วันเวลาปัจจุบัน 18 เม.ย. 2024, 14:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 44 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2009, 09:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แลกเปลี่ยนการปฏิบัติกรรมฐานแนวสติปัฏฐาน กับคุณ walaiporn และคุณ kanalove เท่านั้น

สืบเนื่องมาจากกระทู้นี้



viewtopic.php?f=19&t=27788&st=0&sk=t&sd=a&start=30


เช้าวันนี้ คิดว่าจะเห็นคำตอบจากแม่ครัว (walaiporn)และ คุณ kanalove :b1: :b12:

แต่อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา กระทู้ถูกใส่กุญแจสะแระ ทำไมครับ ให้ล๊อคทำไมครับ

ยังไม่ได้กล่าวพาดพิงถึงคนภายนอกเลย


ไม่เป็นไรเมื่อห้องนั้นถูกล๊อก ก็ขออนุญาตเปิดใหม่ ประเด็นเดิม โดยมีผู้ร่วมสนทนาแลกเปลี่ยนการปฏิบัติ

กรรมฐานแนวสติปัฏฐาน (ต่างกล่าวอ้างกันอย่างนั้น)

กระทู้นี้กรัชกายขอสนทนาแลกเปลี่ยนแม่ครัวและคุณ kanalove เท่านั้น

ส่วนสมาชิกท่านอื่น ซึ่งปฏิบัติแนวนี้ พึงพิจารณาไว้แก้อารมณ์กรรมฐานตนเอง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 20 ธ.ค. 2009, 09:48, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2009, 13:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"แล้วเธอจะมาอีกไหม"

http://radio.sanook.com/music/player/%E ... %A1/18130/

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2009, 13:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ธ.ค. 2009, 16:06
โพสต์: 52

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุญาตินะครับ ผมชื่นชมคุณมากเลยครับ สามารถสงบได้ในสถานการณ์ว้าวุ่น กระทู้นั้นผมพยายามช่วยคุณ ประมาณ "ส่งมาให้ฉันฉันรับไว้เอง ฉันรับไว้เอง" ไม่รู้ช่วยได้แค่ไหน แต่ผมอยากสงบได้อย่างคุณในสถานการณ์ที่ไม่น่าจะสงบได้มากกว่า ไปก่อนนะครับ เจริญในธรรมครับ คงต้องหลีกลี้ไปฝึกอีกนาน จะได้แค่ไหนก็ไม่รู้ ธรรมรักษาครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2009, 13:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กังวาน เขียน:
ขออนุญาตินะครับ ผมชื่นชมคุณมากเลยครับ สามารถสงบได้ในสถานการณ์ว้าวุ่น กระทู้นั้นผมพยายามช่วยคุณ ประมาณ "ส่งมาให้ฉันฉันรับไว้เอง ฉันรับไว้เอง" ไม่รู้ช่วยได้แค่ไหน แต่ผมอยากสงบได้อย่างคุณในสถานการณ์ที่ไม่น่าจะสงบได้มากกว่า ไปก่อนนะครับ เจริญในธรรมครับ คงต้องหลีกลี้ไปฝึกอีกนาน จะได้แค่ไหนก็ไม่รู้ ธรรมรักษาครับ


ขอบคุณที่ชื่นชมครับ คุณกังวาน :b8:

ไม่มีอะไรนี่ครับ คุณวลัยพรกับกรัชกายโต้กันมานานแล้วก่อนเข้ามาที่นี่อีกประมาณ 4 ปีได้ :b9:

หากจะมีผู้แย้งว่า 4-5 ปี แล้วเถียงกันไม่เบื่อบ้างหรอ :b32:

ตอบว่า ไม่ค่อยเบื่อเท่าไหร่ เพราะเรามีประเด็นให้โต้กันอยุ่เสมอๆ

ประเด็นที่ว่า ก็คือ เรื่องธรรมกับทำครับ

เมื่อก่อนเดี่ยวๆ แต่วันนี้เห็นเค้าพาศิษย์ฝึกงานด้วยน่าสนใจดี :b13:

ส่วนตัวเราไม่มีอะไรกันนะครับ คือ ไม่โกรธไม่แค้นอะไร



http://www.youtube.com/watch?v=yMvbgckInow

อ้างคำพูด:
ดิฉันฝึกหัดนั่งสมาธิวิปัสสนา แนวทางท่านอาจารย์... คือ นั่งดูลมหายใจเข้าออก เฉยๆ

ไม่บริกรรม และให้ดูเวทนาที่เกิดในร่างกายแล้วให้มีอุเบกขา

คอร์สแรกที่ดิฉันไปศึกษาเรียนรู้เป็นเวลา 10 วัน และหลังจากนั้นดิฉันก็กลับมาปฎิบัติที่บ้าน สม่ำเสมอ

วันละหลายครั้ง บางทีก็หลายชั่วโมงติดต่อกัน

ล่วงเข้ามาประมาณเดือนที่ 3 ดิฉันมีอาการ ร้อนที่ร่างกาย ทุกส่วน และเกิดอาการปวดศีรษะ เหมือนมีเข็ม

เป็นร้อยๆเล่มอยู่ในหัว

บางที แข็ง ตึง มึน ทึบอยู่ในหัว จนยากที่จะอธิบาย จนขนาดต้องไปเอกซ์เรย์ แต่ไม่มีอะไร

ผิดปรกติ อาการมันลงมาที่มือข้างซ้าย และ กรามบน ขมับ 2 ข้าง เหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่ง

อยู่ตลอดเวลา เป็นที่ทรมานมาก

ระยะหลังมาดิฉันก็เลยนั่งบ้างไม่นั่งบ้าง เพราะปวดหัวเหลือเกิน

บางอาการไม่สามารถบอกมาเป็นตัวอักษรได้ว่า รู้สึกอย่างไร อาการเป็นตลอดเวลา24ชั่วโมง ทั้งหลับ

ทั้งตื่น ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ไปหาหมอฝังเข็ม ฝังมา 9 ครั้งไม่มีทีท่าว่าจะทุเลา

อาการยังมีตลอด ดิฉันก็ได้แต่อุเบกขา ทำใจไป คิดไปต่างๆนานา

เวลานั่งก็ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ตอนนี้นับระยะเวลาเป็นมากว่า 2 ปี ได้แต่หวังว่า

ผู้รู้ทั้งหลายคงช่วยอนุเคราะห์คนมีกรรมคนนี้ด้วย

ขอได้โปรดเมตตาช่วยด้วยนะคะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 21 ธ.ค. 2009, 16:27, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2009, 18:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




4228.jpg
4228.jpg [ 3.84 KiB | เปิดดู 5449 ครั้ง ]
:b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39: :b39:

อย่าหลงทางกันมากนะพวก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2009, 19:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อารมณ์อาการหรือจะเรียกตามหลักคลุมๆว่าสภาวธรรม คือ สิ่งที่เป็นเอง ตามเหตุปัจจัยของมัน อ่านตำราร้อย

เล่มก็ช่วยอะไรไม่ได้ พูดปลอบใจพูดให้กำลังใจก็ช่วยไม่ได้ จะคร่ำครวญอ้อนวอนขอร้องก็ไม่ช่วยอะไรให้ดี

ขึ้น เพราะธรรมชาติไม่ฟังคำขอร้องจากใครๆ มันเป็นยังไงก็เป็นยังงั้น

นอกจากกำหนดรู้สภาวะนั้นๆตามที่มันเป็น

การกำหนดรู้ตามที่มันเป็นหรือตามเป็นจริงจะตั้งชื่อว่าสติปัฏฐาน หรือ จะชื่ออะไรๆอื่น ธรรมชาติก็ไม่ดีใจหรือ

เสียใจกับชื่อนั้น

ดูอีกสักตัวอย่างหนึ่ง คำปรารภท้ายๆเค้าขำๆดี



ล้มตัวนอนได้ก็กำหนดลมหายใจไปเรื่อยๆ ท่องยุบหนอ...พองหนอ...
ในห้วงความคิดก็ ยุบหนอ...พองหนอ...สลับกับเรื่องอื่นๆ กันไปเรื่อย
ตั้งใจมากเพื่อกลับมายุบหนอ...พองหนอ...ก็ปวดขมับ ตึงขึ้นเรื่อยๆ

ชักไม่ดี เพราะจากประสบการณ์รู้ว่าเดี๋ยวจะนอนไม่หลับแน่ๆ
ปล่อยความคิด คลายความนึกคิดจากยุบหนอ...พองหนอ....เริ่มจะฝัน เคลิ้มๆ ครึ่งหลับครึ่งตื่น
ฉับพลัน ความรู้สึกตัว ถอดจากภาพฝันที่เริ่มฝันมั่วๆ มารู้ตัวเพิ่มขึ้น
ตอนนี้แหละครับ...
ตกใจกลัว เหมือนกำลังคิดอะไรเพลินแล้วอยู่ดีๆมีใครมาตะโกนเรียกหรือโผล่มาไม่ให้สุ้มให้เสียง
เพียงแต่ความรู้สึกกลัว ความรู้สึกตกใจมันแรงมาก
เหมือนคนฝันร้ายที่น่ากลัวเหมือนจริงมากๆนั่นหละครับ

มันไม่หยุดแค่นั้นดิ่ครับ
ดันมีอาการเหมือนคนโดนไฟช็อต ตัวสั่นเหมือนเส้นประสาทเขย่าตัวอยู่ข้างในทั้งตัว ซักพักแน่ะ.....
เป็นบ่อยมากเลยคิดว่าไม่ทำอีกดีกว่า....

อยากถามว่า
ถ้าเราฝืนทำต่อไปแล้วเกิดอะไรขึ้นเนี่ย

สุดท้ายจะปลอดภัยมั้ยครับ เพราะเห็นข้อความบอกเล่าหลายอย่างว่า ธรรมะวิเศษอยู่เลยความตายไปนิดเดียวเนี่ย กลัวจะตายซะก่อนอ่ะครับ

http://board.palungjit.com/f126/อาการตอนนอน-213645.html

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 21 ธ.ค. 2009, 15:49, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2009, 19:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




q7a5.gif
q7a5.gif [ 72.74 KiB | เปิดดู 5435 ครั้ง ]
คืนนี้ หาก คุณ walaiporn กับคุณ kanalove ไม่ตอกบัตรเข้ากะ แสดงว่าหนีหน้าที่ :b32:

แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าไม่มา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2009, 22:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สั้นๆจากพุทธธรรมหน้า 223 เพื่อให้เห็นสุขทุกข์ ฯลฯ อย่างที่เข้าใจทั่วๆไปโยงถึง

สภาวะทุกข์ยังไง



ปัญหาของมนุษย์มีต่างๆมากมาย เมื่อกล่าวให้สั้น ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับดี-ชั่ว หรือ ดี-ร้าย และสุขทุกข์

ถ้าพูดให้รวบรัดลงไปอีก ก็รวมลงในคำเดียวคือ ทุกข์

แม้จะพูดว่า ชีวิตเพื่อหาความสุข ก็เป็นการบ่งถึงทุกข์อยู่ในตัว และทุกข์นั้นยังอาจส่งผลเกี่ยวข้องถึง

ความดีความชั่วและสุขทุกข์ต่อไปอีกหลายชั้นด้วย


เริ่มแรก การหาความสุข ก็แสดงอยู่ในตัวถึงความขาดแคลนบกพร่อง ความบีบคั้นกระวนกระวายหรือภาวะ

ไร้ความสุขอยู่ภายใน ซึ่งเรียกสั้นๆว่ามีทุกข์

จากนั้น จึงผลักดันให้ต้องออกแสวงหาสิ่งที่จะเอามาเติมให้เต็มหายขาดแคลนบกพร่อง หรือเอามาระงับ

ดับคลายความบีบคั้นกระวนกระวายนั้น และในการแสวงหาเช่นนี้ ก็ปรากฏความขัดแย้ง เกิดปัญหาเกี่ยวกับ

ความดีความชั่ว และความสุขทุกข์ขยายวงกว้างออกไป

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2009, 22:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มองอีกด้านหนึ่ง

ปัญหาเกิดจากมนุษย์มีทุกข์อยู่แล้ว แต่แก้ทุกข์ไม่ถูกต้อง จึงระบายทุกข์นั้นออกไป ทำให้ทุกข์กระจาย

เพิ่มขยายทุกข์

ด้วยความเป็นเช่นนี้ ทุกข์ที่เป็นสภาวะติดเนื่องมากับความเป็นสังขารของชีวิต หรือทุกข์ตามธรรมดา

ของธรรมชาติ แทนที่จะถูกแก้ไข กลับถูกละเลยมองข้าม หรือปิดกลบไว้เสีย แล้วสุขทุกข์และปัญหา

ต่างๆ ชนิดที่เกิดจากฝีมือเสกสรรผันพิสดารของมนุษย์ก็เกิดประดังพรั่งพรูวิจิตรนานัปการ

จนแทบจะบดบังให้มนุษย์ลืมปัญหาพื้นฐานของชีวิตเสียทีเดียว



บางคราวมนุษย์เอง ยังคิดหลงไปด้วยซ้ำว่า หากลืมมองปัญหาพื้นฐานของชีวิตนั้นเสียได้

ก็จะสามารถหลุดพ้นไปจากความทุกข์ และชีวิตก็จะมีความสุข

แต่ความจริงยังคงยืนยันอยู่ว่าตราบใด มนุษย์ยังไม่สามารถจัดการกับปัญหาพื้นฐานแห่งชีวิตของตน

ยังวางตัววางใจ หาที่ลงไม่ได้กับทุกข์ถึงขั้นสภาวะ (สภาวะทุกข์)

ตราบนั้น มนุษย์ก็จะยังแก้ปัญหาไม่สำเร็จ ยังหลีกไม่พ้นการตามรังควาญของทุกข์ ไม่ว่าจะพบสุข

ขนาดไหน
และยังจะไม่ประสบความสุขที่แท้จริง ซึ่งเต็มอิ่ม สมบูรณ์ในตัว และจบบริบูรณ์ลงที่

ความพึงพอใจ

ซ้ำร้าย ทุกข์พื้นฐาน (ทุกขสภาวะที่ติดมากับชีวิต) ที่หลบเลี่ยงและยังไม่ได้แก้นั้น กลับจะกลายเป็น

เงื่อนปมซับซ้อนอยู่เบื้องหลัง คอยส่งอิทธิพลออกมาบีบคั้นรุนเร้าให้การแสวงหาและเสวยสุขต่างๆ

เป็นไปอย่างร้อนรนกระวนกระวาย ไม่รู้จักเต็มอิ่ม และไม่มีความแน่ใจจริง พร้อมทั้งส่งผล

ในทางจริยธรรม เกี่ยวกับความดีความชั่วให้รุนแรงยิ่งขึ้นด้วย

ฯลฯ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 20 ธ.ค. 2009, 22:29, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2009, 22:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


อิอิ

ท่านกรัชกาย จำผลได้มั้ยงับ

อิอิ

เอาไว้คุยกันใหม่นะงับ

อิอิ

เดี่ยวมีของดีจะแนะนำงับ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2009, 22:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:
อิอิ

ท่านกรัชกาย จำผลได้มั้ยงับ

อิอิ

เอาไว้คุยกันใหม่นะงับ

อิอิ

เดี่ยวมีของดีจะแนะนำงับ



จำได้สิงับ

มีของดีอะไรว่าได้เลยงับ หรือ กระดูกเป็นธาตุแล้ว คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 20 ธ.ค. 2009, 22:56, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 11:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




4228.gif
4228.gif [ 15.72 KiB | เปิดดู 5288 ครั้ง ]
กระทู้นี้มีประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติกรรมฐานแบบใช้คำภาวนา แต่คู่สนทนาดังกล่าวก็ไม่มา

จะว่าไม่เห็นกระทู้นี้ก็ไม่น่าใช่ ศิษย์เปลี่ยนรูปแมว เป็นรูปหัวม้า อีกทั้งคติธรรมก็เปลี่ยนใหม่ หรือว่า เป็นความ

บังเอิญ หรือว่าเปลี่ยนหนี

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 16:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดูลักษณะสติปัฏฐานกึ่งๆไสยศาสตร์ แม้จะว่าอุเบกขา มันก็ไม่เป็นอุเบกขาให้

ตัวอย่าง


อ้างคำพูด:
ดิฉันฝึกหัดนั่งสมาธิวิปัสสนา แนวทางท่านอาจารย์... คือ นั่งดูลมหายใจเข้าออก เฉยๆ

ไม่บริกรรม และให้ดูเวทนาที่เกิดในร่างกายแล้วให้มีอุเบกขา

ดิฉันก็ได้แต่อุเบกขา ทำใจไป
คิดไปต่างๆนานา

เวลานั่งก็ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง



ผู้ที่ฝีกสมาธิ หรือ จะเรียกว่าวิปัสสนา หรือเรียกว่า สติปัฏฐาน หรือชื่ออื่นนอกจากนี้ ชื่อเรียกไม่สำคัญ

เท่ากับกำหนดรู้อาการนั้นตามเป็นจริง หรือตามที่มันเป็น

ตัวอย่างนั้น ถูกสอนให้นั่งดูเวทนาเฉยๆปล่อยให้มันไป แล้วก็บอกว่าให้มีอุเบกขา

หนักเข้าก็ซัดให้เจ้ากรรมนายเวร หรือ ให้ขอขมา

การสอนเขาลักษณะเช่นนี้ เรียกว่าสอนสติปัฏฐาน เป็นต้นผสมไสยศาสตร์ หรือ กึ่งๆไสย ฯ

จึงไม่พ้นจากทุกขสภาวะได้ มีแต่เพิ่มทุกข์ใหม่ให้แก่ผู้ทำตาม เช่น ตัวอย่างที่ยกมาข้างต้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 16:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดูอีกตัวอย่างหนึ่ง นำมา (สั้นๆ)จากห้องบทความธรรมะ คือ ยุๆ ให้เขาทำไปๆ แต่ยังไม่เห็นแนวทางแก้

อารมณ์ที่ถูกธรรม ยุอย่างเดียวเหมือนกัน

คล้ายๆคลิปดังกล่าว “เร่งคำภาวนาเข้าๆๆๆๆๆ” คนทำดิ้นปัดๆๆ หรือทุกข์เวทนาปางตาย

อย่างมากก็ให้ขอขมาอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร นี่ก็สติปัฏฐานผสมไสยศาสตร์


อ้างคำพูด:
ตอนเดินรอบนี้ 40 นั่ง 20 ค่ะ ก็เดินแล้วมีแต่ทุกข์ค่ะ เจ็บๆ คันๆ
ปวด เจ็บจี๊ดๆ ที่แขนที่ขา
มันก็มีความไม่พอใจขึ้นมาตามความทุกข์ที่เจอค่ะ แต่ว่า ไม่ลงไปคลุกกะความไม่พอใจมาก
ก็มีทุกข์แต่ไม่ทุกข์แบบแนบแน่นน่ะค่ะ มาๆ หายๆ มาเรื่อยๆ แล้วก็มีจิตปรามาสขึ้นมาอีก
เป็นอาการสบถ ก็ขอขมา
แล้วก็มีจิตปฎิเสธไม่ยอมรับ มันรับไม่ได้ว่าเป็นแบบนี้ ก็ตอนแรก
จะไปเป็นมันค่ะ
แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าต้องยอมรับ ก็เลยไม่ต้านแล้ว ดูกายต่อค่ะ ก็หายไป พอมานั่ง ก้อมีรู้กายด้วย
มีหลงไป ไม่มีแรงเหมือนจะหลงไปหลับ แล้วก็จิตสะดุ้งออกมา ตกใจแต่ไม่แรงมาก
กลับมาที่กายต่อ แล้วไปอีก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 16:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เกี่ยวกับความเชื่อดังกล่าว เคยแนะนำสมาชิกท่านหนึ่งที่


viewtopic.php?f=2&t=24655

ว่า=>

อ้างคำพูด:
ขอว่า ว่าไม่อ้างเจ้ากรรมนายเวร นรก สวรรค์ ผี เปรต วิญญาณ (ตามความเชื่อถือส่วนบุคคล)

ฯลฯ ขณะกำลังภาวนาอยู่ หรือ เพ่งดูนรก ดูสวรรค์

ให้ดูแต่กายใจ (ความรู้สึก) ตนเองแต่ละขณะๆที่กำลังปฏิบัติอยู่เท่านั้น แต่หลังจากเลิกปฏิบัติแล้ว ไม่เป็นไร


ว่า เลิกจากภาวนาแล้วจะกรวดน้ำ แผ่กุศลจิตให้ใครก็ทำได้ ก็ให้ทำได้ตอนนี้ แต่ในขณะที่กำลังกำหนดรู้

รูปนาม หรือกายกับใจเนี่ย อย่าเพิ่งทำอย่างนั้น ให้กำหนดรู้ตามที่รู้สึกอย่างเดียวเท่านั้น

ทางกายรู้สึกอย่างไร ทางใจคิดยังไง รู้สึกยังไง ให้กำหนดรู้ยังงั้น ตามที่รู้สึก ตามอาการ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 44 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 45 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร