนี้มีหลายประการ ดิฉันยกมาเพียง
ประการที่สอนผิดคำสอนของพระพุทธองค์และไม่รับว่าสอนผิด
และประการสำคัญ แต่งเสริมต่อเติมพระธรรมเทศนาของพระองค์ค่ะ


ส่วนประเด็นที่คุณอโศกะ และคุณมหาราชันย์ ปุจฉาวิสัชนา กัน
ดิฉันตามอ่านอยู่ และลุ้นให้คุณอ้างอิงพระธรรมเทศนาประกอบค่ะ

รออ่านอยู่ค่ะคุณอโศกะ cool
ถ้าเป็นพระธรรมเทศนามีบันทึกเป็นหลักฐานดิฉันเทคะแนนให้ทันทีค่ะ





อโศกะ เขียน:

โจทย์

1. เมื่อมีความขุ่นมัว (ปฏิฆะ) หรือโกรธ (โทสะ) เกิดขึ้นในจิต อะไรเป็นเหตุ อะไรจะเกิดตามมาเป็นผลบ้าง ท่านปฏิบัติอย่างไร ท่านนำธรรมมะข้อไหนมาใช้บ้าง ส่วนไหนเป็น สมถะ ส่่วนไหนเป็นวิปัสสนา ท่านออกจากฌาณมาทำงานต่ออย่างไร ทำอย่างไรจึงเรียกว่ายกขึ้นสู่วิปัสสนา แล้วเพื่อจะให้เกิดปฏิเวท จะทำงานต่ออย่างไร

2.ถ้าความฟุ้งซ่าน(อุทธัจจะ)เกิดขึ้นในจิต ท่านแก้และขุดถอน อุทธัจจะนิวรณ์นี้ด้วย สมถะอย่างไร วิปัสสนา อย่างไร อธิบาย

โจทย์ 2 ข้อนี้ ฝากถึงคุณโคตรภู น้องกระบี่ไร้เงา คุณเช่นนั้น คุณหลับอยู่ คุณวรานนท์ และกัลยาณมิตรที่สนใจ ลองมาแสดงภูมิปฏิบัติ เล่าประสบการณ์จริง สู่กันฟัง ท่านละสำนวน เป็นธรรมทาน ธรรมทัศนะ ประกอบไว้ในกระทู้นี้เพื่อประโยชน์แก่ชนหมู่มากนะครับ ขอบพระคุณ สาธุ อนุโมทนา ล่วงหน้าครับ



อโศกะ เขียน:
ผมยังประทับใจคำสอนหลวงปู่ชาสั้นๆท่อนหนึ่งว่า "ก็โยมไปพยายามทำเป็ดให้มันขันเสียงเหมือนไก่ นี่"
ลองมาตีความกันดูซิว่าหลวงปู่กำลังสอนธรรมเรื่องอะไร ผมว่าหลวงปู่ท่านสอนธรรมเรื่อง ตถตา
อัตตา อนัตตา เลยที่เดียว ไม่ทราบว่าอย่างนี้ท่านมหาราชันย์กับคนสวยกระบี่ไร้เงา หรือคุณโคตรภูจะรับได้หรือไม่ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่มีให้อ้างในพระสูตร


s006


ส่วนประเด็นที่คุณอโศกะ และคุณมหาราชันย์ ปุจฉาวิสัชนา กัน
ดิฉันตามอ่านอยู่ และลุ้นให้คุณอ้างอิงพระธรรมเทศนาประกอบค่ะ

รออ่านอยู่ค่ะคุณอโศกะ cool
ถ้าเป็นพระธรรมเทศนามีบันทึกเป็นหลักฐานดิฉันเทคะแนนให้ทันทีค่ะ


wink


การลุ้นในการทำอย่างใดอย่างหนึ่ง
ผู้ลุ้นเค้าเรียกกองเชียรค่ะ.. ไม่ได้เรียกว่าลูกศิษย์

และคำว่า
ลองมาแสดงภูมิปฏิบัติ เล่าประสบการณ์จริง สู่กันฟัง ท่านละสำนวน
เป็นวลีที่ไม่น่าตอบค่ะ ถึงแม้จะอ้างธรรมทานก็ตาม
เพราะไม่มีกระแสแห่งความเมตตาอยู่เลยค่ะ

ต้องขอปฏิเสธคำสั่งนี้ค่ะ Lips

และขอปฏิเสธและรับไม่ได้ ในสำนวนที่ยกมาค่ะ
คุญอโศกะรู้ใจกระบี่ฯไปเสียหมด

ก็นอกพระไตร สาีวเจ้ากระบี่ฯ ไม่รับเจ้าค่ะ
ศึกษาพระไตรปิฎกมีความสุข มีความไพเราะทั้งอรรถ ทั้งธรรม
เพราะเพียบพร้อมทั้งอรรถ ธรรม นิรุตติ และปฏิภาณ แล้วไปรับสิ่งอื่นนอกจากนี้ทำไมอ่ะคะ

ไม่ได้มีประโยชน์ต่อการตรัสรู้เลยค่ะ



รออ่าน หรือรอคุณตอบดีกว่าค่ะ อ้อ ไม่ใช่สิคะ รอเฉลยไงคะ
ว่าอิงอรรถ อิงธรรม มีนิรุตติ มีปฏิภาณ ขนาดไหน



และที่สำคัญ
ได้เพลงยุทธหลายกระบวนท่าที่ล้ำค่าจากท่านมหาราชันย์
คุ้มค่าในการติดตามจริงๆ ค่ะ

รูปภาพ ต้องขอบคุณ .... คุณอโศกะมากค่ะ
ที่ทำให้ดิฉันและผู้อ่านทั้งหลายได้รับความรู้อย่างมหาศาล จากคำถาม 2 ข้อนี้




รูปภาพ เจริญในธรรมค่ะ
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

.....................................................


ผลกล้วยแลย่อมฆ่าต้นกล้วย
ขุยไผ่ย่อมฆ่าต้นไผ่
ขุยอ้อย่อมฆ่าต้นอ้อ
สักการะย่อมฆ่าบุรุษชั่ว
เหมือนลูกในท้องฆ่าแม่ม้าอัสดร ฉะนั้น ฯ



:b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41:


แก้ไขล่าสุดโดย กระบี่ไร้เงา เมื่อ 21 ธ.ค. 2009, 23:05, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 22:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
คำพูดท่อนนี้ยิ่ง น่าเป็นห่วง นี่แสดงความเป็นอาตมัน อันเป็นนิสัยของฤาษีและพรหมทั้งหลายชัดๆเลย

นอกตำรานี่อธิบายให้เป็นธรรมไม่เป็นเลยหรือครับ



ไม่ว่าในตำราหรือนอกตำรา ถ้าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง มันจะต้องถูกต้องตรงกันเสมอครับ

คนที่น่าเป็นห่วงไม่ใช่มหาราชันย์แน่นอนครับ

คุณอโศกะต่างหากที่น่าเป็นห่วง
แสดงธรรมผิด รู้มาผิด เข้าใจมาผิด ปฏิบัติธรรมผิดคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า อย่างนี้สิน่าเป็นห่วงมากครับ



เจริญในธรรมครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 181 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 13  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร